/ โรแมนติก / ขังรักน้องสาวในนาม / บทที่ 10 เกลียดแต่ปาก

공유

บทที่ 10 เกลียดแต่ปาก

last update 최신 업데이트: 2025-08-01 20:37:49

เหตุการณ์เมื่อคืนยังคงทำให้อารมณ์ของคนทั้งสองขุ่นมัวอยู่โดยเฉพาะศรัณย์ที่ตวัดสายตาดุดันจ้องหน้าหญิงสาวอยู่บ่อยครั้งระหว่างนั่งทานข้าวอยู่บนโต๊ะอาหารจนแป้งว่าที่คู่หมั้นสาวสังเกตเห็น

"พี่ศรัณย์มีอะไรกับน้องดาริการึเปล่าคะ เห็นมองอยู่หลายครั้งแล้ว" เธอมองหน้าทั้งสองสลับกันด้วยความสงสัยจึงทำให้ศรัณย์รีบดึงสายตากลับมามองหน้าว่าที่คู่หมั้นสาว

"ไม่มีอะไรครับ" เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แววตาอ่อนโยน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ ต่างจากก่อนหน้านี้สิ้นเชิง

"แป้งก็นึกว่ามีอะไรซะอีก" แป้งระบายยิ้มอ่อน ๆ แล้วจึงก้มหน้าทานข้าวต่อไม่คิดสงสัยอะไรอีก สวนทางกับดาริกาที่แอบหัวใจเต้นแรงด้วยกลัวว่าหญิงสาวจะสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชายหนุ่ม

เมื่อหญิงสาวไม่มีท่าทีสงสัยอะไรอีกก็ทำให้โล่งใจขึ้นมาหน่อย เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อีกคนตวัดสายตามองเธออีกครั้งทำให้สองสายตาสบประสานกัน

เธอมองสบตาเขาเพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้นก็เบี่ยงหน้าไปทางอื่นไม่อยากจะมองหน้าคนใจร้ายให้เจ็บใจกระทั่งเสียงของหญิงสาวดังขึ้นจึงหันกลับมามองอีกครั้ง

"พี่ศรัณย์ไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะหากแป้งจะพาเพื่อนมาอยู่ด้วยสักพัก"

"ตามสบายเลยครับ บ้านพี่ก็เหมือนบ้านน้องแป้ง ยังไงน้องแป้งก็ต้องเป็นคุณผู้หญิงของที่นี่อยู่แล้ว"

คำพูดที่ชายหนุ่มตอบว่าที่คู่หมั้นสาวอาจจะฟังดูหวานเลี่ยนสำหรับคนอื่น ๆ แต่สำหรับดาริกามันคือมีดคม ๆ ที่กรีดลงบนหัวใจของเธอให้รู้สึกเจ็บปวด

ขอบตาร้อนผ่าวคล้ายน้ำตากำลังจะเออออกมาจนต้องรีบเสมองไปทางอื่นกลัวคนที่กำลังจ้องมาเห็นเข้า เธอรู้ว่าเขาจงใจพูดประโยคนั้นให้เธอเจ็บ

"ขอบคุณค่ะ"

"ครับ น้องแป้งจะทำอะไรในบ้านหลังนี้สามารถทำได้เต็มที่เลยครับ"

"พี่ศรัณย์น่ารักที่สุดเลย"

"ถ้าพี่น่ารักก็รักพี่ให้มาก ๆ นะครับ"

"หือ..." แป้งทำหน้าทะเล้นใส่ว่าที่คู่หมั้นหนุ่มนึกเลี่ยนในคำพูดคำจาของเขาทำเอาอีกคนถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ 

ทั้งสองดูจะมีความสุขมาก ๆ ขณะที่ส่วนเกินอย่างดาริกาทำได้แค่เก็บซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้ฝืนยืนมองคนทั้งสองแสดงความรักต่อกัน

คำพูดเหล่านี้น้ำเสียงแบบนี้เสียงหัวเราะแบบนี้เธอเคยได้รับมันมาก่อนทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนใจไปจากกันเร็วขนาดนี้ บางครั้งเธอก็เหมือนเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เข้าใจอะไรเลย

เธอฝืนยืนทนจนคนทั้งสองพากันเดินออกไปจากห้องอาหารจึงรีบเก็บจานไปล้าง แล้ววิ่งกลับห้องไปร้องไห้ระบายความเจ็บช้ำในอก เธอจะขอร้องไห้ให้กับคนใจร้ายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

ต่อจากนี้ไปจะไม่ขอร้องไห้และอ่อนแอกับเรื่องของผู้ชายใจร้ายอีก ในเมื่อเขาไม่นึกถึงจิตใจไม่แคร์ความรู้สึกเธอแล้วเธอก็จะไม่สนใจเขาแล้วเหมือนกัน

เธอสูดลมหายใจเข้าปอดยาว ๆ เรียกแรงฮึดสู้ให้ตัวเองพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจนแห้ง แววตาเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวฉับพลัน จิตใจแน่วแน่ว่าจะไม่อ่อนแออีกต่อไป

จากนั้นก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปมหาวิทยาลัยเพราะเธอมีเรียนตอนบ่าย

-มหาวิทยาลัย-

"เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นดา เราโทรไปแต่เป็นผู้ชายรับสาย" 

"แล้วคนที่รับสายคือใครใช่พี่ศรัณย์ไหม" 

ทันทีที่มาถึงมหาวิทยาลัยเพื่อนสาวทั้งสองก็ยิงคำถามใส่รัว ๆ จนดาริกาต้องยกมือขึ้นห้าม "ทีละคำถาม เราตอบไม่ทัน"

แยมกับมิ้นท์จึงยอมหยุด รอให้เพื่อนสาวนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยจึงถามไถ่อีกครั้ง

"ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น" แยมเอ่ยพลางมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความสงสัยไม่ต่างจากมิ้นท์เลย 

คนถูกถามถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนตอบ "เราทะเลาะกับไอ้ผู้ชายใจร้าย เขาห้ามไม่ให้เราออกไปเที่ยว คนที่รับสายก็เขานั่นแหละ"

"พี่ศรัณย์ของแกนี่มันยังไงกันแน่ ไหนบอกว่าเกลียดแกแต่ทำไมถึงยังมาวุ่นวายอีก" มิ้นท์ขมวดคิ้วมุ่นคำว่าผู้ชายใจร้ายจากปากเพื่อนสาวไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือศรัณย์เพราะเพื่อนสาวมักมาระบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังตลอด

"เกลียดแต่ปากล่ะมั้ง" แยมเอ่ยลอย ๆ เธออดคิดไม่ได้ว่าที่ชายหนุ่มสั่งห้ามไม่ให้เพื่อนสาวทำนู่นทำนี่เพราะหวงหรือเปล่าแต่ปากแข็งไม่ยอมพูดตรง ๆ 

"ไม่ใช่หรอก เขาคงเกลียดเรามากเกลียดจนเข้ากระดูกดำเลยแหละไม่ใช่แค่ปาก ไม่อย่างนั้นจะใจร้ายใส่กันได้ขนาดนี้เลยเหรอ" 

ดาริกาแย้งขึ้นทันควันเธอกล้านั่งยันนอนยันว่าชายหนุ่มไม่ได้เกลียดเธอแค่ปากเพราะการกระทำของเขาสามารถยืนยันได้ดี 

"ใช่แยม ถ้าไอ้บ้านั่นไม่เกลียดดาจริงจะพาว่าที่คู่หมั้นเข้ามาอยู่ในบ้านได้ยังไงเขาต้องแคร์ความรู้สึกดาบ้างสิ แต่นี่อะไร" มิ้นท์พยักหน้าเห็นด้วย พอคิด ๆ ก็นึกโมโหชายหนุ่มแทนเพื่อนสาวจริง ๆ

"แล้วแกก็ต้องทนอยู่ร่วมบ้านกับเขาเนี่ยนะ ไหวเหรอ" แยมเอ่ย

"จะให้เราทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อแม่เราก็อยู่ที่นั่น" ดาริกาตอบอย่างปลง ๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิดเรื่องที่จะย้ายออกจากบ้านพิทักษ์ธรานนท์ แต่ติดตรงที่แม่นี่แหละสาเหตุสำคัญ

"เราล่ะเหนื่อยใจแทนจริง ๆ" มิ้นท์กับแยมได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่มองหน้าเพื่อนด้วยความสงสาร 

บรรยากาศรอบ ๆ เริ่มอึมครึมดาริกาจึงรีบชวนเพื่อนคุยเรื่องอื่น "เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เรียนเสร็จไปเที่ยวห้างกันไหม" 

"ไปสิ" แยมเอ่ย

"เดี๋ยว! ลืมแล้วเหรอว่าเรามีรายงานยังทำไม่เสร็จต้องส่งอาจารย์พรุ่งนี้แล้ว" มิ้นท์ทักท้วง

"ใช่ ลืมไปเลย" ดาริกาถึงกับยิ้มแหย่ ๆ เธอลืมไปเสียสนิทเลยว่ายังมีงานที่ต้องทำ

"เปลี่ยนจากเที่ยวห้างไปทำรายงานที่ห้องมิ้นท์แล้วกัน" แยมเอ่ย

หลังจากเรียนเสร็จทั้งสามก็พากันไปทำรายงานกลุ่มยังหอพักของมิ้นท์

ครืดดด~

เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ดาริกาละสายตาจากหน้าจอโน๊ตบุ๊คไปมอง สองคิ้วสวยขมวดมุ่นเล็กน้อยเมื่อเห็นเบอร์ป้าสีนวลเพราะนับครั้งได้ที่ท่านโทรมาหา ยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย

"ว่าไงคะป้านวล"

(ป้าแค่เป็นห่วงเห็นว่ามืดแล้วแต่หนูดายังไม่กลับมา ตอนนี้หนูดาอยู่ไหนจ๊ะ)

สิ้นเสียงปลายสายเธอก็มองเวลาบนนาฬิกาข้อมือปรากฏว่าเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วมัวแต่ทำรายงานจนลืมดูเวลาไปเลย

"อ๋อ..หนูทำรายงานอยู่ห้องเพื่อนค่ะ" เปล่งเสียงตอบปลายสายไป

(แล้วจะกลับตอนไหนจ๊ะ)

"หนูก็ยังไม่รู้ค่ะ ต้องรีบทำรายงานให้เสร็จ"

(เพื่อนนี่ผู้หญิงหรือผู้ชายจ๊ะ แล้วห้องเพื่อนอยู่แถวไหน) 

คำถามละเอียดยิบจากปลายสายทำดาริกาขมวดคิ้วมุ่น เมื่อก่อนเธอก็กลับบ้านมืด ๆ อยู่บ่อยครั้งไม่เห็นป้าสีนวลจะโทรถามไถ่แบบนี้เลย วันนี้กลับมาแปลก

"เพื่อนผะ.." ทำท่าจะตอบ แต่สายกลับถูกตัดเสียก่อนพอยกจากหูมาดูปรากฏว่าโทรศัพท์เธอแบตหมดนั่นเอง

เธอคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรป้าสีนวลคงโทรถามไถ่เป็นพิธีจึงไม่ได้ใส่ใจชาตแบตโทรศัพท์ทิ้งไว้โดยไม่ได้เปิดเครื่อง แล้วทำรายงานต่อ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 42 ไม่รักกันตอนไหน2

    ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นที่ห้องอาหารรุ่นพี่หนุ่มก็เปลี่ยนไป เวลาเจอกันก็ทำเหมือนไม่รู้จัก หรือเดินหนีไปเลยคงจะโกรธหรือไม่ก็เกลียดกันไปแล้ว แต่เธอก็เข้าใจได้"ช่างเถอะยังไงพี่เขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราอยู่แล้ว ไปเรียนเถอะถึงเวลาแล้ว" มิ้นท์ตัดบทเมื่อก้มมองนาฬิกาบนข้อมือเห็นว่าถึงเวลาเรียนแล้วจากนั้นทั้งสามก็พากันเดินขึ้นห้องเรียน เรียนเสร็จก็แยกย้ายกลับบ้านตัวเอง-บ้านพิทักษ์ธรานนท์-"ที่บ้านมีงานอะไรกัน" ดาริกาพึมพำด้วยความสงสัยเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเห็นบริเวณลานสนามหญ้าหน้าบ้านมีโต๊ะอาหารทรงกลมวางอยู่สี่ห้าโต๊ะ รอบ ๆ มีการตกแต่งด้วยดอกไม้และลูกโป่งสีสันสดใส เหล่าแม่บ้านกำลังทำงานกันให้ขวักเธอเดินเข้าไปในบ้านเมื่อเห็นแม่บ้านกำลังเดินผ่านไปจึงถามไถ่ "มีงานอะไรกันเหรอคะ""งานวันเกิดคุณแป้งค่ะ น้องดาไม่รู้เหรอ""ไม่รู้ค่ะ" เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของแป้ง ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลยหรือไม่ก็พูดแต่เธอไม่รู้ แต่คงไม่แปลกเพราะทุกวันนี้เธอแทบจะไม่มีตัวตนในบ้านหลังนี้ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผู้เป็นแม่กับเกรียงศักดิ์ก็หมางเมินใส่เธอพูดด้วยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนศรัณย์ก็เอาแต

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 41 ไม่รักกันตอนไหน1

    หนึ่งเดือนต่อมาดาริกาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ภายในอ้อมกอดของผู้ชายใจร้ายที่เห็นเธอเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ระบายความใคร่เธอค่อย ๆ พลิกตัวเข้าหาคนที่นอนกอดเธออยู่ด้านหลัง จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพปั้นด้วยความรู้สึกเจ็บช้ำ เกิดคำถามในใจซ้ำ ๆ ว่าเขาไม่รักเธอตั้งแต่ตอนไหนทำไมถึงใจร้ายใส่กันได้มากขนาดนี้เขารังแกเธอทุกทางไม่เคยจะปราณีกันสักครั้ง รังแกทางร่างกายเธอยังพอทนไว้ แต่รังแกจิตใจกันเธอแทบทนไม่ไหวกลางวันเธอต้องทนเห็นเขาแสดงความรักกับว่าที่คู่หมั้น แต่พอตกกลางคืนกลับย่องมาหาเธอที่ห้อง มาตักตวงความสุขจากร่างกายเธอแทบทุกคืนในสถานะเมียน้อยที่เขายัดเยียดให้น้ำสีใสค่อย ๆ รินไหลออกจากดวงตาอย่างกลั้นไม่อยู่จนต้องรีบยกมือขึ้นเช็ด แล้วค่อย ๆ ยกท่อนแขนแกร่งที่พาดบนเอวออกพาตัวลงจากเตียงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอก็ออกมาแต่งตัว แล้วเดินไปปลุกคนที่นอนหลับไหลอย่างสบายอยู่บนเตียง"คุณศรัณย์ตื่น เช้าแล้วนะ" ร้องเรียกพลางยื่นมือไปเขย่าไหล่เบา ๆ"อือ..." คนถูกปลุกฮึมฮำในลำคอแสดงสีหน้าหงุดหงิดทั้งที่เปลือกตายังปิดอยู่จนดาริกาต้องยื่นมือไปเขย่าไหล่ซ้ำ"ตื่นค่ะคุณศรัณย์""เธอจะเข

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 40 จนกว่าจะตายจากกัน2

    "ถ้าไม่เชื่อผมเปิดคลิปให้ดูได้นะครับ" ศรัณย์ล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋ากางออกมาเพื่อเปิดคลิปยืนยันเมื่อประทีปแสดงสีหน้าคลางแคลงใจ"พอได้แล้วศรัณย์ เลิกบ้าสักที" เกรียงศักดิ์ตวาดลั่นก่อนที่บุตรชายจะทำอะไรเลว ๆ "คลิปอะไรศรัณย์" ประทีปไม่สนว่าพ่อลูกจะทะเลาะกัน แต่เขาอยากรู้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่"คลิปผมกับดาริกาตอนมีอะไรกันครับ"ประทีปกับวลีอึ้งเป็นครั้งที่สองหันมองหน้าเด็กสาวเชิงตั้งคำถาม "จริงเหรอหนูดา ที่ศรัณย์พูดเป็นความจริงเหรอบอกป้าหน่อย"คนถูกถามได้แต่ก้มหน้าเพราะอับอายเกินกว่าจะพูดออกไปได้ แต่เพียงเท่านี้ประทีปกับวดีก็รู้แล้วประทีปผุดลุกขึ้นยืนชี้หน้าเกรียงศักดิ์ด้วยความโกรธ "มึงทำแบบนี้ได้ไงไอ้ศักดิ์ ยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ไหม""ใจเย็น ๆ ไอ้ทีปฟังฉันก่อน" เกรียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนพยายามบอกให้ประทีปใจเย็น"กูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น มึงเห็นกูกับเมียเป็นคนโง่นี่ถ้าศรัณย์ไม่พูดพวกกูคงถูกมึงหลอก นับจากนี้ไปมึงกับกูไม่ใช่เพื่อนกัน" เอ่ยกับเพื่อนทรยศจบประทีปก็หันไปออกคำสั่งกับเมียและลูก "กลับ!""ใจเย็น ๆ ก่อนครับพ่อ" โจพยายามบอกให้คนเป็นพ่อใจเย็น เขาไม่ต้องการให้งานแต่งครั้งนี้ล้มเลิก"อย่

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 39 จนกว่าจะตายจากกัน1

    การคุยเรื่องแต่งงานของทั้งสองฝ่ายเป็นไปได้ด้วยดีกระทั่งประตูห้องอาหารถูกเปิดออกแกร๊ก!ทุกคนภายในห้องพากันขมวดคิ้วหันมองไปที่ประตูอย่างพร้อมเพรียงกัน "ศรัณย์.."เกรียงศักดิ์กับเกสรตาเบิกกว้างหน้าถอดสีเมื่อเห็นหน้าคนที่เปิดประตูเข้ามา กลัวว่าบุตรชายจะมาทำให้เสียเรื่อง ขณะที่ดาริกากลับนิ่งเฉยเพราะไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นมันคงไม่แย่กว่าที่เป็นอยู่แล้วศรัณย์มองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างคาดโทษ ก่อนเลื่อนสายตามองหน้าผู้เป็นพ่อสลับกับเกสรพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า ทั้งสองคงคิดว่าปิดหูปิดตาเขาจากเรื่องการแต่งงานของหญิงสาวได้สินะ และคงกลัวว่าเขาจะขัดขวางถึงได้นัดกันมาคุยข้างนอก แต่เขามันคนโชคดีเมื่อวันก่อนดันบังเอิญได้ยินผู้เป็นพ่อคุยโทรศัพท์กับลุงประทีปเรื่องจะให้หญิงสาวแต่งงานกับลูกของท่านแน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อ และเกสรสมหวังสักเรื่องจะคอยขัดขวางทุกทาง"แกอย่ามาสร้างเรื่องที่นี่" เกรียงศักดิ์กดเสียงเอ่ยเบา ๆ ให้พอได้ยินแค่สองคน ถามว่าศรัณย์ฟังไหมตอบเลยว่าไม่"เจอกันอีกแล้วนะโจ" หันไปจ้องโจที่กำลังมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจก่อนจะระบายยิ้มยี้ยวนให้ เขาดูไม่แปลกใจที่เจอโจเ

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 38 ว่าที่สามี

    วันต่อมาดาริกาได้ออกจากโรงพยาบาลประมาณช่วงบ่ายโดยคนที่มารับเธอกับแม่คือเกรียงศักดิ์ เธอควรดีใจที่ได้กลับบ้าน แต่ไม่เลยความรู้สึกของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมถ้าเลือกได้เธออยากอยู่โรงพยาบาลต่อมากกว่า "ตอนเย็นผู้ใหญ่ทางฝั่งนู่นจะมาคุยเรื่องการแต่งงานนะ หนูดาเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"คำบอกล่าวจากเกรียงศักดิ์ที่กำลังขับรถอยู่ทำให้หัวใจดวงน้อยปวดหนึบ น้ำสีใสพลันเอ่อคลอดวงตาจนเธอต้องรีบหันหน้ามองออกไปนอกกระจกรถกลัวว่าเกรียงศักดิ์กับแม่ที่นั่งคู่กันด้านหน้าเห็นนี่เธอต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก หนำซ้ำยังไม่รู้จักจริง ๆ เหรอ ทำไมทุกอย่างจึงมาถึงจุดนี้ได้มันเป็นเพราะแม่เพราะเธอหรือเพราะชายหนุ่มกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะใครสุดท้ายคนที่รับกรรมก็มีแค่เธอคนเดียว ทำไมถึงเป็นเธอที่ต้องแบกรับทุกอย่างเธอปิดตาลงพยายามกลั้นน้ำตาไว้ แต่สุดท้ายมันก็ยังรินไหลออกมาอยู่ดี หลายวันมานี้ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่ร้องไห้เหมือนกับน้ำตาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วความสุขหน้าตาเป็นยังไง และให้ความรู้สึกยังไงเธอไม่ได้สัมผัสมันมาหลายเดือนแล้วจนเริ่มจำไม่ได้เปลือกตาบางปรือขึ้นเมื่อรถจอดนิ่ง เธอลอบถอนหายใจออกมาครั้นเห็

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 37 ผัวไม่ใช่พี่ชาย2

    "ทำไมคุณต้องพูดจารุนแรงใส่น้องสาวตัวเองด้วย สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิดนะครับ" เขาพยายามอธิบาย แต่กลับทำให้คนฟังยิ่งเลือดลมขึ้นหน้าเพราะหญิงสาวบอกกับคนอื่นว่าเขาเป็นพี่ชายทั้งที่ความจริงไม่ใช่ เหมือนกับเธอปกปิดสถานะของเขาเพราะแคร์ไอ้หน้าอ่อนที่ยืนอยู่ หรือไม่ก็กำลังคบกันคงกลัวมันรู้แล้วจะทิ้งไป"ดาริกาบอกมึงว่ากูเป็นพี่ชายเหรอ" กดเสียงแข็งกระด้างถาม สายตาจับจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับจะกินหัว"ใช่ครับ" โจตอบตามความจริง เขาเคยเห็นชายหนุ่มมาส่งรุ่นน้องสาวที่มหาวิทยาลัยเมื่อหลายเดือนก่อนจึงถามไถ่ เธอบอกว่าเป็นพี่ชายเขาก็เชื่อสนิทใจ"งั้นมึงก็รู้ไว้ด้วยว่ากูเป็น 'ผัว' ดาริกาไม่ใช่พี่ชาย" ศรัณย์เน้นคำว่าผัวใส่หน้าโจทำเอาเขางงเป็นไก่ตาแตกหันมองหน้ารุ่นน้องสาวขอคำยืนยัน "จริงเหรอครับน้องดา"มะ...""ถ้าไม่เชื่อกูพิสูจน์ให้ดูได้นะ" ดาริกาไม่ทันตอบศรัณย์ก็พูดแทรกขึ้น ไม่ว่าเปล่ายังเดินเข้าหาคนบนเตียงโน้มใบหน้าลงหมายจะจูบเธอ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะถูกอีกคนดึงคอเสื้อด้านหลังแล้วลากให้ออกห่างคนบนเตียงศรัณย์แกะมือโจออกจากคอเสื้อพร้อมกับจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง โจจ้องตอบไม่เกรงกลัว"ไม่ว่าคุณจะอย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status