Home / โรแมนติก / ขังรักน้องสาวในนาม / บทที่ 11 จะไปไหนก็ไป

Share

บทที่ 11 จะไปไหนก็ไป

last update Last Updated: 2025-08-01 20:38:40

เมื่อคืนกว่าจะทำรายงานเสร็จก็เที่ยงคืนแล้วดาริกาจึงนอนที่ห้องเพื่อน ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำแล้วยืมชุดนักศึกษาเพื่อนใส่ไปมหาวิทยาลัยเลยเพราะวันนี้เธอกับเพื่อน ๆ มีเรียนเช้า 

"คนที่บ้านแกจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่เมื่อคืนไม่กลับ" มิ้นท์เอียงหน้าถามเพื่อนสาวหลังจากพากันเข้ามานั่งในห้องเรียนแล้ว

"เขาคงไม่สนใจหรอก" ดาริกาตอบไปตามความคิด ก่อนจะล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋าออกมาเปิดเครื่องเมื่อนึกขึ้นได้ว่าปิดเครื่องไปตั้งแต่เมื่อคืน และยังไม่ได้เปิดเลย

ครืด ครืด~

ทันทีที่เปิดเครื่องข้อความก็เด้งเข้ามารัว ๆ เธอขมวดคิ้วน้อย ๆ เมื่อเห็นข้อความพยายามติดต่อจากเบอร์ชายหนุ่มที่ไม่ต่ำกว่าสิบสาย 

เขาจะโทรหาเธอทำไมกันเยอะแยะมีเรื่องอะไร หรือเพราะเธอไม่กลับบ้านเมื่อคืน แต่ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเธอล้านเปอร์เซ็นต์

"มีอะไรเหรอดา" 

เสียงเพื่อนดังทบโสตประสาททำให้เธอละสายตาจากมือถือ กดปิดหน้าจอแล้วใส่กระเป๋าดังเดิม

"ไม่มีอะไร"

"เห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดนึกว่าคนที่บ้านโทรตาม" แยมเอ่ย

"ไม่ ๆ แค่ดูมือถือเฉย ๆ" ไม่อยากจะพูดถึงผู้ชายใจร้ายให้เสียบรรยากาศจึงปฏิเสธไป

"อ่อ.." 

แยมพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะหันไปสนใจอาจารย์ที่กำลังเดินเข้าห้องมา

หลังจากเลิกเรียนในตอนบ่ายดาริกาก็ตรงกลับบ้านทันทีแม้ไม่อยากจะกลับเท่าไรนักเพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก

"เมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้าน"

สองเท้าเล็กที่กำลังก้าวตรงไปยังห้องพักถึงกับชะงักกึกเมื่อน้ำเสียงแข็งกร้าวของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง 

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้าเจ้าของเสียง เขายืนกอดอกใบหน้าเกรี้ยวกราดแววตาแสนดุจ้องมองเธอเขม็งบ่งบอกถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

จ้องกลับนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าราบเรียบ "ทำรายงานที่ห้องเพื่อนค่ะ เสร็จดึกก็เลยนอนห้องเพื่อน กลับดึกกลัวอันตราย"

"รถที่บ้านไม่มีเหรอ ทำไมถึงไม่โทรให้ไปรับ"

แทนที่อีกคนจะเข้าใจเหตุผลกลับมีท่าทีโกรธเธอมากกว่าเดิม แถมยังพูดออกมาหน้าตาเฉยว่าทำไมไม่ให้รถที่บ้านไปรับสงสัยเขาคงลืมว่าเคยพูดอะไรไว้จึงเอ่ยเตือนความทรงจำ

"คุณสั่งห้ามไม่ให้ลุงชัยขับรถไปรับไปส่งฉันไม่ใช่เหรอคะ แล้วฉันจะกล้าขัดคำสั่งคุณได้ยังไง" 

"นี่เธอประชดฉันเหรอ"

"ฉันเป็นแค่คนใช้ไม่กล้าประชดเจ้านายหรอกค่ะ"

"ปากดีขึ้นทุกวันแล้วนะดาริกา"

"ฉันแค่พูดความจริงค่ะ"

เหมือนเขาจะไม่ยอมเปิดหูเปิดตาเข้าใจอะไรเลยขนาดเธอทั้งบอกเหตุผลทั้งอธิบายแต่สุดท้ายดูเหมือนเธอจะเป็นคนผิดอยู่ดี

บางทีก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ทั้งที่ปากบอกว่าเกลียด แต่ก็มายุ่งวุ่นวายกับเธอไม่เลิกจ้องแต่จะหาเรื่องกันตลอดเวลา

"ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ" เพื่อตัดปัญหาไม่อยากทะเลาะอีกจึงขอแยกตัว ทว่าในตอนที่กำลังจะหมุนตัวเดินกลับห้องก็ต้องชะงักกึกเพราะประโยคไม่รื่นหูจากอีกคน

"แล้วแต่งตัวอะไร ใส่แบบนี้ใส่ไปเรียนหรือไปยั่วผู้ชายกันแน่"

เธอก้มสำรวจตัวเองแล้วหันกลับไปมองหน้าเจ้าของคำพูดด้วยสายตาตั้งคำถามแกล้มไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะอะไรกับการแต่งตัวของเธอนักหนา 

ก็แค่เสื้อรัดรูปกว่าปกติกับกระโปรงทรงเอผ่าหน้าที่สั้นประมาณกลางขาอ่อนเพราะเพื่อนที่เธอยืมชุดนักศึกษาใส่ตัวเล็กกว่าพอเธอยืมมาใส่จึงดูเล็กไปหน่อยนึง แต่ก็ไม่ดูน่าเกียจจนเกินไป

ชายหนุ่มคงตั้งใจหาเรื่องเธอ..

"ใส่ไปเรียน แล้วก็ใส่ไปยั่วผู้ชายด้วยค่ะ" ด้วยความขุ่นเคืองเธอจึงตอบแดกดันกลับไป

"ฉันส่งให้เธอไปเรียนไม่ใช่ไปยั่วผู้ชาย ตั้งใจเรียนให้มันคุ้มกับเงินที่พิทักษ์ธรานนท์ส่งเสียเธอเรียนหน่อย" 

คำตอบจากริมฝีปากอิ่มทำศรัณย์โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแต่ก็พยายามระงับอารมณ์ไว้ไม่อย่างนั้นเขาคงได้พลั้งมือใช้กำลังกับเธอแน่

เขาไม่อยากได้ชื่อว่าหน้าตัวเมียเป็นผู้ชายรังแกผู้หญิงตัวเล็ก ๆ

"กลัวไม่คุ้มค่าเงินของพิทักษ์ธรานนท์ งั้นก็ไม่ต้องส่งเสียฉันให้เปลืองหรอกค่ะ ฉันทำงานส่งตัวเองเรียนก็ได้"

"อวดดี!" 

แต่อีกคนกลับพูดยั่วอารมณ์เขาไม่หยุด

"ฉันไม่ได้อวดดีถ้าไม่เชื่อก็ให้ฉันพิสูจน์สิ ฉันจะขอย้ายออกจากบ้านพิทักษ์ธรานนท์ และไม่ขอข้องเกี่ยวอีกต่อไปไม่ว่าเรื่องใด ๆ" 

"ฝันไปเถอะดาริกา อย่าฝันว่าจะได้ออกไปจากที่นี้" 

"ทำไมคะ..คุณศรัณย์ยังมีเยื่อใยกับฉันเหรอถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป" ดาริกาเผยรอยยิ้มออกมาบาง ๆ จงใจยั่วอารมณ์ทำให้เขาโมโหจนทนไม่ไหวแล้วออกปากไล่เธอเอง

"อย่าหลงตัวเอง ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งนักก็ไสหัวออกไปจากพิทักษ์ธรานนท์ แล้วอย่าโผ่ลหน้ากลับมาอีกฉันอยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งได้สักกี่น้ำ" เขากดเสียงเอ่ยใส่หน้าเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ความจริงเธอควรดีใจที่ได้รับอิสระภาพแต่ทำไมมันถึงได้รู้สึกเจ็บหัวใจก็ไม่รู้ น้ำตาก็พานจะไหลเสียให้ได้จนต้องรีบสลัดความรู้สึกออกไป

หลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่แล้วจึงเดินกลับห้องตัวเอง จัดการเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋า ยกเว้นตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวใหญ่ที่ผู้ชายใจร้ายให้เธอ

เลือกจะทิ้งมันไว้ที่นี่แม้ลึก ๆ ในใจเสียดาย แต่ในเมื่อเธอเลือกจะตัดแล้วก็ไม่ควรเอามันไปด้วยเพราะเหมือนยิ่งตอกย้ำให้เธอนึกถึงเขาอยู่เสมอ

เมื่อเก็บทุกอย่างเสร็จก็โทรให้เพื่อนสาวมารับเพราะออกจากบ้านพิทักษ์ธรานนท์กะทันหันเธอคงต้องไปอยู่กับเพื่อนก่อนระหว่างที่กำลังหาห้องพักได้ 

เธอยืนมองบ้านหลังใหญ่โตโอฬารที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กด้วยความรู้สึกใจหาย ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางใบโตออกไปยืนรอเพื่อนหน้ารั้วบ้าน 

เธอเลือกจะจากมาโดยไม่บอกกล่าวหรือบอกลาคนในบ้านพิทักษ์ธรานนท์สักคน การจากไปเงียบ ๆ น่าจะดีที่สุด

-คอนโดแยม-

ครืด ครืด~

เสียงจากโทรศัพท์ทำให้ดาริกาที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องของเพื่อนสาวอย่างแยมหลุดจากภวังค์ 

สองคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเลื่อนสายตาไปมองหน้าจอมือถือที่วางข้างตัวแล้วเห็นเบอร์ว่าที่คู่หมั้นของผู้ชายใจร้าย

โทรมาทำไมกันเพราะเธอกับหญิงสาวน่าจะไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกัน ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้แล้วหยิบมือถือมารับสาย

"สวัสดีค่ะคุณแป้ง"

(จ้ะ เห็นพี่ศรัณย์บอกว่าน้องดาออกจากบ้านพิทักษ์ธรานนท์มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า ทำไมถึงออกจากพิทักษ์ธรานนท์บอกเหตุผลพี่ได้ไหม)

สิ้นคำถามจากปลายสายดาริกาก็ยิ้มเยาะออกมาสวนทางกับหัวใจที่รู้สึกหน่วงอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนชายหนุ่มจะให้ความสำคัญกับว่าที่คู่หมั้นมาก เธอออกจากพิทักษ์ธรานนท์ไม่กี่ชั่วโมงหญิงสาวก็รู้แล้ว คนที่บอกคงเป็นเขานั่นแหละเพราะคนอื่นไม่มีใครรู้

"ฉันได้งานที่อยากทำแล้วค่ะ..เลยออกมา" 

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องเธอมากน้อยแค่ไหนจึงตอบไปเพียงเท่านั้น

(อ๋อ..พี่นึกว่ามีปัญหาอะไรถึงได้ออกจากพิทักษ์ธรานนท์กะทันหัน พี่แค่เป็นห่วงเลยโทรมาถามไม่มีอะไรก็ดีแล้ว)

"ขอบคุณคุณแป้งมากนะคะ" 

เธอซาบซึ้งในน้ำใจของหญิงสาวยิ่งนัก 

หญิงสาวถือว่าเป็นคนดีคนนึงเลยทีเดียวเพราะตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในพิทักษ์ํธรานนท์ก็วางตัวดีมาก ไม่เคยแสดงกิริยามารยาทไม่ดี ไม่เคยดูถูกเหยียดหยามคนฐานะด้อยกว่า หนำซ้ำยังดีกับเธอมาก ๆ 

คอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเสมอ เวลาออกไปไหนมักจะมีขนมติดไม้ติดมือมาฝากเธอตลอด ถือว่าเหมาะสมจะเป็นคุณผูหญิงของบ้านพิทักษ์ธรานนท์ แต่ทำไมเธอถึงได้เจ็บหัวใจเหลือเกิน

(จ้ะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาหาพี่ได้ตลอดนะ)

"ค่ะ"

(จ้ะ...งั้นพี่ไม่กวนล่ะ)

หลังจากอีกฝ่ายวางสายไปเธอก็ทอดสายตามองวิวข้างนอกผ่านหน้าต่างกระจกอีกครั้ง คิด ๆ ดูแล้วการที่เธอย้ายออกมาเป็นสิ่งที่ดีมาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจของชายที่รักกับผู้หญิงคนอื่น 

แต่ใจอีกเสี้ยวก็รู้สึกหนักอึ้ง ถ้าผู้เป็นแม่ที่อยู่ต่างประเทศรู้เข้าว่าเธอออกจากพิทักษ์ธรานนท์คงโกรธมากแน่เพราะเธอกับท่านเคยทะเลาะเรื่องนี้กันมาแล้ว 

ครั้งนั้นหลังจากเกิดเรื่องเธอก็ชวนผู้เป็นแม่ออกจากพิทักษ์ธรานนท์แต่ท่านก็ปฏิเสธ หนำซ้ำยังยื่นคำขาดว่าหากเธอออกไปจะตัดแม่ตัดลูก

 นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องให้ชายหนุ่มออกปากไล่เพื่อจะอ้างได้ว่าเธอไม่ได้เต็มใจออกมาเอง หวังว่าท่านจะไม่โกรธจนถึงขั้นตัดแม่ตัดลูกกัน

และตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือต้องรีบหางานทำเพราะเงินค่าขนมในแต่ละเดือนที่บ้านพิทักษ์ธรานนท์ให้ซึ่งเธอแอบเก็บไว้มีพอใช้จ่ายแค่เดือนกว่า ๆ เท่านั้น

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูทำให้เธอหลุดจากห้วงความคิดอีกครั้ง หันไปมองก็เห็นแยมกำลังถือถุงขนมเดินเข้ามา แยมเพิ่งกลับมาจากไปหาแฟนหลังจากที่ไปรับเธอมาส่งที่ห้องแล้ว

"นี่พี่คิมบอกว่าบาร์ของเพื่อนแกกำลังรับเด็กเสิร์ฟ สนใจไหม" แยมบอกกล่าวเพื่อนสาวทันทีที่หย่อนก้นนั่งบนโซฟา เห็นเพื่อนสาวบอกว่าจะหางานทำระหว่างเรียนไปด้วยเธอจึงช่วยหางานให้อีกแรงเพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังลำบาก

"จริงเหรอ..ทำสิตอนนี้ทำอะไรได้ก็ทำไปก่อน" ดาริกาไม่ปฏิเสธแม้จะไม่ค่อยชอบทำงานในสถานที่แบบนั้นก็ตาม ตอนนี้เธอต้องการเก็บเงินไว้สำรองสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก่อน ไว้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางค่อยหางานใหม่

"โอเค..งั้นฉันไปโทรบอกพี่คิมก่อนว่าให้ล็อกงานไว้ให้แก"

"อือ ๆ" 

ดาริกาโล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่งอย่างน้อยตอนนี้ก็มีงานทำแล้ว ส่วนเรื่องห้องพักคิดไว้ว่าจะไปหาพรุ่งนี้แถว ๆ มหาวิทยาลัยจะได้สะดวกต่อการเดินทางไปเรียนหน่อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทส่งท้าย

    หนึ่งปีต่อมา"แม่กับพ่อรออุ้มหลานคนที่สองอยู่นะเมื่อไรจะมาสักทีฮึ หรือแอบคุมกำเนิดกันลูกถึงยังไม่มา" "แค่ก ๆ"คำถามจากแม่ยายทำเอาศรัณย์ที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มหลังจากทานข้าวเสร็จถึงกับสำลักจนคนเป็นภรรยาอย่างดาริกาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องยื่นมือไปลูบหลังให้ "เป็นอะไรรึเปล่าคะ"เขาส่ายหน้าให้ภรรยาสาวแทนคำตอบเหมือนกับว่าไม่เป็นอะไรทั้งที่ลึก ๆ แอบกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดว่าเขาอาจจะมีปัญหาอะไรบางอย่างเพราะผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แต่ภรรยาสาวยังไม่ท้องสักทีทั้งที่เขาก็ทำการบ้านแทบจะทุกวันเพื่อนบางคนเริ่มแซวว่าเขาไร้น้ำยาเพราะเคยโอ้อวดเอาไว้ในงานแต่งว่าเพื่อน ๆ รออุ้มหลานได้เลย ทว่าผ่านมาหนึ่งปียังไร้แวว คำแซวเล่นจากเพื่อนกับแรงกดดันจากพ่อตาแม่ยายทำเขากลัดกลุ้มไม่น้อยจนถึงขั้นต้องแอบนัดตรวจร่างกายเงียบ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน และได้ผลตรวจมาแล้วแต่เขายังไม่กล้าเปิด"ไม่ได้คุมอะไรเลยครับ แต่น้องคงยังไม่อยากมาเกิดเลยยังไม่ท้อง" เขาแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบพ่อตาแม่ยายไปครั้นหายจากอาการสำลัก"ใช่ค่ะ" ดาริกาเอ่ยสมทบ เธอรู้จักกับคนเป็นสามีมาเนิ่นนานมีหรือจะอ่านใจ และเดาความคิดไม่ออกว่าเขากำล

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 83 เข้าหอ (จบ)

    งานแต่งจบลงในช่วงค่ำแขกเหรื่อเริ่มทยอยกันกลับจนหมดรวมถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่าย และบุตรสาวที่ถูกคุณยายพากลับไปด้วยเพราะรู้ว่าคืนนี้บ่าวสาวต้องเข้าหอกันภายในงานจึงเหลือเพียงเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายที่ยังอยู่ฉลองกันต่อจนเวลาล่วงเลยถึงสามทุ่ม"เข้าหอได้แล้วไอ้รัณย์ เผื่อได้น้องให้น้องริสาสักคน" "ใช่ ๆ น้องริสาจะได้ไม่เหงา"เสียงพ้องเพื่อนของศรัณย์เอ่ยขึ้นทำดาริกาหน้าแดงระเรื่อ หันมองสามีป้ายแดงที่นั่งโอบเอวเธออยู่ด้วยความเขินอายศรัณย์มองสบดวงตากลมอย่างกรุ่มกริ่ม ก่อนจะหันไปยืดอกตอบเพื่อน ๆ "พวกมึงรอเลี้ยงหลานคนที่สองได้เลย""ฮิ้ววว..."สิ้นคำพูดของเขาทุกคนก็พากันโห่ร้องออกมา บ้างก็พูดแซวขำ ๆ ยิ่งทำให้ดาริกาเขอะเขินจนตัวแทบลอยใช้มือตีแขนคุณสามีขี้อวดไปหนึ่งที"คนบ้า.."แทนที่ศรัณย์จะเจ็บกลับกลั้วหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนบอกกล่าวกับเพื่อน ๆ "เชิญตามสบายนะ กูกับเมียขอตัวก่อน"เอ่ยจบก็ช้อนร่างบอบบางขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาว"ว้าย!"คนถูกอุ้มหลุดอุทานออกมา สองมือรีบตวัดคล้องลำคอแกร่งด้วยความตกใจ ขณะที่อีกคนมองหน้าแตกตื่นของเธอแล้วหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูพลางก้าวเท้าเดินออก

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 82 ตลอดไป

    หลังจากขอแต่งงานเสร็จหนึ่งอาทิตย์ต่อมางานแต่งของทั้งสองก็จัดขึ้นทันทีเสียงดนตรีคลาสสิกแผ่วเบาดังคลอไปกับเสียงคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง บนสนามหญ้าสีเขียวริมชายหาดสีขาวนวลถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานแต่งงานในฝันของดาริกาผืนผ้าขาวพริ้วไหวตามแรงลม ผูกเป็นซุ้มโค้งเรียบง่ายแต่สง่างามประดับด้วยดอกไม้โทนสีพีช ครีม และชมพูอ่อน บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกไม้นานาชนิดเคล้าด้วยกลิ่นอายจากทะเล แขกจำนวนไม่น้อยเริ่มทยอยกันมานั่งบนเก้าอี้ไม้ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบท่ามกลางท้องฟ้าอันสดใสและแสงแดดนวลยามเย็นเสียงดนตรีคลาสสิกเงียบลงมีเสียงเปียโนบรรเลงเพลงรักสุดโรแมนติกขึ้นมาแทนเมื่อเจ้าสาวปรากฏกายขึ้นดาริกาในชุดเจ้าสาวลูกไม้สีขาวเปิดไหล่แขนยาวสไตล์ลักชูรี่เรียบหรูพอดีตัวโชว์ให้เห็นสวนโค้งเว้ากระโปรงยาวลากพื้นทรงผมมวยแบบแสกกลางปัดหน้าม้าไปด้านข้างเล็กน้อยแล้วเติมความหวานด้วยการใส่เทียร่า และเวลาสีขาวยาวลากพื้นใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางจากช่างแต่งหน้าฝีมือดีสวยจนทุกสายตาจับจ้องเดินจูงลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงกระโปรงฟูฟ่องไปตามทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเวลสีขาวบริสุทธิ์ปลิวไหวตามสายลม ด

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 81 แต่งงานกันนะ

    วันต่อมาเขาก็ไปหาพ่อแม่ของหญิงสาวตามที่ได้พูดไว้ทันที มาถึงบ้านเกียรติกมลก็เห็นหญิงสาวยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว จากที่ใบหน้าเคร่งขรึมด้วยความกังวลพอเห็นหน้าเธอพอทำให้เขายิ้มออกมาได้บ้างรีบเปิดประตูลงจากรถเดินไปหาเธอ "คิดถึงจังเลยครับ""เพิ่งแยกกันเมื่อวานเอง มาคิดถึงอะไรกันคะ" ดาริกาแอบเบาะปากกับความเวอร์วังของชายหนุ่ม ทว่าในใจเธอก็คิดถึงเขาไม่ต่างกันเพราะจู่ ๆ ก็ต้องแยกกันทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันแทบทุกเวลา"พี่พูดจริงนะครับ" เขาทำหน้าอ้อน แต่สายตากวาดมองไปทั่วเหมือนหาอะไรเธอจึงถามไถ่ "มองหาอะไรคะ""ลูกไปไหนครับ""ออกไปเที่ยวกับพี่กิจค่ะ""อ๋อ""เข้าบ้านกันเถอะค่ะ" เธอรีบชวนเขาเข้าบ้านเพราะพ่อกับแม่รออยู่ เมื่อเขาพยักหน้าจึงเดินนำเข้าไปในบ้านศรัณย์อดประหม่าไม่ได้เมื่อเผชิญหน้ากับว่าที่พ่อตาแม่ยายที่นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่บนโซฟาในห้องโถง หญิงสาวเหมือนจะรู้จึงแอบจับมือเขาแล้วบีบเบา ๆ เชิงให้กำลังใจ ก่อนจะคลายออก แล้วแนะนำเขากับพ่อแม่"พ่อคะ แม่คะนี่คุณศรัณย์ค่ะ""สวัสดีครับ" สิ้นเสียงแนะนำเขาก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยท่าทางนอบน้อม"จ้ะ" แม่ของเธอยิ้มใหญ่เขา ต่างจากคนเป็นพ่อที่จ้องร

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 80 ความสุข

    วันต่อมา-บ้านพิทักษ์ธรานนท์-ศรัณย์กลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์เหงาหงอยเพราะต้องแยกจากลูกเมีย หากไม่คิดว่ามันดูน่าเกลียดเกินไปเขาอยากจะไปคุยกับพ่อแม่ของดาริกาตั้งแต่กลับมาถึงกรุงเทพแล้วเขาอยากจะแต่งงานกับเธอวันนี้เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำเพราะไม่อยากจะแยกกับทั้งสองแม้นาทีเดียว"ลูกหายไปไหนมาตั้งสองเดือนศรัณย์ รู้ไหมพ่อเป็นห่วงมาก" ทันทีที่เขาโผล่หน้าเข้าบ้านผู้เป็นพ่อก็พุ่งเข้ามาถามไถ่ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเขาเหมือนจะคลายความโกรธจากท่านได้บ้างแล้ว แต่พอหันไปเห็นหน้าเกสรที่นั่งบนโซฟาในห้องโถงก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา"ไปง้อลูกกับเมียมา" เปล่งน้ำเสียงห้วนกระด้างตอบท่าน"ลูกเมีย?" เกรียงศักดิ์คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน งงเป็นไก่ตาแตกกับคำตอบ บุตรชายไปมีลูกมีเมียตอนไหนกันก็เห็นจะเป็นจะตายกับการสูญเสียดาริกาอยู่ทุกวัน"พ่อคงยังไม่รู้ว่าน้องดายังไม่ตาย และยังกลับมาพร้อมลูกของผมด้วย" ศรัณย์จึงบอกให้ท่านหายสงสัย"ห๊ะ!"เกรียงศักดิ์หายสงสัย แต่กลายเป็นตกใจ และงุนงงแทน ไม่ต่างจากเกสรที่ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ"แต่วันนั้นทุกคนก็เห็นกับตาว่าหนูดาตายไปแล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่หนูดายังมีชีวิตอยู่" "เ

  • ขังรักน้องสาวในนาม   บทที่ 79 เริ่มต้นใหม่

    ตกค่ำถึงเวลาพาลูกเข้านอนศรัณย์ก็พาลูกเข้านอนปกติ พอลูกหลับก็ลุกเดินออกไปไม่คิดแหกกฏแม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ของลูกจะดีขึ้นมากแล้ว"เดี๋ยวก่อน"ทว่าเดินยังไม่พ้นประตูก็ถูกเรียกไว้ เขาหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองร่างบางที่นั่งพิงหัวเตียงด้วยความสงสัย"น้องดามีอะไรรึเปล่าครับ""มานอนกับลูกสิ จะไปไหน" สิ้นคำบอกกล่าวของเธอใบหน้าคมเข้มก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเชื่อหูตัวเองเท่าไรจึงถามย้ำให้แน่ใจว่าไม่ได้หูฝาดไป"น้องดาอนุญาตให้พี่นอนกับลูกเหรอครับ" "หรือจะไม่นอนคะ""นอนครับนอน" พอเธอตอบมาแบบนั้นก็รีบเดินกลับไปขึ้นเตียงทันที เขารอเวลานี้มาตั้งนานจะปล่อยให้หลุดลอยไปได้อย่างไร"ขอบคุณนะครับที่ยอมให้พี่นอนกับลูก" เขามองสบดวงตากลมด้วยความรู้สึกขอบคุณ เธอสบตาเขานิ่ง ๆ ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับ ก่อนจะยื่นมือไปปิดโคมไฟหัวเตียง แล้วล้มตัวลงนอน"พี่รักน้องดานะ ฝันดีนะครับ"เขาเอ่ยอีกครั้งพลางล้มตัวลงนอน ก่อนหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข เฉกเช่นเดียวกับดาริกาที่หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มวันต่อมาปกติศรัณย์จะตื่นก่อนใคร แต่วันนี้กลับกลายเป็นดาริกาที่ตื่นก่อน เธอยืนมองสอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status