คำขู่จากริมฝีปากหยักทำดาริกาคิดหนัก หลังจากได้เห็นชายหนุ่มใช้ขวดเหล้าพาดหัวลูกค้าคนนั้นก็ทำให้เธอมองเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เธอเชื่อว่าเขาจะทำตามที่ขู่แน่ ๆ หากเธอกล้าท้าทาย บอกตามตรงว่าเธอกลัวเพราะไม่รู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง
"ปล่อยน้องดานะ" ริมฝีปากอิ่มเปล่งเสียงทักท้วงออกมาเบาหวิว ในเมื่อตะโกนให้คนรอบข้างช่วยก็ไม่ได้จึงใช้กำปั้นทุบตีแผ่นหลังกว้างแทนระบายอารมณ์โกรธที่คุกรุ่นในกาย "ปล่อยสิ"
ทว่าทุบแผ่นหลังกว้างจนเรี่ยวแรงเริ่มหมดคนใจร้ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านสักนิด ยังอุ้มเธอเดินออกจากบาร์ด้วยท่าทางสบาย ๆ
เธอหยุดต่อต้านรู้แล้วว่าเปล่าประโยชน์มีแต่เสียแรงเปล่า ตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยทั้งรู้สึกมึนหัวมาก ๆ อยากจะนอนพักเต็มทนแล้ว
"หมดฤทธิ์แล้วสินะดาริกา" แววตาวาวโรจน์ตวัดมองร่างบางบนบ่าแวบหนึ่ง แล้วมองไปข้างหน้าต่อ แม่ตัวดีคงหมดฤทธิ์แล้วถึงได้นิ่งสงบไปแบบนี้
คิดว่าจะแน่สักแค่ไหน
เขาพาเธอมายังรถคันหรู ก่อนจะเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ แล้วโน้มตัวลงวางร่างบางบนเบาะ จัดการดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เสร็จสรรพ
จากนั้นก็ปิดประตูเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ
ดาริกาจึงใช้จังหวะนั้นปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางโซซัดโซเซจะล้มแล้ไม่ล้มแล้จนต้องรีบยกขึ้นจับขอบประตูรถไว้
สะบัดศรีษะแรง ๆ สองสามทีไล่อาการมึน พยายามรวบรวมสติที่เหลือเพียงน้อยนิดก้าวเท้าเดินหนี
"อ๊ะ!"
เดินได้แค่สองก้าวตัวก็ลอยขึ้นเหนือพื้นด้วยฝีมือของคนใจร้ายที่ตามมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาว สองมือเล็กยกขึ้นคล้องลำคอแกร่งอัตโนมัติกลัวว่าตัวเองจะร่วงลงพื้น
"อย่าคิดหนีให้เสียเวลาดาริกา เพราะยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้น" ศรันย์กดเสียงพูด แววตาวาวโรจน์จับจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่บัดนี้แดงซ่านด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างคาดโทษ
สิ้นเสียงคนใจร้ายดาริกาก็เริ่มแผลงฤทธิ์อีกครั้ง
"ไม่..น้องดาจะหนี หนีคนใจร้ายแบบพี่ศรันย์ไปให้ไกล ๆ น้องดาไม่รักพี่ศรันย์แล้ว" เปล่งเสียงสวนกลับอย่างถือดีพลางคลายมือข้างขวาออกจากลำคอแกร่งมาทุบอกกำยำด้วยความโกรธ
"ถ้าคิดว่าหนีพ้นก็ลองดู" แรงทุบตีจากกำปั้นเล็กไม่ได้ทำให้ศรันย์รู้สึกเจ็บสักนิด เอ่ยจบก็อุ้มร่างบางไปที่รถ
จับเธอยัดเข้าไปในรถฝั่งข้างคนขับอย่างไร้ความอ่อนโยนทำให้ศีรษะเล็กทุยชนกับขอบประตูดังปึก
"โอ้ย.." ดาริกาใบหน้าเหยเกหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บ ขณะเดียวกันก็นึกโกรธไม่น้อยตวัดสายตาที่แทบจะลืมไม่ขึ้นจ้องหน้าคนตัวโตเขม็ง "น้องดาเจ็บนะคนใจร้าย!"
"ฉันใจร้ายได้มากกว่านี้อีกดาริกา เพราะฉะนั้นอย่าดื้อ อย่าทำอะไรที่ฉันไม่ชอบ" ดวงตาวาวโรจน์จ้องใบหน้าจิ้มลิ้มเขม็ง
"ใจร้าย..ทำไมพี่ต้องใจร้ายกับน้องดาด้วย"
"หากจะโทษก็ต้องโทษแม่ของเธอกับตัวเธอเองที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้"
สิ้นเสียงเอ่ยศรันย์ก็ดันประตูปิดดังปังทำร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะก้าวฉับ ๆ ไปเปิดประตูขึ้นนั่งประจำตำแหน่งคนขับ
หันมองร่างบางที่อยู่ในอาการเมาแอ้พร้อมถอนหายใจออกมาด้วยความขัดใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้
จากนั้นก็เหยียบคันเร่งขับรถพุ่งออกจากลานจอดรถบาร์ด้วยความเร็ว
ดาริกาพยายามปรือตาขึ้นมองข้างทางเมื่อเห็นว่าไม่ใช่ทางกลับหอพักก็หันไปทักท้วงคนข้าง ๆ ด้วยใบหน้าหงิกงอ
"พี่ศรันย์จะพาน้องดาไปไหน น้องดาไม่ไปด้วยนะ น้องดาจะกลับห้องตัวเอง"
"..."
ศรัณย์เพียงตวัดหางตามองคนที่เอาแต่ทักท้วงเล็กน้อย แล้วสนใจถนนข้างหน้าต่อเขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้สุดกำลังไม่ให้ตัวเองเผลอทำอะไรก่อนจะถึงคอนโด
-คอนโดศรัณย์-
ดาริกาที่ผล็อยหลับไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ถูกศรัณย์อุ้มมาทุ้มลงบนเตียงอย่างไร้ความอ่อนโยนจนเธอรู้สึกตัว
"อึก!"
ใบหน้าหวานเหยเกพร้อมกับเปลือกตาที่ค่อย ๆ ปรือขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาฉ่ำวาวจับจ้องร่างสูงที่ยืนปลายเตียงด้วยความโกรธ
"เจ็บนะ!"
ศรัณย์ไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะรู้สึกอย่างไรกลับโน้มตัวไปฉีกทึ้งชุดเดรสสีดำแหวกกลางอกโชว์นมไปครึ่งเต้าความสั้นเสมอแก้มก้นที่เห็นแล้วยิ่งโมโหออกจากร่างบอบบางอย่างแรง
"อย่านะ อย่ามายุ่งกับชุดน้องดา" ดาริกาพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดกำลังแต่มีหรือจะต้านทานกำลังผู้ชายตัวโตกว่าได้
ชุดเดรสของเธอขาดติดมือหนาก่อนจะถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี เหลือเพียงแผ่นแปะจุกกับแพนตี้ตัวจิ๋วปกปิดจุดสงวน
จัดการกับเสื้อผ้าเสร็จก็โถมร่างกายลงมาคร่อมเธอเอาไว้ใต้อาณัติ การกระทำของเขาทำให้เธอแตกตื่นรีบยกมือขึ้นดันแผงอกกว้างเอาไว้
"พะ..พี่ศรัณย์จะทำอะไร ออกไปให้ห่างน้องดานะ"
"อย่ามาทำเป็นใสซื่อดาริกา ในบาร์เมื่อกี้เธอยังยั่วยวนผู้ชายอยู่เลย"
"..."
"อยากได้เงินจนยอมขายศักดิ์ศรี ยอมทำงานที่เปลืองตัว"
"ใช่..แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ศรัณย์ นี่มันร่างกายน้องดา น้องดาจะทำอะไรจะใช้ประโยชน์จากร่างกายยังไงมันก็เรื่องของน้องดา" ความเสียใจทำให้เธอพูดไปแบบนั้นซึ่งมันยิ่งเหมือนราดน้ำมันซ้ำบนกองไฟ
"งั้นก็จำให้ขึ้นใจว่าต่อจากนี้ไปร่างกายเธอเป็นของฉัน มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่ทำทุกอย่างได้และใช้ประโยชน์จากร่างกายเธอได้"
"เห็นแก่ตัว!" ตอนนี้น้องดาไม่เกี่ยวข้องกับบ้านพิทักษ์ธรานนท์แล้วพี่ศรัณย์ไม่มีสิทธิ์มายุ.."
ศรัณย์ไม่ต้องการให้คนใต้ร่างพล่ามอะไรที่ไม่เข้าหูออกมาอีกกระแทกจูบปิดปากเธอแนบแน่น แล้วบดขยี้จนกลีบปากอิ่มอ้าเผยอส่งเรียวลิ้นร้อนเข้าไปละเลงรัดรึงกับลิ้นนุ่ม
"อื้อ...อ่อยย"
ดาริกาหวีดร้องในลำคอทั้งพยายามดิ้นรนขัดขืน มือรัวทุบตีจิกทึ้งแผ่นหลังกว้างพัลวัน แต่มิวายถูกอีกคนจับไปกดตรึงกับที่นอนเหนือศีรษะ สองเท้าถีบยันไปมาจนผ้าปูยับยู่ยี้
ทำทุกวิถีทางก็ต้านทานคนด้านบนไม่ได้ ดิ้นรนจนเหนื่อยและอ่อนแรงก็ไร้ประโยชน์จึงหยุดนิ่งปล่อยให้หยดน้ำตาไหลออกมาระบายความรู้สึกเจ็บช้ำในอก
ชายหนุ่มทำราวกับเธอเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งคิดจะทำอะไรก็ได้ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาบอกว่าเธอมีค่าจนอยากทะนุถนอมให้ดีที่สุด
ทว่าอีกคนกลับไม่คิดแบบนั้นพิษความโกรธทำให้หูตาพร่าเบลอคิดว่าท่าทีที่เธอแสดงออกมาคือกำลังรังเกียจ หยุดการกระทำช้อนสายตาขึ้นกดเสียงเอ่ยอย่างดุดัน "มีอะไรกับฉันทำให้เธอเสียใจมากสินะ ทีกับผู้ชายคนอื่นหัวเราะต่อกระซิกระริกระรี่"
"จะให้น้องดาดีใจที่กำลังจะมีอะไรกับว่าที่สามีคนอื่นเหรอ พี่ศรัณย์กำลังจะหมั้นกับผู้หญิงคนอื่นแล้วมาทำแบบนี้ทำไม อยากให้น้องดาถูกตราหน้าว่าแย่งคู่หมั้นคนอื่นเหรอ"
"..."
"พี่ศรัณย์ใจร้าย น้องดาเกลียดพี่ศรัณย์"
"เธอไม่เกลียดฉันจริง ๆ หรอกดาริกา เธอเกลียดฉันไม่ลงหรอก" ศรัณย์สวนกลับอย่างมั่นใจ
ดาริกาได้แต่เม้มปากแน่นพลางเบือนหน้านี้ หยดน้ำสีใสรินไหลออกจากหางตาไม่ขาดสาย รู้สึกเจ็บช้ำในอกจนอธิบายออกมาไม่ถูก
คนใจร้ายพูดถูกต่อให้ปากจะบอกว่าเขามันเลวเขามันใจร้าย เธอเกลียดเขาแต่ส่วนลึกในจิตใจปฏิเสธไม่ได้ว่ายังรักเขามากเหลือเกิน
"ทำแบบนี้กับน้องดาทำไม จะใจร้ายกับน้องดาไปถึงไหน" หันกลับมาสบสายตาคนใจร้ายด้วยแววตาที่เจ็บปวดตัดพ้อออกไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว
ความรู้สึกที่ส่งผ่านดวงตาบวมปูดและแดงก่ำจากการร้องไห้คล้ายจะทำให้หัวใจแสนเย็นชาอ่อนยวบลง
ศรัณย์รับรู้ถึงความรู้สึกอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี คลายมือข้างนึงจากการพันนาการข้อมือเล็กมาลูบไล้พวงแก้มนวลเบา ๆ แววตาแข็งกร้าวดูจะอ่อนโยนลงจนดาริกานึกแปลกใจ
เขาอ่อนโยนทั้งสายตาและการกระทำเหมือนพี่ศรัณย์พี่ชายที่แสนดีในเมื่อก่อนเลย เธออยากจะหยุดเวลานี้เอาไว้
คล้ายสิ่งรอบตัวหยุดหมุนชั่วขณะ สองสายตามองสบประสานท่ามกลางความมืดสลัวและความเงียบ ก่อนริมฝีปากหยักจะค่อย ๆ โน้มลงประทับจูบบนเรียวปากอิ่มอย่างอ่อนโยนทำให้คนที่หัวใจโอนอ่อนอยู่แล้วตอบสนองโดยไม่ขัดขืน
จูบตอบอย่างดูดดื่ม แต่เพียงเสี้ยวนาทีที่จิตใต้สำนึกตระหนักขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังทำผิดต่อผู้หญิงอีกคนก็พยายามหักห้ามใจส่ายหน้าหนีริมฝีปากร้อน ออกแรงต่อต้านอีกครั้งจนอีกคนหยุดเงยขึ้นมองหน้าเธอด้วยแววตาไม่สบอารมณ์
"เราไม่ควรทำแบบนี้ หยุดเถอะนะพี่ศรัณย์ปล่อยน้องดาไปตามทางของน้องดาเถอะนะคะ"
เธอส่งสายตาพลางเอ่ยเว้าวอนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดหวังว่ามันจะช่วยเปลี่ยนความคิดเขาได้บ้าง เธอไม่อยากถลำลึกไปกว่านี้
"ถือว่าน้องดาขอร้องนะคะ"
หนึ่งปีต่อมา"แม่กับพ่อรออุ้มหลานคนที่สองอยู่นะเมื่อไรจะมาสักทีฮึ หรือแอบคุมกำเนิดกันลูกถึงยังไม่มา" "แค่ก ๆ"คำถามจากแม่ยายทำเอาศรัณย์ที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มหลังจากทานข้าวเสร็จถึงกับสำลักจนคนเป็นภรรยาอย่างดาริกาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องยื่นมือไปลูบหลังให้ "เป็นอะไรรึเปล่าคะ"เขาส่ายหน้าให้ภรรยาสาวแทนคำตอบเหมือนกับว่าไม่เป็นอะไรทั้งที่ลึก ๆ แอบกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดว่าเขาอาจจะมีปัญหาอะไรบางอย่างเพราะผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แต่ภรรยาสาวยังไม่ท้องสักทีทั้งที่เขาก็ทำการบ้านแทบจะทุกวันเพื่อนบางคนเริ่มแซวว่าเขาไร้น้ำยาเพราะเคยโอ้อวดเอาไว้ในงานแต่งว่าเพื่อน ๆ รออุ้มหลานได้เลย ทว่าผ่านมาหนึ่งปียังไร้แวว คำแซวเล่นจากเพื่อนกับแรงกดดันจากพ่อตาแม่ยายทำเขากลัดกลุ้มไม่น้อยจนถึงขั้นต้องแอบนัดตรวจร่างกายเงียบ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน และได้ผลตรวจมาแล้วแต่เขายังไม่กล้าเปิด"ไม่ได้คุมอะไรเลยครับ แต่น้องคงยังไม่อยากมาเกิดเลยยังไม่ท้อง" เขาแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียงตอบพ่อตาแม่ยายไปครั้นหายจากอาการสำลัก"ใช่ค่ะ" ดาริกาเอ่ยสมทบ เธอรู้จักกับคนเป็นสามีมาเนิ่นนานมีหรือจะอ่านใจ และเดาความคิดไม่ออกว่าเขากำล
งานแต่งจบลงในช่วงค่ำแขกเหรื่อเริ่มทยอยกันกลับจนหมดรวมถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่าย และบุตรสาวที่ถูกคุณยายพากลับไปด้วยเพราะรู้ว่าคืนนี้บ่าวสาวต้องเข้าหอกันภายในงานจึงเหลือเพียงเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายที่ยังอยู่ฉลองกันต่อจนเวลาล่วงเลยถึงสามทุ่ม"เข้าหอได้แล้วไอ้รัณย์ เผื่อได้น้องให้น้องริสาสักคน" "ใช่ ๆ น้องริสาจะได้ไม่เหงา"เสียงพ้องเพื่อนของศรัณย์เอ่ยขึ้นทำดาริกาหน้าแดงระเรื่อ หันมองสามีป้ายแดงที่นั่งโอบเอวเธออยู่ด้วยความเขินอายศรัณย์มองสบดวงตากลมอย่างกรุ่มกริ่ม ก่อนจะหันไปยืดอกตอบเพื่อน ๆ "พวกมึงรอเลี้ยงหลานคนที่สองได้เลย""ฮิ้ววว..."สิ้นคำพูดของเขาทุกคนก็พากันโห่ร้องออกมา บ้างก็พูดแซวขำ ๆ ยิ่งทำให้ดาริกาเขอะเขินจนตัวแทบลอยใช้มือตีแขนคุณสามีขี้อวดไปหนึ่งที"คนบ้า.."แทนที่ศรัณย์จะเจ็บกลับกลั้วหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนบอกกล่าวกับเพื่อน ๆ "เชิญตามสบายนะ กูกับเมียขอตัวก่อน"เอ่ยจบก็ช้อนร่างบอบบางขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาว"ว้าย!"คนถูกอุ้มหลุดอุทานออกมา สองมือรีบตวัดคล้องลำคอแกร่งด้วยความตกใจ ขณะที่อีกคนมองหน้าแตกตื่นของเธอแล้วหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูพลางก้าวเท้าเดินออก
หลังจากขอแต่งงานเสร็จหนึ่งอาทิตย์ต่อมางานแต่งของทั้งสองก็จัดขึ้นทันทีเสียงดนตรีคลาสสิกแผ่วเบาดังคลอไปกับเสียงคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง บนสนามหญ้าสีเขียวริมชายหาดสีขาวนวลถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานแต่งงานในฝันของดาริกาผืนผ้าขาวพริ้วไหวตามแรงลม ผูกเป็นซุ้มโค้งเรียบง่ายแต่สง่างามประดับด้วยดอกไม้โทนสีพีช ครีม และชมพูอ่อน บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกไม้นานาชนิดเคล้าด้วยกลิ่นอายจากทะเล แขกจำนวนไม่น้อยเริ่มทยอยกันมานั่งบนเก้าอี้ไม้ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบท่ามกลางท้องฟ้าอันสดใสและแสงแดดนวลยามเย็นเสียงดนตรีคลาสสิกเงียบลงมีเสียงเปียโนบรรเลงเพลงรักสุดโรแมนติกขึ้นมาแทนเมื่อเจ้าสาวปรากฏกายขึ้นดาริกาในชุดเจ้าสาวลูกไม้สีขาวเปิดไหล่แขนยาวสไตล์ลักชูรี่เรียบหรูพอดีตัวโชว์ให้เห็นสวนโค้งเว้ากระโปรงยาวลากพื้นทรงผมมวยแบบแสกกลางปัดหน้าม้าไปด้านข้างเล็กน้อยแล้วเติมความหวานด้วยการใส่เทียร่า และเวลาสีขาวยาวลากพื้นใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางจากช่างแต่งหน้าฝีมือดีสวยจนทุกสายตาจับจ้องเดินจูงลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงกระโปรงฟูฟ่องไปตามทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเวลสีขาวบริสุทธิ์ปลิวไหวตามสายลม ด
วันต่อมาเขาก็ไปหาพ่อแม่ของหญิงสาวตามที่ได้พูดไว้ทันที มาถึงบ้านเกียรติกมลก็เห็นหญิงสาวยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว จากที่ใบหน้าเคร่งขรึมด้วยความกังวลพอเห็นหน้าเธอพอทำให้เขายิ้มออกมาได้บ้างรีบเปิดประตูลงจากรถเดินไปหาเธอ "คิดถึงจังเลยครับ""เพิ่งแยกกันเมื่อวานเอง มาคิดถึงอะไรกันคะ" ดาริกาแอบเบาะปากกับความเวอร์วังของชายหนุ่ม ทว่าในใจเธอก็คิดถึงเขาไม่ต่างกันเพราะจู่ ๆ ก็ต้องแยกกันทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันแทบทุกเวลา"พี่พูดจริงนะครับ" เขาทำหน้าอ้อน แต่สายตากวาดมองไปทั่วเหมือนหาอะไรเธอจึงถามไถ่ "มองหาอะไรคะ""ลูกไปไหนครับ""ออกไปเที่ยวกับพี่กิจค่ะ""อ๋อ""เข้าบ้านกันเถอะค่ะ" เธอรีบชวนเขาเข้าบ้านเพราะพ่อกับแม่รออยู่ เมื่อเขาพยักหน้าจึงเดินนำเข้าไปในบ้านศรัณย์อดประหม่าไม่ได้เมื่อเผชิญหน้ากับว่าที่พ่อตาแม่ยายที่นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่บนโซฟาในห้องโถง หญิงสาวเหมือนจะรู้จึงแอบจับมือเขาแล้วบีบเบา ๆ เชิงให้กำลังใจ ก่อนจะคลายออก แล้วแนะนำเขากับพ่อแม่"พ่อคะ แม่คะนี่คุณศรัณย์ค่ะ""สวัสดีครับ" สิ้นเสียงแนะนำเขาก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยท่าทางนอบน้อม"จ้ะ" แม่ของเธอยิ้มใหญ่เขา ต่างจากคนเป็นพ่อที่จ้องร
วันต่อมา-บ้านพิทักษ์ธรานนท์-ศรัณย์กลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์เหงาหงอยเพราะต้องแยกจากลูกเมีย หากไม่คิดว่ามันดูน่าเกลียดเกินไปเขาอยากจะไปคุยกับพ่อแม่ของดาริกาตั้งแต่กลับมาถึงกรุงเทพแล้วเขาอยากจะแต่งงานกับเธอวันนี้เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำเพราะไม่อยากจะแยกกับทั้งสองแม้นาทีเดียว"ลูกหายไปไหนมาตั้งสองเดือนศรัณย์ รู้ไหมพ่อเป็นห่วงมาก" ทันทีที่เขาโผล่หน้าเข้าบ้านผู้เป็นพ่อก็พุ่งเข้ามาถามไถ่ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเขาเหมือนจะคลายความโกรธจากท่านได้บ้างแล้ว แต่พอหันไปเห็นหน้าเกสรที่นั่งบนโซฟาในห้องโถงก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา"ไปง้อลูกกับเมียมา" เปล่งน้ำเสียงห้วนกระด้างตอบท่าน"ลูกเมีย?" เกรียงศักดิ์คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน งงเป็นไก่ตาแตกกับคำตอบ บุตรชายไปมีลูกมีเมียตอนไหนกันก็เห็นจะเป็นจะตายกับการสูญเสียดาริกาอยู่ทุกวัน"พ่อคงยังไม่รู้ว่าน้องดายังไม่ตาย และยังกลับมาพร้อมลูกของผมด้วย" ศรัณย์จึงบอกให้ท่านหายสงสัย"ห๊ะ!"เกรียงศักดิ์หายสงสัย แต่กลายเป็นตกใจ และงุนงงแทน ไม่ต่างจากเกสรที่ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ"แต่วันนั้นทุกคนก็เห็นกับตาว่าหนูดาตายไปแล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่หนูดายังมีชีวิตอยู่" "เ
ตกค่ำถึงเวลาพาลูกเข้านอนศรัณย์ก็พาลูกเข้านอนปกติ พอลูกหลับก็ลุกเดินออกไปไม่คิดแหกกฏแม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ของลูกจะดีขึ้นมากแล้ว"เดี๋ยวก่อน"ทว่าเดินยังไม่พ้นประตูก็ถูกเรียกไว้ เขาหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองร่างบางที่นั่งพิงหัวเตียงด้วยความสงสัย"น้องดามีอะไรรึเปล่าครับ""มานอนกับลูกสิ จะไปไหน" สิ้นคำบอกกล่าวของเธอใบหน้าคมเข้มก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเชื่อหูตัวเองเท่าไรจึงถามย้ำให้แน่ใจว่าไม่ได้หูฝาดไป"น้องดาอนุญาตให้พี่นอนกับลูกเหรอครับ" "หรือจะไม่นอนคะ""นอนครับนอน" พอเธอตอบมาแบบนั้นก็รีบเดินกลับไปขึ้นเตียงทันที เขารอเวลานี้มาตั้งนานจะปล่อยให้หลุดลอยไปได้อย่างไร"ขอบคุณนะครับที่ยอมให้พี่นอนกับลูก" เขามองสบดวงตากลมด้วยความรู้สึกขอบคุณ เธอสบตาเขานิ่ง ๆ ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับ ก่อนจะยื่นมือไปปิดโคมไฟหัวเตียง แล้วล้มตัวลงนอน"พี่รักน้องดานะ ฝันดีนะครับ"เขาเอ่ยอีกครั้งพลางล้มตัวลงนอน ก่อนหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข เฉกเช่นเดียวกับดาริกาที่หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มวันต่อมาปกติศรัณย์จะตื่นก่อนใคร แต่วันนี้กลับกลายเป็นดาริกาที่ตื่นก่อน เธอยืนมองสอ