มัสยาตาโต “อีกสิบกว่าห้องเหรอ!?”
ริสาพยักหน้าอย่างขำๆ
“ค่ะ รีบไปกันเถอะค่ะ ก่อนที่หัวหน้าจะมาตรวจงาน”
มัสยาถอนหายใจยาว แต่ก็พยายามฮึดสู้
“โอเค ไปกันเถอะ”
ทั้งสองเดินออกจากห้องพักแขกที่ทำเสร็จเรียบร้อยไป เพื่อไปทำความสะอาดห้องพักที่เหลืออีกสิบกว่าห้องต่อไป
ภายในห้องทำงานของปริญญ์
พนักงานวัยกลางคนยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขาอย่างสงบเรียบร้อย ปริญญ์เหลือบมองขึ้นจากเอกสารตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เธอเป็นยังไงบ้างครับ”
เขาคิดว่ามัสยาคงจะบ่น หรือไม่ก็ต้องสร้างปัญหาแน่ๆ เมื่อเขาให้งานแม่บ้านเป็นงานแรกของหล่อน
“เธอทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ”
ปริญญ์เลิกคิ้วขึ้น
“ทำได้ทุกอย่าง?”
“ใช่ค่ะ แม้จะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ แต่เธอก็พยายามซ้ำหลายครั้ง จนทำดีขึ้นมากค่ะ”
เขาพิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะถามอีกครั้ง
“เธอไม่บ่น ไม่งอแงเลยเหรอครับ”
“ไม่เห็นมีบ่นอะไรเลยนะคะ เห็นหัวเราะกับ
ริสาสนุกเลยล่ะค่ะ”ปริญญ์หรี่ตาลง แววตาครุ่นคิด
“ไม่น่าเชื่อ”
“ดิฉันไม่กล้าโกหกคุณปริญญ์หรอกค่ะ”
“ผมไม่ได้ว่าคุณจันทร์โกหก ผมแค่ไม่อยากเชื่อว่า คุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่ออย่างมัสยา จะทำงานบ้านได้”
“บางทีคุณปริญญ์อาจจะมองเธอผิดไปก็ได้นะคะ”
“ผมไม่เคยมองอะไรพลาด และก็ไม่ใช่กับ
มัสยาด้วย”น้ำเสียงของปริญญ์หนักแน่นแฝงไปด้วยความมั่นใจในความคิดของตัวเอง
“เอ่อ... ค่ะ...”
ความมั่นใจในคำพูดของปริญญ์ทำให้คุณจันทราพนักงานระดับผู้จัดการถึงกับไม่กล้าขัด
“คุณจันทร์ไปทำงานเถอะครับ ผมไม่มีอะไรรบกวนแล้ว”
“ค่ะ คุณปริญญ์”
คุณจันทราโค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ
เมื่อเสียงประตูปิดลง ปริญญ์ก็ถอนใจเบาๆ ดวงตาคมจับจ้องไปยังหน้าต่างบานใหญ่ แววตายังคงเหลือเชื่อ ก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง
“คุณทำได้จริงๆ เหรอ”
เขาอุตส่าห์มอบหมายงานหนักที่คิดว่าหล่อนจะต้องวิ่งแจ๋นร้องไห้โฮกลับไปหาพ่อของตัวเอง แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาดเอาไว้เลย
เขาหัวเราะเยาะเบาๆ กับตัวเอง พลางเอนหลังพิงเก้าอี้
ความคิดยังคงวนเวียนอยู่กับภาพของหญิงสาวที่เขาเคยตราหน้าว่าเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่เขามองข้ามไป
‘หรือว่าผมจะตัดสินคุณเร็วเกินไป’
เขาส่ายศีรษะ ดวงตาฉายแววครุ่นคิดหนักขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่ปลายนิ้วจะแตะลงบนโต๊ะอย่างไร้จุดหมาย สายตาจับจ้องไปยังวิวเมืองด้านนอก แต่จิตใจกลับไม่ได้อยู่ที่นั่น
ภาพของมัสยาในชุดพนักงานโรงแรม เส้นผมที่อาจจะหลุดลุ่ยเพราะงานที่หนัก เหงื่อที่อาจจะไหลซึมตามกรอบหน้า แต่รอยยิ้มของหล่อนกลับไม่ได้จางหายไปตามที่เขาคิดว่าจะเป็นเลย
มันเป็นภาพที่ติดอยู่ในหัวของเขาจนน่าหงุดหงิด
ปริญญ์ยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้ว พลางพ่นลมหายใจยาวอย่างหงุดหงิด
มัสยาทิ้งตัวลงนั่งข้างริสาบนเก้าอี้ในห้องพักพนักงาน ถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยล้า
“ในที่สุดก็ได้พักสักที”
หล่อนพึมพำ พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“เหนื่อยหน่อยนะคะ”
ริสายิ้มบางๆ มองมัสยาด้วยแววตาเห็นใจ
“แต่คุณทำได้ดีมากเลยนะ”
มัสยากำลังจะตอบ แต่ยังไม่ทันได้ขยับปาก เสียงเข้มของหัวหน้าแม่บ้านก็ดังขึ้น ขัดจังหวะความสงบของเธอทันที
“มัสยา! ลุกขึ้นได้แล้ว มีงานต้องทำต่อ”
หัวหน้าส่ายหน้า สีหน้าไร้ความปรานี
“ยังมีเหลืออีกสามห้อง แขกเพิ่งเช็คเอาท์กะทันหัน”
มัสยาถอนหายใจออกมาอีกครั้งอย่างอ่อนล้า อดไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้ แต่หล่อนรู้ดีว่าการปฏิเสธไม่ใช่ทางเลือกที่มีอยู่
มัสยาฝืนลุกขึ้น
“ก็ได้ค่ะ”
หล่อนพึมพำ พร้อมจะเดินออกไปพร้อมริสา
แต่ยังไม่ทันที่หล่อนจะก้าวออกจากห้อง หัวหน้ากลับเรียกริสาเอาไว้
“ริสา เธออยู่ที่นี่ มีงานอื่นต้องทำ”
มัสยาหันขวับไปมองหัวหน้า
“อะไรกันคะ ฉันจะไปคนเดียวได้ยังไง?”
หัวหน้ามองหล่อนด้วยสายตาเย็นชา
“แล้วทำไมจะไปไม่ได้ กลัวผีเหรอ”
มัสยากำมือแน่น ความไม่พอใจแล่นขึ้นมา แต่หล่อนรู้ดีว่าหากแสดงท่าทีต่อต้านมากกว่านี้ มันอาจทำให้หล่อนถูกตำหนิ หรือแย่กว่านั้น หนี้สินของบิดาอาจถูกเพิ่มขึ้นไปอีก
‘อดทน ท่องเอาไว้’
มัสยาบอกตัวเองในใจ ก่อนจะบังคับตัวเองให้ตอบด้วยเสียงเรียบ
“ค่ะ”
หัวหน้ายิ้มบางๆ อย่างพอใจที่เห็นหล่อนไม่โต้แย้งอีก
“ทำให้สะอาด อย่าให้แขกที่จะเข้าพักต่อไปมาคอมเพลนได้ล่ะ”
มัสยาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามสะกดอารมณ์ ก่อนจะพยักหน้า
“รับทราบค่ะ”
มัสยาหมุนตัวเดินออกจากห้องพักพนักงาน ความรู้สึกในตอนนี้หนักอึ้งราวกับถูกบังคับให้แบกน้ำหนักของโลกทั้งใบไว้บนบ่า
ทุกก้าวที่ก้าวเดินไปเต็มไปด้วยความกดดัน หล่อนไม่เคยทำงานหนักเช่นนี้มาก่อน แต่กระนั้นก็ไม่มีทางเลือก
และจากระยะไกล ปริญญ์ยืนพิงผนังอยู่ตรงมุมหนึ่งของโถงทางเดิน มือยกขึ้นกอดอก ดวงตาคมกริบจับจ้องแผ่นหลังเล็กๆ ที่เดินหายไปจากสายตา
หล่อนไม่ได้โต้แย้ง ไม่ได้อ้อนวอน และไม่ได้งอแงอย่างที่เขาคิดว่าจะเป็น
ริมฝีปากของปริญญ์บิดเป็นรอยยิ้มเย็นชา ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ
“ผมก็อยากรู้ว่าคุณจะอดทนได้แค่ไหนกัน
มัสยา”เขายังคงเฝ้าดูหล่อนเงียบๆ ราวกับกำลังรอคอยว่าหญิงสาวจะยอมแพ้เมื่อไหร่
ตอนที่ 27. ตอนอวสานเขายิ้ม “ใช่ครับ”หล่อนมองเขาตาปรอย “แต่ฉันเหนื่อยแล้วนะคะ”“อีกครั้งนะทูนหัว...”เขาเอ่ยอย่างอ้อนวอน ริมฝีปากร้อนกดจูบแผ่วเบาตามแนวไหล่ของหล่อน“ผมสัญญาว่าจบครั้งนี้แล้วผมจะหยุด...”แต่สุดท้าย... มันก็ไม่ได้จบแค่ครั้งเดียว เพราะปริญญ์ทำหล่อนทั้งคืน แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างบ้านไม้หลังใหญ่ของมัสยา เติมเต็มบรรยากาศให้สงบและอบอุ่น เสียงนกร้องแว่วจากสวนหลังบ้าน ยิ่งขับให้ช่วงเวลานี้ดูมีความหมายมากขึ้นมัสยานั่งเคียงข้างปริญญ์ในห้องรับแขก หัวใจเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ ขณะที่พ่อกับแม่ของหล่อนนั่งอยู่ตรงข้าม มองชายหนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นลูกเขยของพวกเขาด้วยความประหม่าเล็กน้อยเพราะปริญญ์ไม่ได้เป็นเพียงว่าที่ลูกเขยเท่านั้น... แต่ยังเคยเป็นเจ้าหนี้ของครอบครัวนี้ด้วยคุณไพบูลย์ สูดหายใจเข้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง“คุณปริญญ์แน่ใจหรือครับ”ปริญญ์สบตาชายสูงวัยตรงหน้า ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ผมแน่ใจ และมั่นใจมากครับว่าจะแต่งงานกับมัสยา”เขาหันไปมองหญิงสาวข้างกาย ก่อนจะยื่นมือไปกอบกุมมือของหล่อนแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน“
ตอนที่ 26.“มัสยา...” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าหล่อนไม่ตอบ แต่จ้องเข้าไปในดวงตาเข้มที่สะท้อนภาพของหล่อนอยู่ในนั้น ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนอกกว้าง ลากไล้เบาๆ ผ่านเนื้อผ้าบางที่แนบไปกับกล้ามเนื้อของเขา“ผมกำลังทำอาหารให้คุณอยู่นะ...”ปริญญ์พยายามเตือนสติ แต่เสียงของเขากลับสั่นไหว“มีอย่างอื่นที่ฉันอยากกินมากกว่าอาหารค่ะ”หล่อนกระซิบข้างหูเขา ก่อนจะเขย่งปลายเท้า แล้วแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเขาอย่างจงใจเชิญชวนความอดทนอดกลั้นของปริญญ์แตกระเบิด ทุกอย่างพังทลายลงภายในเสี้ยววินาทีเขากระชากหล่อนเข้ามาแนบชิด แขนแข็งแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แน่น จูบตอบกลับอย่างลึกซึ้งและเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนแทรกซึมเข้าไปในโพรงปากของหล่อน รุกเร้า ดูดดื่ม ราวกับต้องการลงโทษที่หล่อนเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสียงครางแผ่วหลุดออกจากลำคอของมัสยา มือของหล่อนเลื่อนไปเกาะเกี่ยวที่ต้นคอเขาแน่น ขณะที่ร่างกายแนบชิดกันจนไม่เหลือช่องว่างปริญญ์ถอนจูบออกเล็กน้อย มองหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยสายตาหลงใหลเต็มเปี่ยม“คุณกำลังเล่นกับไฟนะ มัสยา” เขากระซิบเสียงพร่ามัสยาหายใจหอบ ริมฝีปากบวมเจ่อจากจูบเมื่อครู่ ก่อนจะยิ้มมุมปาก“แล้วคุณจะดับมันไหมล่ะ”ปริญญ์คำรา
ตอนที่ 25. หลายวันต่อมา... มัสยาก้มหน้าก้มตาจัดเรียงชุดเครื่องดื่มต้อนรับแขกในล็อบบี้โรงแรม หวังจะทำตัวให้กลมกลืนไปกับพนักงานคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนความพยายามนั้นจะไร้ผลโดยสิ้นเชิงเพราะปริญญ์... ท่านประธานของโรงแรม กำลังเดินตามหล่อนแจ คอยอยู่ใกล้ไม่ห่าง ราวกับเงาตามติดตัว!“มัสยา คุณกินข้าวหรือยัง” เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังหล่อนสะดุ้งเฮือก หันมามองเขาตาโต“คุณมาทำอะไรตรงนี้คะ?”“ก็มาอยู่กับคุณไง”เขาตอบหน้าตาย พร้อมกับส่งรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยมาให้มัสยากวาดตามองรอบๆ พนักงานหลายคนเริ่มเหลือบมามอง กระซิบกระซาบกันเบาๆ ด้วยความสงสัยและแปลกใจสุดขีดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ท่านประธานเดินตามพนักงานแม่บ้าน? แถมยังทำหน้าราวกับลูกหมาที่อ้อนเจ้าของอีก!มัสยาสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามขยับตัวห่างจากเขา“คุณปริญญ์ กรุณาอย่าทำแบบนี้ค่ะ ฉันทำงานอยู่”“ผมรู้” เขาพยักหน้า “แต่คุณก็ต้องพักบ้าง ไปกินข้าวกับผมนะ”มัสยาถอนหายใจอย่างอ่อนใจ“ฉันยังทำงานไม่เสร็จค่ะ”ปริญญ์ไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของหล่อนเลยสักนิด ตรงกันข้าม เขากลับยื่นมือไปหยิบผ้าปัดฝุ่นจากมือของหล่อนแล้วถือเอาไว้เอง“ถ้าคุณจะ
ตอนที่ 24.หล่อนแตกระเบิดคาลิ้นของเขา ในขณะที่ร่องสาวก็มีนิ้วยาวถึงสองนิ้วกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในหล่อนเสียวเหลือเกิน...เสียวจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย...หลังจากหล่อนหลั่งรินเสร็จแล้ว เขาก็ขยับตัวออกห่าง และจัดการสลัดเสื้อผ้าออกไปมัสยาเขินอาย แต่ก็ไม่สามารถละสายตาจากเรือนร่างเปลือยสมบูรณ์แบบของเขาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว“คุณ... รูปร่างดีจังค่ะ...”“เพื่อคุณ...”คำพูดของเขาทั้งกระเส่าและหวานมาก พร้อมกับการก้าวกลับขึ้นมาบนเตียงอีกครั้งเมื่อเขาแนบชิดลงมาหา ไออุ่นจากร่างกายของเขาก็ทำให้หล่อนสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง ความเป็นชายของเขาดุนดันอยู่ที่ร่องสาวอย่างดุดัน“ผม... ทนไม่ไหวแล้ว มัสยา...”หล่อนยิ้มหวานให้เขา ยื่นปากไปจูบเขาเบาๆ อย่างเอาใจเขายิ้มตอบ ดวงตาปรือหวาน ก่อนจะสอดใส่เข้ามาอย่างดุดัน ครั้งเดียวมิดด้ามหล่อนห่อปากอุทานเสียว ความคับแน่นที่เกิดจากความใหญ่โตของเขาทำให้หล่อนเสียวสะท้านไปทั้งตัว“โอ้ววว ผมชอบอยู่ในตัวคุณ มัสยา...”เขากับหล่อนจ้องตากัน มองหน้ากัน ในขณะที่อวัยวะส่วนนั้นเชื่อมติดกันอยู่เขายิ้มหื่นกระหายให้หล่อน ก่อนจะกระแทกปากลงมาหาแรงๆ จูบอย่างเร่าร้อน แลกลิ้นกั
ตอนที่ 23.ความร้อนระอุจากตัวเขาแผ่ซ่านผ่านผิวกายของหล่อน ความคิดทั้งหมดถูกพายุแห่งแรงปรารถนาพัดพาไปจนหมดสิ้นเขาลูบไล้แผ่นหลังของหล่อนอย่างแผ่วเบา แต่กลับทิ้งร่องรอยความเร่าร้อนไว้ทุกจุดที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัส ริมฝีปากของเขากดแนบลงมาอีกครั้ง คราวนี้ช้าลง ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น“ให้ผม... เอาคุณเถอะนะ...”มัสยาหลับตาอย่างยอมศิโรราบ ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในความต้องการของเขา และจูบตอบอย่างลืมตัวเขายังคงจูบหล่อนอย่างลึกซึ้ง ไม่เปิดโอกาสให้ได้หายใจ แขนแข็งแกร่งโอบรัดร่างบางของหล่อนแน่นราวกับกลัวว่าหล่อนจะหลุดลอยไป ริมฝีปากของเขาบดเบียดอย่างเร่งเร้า ดุดันและเอาแต่ใจในแบบที่หล่อนไม่เคยเผชิญมาก่อนมัสยาเริ่มหายใจไม่ทัน ริมฝีปากสาวบวมช้ำจากจูบที่ยาวนานและร้อนแรง แต่ถึงอย่างนั้น หล่อนก็ยังไม่มีแรงจะต่อต้านเขา ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะผลักเขาออกไปความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของหล่อน เผาผลาญทุกความลังเลที่ยังเหลืออยู่ให้มอดไหม้เขาค่อยๆ ดันหล่อนให้ถอยหลัง ทุกสัมผัสแนบเนียนราวกับต้องการให้หล่อนจมดิ่งไปกับเขาโดยไม่มีทางหวนกลับเท้าของหล่อนก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
ตอนที่ 22. เสียงเคาะประตูดังกังวานขึ้นในความเงียบของค่ำคืน มัสยาขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินไปเปิดอย่างระแวดระวัง แต่ทันทีที่บานประตูแง้มออก ร่างสูงของปริญญ์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ดวงตาคมกริบสะท้อนประกายบางอย่างที่ทำให้หัวใจของหล่อนกระตุกวูบ“คุณ... ปริญญ์...”มัสยาอุทานเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความตกใจ และยังไม่ทันได้ถอยหนี ปริญญ์ก็ใช้ร่างหนาของเขาดันประตูให้เปิดกว้าง ก่อนจะก้าวเข้ามาภายในห้องโดยไม่รอให้หล่อนอนุญาต“คุณปริญญ์! คุณจะทำอะไรคะ!”เขาไม่ตอบ เพียงแค่รวบร่างของหล่อนเข้าสู่อ้อมแขน แขนแข็งแกร่งโอบรัดร่างบางแน่นราวกับกลัวว่าจะหายไปดวงตาคมของเขาเต็มไปด้วยความอัดอั้น ความคิดถึง และความโหยหาที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ริมฝีปากของเขากดลงบนริมฝีปากของหล่อนอย่างกระหายจัด ลึกซึ้งและเรียกร้อง ราวกับต้องการหลอมรวมหล่อนให้เป็นส่วนหนึ่งเดียวกับเขามัสยาดิ้นรน แต่สัมผัสร้อนแรงของเขากลับทำให้หล่อนอ่อนแรงลงทุกขณะ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอกปริญญ์สัมผัสหล่อนราวกับคนที่อดอยากมานาน และตอนนี้กำลังปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา“ผมคิดถึงคุณ...”เสียงแหบพร่าของเขากระซิบข้างหู ก่อนที่เขาจะพยายามกดร่างหล่อน