เวลาต่อมา ~~
“ไม่มาก็ดี! “มีนาลุกขึ้นยืนพลางบ่นอย่างหงุดหงิดและรู้สึกโล่งอกในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะนั่งรอหรือยืนรอ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่โผล่หัวมาเสียที จนนักเรียนละแวกหน้าโรงเรียนแทบไม่หลงเหลือ
เอี๊ยดดดดด !!!
เสียงล้อรถขูดกับพื้นถนนดังสนั่นก่อนจะจอดเทียบท่าข้างกับฟุตบาททางเดิน บ่งบอกว่าคนขับต้องเหยียบเบรกกะทันหัน ทำให้หญิงสาวสะดุ้งตกใจจนหัวใจดวงน้อยหล่นไปถึงตาตุ่ม มือเรียวเล็กยกขึ้นมาทาบอกอย่างขวัญแขวน สองตากลมโตพยายามเพ่งเล็งมองผ่านกระจกสีดำเข้าไปว่าเขาคือใคร
“ขึ้นมา “คนในข้างเปิดกระจกหน้าต่างออกคำสั่งกับหญิงสาวเสียงดุ โดยไม่หันหน้าออกมามอง
“..” มีนาขมวดคิ้วระแวงชายแปลกหน้าในรถ หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเร็วด้วยความหวาดกลัว เขาแต่งตัวโทนสีดำรวมถึงแว่นราคาแพงบนใบหน้าหล่อ ท่าทางน่ากลัวไม่น่าไว้ใจ สองเท้าเล็กจึงรีบเดินหนี
“ใจเย็น ๆ มีนา “หญิงสาวบอกกับตัวเอง มือเรียวเล็กลนลานล้วงเอาโทรศัพท์เครื่องหรูออกจากกระเป๋ากระโปรง ทว่า…
พรึบ !
“อ๊ะ! อะ..เอาคืนมานะ “โทรศัพท์เครื่องหรูของเธอกลับถูกมือใหญ่ดึงแย่งจากมือไปกะทันหันอย่างเสียมารยาท ริมฝีปากบางขยับเปล่งเสียงทวงคืนด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทาซึ่งเกิดจากความกลัว
“ไม่เจอกันปีเดียวมึงถึงขั้นลืมผู้ชายคนแรกของมึงเลยเหรอวะ”
“…” ประโยคร้ายกาจของชายร่างสูง ทำเอาหญิงสาวชะงักสีหน้าไปทันทีสองเท้าเล็กพลันก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ สายตาคู่งามเพ่งเล็งพินิจพิจารณาใบหน้าหล่อภายใต้แว่นดำให้แน่ใจ ครั้นน้ำเสียงและท่าทางก้าวร้าวของผู้ชายตรงหน้าคล้ายคลึงกับ…..
“คะ..คุณ “สองเท้าเล็กหยุดชะงักทันทีหลังจากสมองประมวลผลสำเร็จ หัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับจะทะลุออกมานอกอก
“ไปขึ้นรถ”
“คนเลว! “มีนาพลั้งปากด่าอย่างลืมตัว มือเรียวเล็กกำหมัดแน่นจ้องมองคนตรงหน้าตาเขียว เมื่อความทรงจำอันเลวร้ายปีก่อนประดังประเดเข้ามาในสมอง
“เลิกปัญญาอ่อน”
พรึบ !
“โอ๊ย! “หญิงสาวเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บ ถูกมือหนากระชากข้อมือให้เดินไปตามอย่างแรง โดยไม่รอให้เธอได้ตั้งตัว หนำซ้ำขาเธอยังสั้นกว่าเขาจนเธอเองเกือบสะดุดล้มหน้าคะมำ
“หนูเจ็บนะ! “มือเรียวพยายามแกะมือหนาออกแต่ก็ไม่เป็นผล ทว่าเขากลับบีบแน่นขึ้นราวกับต้องการให้กระดูกบอบบางแตกละเอียด
พลั่ก !
“ว้าย! อึก! “ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อทั้งร่างหมุนติ้วลำตัวกระแทกกับตัวรถในพริบตาเดียว ทั้งเจ็บร้าวและจุกในคราเดียวกันคล้ายพลัดตกจากที่สูงก็ไม่ปาน
“สำออย..ขึ้นรถซะ!”
“ก็เจ็บนิ ลองโดนผลักดูไหมล่ะ “มีนาตอกกลับด้วยความโมโห
“แค่นี้ยังน้อยไป เธอยังต้องเจออีกเยอะเตรียมตัวไว้ให้ดี ๆ ก็แล้วกัน “สองเท้าหนักหมุนตัวเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับทันทีที่จบประโยค โดยไม่รอฟังคำตอบโต้ของหญิงสาว
มีนาเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง หวั่นใจต่อคำเตือนของฮัททสึ แต่ในขณะเดียวกันใบหน้ากลับร้อนผ่าว เมื่อสายตาบังเอิญเห็นนิ้วนางข้างซ้ายของฮัททสึมีแหวนหมั้นสวมใส่ ทั้งที่ปีก่อนเขาโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
“…”
“ยืนบื้ออยู่ทำไม ขึ้นมาดิวะ! “เสียงทรงอำนาจดังขึ้นอย่างหงุดหงิด ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ความคิดทันที
“หน้ากูเหมือนพ่อมึงหรือยังไง จ้องอยู่นั่นแหละ!”
“หนูไม่เคยจ้องหน้าพ่อด้วยสายตาเกลียดชังแบบนี้หรอกค่ะ”
ปัง !
ฮัททสึกัดกรามแน่นข่มอารมณ์โทสะโดยไม่ตอบโต้ กลับเข้าไปในรถปิดประตูดังสนั่นด้วยท่าทางขึงขังบ่งบอกถึงอารมณ์ที่เป็นอยู่ มีนาเมื่อเห็นอย่างนั้นเธอระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความอึดอัดใจ ก่อนจะรีบเปิดประตูก้าวขาขึ้นรถสปอร์ตหรู
--------------------------------------------
#วันต่อมา @ร้านเบเกอรี่“ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ?” กล่าวถามทันทีที่เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับถาดเค้กมะพร้าวในมือ เจอกับแก๊งเพื่อนของสามีที่กำลังเดินเข้ามาในร้านพอดี ในมือหนาแต่ละคนต่างเต็มไปด้วยถุงกระดาษใส่ของเล่น อีกทั้งลูกชายในอ้อมแขนแกร่งของสามียังถือโมเดลไอรอนแมนตัวใหม่แกะกล่อง“ของเล่นลูกน่ะ ไอ้พวกนี้มันสายเปย์” ฮัททสึตอบพลางยิ้มกริ่มอย่างไม่ได้คิดอะไร ในขณะที่มีนาหม่นคิ้วเข้าหากันเป็นปม ส่งถาดเค้กให้กับพนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ สาวเท้าเดินมาหยุดตรงหน้าสามีจ้องมองนิ่ง “มีอะไรหรือเปล่า?”“ของเล่นลูกเต็มบ้านแล้วนะคะ จนไม่มีที่จะเก็บแล้ว” กล่าวเสียงเข้มอย่างต้องการตำหนิ“เห็นหลานอยากได้ พวกพี่เลยซื้อให้ครับ น้องมีนาอย่าโกรธพวกพี่เลยนะ ส่วนไอ้ฮัทโกรธมันเลยเต็มที่” เคนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแหย ๆ อย่างเอาตัวรอด แล้วโยนขี้ให้กับพ่อของลูก“เฮ้ย! พูออย่างนี้ได้ไงวะไอ้เคน จะยุให้เมียกูโกรธกูอีกทำไมวะ ไอ้เพื่อนชั่ว ยิ่งง้อยากอยู่ แถมยังขี้บ่นอีก บ่นจนกูหูชา แม่ง!” ฮัททสึหันขวับแหวใส่เพื่อนรักอย่างใจไม่ดี ก่อนหลุดปากพูดความคิดที่อยู่ในหัวออกมาอย่างลืมตัว พอรู้ตัวอีกทีถึงกับหน้าถอดสี ส่วนเคนได้แต
ตอนที่ 49 เป็นผัวที่ดี“ปะลูกเข้าห้องกับมี้” หยัดกายลุกขึ้นเมื่อasลูกชายวิ่งเตาะแตะเข้ามาหาหลังจากถูกลงโทษให้นั่งนิ่ง ๆ อยู่กับผู้เป็นพ่อในห้องรับแขก“ปะป๊า”“ปะป๊าเขายังถูกทำโทษอยู่นะครับ”“ป๊างอน ” เด็กชายกล่าวบอกความต้องการด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางเอียงศีรษะทุยเล็กซบท่อนขาผู้เป็นแม่“แต่…”“มี้~” แหงนคอมองผู้เป็นแม่ตาแป๋วขอความเห็นใจ ทำเอามีนาถึงกับหนักใจแต่ก็ยอมตกลงตามความต้องการของลูกชาย ทำให้ทั้งพ่อทั้งลูกต่างดีใจกันยกใหญ่#เวลาต่อมา“ลูกหลับแล้วก็ออกไปนอนข้างนอก” เมื่อลูกชายหลับสนิทจึงลุกขึ้นนั่งเอ่ยกับคนตัวสูงที่นอนอยู่อีกฝั่งข้างของลูกชาย“พี่ง่วงจังครับ” แสร้งหลับตาแล้วทำเสียงงัวเงีย“อย่ามาเจ้าเล่ห์นะ ออกไป!”“อย่าเสียงดังสิเมียจ๋า เดี๋ยวลูกตื่นเอานะ”“ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ต้องเรียกแบบนั้น” แหวใส่คนเจ้าเล่ห์เสียงเบาหวิวอย่างเริ่มหงุดหงิด ทั้งที่ความเป็นจริงเธอกำลังหวั่นไหวให้เขา ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับเงียบทำหูทวนลมแล้วข่มตานอนต่อ “บอกให้ออกไปนอนข้างนอกไง” ไม่ยอมแพ้ก้าวลงจากเตียงดึงแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพรึ่บ!“อ๊ะ!” เพียงคนบนเตียงออกแรงกระตุกท่อนแขนเล็กเบา ๆ ร่างบางก็เสียหลักล้มทับค
ตอนที่ 48 บทลงโทษ“วันนี้คุณมีนาดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะคะ” เจนกล่าวแสดงความคิดเห็นกับฮัททสึที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชาย หลังจากมีนาเดินเข้ามาก่อนด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด“คงงอนผมน่ะครับ”“สู้ ๆ นะคะ คุณฮัททสึ ง้ออีกนิดเดียวคุณมีนาต้องยอมใจอ่อน แน่ ๆ ค่ะ น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ”“ขอบคุณครับ” เริ่มมีแรงฮึดสู้อีกครั้ง เขาจะไม่ยอมแพ้“ให้พี่ช่วยไหม?” ฮัททสึเดินจากหน้าร้านเข้ามากล่าวอาสา เมื่อเห็นว่ามีนากำลังทำบัญชีอยู่หน้าตาเคร่งเครียด โดยที่ลูกชายตัวน้อยนั่งดูการ์ตูนอยู่บนโซฟา“ไม่ต้อง ไปช่วยพี่เจนหน้าร้านเถอะ” ตอบเสียงห้วน ๆ โดยไม่ละสายตาไปจากบัญชีตรงหน้าที่เธอไม่ถนัดเอาเสียเลย แต่ก่อนเป็นหน้าที่ของมาเรีย แต่เพราะแม่ป่วยเธอจึงลาออกกลับไปดูแลแม่ที่บ้าน“คนไม่มีแล้ว มาเดี๋ยวพี่ทำให้เอง พี่ถนัด”“ไม่เข้าใจหรือวะ…ว้าย!” ไม่ทันได้กล่าวจบเพราะความรำคาญ ทว่าต้องหวีดเสียงแทนด้วยความตกใจ เมื่อก้นลอยขึ้นจากเก้าอี้เข้าสู่อ้อมแขนแกร่งในท่าเจ้าสาวเสียก่อน เธอจึงรีบตวัดรัดลำคอแกร่งกร้านไว้โดยอัตโนมัติเพราะกลัวตก ทำให้ใบหน้าทั้งสองใกล้กันเพียงคืบนิ้วเท่านั้น“ปล่อยเดี๋ยว
มีนาจูงมือลูกชายเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าแปลกใจ เมื่อทุกโต๊ะในร้านถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงขนมหวานต่าง ๆ ที่เธอทำเตรียมเอาไว้ในตู้เย็นหลังร้านถูกนำมาจัดเข้าตู้โชว์พร้อมเปิดรับลูกค้าทั้งที่พนักงานเหลือเพียงคนเดียวคงจัดการทุกอย่างไม่ทัน เพราะมาเรียลาป่วยได้ห้าวันแล้ว เธอจึงต้องรีบพาลูกชายมาที่ร้านเร็วกว่าเดิม เพื่อช่วยพนักงานเตรียมเปิดร้าน แต่ผิดคาด ห้าวันมานี้เธอแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย มาถึงก็รอขายและทำขนมหวานบางอย่างที่หมด“สวัสดีค่ะคุณมีนา”“สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เตรียมร้านเสร็จเร็วมาก ๆ เลยนะคะพี่เจน คงเหนื่อยแย่เลยค่ะ”“ไม่เหนื่อยเลยค่ะคุณมีนา ดีที่มี…” รีบหยุดพูดแทบไม่ทัน เมื่อกำลังจะเผยความลับบางอย่างออกมา“มีอะไรคะ?”“เอ่อ...” ตอบอย่างอึก ๆ อัก ๆ ท่าทางมีพิรุธ “มะ...มีแฟนพี่มาช่วยค่ะ เลยเสร็จเร็วกว่าปกติ”“อ๋อ ๆ ค่ะ นาฝากขอบคุณแฟนพี่เจนด้วยนะคะ เย็นนี้นาฝากขนมไปให้แฟนพี่เจนด้วยนะคะถือว่าเป็นการตอบแทน”“ค่ะ”มีนาส่งยิ้มให้พนักงานสาวอย่างใจดีถึงแม้จะยังเคลือบแคลงสงสัย แต่เธอก็เลือกที่จะไม่เซ้าซี้เอาความ จูงมือลูกชายเดินเข้าไปหลังร้าน เจนยกมือทาบอกพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่
@อเมริกา“แอะ~" ฮาชิยิ้มร่าจนตาหยีเป็นรูปสระอิด้วยความคิดถึงปู่และย่าที่นาน ๆ ทีมาเยี่ยมหน ความตาตี่และเค้าโครงหน้าคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดตอนเยาว์วัยไม่มีผิดเพี้ยน“อย่าวิ่งครับลูก” มีนาปรามลูกชายด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะล้มหน้าคะมำเอาได้ แต่มีหรือเด็กชายแสนแสบจะฟัง เร่งฝีเท้าอันเล็กตรงมาหาผู้เป็นปู่ ก่อนปีนป่ายขึ้นนั่งบนตักแกร่งอย่างซุกซน ทำเอามีนาถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา“ไปไหนมาครับหลานปู่”“ปู" ริมฝีปากน้อย ๆ พยายามเปล่งเสียงเรียกผู้เป็นปู่อย่างรู้ความ พลางแก้มป่องซบบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน ท่ามกลางสายตาเอ็นดูของผู้เป็นแม่และผู้เป็นย่า“คิดถึงแค่ปู่เหรอครับหลานย่า” จีน่าแสร้งปั้นสีหน้าน้อยใจ ทำให้เด็กชายวัยหนึ่งขวบรีบผละใบหน้าจิ้มลิ้มออกจากแผงอกของผู้เป็นปู่ แล้วปีนลงจากตักแกร่งด้วยตัวเอง เดินเตาะแตะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นย่าราวกับเป็นการปลอบใจ“ตึ๋ง~ ” “ไหนย่าขอหอมหน่อยสิ” จีน่าอุ้มหลานชายขึ้นมานั่งบนตัก แล้วโน้มใบหน้าฟัดแก้มป่องของหลานชายทันทีอย่างมันเขี้ยว เมื่อหลานชายขี้อ้อนทำแก้มป่องอนุญาตยอมให้ผู้เป็นย่าหอมอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้คนเป็นแม่ที่มองอยู่ถึงกับยิ้มแก้มปริ
ตอนที่ 45 หนีมาไกล / ยังไร้ร่องรอยหนึ่งปีต่อมา@อเมริกาออด ออด ออด เสียงออดประตูหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่กำลังพับเสื้อผ้าใส่ตะกร้าอยู่ตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น ละความสนใจออกจากสิ่งที่ทำ หยัดกายลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้กับแขกที่มาเยือน“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ “สองมือยกขึ้นไหวพ่อและแม่ของสามี ที่เธอต้องการหย่าขาดอย่างสุภาพ แล้วเชิญเข้าไปนั่งในบ้านหลังจากที่ท่านทั้งสองพยักหน้ารับ“เป็นยังไงบ้างหนูมีนา ไม่ลำบากอะไรนะ “จีน่าเอ่ยถามลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่กับหลานชายเพียงสองคนในต่างถิ่นต่างแดนหากย้อนไปปีก่อน หลังรู้เรื่องราวจากลูกชายตัวดี สามีของเธอจึงให้คนตามสืบเบาะแสเพิ่มเติมของลูกสะใภ้ระหว่างอยู่ที่ไร่ส้มในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทราบข่าวว่าลูกสะใภ้กำลังจะหนีลูกชายไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเธอและสามีจึงตัดสินใจอาสาพาลูกสะใภ้หนี โดยการติดต่อผ่านบิดามารดาของลูกสะใภ้ให้ช่วยเหลืออีกแรง ด้วยความเป็นห่วงหลานชายที่กำลังจะลืมตาดูโลก ไม่อยากให้ไปใช้ชีวิตลำบากกันตามประสากันสองคนแม่ลูก บวกกับความรู้สึกผิดที่เลือกตัดอนาคตเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะได้ศึกษาต่อจนจบ มีหน้าที่การงานก