Home / โรแมนติก / ข้างห้องคือคนข้างใจ / บทที่ 3 เข้าใจผิดรอบสอง (1)

Share

บทที่ 3 เข้าใจผิดรอบสอง (1)

last update Last Updated: 2025-10-12 11:43:52

หลัง “การประชุมชั้น 18” เช้านั้น วันทำงานวันที่สองของฉันผ่านไปเร็วกว่าที่คิด แปลกดีที่พอหัวใจเบา งานก็เบาตาม ทั้งที่จริง ๆ เนื้อหาที่ต้องร่างก็ไม่ได้ง่ายอะไร ฉันยังคงจำคำของภีมที่พูดไว้ “เริ่มใหม่มันสนุก” แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ระหว่างนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ช่วงบ่ายฉันร่างสตอรี่บอร์ดไว้สามโพสต์ “เช้าใหม่ เมล็ดใหม่” วาดรูปคนยืนรับแสงอาทิตย์พร้อมถือแก้วกาแฟ แล้วยำมุกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนอ่านได้ยิ้ม โทนเดียวกับชีวิตช่วงสองสามวันที่ผ่านมา: ไม่หวือหวา แต่มีความอบอุ่นแบบไฟอ่อน ๆ เผาไขไม่ไหม้

พอถึงเวลาเลิกงาน ฉันรีบเก็บกระเป๋า เหตุผลไม่ใช่เพราะอยากกลับไปนอนเร็ว แต่เพราะไม่อยากให้เครื่องซักผ้าคิดถึงฉันจนพ่นน้ำต้อนรับอีก รอบนี้ฉันตั้งปณิธานแน่วแน่กลับถึงบ้านจะเช็กวาล์วสายยางก่อนทุกอย่าง และจะไม่ทำตัวเป็นวิศวกรสมัครเล่นอีกแล้ว

ก่อนออกออฟฟิศ มิ้นท์ตะโกนตามหลังมา “เฮ้ เพื่อนบ้านหล่อคนนั้นเป็นไงบ้าง เมื่อเช้าส่งรูปสติกเกอร์ไขควงมาในไลน์เหรอ”

“เรื่องมันยาว ไว้เล่าพร้อมชานม” ฉันตะโกนกลับ พลางทำท่ายกแก้วสมมติ มิ้นท์ทำหน้าหมั่นไส้อย่างจงใจ เราหัวเราะให้กันสั้น ๆ

ฉันเดินผ่านร้านผลไม้หน้าปากซอยแวะซื้อกล้วยหอมหนึ่งหวี ถุงผักหนึ่งถุง น้ำปลา น้ำมันพืช ข้าวสารครึ่งถุง (ครึ่งถุงก็ยังหนักนะบอกเลย) และขนมแมวรสปลาคู่ชีวิตที่ถ้าไม่ได้ซื้อ โมจิจะยื่นหนังสือคำร้องหยุดความสัมพันธ์แม่-ลูกทันที หยิบของครบแล้ว ฉันเปลี่ยนแขนสลับถือไปมา สาบเสื้อเกี่ยวถุงจนตึงไปทั้งแถบ เดิน ๆ อยู่ก็บ่นในใจ “โต๊ะกินข้าวยังไม่มี แต่ความมุทะลุอยากทำกับข้าวมีแล้วหนึ่ง”

ถึงล็อบบี้คอนโด รปภ.หน้าตายิ้มต้อนรับ ฉันยกมือไหว้แบบหอบ ๆ เขาหัวเราะ “วันนี้ไม่ท่วมแล้วนะคุณมะปราง ช่างแจ้งว่าเรียบร้อยดี”

“ค่ะ ๆ ขอบคุณมากเลย ถ้าท่วมอีกหนูจะตั้งศาลพระภูมิเครื่องซักผ้าแล้วค่ะ” ฉันตอบไปแบบนั้นจริง ๆ และเหมือนจักรวาลจะชอบมุกล้อโชคชะตา เพราะพอเข้าลิฟต์ไป ฉันดันยืนคู่กับผู้หญิงหิ้วพัดลมตั้งโต๊ะใหม่เอี่ยม เธอมองถุงน้ำมันในมือตะลึง ๆ ฉันเลยยิ้มบอกว่า “ห้องครัวฉันเพิ่งผ่านสงครามน้ำเมื่อวาน วันนี้เลยซื้ออาวุธมาเพิ่ม” เราหัวเราะให้กันแบบคนแปลกหน้าที่เข้าใจอะไรบางอย่างร่วมกัน

ลิฟต์เปิด “ติ๊ง” ชั้น 18 ตามกำหนด ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่น ถ้าไม่ใช่เพราะประตูห้องฉันเปิดแง้มไว้เพราะดึงของเข้าไปไม่ทัน และโมจิ…ใช่ค่ะ โมจิของฉัน ออกมายืนจังก้าหน้าห้องเหมือนบอดี้การ์ดที่ลืมว่าหน้าที่คือเฝ้าอยู่ข้างใน มันเหลือบตามองถุงขนมในมือฉันหนึ่งที ก่อนวิ่งสวนทางฝีเท้าเบา ๆ ไปที่ห้อง 18B ราวกับรู้เส้นทางดี

“โมจิ! หยุด! นั่นเขตแดนประเทศเพื่อนบ้าน!” ฉันร้องลั่น แต่คนถือถุงสองมือน่ะ บอกเลยว่าแพ้นักวิ่งสี่ขาเสมอ

พอถึงหน้าห้อง 18B ฉันก็เห็นประตูเปิดพอดี เหมือนรอเวลามะปรางหน้าแตก ภีมยืนอยู่ตรงนั้นในชุดที่ฉันไม่ค่อยเห็น เสื้อเชิ้ตดำเรียบ กางเกงสแลคเข้ารูป มือซ้ายถือกุญแจรถ มือขวาดึงสายจูงโตโตะไว้หลวม ๆ กลิ่นโคโลญจน์อ่อน ๆ ผสมกลิ่นกาแฟติดเสื้อ ทำให้ภาพรวมดูเรียบง่ายแต่ดูดีแบบที่ทำให้คนถือถุงข้าวสารอย่างฉันรู้สึกว่า…นะ เหมือนโฆษณาน้ำหอมยังไงยังงั้น

โตโตะเห็นโมจิแล้วตาเป็นประกาย ส่ายหางถี่ “บรู๋ง บรู๋ง” รอท่าเหมือนจะบอกว่า “ยินดีต้อนรับครับ แขก VIP”

โมจิหยุดตรงหน้าเขา ยกคางสูงเหมือนเจ้าเมือง “เหมียว” เบา ๆ หนึ่งครั้ง แล้วเดินเฉียด ๆ ขาหน้าภีมอย่างถือสิทธิ์

ฉันรีบพูดรัว “ไม่ใช่นะคะ! โมจิไม่ได้เป็นแมวขโมย! มันไม่ได้จะเอ่อ เข้ามาขโมยอะไรของคุณนะคะ! ไม่! ไม่! ไม่ใช่ว่าฉันหาว่าคุณเป็นขโมยนะคะ ฉันหมายถึง..”

ประโยคของฉันพันกันเป็นก้อน เหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่ลอยวนอยู่ในชามจนหาจุดเริ่มไม่เจอ ภีมเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นนิด ๆ “หืม ใครว่าผมเป็นขโมยนะ”

“ไม่ใช่ ๆ ๆ ฉันหมายถึงแมว! แมวไม่ใช่ขโมย! แล้ว โอ๊ย ขอโทษค่ะ ฉันพูดไม่เป็นภาษาไปหมดเลย” ฉันยืนตัวแข็ง ๆ เหมือนเสาอากาศเสียในวันที่พายุเข้า

โตโตะมองหน้าเราแล้วเห่า “บู้” เบา ๆ เหมือนหัวเราะ เผลอ ๆ อาจกำลังให้คะแนนความวุ่นวายอยู่ในใจ

ภีมหัวเราะน้อย ๆ เสียงทุ้มชัด “ใจเย็นครับ ผมไม่ได้คิดว่าใครเป็นขโมยสักคน แค่นึกภาพตัวเองถูกกล่าวหาแบบงง ๆ ก็…ขำดี”

ฉันอยากเอาถุงน้ำมันพืชคลุมหัว “ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ฉันรีบเกินไป ปากเลยวิ่งแซงสมอง”

เขาชำเลืองมองมือฉันที่ถือถุงพะรุงพะรัง “ให้ช่วยไหมครับ ของดูหนัก”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยกไหว” ฉันพยายามจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งหญิงสาว แต่ทันทีที่ยกสูงขึ้นนิด ถุงน้ำมันก็เอียงไปชนถุงข้าวสารดัง “ตั้บ” แบบเสียวหล่น ทั้งหมดเกิดขึ้นช้ามากในสายตา แต่เร็วมากในความเป็นจริง ภีมเอื้อมมือมาคว้าได้พอดี ช่วยชีวิตน้ำมันกับศักดิ์ศรีฉันไปพร้อมกัน

“ยกไหวเหรอครับ” น้ำเสียงเขาเรียบ แต่สายตาแซวอย่างสุภาพ

“เอ่อ…ไม่ไหวก็ได้ค่ะ” ฉันยอมแพ้แบบไร้ศักดิ์ศรีอย่างรวดเร็ว เพื่อนบ้านปลอดภัยไว้ก่อน

เขารับถุงทั้งสองจากฉันอย่างง่ายเหมือนยกหมอน “งั้นเข้าไปวางในห้องก่อน”

ฉันเปิดประตูเชื้อเชิญ โมจิเดินนำเข้าไปก่อนพร้อมท่าทีเป็นเจ้าบ้าน โตโตะยืนรอหน้าประตูแป๊บหนึ่งแล้วนั่งลงอย่างมีมารยาท ภีมวางถุงลงบนเคาน์เตอร์ครัวชั่วคราว ฉันรีบเคลียร์พื้นที่โดยกวาดนิตยสารกับเทปกาวไปกองไว้ที่มุม

“ขอบคุณนะคะ รบกวนอีกแล้ว” ฉันยกมือไหว้เหมือนเจอครูบาอาจารย์ เขาส่ายหน้าเบา ๆ

“ผมแค่ช่วยยกของ ไม่ได้ใช้ไขควง ถือว่ายังไม่ได้ทำงาน” เขายิ้มจาง ๆ ฉันหัวเราะ เขามักหาคำพูดพอดี ๆ ที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ง่ายเสมอ

โมจิกระโดดขึ้นไปนอนบนถุงข้าวสารอย่างภาคภูมิใจ เหมือนประกาศกรรมสิทธิ์ตามคติ “ใครนอนก่อนคนนั้นเป็นเจ้าของ” ฉันชี้ให้ภีมดู เขาพูดเสียงนิ่ง “มันคงคิดว่าเป็นเตียงนุ่มพิเศษ”

“ใช่ค่ะ เตียงรุ่น ‘เมล็ดข้าวทนทาน’” เราหัวเราะพร้อมกัน หัวเราะแบบเสียงไม่ดังมาก แต่ยาวพอจะทำให้ไหล่ที่เกร็งคลายลง

“คุณเพิ่งกลับจากร้านเหรอคะ” ฉันเห็นเสื้อเชิ้ตเรียบกริบเลยถามอย่างอยากรู้

“ครับ แวะไปดูเครื่องก่อนปิดร้าน แล้วก็ลงไปเอาของที่รถนิดหน่อย” เขาชี้กุญแจที่มือ “เลยแต่งตัวสุภาพกว่าปกติหน่อย”

“สุภาพมากค่ะ” ฉันเผลอพูดออกไปตรง ๆ แล้วหน้าก็ร้อน โอเค มะปราง เก็บคำชมไว้ในใจบ้างก็ดี

เขามองรอบห้อง “วันนี้อยู่รอดดีไหม ไม่มีเสียงน้ำพุ่ง”

“สบายมากค่ะ” ฉันชี้สติ๊กเกอร์เล็ก ๆ ที่ติดข้างวาล์ว “ฉันแปะป้ายเตือนตัวเองว่า ‘อย่าซน’”

“ดีครับ ช่างบอกว่าทุกอย่างโอเคแล้ว” เขาขยับแววตาไปทางโมจิ “เหลือแค่ระบบกันหนีของสมาชิกสี่ขา”

“ใช่ค่ะ” ฉันถอนหายใจ “มันฉลาดแบบที่เก่งเรื่องประตูมากกว่าฉันอีก”

“จริงสิ” เขาเหมือนนึกอะไรได้ “พรุ่งนี้ช่วงเย็นผมจะลองคั่วเมล็ดใหม่ ถ้าคุณว่าง แวะไปชิมไหม ผมอยากฟังความเห็นคนชอบรส ‘นิ่มนวลในถ้วย’”

หัวใจฉันเต้น “ตุบ” หนึ่งครั้ง คำชวนของเขาเหมือนง่าย ๆ แต่สำหรับฉันมีน้ำหนักมากกว่ากาแฟหนึ่งแก้ว “ได้สิคะ ถ้าไม่ติดงานฉันจะไป”

“โอเคครับ” เขาพยักหน้าเรียบ ๆ “เดี๋ยวผมเอาโตโตะไปเดินเล่นต่อ เห็นทีวันนี้มันได้พบเจอเพื่อนเยอะแล้ว”

“ขอบคุณมากนะคะ สำหรับ…ทุกอย่างวันนี้” ฉันย้ำ แล้วส่งยิ้มแบบเก็บเสียง เขายกมือบ๊ายบายเบา ๆ ก่อนปิดประตู

เสียงปิดประตู 18B ยังไม่ทันเงียบ โมจิก็หันมามองฉันตาปรือ เหมือนถามว่า “ขนมล่ะ” ฉันส่ายหน้าให้มัน “อย่าทำหน้ารู้ทันสิคุณนาย ฉันเพิ่งหน้าแตกต่อหน้าคนหล่อ เอ๊ย คนสุภาพ เพราะเธอเลยนะ” มันยืดตัว บิดขี้เกียจ แล้วเดินไปนั่งมุมเดิมราวกับว่า “ยินดีค่ะ เดี๋ยวทำให้อีก”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 16 พื้นที่ที่ไม่เหมือนเดิม

    “บางความเงียบอบอุ่นกว่าคำขอโอกาส” เสียงกาน้ำเดือดดังแผ่วในห้องครัวเล็ก ๆ ของคอนโด มะปรางเทกาแฟลงแก้ว กลิ่นหอมลอยปะทะจมูกพร้อมความรู้สึกที่ทั้งคุ้นและสั่นเบา ๆ ที่หน้าอก โมจิเดินมาคลอเคลียขา ส่งเสียง “เมี้ยว—” เหมือนรู้ว่าเจ้าของกำลังมีเรื่องกังวล “วันนี้แม่ต้องเจอคนเก่านะ” เธอก้มลงลูบหัวมันเบา ๆ “อย่าให้แม่ใจสั่นมากเลยนะโมจิ” เจ้าแมวตัวกลมตอบกลับด้วยเสียงเบา ๆ แล้วเดินไปนอนบนกระเป๋าผ้า เหมือนจะกันไม่ให้เธอออกจากห้อง โทรศัพท์สั่นเตือนบนโต๊ะภีม: วันนี้ทีมคุณมากี่คนครับ จะได้เตรียมโต๊ะ โตโตะจะได้ไม่เห่าใส่มะปรางเผลอยิ้ม ก่อนพิมพ์ตอบมะปราง: ห้าคนค่ะ รวมลูกค้าด้วย ขอบคุณมากนะคะ ยังไม่ทันวางโทรศัพท์ เสียงโทรเข้าดังขึ้น “มิ้นท์” โผล่มาเต็มจอ “ตื่นยัง ยัยโมจิใหญ่” น้ำเสียงคุ้นเคยดังสดใสแต่แฝงความห่วง “ตื่นแล้วสิ แต่ใจยังไม่พร้อมเจออดีตเท่าไร” “อย่าบอกนะว่ายังใจเต้นอยู่” “เต้นค่ะ...แต่เต้นเพราะกลัวจะทำหน้าตาไม่ถูก” “ดีแล้ว อย่างน้อยเธอก็ยังมีความรู้สึก แปลว่ายังไม่ด้าน” มะ

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 15 คุยงาน…หรือคุยเรา

    เสียงพิมพ์คีย์บอร์ดดังสลับกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่เป่าลมเบา ๆ ทั่วออฟฟิศ มะปรางนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิม ข้าง ๆ มีกองแฟ้มเอกสารและถ้วยกาแฟเย็นที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ แต่สายตากลับพร่าเพราะใจลอยไปถึงวันปิดกอง ภาพคนที่ยื่นแก้วกาแฟให้เธอด้วยรอยยิ้มเรียบง่ายยังคงวนเวียนในหัวไม่จาง เสียงแจ้งเตือนเมลเด้งขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่เธอถอนหายใจFrom: Natee S.Subject: Debrief Meeting – ขอเวลาคุยงานเพิ่มเติมครับ เธอมองชื่อผู้ส่งอยู่นาน มือที่จับเมาส์นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกดเปิดอย่างระมัดระวัง “ปรางครับ มีไอเดียอยากต่อยอดจากแคมเปญนี้นิดหน่อย พอมีเวลาคุยไหมครับ?” ถ้อยคำดูสุภาพ แต่ในใจของเธอกลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยในแบบเดียวกับเมื่อสองปีก่อน ตอนที่เขาใช้เสียงเดียวกันพูดว่า “ไว้ค่อยคุยกันนะ” ก่อนหายไปจากชีวิตเธอ มะปรางพิมพ์ตอบในโทนที่เป็นทางการที่สุด “ได้ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องงาน รบกวนแจ้งเวลาล่วงหน้า จะได้จัดตารางประชุมให้ค่ะ” ส่งเสร็จเธอรีบปิดเมล แล้วพยายามฝืนทำงานต่อ แต่สมาธิกลับหล่นหายไป

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 14 ทำงานด้วยกัน (2)

    เมื่อทุกอย่างดูเข้าที่ เหตุการณ์ทดสอบเล็ก ๆ ก็โผล่มาอีกครั้ง ขณะตั้งไฟสองดวงไขว้กันเพื่อให้เงาแก้วดูมีมิติ อยู่ ๆ ไฟในโซนบาร์ก็กะพริบ “แป๊ะ” แล้วดับเงียบทั้งแถบ “อ่าว เบรกเกอร์ไปแล้วเหรอ” พีทร้อง ฉันหันขวับมองนาฬิกา เวลาเริ่มบีบ เพราะเรายังต้องเก็บช็อตสุดท้ายช่วงแสงเย็น ภีมถือไฟฉายเล็กออกมาทันทีเหมือนเตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว “ตรงนี้คงรับกำลังไฟของเครื่องชงกับไฟชุดหนึ่งตัวไม่ไหวครับ เดี๋ยวผมย้ายปลั๊กชุดไฟไปที่อื่นแทน แล้วใช้รีเฟล็กซ์แทนไฟหนึ่งดวง จะได้ไม่ดึงกระแสเกิน” เขาพูดจบก็ลงมือทันที จัดปลั๊กพ่วง เสียบ–ดึง–ลองสวิตช์อย่างใจเย็น ทีมงานที่เหลือช่วยจับรีเฟล็กซ์ขนาดกลาง ภายในห้านาทีไฟกลับมาสว่างแต่ไม่จ้าเกิน ได้ภาพในจออย่างที่อยากได้ “โห…เจ้าของร้านนี่แหละแก้ปัญหาเก่งกว่าช่างไฟอีก” พีทยกนิ้วให้ ฉันยืนมองภาพในจอแล้วหันไปมองเจ้าของร้านตัวจริง คนนั้นยืนเช็ดมือกับผ้าเช็ดบาร์เหมือนเดิม สีหน้าสงบเหมือนตอนชงกาแฟ นาทีนั้นหัวใจฉันนิ่งแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในกองถ่าย เร่งแค่ไหนก็มักจะมีความลนอยู่ในอากาศ แต่เขากลับทำให้ห้องนี้ห

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 14 ทำงานด้วยกัน (1)

    เช้าวันถัดจากทริปเล็ก ๆ ฉันตื่นก่อนนาฬิกาอีกครั้ง เหมือนร่างกายจำสัญญาเงียบ ๆ ระหว่างฉันกับเช้าว่าเราจะเริ่มวันด้วยความอุ่น ไม่ใช่ความรีบ ฉันชงดริปด้วยเมล็ด “ทุ่งหญ้ารุ่นพิเศษ ทริปเล็ก ๆ” ที่ภีมยื่นให้เมื่อคืนก่อน กลิ่นดอกไม้จาง ๆ ลอยขึ้น ปลายรสหวานเหมือนเสียงหัวเราะที่ยังค้างอยู่ในคอจากเมื่อวาน ฉันยกแก้วไปยืนที่ระเบียง เห็นประตูฝั่งตรงข้ามเลื่อนเปิดในเวลาแทบจะตรงกัน ภีมยกแก้วของเขาขึ้นนิด ๆ เราสองคนยิ้มให้กันอย่างไม่ต้องพูดอะไรมาก “วันนี้สู้ ๆ นะครับ” เขาพูดเบา ๆ แต่ได้ยินชัด “คุณด้วยค่ะ” ฉันตอบ ทั้งที่ในหัวเริ่มเรียงงานแบบผู้จัดการกองถ่ายฉบับเร่งด่วน เพราะวันนี้คือวันสำคัญ ทีมฉันต้องถ่ายทำคอนเทนต์ชุด “Warm is a Place” สำหรับลูกค้า และโลเกชันที่เลือกคือร้านของภีม…ที่เดิม หลังอาบน้ำแต่งตัว ฉันเปิดงานในโทรศัพท์ ไลน์กรุ๊ป “กองอุ่นจริง” (ตั้งชื่อตามคีย์เวิร์ด) เด้งข้อความจากพี่นนท์: “คอนเฟิร์ม 10:00 เริ่มเซ็ต ซีนแรกเปิดหน้าร้าน ซีนสองบาร์ ซีนสามโต๊ะไม้ ใครถึงก่อนช่วยแจ้ง” ฉันพิมพ์ตอบ “ฉันถึงก่อน 9:30 ไปเช็กลิสต์พร็อพกับเจ้าของร้านค่ะ” แล้

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 13 ทริปเล็ก ๆ (2)

    เขาเงียบไปเล็กน้อยเหมือนเช็กหัวใจตัวเองก่อนพูด “เคยครับ แต่ภาพนั้นไม่ชัดเจนเท่าไหร่ รู้แค่ว่าถ้ามีมันคงเหมือนโต๊ะหนึ่งตัวที่คนในบ้านชอบกลับไปนั่งด้วยกัน มีเสียงหัวเราะของสัตว์เลี้ยง มีแก้วน้ำสองใบวางอยู่เสมอ” ฉันยิ้มกว้างกว่าคำถามที่ตั้งใจ “แก้วสองใบ…บนที่รองแก้วสองแผ่น” เขายิ้มกลับ “ครับ” เราลุกขึ้นไปเดินรอบบึงช้า ๆ หลังทานของว่าง ดอกหญ้าสีน้ำนมไหวตามลมเหมือนคนโบกมือทักทายจากสองฟากทาง ฉันเดินถือสายจูงโตโตะ ภีมสะพายตะกร้า ส่วนโมจิอย่างที่คาดขึ้นคานอนบนไหล่ภีมเหมือนราชินีบนราชรถ คนเดินสวนมาหลายคนอดทักไม่ได้ “น้องแมวเก่งจังเลยค่ะ” ภีมยิ้ม “จริง ๆ แล้วเก่งที่ยอมให้ผมแบกมากกว่าครับ” ฉันหัวเราะจนลืมว่าครู่หนึ่งก่อนหน้านี้ฉันเคยล้มกลิ้ง ความเขินจากเหตุการณ์เช้าแปรสภาพเป็นความจำที่น่ารักอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินครบรอบ เรากลับมาที่ผ้าปิกนิก ฉันวางโมจิลง มันเดินตรงไปตรวจคุณภาพอาหารบนจานภีมแล้วนั่งทับรายการกินเหมือนจะปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง โตโตะหมดแรงนิด ๆ นอนแผ่พุงเหยียดขาตรง ทำหน้าฟินราวกับเพิ่งชนะ

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 13 ทริปเล็ก ๆ (1)

    เช้าวันหยุดหลังคืนดาดฟ้าที่ใจเราเหมือนตกลงสัญญาเงียบ ๆ ฉันตื่นเร็วกว่าปกติทั้งที่ไม่มีนาฬิกาปลุก ลมเช้าจากระเบียงพัดกลิ่นกาแฟที่บดไว้เมื่อคืนโชยเข้ามา โมจิเดินมาวนรอบขาเหมือนนาฬิกาปลุกมีขน ฉันลูบหัวมันแล้วพูดกับตัวเองว่า วันนี้อยากทำอะไรช้า ๆ แบบไม่ต้องชนะเวลา พอเปิดประตูระเบียงก็เจอภีมยืนพาโตโตะออกมารับแดดจาง ๆ เขาส่งยิ้มแบบที่เคยทำ ยิ้มที่ไม่รีบให้คำตอบ แต่บอกว่าอยู่ข้าง ๆ “อรุณสวัสดิ์ครับ” “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ฉันตอบพร้อมยกแก้วน้ำให้โมจิดมเล่น แดดเช้าตีกับราวระเบียงเป็นริ้ว ๆ จนฉันเผลอหยุดมอง ภีมเอ่ยขึ้นเหมือนคิดไปพร้อมกับลม “วันนี้อากาศดี อยากลองพาโตโตะไปสวนสาธารณะนอกเมือง…คุณกับโมจิสนใจไปด้วยไหมครับ” คำชวนฟังดูง่าย แต่หัวใจฉันกลับทำงานซับซ้อนขึ้นมาทันที มันไม่ใช่แค่ไปสวน มันคือการออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่เราเคยอยู่ร่วมกัน จากโถงชั้น 18 ระเบียง โต๊ะโอ๊ค ไปสู่โลกกว้างที่เราไม่เคยใช้เวลาเป็น “พวกเรา” จริง ๆ มาก่อน ฉันลังเลเพียงเสี้ยววินาที ก่อนพยักหน้า “ไปค่ะ” โมจิตอบแทนด้วยการตดเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status