“ข้าจะคอยดูแลร้านระหว่างท่านไม่อยู่เอง หากมีปัญหาอะไรข้าย่อมไม่ปล่อยไว้หรอก” หลี่เมิ่งอยากจะเจอกับพวกที่มาก่อเรื่องนานแล้ว คนแบบนี้จะพูดดีไปทำไมกันเมื่อเยวี๋ยนจิ้งห้าวแยกตัวกลับบ้านไปแล้ว พวกหลี่เฉียงกำลังจะกลับที่พักเช่นกันแต่กลับมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นเสียก่อน ทั้งสามคน จึงหยุดฟังว่ามันคือเสียงอะไร
“เมื่อครู่พวกเจ้ายังไม่มีท่าทีจะยอมสักนิด ต้องให้เจ็บตัวเสียก่อนถึงจะยอมเปิดปากงั้นรึ หากทำตามที่บอกตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องบาดเจ็บเช่นนี้” หลี่เมิ่งยังไม่ยอมหยุดบ่นใส่พวกสีว์เปียว ที่ดื้อด้านในตอนแรกแต่พอเจ็บตัวก็เปลี่ยนท่าทีทันใด“พวกข้าผิดเองที่ทะนงตนคิดว่าคงจะสู้พวกเจ้าได้ อยากให้ข้าตอบคำถามอันใดถ้าต
หลังจากตัดสินใจจะขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพโจวซือหาน หลี่เฉียงจึงไปยังค่ายทหารและให้สหายทั้งสองอยู่ดูแลร้านไปพลาง ๆ เผื่อว่าจะมีคนที่ถูกส่งมาจากที่อื่นอีก หลี่เฉียงใช้วิชาตัวเบาที่รวดเร็วของตน เพื่อไปให้ถึงค่ายทหารไม่ดึกมากนัก แม้ว่าสามารถเข้าพบแม่ทัพโจวได้ตลอดเวลา แต่ความเกรงใจก็ยังต้องมีอยู่เสมอ“ท่
ยามเหม่าเช้ามืดของวันถัดมามีม้าสี่ตัวที่รูปร่างแข็งแรง ออกเดินทางพร้อมกันมุ่งหน้าไปยังแคว้นเป่ยเยี่ยน จุดประสงค์เหมือนกันแต่สถานที่ต่างกันครั้งนี้ไม่มีการพักที่นอกเมืองอีก มีเพียงแค่แวะเข้าหมู่บ้านก่อนถึงเมืองหลวง เพื่อว่าจ้างรถม้าคันใหญ่จำนวนหลายคัน สำหรับการรีดไขมันจากหมูตัวที่กินไม่อิ่ม และต้องรี
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นข้าสองคนขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน ขอบคุณใต้เท้าอันที่ให้ความร่วมมือ” แม่ทัพโจวกลับออกมา โดยมีเฟิงเหมียนเดินออกมาส่ง ขณะที่จะขึ้นหลังม้าแม่ทัพโจวได้กล่าวบางอย่างกับเฟิงเหมียน“น้องชายเฟิงเมื่อเจ้าได้อยู่เพียงลำพังกับใต้เท้าอัน ฝากบอกด้วยว่ามีคนส่งหนอนมาอยู่ที่นี่ คอยจับตาดูความเคล
“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าเศรษฐีหน้าโง่กว่าพวกข้า เรื่องง่าย ๆ แค่ขี้เล็บเท่านี้จะหลุดรอดสายตาไปได้หรือ เจ้ามั่นใจมากเกินไปแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เงินทองของเจ้าจำนวนมากมาย กำลังถูกขนออกไปจากที่เก็บโดยคนของข้าเอง ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าหาเงินได้เก่งมาก แค่ในห้องเก็บสมบัติแห่งนั้นก็แทบจะล้นออกมา ไม่แปลกใจเลยที่ใคร ๆ ก็อย
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอ ครอบครัวชินอ๋องมาพักอาศัยอยู่กับตระกูลสวี ที่หมู่บ้านอันผิงได้เกือบหนึ่งเดือน ถึงเวลาต้องเดินทางกลับเมืองหลวง เพื่อเตรียมการต้อนรับคณะทูตจากแคว้นหนานซวิ่น ซึ่งจะถึงเมืองหลวงหลังชินอ๋องประมาณสองสัปดาห์ตอนมาตำบลหย่งฝูมีของติดมาว่ามากแล้ว ครั้นจะกลับเมืองหลวงของฝา
ทางด้านขบวนเดินทางของแคว้นหนานซวิ่น นำโดยเจ้ากรมขุนนางเจิงจินเถาเป็นหัวหน้าคณะทูต และมีรองเจ้ากรมมหาดไทยและองครักษ์เลี่ยวฉิงช่าง มีทหารติดตามจำนวนทั้งหมดหนึ่งร้อยนาย เพื่อจะพาองค์หญิงห้าตัวปลอมผู้นี้ ที่มีนักฆ่ามือหนึ่งของแคว้นหนานซวิ่น รับเป็นองครักษ์ข้างกายองค์หญิงห้า มาแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี ใ
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”