“สุราของคุณหนูสวี ช่างไม่เหมือนสุราที่เปิ่นไท่จื่อเคยดื่ม แปลกมากที่มันมีกลิ่นหอมแม้จะดื่มลงไปแล้วก็ตาม” “หม่อมฉันเห็นด้วยเพคะเสด็จพี่ แม้แต่สุราของสตรีเช่นหม่อมฉัน ก็ยังดื่มได้ง่ายกว่าเดิมมาก มันอร่อยคล้ายจะเป็นผลไม้ แต่ก็เป็นสุรา ในเวลาเดียวกัน คุณหนูสวีช่างเก่งกาจยิ่งนัก ที่คิดค้นสุราหมักนี้ขึ้
“แต่ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน ก็คือพวกขุนนางที่หาผลประโยชน์จากชาวบ้าน ที่ใช้ชีวิตอยู่ยากลำบากเหล่านั้นด้วย พวกมันไม่สนใจถูกผิดอาจทำร้ายเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านได้พ่ะย่ะค่ะ” เซียวหนิงหลงไม่ลืมที่จะย้ำเตือนกับเหล่ารัชทายาท ถึงเรื่องการใช้วิธีหัวหมอของขุนนาง “เจิ้นคิดว่าที่ซื่อจื่อกับคุณชายสวีกล่าว มี
งานเลี้ยงส่วนพระองค์ของฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง และรัชทายาทจากทั้งสี่แคว้นผ่านพ้นไปด้วยความราบรื่น ทั้งยังมีการเจรจาทำการค้า รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่นอกเขตหัวเมือง ซึ่งบุรุษในครอบครัว ต้องออกไปหางานทำหลังจากหมดฤดูกาลเพาะปลูก พระชายาหลี่เยี่ยนถิงที่สนใจกิจการความงาม ได้ทำตามคำแนะนำของลู
“รับทราบขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อนขอรับ”“ขอบใจมาก เจ้าไปทำงานต่อเถิด”“แม่ทัพฉานก็คิดอยากเป็นใหญ่ยืนอยู่เหนือคนนับแสน ยังดีที่ท่านอ๋องกับซื่อจื่อคัดเลือกหน่วยลับ ติดตามคอยดูแลรัชทายาทไปพอสมควรแม่ทัพฉานจึงลงมือไม่สะดวก ครั้งนี้ส่งคนสนิทมาถึงเมืองหลวงย่อมลงมือกับฝ่าบาทโดยตรง แต่เจอแผนการป้องกันขอ
“สรุปว่าเป็นใครกันที่มาเคาะประตู เจ้าถึงอารมณ์ไม่ดีกลับมา”“หึ จะเป็นใครก็เจ้าปาเซี่ยอย่างไรเล่า ยามนี้การมีอยู่ของพวกเราถูกพวกมันรู้เข้าเสียแล้ว ข้าถามว่ารู้ได้อย่างไรแต่มันไม่ยอมตอบคำถามของข้า”ทงเทียนไม่ได้ตอบกลับไปเมื่อฟังที่เจวี๋ยเฟิงพูดมา เขารีบเปิดจดหมายทันทีพอเห็นข้อความเท่านั้น ถ้วยชาบนโต๊ะ
“ทงเทียนนนนน!!! เจ้ากล้าสังหารสหายข้าเช่นนั้นก็อย่าอยู่เลย พวกเราฆ่าพวกมันให้หมด”“ซื่อจื่อปล่อยเป็นหน้าที่พวกข้าน้อยเอง ท่านอย่าออกแรงให้เหนื่อยกับคนพวกนี้เลยจะดีกว่าขอรับ”“อืม อย่ายืดเยื้อพวกเรายังมีงานสำคัญ แค่พวกอวดดีขี้อิจฉาเห็นใครได้ดีกว่าตนเองไม่ได้ ข้าให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งเค่อแล้วตามไปพบข้าที
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”