“แมะ เอิ๊ก ๆ” ร่างอวบอ้วนของเสี่ยวเหลียนที่กำลังนั่งเล่นกองดินอยู่ใต้ร่มไม้ เมื่อมองสบตากับมารดานางจะยิ้มกว้างเห็นฟันสวย ๆ หนึ่งซี่ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับท่านแม่
ด้านลี่อินยามใดได้มองหน้าเจ้าตัวน้อย ส่งยิ้มหน้าบานหัวเราะเสียงดัง เพียงเท่านี้นางก็หายเหนื่อยได้ในทันที พร้อมกับส่งยิ้มหวานตอบกลับบุตรสาวตัวน้อย
“รอแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะเสี่ยวเหลียน แม่ปลูกมันเสร็จแล้วจะรีบไปหาหนูเลย” หญิงสาวพูดเสียงเล็กเสียงน้อย เจ้าตัวเล็กก็รู้เรื่องเสียจริงเพียงได้ยินเสียงมารดาบอก เสี่ยวเหลียนก็ตอบรับในทันที
“จ๋า จ้ะ” ยิ้มหวานให้ท่านแม่หนึ่งที เสี่ยวเหลียนก็ก้มลงเล่นดินต่อ มิได้สนใจมารดาอีกเลย
จากนั้นลี่อินจึงหันกลับมาปลูกหัวมันตามร่องดินที่ขุดไว้ต่อ แม้พื้นที่หลังกระท่อมน้อยที่นางใช้ปลูกจะไม่ใช่ที่ดินของตนเอง แต่ด้วยความสงสารชาวบ้านและหัวหน้าหมู่บ้านหงชุน ได้อนุญาตให้นางใช้สอยพื้นที่ว่างไปก่อนได้ จนกว่าที่ดินผืนนี้จะมีเจ้าของครอบครอง
ลี่อินจึงได้เลือกปลูกหัวมันและต้นกล้วย เผื่อว่าในอนาคตนางจะได้เก็บผลผลิตนำมากินและขายได้ จะได้มีตำลึงเงินไว้เลี้ยงเสี่ยวเหลียนน้อยของนางด้วย เพราะรายนั้นยิ่งโตก็ยิ่งกินเก่งเหลือเกิน เสี่ยวเหลียนเป็นเด็กอารมณ์ดีเลี้ยงง่าย หากไม่สบายตัวหรือเจ็บป่วยแม่หนูน้อยก็แทบจะไม่ร้องไห้โยเยเลย
ตั้งแต่ที่นางมาทะลุมิติมาอยู่ในยุคจีนโบราณ ตอนนี้ก็เป็นเดือนที่สามแล้ว หญิงสาวเริ่มปรับตัวได้มาก เสี่ยวเหลียนก็ได้ขวบกว่า เด็กน้อยสามารถพูดได้เป็นคำสั้น ๆ และปล่อยให้เล่นด้วยตนเองได้แล้ว แต่ก็ยังต้องอยู่ในสายตาลี่อินตลอดเวลา
ด้วยตัวนางเองเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่มาขออาศัยอยู่เท่านั้น ลี่อินพยายามเข้าหาผู้คนในหมู่บ้านหงชุนเพื่อจะได้ผูกมิตรเอาไว้ เพื่อว่าในภายภาคหน้านางต้องการความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
จากความพยายามขยันขันแข็งและความมีน้ำใจ ทำให้ท่านป้าเจียงให้ความเอ็นดูช่วยเหลือลี่อินในยามนางขัดสน ซึ่งท่านป้าเจียงมีบุตรชายเป็นถึงบัณฑิต รับสอนหนังสือสถานศึกษาอยู่ในเมืองฉงชิ่ง พอจะมีหน้ามีตาผู้คนให้ความเกรงใจ
อีกทั้งยังเป็นผู้รับรองลี่อินกับหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อให้นางมีชื่อเป็นผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหงชุน แต่กระนั้นก็ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มที่ยังหัวโบราณ รังเกียจและมีอคติกับนางอยู่ดี
เพราะสตรีม่ายที่มีลูกติดมักจะถูกมองในทางที่ไม่ดี มีดวงกินผัวอยู่กับผู้ใดก็รังแต่จะนำความอัปมงคลมาให้ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นลี่อินจึงไม่ได้ใส่ใจ
“ลี่อินมีกล้วยให้ป้าสักหวีหรือไม่” ป้าเจียงเป็นลูกค้าขาประจำซื้อกล้วยกับลี่อิน ด้วยเพราะสงสารอายุยังน้อยต้องมาหนีตายจากสงคราม พ่อแม่ญาติพี่น้องและสามีตายกันหมด อีกทั้งยังมีลูกน้อยต้องเลี้ยงดู
“มีเจ้าค่ะท่านป้าเจียง เดี๋ยวข้าไปนำมาให้นะเจ้าคะ” หญิงสาววางงานในมือลงทันที รีบลุกไปนำกล้วยมาให้ท่านป้าเจียง
ลี่อินมักจะเข้าไปเก็บกล้วยในป่าตรงข้ามกับกระท่อม เพราะนางเห็นว่าตรงแถบนั้นมีต้นกล้วยเกิดอยู่มาก หากว่ามีเครือไหนที่พอจะนำมาเก็บไว้ได้หญิงสาวก็จะตัดมาเก็บไว้ ซึ่งหากถามว่าเหตุใดชาวบ้านคนอื่นถึงไม่ได้มาเก็บไปกินน่ะหรือ
ชาวบ้านบางคนก็มาเก็บไปกินบ้าง เพียงแต่ด้วยมีงานต้องทำในแต่ละวัน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเข้าป่ากันมากนัก ลี่อินจึงถือโอกาสยึดเป็นอาชีพขายกล้วยเสียเลย ชาวบ้านหมู่บ้านหงชุนเกือบทุกครัวเรือนจะยึดอาชีพทำนาและปลูกผัก เพื่อนำไปขายในเมืองฉงชิ่งหรือส่งพวกพ่อค้าคนกลาง ที่มารอรับซื้อไปขายต่อยังต่างเมือง
ด้วยในป่าแถบนี้ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์สักเท่าไหร่ ทำให้ไม่สามารถยึดอาชีพเป็นนายพรานล่าสัตว์ หรือหาของป่าได้
“ไหนดูสิว่าเรตติ้งจะดีไหม” ร่างบางเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องมือทำมาหากินคู่กาย ได้แอบลุ้นว่ายอดวิวจะดีไหม“ยอดวิวห้าหมื่นในหนึ่งวัน ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ยฉัน” แต่พอลองตบหน้าตัวเองดูมันก็เจ็บ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้ ปกติแล้วในความทรงจำของอ้อมแอ้ม นิยายของเธอหนึ่งวันยอดวิวหลักสิบ ครึ่งหนึ่งจากแฟนคลับเดนตายของเธอ อีกครึ่งคือคนที่แวะเข้ามาด่าหญิงสาวรีบกดรีเฟรชหน้าเว็บดูอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบนิยายไม่ได้รวน แต่กดเท่าไหร่ก็มียอดเท่าเดิม ไม่สิมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างหาก‘ฮือออ ไรท์คะ นางเอกกับลูกสาวสู้ชีวิตมาก’‘ติดตามเลยค่า นิยายสนุกมาก’‘อู๊ยยย พระเอกคือดีงาม’‘น้อนน่าร๊ากกก’‘ไรท์เปลี่ยนแนวนิยายแล้วหรือคะ นิยายเรื่องเก่าของไรท์ประสาทแดกมากค่ะ’และยังมีอีกหลายคอมเมนต์แต่ก็มาในทิศทางที่ดี แสดงว่าตัวเธอมาถูกทางแล้ว ที่เหลือก็รอยอดอีบุ๊กอีกสองวัน เปิดขายวันแรกจะเป็นอย่างไรก็ต้องมาวัดกันแล้ว ว่าเธอควรจะสามารถยึดอาชีพนักเขียนต่อไปไหม ถ้าไม่โอเคก็จะหาอย่างอื่นทำเสริมสองวันผ่านไป“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง” อ้อมแอ้มกำลังนับถอยหลัง เธอกำลังลุ้นกับยอดขายอีบุ๊กเรื่องแรกในฐานะอ้อมแอ้มคนใ
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โลกใบนี้ช่างตื่นตาตื่นใจเสียจริง ลี่อินฟื้นขึ้นมาในห้องที่ดูแปลกประหลาดไม่คุ้นตา กับใบหน้าของเธอที่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ในตอนแรกลี่อินก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเรื่องน่าอัศจรรย์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองได้ลี่อินฟื้นขึ้นมาในวันหนึ่งพบว่าตัวเองอยู่ในห้องสีขาว มีเครื่องมือแปลกประหลาด มีสายอะไรต่อมิอะไรห้อยระโยงระยางตามตัวเธอเต็มไปหมด ความทรงจำเดิมเริ่มกลับมากเป็นสาย เรื่องราวมากมายไหลเวียนเข้ามาภายในหัวไม่หยุดอ้อมแอ้มหรือก็คือชื่อใหม่ของเธอ ไม่เพียงแค่ความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง แต่ยังมีอีกอย่างที่เธอได้ อ้อมแอ้มตัวจริงสลับไปเป็นลี่อิน พวกเธอทั้งสองต่างสลับกันอยู่ในโลกต่างมิติของกันและกัน ไม่สิไม่ใช่เธอสองคนแต่เป็นคนเดียวกันต่างหาก คนหนึ่งเป็นมิติอนาคตส่วนอีกคนเป็นมิติโบราณ มิติที่ควรจะเป็นไปตามครรลองของกาลเวลาที่มันควรจะเป็น มันกลับเปลี่ยนสลับเธอให้กลับไปในมิติต่างเวลาหลังจากพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลในประเทศจีนจนหายดีแล้ว อ้อมแอ้มก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย ต่อจากนี้ไปเธอคืออ้อมแอ้ม และจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามใจของตัวเอง ที่แห่งนี้มีทั้งอิสระไม่มีกฎระเบีย
“หนูซื้อหมดเลย คุณยายขายเท่าไหร่คะ” อ้อมแอ้มรับของมาถือไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะล้วงเอากระเป๋าเงินออกมา เพื่อจะจ่ายเงินค่าโสมให้กับคุณยาย“หนึ่งร้อยหยวนลูก” เห็นไหมหลานของนางน่ารักถึงเพียงนี้ ตาแก่นั้นทำหลานสาวนางได้ลงคอ“นี่ค่ะคุณยาย แต่ทำไมขายถูกนักล่ะคะ” เธอคิดว่ามันถูกมากเกินไป เงินหนึ่งร้อยหยวนเทียบกับเงินไทยแล้วเป็นเงินแค่ห้าร้อยยี่สิบห้าบาทเอง ถูกกว่าร้านอาหารบางที่ที่เธอเข้าไปทานมาอีก โสมสามต้นเธอก็เปิดดูแล้ว หากเอาไปขายก็คงจะได้ราคาดีอยู่ ถึงจะไม่มีความรู้เรื่องโสมแต่หญิงสาวก็มั่นใจว่ามันจะต้องแพงกว่านี้“ยายคิดแค่นี้ หนูก็เก็บใส่กระเป๋าไว้ให้ดี มันจำเป็นหนูจะต้องได้ใช้มัน”“คุณยายคะ อะอ้าว หายไปไหนแล้วล่ะ” เธอแค่ก้มเก็บของใส่กระเป๋าแป๊บเดียวเอง จะว่าคุณยายเดินเร็วก็คงจะไม่ใช่ เวลาแค่ไม่ถึงนาทีจะหายตัวไปได้อย่างไรกัน อย่าบอกนะว่าเป็น...? ยิ่งอยู่ในวัดด้วย วิ่งสิคะรออะไร“อ๊ากกกกกกกก”อีกหนึ่งโลกมิติ‘ลี่อินเอ๊ย’ลี่อินที่วันนี้นอนซมเพราะพิษไข้ นอนอยู่บนเตียงทำจากไม้ไผ่กลางเก่ากลางใหม่ ตัวนางที่ดูเหมือนจะหลับลึกตั้งแต่หัวค่ำ แต่ตอนนี้หูกลับได้ยินเสียงของใครบางคนแว่วอยู่ข้างหู หญิงส
ผู้เฒ่าดวงชะตาแทบจะนั่งไม่ติด เดินวกไปวนมาคิดจนหัวแทบจะระเบิด แต่ก็ยังไม่สามารถคิดหาวิธีแก้ไขความผิดของตนเองได้ สองวันที่แล้วในขณะกำลังทำหน้าที่ของตนอยู่นั้น ด้วยเพราะความเผอเรอทำให้เขาขีดเขียนเส้นดวงชะตาสลับกันทำให้คนอีกช่วงเวลาแห่งมิติที่ถึงเวลาตายกลับไม่ตาย ส่วนคนที่ชะตายังไม่ถึงฆาตกลับสลับดวงวิญญาณเป็นคนที่ต้องตายแทน ตอนนี้วงล้อแห่งดวงชะตาของพวกนางทั้งสองได้หมุนสลับมั่วกันไปหมด ผู้เฒ่าดวงชะตาไม่รู้จะทำเช่นไรดี คนที่ต้องตายแต่ไม่ตายก็ช่างเถิด แต่คนที่ยังไม่ถึงชะตานี่สิคือปัญหาใหญ่เหลือเวลาอีกเพียงน้อยนิด ก็จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงตามวงล้อแห่งชะตาแล้ว หากจะขีดเขียนเส้นดวงชะตาขึ้นใหม่ก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก เวลานี้ตาเฒ่าหัวหงอกเช่นเขาก็ยังคิดวิธีไม่ออกจะแก้เช่นไรได้ทันกัน“ตาเฒ่าเหตุใดถึงหน้าไม่สู้ดีนักเล่า” แม่ซื้อเห็นเฒ่าดวงชะตามีสีหน้าไม่สู้ดีมาหลายวันแล้ว นางรู้สึกเป็นห่วงจึงได้ลองมาถามไถ่ถึงสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ“คือว่า เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะยายเฒ่า” เฒ่าดวงชะตาตัดสินใจเล่าให้กับแม่ซื้อฟัง เขาพยายามคิดแก้ปัญหาเรื่องนี้คนเดียวมาหลายวันแล้ว คิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเสียทีโป๊ก
“อะแฮ่ม ท่านแม่ของพวกเจ้ากำลังจะมีน้อง” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืดออก พูดอย่างภูมิใจแจ้งข่าวดีให้กับลูก ๆ ทั้งสาม ส่วนใบหน้าหรือก็ยิ้มไม่หุบ“ข้าไม่เอาน้องสาวนะเจ้าคะ” อี้หลานฮวา“ข้าก็ไม่ชอบน้องสาว” หวงหลานฮวา พร้อมกับเหล่ตาไปทางน้องเล็กสุด ที่มือไม่เคยว่างเว้นกัดกินหมั่นโถวเต็มปาก จากนั้นก็เคี้ยวจนแก้มตุ่ย“ข้าจะได้เป็นพี่” ไป๋หลานฮวา ต่อไปนางก็ไม่ต้องคอยทำตามคำสั่งของใครแล้ว นางจะได้เป็นผู้สั่งบ้างเสียที แค่คิดก็มีความสุขแล้วนางจะใช้น้องเล็กไปเอาของกินในครัวมาให้ ยามที่ถูกท่านแม่จำกัดมื้ออาหารเด็ก ๆ ทั้งสามเมื่อรู้ว่าท่านแม่จะมีน้อง ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขอเป็นน้องชายบ้าง เพราะว่าท่านพี่หลี่เจี๋ยบุตรชายของท่านป้าเฟยฮวาทั้งฉลาดและเก่งกาจ พวกนางก็อยากจะได้น้องชายแล้วเก่งดั่งเช่นท่านพี่หลี่เจี๋ยบ้าง ด้วยตนเป็นสตรีต้องทำตามขนบธรรมเนียม บางอย่างก็ไม่สามารถทำได้ จึงอยากจะให้น้องที่กำลังจะเกิดมาเป็นชายมากกว่าสตรี“ท่านพี่แล้วเสี่ยวเหลียนไปไหนเจ้าคะ ไม่เห็นสองสามวันแล้ว” ลี่อินถามถึงบุตรสาวอีกคนเสี่ยวเลียนพอโตเป็นสาวรูปโฉมงดงามไม่แพ้หญิงงามอันดับหนึ่ง เป็นถึงท่านหญิงมู่ตานผู้เลื่องชื่อ ใน
“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว ประเดี๋ยวข้าจะจัดเทียบยาบำรุงครรภ์ให้นะขอรับ” ท่านหมอประจำตระกูลกล่าวแสดงความยินดี“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”ลี่อินที่มีสีหน้าซีดเซียวนอนดมยาดมอยู่บนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน หญิงสาวคิดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ ก็ในเมื่อสามีตัวดีไม่เคยว่างเว้นเลยสักวัน นี้ก็ผ่านมาสิบปีแล้วสามีก็ยังคงตัวติดกันมิได้ห่าง เมื่อก่อนเป็นเช่นไร ผ่านไปสิบปีแล้วก็ยังคงเป็นเช่นเดิมนางก็อุตส่าห์กินยาคุมกำเนิดมิได้ขาดแล้วเชียวนะ ก่อนกินยังตรวจดูให้ดีเสียก่อนจะกินทุกครั้ง ด้วยกลัวว่าสามีตัวดีจะแอบเปลี่ยนเม็ดยาคุมกำเนิดอีก ก็ระวังตัวดีแล้วเชียวเหตุใดถึงได้ตั้งครรภ์อีกจนได้เอ๊ะ!หรือว่านางเองที่เป็นคนลืมกินยาคุมกำเนิดกันนะ แล้วจะเป็นตอนไหนกัน หรือว่าจะเป็นตอนที่แอบหนีไปท่องเที่ยวกันสองคน หรือจะเป็นตอนแอบหนีลูก ๆ ไปเที่ยวงานประจำเมือง หรือจะเป็นตอนที่สามีกลับจากทำภารกิจตึง ตึงปัง“ภรรยารักเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง พี่ดีใจเหลือเกินที่เรากำลังจะมีลูกเพิ่มอีกแล้ว” แม้เวลาจะเปลี่ยนไปกว่าสิบปี แต่ทว่ากาลเวลาก็ไม่อาจทำให้ชายหนุ่มดูแก่ลงเลย เขายังคงดูหนุ่มแน่นทั้งยังดูสง่างามยิ่งกว่