แชร์

ตอนที่ 6 ร่วมโต๊ะเสวย

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-07 20:31:03

 

สาวใช้ถอยหลังพร้อมก้มหน้า ชิงเยี่ยนเองก็เริ่มทำตัวไม่ถูก นางจึงลุกขึ้นด้วยพร้อมกับยืนรอเขาในห้อง ขายาวนั้นก้าวเข้้ามาในห้องเสวยและหันมามองนาง แต่ว่า….เหตุใดวันนี้เขาจึงสวมหน้ากากครึ่งหน้าเช่นนั้นกันนะ!!

""ถวายบังคมท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ""

ชิงเยี่ยนก็ก้มคำนับเขาเช่นกัน ลั่วอ๋องหันมามองนางที่ยืนก้มหน้าและหันไปที่สาวใช้ เขานึกขำในใจที่นางคงทำตัวไม่ถูก แม้ว่าจะอยู่ในสกุลฟ่างแต่ดูเหมือนว่านางจะมิค่อยได้ออกงานทางการเท่าใดนัก

“ตามสบายเถิด พวกเจ้าออกไปได้แล้ว ไม่ต้องเฝ้าพวกข้า”

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”

ชิงเยี่ยนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหันหาความช่วยเหลือแต่ไม่มีผู้ใดสบตานางเลยสักคน พวกเขารีบพากันออกไปจนหมด บัดนี้เหลือเพียงนางกับท่านอ๋องที่สวมเพียงหน้ากากสีเงินตรงหน้าเท่านั้น

“พระชายา เจ้าไม่กินข้าวงั้นหรือ นั่งลงสิ ข้าหิวแล้ว”

“เพคะ หม่อมฉันก็หิวแล้ว รอนานแล้วด้วยเช่นกัน พระองค์มาสายนะเพคะ อาหารจะเย็นหมดแล้ว”

“หุบปาก!!”

ชิงเยี่ยนหยุดพูดทันที เมื่อใดที่นางตื่นเต้นนางมักจะพูดมากเกินความจำเป็น ไม่นึกว่าพอออกมาจากจวนสกุลฟ่างแล้วนางกลับรู้สึกว่าที่นี่ดูเป็นบ้านมากกว่าที่สกุลฟ่าง ขาดแต่เพียงว่า…

คนตรงหน้านี้ เหตุใดจึงดุดันเช่นนี้กันนะ ท่านอ๋องหันมามองนางที่นั่งตัวลีบแต่มิได้แสดงออกว่ากลัวเขา แต่แค่รู้สึกทำตัวไม่ถูกเท่านั้น เขาไม่เคยเห็นผู้ใดเป็นเช่นนี้มาก่อนเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ส่วนใหญ่จะกลัวเขามากกว่าจะกล้ามานั่งร่วมโต๊ะเช่นนี้

“เงียบแล้วกินข้าว”

“หม่อมฉันกินได้แล้วใช่หรือไม่เพคะ”

“กินสิ ผู้ใดผูกปากเจ้าไว้เล่า”

ชิงเยี่ยนหันมาค้อนให้เขาเล็กน้อย แต่สายตาดุดันนั่นทำเอานางหลับตาหลบได้อย่างรวดเร็ว ยังเร็วเกินไปที่จะต่อกลอนกับเขาในตอนนี้

นางพยายามทำตัวให้ร่าเริงเข้าไว้ เพื่อให้ดูเหมือนว่าไม่กลัวเขามากนัก ใจดีสู้เสืออาจจะทำให้นางรอดพ้นความตายไปได้

“กินก็ได้เพคะ”

นางหยิบหมั่นโถวมาในจานและตักน้ำแกงมาพร้อมกับตักหมูแดงใส่จานเล็กๆมา ท่านอ๋องกินเพียงข้าวต้มและมองนางกินเงียบๆ

นางกำลังแบ่งหมั่นโถวออกมาและใช้หมูแดงราดลงไปและหยิบเข้าปากไปพร้อมกับทำหน้าราวกับว่านี่คืออาหารที่รอคอยมานานแสนนาน

“อื้ม อร่อยมาก นี่สิหมูแดงของแท้”

ท่านอ๋องไม่เอ่ยสิ่งใด ตอนนี้ชิงเยี่ยนหยิบผักมาวางที่จานพร้อมกับตักหมูแดงนั้นไปวางบนผัดสดและห่อเป็นคำเล็กๆและลองกินดู ลั่วอ๋องไม่เคยเห็นผู้ใดกินอาหารได้แปลกเช่นนางมาก่อนเลย

“นี่เจ้า…..เหตุใดจึงกินแบบแปลกๆ”

“แปลกงั้นหรือเพคะ อ่อ ไม่แปลกหรอกเพคะ ก่อนหน้านั้น…”

ชิงเยี่ยนลืมตัวไป นางจะบอกเรื่องที่นางอยู่อย่างอดอยากที่สกุลเฟิ่งหาได้ไม่ เพราะที่นั่นกว่าจะมีหมั่นโถวสักชิ้นที่แอบขโมยจากห้องครัวมา

หรือผัดหมูแดง ผัดผักสักจาน ก็ต้องนำมากินกับผักที่นางแอบปลูกเอง สีหน้าของนางเมื่อนึกถึงวันเก่าๆนั้นทำให้ท่านอ๋องรู้สึกสงสัยยิ่งนัก

“เหตุใดจึงเงียบไป”

“เปล่าเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่…ชอบกินเช่นนี้เท่านั้น”

แม้ว่าจะตอบไปแล้ว แต่ชิงเยี่ยนก็เลี่ยงที่จะทำเช่นเดิม นางยกเพียงข้าวต้มเช่นเดียวกับเขามากินเงียบๆ ไม่พูดสิ่งใดต่อ ลั่วหมิงจ้านรู้สึกว่าตนพูดผิดจังหวะทั้งๆที่กำลังมองนางกินด้วยความเพลิน ไม่น่าไปขัดจังหวะนาง แต่ดูเหมือนพระชายาของเขาผู้นี้มีความลับซ่อนอยู่ไม่น้อยจนเขานึกสนใจยิ่งนัก

“วันนี้…เจ้าจะทำสิ่งใด”

“หม่อมฉัน…ขออนุญาตออกไปข้างนอกได้หรือไม่เพคะ”

ช้อนในมือชะงักลง เขาไม่ได้มองมาที่นาง แต่มองที่ชามข้าวต้มที่ถืออยู่ นางก็ไม่ต่างกับคนอื่นๆ ที่แต่งเข้ามาแล้วอยากหาทางที่จะหนีออกไปจากตำหนักนี้เช่นกัน

“เจ้าจะไปที่ใด หาลู่ทางงั้นหรือ”

“อะไรนะเพคะ พระองค์ทรงตรัสอะไรนะเพคะหม่อมฉันหาได้ยินไม่ คือว่าหม่อมฉันรับปากกับจงลี่และอู่ผิงไว้ว่าจะสอนพวกนางปักผ้าเพคะ ก็เลยอยากไปเลือกซื้อผ้าสักหน่อยเพคะ หากว่าพระองค์จะทรง…อนุญาต”

หัวใจของท่านอ๋องรู้สึกราวกับว่าได้ตากแดดอุ่นๆในยามเช้า เหตุผลที่นางอยากออกไปมีเพียงเท่านี้เองน่ะหรือ หรือเขาจะคิดมากเกินไป แต่ท่าทางของนางที่นั่งกินข้าวอยู่ก็มิได้เหมือนคนโกหก

“เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปเถิด ข้าจะให้ป้าเจาจัดการเป็นธุระให้ แต่เจ้าต้อง…”

“หม่อมฉันจะปกปิดฐานะและมิให้ผู้อื่นทราบเพคะ พระองค์อย่าได้ทรงกังวล หม่อมฉันทราบว่าต้องทำเช่นไรเพคะ”

“ดี เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า”

“เย้ ขอบพระทัยเพคะพระสวามี”

ท่านอ๋องตกใจแต่กลับนิ่งชะงักไป หูอื้อตาลายเพราะคำกล่าวนั้นทันที เมื่อครู่นี้นางเรียกเขาว่า “พระสวามี” เช่นนั้นหรือ เขามิได้หูฝาดสินะ นี่นางนอกจากจะไม่เกรงกลัวเขา แต่ยังทำตัวตามสบายต่อหน้าเขาอีกด้วยงั้นหรือ

“อืม”

ชิงเยี่ยนยิ้มด้วยความอารมณ์ดีเมื่อได้รับอนุญาต นางเริ่มกินข้าวได้มากขึ้นและทำตัวตามสบายแม้ว่าจะเกร็งไปบ้างแต่เพราะท่านอ๋องที่นั่งนิ่งราวขอนไม้และกินไปเงียบๆทำให้นางไม่รู้สึกกดดันมานัก

ลั่วอ๋องเองก็แอบมองนางที่กินอย่างอารมณ์ดีตรงหน้าจนลืมตัว เขาไม่เคยกินข้าวได้มากขนาดนี้มาก่อน และไม่อยากลุกจากโต๊ะอาหารนี้ด้วยเมื่อมีนางนั่งอยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะกินข้าวได้มากขึ้น

“หม่อมฉันอิ่มแล้วเพคะ เช่นนั้นขอตัวไปเตรียมตัวก่อนนะเพคะ”

“อืม”

ชิงเยี่ยนคำนับให้เขาและเดินออกจากห้องเสวยไปพร้อมกับสาวใช้สองคนที่รอนางอยู่ พร้อมกับกระซิบบางอย่างบอกพวกนางและพากันดีใจจนเกิดเสียงดังขึ้น เสียงนั้นดังจนท่านอ๋องได้ยิน มุมปากของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย นี่คงเป็นยิ้มแรกในรอบสิบปีเลยก็ได้กระมัง

“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ทรงอนุญาตให้พระชายา…”

“อืม ให้คนตามอารักขานางเงียบๆ ดูท่าทีและอย่าลืมเรื่องที่ให้สืบ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

จางจื่อเงยหน้าขึ้นมามองที่โต๊ะอาหาร ซึ่งพบว่าอาหารบนโต๊ะหมดไปเกือบทุกอย่าง รวมถึงข้าวต้มของท่านอ๋องด้วยที่กินไปถึงสองชาม เขาไม่เคยเห็นท่านอ๋องเสวยมากเช่นนี้มาก่อนเลย พระชายาคงมิใช่สตรีธรรมดาแน่แล้ว 

“ท่านอ๋อง พระองค์….”

“ข้าอิ่มแล้ว ให้คนมาเก็บได้ อ่อ บอกให้ห้องเครื่องเพิ่มหมูแดงกับหมั่นโถวในทุกๆมื้อด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ท่านอ๋องลุกขึ้นพร้อมกับหันมามองจานหมั่นโถวและหมูแดงที่เกือบหมดเกลี้ยงเพราะฟ่างชิงเยี่ยนที่ดูเหมือนจะชอบอาหารนี้ เขายิ้มน้อยๆและเดินออกไปทันที      จางจื่อคิดว่ามองไม่ผิดแน่ เมื่อครู่นี้ ท่านอ๋องโลหิตผู้นั้น “กำลังแย้มพระสรวล!!”

ตลาดเมืองซูโจว

“พระชายาเพคะ ลายนี้ก็งามนะเพคะ”

“ป้าเจา มาดูนี่เจ้าค่ะ”

“พระชายาเพคะ”

“เอ๊ะ พวกท่านนี่นะ บอกไม่จำ ข้างนอกนี่ให้เรียกว่าอะไร”

“เอ่อ คุณหนูเพ…เจ้าคะ คือว่า…”

“ป้าเจา คุณชายให้ท่านมาดูแลข้า เอาน่า เราแค่มาซื้อผ้าและของใช้นิดหน่อยเอง ท่าน..ท่านพี่ไม่ว่าอะไรข้าหรอกเจ้าค่ะ จ่ายเงินเถิดป้าเจา”

“เจ้าค่ะๆ คุณหนูจะซื้อผ้านี้ไปทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“จะสอนพวกนางเย็บหมอนและปักถุงหอมเจ้าค่ะ”

“คุณหนูจะทำให้ท่าน…เอ่อ คุณชายงั้นหรือเจ้าคะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้านี่แหละพระชายาท่านอ๋องโลหิต   ตอนพิเศษ 3  เจ้าของที่แท้จริง

    “เรื่องของข้างั้นหรือ เรื่องใดกัน”“เหตุใดสามในสี่ของยอดบุรุษหนุ่มแห่งต้าเฉิน จึงไม่มีสมญานาม มีเพียงท่านที่ผู้คนเรียกว่าท่านอ๋องโลหิตเพคะ”“เรื่องนี้…น่าจะมาจากประวัติการแต่งงานที่ล้มเหลวของข้า ไม่สิ ต้องบอกว่าเพียงเพราะครั้งที่เจ็ด ที่ข้าลงมือฆ่านางเอง”“มีคนรู้เรื่องนี้มากหรือเพคะ”“ใช่ ข้า…ฆ่านางตายที่หน้าตำหนัก ผู้คนพบเห็นมากมายแต่ในตอนนั้นข้าสวมหน้ากากน่ะ”“หน้ากากอันนั้น!!”“ใช่ เพราะนางข้าเลยสั่งทำหน้ากากมาเพื่อป้องกันตัว เพราะรู้แน่ว่านางมิใช่สตรีธรรมดาและเมื่อสืบรู้ว่านางเป็นกบฏของซุนหวง จวินอ๋องจึงเสด็จมาที่นี่เพื่อช่วยข้าจับนาง แต่ผู้คนที่นี่มิได้้มีผู้ใดรู้จักจวินอ๋อง ดังนั้นเมื่อเห็นว่าข้าฆ่าสตรีผู้นั้น พวกเขาจึงได้เรียกข้าว่าอ๋องโลหิต ฆ่าคนหน้าตายไร้ความรู้สึก”“แต่พวกเขามิได้รู้เลยว่าหากพระองค์ไม่ฆ่านางในวันนั้น นางจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านและแผ่นดินมากเพียงใด ผู้คนต่างชอบตัดสินคนจากสิ่งที่เห็นในครั้งแรกเสมอโดยมิได้ไตร่ตรอง”“แล้วเจ้าเล่าชิงเยี่ยน เจ้าเองก็กลัวข้ามิใช่หรือ”“เมื่อเทียบกับนรกบนดินที่สกุลฟ่าง หม่อมฉันในตอนนั้นตัดสินใจมาตายเอาดาบหน้าเพคะ หม่อมฉันเลยล

  • ข้านี่แหละพระชายาท่านอ๋องโลหิต   ตอนพิเศษ 2  วิถีนุ่มนวลมิใช่คู่ของเรา

    “ท่านอ๋องเพคะ ไม่คิดว่านี่จะ…”“ไม่ดึกเกินไปหรอก ข้าจะไม่รบกวนเจ้านานและจะนิ่มนวลที่สุด อย่าห่วงเลยนะ”ท่านอ๋องพรมจูบไปทั่วจนมาหยุดที่ริมฝีปากของชิงเยี่ยน เขาเริ่มยั่วยวนเบาๆและเร่งจังหวะจูบมากขึ้นเป็นเร่าร้อน ชิงเยี่ยนบีบแขนเขาแน่นเพื่อเตือนไม่ให้เขารุกเร็วเกินไป ท่านอ๋องตั้งสติได้จึงค่อยๆปลดชุดนางออกทีละชิ้น ลิ้นของเขายังคงละเมียดอย่างช้าๆบนเรือนร่างที่น่าเย้ายวนตรงหน้า “ดูเหมือนว่า หน้าอกของเจ้ามันจะ….”ใช่ มันใหญ่ขึ้นและเต่งตึงมากขึ้นทุกครั้งที่เขาเห็น มิใช่ว่าเขาจะไม่สังเกตแต่เขาพยายามหักห้ามใจเพราะเห็นว่านางตั้งครรภ์อยู่ แต่เมื่อถอดออกจนหมดเช่นนี้ มันยากจะหักห้ามใจเสียยิ่งนัก“อาาา ชิงเยี่ยน เหตุใดเจ้าช่าง….”“อื้ออ ท่านพี่…อ๊าาา หม่อมฉันร้อนมากเพคะ ช่วยด้วย”“ข้ามาแล้ว รอเดี๋ยวนะ…”ลิ้นและนิ้วของเขาทำงานประสานกันอย่างดีโดยที่นางไม่ต้องบอก เขารู้ว่านางชอบให้เขาทำสิ่งใดและสัมผัสนางตรงไหนถึงจะเรียกเสียงครางที่ร้องขอสัมผัสจากเขามากขึ้น ร่างนางเอนแอ่นขึ้นตามสัมผัสจากลิ้นหนานั้นเมื่อมันเริ่มล้วงเข้าไปจนสุดด้านในร่องชื้นจนเกิดเสียง“อ๊าา ไม่ไหวแล้วเพคะ อ๊าา…”น้ำบางอย่างไหลออกมาสมทบ

  • ข้านี่แหละพระชายาท่านอ๋องโลหิต   ตอนพิเศษ 1  พระชายาตั้งครรภ์

    สี่เดือนผ่านไป / ตำหนักท่านอ๋อง“ชิงเยี่ยน!! ข้าบอกว่าให้เจ้าหยุดปักผ้าเสียที”“แต่หม่อมฉันยังปักชุดลูกยังไม่เสร็จนี่เพคะ”“ข้าบอกให้เก็บเดี๋ยวนี้ เหตุใดเจ้าถึงได้ดื้อนักหากยังไม่หยุดมือ…”“โอ๊ย!!”“นั่นอย่างไร เร็วเข้า ส่งผ้ามามาให้ข้า!!”ท่านอ๋องรีบคว้าผ้าและพุ่งเข้าไปหาพระชายาที่ถูกเข็มปักนิ้วมืออีกครั้ง“ข้าบอกแล้วเห็นหรือไม่ นิ้วเจ้าแทบจะไม่มีที่เหลือแล้ว พอเถอะนะชิงเยี่ยนถือว่าข้าขอร้อง เจ้าเจ็บถึงเพียงนี้…ข้าปวดใจนะ”“ท่านพี่เพคะ หม่อมฉันสัญญาว่า…ผืนนี้จะเป็นชุดสุดท้าย…”“เจ้าบอกข้ามากี่ครั้งแล้ว เจ้าว่าลูกเราจะสวมหมดนั่นจริงๆน่ะหรือ เจ้าไม่เผื่อให้เขาได้โตบ้างเลยหรือ”ท่านอ๋องตรัสพลางให้นางหันไปดูชุดที่นางปักเสร็จและถูกพับเก็บเอาไว้เกือบสี่ตะกร้าใหญ่ๆ ด้านในนั้นมีทั้งชุดสวม หมวก ถุงมือถุงเท้าและรองเท้าสำหรับเด็กอีกหนึ่งตะกร้า ทั้งสี่ตะกร้านั้นล้วนเป็นฝีมือการตัดเย็บของนางทั้งสิ้น“แต่ว่า…”“หากเจ้ายังดื้อเช่นนี้ ข้าคงต้องให้คนนำสิ่งพวกนี้ทิ้งไปเสีย หากเจ้ายังมิฟังต่อไปผ้า เข็มและด้ายจะเป็นสิ่งต้องห้ามในตำหนักของพวกเรา”“ท่านพี่เพคะ ทำเช่นนั้นออกจะเกินไปเพคะ หม่อมฉันหยุดก็ได้เพ

  • ข้านี่แหละพระชายาท่านอ๋องโลหิต   ตอนที่ 45 อุ่นไอรัก (ตอนจบ)

    “ท่านพี่เพคะ แต่นี่มัน….”“อย่าร้องไห้สิ จะเป็นแม่คนอยู่แล้วนะ”“แต่ว่า…”“ข้าไหวน่า อาการเช่นนี้เป็นกันแค่ชั่วคราวเท่านั้น ใช่ว่าข้าจะเป็นตลอดจนเจ้าคลอดเสียเมื่อไหร่กันเล่า”“เช่นนั้นตอนนี้พระองค์…”“อืมม พอได้กอดแล้วก็หอมเจ้าเช่นนี้ เหมือนกับว่าอาการเหล่านั้นจะเบาบางลงเลย”“งั้นหรือเพคะ เช่นนั้น….”“เจ้าก็กอดแล้วเข้ามาคลอเคลียข้าบ่อยๆ หรือทุกครั้งที่มีโอกาส เช่นนี้ข้าก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”“เพคะ”วันถัดมา“เอ่อ…ป้าเจา พวกเราบอกให้ท่านอ๋องเพลาๆลงบ้างดีหรือไม่ มิเช่นนั้นจะเสาะท้องเอานะเจ้าคะ”“อาการคนแพ้ท้องก็เป็นเช่นนี้ เจ้ากล้าเข้าไปทูลหรือไม่เล่าอู่ผิง”“ไม่เจ้าค่ะ แต่พระชายา…”“ท่านพี่เพคะ เอาแต่เสวยของหมักของดองกับผลไม้เชื่อมเช่นนี้มิได้นะเพคะ ดื่มน้ำแกงนี่หน่อยเพคะ”“ข้า…หยุดไม่ได้น่ะ เจ้าลองหน่อยหรือไม่”“ไม่เอาละเพคะ แค่เห็นก็เข็ดฟันแล้วเพคะ”“แต่ว่าข้าไม่นึกเลยนะว่ามันจะอร่อยมากถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยลิ้มลองเลย”“อย่ากินมากเพคะ เอาแต่พอดี”“แต่พอกินของพวกนี้แล้วข้าก็ไม่คลื่นไส้อาเจียนอีกเลยนะ”“เฮ้อ…..อ้าวจางจื่อ มีสิ่งใดงั้นหรือ….เอ่อ เช่นนั้นข้า…”นางทำท่าจะลุกเมื่อเห็นว่าม

  • ข้านี่แหละพระชายาท่านอ๋องโลหิต   ตอนที่ 44 ท่านอ๋องอาการหนัก

    ความตกใจและความโกลาหลเริ่มต้นขึ้นนับบัดนั้น ท่านอ๋องเอาแต่อาเจียนไม่หยุด จางจื่อสรุปได้ว่าท่านอ๋องคงเร่งขี่ม้าจากเฉินตูเพื่อกลับมาที่ซูโจวจึงทำให้พักผ่อนน้อย ส่วนชิงเยี่ยนเอาแต่โทษตัวเองเพราะคิดว่าท่านอ๋องคงใช้แรงหนักเพราะเรื่องเมื่อตอนบ่ายจนถึงช่วงเย็น ป้าเจาเองก็คิดว่าอาหารที่ทำมามีปัญหาจนจงลี่ต้องเป็นผู้ให้คนไปตามหมอหลวงเข้ามาดูอาการท่านอ๋อง“เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ”“ทูลพระชายา…กระหม่อมคิดว่า….เอ่อชีพจรเต้นหนักแน่นมั่นคง ลมหายใจมิได้มีสิ่งผิดปกติ ร่างกายมิได้ถูกพิษ ทุกอย่างปกติดีแต่ว่าเพราะเหตุใดจึงได้เป็นเช่นนี้….”แม้แต่ท่านหมอก็มิอาจวินิจฉัยอาการแปลกประหลาดนี้ได้ ทั้งตำหนักพากันวุ่นวาย ท่านหมอทำได้เพียงระบุอาการว่าท่านอ๋องอาจจะเพลียสะสมจากการเดินทางและพักผ่อนน้อยจึงทำให้ปรับสภาพร่างกายยังไม่ดีพอจึงให้ต้มยาบำรุงให้ดื่ม แต่เมื่อสาวใช้นำยานั้นมาให้ ท่านอ๋องกลับเริ่มอาเจียนอีกครั้ง จนคราวนี้ท่านหมอถึงกับกุมขมับเพราะไม่สามารถวินิจฉัยได้“ท่านหมอเจ้าคะ…”“ท่านป้าแม่นม ข้าเป็นหมอมายี่สิบกว่าปียังไม่เคยพบเห็นอาการเช่นนี้มาก่อน สุขภาพภายนอกมิได้มีอันใดผิดปกติเลย เช่นนี้ข้าจะ..”“มิใช่เ

  • ข้านี่แหละพระชายาท่านอ๋องโลหิต   ตอนที่ 43 เหตุใดจึงไม่ปลุก (NC)

    ท่านอ๋องคว้าร่างของพระชายาขึ้นมาอุ้มและพาเดินขึ้นไปที่ห้องบรรทมทันที เมื่อเขาวางร่างของพระชายาลงถึงเตียงทั้งคู่ก็แทบจะไม่ห่างกันแต่ละคนเริ่มสาละวนกับการดึงทึ้งชุดเสื้อผ้าที่เกะกะออก ปากของทั้งคู่แทบจะไม่ห่างกันจนถึงตอนนี้ เมื่อสองร่างไร้ซึ่งสิ่งปิดบังท่านอ๋องเองก็ไม่รั้งรอที่จะเข้าครอบครองนางด้วยลิ้นทันที“อื้ออ ท่านพี่….เบาหน่อยเพคะ”“เบางั้นหรือ เจ้าทำให้ข้าแทบบ้าเมื่อคืนผู้ใดปล่อยให้ข้านอนคนเดียว”“อ๊าา เดี๋ยวก่อน อ๊าา …”ไม่ทันที่นางจะห้ามแต่เขากลับสอดลิ้นเข้ามาในร่องกลีบชื้นของนางและเริ่มใช้มือบดขยี้ปลายยอดปทุมสีสดนั้นอย่างมันมือ ทั้งเร่งเร้าและร้อนเร่าดุจพยัคฆ์ที่หิวโหยมาแสนนาน ร่างของพระชายาสั่นเกร็งไปชั่วขณะเมื่อเขาเริ่มเร่งกระตุ้น เสียงครางที่ดังขึ้นทำเอาพระทัยท่านอ๋องแตกกระเจิง“อ๊าา…จุก อื้อ…อย่าเร็วนักเพคะ หม่อมฉัน อ๊าา …”เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ฟังคำร้องขอใดๆ อย่างที่เตือนนางเอาไว้เมื่อครู่ เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงครางที่ดังขึ้นเรื่อยๆของทั้งคู่และเสียงกล้ามเนื้อที่กระทบกันและเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทั้งสองจะถึงปลายทาง…..“พระองค์จะเกินไปแล้วนะเพคะ”“เจ้ายังมีแรงต่อว่าข้าอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status