로그인ตอนที่ 2 ลาก่อนนางร้าย
เฮือก!!! เจ้าหรูโผล่พรวดขึ้นบนผิวน้ำ รีบสูดเอาอากาศหายใจเข้าไปให้เต็มปอด เมื่อจังหวะการหายใจกลับมาเป็นจังหวะปกติ ไม่เหนื่อยหอบเหมือนในตอนแรกแล้ว เจ้าหรูก็รีบกวาดสายตาสำรวจสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว...
เจ้าหรูยกยิ้มขึ้นทันทีที่ตัวเองแช่อยู่ในบ่อสีเขียวมรกต เธอแหงนหน้าขึ้นมองเห็นท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง สถานที่แห่งนี้คือที่ไหน ทำไมถึงสวยงามมากขนาดนี้...
ท้องฟ้าสว่างสดใส มีสายรุ้งทอดยาวประดับอย่างสวยงาม บรรยากาศบางเบาเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ กลิ่นหอมเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ มันสดชื่นทุกครั้งที่สูดหายใจเข้า เธอชอบที่นี่!! แต่พอนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองอยู่ที่ไหนก็รีบก้มสำรวจร่างกายของตัวเองทันที
"ไม่มีแผล แต่... เอ๊ะ!! เลือด" เจ้าหรูพึมพำกับตัวเอง ร่างกายไม่มีแผล แต่กลับมีรอยเลือดเปื้อนที่สร้อยไข่มุก
"ไม่ออก... " เจ้าหรูพยายามเช็ดและเอาน้ำล้างออก แต่ล้างยังไงเลือดก็ไม่จางหายไป
"มันไม่ออกหรอกเจ้าค่ะ เพราะมันไม่ใช่เลือดของพี่สาว" ถิงถิงชะโงกหน้ามองคนที่กำลังล้างสร้อยไข่มุก พร้อมกับส่ายหัวไปมา
"น้องเป็นใคร ใช่คนเดียวกันกับที่... " เพราะจำได้ว่าตัวเองได้ช่วยเด็กวัยเท่านี้ไว้ แต่เธอเห็นหน้าไม่ชัดเลยไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
"ไม่ใช่เจ้าค่ะ!! ถิงถิงฉลาดมาก... ไม่เดินสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน" ถิงถิงรีบทำหน้าขึงขังทั้งที่ตัวเองกำลังดูดอมยิ้มจนแก้มพอง
"ที่นี่คือที่ไหน" หลาย ๆ อย่างมันทำให้เธอสับสนไปหมด
"พี่สาวขึ้นมาก่อน เลือกลงได้เหมาะเจาะเหลือเกิน" ถิงถิงกลอกตามองบน เหมือนคนนี้จะเลือกที่ลงได้ดีเสียด้วย
"พี่สาวรู้ตัวไหมว่าตัวเองตายแล้ว" เมื่อเห็นอีกคนเงียบ ถิงถิงก็เอ่ยปากถามต่อ
"พอรู้... " เจ้าหรูตอบกลับเหมือนเป็นเรื่องปกติ
"ไม่ตกใจเหรอ" ถิงถิงเอียงคอถามอย่างสงสัย
"ก็มีบ้าง แต่หากไม่ตายนั่นแหละจะน่ากลัวว่า เพราะแรงกระแทกไม่ใช่เบา ๆ พี่อาจพิการหรืออาจจะต้องเป็นอะไรสักอย่าง ไม่มีทางเหมือนเดิมแน่นอน ตายนั่นแหละดีแล้ว จะได้ไม่เป็นภาระใคร" เจ้าหรูพูดไปตามความจริง เพราะเธอตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว
"เหมือนพี่สาวปลงได้เลย" ถิงถิงยังชวนคุยต่อเรื่อย ๆ เพื่อรอเวลา
"เปล่า พี่กลัวลำบาก อยู่แบบนั้นมันจะเป็นภาระคนอื่น พี่คิดแบบนั้น" อย่าบอกว่าปลงได้เลย เธอกำลังจะบ้าแต่พยายามคุมสติ พยายามสะกดจิตบอกตัวเองว่าแบบนี้ดีแล้ว
"ไม่เสียดายอะไรเลยหรือเจ้าคะ ชื่อเสียงเงินทองที่พี่สาวมี"
"เสียดายสิ... แต่เชื่อเถอะว่าไม่นานมันก็หมดไป" หากกลับไปแล้วทำอะไรไม่ได้ บอกเลยว่าไม่นานก็หมดแน่นอน
"ถิงถิงมีบางอย่างจะบอก แต่รอพี่สาวอีกคนก่อน พี่สาวไม่คิดถึงใครในโลกนั้นแล้วจริง ๆ ใช่ไหม" เพราะถิงถิงรู้ดีว่าพี่สาวยังมีหวง... หวงวงโต ๆ ด้วย
"ก็มี แต่ให้ทำยังไงได้... ได้แต่หวังว่าชีวิตเขาจะเจอความสุข" เด็กหนุ่มคนนั้น... ส่วนคนอื่น ๆ มีครอบครัวแล้ว และแน่นอน แม้ไม่มีเธอพวกเขาก็อยู่ได้อย่างสบาย
"หากเป็นเด็กหนุ่มคนนั้น... รับรองว่าเขาจะเป็นแบบที่พี่สาวต้องการแน่นอน ไม่ต้องห่วงเขาเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวถิงถิงมา" เมื่อถึงเวลา ถิงถิงก็รีบวิ่งก้นส่ายดุ๊กดิ๊กหายไปจากบริเวณนั้นทันที
เจ้าหรูนั่งรอและพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง รู้แต่ว่าตัวเองตายแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน เจ้าตัวเล็กก็วิ่งหนีหายไปไหนก็ไม่รู้ เธอกำลังนั่งทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุ้นเคยดังแว่วเข้ามาใกล้ ๆ
"ไม่ได้!! " เจ้าหรูพูดขึ้นทันทีที่เห็นว่าอีกคนคือใคร
"ยัยนางมาร!! " หนิงหนิงหันขวับไปมองตามเสียง พร้อมทั้งเรียกฉายาที่ตัวเองตั้งให้อีกฝ่ายทันที
"ยัยปีศาจ!! " เจ้าหรูตอบกลับโดยอัตโนมัติ พลางเหยียดยิ้มอย่างเหนือกว่า เธอได้ยินว่ายัยปีศาจอยากอยู่ที่นี่ ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่เธอมาถึงที่นี่ก่อน และที่สำคัญ เรื่องยอมอีกฝ่ายง่าย ๆ นั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน หากอยากอยู่ที่นี่ เธอก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุด
แต่พอเจ้าหรูคิดได้ว่าอีกคนก็คงจากโลกที่ตัวเองมาแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน คนที่ไม่ชอบหน้า แต่ดันมาตายพร้อมกัน อยู่สถานที่เดียวกัน และที่สำคัญในมือของอีกคนก็มีสร้อยไข่มุกเหมือนกันอีก!! ทั้งที่ต่างคนต่างเข้าใจว่าตัวเองได้เป็นคนถือครอง หรือที่เข้าใจง่าย ๆ คือ เธอคิดว่าตัวเองเป็นคนชนะ!!
"เดี๋ยวนะ!! ทำไมถึงมีเหมือนกัน!! " สองนางร้ายพูดขึ้นมาพร้อมกัน สายตายังคงจับจ้องสร้อยไข่มุกของอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา
"ฟังก่อนเจ้าค่ะ หากไม่รีบ ทั้งคู่จะติดอยู่ที่เส้นแบ่งความเป็นความตาย แม้แต่คนที่มีอำนาจมากที่สุดก็ไม่สามารถช่วยได้นะ" ถิงถิงบอกวิญญาณทั้งสองตนที่ทะเลาะกันตั้งแต่ยังมีชีวิต จนมาเป็นวิญญาณก็ยังไม่ยอมเลิกทะเลาะกันแบบเด็ก ๆ
"สวัสดี ถิงถิงเป็นภูตน้อยน่ารัก ที่นี่คือมิติของนายหญิง แต่ตอนนี้นายหญิงไม่อยู่ มันเลยเป็นของถิงถิงคนเดียวเจ้าค่ะ" เมื่อทั้งสองเงียบและตั้งใจฟัง ถิงถิงเลยจีบปากจีบคอพูดต่อ พร้อมทั้งยืดคอสั้น ๆ อย่างภาคภูมิใจที่สามารถดูแลมิติของนายหญิงได้ด้วยตัวคนเดียว
"นายหญิงคือใคร" สองสาวถามขึ้นพร้อมกัน จากตอนแรกจ้องสร้อยไข่มุกของกันและกัน ตอนนี้เริ่มจ้องเจ้าภูตน้อยที่บอกเล่าเรื่องแปลก ๆ ที่ทั้งสองไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนจะขยับเข้าหากันและกอดกันโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
"นายหญิงยังไม่กลับมา ถิงถิงกำลังตามหาอยู่ และตั้งใจฟังในสิ่งที่ถิงถิงจะบอกให้ดี... " ถิงถิงเริ่มบอกในสิ่งที่สองสาวจำเป็นต้องรู้ และบอกเท่าที่ถิงถิงจะบอกได้เพียงเท่านั้น
เรื่องราวต่าง ๆ ที่เจ้าหรูได้ฟังจากภูตน้อยนั้น ทำให้เธอต้องตั้งสติก่อนและพยายามทำความเข้าใจ ถึงบางเรื่องจะไม่ค่อยเข้าใจก็ตาม จากที่สรุปด้วยตัวเองนั้น... ในโลกนี้มีสิ่งลี้ลับที่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ มีโลกหลายมิติ มีหลายยุค หลายสมัย และยังมีมิติคู่ขนานอีกด้วย ภูตน้อยถิงถิงเดินทางข้ามกาลเวลาไปตามมิติต่าง ๆ เพื่อตามหานายหญิง จนมาถึงโลกที่เธออยู่ และได้รู้ว่าดวงชะตาของเธอกำลังจะถึงฆาตจึงได้เข้ามาช่วยเหลือ
เจ้าหรูฟังและคิดตาม ไม่ต้องมองหาความสมเหตุสมผลตั้งแต่ที่เธอมาโผล่ที่นี่แล้ว ทำได้เพียงยอมรับเท่านั้น เธอคงไม่บ้าฝันทั้งที่ตัวเองเพิ่งถูกรถชนมาแบบนั้นแน่นอน
"แหนะ... แอบสงสัยถิงถิงคนสวยใช่ไหม ช่วยในที่นี้คือ... ถิงถิงจะให้ข้ามกาลเวลาย้อนกลับไปอีกโลกหนึ่ง ไปอยู่ในร่างของตัวเองในอีกโลกหนึ่งอย่างไรเล่า! ดวงจิตจะได้หลอมรวม ไม่แปลกใจเหรอเจ้าคะ ว่าทำไมเกิดมาไม่มีครอบครัวกับใครเขา ถึงมีเงินมากมาย พี่สาวทั้งสองก็ไม่ได้รับความอบอุ่นที่ได้จากคนในครอบครัว นี่ยังไงเล่า!! ถิงถิงกำลังจะส่งให้ไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข" ....แต่ก่อนจะสุขก็เหนื่อยหน่อยนะ ประโยคหลังถิงถิงละไว้ไม่ได้พูดออกไป
สองสาวมองหน้ากันอย่างรู้ได้ในทันที เพราะทั้งสองมาจากบ้านเด็กกำพร้า กว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ ทั้งสองลำบากเป็นอย่างมาก อาจเพราะพวกเธอต้องเอาเรื่องแพ้ชนะมาเป็นแรงกระตุ้นให้ฮึดสู้ เพื่อที่จะเป็นคนที่เก่งกว่าเดิมและดีขึ้นเรื่อย ๆ
คนที่เป็นแรงกระตุ้นที่ดีก็คือคนที่อยู่ข้าง ๆ ในตอนนี้ แท้จริงแล้วทั้งสองไม่ได้เกลียดกัน แต่เพราะมาจากสถานที่เดียวกัน อยากปีนป่ายให้สูงกว่าเดิม จึงต้องแข่งขันกันอย่างนี้เรื่อยมา...
เมื่อสองนางร้ายรับรู้ได้ถึงความเป็นจริง พวกเธอต่างก็มองหน้ากัน ก่อนจะสวมกอดกันและกัน และยิ้มให้กันแบบที่ไม่ได้เสแสร้งอีกต่อไป แข่งกันมานาน จนถึงวาระสุดท้ายกลับต้องมาอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกแท้จริงแล้ว พวกเธอไม่ได้เกลียดกันเลย เพราะหากเกลียดกันจริง ๆ คงลงมือมากกว่าการเอาชนะกันอย่างที่เห็น
"เมื่อพี่สาวเข้าใจแล้วก็เตรียมตัวได้เลย" ถิงถิงรับรู้ถึงความคิดของทั้งสองเป็นอย่างดี
"บอกก่อน... พวกเราจะได้ไปที่ไหน" เจ้าหรูถามขึ้นพร้อมกับปรายตามองคนที่อยู่ข้าง ๆ ยัยนี่ยิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว จะปล่อยไปแบบมั่ว ๆ ไม่ได้เด็ดขาด
"พี่สาวได้เลือกไว้แล้ว และสิ่งที่พี่สาวเลือก ก็คือชีวิตของพี่สาวในอีกมิติหนึ่ง สร้อยไข่มุกนั้นจะนำพาพี่สาวไปเอง" ถิงถิงบอกสองสาวให้รับรู้
"พี่สาวเคยรับแสดงบทย้อนเวลา ทะลุมิติอะไรแบบนี้ ของวิเศษอะไรก็ต้องมีพกติดตัวบ้าง หากถิงถิงบอกว่ามาช่วย ก็ต้องให้ไปด้วยสิ" หนิงหนิงก็เริ่มต่อรอง มีหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถามไว้ก่อนดีกว่า
"สร้อยไข่มุกที่พี่สาวเสียเงินมากมายมหาศาลนั่นแหละเจ้าค่ะ คือของวิเศษ สร้อยไข่มุกจะอยู่ติดตัวพี่สาวตลอด ไม่ต้องกลัวว่าจะหายไป และต้องรอให้พี่สาวข้ามกาลเวลาไปอยู่ในร่างของตัวเองเสียก่อน ถึงจะรู้ว่าสร้อยไข่มุกมีความสามารถอะไร แต่ที่แน่ ๆ ข้าวปลาอาหารมีให้แน่นอนเจ้าค่ะ" ถิงถิงไขข้อข้องใจให้คนช่างถามทันที
"พี่สาวรีบไปได้แล้ว เวลาจะหมดแล้ว ถิงถิงต้องรีบไปรับดวงวิญญาณอื่น" ถิงถิงรีบเร่ง
"เราสองคนจับมือกันไว้ จะได้ไม่หลงทาง" พูดขึ้นพร้อมกับจับมือกันไว้แน่น
"พี่สาวต่างคนต่างไป ไม่ได้ไปด้วยกัน!! " ถิงถิงกลอกตามองบน ก่อนหน้านี้มีทั้งยัยปีศาจ ยัยนางมาร ตอนนี้รักกันปานจะกลืนกิน จับมือกัน ไปด้วยกัน เอาอะไรคิด!!
"อ้าว... ขอไปด้วยกันได้ไหม" สองหัวดีกว่าหัวเดียวแน่นอน
"อยู่คนละสถานที่ คนละยุค คนละสมัย ถึงเวลาแล้ว หากยังไม่ร่ำลากันจะไม่มีโอกาสแล้วนะเจ้าคะ" เพราะร่างทั้งสองเริ่มโปร่งแสง นั่นหมายถึง เวลามาถึงแล้ว...
ทั้งสองต่างล่ำลากันและกัน กล่าวอวยพรให้อีกคนโชคดีในโชคชะตาที่จะได้เจอ ถึงแม้ทั้งสองไม่อยากยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะสัญชาตญาณของทั้งคู่รู้ดีว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ภาพที่นางร้ายอันดับหนึ่งทั้งสองคน ต่างยืนยิ้มให้กันและกันด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีอะไรแอบแฝง
มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ได้เห็นรอยยิ้มนี้...
หนึ่งคือ กู้เจ้าหรู
สองคือ เย่เผยหนิง
สามคือ ภูตน้อยถิงถิง
ก่อนที่ทั้งสองร่างจะค่อย ๆ เลือนหายไปจากบริเวณนั้นอย่างไร้ร่องรอย
"ถิงถิงช่วยเท่าที่พอจะช่วยได้ หวังว่าผู้ผ่านทางทั้งสองจะมีความสุขนะเจ้าคะ และหวังว่าสร้อยไข่มุกทั้งสองเส้นนั้นจะช่วยทั้งสอง และช่วยถิงถิงตามหานายหญิงในมิตินั้นได้ด้วยนะเจ้าคะ" ถิงถิงพูดออกมาเสียงเบา
ภูตน้อยถิงถิงเดินทางมาแสนไกล ไม่เคยเจอคนที่ตามหา จนเมื่อไม่นานมานี้พลังของถิงถิงเริ่มฟื้นคืนมาบางส่วน ทำให้สามารถใช้วิธีนี้ตามหานายหญิงในสถานที่ต่าง ๆ โดยมอบเครื่องประดับแต่ละชนิดให้หญิงสาวที่มีดวงชะตาอยู่สองมิติ เฝ้ารอว่ามิติไหนจะมีอายุขัยสั้นลง แล้วนำทางดวงวิญญาณเหล่านั้น ให้ไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง โดยใช้เครื่องประดับวิเศษในการช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ข้ามกาลเวลาไป และเครื่องประดับแต่ละชนิดจะสามารถรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของนายหญิง ว่าในโลกที่ดวงวิญญาณไปจุตินั้น มีนายหญิงของถิงถิงอยู่หรือไม่
"ไปตามหาดวงวิญญาณที่ถึงฆาตต่อดีกว่า... " เมื่อนั่งเศร้าคิดถึงนายหญิงกับนายท่านจนเวลาล่วงเลย ถิงถิงตัวน้อยเลยต้องออกไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือทั้งดวงวิญญาณ และช่วยตัวเองตามหานายหญิงในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย...
ตอนที่ 10 สำรวจตลาดเจ้าหรูพาทั้งสองเด็กน้อยขึ้นเขาไปตัดต้นไผ่เพื่อนำมาทดลองใช้เครื่องผลิตกระดาษ ในรายละเอียดการใช้งานเครื่องระบุว่าสามารถใช้ต้นไม้อะไรก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อแม้ว่าจะใช้ได้เพียงต้นไม้ชนิดนั้นเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นต้นไม้อย่างอื่นได้อีกเจ้าหรูตัดสินใจใช้ต้นไผ่ เพราะมันมีเยอะมากมาย และยังสามารถพบเจอได้ง่าย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีต้นไผ่เกิดขึ้นมากมาย บนภูเขา ตามท้องนา หรือในหมู่บ้านก็มีต้นไผ่อยู่ทั่วทุกที่ รับรองว่าเธอไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอนผลการทดลองใช้ต้นไผ่เพียงหนึ่งลำ สามารถผลิตกระดาษอย่างดีได้ถึง 100แผ่น แต่หากคุณภาพกระดาษลดลงมาก็จะได้จำนวนกระดาษเพิ่มขึ้นเป็น 200 แผ่น แต่ต้องอยู่กับขนาดของลำต้นที่ใช้ด้วยเช่นกันส่วนการใช้ต้นไผ่นั้น... สามารถใส่ลงได้ทั้งต้น ไม่ต้องเอาใบออก เพราะส่วนใบจะนำไปผลิตยางลบกับดินสอได้ด้วย
ตอนที่ 9ลู่ทางหาเงินตอนนี้เจ้าหรูอยู่ในโกดังขนาดใหญ่ โกดังแห่งนี้มีสิ่งของมากมาย สิ่งของเหล่านั้นมาจากโลกต่างๆที่ถิงถิงไปเยือน แล้วนำมาเก็บไว้ในสถานที่แห่งนี้พรวิเศษที่มาจากสร้อยไข่มุกยังไม่ปรากฏ ถิงถิงให้เธอมาหาสิ่งของต่าง ๆ จากโกดังแห่งนี้เผื่อมีสิ่งไหนสามารถเอาไปสร้างอาชีพได้จึงต้องพากันเดินสำรวจก่อนตัดสินใจถิงถิงบอกว่าโกดังแห่งนี้อยู่ในมิติของนายหญิง ต้องมีถิงถิงเป็นคนพาเข้าออก คนนอกไม่สามารถเข้าออกได้ แม้แต่นายท่านยังไม่สามารถเข้ามาได้เลย เจ้าหรูไม่รู้หรอกว่านายท่านคือใคร และไม่ได้ถามต่อด้วยเช่นกัน เล่าให้ฟังแค่ไหนก็ฟังแค่นั้นเอง"เวลาในนี้กับเวลาข้างนอกเท่ากันไหม" เพราะลูกนอนหลับอยู่ข้างนอก เธอจะได้คำนวณเวลาได้ถูก ไม่อยากให้ลูกตื่นมาแล้วไม่เจอใคร"ถิงถิงหยุดเวลาไว้เจ้าค่ะ เราออกไป
ตอนที่ 8ผู้มาเยือนสองแม่ลูกกลับมาอยู่บ้านตัวเองได้เกือบสามวันแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับสามี เธอได้บอกพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้แล้ว ทุกคนให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง พวกเขาจะคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจแบบไหนหรือยังไงซึ่งมันเป็นแบบนี้มาตลอด พ่อแม่ไม่เคยซ้ำเติม มีแต่คอยให้กำลังใจและพร้อมจะช่วยเหลือเสมอเจ้าหรูไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองเรียกเงินจากครอบครัวสามี เพราะเธอรอก่อนว่าทางสามีจะว่าอย่างไร จะตกลงไหม เธอไม่ได้ใจเย็น รอแบบไม่มีระยะเวลากำหนด แต่เธอมีกำหนดเวลาไว้แล้วต่างหากหากว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งดีกับลูกสาวของเธอบ้าง เธอจะไม่ทำถึงขนาดนี้ แต่ครอบครัวหลิวกลับไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาวเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจไม่ว่า บางครั้งยังพูดจาไม่ดีใส่อิงอิงอีกด้วย"อิงอิง ลูกอยู่ไหน" เมื่อมอ
ตอนที่ 7ครอบครัวกู้"อิงอิง มาหายาย" หลินฟางเรียกหลานสาวทันทีที่มาถึง"ยายจ๋า... ตาจ๋า... สวัสดีจ้า" อิงอิงวิ่งก้นสายดุ๊กดิ๊กไปหายายกับตาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าเจ้าหรูหันไปมองพ่อกับแม่พร้อมกับยิ้มทักทาย พ่อกับแม่ยังแข็งแรงดีและยังเข้าใจเธอเป็นอย่างมากเหมือนเดิม เธอโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวนี้ เพราะพ่อกับแม่รับฟังเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลูกจะทำผิดแค่ไหน พ่อกับแม่จะใจเย็นแล้วค่อย ๆ ตักเตือนและสอนให้ลูกเข้าใจแต่คนเราไม่ได้โชคดีทั้งหมด เธอมีครอบครัวพ่อแม่ พี่ชายพี่สะใภ้ที่ดี แต่เธอกลับมีสามีที่พยายามตีตัวออกหาก ครอบครัวสามีไม่ต้อนรับ เพราะเธอไม่ใช่คนที่พวกเขาเลือกไว้เท่านั้นเองอาจเพราะเคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จึงคิดว่าแค่เรื่องครอบครัวสามีและสามีไม่ต้องการนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอไปเส
ตอนที่ 6 แม่สอนลูกสาวผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่เธอพูดคุยเรื่องหย่ากับสามีเขาหายไปตั้งแต่วันนั้นและยังไม่กลับมาไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน แต่เจ้าหรูไม่รีบร้อน เธอใจเย็นรอได้เสมอช่วงเวลานี้เธอก็สอนลูกไปด้วย สิ่งที่แม่สอนลูกสาว ส่วนมากเป็นสิ่งที่สอนให้เข้มแข็ง กล้าแสดงออก หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าได้กลัว จงกล้าที่จะพูดเพื่อปกป้องตัวเอง อย่ารอให้คนอื่นมาช่วย ทั้งที่รู้ว่าบางอย่างลูกยังไม่เข้าใจ แต่เธอก็พูดและอธิบายให้ฟัง และเน้นย้ำหากไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรให้ถามได้เลยช่วงนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแม่สอนลูกสาวเพียงอย่างเดียว แม่ต้องคอยถามเรื่องที่ลูกสาวบอกว่าหลิวเย่ไม่ใช่พ่อแล้วยังบอกว่าพ่อของเธอคือใครอีกคนหนึ่ง เจ้าหรูพยายามถามแต่ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีเจ้าหรูเลยคิดว่าลูกสาวอาจสร้างพ่อในจินตนาการขึ้นมา เพราะตอนเด็ก ๆ
ตอนที่ 5 สามีที่น่ารังเกียจผ่านมาสามวันแล้วที่เจ้าหรูมาอยู่ที่โลกใบนี้ สามวันที่เฝ้ารอว่ามีสิ่งของอะไรติดตัวมาบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือผิดปกติอะไรเลย แต่เธอก็ยังใส่สร้อยไข่มุกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะจำที่ถิงถิงเคยบอกไว้ว่า... บางครั้งพรวิเศษอาจปรากฏช้า เธอเลยเฝ้ารอเวลาอย่างใจจดใจจ่อวันแรกที่เจ้าหรูพาลูกสาวไปหัดว่ายน้ำ เธอรู้ว่ามีคนมายืนดูเธอสองคนแม่ลูกเล่นน้ำ แต่ที่เธอทำตัวปกติเหมือนไม่รับรู้การมีอยู่ของเขา เพราะเขาไม่มีค่ามากพอที่จะทำให้เธอหยุดเล่นสนุกกับลูก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกสาวมีค่ามากกว่าการที่เธอจะหยุดทักทายเขาหากเดาไม่ผิด เธอคิดว่าคนรักของเขาคงไปบอกข่าวเกี่ยวกับเรื่องเธอและลูก เขาถึงออกมาดู แต่เมื่อมาเห็นแล้วว่าเธอกับลูกอยู่ดีมีความสุข เขาก็กลับไปทันที และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่เห็นเขาออกมาที่นี่อีกเลยเจ้าหรูจะพาลูกสาววิ่งออกกำลังกายในทุกเช้า และต่อด้วยฝึกท่าทางต่าง ๆ ที่เธอเคยเรียนมา ศิลปะการป้องกันตัวทั้งหลายที่เคยเรียนมา เธอก็เอาออกมาฝึกกับลูกสาว ถึงแม้ลูกสาวจะยังเล็ก แต่หากฝึกไปเรื่อย ๆ มันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ดีที่อิงอิงตัวน้อย







