LOGINเมื่อนางร้ายตัวแม่ต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างชายาเอกของอ๋องปีศาจ ที่เอาแต่หาวิธีครองใจสวามีแถมยังตบตีกับอนุไม่เว้นวัน แต่มีหรือที่นางจะทำแบบนั้น ฝันไปเถอะ ในเมื่อยุคนี้ไม่ได้มีบุรุษเพียงคนเดียว!!
View Moreตอนที่ 1 นี่ข้าคือชายาอ๋องเช่นนั้นหรือ (1)
“ฮือ ๆ ๆ พระชายาเพคะ เมื่อไรพระองค์จะฟื้นเพคะ อย่าทำให้หม่อมฉันหวาดกลัวเลย หากรุ่งเช้าพระองค์ยังไม่ฟื้นขึ้นมา หม่อมฉันจะต้องไปส่งข่าวให้ท่านเสนาบดีทราบแล้วนะเพคะ”
ลี่เอ๋อร์ร้องไห้คร่ำครวญไม่หยุด เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนไม่ยอมฟื้นขึ้นมาเสียที หลังจากแต่งเข้าจวนชินอ๋องแล้ว นางก็พบว่าเรื่องราวร้าย ๆ ก็มักจะเกิดกับคุณหนูของตนอยู่เสมอ “โธ่โว้ย!! คนจะนอน จะร้องไห้หา...รึยังไง” หญิงสาวใบหน้างดงามขมวดคิ้วเป็นปมและตะโกนด่าขึ้นมา เนื่องจากรำคาญเสียงคนกำลังร้องไห้คร่ำครวญเหมือนใครกำลังจะตายอย่างนั้นแหละ ก่อนที่หญิงสาวจะลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับอ้าปากหาว ไม่มีกิริยาของกุลสตรีเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งมือข้างหนึ่งยังยกขึ้นเกาศีรษะจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด “พระชายาเพคะ พระชายาฟื้นแล้ว หม่อมฉันดีใจเหลือเกินเพคะ” ลี่เอ๋อร์หลังจากหายตกใจ ก็รีบคลานเข้ามาเกาะเตียงไว้ แล้วร้องเรียกเจ้านายของนางอย่างดีใจ เพราะเสียงนี้เลยทำให้ ซูซี่ นางร้ายอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยคล้ายกับจะได้สติขึ้นมา จากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดตาขึ้นมามองสิ่งรอบกาย ก่อนจะตาโตแทบถลนออกมาด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น “นี่มันคือที่ไหนกัน ฉันจำได้ว่าเมื่อคืนฉันไปกินเลี้ยงปิดกล้องกับเพื่อน ๆ แล้วฉันก็กลับมานอนที่เพนท์เฮ้าล์...แล้วทำไม โอ๊ย!!” ซูซี่คือนางร้ายอันดับต้น ๆ และยังมีฐานะร่ำรวยมาก เนื่องจากครอบครัวของเธอคือเศรษฐีติดอันดับของประเทศไทย เมื่อเห็นท่าทางฟูมฟายของหญิงสาวตรงหน้า ซูซี่จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างงุนงงและสับสน แต่แล้วจู่ ๆ ในหัวของซูซี่กลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่รู้สาเหตุ ก่อนที่จะมีภาพฉายชัดไม่ต่างจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด จึงทำให้ซูซี่รู้ว่าร่างนี้คือ หนิงหว่านซู บุตรสาวคนรองของท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่มีนามว่า หนิงชางหมิง หนิงหว่านซูมีนิสัยร้ายกาจและหลงรักหยางเฟยหลง หรือว่าชินอ๋องผู้ที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงขาม จนหญิงสาวได้ขอร้องให้บิดาขอราชโองการสมรสให้ ทว่าชินอ๋องกลับไม่สนใจนางเลยสักนิด เขาไม่แม้แต่จะชายตามองนางด้วยซ้ำ และเมื่อถึงวันสมรสพระราชทานของทั้งสอง ชินอ๋องกลับแต่งชายารองและอนุเข้ามามากมาย ทำให้ตระกูลหนิงเสียหน้าไม่น้อย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หนิงหว่านซูไม่พอใจอย่างมาก นางจึงสร้างเรื่องสร้างราวได้ทุกวัน จนเป็นที่เอือมระอาของพระสวามีอย่างชินอ๋องยิ่งนัก เมื่อมีข่าวว่าพระสวามีอันเป็นที่รักและยังเป็นพระสวามีผู้ที่ไม่เคยแตะต้องตัวนางที่เป็นพระชายาเอกเลยแม้แต่ปลายผม ได้ไปที่เรือนของชายารองฟู่แทบทุกวัน เลยทำให้หนิงหว่านซูเกิดความไม่พอใจและคิดกำจัดอีกฝ่าย จึงเร่งรีบจะไปจัดการกับอีกฝ่าย แต่ทำไปทำมากลับกลายเป็นนางเองที่ตกสระน้ำเกือบตาย!! “โง่จริง ๆ เลย แค่ผัวไม่รักแค่นี้ ทำไมต้องด้อยค่าตัวเองด้วย อีกอย่าง ร่างกายนี้ยังสดยังใหม่ ยังไม่เคยแตะต้องมือใคร ทำไมต้องทำเรื่องโง่ ๆ เพื่อผู้ชายที่ไม่รักตัวเองได้ทุกวัน ไม่ได้รักกันแบบนี้ก็หย่าสิคะ รออะไรล่ะ” เมื่อทบทวนความทรงจำ และจัดการความคิดให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงสบถและเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจ เนื่องจากยุคที่เธอจากมานั้น เมื่อไรที่คู่สามีภรรยาอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็หย่ากันไปเท่านั้น ‘จะมาทนใช้กล้วยหอมลูกเดียวไปทำไม เอ๊ะ! หรือว่ากล้วยเล็บมือนางกันนะ ถึงต้องบริหารส่วนนั้นมากมาย ด้วยการมีเมียเต็มบ้านไปหมด’ ซูซี่ที่อยู่ในร่างของหนิงหว่านซูได้แต่ตบตีและทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ในใจ จนนางกำนัลข้างกายนั่งมองด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาว่า “พระชายาจะหย่ากับท่านอ๋องหรือเพคะ” “ก็ใช่น่ะสิ ฉัน...เอ่อ ข้าไม่ต้องการแบ่งแท่งหยกอันนั้นกับสตรีนางใดหรอกนะ และข้าไม่ต้องการของมือสอง ข้าอยากมีอิสระ!! เจ้าเข้าใจหรือไม่” ซูซี่ที่อยู่ในร่างของหนิงหว่านซูหันมาตอบนางกำนัลข้างกายด้วยใบหน้าและแววตาที่จริงจัง อีกทั้งน้ำเสียงนั้นบอกว่าเรื่องนี้นางจริงจังมาก “ไม่ได้หรอกเพคะ สมรสของพระชายากับท่านอ๋อง เป็นฝ่าบาทที่พระราชทานให้ มิอาจหย่าร้างได้ตามอำเภอใจ” ลี่เอ๋อร์รีบตอบกลับไปทันที ‘ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดพระชายาถึงอยากมีอิสระโดยการหย่าร้าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าพระชายาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งเข้าจวนอ๋องหรอกหรือ แล้วเหตุใดเวลานี้ถึงมีความคิดเช่นนี้เล่า’ นางได้แต่คิดสงสัยอยู่ในใจ “อย่างนั้นหรือ” ซูซี่พยักหน้าคล้ายกับจะเข้าใจ แต่ในใจกลับคิดว่า ‘เหตุใดคนยุคนี้แค่หย่าร้างกัน ต้องเรื่องมากและวุ่นวายขนาดนี้ด้วยนะ แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่อฝ่ายของข้าหย่าร้างไม่ได้ เช่นนั้นข้าจะทำให้ชินอ๋องเป็นฝ่ายขอหย่าด้วยตนเองให้ได้’ตอนพิเศษ 2 ข้าต้องการบุตรสาวมาออดอ้อน (2)และไม่นานชายารักของเขาก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับซบหน้าลงกับไหล่หนา แต่ก็ไม่วายที่จะบดคลึงสะโพกไปมาโดยที่ยังไม่ยอมให้มังกรออกมาจากกาย ส่วนสวามีก็กอดร่างบางไว้อย่างรักสุดหัวใจ“เจ้ามีความสุขไปสองครั้งแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่พี่จะสร้างลูกสาวของเราแล้วนะ” หยางเฟยหลงกระซิบบอกอย่างอ่อนหวาน และส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้นางที่ผลักตัวมาสบสายตากันจากนั้นเขาก็โน้มตัวลงเหมือนม้าโยก จนตอนนี้เขาขึ้นมาอยู่ข้างบนโดยมีร่างชายารักนอนอยู่ใต้ร่าง“ข้ารักเจ้าที่สุด” เขากระซิบบอกรักก่อนจะบดจูบอย่างดูดดื่ม สะโพกหนาก็ส่งมังกรยักษ์เข้าภายในกายนางจากช้าๆ เนิบๆ ก็เร็วขึ้นหนักหน่วงขึ้นตามอารมณ์รักที่พุ่งสูงตับๆๆ ตับๆๆ ตับๆๆ“โอ้ววว แน่นเหลือเกิน ชายาของข้าช่างน่ารักขึ้นทุกวัน” ชายหนุ่มครางออกมาสุดเสียง เมื่อหยัดตัวขึ้นมานั่งคุกเข่า เขาจับขาของนางพาดบ่าแล้วจับเอวบางไว้ก่อนจะกระแทกสะโพกส่งมังกรเข้าไปอย่างรัวเร็วจนร่างบางกระเพื่อมขึ้นมาจากแรงโยก“อ่าร์ส ท่านพี่ ท่านพี่ น้องไม่ไหวแล้ว” หนิงหว่านซูร้องครางออกมาอย่างกระสันเสียว ใบหน้าสวยส่ายไปส่ายมาบนหมอนนุ่น มือสองข้างดึงผ้าปูที่นอน
ตอนพิเศษ 2 ข้าต้องการบุตรสาวมาออดอ้อน (1)หยางเฟยหลงเดินเข้ามาในห้องบรรทมที่มีฮองเฮาในชุดนอนเนื้อเบาบางพลิ้วนอนอ่านหนังสืออยู่ใต้เสียงเทียน พระองค์นั่งลงแล้วดึงหนังสือในมือนางไปเก็บไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนจะดึงชายารักเข้ามาไว้ในอ้อมกอด“น้องหญิงของข้ามีความสุขดีหรือไม่” เขาถามอย่างอ่อนโยน“หม่อมฉันมีความสุขดีเพคะ ฝ่าบาทเล่าเพคะ มีความสุขดีหรือไม่” นางตอบและถามกลับอย่างอ่อนหวาน และเริ่มรู้สึกว่ามือไม้ของเขากำลังเล่นสนุกอยู่กับเนื้อตัวของนาง “ข้ามีความสุขดี แต่จะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเจ้ามอบลูกสาวมาไว้ออดอ้อนข้าสักคน วันนี้ข้าเห็นพี่ชายเจ้ามีบุตรสาวมาออดอ้อนแล้วรู้สึกอิจฉายิ่งนัก” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นมีความอ่อนหวานอย่างมาก“หม่อมฉันเองก็อยากมีลูกสาวมาไว้เรียนรู้การทำอาหารเช่นกันเพคะ แต่ของเช่นนี้จะรอให้หม่อมฉันมอบให้ฝ่ายเดียวก็คงเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่พระปรีชาของฝ่าบาทแล้วเพคะ”หนิงหวานซูเอ่ยขึ้นมาอย่างอ่อนหวานปนเขินอาย มือก็ลูบไล้หยอกเย้าอยู่ที่แผ่นอกกว้างภายใต้ชุดนอนผ้าซาตินสีน้ำเงินที่นุ่มมือ“เช่นนั้นต่อไปนี้เจ้าไม่ต้องกินยาของเจ้าแล้วนะ และวันนี้เรามาช่วยกันสร้างลูกสาวกั
ตอนพิเศษ 1 อิจฉาแม้กระทั่งโอรสของตนเอง (2)เวลานั้นมารดาของนางดีใจยกใหญ่ ใช่ว่าดีใจที่ได้องค์หญิงสี่มาเป็นสะใภ้ แต่ดีใจที่บุตรชายแต่งงานเสียที‘จะว่าไปต้องขอบคุณ ผู้ที่ส่งข้ามาอยู่ในร่างนี้ หากไม่แล้วข้าคงไม่มีครอบครัวที่รักและอบอุ่นเยี่ยงนี้หรอก ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดส่งข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ข้าก็อยากขอบคุณคนคนนั้นอยู่ดี ที่ส่งข้ามาที่นี่ ขอบคุณจริงๆ’จากตอนแรกนางยืนยันที่จะหย่ากับพระสวามีที่มีตำแหน่งชินอ๋อง แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนทำให้นางและพระสวามีผูกมัดกันด้วยหัวใจ จนทำให้มีโอรสถึงสามคน และยามนี้นางยังเป็นแม่ของแผ่นดินอีกทั้งยามนี้ผลผลิตในแคว้นต่างก็อุดมสมบูรณ์ คนยากไร้และขอทานทั่วทั้งเมืองหลวงก็ลดน้อยลงในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา หยางเฟยหลงก็เดินเข้ามาเงียบ ๆ และจ้องมองนางอย่างรักใคร่เมื่อรู้ว่ากำลังถูกจ้องมอง นางจึงรีบหันมาดู ก็พบว่าเป็นพระสวามีของนางเอง เลยยิ้มและถามออกมาอย่างอ่อนโยน“เสด็จพี่มานานแล้วหรือเพคะ ที่ตำหนักอาจจะเงียบสักหน่อย เพราะทั้งสามคนไปที่จวนสกุลหนิงเพคะ” นางรายงานเรื่องลูก ๆ ไปในคราวเดียว“อืมดีมาก เช่
ตอนพิเศษ 1 อิจฉาแม้กระทั่งโอรสของตนเอง (1)ห้าปีต่อมา...หนิงหว่านซูไม่คิดว่าหลังจากเป็นแม่คน จะมีความสุขเช่นนี้ แต่ถึงจะทำหน้าที่แม่หนักอย่างไร นางก็ไม่เคยลืมทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ดังนั้นตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้ หนิงหว่านซูไม่ตกหล่นหน้าที่ใดเลย“เสด็จแม่”ขณะนั้นเองเสียงเล็ก ๆ ก็ดังขึ้น พร้อมกับมีร่างเด็กน้อยสามคนวิ่งเข้ามาหานาง นำโดยโอรสองค์โตมีนามว่า หยางห่าวอี้ ตามมาด้วยโอรสองค์รองมีนามว่า หยางมู่เฉิน ส่วนโอรสองค์สุดท้องมีนามว่าหยางหมิงเจ๋อ“ว่าอย่างไรลูกแม่ ไปวิ่งเล่นที่ใดมา ดูสิเหงื่อท่วมเลย” เมื่อเห็นโอรสทั้งสามวิ่งเข้ามา หนิงหว่านซูจึงอ้าแขนรับพวกเขาอย่างดีใจและถึงแม้จะเป็นโอรสของฮ่องเต้ แต่หนิงหว่านซูกลับเลี้ยงพวกเขาไม่ต่างจากคนทั่วไป ที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง แม้ทั้งสามจะมีแม่นมเป็นของตัวเองก็ตาม เด็กน้อยโผเข้าอ้อมกอดแม่ก่อนจะถูกแม่นมที่วิ่งตามมารีบบอกเสียงดุเล็กน้อย “พระโอรสไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถิดเพคะ เวลานี้เล่นจนเหงื่อชุ่มไปหมดแล้ว”“นั่นสิ แม่เห็นด้วยกับแม่นมเหยานะ ลูกทั้งสามคนไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จะชงโกโก้และทำแพนเค้กให้กิน” หนิงหว่านซูเอาของโปรดของเด็กท











