ท่ามกลางลมพายุโหมที่กระหน่ำ สายลมและสายฝนที่โปรยปรายลงมาตกกระทบหลังคาและหน้าต่าง ส่งเสียงดังราวกับธรรมชาติกำลังโกรธเกรี้ยว แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ลมพายุที่โหมกระหน่ำแต่หัวใจของหลินเหม่ยเหยากลับสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง ความเจ็บปวดความรวดร้าวตามร่างกายไม่ได้ส่งผลต่อใดๆ ต่อ นางอีกต่อไปแล้ว หยาดน้ำตาบนใบหน้าของนางแห้งเหือดไปนานแล้ว พร้อมกับลูกในท้องที่สูญเสียไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในยามนี้ก็คือความเจ็บปวดในหัวใจของนางเพียงเท่านั้น
“เหยาเหยา ขอเพียงเจ้ายินดีปลิดชีพของตนเอง สกุลซ่งของท่านพี่ก็จะไร้ซึ่งข้อกังขา ฮูหยินที่มาจากครอบครัวของฆาตกรที่เป็นกบฏเช่นเจ้ามีแต่ฉุดดึงให้ท่านพี่ต้องต้อยต่ำลง ดังนั้นการตายของเจ้าจึงเป็นเรื่องที่จะสามารถช่วยเขาให้หลุดพ้นได้” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาหัวเราะออกมาในทันที
“เหตุใดข้าต้องช่วยเขาด้วยเล่า ตอนที่ท่านพ่อของข้าถูกกรมอาญาไต่สวนหากไม่เป็นเพราะเขาไปเป็นพยานว่าท่านพ่อของข้าเคยปรุงยาพิษชนิดนั้นมีหรือที่ท่านพ่อของข้าจะถูกประหาร และคนในสกุลหลินของข้าจะกลายเป็นกบฏเช่นนี้” หยางสุ่ยเซียนพูดพลางหลั่งน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วออกมาอีกครั้ง
“ต้องโทษที่ท่านพ่อของเจ้าปรุงยาพิษชนิดนั้นได้ หากมีคนพบเบาะแสข้อนี้เข้าท่านพ่อของเจ้าก็จะได้รับโทษประหารอยู่ดี คนสกุลหลินกลายเป็นกบฏแล้วลูกเขยคนโตเช่นเขาหากไม่ออกหน้าทำอะไรสักอย่างก็ย่อมจะต้องพลอยโดนหางเลขไปด้วยแน่ ดังนั้นการที่เขาออกหน้าไปเป็นพยานเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาหัวเราะออกมาด้วยความแค้นใจ หยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดยังไม่ทันเหือดหายไปจากใบหน้า สายตาของนางที่จ้องหยางสุ่ยเซียนและคนที่ยืนนิ่งอยู่หลังฉากกั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บแค้น
“เขาน่ะหรือไม่ได้ทำผิด คนที่ให้ร้ายท่านพ่อของข้าก็คือเขา คนที่ออกหน้าไปเป็นพยานก็คือเขา แล้วยังมาใช้ข้ออ้างว่าเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากร่างแห หากท่านพ่อของข้าไม่ได้ถูกเขาให้ร้ายมีหรือที่จะถูกไต่สวน และตอนไต่ส่วนหากเขาไม่ได้ไปเป็นพยานและนำหลักฐานเท็จไปยืนยันที่ศาลท่านพ่อของข้าจะถูกตัดสินว่ามีความผิดได้อย่างไร” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้บุรุษที่ยืนอยู่หลังฉากกั้นเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้านางพลางจ้องมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาในทันที
“นั่นก็ต้องโทษท่านพ่อของเจ้าที่เขามีฐานะเป็นถึงหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงแต่กลับลุ่มหลงในศาสตร์วิชาการปรุงพิษ ข้าเฝ้าย้ำเตือนเขาเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟัง แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไรเล่า พอมีคนในวังตายเพราะยาพิษคนที่จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งย่อมไม่พ้นท่านพ่อของเจ้ามิใช่หรือ ข้าก็แค่ทำตัวไหลไปตามน้ำเพื่อเอาตัวรอดเพียงเท่านั้น” คำพูดของซ่งเสวี่ยหรงทำให้หลินเหม่ยเหยาได้แต่หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความช้ำใจ เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนางเขาจึงได้เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“เหยาเหยา ความรักที่ข้ามอบให้เจ้านั้นมาจากใจจริงของข้า แต่อย่างที่เจ้ารู้ข้าคือบุตรชายคนโตของสกุลซ่ง สกุลของข้าจะรุ่งโรจน์หรือว่าดำดิ่งลงเหวล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำของข้า ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ความรักความผูกพันระหว่างพวกเราไม่อาจจะนำพาวงศ์สกุลของข้าขึ้นสู่ที่สูงได้ ดังนั้นสิ่งที่ข้าทำได้ก็มีแค่เพียงการพยายามตัดใจจากเจ้าเพียงเท่านั้น และวิธีการที่ดีที่สุดในยามนี้ก็คือทำให้เจ้าหายไปจากโลกใบนี้เสีย จึงจะเป็นการดีที่สุดสำหรับข้าและสกุลซ่งของข้า” เมื่อเขาพูดเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็ส่ายหน้า
“หากข้าตายตอนนี้ท่านไม่กลัวคำครหาหรือ ครอบครัวของข้าถูกประหารได้ไม่นาน ตัวข้าก็ต้องมาตายในสกุลซ่งเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าคนอื่นจะล่วงรู้ว่าท่านลงมือกำจัดข้าเพื่อตัดขาดกับสกุลหลินหรือ” เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้ซ่งเสวี่ยหรงก็ส่ายหน้า
“ผู้อื่นจะคิดเช่นไรกับเรื่องนี้ข้าไม่ได้สนใจ ข้าสนใจเพียงแค่ความคิดของท่านผู้สำเร็จราชการเพียงเท่านั้น” เมื่อซ่งเสวี่ยหรงพูดเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็พลันเข้าใจในทันที
“ที่แท้ท่านก็ยอมรับแล้วว่าท่านขี้ขลาด ฮ่า ฮ่า ฮ่า สุ่ยเซียนเอ๋ยสุ่ยเซียน เสียทีที่เจ้ามักจะคิดว่าตนเองฉลาดเหนือกว่าข้า ผลสุดท้ายเจ้าเองก็โง่งมไม่ต่างกันกับข้าหรอก ชายผู้นี้รับเจ้าเข้าจวนมาก็เพราะคิดว่าพี่ชายต่างมารดาผู้นั้นจะเห็นแก่หน้าของเจ้าเพียงเท่านั้น เพ่ย เขาหรือจะเห็นแก่หน้าของเจ้า เขาเกลียดชังเจ้าจะตายไปในสายตาของเขาเจ้าก็เป็นแค่เศษสวะที่เกะกะเขาในจวนสกุลหยางเพียงเท่านั้น” เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็พลันตวาดออกมาในทันที
“หลินเหม่ยเหยาเจ้าจงหุบปากเน่าๆ ของเจ้าเสีย” แต่มีหรือที่หลินเหม่ยเหยาจะสนใจคำพูดของสตรีตรงหน้า นางจึงได้ถ่มน้ำลายออกมาแล้วพูดถึงความโสมมของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางด้วยความรังเกียจ
“พวกเจ้ามันเป็นผีเน่ากับโลงผุที่มีความเหมาะสมกันราวกับคู่นรกสร้างเสียจริง หยางสุ่ยเซียนเจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าการที่ซ่งเสวี่ยหรงหันมาทำดีกับเจ้าก็แค่เพราะหวาดกลัวพี่ชายต่างมารดาของเจ้าเพียงเท่านั้น ส่วนซ่งเสวี่ยหรง ท่านเองก็ช่างโง่เขลาที่คิดว่าการที่ท่านแต่งนางเข้าจวนมาแล้ว นางจะสามารถช่วยส่งเสริมท่านได้” เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็โบกมือให้คนนำยาพิษเข้ามาในทันที
“บีบปากบีบจมูกของนางแล้วหรอกยาพิษชามนี้ลงไปเสีย” หยางสุ่ยเซียนพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
“พิษหงอนกระเรียนแดงชามนี้ ล้วนเป็นฝีมือการปรุงของท่านพี่ เขาเรียนรู้การปรุงยาพิษชนิดนี้มาจากพ่อของเจ้า ยามนี้เขาลงมือปรุงให้เจ้าด้วยตนเอง เจ้าก็อย่าทำให้เสียของเชียวนะ” หยางสุ่ยเซียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน สายตาของนางกำลังจ้องมองคนของตนช่วยกันกรอกยาพิษลงไปในปากของหลินเหม่ยเหยาจนหมดชาม
“หยางสุ่ยเซียน ซ่งเสวี่ยหรง หากชาติหน้ามีจริงข้าจะต้องทำให้พวกเจ้าอยู่มิสู้ตาย” หลินเหม่ยเหยาฝืนใจเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขาดห้วง นางรู้ดีว่าพิษนี้มีความร้ายแรงมากขนาดไหน อีกไม่นานทวารทั้งเจ็ดของนางก็จะมีโลหิตหลั่งออกมา แล้วนางก็จะสิ้นใจตายไปเพราะพิษที่ได้รับในที่สุด
“แต่อย่างน้อยข้าก็วางใจไปเรื่องหนึ่ง การที่ข้าล่อลวงให้พวกเจ้าปรุงยาพิษชนิดนี้ออกมาได้นับเป็นเรื่องดี อีกไม่นานหยางเจี้ยนผู้เป็นพี่ชายต่างมารดาของเจ้าก็คงจะสืบพบเบาะแสแล้วว่านอกจากท่านพ่อของข้าและตัวข้า คนที่สามารถปรุงยาพิษเกล็ดหิมะสลายวิญญาณได้ก็คือซ่งเสวี่ยหรง" เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้ซ่งเสวี่ยหรงก็พลันสบถออกมาในทันที
"หลินเหม่ยเหยา เจ้ากล้าให้ร้ายข้าหรือ" เขาพูดพลางเดินเข้ามาใช้ฝ่ามืออันใหญ่โตกำลำคออันบอบบางของหลินเหม่ยเหยาเอาไว้
"แค่ก แค่ก ดังนั้นต่อให้ข้าตายไปแล้วท่านที่เป็นสามีของข้าและทุกคนในสกุลซ่งก็ล้วนไม่อาจจะหลีกหนีความสงสัยของเขาพ้น ซ่งเสวี่ยหรงต่อให้ท่านไม่ได้ทำข้าก็สามารถยัดเยียดความผิดให้ท่านได้อยู่ดี เหมือนที่ท่านยัดเยียดความผิดให้แก่ท่านพ่อของข้าอย่างไรเล่า...” เมื่อพูดจบหลินเหม่ยเหยาก็กระอักโลหิตออกมาจนโลหิตของนางเปรอะเปื้อนร่างกายของซ่งเสวี่ยหรง
“จับทุกคนในสกุลซ่งเอาไว้ ตรวจค้นอย่างละเอียดหากพบเบาะแสว่ามีการปรุงยาพิษภายในเรือนนี้แม้เพียงนิดเดียวรีบส่งคนมาตามข้า” เสียงตวาดก้องของพระมาตุลาหยางเจี้ยน ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลปัจจุบันทำให้หลินเหม่ยเหยายิ้มออกมา
ตอนที่บิดาและคนในครอบครัวของนางได้รับโทษประหารนางก็รู้แล้วว่าตนเองไร้หนทางรอด นางจึงได้จงใจสร้างหลักฐานชี้ความผิดให้แก่สามีของนาง นางไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่สามารถปรุงยาพิษที่นางและบิดาร่วมกันคิดค้นขึ้นมาได้ แต่ที่นางรู้คนที่วางยาปลิดชีพองค์ไทเฮาไม่ใช่นางและบิดาแน่ แต่ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด แต่คนที่นางอยากให้ตายตามนางและครอบครัวของนางไปด้วยก็คือคนหยิบยื่นความตายให้นางและครอบครัวอย่างซ่งเสวี่ยหรงและหยางสุ่ยเซียน น่าเสียดายก็แต่ชาตินี้นางยังไม่ทันได้มองเห็นจุดจบของพวกเขาดวงวิญญาณของนางก็พลันหลุดออกจากร่างไปเสียก่อน
ความคิดเห็น