LOGIN'นี้มันยาชูกำลังสูตรพิเศษที่เธอคิดค้นนี้หน่า..มันมาอยู่ในมือเธอได้ไง' หญิงสาวคิดแล้วก้มดูในแขนเสื้อก็ไม่เห็นมีอะไร แล้วมันมาอยู่ในมือได้ไง
เธอรองนึกถึงยาบำรุงอีกครั้ง แล้วอยู่ๆขวดยาบำรุงขนาดเท่าขวดนมเปรี้ยวก็ปรากฏให้เห็นอีกขวด แต่ก่อนที่จะนึกอะไรต่อแม่วัวสาวก็เอาหัวมาถูไถตัวเธอ ชิงอี่เลยป้อนยาบำรุงใหมันหมดขวดแล้วตัวเองดื่มอีกหนึ่งขวด "ให้กินของอร่อยแล้วห้ามบอกใครนะเดี๋ยววันหลังให้อีก"พูดกับวัวสาวแล้วลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู "ชิงอี่มาทำอะไรตรงนี้นะลูก..ยังไม่หายดีไม่ใช้เหรอ"พ่อหลีที่เดินกลับมากับบุตรชายเมื่อเห็นบุตรสาวคนโตยืนข้างๆวัวของครอบครัวก็เอยถาม "ข้าเดินมาดูว่ามันหิวน้ำหรือเปล่านะเจ้าคะ" "ข้าเอาน้ำมาให้มันพอดีเลย..คนไปตักน้ำกันเยอะมาก"เสี่ยวหมิงพูดแล้วก็เอาถังน้ำมาวางให้วัวสาวกิน พอวัวสาวเห็นถังน้ำก็กระดิกหูกระดิกหางด้วยความดีใจ "ไปนังพักเถอะลูก ยังไม่หายดีเดี๋ยวไข้จะกลับมาอีก"บอกบุตรสาวแล้วเดินหิ้วถังน้ำสองถังไปไว้บนเกวียน ชิงอี่ที่เห็นแบบนั้นก็เดินไปไกล้ๆถังน้ำแล้วเอายาบำรุงเทใส่ในถังน้ำให้ทุกคนให้ดื่ม หลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวเสร็จก็มานั้งกินมื้อค่ำกัน ซึ้งก็มีแผ่นแป้งทอดกับซุปกระรอกและผัดกระรอกใส่ผักดอง ส่วนไก่ป่าแม่หลีเอามารมควันอยู่ข้างๆกองไฟ ช่วงหัวค่ำเสียวหมิงรับหน้าที่เฝ้ายามส่วนดึกๆค่อยเป็นหน้าที่พ่อหลีเฝ้าจนถึงเช้า สามแม่ลูกนอนข้างๆกองไฟ ชิงอี่ยังไม่หลับเด็กสาวกำลังนอนคิดถึงเรื่องคลังแสงที่บ้าน เธอสามารสเอาของออกมาได้ทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน แล้วถ้าเธออยากเข้าไปในนั้นละ เธอจะสามารสผลิตของได้อีกเลื่อยๆ พอนอนคิดถึงบ้านในภพก่อนอยู่ๆเธอก็หายตัวเข้ามาอยู่ในบ้านของตัวเอง เธอมองไปรอบๆ ใช้แล้วไม่ผิดแน ที่นี้คือบ้านของเธอที่เป็นบ้านขนาด3ชั้นรวมชั้นใต้ดินที่เป็นห้องเก็บอาวุธ เธอยืนอยู่ในห้องรับแขก เมื่อแนใจว่าใช้บ้านตัวเองเธอก็รีบเดินไปที่ห้องครัวเพื่อเปิดตู้เย็นหาของกินทันที เมื่อเย็นเธอกินแผ่นแป้งทอดมันฝืดคอมากตอนนี้อยากได้อะไรซ่าๆมาล้างคอ ลูซี่เป็นคนไม่ชอบสังคมนอกบ้านเธอจะชอบอยู่บ้านวิจัยอาวุธหรือยาสูตรพิเศษต่างๆเพราะฉะนั้นในบ้านของเธอจะมีเสบียงเก็บไว้เต็มบ้านเสมอ และพอเธอทิ้งกระป๋องน้ำอัดลมลงถังขยะและจะเปิดไปหยิบผลไม้มากินต่อก็เห็นมีน้ำอัดลมกระป๋องใหม่โผล่ขึ้นมาตรงที่เดิม หมายความว่าของในนี้ไม่มีวันหมดเหรอ?!ดีจริง ครอบครัวที่เธอมาอยู่ด้วยถึงแม้จะไม่ได้ถึงกับอดอยากแต่ด้วยอยู่ในช่วงหนี้ภัยแล้งจึงทำให้การกินอยู่ค่อนข้างลำบาก ของที่มีในบ้านจะสามารสชวยเหลือพวกเขาได้มาก แต่ก่อนอื่นขอไปอาบน้ำก่อนนะไม่ไหวเหม็นตัวเองมาก อาบน้ำสระผมเสร็จถึงกับเบาหัวสบายตัว เธออยากให้ท่านแม่และน้องสาวเธอเข้ามาอาบน้ำในนี้สะจริง สามารสพาเข้ามาได้มั้ยนะ แต่จะบอกครอบครัวว่าไงดี เอาไวค่อยคิดตอนนี้ออกไปก่อน แต่พอหญิงสาวปรากฏตัวข้างกองไฟกับเห็นมารดามองมาด้วยความตกใจ พอเห็นมารดาทำท่าจะร้องเธอก็จับมือมารดาแล้วก็หายตัวเข้ามาในบ้านของตัวเองแถมห้อยท้ายซูซูมาด้วยเพราะน้องสาวตื่นมาแล้วจับตัวเธอพอดี "เกิดอะไรขึ้นชิงอี่..ที่นี้มันที่ไหน"ฮวาหลิวร้องด้วยความตกใจ ส่วนซูซูกำลังงัวเงียยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ชิงอี่เห็นมารดาตกใจก็ค่อยๆปลอบ "ไม่มีอะไรท่านแม่..คือว่า เออออที่นี้เป็นมิติของข้าเอง "เธอเคยเห็นพวกพนักงานทำความสะอาดตอนเธอแฝงตัวพูดเรื่องซีรี่แดนเทพแดนมารแล้วมีพวกมิตินี้ด้วยเลยพูดให้มารดาเข้าใจไปแบบนั้น "แล้วชิงอี่ ลูกมีมิติได้ไง"มันก็ยังไม่ชวยให้นางกระจ่างกับเรื่องนี้อยู่ดี "คือแบบว่าตอนที่ข้าป่วยอาการสาหัสอยู่ๆก็มีท่านเซียนหนวดขาวมาชวยข้าไว้นะ แล้วท่านเห็นครอบครัวเราลำบากเลยให้สิ่งของพวกนี้แกข้าเพื่อชวยปกป้องครอบครัว"มัวๆซัวๆไปแล้วกัน "การเดินทางของพวกเราจะต้องลำบากมากมันต้องมีของพวกนี้ชวยเจ้าคะพวกเราถึงผ่านมันไปได้"ที่เธอพูดคือเรื่องจริงในยุคภัยแล้งแบบนี้ไม่มีคำว่าปลอดภัย "แล้วท่านเซียนต้องให้เจ้าแลกอะไรด้วยมั้ย?"ที่บุตรสาวคนโตพูดมาก็มีเหตุผล "ไม่เจ้าคะแต่เราต้องไม่ให้คนอื่นรู้ มันจะไม่ปลอดภัย"เรื่องนี้สำคัญมากยิ่งรู้น้อยยิ่งปลอดภัย "ไหนๆท่านแม่กับซูซูก็เข้ามาแล้ว พวกท่านไปอาบน้ำก่อนนะเจ้าคะได้สบายตัว เดี๋ยวข้าบอกเองว่าของแต่ละอย่างใช้อย่างไร"มาแล้วก่อนอื่นต้องอาบน้ำแปรงฟันก่อนเป็นอันดับแรก เดี๋ยวค่อยพากินของอร่อย "พี่ชิงอี่ นี้มันอะไร้หรอเจ้าค่ะ"ซูซูหยิบเยลลี่ให้พี่สาวดู "อันนี้เรียกว่าเยลลี่จ้ะ เจ้ารองกินดูมันอร่อยมาก" "เดี๋ยวเราเอาของกินไปฝากท่านพ่อกับเสียวหมิงด้วยดีมั้ย"ฮวาหลิวเมื่อเจอของดีก็อดนึกถึงสามีและบุตรชายไม่ได้ "เดี๋ยวข้าเตรียมขนมปังกับยาบำรุงไปเขาทั้งสองเองเจ้าค่ะ ยาบำรุงนี้ดื่มแล้วจะเพิ่มพลังให้รางกายได้" "ดีจริง พ่อกับพี่ชายเจ้าต้องค่อยระวังภัยไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย" แล้วสามแม่ลูกก็ออกจากมิติมาอยู่ข้างกองไฟเหมือนเดิม หลีฟูกำลังพักผ่อนอยู่ข้างกองไฟส่วนเสียวหมิงนั้งข้างๆวัวของครอบครััวสถานการณ์แบบนี้วัวถือว่ามีค่ามาก ชิงอี่เห็นพี่ชายเลยเดินเข้าไปหาแล้วยื่นของกินและยาบำรุงให้ "พี่เสียวหมิงกินนี้ก่อนเจ้าค่ะ"พูดแล้วก็ยื่นยาบำรุงให้ "เป็นยาบำรุงไม่มีอันตรายท่านไม่ต้องห่วงมันจะชวยทำให้ท่านไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ"เสียวหมิงเชื่อใจน้องสาวเลยยกขวดแปลกๆขึ้นดื่ม แล้วเขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที "น้องไปเอาของพวกนี้มาจากไหนเหรอ"ของดีแบบนี้น้องสาวเธอไปได้มันมาได้ยังไง ชิงอี่มองรอบๆแล้วก็พูดให้ให้ได้ยินกันแค่สองคน "เอาไว้ตอนนั้งเกวียนข้าจะเล่าให้ฟัง..แล้วนี้หน้าไม้ เอาไว้ป้องกันตัวเจ้าค่ะ"พูดแล้วก็ส่งหน้าไม้ทำจากเหล็กกล้าให้พี่ชายก่อนจะป้อนยาบำรุุงให้วัวสาวอีกรอบก่อนจะเดินกลับไปที่กองไฟ ชิงอี่เอาผ้าห่มออกมาให้มารดากับน้องสาวห่มด้วยกันส่วนเธอก็อยู่เฝ้ายามเป็นเพื่อนพี่ชาย แล้วด้วยเสียวหมิงดื่มยาบำรุงกำลังสูตรพิเศษไปทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอนง่ายๆจึงไม่คิดปลุกบิดาเพราะอยากให้ได้พักผ่อนเต็มที่ พ่อหลีตื่นมาในยามอิ๋น(ตี3ถึงตี5)ก็สงสัยทำไมบุตรชายไม่ปลุก "เสียวหมิงทำไมไม่ปลุกพ่อ..แบบนี้เจ้าก็ไม่ได้พักนะสิ"เขาห่วงบุตรชายจะไม่ได้พักเพราะกลางวันยังต้องคุมเกวียนอีก "ไม่เป็นไรท่านพ่อ เดี๋ยวข้าไปพักตอนนี้ก็ยังมีเวลา"เขาไม่รู้สึกง่วงเลยแถมยังรู้สึกสดชื่นอีกด้วย "แล้วเจ้าถืออะไรนะ..นี้มันหน้าไม้นี้เจ้าเอามาจากไหน"เห็นลูกชายถือหน้าไม้ก็สงสัย บ้านเขามีแต่ธนูไม่มีหน้าไม้แล้วลูกชายเอามาจากไหน "ชิงอี่เอามาให้ข้านะ ข้าก็ไม่รู้นางเอามาจากไหน"อาวุธนี้ดูมีราคามากแถมน้ำหนักยังเบาอีกด้วย "เอาไว้ค่อยถามนางแต่ตอนนี้เจ้าไปพักเหอะ"เดี๋ยวค่อยถามบุตรสาวตอนเช้าก็ได้ พอตอนเช้าชิงอี่ก็เอาขนมปังกับโจ๊กสำเร็จรูปมาให้ทุกคนกินพ่อหลีกับเสียวหมิงก็แปลกใจว่าของกินพวกนี้มันมาได้ไง แต่ชิงอี่บอกจะเล่าให้ฟังบนเกวียนเพราะปลอดภัยกว่า "ไม่มีอะไรไม่ดีเจ้าค่ะท่านพี่ ข้ากับซูซูรู้เรื่องแล้ว" พอทุกคนเก็บของขึ้นเกวียนเรียบร้อยก็จะไปรากวัวสาวเอามาเทียมเกวียนก็รู้สึกว่าวัวดูรูปร่างเปลี่ยนไป จากเดิมหุ่นผอมดูไม่มีสง่าราศีเช้านี้กลับดูรูปร่างแข็งแรงดูเป็นวัวราคาแพงขึ้นมาทันที เจ้าวัวพอเห็นเจ้านายเดินมาก็ขยับเตรียมตัวทันทีพอแกะเชือกผูกมันก็เดินไปที่เกวียนด้วยความเคยชิน ก่อนออกเดินทางชิงอี่ยังเดินมาป้อนยาบำรุงให้มันอีกขวด ในระหว่างเดินทางชิงอี่ก็ตัดสินใจเล่าเรื่องราวให้บิดากับพี่ชายฟัง "ท่านพ่อดื่มนี้ก่อนเจ้าค่ะ"ชิงอี่ยื่นยาบำรุงให้พ่อตัวเอง "มันคืออะไรนะลูก"เขาเห็นบุตรสาวป้อนสิ่งนี้ให้เจ้าวัวก่อนจะเดินทางด้วย "เป็นยาบำรุงร่างกายเจ้าค่ะ..คือตอนที่ข้าป่วยมีท่านเซียนมาชวยชีวิตข้าไวแล้วมอบของต่างๆไว้ให้ครอบครััวเราเจ้าค่ะ" "พี่ชิงอี่มีมิติด้วยนะเจ้าค่ะท่านพ่อ"ซูซูเล่าให้บิดาฟังอย่างตื่นเต้น "ท่านเซียนยังสอนวิธีการต่อสู้ให้ข้าด้วยนะเจ้าค่ะ ต่อไปนี้ข้าก็จะชวนดูแลครอบครัวเราอีกแรงเจ้าค่ะ" "แต่ก่อนอื่นท่านพ่อกับพี่เสียวหมิงสลับกันเข้าไปอาบน้ำก่อนนะเจ้าค่ะ"กลิ่นตัวบุรุษนี้มันแรงจนชิงอี่จะเป็นลมทางด้านสามพี่น้องก็ขายผักอย่างอารมณ์ดีเพราะพอตั้งแผงปุบก็ขายหมดภายในไม่เกินหนึ่งหนึ่งก้านธูป(30นาที) ขากลับนางแวะซื้อไก่ไป5ตัวเพื่อเอาไปทำไก่รมควันตากแห้งไว้เป็นเสบียงหน้าหนาว และไม่ลืมซื้อรำข้าวเอาไว้ให้ผสมใส่ในผักให้หมูป่ากินตามที่มารดาสั่ง เพราะรอบที่แล้วนางไม่ได้ซื้อ ก็นางไม่รู้ว่ามันกินอะไรนอกจากผัก.กลับมาถึงบ้านก็เอาของไปเก็บปล่อยให้น้องๆได้นั้งพัก มารดาก็อุ้มน้องชายออกมารอตอนรับ . "วันนี้บ้านใหญ่มาอีกแล้ว..แต่แม่ก็เก็บของเข้ามิติจนหมด เหลือแต่พวกสัตว์เพราะแม่ลืม"ตอนนั้นนางลืมจริงๆเพราะมัวแต่สนใจข้าวของภายในบ้านและห้องเก็บของ มารู้ตัวตอนที่พี่สะใภ้โดนฝูงไก่ทำร้ายถึงนึกออกว่าตัวเองไม่ได้เก็บสัตว์เลี้ยง "แล้วบ้านใหญ่ได้อะไรไปมั้ยเจ้าค่ะ?"หญิงสาวก็เห็นสัตว์ของนางอยู่ในคอดสัตว์นอนกันเงียบทุกตัวไม่มีหายไป แต่ก็เห็นแปลงผักดูเละเทะเหมือนมีคนเข้าไปเหยียบย่ำ!"ไม่ได้อะไรไปเลยแถมยังโดนทั้งแม่ไก่จิกและเสี่ยวมาวกัดจนได้แผลเต็มตัวกลับไปกันทั้งสองคน ดีว่าท่านย่าไม่โดนทำร้ายด้วยไม่งั้นบ้านเราต้องเดือดร้อนแนๆ"ตอนนั้นนางตกใจคิดอะไรไม่ออก แต่ลองมาคิดดูแล้ว ดีว่าแม่สามีไม่บาดเจ็บไม่งั้นเรื่องต้
เมื่อกลับมาถึงที่พักท่านผู้เฒ่าทั้งหลายมานั้งล้อมวงดื่มน้ำแกงที่ไห่เม้ยต้มให้ "อาอี่มาดื่มน้ำแกงบำรุงรางกายเร็ว ในป่านี้อากาศชื้นเดี๋ยวจะล้มป่วยเอา"แม่เฒ่าฉีเอยเรียกชินอี่ให้มาร่วมวง"เจ้าค่ะ"หญิงสาวรับคำจึงนั้งลงรับน้ำแกงจากซูซู "เหมือนฝนทำท่าจะตกอีกแล้วแบบนี้เราจะได้ออกจากป่ามั้ยนะ"หัวหน้าหมู่บ้านกลัวสัตว์จะย้อนกลับมา"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุงตู่ สัตว์ป่าไม่น่ากลัวเท่าคน ถ้าพวกมันมาข้ามีวิธีไล่มันไปเจ้าค่ะอยู่กับพวกข้าพวกท่านปลอดภัยแนนอน"เธอมีรั้วไฟฟ้าพวกสัตว์ไม่กล้าเข้าใกล้แต่คนนี้สิ เธอคิดว่าอาจยังไม่จบเท่านี้ ตอนออกจากป่าเธออาจต้องแวะไปจวนท่านเจ้าเมืองเสียหน่อยแล้ว ถ้ายังไม่ยอมจบเธอจะเป็นคนจบเรื่องให้เอง แล้วพวกเขาก็เร่งเดินทางจนออกมาใกล้ถึงป่าชั้นนอกถึงจะยังไม่ออกจากป่าแต่ก็นับว่าปลอดภัยกว่าป่าชั้นในเธอตรวจดูแล้วสามวันนี้ฝนจะตกตลอดเธอเลยให้ผู้ชายช่วยกันทำเพิงชั่วคราวทั้งคนและสัตว์ทั้ง7ซึ้งพวกมันก็ฉลาดอยู่กันเงียบๆไม่ส่งเสียง บ่ายวันหนึ่งฝนก็ตกจริงดีว่าเตรียมตัวกันแล้วเลยรับมือได้ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้เธอเลยเข้าไปในห้องวิจัยสร้างอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาเผื่อจะมีชิ้นไหนเอาไปฝากเจ
เมื่อสองผัวเมียรู้ว่าโสมที่ได้มาจากชิงอี่ทั้งสองเลยยิ่งนับถือเด็กสาวแล้วตั้งมั่นว่าจะติดตามครอบครัวนางเพื่อรับใช้ไปตลอด ระหว่างเดินทางเสียวไป๋กับเสียวหงชอบให้ซูซูแปรงขนให้ เจ้าสองเผือกคิดว่าพวกมันคิดถูกที่มาขออาศัยกับฝูงนี้สมาชิกในฝูงไม่มีใครรังแกพวกมันเลยแถมยังคอยกอดพวกมันด้วยความรัก หาผลไม้ให้ ตอนนอนก็มีที่อุ่นๆให้นอนไม่ต้องกลัวใครจะมารังแก พวกมันชอบกระโดดเล่นไปมาระหว่างเกวียนวัว มันสองตัวรู้แหล่งสมบัติหลายที่เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้มันสองตัวอยู่ในฝูงมันจะพาเจ้ามนุษย์นี้ไปล่าสมบัติเองณ เมืองเฉียงเจ้าเมืองฟ้านอ่านรายงานจากลูกน้อง "ผ่านไปเป็นเดือนทำไมยังหาไม่เจอ""ที่ค้ายโจรไม่มีใครรอดเลยขอรับ และไม่ทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้เลย"ลูกน้องเขาที่ไปถึงเจอแต่ศพเกลื่อนไปหมดแถมทรัพย์สินที่เขาเอาไปซ้อนเก็บไว้จากการปล้นและการโกงงบเสบียงภัยแล้งมาจากชาวบ้านก็ยังมาหายแบบไม่มีรองรอย สมบัติมากมายมันจะหายแบบไม่มีรองรอยได้ไงผ่านไปเป็นเดือนเขาก็ตามหาเบาะแสไม่เจอ"แล้วช่วงนี้มีครอบครัวไหนดูมีฐานะบ้างหรือแม้แต่ขบวนอพยพก็ด้วยตรวจให้หมด ข้าต้องเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้"เขาสั่งปิดด้านเพราะจะได้คอยสังเกตุว่า
ดวงตาแดงเหมือนเลือดกับตัวสีขาวเหมือนหิมะ 'กระรอกเผือก'น่ารักจังชิงอี่มองเจ้าลูกกระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู แต่เธอไม่รู้กระรอกกินอะไรเลยนั้งมองมันเฉยๆ เจ้ากระรอกเผือกทำท่าทางเหมือนจะข้ามาหาแต่อยู่ๆก็ตกใจแล้วหนีไป ชิงอี่ก็หันซ้ายหันขวาว่าเจ้าจิ๋วมันตกใจอะไร ก็เจอพี่ชายตัวเองกำลังปีนไปเด็ดดอกไม้ที่เลือยขึ้นมาบนยอด พี่ชายเธอเด็ดดอกไม้ไปให้ใคร เรื่องนี้มันต้องตามไปส่อง เสียวหมิงเด็ดดอกไม้ลงมาให้...ซานซา!! ดูๆแล้วพี่ชายเธอคงอีกหลายปีถึงจะได้แต่งงาน ซานซาเพิ่งจะ10ขวบเองพอหมดความสนใจเรื่องพี่ชายหญิงสาวก็ไปสำรวจรอบๆป่า เผื่อเธอจะเจอสัตว์น่ารักน่ารักอีก ภพที่แล้วเธอไม่มีญาติไม่มีเพื่อนแม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่มีเพราะไม่่ต้องการมีภาระตอนไปทำภารกิจ แต่มาภพนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนรักสัตว์เอามากๆดูได้จากเจ้าสี่สหายที่เธอเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี ต้องป้อนยาบำรุงให้กินทุกวัน เพื่อให้พวกมันสุขภาพแข็งแรงขนจะได้สวยๆ ว่าไปป่านี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีนะสัตว์ป่ามีมากด้วย พอสำรวจจนพอใจก็กลับไปที่กระโจม พอมาถึงกระโจมก็เดินไปหาแก๊งสี่สหายก่อนเลย "เหนื่อยกันมากมั้ยพวกแก ข้าอยากเห็นลูกวัวตัวน้อยๆแล้วพวกแกเมื่อไรจะมี
"ฝนจะตกจริงใช้มั้ยอาอี่"แม่เฒ่าถามด้วยความตื่นเต้น ถ้าฝนตกชาวบ้านก็จะได้คลายร้อนได้บ้างและยังมีน้ำไว้ใช้ แถมแหล่งน้ำธรรมชาติได้มีน้ำไว้ให้สัตว์อีกด้วย "ข้าไม่แนใจเจ้าค่ะ เจ้านี้มันบอกแค่ว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนหนาแน่น""ดีๆ อย่างน้อยยังมีความหวัง ถือเป็นข่าวดี""ฝนตก"เสี่ยวเปา"ฝนตก"หลิงหลง"จ้าฝนจะตกแล้ว"ไห่เม้ยรับคำเด็กทั้งสอง เธอเหมือนมีลูกแฝดเพราะอายุของเด็กใกล้เคียงกัน "ข้าว่าอย่าเพิ่งบอกใครเผื่อมันอาจไม่ตกคนจะผิดหวังเสียเปล่าๆ "หลีฟูกลัวว่าคนจะคาดหวังว่าฝนจะต้องตก ถ้ามันไม่ตกอาจทำให้ชาวบ้านผิดหวังก็ได้ การเดินทางเป็นไปด้วยความเงียบเพราะทุกคนเริ่มสิ้นหวังว่าเดินหนีภัยแล้งครั้งนี้อาจไม่ใช้ความคิดที่ดีก็ได้ตอนตั้งกระโจมพักค้างแรมจากที่เคยมีเสียงพูดคุยก็เริ่มเงียบไม่มีการพูดคุยกันแบบในอดีตเพราะทุกคนท้อแท้เกินกว่าจะมีอารมณ์เสวนา ชิงอี่เป็นห่วงสัตว์เลี้ยงของเธอที่เฝ้าบำรุงมาอย่างดีกลัวจะโดนคนคิดเอาไปเป็นของตัวเองหรือคนใจบาปเอาไปทำอาหารเพราะพวกมันอ้วนดูน่ากินมากเธอเลยอยู่เฝ้าสี่สหายไม่ห่าง เธอถือว่านี้คือของรักของข้าเชียวแหละและเช้ามืดของเช้าวันหนึ่งก็มีลมแรงจนกระโจมปลิวชิงอี่คิดว่าฝ
ขบวนหนีภัยแล้งเดินทางต่อโดยมีหัวหน้าหมู่บ้านนำขบวนและครอบครัวหลีปิดท้ายขบวน ชิงอี่ค่อยใช้กล้องส่องทางไกลดูรอบๆว่าปลอดภัยมั้ย "ชิงอี่เห็นอะไรบ้าง"พ่อหลีถามบุตรสาวด้วยกลัวพวกโจรจะตามมา "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ไม่มีใครตามขบวนเรามา "ที่เธอกังวลไม่ใช้โจร แต่เป็นพวกเจ้าหน้าที่ต่างหากละ จากที่เธออ่านในสมุดบัญชี มีเจ้าเมืองเฉียงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้วพวกเธอกำลังเดินทางผ่านเมืองนี้พอดี พวกเธอจะเจออะไรบ้างยากที่จะเดาจริงๆ ช่วงหยุดพักกลางวันหลายๆครอบครัวเลือกที่จะนอนพักเอาแรงเพราะเมื่อคืนทุกคนเกือบจะไม่ได้นอนกันเลย หัวหน้าหมู่บ้านก็เหมือนจะเข้าใจเลยพักให้นานอีกหน่อย เฟยหลงไปดูรอบๆพอรู้มีแหล่งน้ำ ไห่เม้ยกับฮวาหลิวเลยพาเสี่ยวซากับเสี่ยวหลิงไปอาบน้ำสระผมให้สะอาดตาขึ้น เพราะเมื่อคืนแค่เช็ดตัวแต่ยังไม่สะอาดหมดและผมที่เกาะกันเป็นก้อนๆต้องค่อยๆสางกว่าจะอาบน้ำสระผมเสร็จก็หมดเวลาพักพอดี "พออาบน้ำแล้วค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย"ชิงอี่พูดด้วยความเอ็นดู "ข้าว่าแหล่งน้ำเริ่มลดลงแล้วนะ"เฟยหลงเห็นปริมาณน้ำที่ลดลงมากจากรอยเดิม"หมายความว่าภัยแล้งเริ่มขยายพื้นที่แล้วเหรอ"แม่เฒ่าหวองเป็นกังกล กว่าพวกนางจะเดินไป







