Share

บทที่3 ท่านย่ามาร่วมขบวน

last update Last Updated: 2025-11-12 15:02:31

ชิงอี่สลับพาบิดากับพี่ชายเข้าไปอาบน้ำในมิติ

ขบวนแวะหยุดพักกลางวันเพราะแดดแรง บางครอบครัวไม่มีเกวียนจะได้พักขาบ้าง พอหยุดพ่อหลีก็รีบถอดเทียมเกวียนพาวัวเข้าร่มและเอาน้ำให้มันกินทันที

ส่วนสมาชิกก็ลงมายืดแข้งยืดขา แล้วกินแผ่นแป้งกับผักดองเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุ เพื่อนบ้านก็แวะเวียนมาถามไถ่เรื่องอาการป่วยของชิงอี่ แล้วก็แลกเปลี่ยนความคิดกัน

"ข้าว่าพอไปถึงเมืองเฉินตู่จะขอพักอยู่กับญาติดีกว่าไม่ขึ้นเหนือไปพวกเจ้าแล้ว"บางคนก็จะไปอาศัยอยู่กับญาติไม่เดินทางขึ้นเหนือไปถึงชายแดน

"ถ้ามีญาติอยู่แบบนี้ก็ดีสิ..กว่าจะเดินทางไปถึงชายแดนใช้เวลาไม่ใช้น้อยไหนจะเงินทองอีก"

"แต่ข้ากะจะไปตั้งรกรางทางเหนือเลย ข้าขายที่ทางหมดแล้วไปเริ่มต้นใหม่อาจจะดีกว่าเก่าก็ได้"บางคนก็อาจไปตั้งรกรากอยู่ที่ชายแดนเลย ส่วนบ้านหลียังตัดสินใจไม่ได้

จริงๆพ่อหลีมีท่านแม่และพี่ชายอยู่เมืองตงเย่ว แต่สมัยก่อนด้วยไม่ชอบว่าเขาแต่งฮวาหลิวเข้าตระกูลเพราะบ้านฮวาหลิวยากจน มีท่านแม่ที่ร่างกายไม่แข็งแรงแถมน้องชายยังเล็กอีกสองคน ทำให้มารดาโกรธมากจนตัดขาดเขาจากตระกูล เขากับภรรยาเลยต้องย้ายไปเริ่มต้นใหม่ทีเมืองเก่าหยา ส่วนบ้านเดิมภรรยาตอนแรกจะหนี้ภัยแล้งด้วยกันแต่เพราะแม่หวองไม่ยอมทิ้งบ้านเลยไม่มีใครกล้าขัดใจ

"ข้าแก่แล้ว ถ้าจะตายก็ให้ตายที่นี้แหละถ้าพวกเจ้าจะไปก็ไปเถอะนะ"แต่ไหนเลยลูกชายทั้งสองจะกล้าทิ้งมารดาฮวาหลิวเลยต้องจำใจแยกจากมารดาและน้องชาย

ผ่านไปครึ่งเดือนในขนาดที่ขบวนพักแรมอยู่ตีนเขา

เฟยหลงน้องชายของฮวาหลิวอายุ20ก็ตามขบวนมาทันแล้วบอกมารดากับพี่ชายกำลังเร่งเดินทางมาสมทบขบวน

"ท่านแม่ยอมมาแล้วเหรอ"ฮวาหลิวเอยถามด้วยความดีใจที่มารดายอมหนีมากับพวกตน

"ใช้..แต่บ้านเราเดินเท้าเลยเดินทางได้ช้านะ พี่เฟยเทียนให้ข้าล้วงหน้ามาบอกท่านก่อน "

งั้นเดี๋ยวข้าจะขับเกวียนไปรับท่านแม่เอง"หลีฟูพอได้ยินว่าแม่ยายต้องเดินเท้าก็รีบจะไปรับด้วยรู้ว่าสุขภาพแม่ยายไม่แข็งแรง

หลีฟูกับเฟยหลงเลยขับเกวียนย้อนกลับไปรับแม่เฒ่าหวอง ส่วนทางฮวาหลิงกับลูกๆก็เดินเท้ารอ

เมื่อไม่มีเกวียน4แม่ลูกก็ตั้งกระโจมอยู่ด้วยกันและกินอาหารจากมิติ พอถึงเมืองหลงเสวย ชิงอี่เลยเอายารักษาบาดแผลอย่างดีเอาไปขายในร้านโอสถได้ตำลึงมาถึง180ตำลึง

"ยาดี..ไม่ทราบว่าแม่นางยังมีอีกมั้ยข้าซื่อหมดเลย"

"ข้ามีเท่านี้แหละเจ้าค่ะ พอดีครอบครัวข้าเดือดร้อนเลยจำใจต้องเอายาดีมาขายเพื่อความอยู่รอด"ชิงอี่ไม่อยากทำให้มันเป็นของที่หาง่ายเกินไป มีโอกาสค่อยว่ากันใหม่

พอออกจากร้านโอสถชิงอี่เลยให้พี่ชายพาไปตลาดค้าสัตว์ซื่อวัวเทียมเกวียนอีกคัน

ที่บ้านเธอมีวัวสาวอยู่แล้วครั้งนี้เลยจะซื้อวัวหนุ่มเอาไปเป็นคู่ให้มัน

เมืองมาถึงตลาดค้าสัตว์ก็มองหาสิ่งที่ต้องการ

"เชิญเลยขอรับ เชิญแวะทางนี้ก่อน"

เสียงพ่อค้าร้านต่างๆร้องเรียกลูกค้าให้เข้ามาดูร้านตัวเอง

ชิงอี่มองรอบๆสายตาก็ไม่สะดุดกับล่อตัวหนึ่งเข้า ลักษณะมันน่าสนใจมาก มันดูไม่สนใจสิ่งไดสายตามองไปที่ลาตัวหนึ่งแล้วค่อยดูแลลาตัวนั้นอย่่างใกล้ชิด

"ลาตัวนั้นมันเป็นอะไรเหรอเถ้าแก "ชิงอี่เห็นมันน่าสนใจเลยถามดู

"ลามันป่วยนะแม่นาง"

"แล้วมันเป็นอะไรกับล่อตัวนั้นเห็นมันเฝ้าไม่ห่างกันเลย"หรือจะเป็นคู่รักกัน

"มันเป็นพี่น้องกันนะขอรับแต่ตัวลามันไม่แข็งแรงทำงานอะไรไม่ไหว ถ้าท่านสนใจล่อตัวนี้ข้าขายให้ในราคา25ตำลึงแถมลาตัวนี้ไปเลย"อยู่ก็ไม่คุ้มค่ารักษาอย่างน้อยก็ขายล่อได้

ชิงอี่เห็นสายตาที่ล่อมองมาทางเธอด้วยสายตาอ้อนวอน เธอเลยตัดสินใจซื้อสองพี่น้องนี้ไว้ เดี๋ยวค่อยป้อนยาบำรุงให้ เธอไม่เชื่อว่าจะไม่สามารสรักษามันได้

"แล้วแบบนี้เรายังต้องซื้อวัวอีกมั้ย"เสียวหมิงเห็นน้องสาวได้ล่อกับลาแล้วคงไม่คิดอยากได้วัวแล้วมั้ง

"ซื้อสิไปดูวัวกัน..เถ้าแก่ข้าฝากเจ้าสองพี่น้องนี้ก่อนนะเดี๋ยวข้ามารับ"บอกแล้วก็เตรียมจะเดินไปดูวัว แต่เถ้าแก่เรียกเอาไว้

"ถ้าพวกเจ้าอยากได้วัวข้ามีร้านแนะนำ รับรองได้วัวลักษณะดีแนนอน"ในเมืองลูกค้าดีเขาก็อยากแนะนำร้านที่ดีไม่เอาเปรีบบลูกค้า

"พวกท่านตรงไปแล้วขวาตรงหัวมุมจะเจอร้านขายวัวบอกว่ามาจากเถ้าแก่จางเขาจะเลือกวัวดีให้ท่าน"

เมืองสองพี่น้องเดินไปตามทางที่ถ้าแก่จางบอกก็เจอร้านค้าวัว

"มาจากเถ้าแก่จากเหรอ งั้นเชิญทางนี้ข้ามีวัวลักษณะดีแนะนำ"

เมื่อเข้ามาด้านในก็เจอวัวรูปรางดีอยู่3,4ตัว ชิงอี่ลองเดินดูรอบก็เลือกมาหนึ่งตัวแล้วถามหาร้านเทียมเกวียนเถ้าแก่เลยบอกว่าที่ร้านมีบริการรวมทั่งหมดจ่ายไป39ตำลึง

ตอนเสียวหมิงกับชิงอี่กลับไปหามารดาเลยมีทั้งวัว ล่อแล้วก็ลาที่พอถึงที่หมายก็ล้มตัวลงนอนแล้วหอบหายใจแรงทันที

ชิงอี่เห็นดังนั้นเลยรีบเดินไปป้อนยาบำรุงให้มันก่อนใครเพื่อน พอมันกินยาบำรุงสักพักก็หายใจดีขึ้นแล้วลุกขึ้นได้ในที่สุด เจ้าล่อที่เห็นน้องชายลุกขึ้นก็เดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ

"น้องแกดีขึ้นแล้วนะไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว"พูดพร้อมกับลูบหัวเจ้าล่อไปด้วย

"กินสะแกจะได้แข็งแรงกว่าเก่า"พูดแล้วก็ป้อนยาบำรุ่งให้เจ้าล่อและเจ้าวัวหนุ่ม

"ซื้ออะไรมาเยอะแยะนะลูก"ฮวาหลิวถามบุตรทั้งสองเบาๆ

"ก็สมาชิกเราจะเพิ่มขึ้น ข้ากับพี่เสียวหมิงเลยไปซื้อพวกแป้งกับธัญพืชมาเพิ่มนะเจ้าค่ะ"

ผ่านไปสองวันพ่อหลีก็พาแม่เฒ่าหวองมาสบทบขบวนทัน

"ท่านพ่อมาไวจังเลยเจ้าค่ะ"ซูซูเข้าไปกอดบิดาด้วยความคิดถึง

"เจ้าวัวมันเดินไม่ยอมหยุดเลยนะสิ พ่อละกลัวมันจะหัวใจวาย"พ่อฟูไม่ได้เร่งให้วัวมันเดินไม่ได้หยุด แต่มันเดินทางไม่ยอมหยุดพักเลยเขาละเป็นห่วงมันจริงๆเพราะวัวตัวนี้เป็นยานพาหนะเดียวของครอบครัว

แม่เฒ่าหวองเมื่อลงมาจากเวียนก็เห็นบุตรสาวถึงกับหลั่งน้ำตา

"แม่ไม่คิดว่าจะได้พบลูกอีก..แม่น่าจะฟังพวกเจ้าแต่แรก"พูดไปก็กอดบุตรสาวไปด้วย

"ตอนนี้เราก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้วท่านแม่ไม่ต้องร้องนะเจ้าค่ะ"ฮวาหลิวก็อดร้องไห้ตามมารดาไม่ได้

"ตลอดการเดินทางแม่ได้เฟยเทียนแบกขึ้นหลังมาตลอดทางจนเท้าเขาเป็นแผลไปหมด"พูดแล้วก็หันไปมองบุตรชายวัย22หนาวที่เท้าทั้งสองข้างเต็มไปด้วยบาดแผล ที่มีไห่เม้ยภรรยาวัย21หนาวค่อยดูแลทั้งสองมีลูกด้วยกัน1คนคือต้าเป่าอายุ3หนาว

ชิงอี่เห็นดังนั้นเลยรีบเข้าไปช่วยทำแผลให้ท่านน้า

"ท่านน้าดื่มยานี้ก่อนนะเจ้าค่ะมันช่วยฟื้นฟูร่างกาย"พูดแล้วก็ให้น้าชายดื่มยาบำรุงก่อนแล้วนั้งลงทำแผลให้

"ระหว่างทางลำบากพวกเจ้าไม่น้อย"ฮวาหลิวเอยกับครอบครัวเดิมตัวเอง

"ตอนนี้มีครอบครัวแม่กับน้องชายเจ้าเข้ามาเพิ่มจะเป็นการเพิ่มภาระให้้พวกเจ้ามั้ย"แม่เฒ่าหวองรู้สึกเกรงใจลูกเขย ตอนแรกถึงดึงดันที่จะอยู่บ้านเดิม แต่พอเวลาผ่านไปนางก็รู้สึกสงสารลูกๆแล้วหลานชายวัย3หนาวที่ต้องอยู่อย่่่งอดๆอยากๆเลยตัดสินใจตามมาสบทบกับบุตรสาว

"ท่านยายไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ ข้าเตรียมเกวียนไว้ให้แล้ว เราเดินทางได้ไม่มีปัญหาแนนอนเจ้าค่ะ"ชิงอี่ให้ความมั้นใจ

เธอไม่เคยมีครอบครัวมาก่อนพอมีครอบครัวเธอก็อยากดูแลให้เต็มที่

พอถึงวันเดินทางหลังจากที่พักเตรียมเสบียงกันมา4วัน มีบางครอบครัวเลือกที่จะแยกไปอีกทางเพื่อไปบ้านญาติขบวนลี้ภัยจึงลดลงไปอีก7,8ครอบครัว

ครอบครัวหลีกับแม่เฒ่าหวองเลยนังเกวียนวัวกันครอบครัวละคัน แล้วเฟยเทียนนั้งรถลากจากล่อส่วนเจ้าลาให้แบกเสบียง หลังจากกินยาบำรุงไปเจ้าลาก็แข็งแรงขึ้นไม่มีอาการของลาป่วยให้เห็นอีกเลย

ครอบครัวหลีกรายเป็นครอบครัวใหญ่ทันที แต่ก็ไม่เป็นภาระให้กลุ่ม

เดินทางไปอยู่ๆชิ่งอี่ก็เริ่มรู้สึกผิดปกติ แถวนี้มันเงียบเกินไป เธอเลยให้ท่านพ่อไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านให้ระวังตัว

"แถวนี้มันไม่น่าไว้ใจนะขอรับท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ทางที่ดีเราตั้งกระโจกติดๆกันดีกว่าเพื่อป้องกันเอาไว"

หลีฟูพูดตามที่บุตรสาวสั่ง

พอหัวหน้าหมู่บ้านได้ฟังก็คิดตามทันที

"งั้นบอกให้ทุกคนตั้งกระโจมอย่าห่างกันเยอะและคอยสอดส่องดูด้วย"

"ท่านน้าทั้งสองใช้อาวุธเป็นมั้ยเจ้าค่ะ"ชิงอี่ถามน้าชายทั้งสอง

"น้ามีพละกำลังมากต่อสู้ได้ดีพอตัวส่วนเฟยหลงก็พอมีวิชาหมัดมวยบ้าง"เฟยเทียนบอกแกหลานสาว

พอชิงอี่ฟังแล้วก็พอจะหาอาวุธให้ท่านน้าทั้งสองได้

เฟยเทียนให้ใช้กระบอกลูกตุ้มเพราะเป็นอาวุธหนักเหมาะแกพละกำลังมาก

ส่วนเฟยหลงให้ใช้ดาบเพราะสามารสรำเป็นท่วงท่าได้ ส่วนพี่ชายเธอให้ใช้หน้าไม้บิดาใช้ขวานเพราะบิดาเธอใช้เครื่องมือนี้ถนัดที่สุด

ตอนกลางคืนเธอให้เอารถทั้งสามคันมาจอดร่วมกันแล้วให้ผู้หญิงและเด็กอยู่แต่ในเกวียนเพราะชิงอี่เปลี่ยนผ้าคุมหลังคาเป็นผ้าใบกันกระสุนและของมีคมต่างๆจะไม่สามารสกรีดผ้าใบนาโนนี้ขาดได้

และกลางดึกก็มีเสียงโวกแวกกังมาแต่ไกล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่10 บ้านใหญ่ไม่ยอมจบ

    ทางด้านสามพี่น้องก็ขายผักอย่างอารมณ์ดีเพราะพอตั้งแผงปุบก็ขายหมดภายในไม่เกินหนึ่งหนึ่งก้านธูป(30นาที) ขากลับนางแวะซื้อไก่ไป5ตัวเพื่อเอาไปทำไก่รมควันตากแห้งไว้เป็นเสบียงหน้าหนาว และไม่ลืมซื้อรำข้าวเอาไว้ให้ผสมใส่ในผักให้หมูป่ากินตามที่มารดาสั่ง เพราะรอบที่แล้วนางไม่ได้ซื้อ ก็นางไม่รู้ว่ามันกินอะไรนอกจากผัก.กลับมาถึงบ้านก็เอาของไปเก็บปล่อยให้น้องๆได้นั้งพัก มารดาก็อุ้มน้องชายออกมารอตอนรับ . "วันนี้บ้านใหญ่มาอีกแล้ว..แต่แม่ก็เก็บของเข้ามิติจนหมด เหลือแต่พวกสัตว์เพราะแม่ลืม"ตอนนั้นนางลืมจริงๆเพราะมัวแต่สนใจข้าวของภายในบ้านและห้องเก็บของ มารู้ตัวตอนที่พี่สะใภ้โดนฝูงไก่ทำร้ายถึงนึกออกว่าตัวเองไม่ได้เก็บสัตว์เลี้ยง "แล้วบ้านใหญ่ได้อะไรไปมั้ยเจ้าค่ะ?"หญิงสาวก็เห็นสัตว์ของนางอยู่ในคอดสัตว์นอนกันเงียบทุกตัวไม่มีหายไป แต่ก็เห็นแปลงผักดูเละเทะเหมือนมีคนเข้าไปเหยียบย่ำ!"ไม่ได้อะไรไปเลยแถมยังโดนทั้งแม่ไก่จิกและเสี่ยวมาวกัดจนได้แผลเต็มตัวกลับไปกันทั้งสองคน ดีว่าท่านย่าไม่โดนทำร้ายด้วยไม่งั้นบ้านเราต้องเดือดร้อนแนๆ"ตอนนั้นนางตกใจคิดอะไรไม่ออก แต่ลองมาคิดดูแล้ว ดีว่าแม่สามีไม่บาดเจ็บไม่งั้นเรื่องต้

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่9 ที่อันตรายถือที่ปลอดภัย

    เมื่อกลับมาถึงที่พักท่านผู้เฒ่าทั้งหลายมานั้งล้อมวงดื่มน้ำแกงที่ไห่เม้ยต้มให้ "อาอี่มาดื่มน้ำแกงบำรุงรางกายเร็ว ในป่านี้อากาศชื้นเดี๋ยวจะล้มป่วยเอา"แม่เฒ่าฉีเอยเรียกชินอี่ให้มาร่วมวง"เจ้าค่ะ"หญิงสาวรับคำจึงนั้งลงรับน้ำแกงจากซูซู "เหมือนฝนทำท่าจะตกอีกแล้วแบบนี้เราจะได้ออกจากป่ามั้ยนะ"หัวหน้าหมู่บ้านกลัวสัตว์จะย้อนกลับมา"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุงตู่ สัตว์ป่าไม่น่ากลัวเท่าคน ถ้าพวกมันมาข้ามีวิธีไล่มันไปเจ้าค่ะอยู่กับพวกข้าพวกท่านปลอดภัยแนนอน"เธอมีรั้วไฟฟ้าพวกสัตว์ไม่กล้าเข้าใกล้แต่คนนี้สิ เธอคิดว่าอาจยังไม่จบเท่านี้ ตอนออกจากป่าเธออาจต้องแวะไปจวนท่านเจ้าเมืองเสียหน่อยแล้ว ถ้ายังไม่ยอมจบเธอจะเป็นคนจบเรื่องให้เอง แล้วพวกเขาก็เร่งเดินทางจนออกมาใกล้ถึงป่าชั้นนอกถึงจะยังไม่ออกจากป่าแต่ก็นับว่าปลอดภัยกว่าป่าชั้นในเธอตรวจดูแล้วสามวันนี้ฝนจะตกตลอดเธอเลยให้ผู้ชายช่วยกันทำเพิงชั่วคราวทั้งคนและสัตว์ทั้ง7ซึ้งพวกมันก็ฉลาดอยู่กันเงียบๆไม่ส่งเสียง บ่ายวันหนึ่งฝนก็ตกจริงดีว่าเตรียมตัวกันแล้วเลยรับมือได้ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้เธอเลยเข้าไปในห้องวิจัยสร้างอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาเผื่อจะมีชิ้นไหนเอาไปฝากเจ

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่8 มนุษย์น่ากลัวกว่าสัตว์

    เมื่อสองผัวเมียรู้ว่าโสมที่ได้มาจากชิงอี่ทั้งสองเลยยิ่งนับถือเด็กสาวแล้วตั้งมั่นว่าจะติดตามครอบครัวนางเพื่อรับใช้ไปตลอด ระหว่างเดินทางเสียวไป๋กับเสียวหงชอบให้ซูซูแปรงขนให้ เจ้าสองเผือกคิดว่าพวกมันคิดถูกที่มาขออาศัยกับฝูงนี้สมาชิกในฝูงไม่มีใครรังแกพวกมันเลยแถมยังคอยกอดพวกมันด้วยความรัก หาผลไม้ให้ ตอนนอนก็มีที่อุ่นๆให้นอนไม่ต้องกลัวใครจะมารังแก พวกมันชอบกระโดดเล่นไปมาระหว่างเกวียนวัว มันสองตัวรู้แหล่งสมบัติหลายที่เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้มันสองตัวอยู่ในฝูงมันจะพาเจ้ามนุษย์นี้ไปล่าสมบัติเองณ เมืองเฉียงเจ้าเมืองฟ้านอ่านรายงานจากลูกน้อง "ผ่านไปเป็นเดือนทำไมยังหาไม่เจอ""ที่ค้ายโจรไม่มีใครรอดเลยขอรับ และไม่ทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้เลย"ลูกน้องเขาที่ไปถึงเจอแต่ศพเกลื่อนไปหมดแถมทรัพย์สินที่เขาเอาไปซ้อนเก็บไว้จากการปล้นและการโกงงบเสบียงภัยแล้งมาจากชาวบ้านก็ยังมาหายแบบไม่มีรองรอย สมบัติมากมายมันจะหายแบบไม่มีรองรอยได้ไงผ่านไปเป็นเดือนเขาก็ตามหาเบาะแสไม่เจอ"แล้วช่วงนี้มีครอบครัวไหนดูมีฐานะบ้างหรือแม้แต่ขบวนอพยพก็ด้วยตรวจให้หมด ข้าต้องเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้"เขาสั่งปิดด้านเพราะจะได้คอยสังเกตุว่า

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่7 โสมนี้ให้เจ้า

    ดวงตาแดงเหมือนเลือดกับตัวสีขาวเหมือนหิมะ 'กระรอกเผือก'น่ารักจังชิงอี่มองเจ้าลูกกระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู แต่เธอไม่รู้กระรอกกินอะไรเลยนั้งมองมันเฉยๆ เจ้ากระรอกเผือกทำท่าทางเหมือนจะข้ามาหาแต่อยู่ๆก็ตกใจแล้วหนีไป ชิงอี่ก็หันซ้ายหันขวาว่าเจ้าจิ๋วมันตกใจอะไร ก็เจอพี่ชายตัวเองกำลังปีนไปเด็ดดอกไม้ที่เลือยขึ้นมาบนยอด พี่ชายเธอเด็ดดอกไม้ไปให้ใคร เรื่องนี้มันต้องตามไปส่อง เสียวหมิงเด็ดดอกไม้ลงมาให้...ซานซา!! ดูๆแล้วพี่ชายเธอคงอีกหลายปีถึงจะได้แต่งงาน ซานซาเพิ่งจะ10ขวบเองพอหมดความสนใจเรื่องพี่ชายหญิงสาวก็ไปสำรวจรอบๆป่า เผื่อเธอจะเจอสัตว์น่ารักน่ารักอีก ภพที่แล้วเธอไม่มีญาติไม่มีเพื่อนแม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่มีเพราะไม่่ต้องการมีภาระตอนไปทำภารกิจ แต่มาภพนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนรักสัตว์เอามากๆดูได้จากเจ้าสี่สหายที่เธอเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี ต้องป้อนยาบำรุงให้กินทุกวัน เพื่อให้พวกมันสุขภาพแข็งแรงขนจะได้สวยๆ ว่าไปป่านี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีนะสัตว์ป่ามีมากด้วย พอสำรวจจนพอใจก็กลับไปที่กระโจม พอมาถึงกระโจมก็เดินไปหาแก๊งสี่สหายก่อนเลย "เหนื่อยกันมากมั้ยพวกแก ข้าอยากเห็นลูกวัวตัวน้อยๆแล้วพวกแกเมื่อไรจะมี

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่6 โรคระบาด

    "ฝนจะตกจริงใช้มั้ยอาอี่"แม่เฒ่าถามด้วยความตื่นเต้น ถ้าฝนตกชาวบ้านก็จะได้คลายร้อนได้บ้างและยังมีน้ำไว้ใช้ แถมแหล่งน้ำธรรมชาติได้มีน้ำไว้ให้สัตว์อีกด้วย "ข้าไม่แนใจเจ้าค่ะ เจ้านี้มันบอกแค่ว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนหนาแน่น""ดีๆ อย่างน้อยยังมีความหวัง ถือเป็นข่าวดี""ฝนตก"เสี่ยวเปา"ฝนตก"หลิงหลง"จ้าฝนจะตกแล้ว"ไห่เม้ยรับคำเด็กทั้งสอง เธอเหมือนมีลูกแฝดเพราะอายุของเด็กใกล้เคียงกัน "ข้าว่าอย่าเพิ่งบอกใครเผื่อมันอาจไม่ตกคนจะผิดหวังเสียเปล่าๆ "หลีฟูกลัวว่าคนจะคาดหวังว่าฝนจะต้องตก ถ้ามันไม่ตกอาจทำให้ชาวบ้านผิดหวังก็ได้ การเดินทางเป็นไปด้วยความเงียบเพราะทุกคนเริ่มสิ้นหวังว่าเดินหนีภัยแล้งครั้งนี้อาจไม่ใช้ความคิดที่ดีก็ได้ตอนตั้งกระโจมพักค้างแรมจากที่เคยมีเสียงพูดคุยก็เริ่มเงียบไม่มีการพูดคุยกันแบบในอดีตเพราะทุกคนท้อแท้เกินกว่าจะมีอารมณ์เสวนา ชิงอี่เป็นห่วงสัตว์เลี้ยงของเธอที่เฝ้าบำรุงมาอย่างดีกลัวจะโดนคนคิดเอาไปเป็นของตัวเองหรือคนใจบาปเอาไปทำอาหารเพราะพวกมันอ้วนดูน่ากินมากเธอเลยอยู่เฝ้าสี่สหายไม่ห่าง เธอถือว่านี้คือของรักของข้าเชียวแหละและเช้ามืดของเช้าวันหนึ่งก็มีลมแรงจนกระโจมปลิวชิงอี่คิดว่าฝ

  • ข้ามมิติมาพาครอบครัวหนีภัยแล้ง   บทที่5 ภัยแล้งใกล้ฉัน

    ขบวนหนีภัยแล้งเดินทางต่อโดยมีหัวหน้าหมู่บ้านนำขบวนและครอบครัวหลีปิดท้ายขบวน ชิงอี่ค่อยใช้กล้องส่องทางไกลดูรอบๆว่าปลอดภัยมั้ย "ชิงอี่เห็นอะไรบ้าง"พ่อหลีถามบุตรสาวด้วยกลัวพวกโจรจะตามมา "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ไม่มีใครตามขบวนเรามา "ที่เธอกังวลไม่ใช้โจร แต่เป็นพวกเจ้าหน้าที่ต่างหากละ จากที่เธออ่านในสมุดบัญชี มีเจ้าเมืองเฉียงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้วพวกเธอกำลังเดินทางผ่านเมืองนี้พอดี พวกเธอจะเจออะไรบ้างยากที่จะเดาจริงๆ ช่วงหยุดพักกลางวันหลายๆครอบครัวเลือกที่จะนอนพักเอาแรงเพราะเมื่อคืนทุกคนเกือบจะไม่ได้นอนกันเลย หัวหน้าหมู่บ้านก็เหมือนจะเข้าใจเลยพักให้นานอีกหน่อย เฟยหลงไปดูรอบๆพอรู้มีแหล่งน้ำ ไห่เม้ยกับฮวาหลิวเลยพาเสี่ยวซากับเสี่ยวหลิงไปอาบน้ำสระผมให้สะอาดตาขึ้น เพราะเมื่อคืนแค่เช็ดตัวแต่ยังไม่สะอาดหมดและผมที่เกาะกันเป็นก้อนๆต้องค่อยๆสางกว่าจะอาบน้ำสระผมเสร็จก็หมดเวลาพักพอดี "พออาบน้ำแล้วค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย"ชิงอี่พูดด้วยความเอ็นดู "ข้าว่าแหล่งน้ำเริ่มลดลงแล้วนะ"เฟยหลงเห็นปริมาณน้ำที่ลดลงมากจากรอยเดิม"หมายความว่าภัยแล้งเริ่มขยายพื้นที่แล้วเหรอ"แม่เฒ่าหวองเป็นกังกล กว่าพวกนางจะเดินไป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status