Share

สวามีคนที่สอง

Author: Ai Chi Tudou
last update Last Updated: 2025-05-24 07:30:37

เมื่อมีหลี่เสินอยู่กับจ้าวหลินอ้าย เฉินซีหมิงจึงขอตัวลากลับก่อน เนื่องจากต้องไปจัดการงานในราชสำนักแทนจ้าวหลินอ้าย ก่อนออกเดินทางเขาดึงตัวหลี่เสินไปพูดคุยอยู่พักใหญ่แล้วจึงจากไปอย่างสบายใจ

“เฉินซีหมิงพูดอะไรกับเจ้าหรือ”

จ้าวหลินอ้ายโบกพัดขนนก ดวงตามองบุรุษด้วยความสงสัย

“เอ่อ พี่ซีหมิงสอนงานกระหม่อมพะย่ะค่ะ”

บุรุษก้มหน้าเขินอาย

“สอนงาน”

สตรีทวนคำ เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็เข้าใจทันที

“วันนี้ยังไม่ต้องหรอก เมื่อวานข้าเหนื่อยไปหน่อย”

นางบอกเขาเสียงเบา

“แต่พรุ่งนี้เช้าก็คงดี”

หลี่เสินพยักหน้าเข้าใจ

“เช่นนั้นกระหม่อมไปต้มยาให้ฝ่าบาท บำรุงชี่เลือดก่อนนะพะย่ะค่ะ”

หมอหนุ่มหายไปประมาณหนึ่งก้านธูปก็ยกถ้วยใส่ยาต้มสมุนไพรมาให้จ้าวหลินอ้าย สตรีรับมาดื่มแล้วก็ทำสีหน้าเหยเก

“ยาบำรุง ทำไมถึงขม”

“กระหม่อมใส่ยาขับพิษร้อนลงไปด้วยพะย่ะค่ะ ยาจึงมีรสขม”

สตรีมองหน้าเขา คิ้วเรียวขมวดสงสัย

“ร้อน ข้ามีส่วนไหนร้อนหรือ”

“เอ่อ” บุรุษหลบสายตาไม่กล้ามองหน้าผู้ถาม

“กระหม่อมได้ยินมาว่าเมื่อวานฝ่าบาททรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายทั้งคืน จึงคิดว่าน่าจะมีบางส่วนที่อักเสบพะย่ะค่ะ”

“จะ เจ้า” ใบหน้าจ้าวหลินอ้ายเริ่มแดงระเรื่อ

“ขอบใจนะ”

“ยาทาก็มีพะย่ะค่ะ” บุรุษยื่นตลับยาให้นาง

“ทาบริเวณที่รู้สึกเจ็บหรือระบม รับรองว่าหายดีภายในหนึ่งชั่วยาม”

“อืม” สตรียื่นมือเรียวรับตลับยา

“ว่าแต่ข้ามองไม่ถนัด ต้องให้ข้าทาเองหรือ”

“ให้นางกำนัลทาให้ก็ได้พะย่ะค่ะ”

“จะบ้าหรือ พวกนางล้วนอ่อนเยาว์ ข้าไม่อยากให้สตรีไร้เดียงสามาเห็น”

หลี่เสินเงยหน้ามองสตรีด้วยความลังเลใจ

“กระหม่อมเป็นหมอ กระหม่อมทาให้ฝ่าบาทเองพะย่ะค่ะ”

“ก็แค่เท่านี้” จ้าวหลินอ้ายพูด “จะทาตอนไหนดีล่ะ”

“ทาเร็วก็หายเร็วนะพะย่ะค่ะ”

“ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าก็มาทาเลย”

สตรีขยับตัวถอดอาภรณ์ท่อนล่างของตัวเองออก มือเรียวกวักเรียกหมอหนุ่มให้มานั่งบนเตียง

หลี่เสินนั่งลงตามที่สตรีบอก นิ้วยาวลูบไล้ไปตามเนื้ออูมที่มีไรขนบางเบา ก่อนแหวกดูกลีบกุหลาบที่แดงช้ำ

นิ้วที่เรียวยาวสั่นเล็กน้อย บุรุษกลั้นหายใจแล้วใช้มืออีกข้างเปิดตลับยา 

“ทาหรือยัง อย่าช้าสิ”

จ้าวหลินอ้ายบอกเขา นางนั่งโชว์ของลับให้บุรุษดูก็รู้สึกเคอะเขินอยู่บ้าง แต่อีกใจหนึ่งก็ลุ้นว่าเขาจะทำอะไรเพิ่มหรือไม่

“ทะ ทาแล้วพะย่ะค่ะ”

หลี่เสินพูด นิ้วเรียวแตะที่ยาแล้วค่อยๆ ทาบนกลีบเนื้อนุ่มอย่างเบามือ

“อื้อ”

สตรีร้องเมื่อถูกสัมผัสส่วนที่อ่อนไหว สะโพกแอ่นขึ้นอย่างลืมตัว

บุรุษเห็นปฏิกิริยาของจ้าวหลินอ้าย ปากโพรงหวานเริ่มมีน้ำใสให้เห็น เขาจึงส่งสองนิ้วของตนแหย่เข้าไปในโพรงหวานนั้น 

“อื้ม”

สตรีส่งเสียงครางในลำคอ นางขยับท่อนล่างรับกับการเคลื่อนไหวของนิ้วบุรุษ

นิ้วแกร่งของบุรุษเมื่อเข้าสู่ภายในโพรงหวาน ก็ขยับเข้าออกอย่างคล่องแคล่ว จังหวะที่ใช้ทำให้จ้าวหลินอ้ายส่งเสียงร้องออกมาอย่างไม่อาย

ไม่นานนักร่างบางก็เกร็งและกระตุกด้วยความสุขสม สายตาหวานเชื่อมจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา

“ข้าอยากได้มากกว่านี้”

“แต่ว่าเพิ่งทายาไปนะพะย่ะค่ะ”

“ข้าไม่รู้สึกเจ็บแล้ว รู้สึกอย่างอื่นมากกว่า”

จ้าวหลินอ้ายพูด ขาเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นวางบนไหล่ของบุรุษที่นั่งอยู่ตรงสะโพกตน

“ไม่เอาเป็นพรุ่งนี้เช้าแล้วหรือ”

บุรุษถามนางอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ไม่รอล่ะ เปลี่ยนใจแล้ว” 

ได้ยินดังนั้นหลี่เสินก็ยกมือปลดผ้าคาดเอวของตนแล้วดึงกางเกงลงรวดเร็ว

มือหนาจับอาวุธคู่กายรูดขึ้นลงไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็จับเรียวขาขาวอีกข้างของสตรีพาดหน้าขา กระเถิบกายเข้าไปใกล้จนแก่นกายสัมผัสกับโพรงหวาน แล้วขยับเอวให้หัวมนมุดเข้าไปอย่างช้าๆ

“อื้อ”

จ้าวหลินอ้ายครางในลำคอด้วยความพึงพอใจ มือเรียวจับผ้าห่มแล้วบิดระบายความเสียว

เห็นใบหน้างามเริ่มเปลี่ยนไปเพราะความเสียวซ่าน หลี่เสินไม่รอช้าขยับเอวสอบของตนเร็วขึ้นให้อาวุธที่ค่อนข้างใหญ่ครูดเข้าออกโพรงหวานทั้งแรงและเร็วจนร่างบางของสตรีขยับตามแรงกระแทก

‘เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเอาดุเสียจริง’

จ้าวหลินอ้ายคิดในใจ เฉินซีหมิงเน้นนุ่มนวล หลี่เสินดุดัน รสชาติต่างกันก็ดี จะได้ไม่เบื่อ

“เจ้าเก่งขนาดนี้มีประสบการณ์มาก่อนหรือ”

นางถามเขาเพราะเริ่มกลัวว่าจะไปพรากคนรักของผู้อื่นมาเป็นของตน

“ไม่เคยพะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมอ่านตำรามาเยอะ เรื่องแบบนี้ไม่ยากเกินความสามารถ”

บุรุษตอบตามความจริง แต่จ้าวหลินอ้ายได้ฟังกลับรู้สึกว่าถ้าบุรุษอื่นมาได้ยินคงคิดว่าเขากำลังโอ้อวดอยู่เป็นแน่

“ก็ดี ข้าก็อยากรู้นักว่าเจ้าจะเก่งขนาดไหน”

พูดยังไม่ทันสิ้นเสียง หลี่เสินก็จับร่างของสตรีพลิกคว่ำทั้งที่ส่วนล่างยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ จ้าวหลินอ้ายสะดุ้งตกใจ ท่านี้เคยได้ยินมาว่าเข้าได้ลึกมาก แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะลึกขนาดนี้

นางฟุบหน้าลงบนหมอน ยกสะโพกของตนให้สูงพอดีกับส่วนล่างของหลี่เสิน บุรุษมองบั้นท้ายงาม มือหนายกขึ้นมาจับสะโพกทั้งสองข้างแล้วกระแทกเน้นๆ เนิบนาบสลับกับเร็ว

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังจนกลายเป็นเสียงที่น่าอาย แต่เสียงร้องของสตรีดังกว่ามากนัก มีเสียงครางจากลำคอของบุรุษแทรกเบาๆ เป็นระยะ

เหล่าองครักษ์และนางกำนัลต่างขยับกายให้อยู่ห่างจากตำหนักอีกหลายก้าวอย่างอัตโนมัติ พวกเขาเกรงว่าตนเองอาจทำอะไรผิดพลาดจนขัดจังหวะคนที่อยู่ภายใน

“หลี่เสิน เจ้าเมื่อไหร่จะเสร็จ”

จ้าวหลินอ้ายถามเมื่อตนเองถึงฝั่งฝันแล้วหลายรอบแต่บุรุษยังคงกระแทกเข้าร่างของตนเองไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ

“คงอีกสักพักพะย่ะค่ะ”

บุรุษตอบพลางยิ้มจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง

“อื้อ”

สตรีพยักหน้า ในใจรู้สึกสดชื่นเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น 

หลังจากคำถาม บุรุษจึงเพิ่มความเร็วและแรง เขากระแทกย้ำๆ พร้อมกับควงเอวสอบจนสตรีกรีดร้องเสียงดัง ไม่นานนักเขาก็พ่นน้ำรักสีขาวขุ่นใส่โพรงหวานพร้อมกับซบหน้าลงบนแผ่นหลังขาวเนียน

จ้าวหลินอ้ายหายใจหอบเหนื่อย แค่อยู่บนเตียงกลับรู้สึกเหมือนวิ่งระยะไกลหลายลี้ โพรงหวานยังคงตอดแก่นกายของบุรุษไม่หยุด 

“อึดเกินไปแล้ว”

นางบ่นหลี่เสินเสียงเบา

บุรุษหน้าหวานยิ้มให้สายตาเจ้าเล่ห์ เขาพลิกร่างบางแล้วก้มลงจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่ม ใช้เวลาละเลียดชิมริมฝีปากหวานจนพอใจก่อนถอนริมฝีปากออก

“ท่านพี่ซีหมิงบอกว่าฝ่าบาทชอบแบบนี้ กระหม่อมเลยจัดให้พะย่ะค่ะ”

นิ้วเรียวยื่นไปหยิกแก้มผู้พูดทันใด

“เจ้าสองคนแกล้งข้า”

‘ดีนะที่ผู้ชายของฉันหล่อทั้งคู่ ให้อภัยได้ไม่มีปัญหา’ 

“มาทำความสะอาดเนื้อตัวให้ข้าเสีย อ่อ ถอดเสื้อของเจ้าด้วย เมื่อครู่เจ้าถอดแค่ท่อนล่าง ข้ายังไม่เห็นกล้ามของเจ้าเลย”

บุรุษมองสตรีด้วยสายตาประหลาดใจก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง

“กระหม่อมก็ยังไม่เห็นเรือนร่างอวบอิ่มของฝ่าบาท ตอนทำความสะอาดจะให้เช็ดทั้งตัวหรือไม่พะย่ะค่ะ”

จ้าวหลินอ้ายนึกขึ้นได้ว่าตนเองร่วมรักกับเขาโดยที่ยังใส่เสื้อผ้าชิ้นอื่นอยู่ ใบหน้างามก็แดงระเรื่อ

“อย่าดีกว่า ถ้าถอดเสื้อผ้าออกหมด ข้าเกรงว่าคงได้ต่ออีกยก”

“ฮ่าฮ่า”

บุรุษหน้าหวานหัวเราะอารมณ์ดีจนสตรีใจสั่นไหว เขารีบไปหาอ่างล้างหน้ากับผ้าเพื่อเช็ดตัวสตรีอย่างรวดเร็ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   สวามีคนที่สอง

    เมื่อมีหลี่เสินอยู่กับจ้าวหลินอ้าย เฉินซีหมิงจึงขอตัวลากลับก่อน เนื่องจากต้องไปจัดการงานในราชสำนักแทนจ้าวหลินอ้าย ก่อนออกเดินทางเขาดึงตัวหลี่เสินไปพูดคุยอยู่พักใหญ่แล้วจึงจากไปอย่างสบายใจ“เฉินซีหมิงพูดอะไรกับเจ้าหรือ”จ้าวหลินอ้ายโบกพัดขนนก ดวงตามองบุรุษด้วยความสงสัย“เอ่อ พี่ซีหมิงสอนงานกระหม่อมพะย่ะค่ะ”บุรุษก้มหน้าเขินอาย“สอนงาน”สตรีทวนคำ เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็เข้าใจทันที“วันนี้ยังไม่ต้องหรอก เมื่อวานข้าเหนื่อยไปหน่อย”นางบอกเขาเสียงเบา“แต่พรุ่งนี้เช้าก็คงดี”หลี่เสินพยักหน้าเข้าใจ“เช่นนั้นกระหม่อมไปต้มยาให้ฝ่าบาท บำรุงชี่เลือดก่อนนะพะย่ะค่ะ”หมอหนุ่มหายไปประมาณหนึ่งก้านธูปก็ยกถ้วยใส่ยาต้มสมุนไพรมาให้จ้าวหลินอ้าย สตรีรับมาดื่มแล้วก็ทำสีหน้าเหยเก“ยาบำรุง ทำไมถึงขม”“กระหม่อมใส่ยาขับพิษร้อนลงไปด้วยพะย่ะค่ะ ยาจึงมีรสขม”สตรีมองหน้าเขา คิ้วเรียวขมวดสงสัย“ร้อน ข

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   เก็บท่านหมอกลับวัง

    เช้าวันถัดมา จ้าวหลินอ้ายตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่ในห้องบรรทมเพียงผู้เดียว ดวงตากลมมองไปรอบห้องไม่เห็นเฉินซีหมิงจึงเรียกนางกำนัลที่เฝ้าอยู่นอกห้องเข้ามาซักถาม“ราชครูเฉินไปไหน” “ไปดูเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมตำหนักเล็กทางด้านหน้าเพคะ”นางกำนัลตอบพลางช่วยกันทำความสะอาดเรือนร่างของจ้าวหลินอ้ายและเปลี่ยนชุดให้นางใหม่ หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จ้าวหลินอ้ายก็ออกมาเดินเล่นที่บ่อน้ำพุร้อน เมื่อวานมัวแต่เล่นสนุกกับเฉินซีหมิงจึงไม่ได้สนใจบรรยากาศโดยรอบเท่าใดนัก ตอนนี้มีเวลาว่างจึงต้องการชื่นชมทิวทัศน์ให้เต็มที่ “หืม ด้านนี้มีประตูเล็ก ไปไหนกันนะ”สตรีเอื้อมมือเรียวไปเปิดประตู จากนั้นจึงเดินออกไปโดยไม่ได้เรียกนางกำนัลหรือองครักษ์ให้ติดตามทางเดินนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่สะอาดสะอ้าน สองข้างทางปลูกต้นกุ้ยฮัวที่ส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณสตรีเดินตามทางไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินจนลืมดูพื้นผิวถนนเบื้องหน้า เท้าเรียวก้าวไม่ทันระวังจึงข้อเท้าพลิกล้มลงบนพื้น“โอ้ย”จ้าวหลินอ้ายร้องพร้อมกับยกมือกุมข้อเท้า นางพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกเจ็บจนลุกไม่ไหวนั่งกุมข้อเท้าของตนสักพัก ก็ได้ยินเสียงฝีเ

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   แปรพระราชฐาน

    ตำหนักฮัวซาน ภูเขาฮัวซาน เมืองต้าซาน จ้าวหลินอ้ายนั่งอยู่บนจุดชมวิวที่สูงที่สุด จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นทั่วทั้งเมืองต้าซาน ทั้งยังสามารถมองเห็นเมืองอื่นที่อยู่ไกลๆ ได้อีกหลายเมือง “ฝ่าบาทไม่เข้าไปพักผ่อนในตำหนักหรือพะย่ะค่ะ”เฉินซีหมิงเดินถือถาดใส่ผลไม้มาวางไว้บนโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างกายนาง “อากาศดีเช่นนี้จะไปอุดอู้อยู่ในตำหนักทำไม”จ้าวหลินอ้ายกวักมือให้บุรุษลงนั่งข้างกาย เฉินซีหมิงไม่รอช้า หย่อนกายลงบนเก้าอี้ มือหนาหยิบอิงเถาป้อนใส่ปากนางทันที “ที่ด้านหลังของตำหนักมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่นะพะย่ะค่ะ นอกจากอุณหภูมิของน้ำที่อุ่นกำลังพอเหมาะดีต่อสุขภาพแล้ว ทิวทัศน์ตรงนั้นก็ยังสวยงามไม่แพ้ที่ตรงนี้” ดวงตาหวานของสตรีมองชายหนุ่ม ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มยั่วยวน “เจ้าคิดว่า เหมาะกับการทำภารกิจนอกสถานที่หรือไม่” เฉินซีหมิงตาโตประหลาดใจกับคำพูดของสตรีตรงหน้า ก่อนที่จะหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ “ดีสิพะย่ะค่ะ คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง การทำภารกิจนอกสถานที่จะทำให้ฝ่าบาทได้รับพลังหยินจากพระจันทร์และพลังหยางจ

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   เขาเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ

    ปัก ปัก ปักเสียงที่น่าอายดังเป็นจังหวะต่อเนื่องสักพัก จากนั้นก็เร็วขึ้นเป็น ‘ปักปักปักปัก’ รัวๆ จนบุรุษสตรีบนเตียงต่างส่งเสียงครางอย่างไม่อายไม่นานนักร่างบางก็เกร็งกระตุกพร้อมกับร่างหนาที่ขยับสะโพกเข้าร่องรักจนสุด ปลายแท่งหยกฉีดพ่นน้ำสีขาวขุ่นจนเต็มร่องหวานใบหน้างามของจ้าวหลินอ้ายมองใบหน้าสุขสมของชายหนุ่ม รวมถึงอาวุธคู่กายที่ออกจากกลางกายตนก็ใจสั่นจนควบคุมไม่อยู่‘เสร็จพร้อมกันคือแบบนี้สินะ’นางแกล้งล้มตัวนอนรอดูท่าทีของเฉินซีหมิง“เหนื่อยแล้วหรือพะย่ะค่ะ”เฉินซีหมิงล้มลงนอนข้างกายสตรี มือหนาลูบผมของนางอย่างแผ่วเบา“เหนื่อยแล้วอย่างไร ไม่เหนื่อยแล้วอย่างไร”สตรีพูดพลางอมยิ้มไม่ให้บุรุษสังเกตเห็น“ฝ่าบาทนี่นะ”เฉินซีหมิงทำหน้าหมั่นเขี้ยว เขาขยับกายแกร่งให้อยู่บนร่างอวบอัด ริมฝีปากก้มลงหยอกเย้าหน้าอกทั้งสองข้างอีกครั้ง“พรุ่งนี้พระองค์อาจจะเสด็จออกท้องพระโรงไม่ไหว”เขาหยุดพูดสักพักก่อนจะเริ่มปรนเปรอนางอีกครั้ง“หากพรุ่งนี้ข้าออกท้องพระโรงเป็นปกติแสดงว่าคืนนี้ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกขุนนางคงหาว่าเจ้าไม่ได้เรื่อง”“ได้ กระหม่อมจะทำให้เต็มที่พะย่ะค่ะ”เฉินซีหมิงจับขาขาวพาดไหล่ของตน แล้วข

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   ปรนนิบัติ

    เมื่อถึงยามค่ำคืน ราชครูเฉินหรือเฉินซีหมิงก็มาถึงตำหนักเยว่กวง ดูจากใบหน้าของเขาก็รู้ว่ามีความประหม่าและวิตกกังวลแอบซ่อนอยู่“ฝ่าบาท ราชครูเฉินมาแล้วเพคะ”“ให้เขาเข้ามา”จ้าวหลินอ้ายกล่าวจบก็ลุกขึ้นยืน เมื่อหางตาเห็นบุรุษรูปงามร่างสูงเข้ามานางก็เดินนำเข้าไปยังห้องสรงน้ำ“เจ้าต้องเนื้อตัวสะอาดก่อนที่จะปรนนิบัติข้า”นางกล่าวกับบุรุษ แขนเรียวกางออกทั้งสองข้าง นางกำนัลเข้ามาปลดอาภรณ์ของนางออกด้วยความรวดเร็วเฉินซีหมิงรีบหลุบตามองต่ำ เขาไม่กล้ามองเรือนร่างของจักรพรรดินีตนจ้าวหลินอ้ายสังเกตเห็นท่าทางของเขาก็อมยิ้มชอบใจ‘อ่อนประสบการณ์สินะ ไม่เป็นไร ข้าก็ไม่เคยเช่นกัน ชาติก่อนโสด ชาตินี้ก็ต้องลองสักหน่อย’“เจ้าไม่ลงสระพร้อมกับข้าล่ะ”นางถามชายหนุ่มที่ยังคงยืนประหม่าอยู่ริมสระหลังจากที่กล่าวจบ เหล่านางกำนัลก็เข้าล้อมรอบเฉินซีหมิง มือหลายคู่จับเข้าที่เสื้อผ้าของเขาชิ้นต่างๆ ไม่นานนักเสื้อผ้าทุกชิ้นก็หลุดออกจากกายอย่างรวดเร็วบุรุษใบหูแดงก่ำ เกิดมาเพิ่งเคยถูกสตรีถอดเสื้อผ้า เขารีบลงสระโดยไม่รอให้จ้าวหลินอ้ายเรียกอีกครั้งจ้าวหลินอ้ายโบกมือส่งสัญญาณให้นางกำนัล นางกำนัลต่างพากันดับไฟจนเหลือแสงส

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   เป็นจักรพรรดินี

    “ฉันชื่อจ้าวหลินอ้าย เป็นสาวโสดวัยสามสิบหกปี ขณะที่กำลังจะข้ามถนนกลับบ้านก็ถูกรถยนต์ฝ่าสัญญาณไฟเข้ามาชนอย่างรุนแรง รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในอีกยุคสมัย ไม่รู้ว่าเป็นยุคโบราณหรือโลกใบใหม่มิติใหม่กันแน่แต่ที่รู้ก็คือชีวิตใหม่นี้ช่างทำให้ฉันมีความสุขเสียจริง นอกจากจะได้มาเป็นจักรพรรดินีผู้ปกครองแผ่นดินแล้ว บรรดาขุนนางข้าราชการที่รายล้อมล้วนหน้าตาดีเป็นอาหารแก่สายตาแทบจะตลอดเวลาถึงจะต้องว่าราชการบริหารแผ่นดินก็สู้ตายล่ะ”ร่างบางของสตรีในชุดสีแดงสดลุกขึ้นจากเตียงบรรทมอย่างเกียจคร้าน มีนางกำนัลหลายคนคอยปรนนิบัติอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง“ฝ่าบาท เหล่าขุนนางมาขอเข้าเฝ้าเพคะ”นางกำนัลน้อยกราบทูล“พวกเขาได้บอกหรือไม่ว่ามีเรื่องอันใด”จ้าวหลินอ้ายเอ่ยปากพูดน้ำเสียงราบเรียบ ตอนนี้นางอยู่ในร่างของสตรีที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับนางในชาติที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน ต่างกันตรงที่สตรีร่างนี้มีอายุสามสิบสามปีเท่านั้นสามสิบสามปีแต่ยังไม่มีพระสวามีเป็นตัวเป็นตน ขนาดนายสนมในวังก็ไม่มีสักคนนี่จักรพรรดินีจ้าวหลินอ้ายคนก่อนใจแข็งอยู่เป็นโสดท่ามกลางบรรดาบุรุษรูปงามได้อย่างไรกัน “น่าจะเร่งให้ฝ่าบาทรับสนมเข้าวังเพคะ”“อ่อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status