วังหลวง
จ้าวหลินอ้ายออกว่าราชการที่ท้องพระโรงอีกครั้งหลังจากไปแปรพระราชฐานอยู่หลายวัน
“ฝ่าบาท แม่ทัพโม่เถี่ยรบชนะแคว้นเย่ทำให้เราได้รับชัยกลับมาพะย่ะค่ะ”
เสนาบดีหลัวทูลบอกนาง
“ดีมาก ยอดเยี่ยม”
สตรีกล่าว นางมองดูแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ แม่ทัพโม่ผู้นี้สูงกว่าเฉินซีหมิงประมาณสองคืบ แต่ความล่ำกลับมากกว่าเป็นสามเท่า
‘หุ่นแม่ทัพต้องใหญ่อย่างนี้สินะ’
นางคิดในใจก่อนพูดออกมา
“ท่านแม่ทัพโม่นำชัยมาสู่แคว้น ท่านต้องการสิ่งใดเป็นรางวัลสามารถบอกกับข้าได้โดยไม่จำเป็นต้องลังเลใจ”
โม่เถี่ยเงยหน้ามองจักรพรรดินีผู้เลอโฉมแล้วปรายสายตามองเฉินซีหมิงก่อนยกมือทั้งสองขึ้นมาประสานกัน
“กระหม่อมได้ยินมาว่าฝ่าบาทรับราชครูเฉินกับท่านหมอ หลี่เป็นนายสนมในวัง กระหม่อมอยากขอเป็นสนมของพระองค์อีกคนพะย่ะค่ะ”
จ้าวหลินอ้ายได้ยินก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่
‘นี่ข้างามขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ชาติก่อนก็หน้าตาแบบนี้แต่โสด ชาตินี้กลับมีแต่คนยินยอมมาเป็นสามี’<
จ้าวหลินอ้ายสมองขาวโพลน ส่วนล่างเสียวและคับแน่นมาก นางไม่เคยถูกอุ้มตัวลอยแล้วกระแทกใส่มาก่อน เมื่อเจอท่านี้กับกระบองใหญ่ยักษ์ทำให้สติเตลิด ร้องครางด้วยความเสียวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างถ้าบอกว่าเฉินซีหมิงนุ่มนวลอ่อนโยน ส่วนหลี่เสินดุดันแล้ว โม่เถี่ยต้องกล่าวได้ว่าดุยิ่งกว่ามากสะโพกของนางถูกจับกระแทกเข้าออก หน้าอกสองเต้ากระเพื่อมขึ้นลงแรงๆ จนยอดถันแข็งชูชัน แม่โม่เถี่ยไม่ได้เล้าโลมแต่ก็ทำให้ทั้งร่างรู้สึกเสียวซ่านแน่นจุกไปในเวลาเดียวกันปัก ปัก ปัก ปักเสียงเนื้อกระทบกันดังไปถึงเรืออีกลำ ทำให้เรืออีกลำไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงดังแข่งในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อจ้าวหลินอ้ายร้องเสียงดังเพราะถึงฝั่งฝัน โม่เถี่ยก็อุ้มนางเช่นเดิม แต่จับนางหันหน้าออก ให้แผ่นหลังของนางชนกับหน้าอกของเขาแทนเขาเดินไปจับนางตอกกระแทกไปจนถึงหน้ากระจกสำริดบานใหญ่ ให้เขาและหญิงสาวเห็นภาพเสียวนี้ไปพร้อมกันจ้าวหลินอ้ายมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง เต้านมใหญ่สองลูกเด้งขึ้นลงตามแรง ด้านล่างเห็นกระบองของบุรุษมุดเข้าออกร่องรักตนเป็นจังหวะถี่ๆ ทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง โพรงหวา
วังหลวงจ้าวหลินอ้ายออกว่าราชการที่ท้องพระโรงอีกครั้งหลังจากไปแปรพระราชฐานอยู่หลายวัน“ฝ่าบาท แม่ทัพโม่เถี่ยรบชนะแคว้นเย่ทำให้เราได้รับชัยกลับมาพะย่ะค่ะ”เสนาบดีหลัวทูลบอกนาง“ดีมาก ยอดเยี่ยม”สตรีกล่าว นางมองดูแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ แม่ทัพโม่ผู้นี้สูงกว่าเฉินซีหมิงประมาณสองคืบ แต่ความล่ำกลับมากกว่าเป็นสามเท่า‘หุ่นแม่ทัพต้องใหญ่อย่างนี้สินะ’นางคิดในใจก่อนพูดออกมา“ท่านแม่ทัพโม่นำชัยมาสู่แคว้น ท่านต้องการสิ่งใดเป็นรางวัลสามารถบอกกับข้าได้โดยไม่จำเป็นต้องลังเลใจ”โม่เถี่ยเงยหน้ามองจักรพรรดินีผู้เลอโฉมแล้วปรายสายตามองเฉินซีหมิงก่อนยกมือทั้งสองขึ้นมาประสานกัน“กระหม่อมได้ยินมาว่าฝ่าบาทรับราชครูเฉินกับท่านหมอ หลี่เป็นนายสนมในวัง กระหม่อมอยากขอเป็นสนมของพระองค์อีกคนพะย่ะค่ะ”จ้าวหลินอ้ายได้ยินก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่‘นี่ข้างามขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ชาติก่อนก็หน้าตาแบบนี้แต่โสด ชาตินี้กลับมีแต่คนยินยอมมาเป็นสามี’
หลิวกวนแช่มังกรยักษ์ของตนให้โพรงรักของจ้าวม่านอวิ๋นตอดรัดอยู่สักพัก เมื่อแรงตอดเบาลงเขาก็เริ่มขยับเอวเข้าออกให้มังกรตัวใหญ่ครูดกับผนังนุ่มไปมา“อ้า”เขาร้องครางอย่างลืมตัว ความรู้สึกดีแบบนี้เขาก็เพิ่งเคยลองครั้งแรกมิน่าที่เหล่าบุรุษหลงใหลสตรีก็เพราะรู้สึกเช่นนี้เองเขาจับขาขาวของจ้าวม่านอวิ๋นให้แยกออกจากกันมากขึ้น ส่วนตัวเขาคุกเข่าแทงมังกรให้ผลุบเข้าออกตามจังหวะที่ตนพอใจดวงตาคมมองก้อนเนื้อสองก้อนที่กระเด้งยั่วยวนแล้วจึงมองมังกรของตัวเองเคลื่อนเข้าออกโพรงหวาน ในใจเต็มไปด้วยความฮึกเหิมเมื่อได้ยินเสียงครางและเห็นใบหน้าเหยเกของจ้าวม่านอวิ๋น เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงกระแทกเพื่อให้นางเสียวมากขึ้นและร้องดังขึ้นยิ่งนางเสียวและเสร็จมากครั้งเท่าไหร่เขาก็รู้สึกดีมากเท่านั้นเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม บุรุษสตรียังคงกระแทกท่อนล่างใส่กันไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก“ถึงพร้อมกันนะ”หลิวกวนพูดข้างหูของจ้าวม่านอวิ๋น หญิงสาวพยักหน้าดวงตาเคลิบเคลิ้มบุรุษขยับเอวสอบตอกมังกรของตนเข้าโพรงนุ่มอีกครั้ง เสียงร้องสุขส
“ที่นี่ก็สวยดีอยู่หรอก แต่ว่าทำไมเสด็จพี่ต้องให้ข้ามาพักที่นี่ตั้งหนึ่งเดือนด้วยล่ะ”จ้าวม่านอวิ๋นบ่นกับนางกำนัลของตัวเอง“มีแต่ภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตก ข้าเห็นทุกวันย่อมเบื่อเป็นธรรมดา”“หม่อมฉันได้ยินมาว่าภูเขาด้านบนมีถ้ำด้วยนะเพคะ”นางกำนัลรีบพูดสิ่งที่ตนเองรู้มา“ถ้ำหรือ” จ้าวม่านอวิ๋นทวนคำ “ถ้ำธรรมดาหรือไม่”“เห็นว่าภายในมีสิ่งก่อสร้างด้วยเพคะ น่าจะฮ่องเต้องค์ก่อนๆ สร้างไว้”“งั้นหรือ เช่นนั้นข้าก็ควรไปดูสินะ”สตรีลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ แล้วเรียกนางกำนัลให้ตามไปด้วยไม่กี่คน........ถ้ำชิงฮู่ถ้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากถ้ำเหมือนกับถ้ำตามธรรมชาติโดยทั่วไป แต่เมื่อเดินเข้าไปตามเส้นทางเดินประมาณครึ่งชั่วยามก็จะเจอตำหนักภายในนั้น บริเวณโดยรอบตำหนักปูด้วยหินอ่อนอย่างดี มีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ด้านข้างจ้าวม่านอวิ๋นมาถึงปากถ้ำ เมื่อสอบถามทหารที่เฝ้าด้านหน้าจึงเดินเข้าไปภายในถ้ำเพียงสองคนกับนางกำนัลที่สนิท ส่วนคนอื่
เมื่อมีหลี่เสินอยู่กับจ้าวหลินอ้าย เฉินซีหมิงจึงขอตัวลากลับก่อน เนื่องจากต้องไปจัดการงานในราชสำนักแทนจ้าวหลินอ้าย ก่อนออกเดินทางเขาดึงตัวหลี่เสินไปพูดคุยอยู่พักใหญ่แล้วจึงจากไปอย่างสบายใจ“เฉินซีหมิงพูดอะไรกับเจ้าหรือ”จ้าวหลินอ้ายโบกพัดขนนก ดวงตามองบุรุษด้วยความสงสัย“เอ่อ พี่ซีหมิงสอนงานกระหม่อมพะย่ะค่ะ”บุรุษก้มหน้าเขินอาย“สอนงาน”สตรีทวนคำ เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็เข้าใจทันที“วันนี้ยังไม่ต้องหรอก เมื่อวานข้าเหนื่อยไปหน่อย”นางบอกเขาเสียงเบา“แต่พรุ่งนี้เช้าก็คงดี”หลี่เสินพยักหน้าเข้าใจ“เช่นนั้นกระหม่อมไปต้มยาให้ฝ่าบาท บำรุงชี่เลือดก่อนนะพะย่ะค่ะ”หมอหนุ่มหายไปประมาณหนึ่งก้านธูปก็ยกถ้วยใส่ยาต้มสมุนไพรมาให้จ้าวหลินอ้าย สตรีรับมาดื่มแล้วก็ทำสีหน้าเหยเก“ยาบำรุง ทำไมถึงขม”“กระหม่อมใส่ยาขับพิษร้อนลงไปด้วยพะย่ะค่ะ ยาจึงมีรสขม”สตรีมองหน้าเขา คิ้วเรียวขมวดสงสัย“ร้อน ข
เช้าวันถัดมา จ้าวหลินอ้ายตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่ในห้องบรรทมเพียงผู้เดียว ดวงตากลมมองไปรอบห้องไม่เห็นเฉินซีหมิงจึงเรียกนางกำนัลที่เฝ้าอยู่นอกห้องเข้ามาซักถาม“ราชครูเฉินไปไหน” “ไปดูเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมตำหนักเล็กทางด้านหน้าเพคะ”นางกำนัลตอบพลางช่วยกันทำความสะอาดเรือนร่างของจ้าวหลินอ้ายและเปลี่ยนชุดให้นางใหม่ หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จ้าวหลินอ้ายก็ออกมาเดินเล่นที่บ่อน้ำพุร้อน เมื่อวานมัวแต่เล่นสนุกกับเฉินซีหมิงจึงไม่ได้สนใจบรรยากาศโดยรอบเท่าใดนัก ตอนนี้มีเวลาว่างจึงต้องการชื่นชมทิวทัศน์ให้เต็มที่ “หืม ด้านนี้มีประตูเล็ก ไปไหนกันนะ”สตรีเอื้อมมือเรียวไปเปิดประตู จากนั้นจึงเดินออกไปโดยไม่ได้เรียกนางกำนัลหรือองครักษ์ให้ติดตามทางเดินนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่สะอาดสะอ้าน สองข้างทางปลูกต้นกุ้ยฮัวที่ส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณสตรีเดินตามทางไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินจนลืมดูพื้นผิวถนนเบื้องหน้า เท้าเรียวก้าวไม่ทันระวังจึงข้อเท้าพลิกล้มลงบนพื้น“โอ้ย”จ้าวหลินอ้ายร้องพร้อมกับยกมือกุมข้อเท้า นางพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกเจ็บจนลุกไม่ไหวนั่งกุมข้อเท้าของตนสักพัก ก็ได้ยินเสียงฝีเ