ตำหนักฮัวซาน ภูเขาฮัวซาน เมืองต้าซาน
จ้าวหลินอ้ายนั่งอยู่บนจุดชมวิวที่สูงที่สุด จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นทั่วทั้งเมืองต้าซาน ทั้งยังสามารถมองเห็นเมืองอื่นที่อยู่ไกลๆ ได้อีกหลายเมือง
“ฝ่าบาทไม่เข้าไปพักผ่อนในตำหนักหรือพะย่ะค่ะ”
เฉินซีหมิงเดินถือถาดใส่ผลไม้มาวางไว้บนโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างกายนาง
“อากาศดีเช่นนี้จะไปอุดอู้อยู่ในตำหนักทำไม”
จ้าวหลินอ้ายกวักมือให้บุรุษลงนั่งข้างกาย เฉินซีหมิงไม่รอช้า หย่อนกายลงบนเก้าอี้ มือหนาหยิบอิงเถาป้อนใส่ปากนางทันที
“ที่ด้านหลังของตำหนักมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่นะพะย่ะค่ะ นอกจากอุณหภูมิของน้ำที่อุ่นกำลังพอเหมาะดีต่อสุขภาพแล้ว ทิวทัศน์ตรงนั้นก็ยังสวยงามไม่แพ้ที่ตรงนี้”
ดวงตาหวานของสตรีมองชายหนุ่ม ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มยั่วยวน
“เจ้าคิดว่า เหมาะกับการทำภารกิจนอกสถานที่หรือไม่”
เฉินซีหมิงตาโตประหลาดใจกับคำพูดของสตรีตรงหน้า ก่อนที่จะหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ
“ดีสิพะย่ะค่ะ คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง การทำภารกิจนอกสถานที่จะทำให้ฝ่าบาทได้รับพลังหยินจากพระจันทร์และพลังหยางจากกระหม่อม”
“คิคิ”
จ้าวหลินอ้ายเอื้อมนิ้วเรียวไปหยิกแขนผู้พูดด้วยความเขินอาย
“ข้าแค่แกล้งถาม เจ้าทำไมต้องจริงจังขนาดนี้”
สตรีหลบสายตาเจ้าชู้ของเขา การมีบุรุษที่หล่อถูกใจมาคอยดูแลพะเน้าพะนอช่างทำให้รู้สึกมีความสุขเสียจริง
“เรื่องนี้สมควรจริงจังนะพะย่ะค่ะ”
เฉินซีหมิงอมยิ้มแล้วป้อนผลไม้สตรีต่อ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะเป็นคนอุ้มนางไปที่บ่อน้ำพุร้อนด้วยตนเอง
........
หลังจากอาหารค่ำ เฉินซีหมิงก็บีบนวดให้จ้าวหลินอ้าย เขาไล่นางกำนัลและทหารองครักษ์ให้ออกไปอยู่รอบนอกตำหนักรอฟังคำสั่ง เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาอยู่กับจ้าวหลินอ้ายสองต่อสอง
“ทำไม เจ้าอายพวกเขาหรือ”
จ้าวหลินอ้ายเอ่ยแซวบุรุษตรงหน้า
“ฝ่าบาทไม่อายหรือพะย่ะค่ะ”
บุรุษหน้าตาหล่อเหลาไม่ตอบแต่ถามกลับจนสตรีไม่กล้าพูดต่อ
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือแกร่งเอื้อมไปช้อนร่างบางของนางแล้วเดินไปยังบ่อน้ำพุร้อนอย่างช้าๆ ให้สตรีมองบรรยากาศสวยงามรอบกายได้เต็มที่
เดินถึงบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ แสงจากพระจันทร์ส่องสว่างจนเห็นน้ำตกจากภูเขาลูกใกล้ๆ นอกจากนั้นยังมองเห็นแสงไฟจากบ้านเรือนในเมืองที่อยู่บนพื้นราบไกลๆ
“สวยหรือไม่”
เฉินซีหมิงกระซิบข้างหูหญิงสาวขณะที่มือแกร่งบรรจงวางร่างบางลงบนก้อนหินริมขอบบ่อน้ำพุร้อน
“อืม สวยมาก”
จ้าวหลินอ้ายพยักหน้าตอบ
นัยน์ตาดอกท้อจ้องดวงตาของสตรี น้ำเสียงแหบพร่าของเขาทำให้คนฟังใจสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“สวยอย่างไรก็ไม่เท่าฝ่าบาท ฝ่าบาทงามมากจนทำให้กระหม่อมคลั่งได้เลยนะพะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นคืนนี้ข้าอนุญาตให้เจ้าคลั่งรักข้าได้เต็มที่”
จ้าวหลินอ้ายสบตาเขา มือเรียวยื่นไปสัมผัสหน้าอกแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ แล้วลูบไปมาช้าๆ
บุรุษยกมือมาจับมือเรียวของนางแล้วรวบขึ้นเหนือศีรษะ ใบหน้าหล่อเหลาเข้าประชิดใบหน้างาม จากนั้นริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันแล้วแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม
มือหนาปลดอาภรณ์ของตนเองและของสตรีด้วยความคล่องแคล่ว เมื่อเรือนร่างทั้งสองเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงจันทร์ เขาก็ไม่รอช้าจับร่างอวบอิ่มอุ้มออกจากบ่อน้ำพุร้อนไปยังเบาะนอนที่วางอยู่กับพื้นไม่ไกลนัก
เบาะนอนหนานุ่มขนาดใหญ่ เขาสั่งให้องครักษ์นำมาวางไว้ตั้งแต่ตอนเย็นสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ
“อยู่ตรงนี้ก่อน เสร็จแล้วค่อยไปแช่น้ำพุร้อนนะพะย่ะค่ะ”
เขากระซิบข้างใบหูบาง พูดจบก็งับใบหูนั้นอย่างแผ่วเบาพร้อมกับพ่นลมหายใจใส่จนอีกฝ่ายสะดุ้ง
“ข้าก็คิดว่าราชครูจะเก่งแค่เรื่องในตำรากับเรื่องงาน”
จ้าวหลินอ้ายใช้มือเรียวไปจับแท่งหยกร้อนของบุรุษ วันก่อนปล่อยให้แท่งหยกนี้เข้าไปสำรวจภายในกายตนเอง วันนี้ขอจับหน่อย อยากรู้ว่าใหญ่เพียงใด
เพียงสัมผัส มือเรียวก็ขยับรูดขึ้นลงตามที่เคยเห็นในอินเตอร์เน็ตจากชาติที่แล้ว ประสบการณ์ที่เคยผ่านตานางลองนำมาใช้กับบุรุษผู้นี้ละกัน
เฉินซีหมิงตกใจเมื่อสตรีทำเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าสตรีผู้สูงส่งจะเป็นฝ่ายลงมือทำให้เขาโดยไม่รังเกียจ
เขาจับร่างของจ้าวหลินอ้ายให้คร่อมอยู่ด้านบนตัวเอง โดยที่ใบหน้าของเขาใกล้ชิดกับเนินอูมและกลีบกุหลาบงาม เพียงแค่รั้งสะโพกกลมเข้าใกล้เล็กน้อย จมูกและริมฝีปากของเขาก็ฝังเข้ากับเนินเนื้อหวาน
บุรุษไม่รอช้า ส่งสัมผัสร้ายรุกล้ำจนสตรีเผลอครางโดยไม่ทันตั้งตัว
‘หกเก้าเหรอ ได้ ขอลองหน่อยละกัน’
จ้าวหลินอ้ายเมื่อขยับมือจนเริ่มคล่อง นางก็ก้มหน้าอ้าปากแล้วก้มลงครอบปลายหัวมนของแท่งหยก จากนั้นก็เริ่มดูดเล็กน้อยจนแก้มตอบ ลิ้นอุ่นวนรอบส่วนหัวแท่งหยก ลากลิ้นขึ้นลงพร้อมกับขยับศีรษะเข้าออกต่อเนื่อง
เมื่อถูกสตรีใช้โพรงปากนุ่มดูดแก่นกายของตนเป็นจังหวะ เฉินซีหมิงก็เร่งความเร็วของลิ้นร้อนพร้อมกับเพิ่มแรงให้หนักขึ้น
ทั้งสองคนเมื่อถูกปลุกเร้าที่ส่วนสงวนก็ยิ่งร้อนรุ่ม ไม่นานนักพวกเขาก็ถอนริมฝีปาก ร่างหนาของบุรุษจับร่างอวบอิ่มพลิกนอนอยู่ใต้ร่างของตน มือหนาจับแท่งหยกรูดขึ้นลงไม่กี่ครั้งแล้วสอดใส่เข้าโพรงหวานที่ชุ่มฉ่ำทันที
เขาแช่ให้แท่งหยกของตนถูกโพรงหวานบีบรัดอยู่สักพักจึงขยับเอวสอบกระแทกใส่สตรีไม่หยุดพัก
จ้าวหลินอ้ายเมื่อถูกท่อนเอ็นตอกอัดเข้ามาในร่าง นางก็อ้าขากว้างขึ้นเพื่อรับแรงกระแทกของอีกฝ่าย เมื่อความแน่นและเสียวซ่านไหลวนทั่วร่างกาย นางก็ขยับสะโพกของตนสวนกับสะโพกของอีกฝ่าย
เสียงเนื้อกระทบเนื้อพร้อมกับเสียงร้องสุขสมของทั้งคู่ดังขึ้นทั่วบริเวณ
“ดูดนมข้าหน่อย”
จ้าวหลินอ้ายสั่งเฉินซีหมิง บุรุษไม่รอช้า ครอบริมฝีปากลงบนยอดถันที่ชูชัน ขยับปากและลิ้นดูดเม้มอย่างตะกละตะกลาม มือหนาของเขาก็ทั้งจับบีบและบี้ยอดถันอีกข้างด้วยความเพลิดเพลิน
ชายหนุ่มทั้งขยับสะโพกเข้าออก หมุนวนสลับกัน จนสตรีเริ่มครางเสียงหลง
“แฮก แฮก”
จ้าวหลินอ้ายส่งเสียง ตอนนี้นางเริ่มเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกร่างกายเสียวซาบซ่านและเบาหวิว นอกจากนั้นยังรู้สึกว่าโพรงหวานของตนกำลังจะหลั่งน้ำหวานออกมาจำนวนมาก
“จะเสร็จแล้ว ข้าจะเสร็จแล้ว”
นางบอกบุรุษเสียงแหบพร่า
“กระหม่อมก็จะเสร็จแล้ว เรามาเสร็จพร้อมกันนะพะย่ะค่ะ”
เฉินซีหมิงขยับเร่งจังหวะทั้งเร็วและหนักหน่วงอีกไม่กี่ลมหายใจ ร่างของทั้งคู่ก็กระตุกเกร็งพร้อมกัน น้ำขาวขุ่นพ่นใส่โพรงหวานจนล้นออกมาเลอะกลีบกุหลาบข้างนอก
“แลกเปลี่ยนหยินหยางท่ามกลางแสงจันทร์ ส่งผลดีต่อพระองค์นะพะย่ะค่ะ”
บุรุษเอ่ยก่อนนอนกอดสตรีไว้ในอ้อมแขน
จ้าวหลินอ้ายหลับตาหายใจหอบเหนื่อย
“เช่นนั้นก็คงต้องแลกเปลี่ยนบ่อยๆ”
บุรุษหันใบหน้าหล่อเหลามองนาง ริมฝีปากยกยิ้มพึงพอใจ
“คืนนี้ กระหม่อมจะแลกเปลี่ยนหยินหยางจนกว่าพระองค์จะบอกปฏิเสธ”
สตรีมองตาผู้พูด สีหน้ายั่วยุและยั่วยวนในเวลาเดียวกัน
“ข้าก็อยากรู้นัก ทำรักจนต้องร้องขอให้หยุดเป็นอย่างไร
เฉินซีหมิงได้ฟัง ร่างกายก็เริ่มคึกคักอีกครั้ง เขาจับสตรีนอนตะแคงข้างแล้วยัดแก่นกายของตนเข้าจนสุด สะโพกสอบขยับถี่ๆ มือหนาบีบขยำหน้าอกอวบอย่างเมามัน
“ดี ดีมาก”
สตรีร้องบอกเขา นางอยากรู้ว่าถ้าตนถึงฝั่งแล้วแต่ยังถูกกระแทกเข้ามาภายในอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจะรู้สึกอย่างไร
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม จ้าวหลินอ้ายร้องครวญครางไม่หยุด รู้สึกเสียวทั่วร่างกาย โพรงหวานทั้งบีบรัดและกระตุกต่อเนื่องแต่ก็ยังถูกกระแทกเข้ามาไม่หยุด
“อือ อือ พอ พอก่อน เสียวไม่ไหวแล้ว”
นางสั่งเขาเสียงสั่น แต่บุรุษดูเหมือนไม่สนใจ เขายังคงกระแทกแท่งหยกร้อนของตนเข้าออกภายในโพรงหวาน คืนนี้แม้จะเสียน้ำทั้งร่างก็จะสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมให้กับนางให้ได้
สตรีร้องเสียงหวานด้วยความเสียวซ่าน นางเริ่มพูดไม่เป็นภาษา การแตะสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่องทำให้รู้สึกดีอย่างประหลาด
เห็นทีคงต้องหานายสนมเพิ่ม มาช่วยเฉินซีหมิงอีกแรงแล้ว นางคิดในใจก่อนจะเสร็จอีกครั้งแล้วผล็อยหลับไป
ห้าปีผ่านไปเสียงของเด็กชายสามคนดังขึ้นที่สวนหินในเขตพระราชฐาน“พวกเจ้าอย่ารบกวนข้า ข้ากำลังอ่านตำราอยู่ไม่เห็นหรือ”จ้าวซีหนานตัวน้อยดุเด็กชายอีกสองคน“ได้ ข้าก็จะดูยาสมุนไพร อย่ามาชวนข้าไปเล่นละกัน”จ้าวโหย่วเต๋อขยับริมฝีปากที่มีลักยิ้มตอบ“พวกเจ้าสองคนช่างน่ารำคาญ ข้าไปซ้อมวรยุทธดีกว่า ไม่สนใจพวกเจ้าแล้ว”จ้าวสืออิ้งสะบัดหน้าใส่เด็กชายทั้งสองที่พูดก่อนหน้า เขาถือกระบี่เล่มเล็กแล้วหันหลังเดินไปยังลานกว้างเพื่อฝึกเพลงยุทธที่ตนชื่นชอบ“เหอะ พวกเจ้าต่างก็มีบุตรชายเป็นของตนเองแล้ว ไหนล่ะบุตรของข้า”จ้าวหลินอ้ายนั่งเก้าอี้โยกมองดูเด็กน้อยทั้งสามพลางหลุบตามองสามีทุกคน“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไรว่าเป็นบุตรของพวกกระหม่อม”โม่เถี่ยอมยิ้มปั้นหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพียะมือเรียวตีแขนผู้พูดทันใด“ยังมีหน้ามาพูดอีก ดูหน้าตาพวกเขาแต่ละคนสิ นิสัยก็ด้วย ถอดแบบพวกเจ้ามาไม่มีผิดเพี้ยน”เฉินซีหมิงกลั้นขำแล้วเอ่ยขึ้น&
“ข้าจะแต่งตั้งพวกเจ้าสามคนเป็นสนมก่อน แล้วค่อยแต่งตั้งฮองเฮาทีหลัง อ่อ ไม่ต้องคิดแย่งตำแหน่งกัน ข้าแต่งตั้งตามลำดับก่อนหลัง ราชครูเฉินรอขึ้นเป็นฮองเฮา ส่วนพวกเจ้าอีกสองคนก็เป็นหวงกุ้ยเฟย”จ้าวหลินอ้ายพูดกับบุรุษทั้งสามของตนในคืนก่อนแต่งงานบุรุษทั้งสามคนพยักหน้าและตอบตกลงอย่างง่ายดาย พวกเขาไม่คิดต้องการตำแหน่งเพื่อสร้างอำนาจในวังหลัง แค่ปฏิบัติหน้าที่ของตนก็เหนื่อยมากพอแล้วและตอนนี้เมื่อต้องเป็นสวามีขององค์จักรพรรดินี พวกเขาจึงมีหน้าที่เพิ่ม คือรีบทำให้พระจักรพรรดินีทรงพระครรภ์ให้เร็วที่สุดสามคนร่วมมือกัน ราชวงศ์ย่อมต้องมีสมาชิกเพิ่มขึ้นแน่นอน ........วันพิธีอภิเษกสมรสงานอภิเษกสมรสของจักรพรรดินีที่รับสนมชายเข้าวังพร้อมกันสามคน และองค์หญิงสามกับรองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรนั้นยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ของแคว้น ราษฎรต่างพากันมาร่วมเฉลิมฉลองตามท้องถนน มีการโปรยดอกไม้บนถนนแทบทุกสายนอกจากผู้คนจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของง
จ้าวหลินอ้ายสมองขาวโพลน ส่วนล่างเสียวและคับแน่นมาก นางไม่เคยถูกอุ้มตัวลอยแล้วกระแทกใส่มาก่อน เมื่อเจอท่านี้กับกระบองใหญ่ยักษ์ทำให้สติเตลิด ร้องครางด้วยความเสียวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างถ้าบอกว่าเฉินซีหมิงนุ่มนวลอ่อนโยน ส่วนหลี่เสินดุดันแล้ว โม่เถี่ยต้องกล่าวได้ว่าดุยิ่งกว่ามากสะโพกของนางถูกจับกระแทกเข้าออก หน้าอกสองเต้ากระเพื่อมขึ้นลงแรงๆ จนยอดถันแข็งชูชัน แม่โม่เถี่ยไม่ได้เล้าโลมแต่ก็ทำให้ทั้งร่างรู้สึกเสียวซ่านแน่นจุกไปในเวลาเดียวกันปัก ปัก ปัก ปักเสียงเนื้อกระทบกันดังไปถึงเรืออีกลำ ทำให้เรืออีกลำไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงดังแข่งในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อจ้าวหลินอ้ายร้องเสียงดังเพราะถึงฝั่งฝัน โม่เถี่ยก็อุ้มนางเช่นเดิม แต่จับนางหันหน้าออก ให้แผ่นหลังของนางชนกับหน้าอกของเขาแทนเขาเดินไปจับนางตอกกระแทกไปจนถึงหน้ากระจกสำริดบานใหญ่ ให้เขาและหญิงสาวเห็นภาพเสียวนี้ไปพร้อมกันจ้าวหลินอ้ายมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง เต้านมใหญ่สองลูกเด้งขึ้นลงตามแรง ด้านล่างเห็นกระบองของบุรุษมุดเข้าออกร่องรักตนเป็นจังหวะถี่ๆ ทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง โพรงหวา
วังหลวงจ้าวหลินอ้ายออกว่าราชการที่ท้องพระโรงอีกครั้งหลังจากไปแปรพระราชฐานอยู่หลายวัน“ฝ่าบาท แม่ทัพโม่เถี่ยรบชนะแคว้นเย่ทำให้เราได้รับชัยกลับมาพะย่ะค่ะ”เสนาบดีหลัวทูลบอกนาง“ดีมาก ยอดเยี่ยม”สตรีกล่าว นางมองดูแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ แม่ทัพโม่ผู้นี้สูงกว่าเฉินซีหมิงประมาณสองคืบ แต่ความล่ำกลับมากกว่าเป็นสามเท่า‘หุ่นแม่ทัพต้องใหญ่อย่างนี้สินะ’นางคิดในใจก่อนพูดออกมา“ท่านแม่ทัพโม่นำชัยมาสู่แคว้น ท่านต้องการสิ่งใดเป็นรางวัลสามารถบอกกับข้าได้โดยไม่จำเป็นต้องลังเลใจ”โม่เถี่ยเงยหน้ามองจักรพรรดินีผู้เลอโฉมแล้วปรายสายตามองเฉินซีหมิงก่อนยกมือทั้งสองขึ้นมาประสานกัน“กระหม่อมได้ยินมาว่าฝ่าบาทรับราชครูเฉินกับท่านหมอ หลี่เป็นนายสนมในวัง กระหม่อมอยากขอเป็นสนมของพระองค์อีกคนพะย่ะค่ะ”จ้าวหลินอ้ายได้ยินก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่‘นี่ข้างามขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ชาติก่อนก็หน้าตาแบบนี้แต่โสด ชาตินี้กลับมีแต่คนยินยอมมาเป็นสามี’
หลิวกวนแช่มังกรยักษ์ของตนให้โพรงรักของจ้าวม่านอวิ๋นตอดรัดอยู่สักพัก เมื่อแรงตอดเบาลงเขาก็เริ่มขยับเอวเข้าออกให้มังกรตัวใหญ่ครูดกับผนังนุ่มไปมา“อ้า”เขาร้องครางอย่างลืมตัว ความรู้สึกดีแบบนี้เขาก็เพิ่งเคยลองครั้งแรกมิน่าที่เหล่าบุรุษหลงใหลสตรีก็เพราะรู้สึกเช่นนี้เองเขาจับขาขาวของจ้าวม่านอวิ๋นให้แยกออกจากกันมากขึ้น ส่วนตัวเขาคุกเข่าแทงมังกรให้ผลุบเข้าออกตามจังหวะที่ตนพอใจดวงตาคมมองก้อนเนื้อสองก้อนที่กระเด้งยั่วยวนแล้วจึงมองมังกรของตัวเองเคลื่อนเข้าออกโพรงหวาน ในใจเต็มไปด้วยความฮึกเหิมเมื่อได้ยินเสียงครางและเห็นใบหน้าเหยเกของจ้าวม่านอวิ๋น เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงกระแทกเพื่อให้นางเสียวมากขึ้นและร้องดังขึ้นยิ่งนางเสียวและเสร็จมากครั้งเท่าไหร่เขาก็รู้สึกดีมากเท่านั้นเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม บุรุษสตรียังคงกระแทกท่อนล่างใส่กันไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก“ถึงพร้อมกันนะ”หลิวกวนพูดข้างหูของจ้าวม่านอวิ๋น หญิงสาวพยักหน้าดวงตาเคลิบเคลิ้มบุรุษขยับเอวสอบตอกมังกรของตนเข้าโพรงนุ่มอีกครั้ง เสียงร้องสุขส
“ที่นี่ก็สวยดีอยู่หรอก แต่ว่าทำไมเสด็จพี่ต้องให้ข้ามาพักที่นี่ตั้งหนึ่งเดือนด้วยล่ะ”จ้าวม่านอวิ๋นบ่นกับนางกำนัลของตัวเอง“มีแต่ภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตก ข้าเห็นทุกวันย่อมเบื่อเป็นธรรมดา”“หม่อมฉันได้ยินมาว่าภูเขาด้านบนมีถ้ำด้วยนะเพคะ”นางกำนัลรีบพูดสิ่งที่ตนเองรู้มา“ถ้ำหรือ” จ้าวม่านอวิ๋นทวนคำ “ถ้ำธรรมดาหรือไม่”“เห็นว่าภายในมีสิ่งก่อสร้างด้วยเพคะ น่าจะฮ่องเต้องค์ก่อนๆ สร้างไว้”“งั้นหรือ เช่นนั้นข้าก็ควรไปดูสินะ”สตรีลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ แล้วเรียกนางกำนัลให้ตามไปด้วยไม่กี่คน........ถ้ำชิงฮู่ถ้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากถ้ำเหมือนกับถ้ำตามธรรมชาติโดยทั่วไป แต่เมื่อเดินเข้าไปตามเส้นทางเดินประมาณครึ่งชั่วยามก็จะเจอตำหนักภายในนั้น บริเวณโดยรอบตำหนักปูด้วยหินอ่อนอย่างดี มีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ด้านข้างจ้าวม่านอวิ๋นมาถึงปากถ้ำ เมื่อสอบถามทหารที่เฝ้าด้านหน้าจึงเดินเข้าไปภายในถ้ำเพียงสองคนกับนางกำนัลที่สนิท ส่วนคนอื่