เขารู้ตัวดีว่ากำลังหลบหน้าใครบางคน จะกล้าสู้หน้าได้ยังไงล่ะ! พูดซะขนาดนั้นแล้วนี่นา สงบใจไม่ได้เลยสักนิดเดียว
"คุณชายจีนขอรับ เรียนเชิญทางนี้ขอรับ" เมล์บอกพลางผายมือไปทางโรงอาหาร
"ขอบคุณครับ"
"เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ หน้าตาดูแดงตลอดเวลาเลย" เมล์ถามด้วยความเป็นห่วง หากคนโปรดของรัชทายาทไม่สบายจะต้องโดนดุอย่างแน่นอนเลย
"ไม่เป็นไรครับ สบายดีครับ" ใครจะกล้าบอกว่าเขินพี่คีย์จนไม่กล้าสู้หน้ากันล่ะ
ปึก!
"ระวังหน่อยครับคุณชายจีน ถ้าข้าคว้าไม่ทันคือล้มแล้วนะ" มาร์แชลบอกพลางจับร่างบางมานั่งเก้าอี้แล้วช่วยปัดเศษฝุ่นออก
"ขอบคุณครับ ผมไม่ระวังตัวเอง"
"ทำไมไม่ระวังตัวเลยนะ"
"แต่ว่า..."
"ซุ่มซ่ามแบบนี้ก็น่ารักดีนะ" เสียงทุ้มต่ำบอกด้วยรอยยิ้ม
"ผ... ผม... ผมไม่คุยกับพวกคุณแล้ว ไปทางไหนมีแต่คนพูดจาแปลกๆ กันทั้งนั้นเลย" ช่วงขาเรียวยาวเดินหนีไปอีกทางทันที โดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงสายตาเอ็นดูจากคนด้านหลังเลยสักนิดเดียว
ที่นี่มันคือโลกแบบไหนกันแน่นะ รู้ตัวว่าข้ามเวลามาอีกโลกหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะแปลกประหลาดกันขนาดนี้ เหมือนเวลาจิรายุไปใกล้ใครคนนั้นก็จะพากันหลงรักไปเสียหมด เขาเป็นผู้ชายนะ! ทุกคนอย่าลืมสิ ทำไมถึงมีแต่คนเห็นดีเห็นงามด้วยแบบนี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
บรรยากาศบนภูเขานั้นเย็นสบาย ป่าเขาพงไพรเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ ให้ความรู้สึกเหมือนมาพักผ่อนหย่อนใจช่วงปิดเทอมได้เป็นอย่างดี ความยาวของป่าไม่สามารถประเมินได้จากสายตาเลย ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมถึงมีน้ำน้อยขนาดนี้นะ มือขาววางมือลงบนผิวน้ำแล้วทอดสายตามองการไหลของน้ำ ทำให้รู้ว่าอีกไม่นานน่าจะถึงฤดูแล้งของที่นี่ ปัญหาน้ำที่คีย์บอกจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน
"คิดอะไรอยู่เหรอ ข้าออกตามหาจนทั่วเลยนะ" ท่าทางเหนื่อยหอบเป็นคำตอบของทุกอย่างแล้ว ใบหน้าริ้วแดง เสียงหายใจเข้าออกขาดเป็นห้วงแบบนี้ แสดงว่าตามหาจนทั่วอย่างที่เจ้าตัวบอกจริงๆ
"ผมกำลังคิดถึงปัญหาน้ำก่อนหน้านี้ครับ อีกไม่นานที่นี่จะต้องถึงฤดูแล้งอย่างแน่นอน"
"รู้ได้ยังไง ข้ายังไม่ได้บอกเลย"
"ตอนที่ผมอยู่อีกโลกหนึ่งได้เรียนรู้มาครับ อยากช่วยทุกคนไม่ให้ขาดน้ำครับ"
"แต่ตอนเดินทางมาที่นี่มันเป็นปัญหาน้ำท่วมนะครับ" เสียงทุ้มต่ำพยายามอธิบายสถานการณ์ให้อีกคนเข้าใจใหม่
มือขาวดึงอีกคนให้เดินตามมาโดยไม่ได้ฟังคำอธิบายอะไรอีก คีย์ตกใจกับพฤติกรรมแบบนี้ของคนข้างกายเป็นอย่างมาก หลายต่อหลายครั้งที่พยายามเข้าหาแต่เหมือนว่าจะเป็นกระรอกน้อยขี้ตกใจแล้วหนีเตลิดไปตลอด ทำไมวันนี้ถึงยอมมาจับมือเขาง่ายๆ แบบนี้กันนะ แสดงว่าจะต้องมีความคิดอะไรบางอย่างแน่นอน
"คุณบลัฟเฟอร์ครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความหนักแน่น คุณชายและรัชทายาทต่างพยักหน้ารับทันที จะต้องมีเรื่องอะไรที่น่าประหลาดใจอีกอย่างแน่นอน
"ที่นี่น้ำท่วมตลอดเลยใช่ไหมครับ"
"ใช่ พยายามแก้ปัญหาแล้วแต่ว่าก็ยังมีอยู่ทุกปี"
"ถ้างั้นผมอยากให้ทุกคนนำก้อนหินกับไม้มาทำเหมือนกำแพง แล้วกั้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่ยอดเขาจนกระทั่งไปถึงด้านล่างเลยครับ การทำแบบนี้จะเป็นการลดทอนแรงผลักดันของน้ำไม่ให้ไหลแรงจนเกินไปแล้วยังช่วยให้คนบนเขามีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
วิธีการนี้เรียกว่าการทำฝายชะลอน้ำ เป็นการช่วยระยะยาวและยั่งยืนกว่าด้วย แต่ต้องอาศัยคนจำนวนมาก ซึ่งคิดว่าถ้าจำนวนคนของคุณชาย รัชทายาท รวมถึงชาวบ้านทุกคนไม่น่าจะเกินความสามารถของแวมไพร์อยู่แล้ว ถูกต้องไหม"
"วิเศษมาก! กระรอกน้อยของฉัน" มือหนาคว้าร่างสูงโปร่งมาอุ้มเหมือนอุ้มเด็กเล็กพลางโยกไปมาด้วยความชื่นชม ทำไมถึงเก่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเกิดมาจากที่ไหน อะไรยังไง แต่ความคิดแบบนี้แวมไพร์อย่างพวกเราไม่มีทางรู้ได้เลยสักนิดเดียว โชคดีมากที่กระรอกน้อยเดินทางมาหา
"รัชทายาท ท่าทางเอ็นดูคุณชายจีนมากเลยพะยะค่ะ ข้าไม่เคยท่านทำท่าแบบนี้มาก่อนเลย" มาร์แชลอดที่จะแซวไม่ได้ สายตา ท่าทาง ทุกอย่างสื่อออกมาอย่างชัดเจนว่าชอบคนที่อุ้มอยู่มากเพียงใด แบบนี้มีหวังอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบแน่
"อย่างที่บอกไปว่าข้าชอบกระรอกน้อยมากจนไม่คิดว่าจะชอบใครไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว" มือขาวพยายามดึงให้ตนเองหลุดจากการโดนอุ้ม เขาก็ไม่ใช่เด็กแล้ว...จะให้มาอุ้มเหมือนอายุไม่กี่ขวบแบบนี้มันน่าอายจะตาย
"ลมอะไรหอบให้พี่ชายเดินทางมาที่นี่ได้กันนะ ปกติไม่เคยอยากจะมาหรอก" ครอสได้ทีรีบป่วนสถานการณ์ตรงหน้าทันที
"เป็นห่วงกระรอกน้อยเลยตามมา"
"คือว่าจะทะเลาะอะไรกันผมไม่รู้ แต่รบกวนช่วยปล่อยก่อนได้ไหมครับ" ใบหน้าหวานแดงตั้งแต่ใบหน้าจนลามไปถึงใบหูแล้ว ในชีวิตไม่เคยเขินจัดขนาดนี้มาก่อนเลย ท่าทางทุกอย่างตกอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ทุกคน ถึงจีนจะบอกว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ไม่ว่าจะใครก็อายุมากกว่าหลายร้อยปีกันทั้งนั้น เป็นอันสรุปได้ว่าร่างสูงโปร่งเด็กที่สุดนั่นเอง
"นั่นสิ พี่ทำแบบนั้นน้องเขาอายแย่แล้ว"
"โทษที ลืมตัวไปหน่อย"
"แต่ว่าข้าไม่ขอโทษนะ เพราะข้าตั้งใจอุ้มเราต่อหน้าทุกคน"
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา”“ท่านพี่ พวกเราจะกลับเขตปกครองของพวกเราสองคนแล้ว เลิกจะมาลาพะยะค่ะ” คลาสบอกพลางทำความเคารพ“ใช่พะยะค่ะ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พวกเราขอตัว” ครอสบอกแล้วทำความเคารพเช่นกัน“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าได้คำตอบของหัวใจจากคนที่ตนเองรักแล้วจะไปเริ่มต้นใหม่หรอกหรือ” เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นมาแล้วเงยหน้ามองฝาแฝดด้วยสายตาเรียบนิ่ง“พะยะค่ะ ข้าได้คำตอบจากคนที่ข้ารักแล้ว / พะยะค่ะ ข้าได้สิ่งนั้นมาแล้ว” ทั้งสองตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เจ้าชายทั้งสามต่างพยักหน้าให้กันแล้วต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนหลังวังเขาจะไม่รับรู้ แต่มันเป็นเรื่องที่ไวท์จะต้องพูดและตัดสินใจด้วยตนเองจากนี้ไปทั้งคลาส ครอส น่าจะเริ่มเข้าใจและตัดใจได้ในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่ไวท์พูดค่อนข้างเด็ดขาดและชัดเจน ไม่มีช่องว่างให้คนอื่นแทรกเข้าไปได้เลยตอนที่ได้ยินคำพูดออกจา
“เป็นการตรวจสอบภายในก็จริงแต่ต้องส่งเข้าวังหลวงภายในสิบสี่วันขอรับ”“เข้าใจแล้ว ผมจะทำตามที่บอกและเขียนรายละเอียดไว้ให้ด้วยครับบนโต๊ะทำงานของผม” เสียงทุ้มนุ่มตอบพลางออกกำลังกายด้วยตนเองต่อไป สายตาของเมล์มองด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเหมือนตาแก่มากขนาดนี้“มีอะไรหรือเปล่าครับ เห็นมองนานแล้ว ผมยังออกกำลังกายไม่เสร็จ”“ไม่ขอรับ ข้าขอตัวก่อน”“ครับ”ณ ห้องทำงาน“จะทำยังไงกันต่อขอรับ รัชทายาทยังนอนอยู่ที่โซฟาอยู่เลย” เฟลิกซ์ถามด้วยความสงสัยเพราะว่าเจ้านายของตนเรียกทุกคนมารวมกันที่นี่หมดเลย แต่ว่าถ้าพูดคุยกันที่นี่จะไม่ทำให้รัชทายาทตื่นขึ้นมาเหรอ“ผมเชื่อว่าคนไม่ได้นอนมาหลายวันไม่ตื่นง่ายหรอกครับ มาคุยเรื่องงานกันดีกว่า”“กองงานทั้งหมดส่วนนี้คือการช่วยกันตรวจดูเอกสารงบประมาณภายในวังว่าครบถ้วนหรือไม่ มีอะไรขาดตกบกพร่องตรงไหน และจะต้องเส
“พี่คีย์ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะครับ เคี้ยวอาหารแบบนี้เหมือนเด็กเลยครับ” เสียงทุ้มนุ่มพูดพลางหัวเราะเบา ๆ เพิ่งเคยเห็นท่าทางแบบนี้ของคนอายุมากกว่าหลายร้อยปี เป็นภาพที่น่ามองไปอีกแบบเหมือนกัน“ข้าว่าเหมือนคนไม่สำรวมมากกว่าขอรับ ท่านไวท์” เมล์บอกพลางถอนหายใจ ไม่คิดว่าจะกินแบบนั้นจนลืมเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร จะกินเร็วเกินไปแล้ว“ตอนนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากพวกเรา งดสำรวมหนึ่งวันแล้วจะรีบกินให้หมดจะได้มานั่งทำงานต่อสักที”หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาก็เห็นรัชทายาทหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน จากการมาหาสภาพไม่ต่างจากคนทำงานหามรุ่งหามค่ำและไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ถ้าทำเครื่องดื่มที่ทำให้รู้สึกสดชื่นน่าจะช่วยได้พอสมควร มาลองคิดเรื่องเครื่องดื่มที่จะทำให้รู้สดชื่นกันก่อนดีกว่ามือขาวหยิบกระดาษและปากกาขนนกขึ้นมาเพื่อเริ่มไล่รายการเครื่องดื่มที่ทำให้สดชื่นและสามารถทำงานต่อไปได้ในระยะยาวโดยไม่ได้สนใจว่ามีสายตาของแวมไพร์ทั้งสองคู่กำลังมองอยู่ว่าทำอะไร ทำไมดูเคร่งเครียดขนาดนั้น จะเข้าไปช่วยก
“มองอะไรกันครับ ไม่กินข้าวล่ะครับ” ไวท์ถามด้วยความสงสัย“ตอนที่เจ้ากินแบบนี้ดูน่ารักดี เลยเผลอมองนานไปหน่อย ขอโทษด้วย” คีย์ตอบพลางกินอาหารต่อแต่คนที่เหมือนจะกินช้าลงกลายเป็นใบหน้าหวานแทนเพราะทำตัวไม่ถูกกับคำชมของอีกฝ่ายที่ตรงไปตรงมาแบบนี้เสมอ“พูดอะไรครับพี่..” เสียงของไวท์ขาดหายไปแล้วเริ่มก้มหน้าก้มตากินเหมือนเดิม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่มีเด็กคนนี้เข้ามาทำให้ชีวิตประจำวันของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ตอนนั้นจนวันนี้ สายตาของแต่ละคนก็ยังมีความให้อ่อนโยนให้เหมือนเดิมซึ่งการที่แต่ละคนต่างมีใจให้กับไวท์ก็เป็นสิ่งที่คีย์รู้มานานแล้ว แต่ว่าหลังจากการหมั้นทุกคนก็มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไม่ทำอะไรให้เกิดความเสียหายขึ้นมา“ไวท์ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้า” คลาสบอกพลางเดินออกไปทางสวนหลังวัง“ครับ” เขาขานรับสั้น ๆ และเดินตามไปแต่โดยดีณ สวนหลังวัง“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ผมยังมีอะไรที่
อพอลโลตัดสินใจที่จะเดินทางมาโลกมนุษย์หลายเดือน จึงคิดเตรียมการหลายอย่างเพื่อให้ตนเองมีเวลาว่างมากพอที่จะสืบเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหมด ระยะเวลาที่นานขนาดนี้ในโลกมนุษย์จะสามารถตามหาอะไรได้อีกหรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะรับรู้อะไรได้บ้างณ ดินแดนมังกร“มีอะไรหรือท่านจักรพรรดินี”“เหมือนจะถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปหาไข่มังกรแล้วสินะ” เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบพลางใช้พลังมองดูบุตรของตนที่กำลังจะเติบโตขึ้นอีกขั้น“ฝากตาแก่ไว้นานแล้ว ถึงเวลาที่ต้องไปรับกลับมาเสียที”“ท่านจะไปที่ใดกัน”“โลกมนุษย์”“ท่านว่ายังไงนะ!”“วางใจเถอะ ไม่ใช่ในตอนนี้หรอก” คนรับใช้ถอนหายใจอย่างโล่งอก“แต่อีกไม่นานจะต้องเตรียมตัวเพื่อไปพบบุตรของข้า”“แต่ท่านมีบุตรอยู่ที่นี่แล้วถึงสี่พระองค์พะยะค่ะ จะมีบุตรที่ใดกันอีก
“ท่านไวท์เดินตัวตรงหน่อยขอรับ จะล้มแล้ว” คัสซัสร้องทักเพราะเข้ามาชงชายามเช้าให้รับประทานแต่เห็นผู้เป็นนายยังไม่ลืมตาเลยแม้ว่ากำลังจะหยิบถ้วยชาก็ตาม“ช่วงนี้สงสัยข้าเรียนหนักเกินไปถึงได้เหนื่อยล้าแบบนี้ น่าจะลดบทเรียนลงบ้างสักเล็กน้อย” เสียงทุ้มนุ่มตอบพลางลืมตาขึ้นมาดั่งเดิมพลังเริ่มทั้งสองสีภายในร่างสูงโปร่งกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้มือขาวปล่อยมือออกจากถ้วยชา หลับตาลงแล้วร่างลอยขึ้นมาเหนือเตียงและมีรังสีของพลังวนอยู่รอบ ๆ คัสซัสไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อนจึงรีบวิ่งมารายงานให้องค์รัชทายาททราบทันที“รัชทายาทพะยะค่ะ พลังของท่านไวท์มาโอบล้อมไว้ทั้งร่างจนตอนนี้เหมือนไม่ได้สติเลยพะยะค่ะ” คัสซัสรีบวิ่งมาบอกหน้าตาตื่นเพราะไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน“เจ้าว่ายังไงนะ!” รัชทายาทอุทานด้วยความตกใจ“ท่านไวท์ไม่ได้สติเลยพะยะค่ะ”“เมล์เจ้ารีบไปแจ้งข่าวแก่วังหลวง คัสซัสเจ้าไปบอกเฟลิกซ์ให้ส่งจดหมายไปหาหน่วยพลังเวทย์มนตร์ของจักรวรรดิ&rdq