เสียงหัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกจากอก คนข้างกายจะรู้ไหมว่าเขาแสดงท่าทีแบบไหน ให้ตายเถอะ! เขามีอิทธิพลกับหัวใจมากจริงๆ
"ผมว่าพวกเรารีบไปกินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวแล้ว" ร่างสูงโปร่งรีบเดินหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าเพราะจนปัญญาที่จะรับมือไหว ใบหน้าริ้วแดงนั้นสร้างความหลงใหลให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อยเลยทีเดียว ช่างน่ารักน่ากินไปทั้งตัวยังไม่รวมกลิ่นเลือดหอมหวานนั่นอีก
"พอเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่คีย์ถึงหวงนัก"
"นั่นสิ เป็นใครเจอแบบนี้ก็หวงกันหมด"
ฉายาแฝดนรกของจักรวรรดิไม่ได้มีเพียงชื่อเท่านั้น ความแสบสันและการพูดจาก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน บุคคลที่คลาสและครอสกลัวที่สุดคือพี่ชายคนโตหรือรัชทายาทนั่นเอง ส่วนสาเหตุนั้นไม่มีใครอาจตอบได้เพราะแม้แต่จักรพรรดิยังเอาไม่อยู่
"ยังไงข้าก็ไม่ยอมแพ้แน่ คุณชายจีนจะต้องมาเป็นดัชเชสของมาร์แชล" มาร์แชลบอกด้วยความมั่นใจและไม่ยอมแพ้ ในเมื่อเจ้าตัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ทุกคนก็มีโอกาสจะเข้าหาทั้งหมด
"อย่าเพิ่งเถียงกันเลย รีบตามกระรอกน้อยไปเถอะ"
ความสดใส น่ารัก ไร้เดียงสาที่แผ่ออกมารอบตัวจิรายุ ตกอยู่ในสายตาเหล่าแวมไพร์น้อยใหญ่ทั้งหมด ไม่มีมนุษย์คนไหนมาเยือนโลกนี้นานแล้ว ด้วยความที่ไม่เคยดื่มเลือดมนุษย์แต่แรกจึงไม่มีความโหยหาแต่อย่างใด แต่กลิ่นความหอมหวนนั้นอาจจะกระตุ้นสัญชาติญาณดิบออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ รังสีอำมหิตถูกส่งมาจากโต๊ะรับประทานอาหารกิตติมศักดิ์ ไม่ว่าจะเป็นรัชทายาท คุณชายมาร์แชล เจ้าชายคลาส เจ้าชายครอส
ทำให้ความอยากอาหารที่มีนั้นแทบจะหดลดไปจนไม่เหลืออะไรอีก พลังของแวมไพร์ทั้งสี่รวมกันสามารถพังภูเขาได้ห้าลูก ใครๆ ก็รู้ว่ายิ่งมีอำนาจความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณก็มากขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่มีใครที่จะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อลิ้มรสหอมหวานที่ไม่รู้ว่าจะได้แตะต้องหรือไม่ สู้รอกินเลือดมนุษย์ที่ทางจักรวรรดิจัดเอาไว้ให้น่าจะเป็นผลดีกับชีวิตของตนเองมากกว่า
"รัชทายาทขอรับ หม่อมฉันหาที่พักและจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว พร้อมเดินทางเลยไหมพะยะค่ะ"
"ดีนะ กินข้าวเสร็จแล้วไปกันเลย"
"แล้วคุณบลัฟล่ะครับ" เสียงหวานถามเอ่ยถามออกด้วยความสงสัย เขายังใหม่สำหรับที่นี่มากนัก การจะถามไถ่ถือว่าไม่แปลกเพียงแค่บุคคลที่กล่าวถึงนั้นคีย์ไม่อยากได้ยินเลย
"คุณชายมาร์แชลดูแลงานทางใต้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมีที่ให้นอนพักผ่อนแน่นอนนะ น้องจีน" ครอสอาสา ตอบแทนพี่ชายของตนเอง คิดว่าความขุ่นมัวในใจคงจะมีอยู่ไม่น้อยทีเดียว
"เดี๋ยวข้าจะช่วยอธิบายเพิ่มเติมนะ คุณชายมาร์แชลดูแลเขตใต้ที่น้องจีนอยู่ตอนนี้ น้องครอสดูแลหัวเมืองทางใต้ทั้งหมด รัชทายาทดูแลส่วนตะวันออก แปลว่าทุกคนมีที่อยู่แน่นอนยกเว้นน้องจีน" คลาสจงใจพูดแกล้งให้ใบหน้าหวานมีท่าทีตกใจและมันก็ได้ผลเกินคาด ดวงตากลมโตสั่นระริก ใบหน้าหวานซีดเผือกจนไม่เหลือเลือดฝาดบนใบหน้าเลยสักนิดเดียว
"ทำไมพูดจาแบบนี้ คลาสอายุไม่น้อยแล้ว" คีย์บอกเสียงเรียบแต่แววตาวาวโรธอย่างเห็นได้ชัด รังสีอำมหิตแผ่ออกมารอบตัวร่างสูงอย่างปิดไม่มิด
"ก็มันไม่มีอะไรทำนี่นา แกล้งเด็กแบบนี้ก็สนุกดีนะ" คลายยังคงพูดติดตลกอยู่ เหมือนเขาหลุดออกมาอีกโลกนึงเลย นอกจากจะไม่รู้เรื่องอะไรแล้วยังโดนแกล้งไม่รู้จักจบสิ้นอีก วงจรอุบาทเกินไปหรือเปล่านะ ตอนเรียนหนังสือก็ไม่ได้อ่านเรื่องแบบนี้ด้วยสิ
จุ๊บ!
"หยอกเล่น ไม่ร้องนะ" ใบหน้าหวานถูกหอมแก้มภายในชั่วพริบตาเดียว ทุกคนต่างตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครคาดคิดว่าคลาสจะมาไม้นี้ ทุกคนเกรงใจจีนกันหมดแต่คงไม่ใช่กับแฝดนรกคู่นี้เสียแล้ว ความซีดเซียวแปรเปลี่ยนเป็นแดงซ่านเหมือนผลไม้สุกในฤดูหนาว
"พี่คีย์จะเอายังไงกันแน่ ตอนแรกก็บอกว่าข้าทำน้องเขาหน้าซีดนี่ก็ทำให้กลับมาเหมือนเดิมแล้วไง"
"คลาส หรือว่าเจ้าชอบน้องจีน" ครอสจงใจพูดแทนความในใจแฝดผู้พี่ ออกตัวแรงขนาดนี้แปลว่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
"หึ! เจ้าเองก็ชอบน้องจีนเหมือนฉัน แค่ยังไม่แสดงตัวออกมาเท่านั้นเอง" คลาสเองก็รู้ทันความคิดของแฝดผู้น้องเช่นกัน
"อากาศเย็นขนาดนี้ ร่างกายคุณชายจีนรับไหวไหมขอรับ" เมล์ตัดสินใจถามตัดบรรยากาศที่เหมือนจะมีรังสีอำมหิตโผล่ออกมาอีกรอบเสียก่อน เนื่องจากตนเป็นเพียงคนรับใช้เลยสังเกตเห็นท่าทีมือขาวลูบแขนตัวเองอยู่หลายรอบแล้ว น่าจะหนาวพอสมควรเพราะว่าพวกเราไม่ใช่มนุษย์ จึงไม่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์
"หนาวครับ ผมอยากเข้าที่พักแล้ว" ไอร้อนออกมาจากปากอิ่มที่ตอบกลับมา ร่างสูงโปร่งถูกยกขึ้นจนตัวลอยอีกครั้ง คนที่อุ้มเหมือนเลี้ยงเด็กแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่ฝีมือของรัชทายาท
"งั้นข้าว่ารีบบินกลับกัน หนาวแย่แล้ว" เขาว่าอากาศน่าจะเริ่มร้อนแล้วล่ะ หน้าต้องแดงมากแน่ๆ เลย
"หน้าแดงเชียว เดี๋ยวไม่สบายนะ! ไปกัน" เสียท่าเจ้าแฝดนรกจนได้ ทั้งรูปร่าง หน้าตา ไหนจะกลิ่นเลือดอันยั่วยวนนี่อีก เขาจะไม่มีทางยอมให้ตกไปเป็นของเล่นของใครแน่ ไม่ว่ามันคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม อาการหน้าแดงตอนท้ายต้องมาจากฝีมือของเขาแน่นอน
"เจ้าชายคลาส เจ้าชายครอส เล่นอะไรก็ให้มันถูกเวล่ำเวลาด้วยพะยะค่ะ ท่านทั้งสองน่าจะรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะมาทำแบบนั้นได้ ตอนนี้เขากำลังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นคุณชายของฝั่งจักรพรรดินี โปรดรับรู้ข้อนี้ไว้ด้วยขอรับ"
"ส่วนคุณชายมาร์แชล กระผมไม่รู้ว่าคุณชายจีนจะชอบใคร แต่ดูจากการกระทำในวันนี้แล้วรัชทายาทนำแต้มไปมากทีเดียวขอรับ จากนี้ไปก็คงต้องพยายามให้มากขึ้น ขอตัวขอรับ"
ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันแล้วพากันหลุดหัวเราะออกมา พลังแห่งแฝดมีจริงเสมอ พวกเขาจะรู้กันว่าตอนไหนเล่นตอนไหนจริงจัง ซึ่งการแสดงหน้าม่านเมื่อกี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แปลว่าพี่คีย์นั้นจริงจังกับเด็กคนนี้แถมยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจอีกต่างหาก กลิ่นเลือดของจีนถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว จะต้องมีเบื้องหลังอะไรที่พวกเขาไม่รู้ซ่อนอยู่แน่นอน
"ให้คนไปสืบดีไหม หรือจะปล่อยไปดี"
"ข้าว่าปล่อยไปดีกว่านะครอส การที่เสร็จพ่อกับเสร็จแม่ออกโรงเองแบบนี้...แปลว่าต้องมีอะไรที่สนุกแน่นอน"
"เจ้าชายทั้งสองหมายความว่ายังไงพะยะค่ะ" เหมือนจะมีเพียงคุณชายมาร์แชลที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ และต้องการคำอธิบายจากผู้สูงศักดิ์
"ข้าจะพูดแทนให้นะ ในฐานะเป็นแฝดพี่"
"การที่องค์จักรพรรดินีออกโรงปกป้องมนุษย์คนนึงมากขนาดนี้ ที่มาที่ไปต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน"
"ถึงข้าจะเป็นรัชทายาทลำดับที่สอง แต่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย"
"และไม่คิดที่จะสืบหาความจริง"
"การต่อกรกับฝ่ายวังหลังอย่างจักรพรรดินีนั้นถือเป็นเรื่องที่ควรคิดเป็นลำดับสุดท้ายของชีวิตอันเป็นนิรันดร์ของพวกเรา"
"ไปกันเถอะครอส"
"โอเค"
คำพูดขององค์ชายคลาสช่วยให้คุณชายมาร์แชลไม่อยากสืบหาความจริงอีกต่อไป จักรพรรดินีถึงแม้ว่าจะเป็นแวมไพร์ที่สุภาพ เรียบร้อย อ่อนหวาน แต่พลังวิญญาณรุนแรงและเป็นแม่ทัพแนวหน้าในยามศึกสงครามเมื่อพันปีก่อน เรื่องนี้ถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ในตำนานแบบเรียนที่นักเรียนเข้าศึกษาทุกคนจะต้องรู้ สู่กลับบ้านไปคิดว่าวิธีที่จะเอาชนะใจคุณจีนยังง่ายกว่าการต่อกรกับอำนาจมืดเสียอีก
ณ พระราชวังของจักรพรรดิ“จักรพรรดิพะยะค่ะ เซอร์เรเวลมาขอเข้าเฝ้า” มีเทนรายงานให้ผู้เป็นนายฟังเพราะดูเหมือนว่าจะมีสมาธิแต่การทำงานจนไม่ได้ฟังสิ่งที่คนภายนอกรายงานเข้ามาเลย“อะแฮ่ม...ข้ามัวแต่ทำงานเพลิน ให้เข้ามา”“พะยะค่ะ” มีเทนขานรับแล้วเดินไปเปิดประตู“ถวายความเคารพองค์จักรพรรดิ”“ไม่ต้องมากพิธี มีอะไรก็ว่ามา” จักรพรรดิเร่งเพราะยังมีงานค้างที่ต้องจัดการอีกมาก การมาเข้าเฝ้าอย่างเร่งด่วนและไม่มีการขอล่วงหน้าคงจะมีเรื่องด่วนพอสมควร แต่ถ้าไม่ด่วนขนาดนั้นจะสั่งขังสักสิบวันแล้วค่อยให้มาทำงาน เป็นทหารมานานแต่ดันไม่รู้จักระเบียบของวังบ้างเสียเลย“ข้าจะมารายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับพลังของพระคู่หมั้นองค์รัชทายาทพะยะค่ะ” เรเวลตัดสินใจบอกออกไป เพราะอยากเลิกทำงานนี้เสียที เพราะต้องตามสืบคนเดียวมาตลอดหลายเดือน อยากให้มันสิ้นสุดเ
มือขวาดีดนิ้วทำให้วงเวทย์จำกัดการใช้พลังของพวกเราให้อยู่เพียงภายในวงเท่านั้น เพื่อไม่ให้คนอื่นได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าพลังของทั้งคู่มีมากน้อยแค่ไหน เขาจึงตัดสินใจใช้พลังของมังกรปิดกั้นมันไว้ทันทีก่อนจะออกตัวต่อสู้ผัวะ!แรงปะทะกันซึ่งหน้าทำให้ต่างคนต่างกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมของมังกรได้เปิดใช้ทำงานเพื่อประเมินสถานการณ์แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้ความรู้สึกเป็นศัตรูเพื่อมาสู้กับเขา หมายความว่านี่คือการทดสอบความสามารถสินะ ถ้างั้นมาลองกันสักตั้งแล้วกัน ขอไม่เกรงใจกันแล้วผัวะ! พลั่ก! ตุ้บ!ไวท์เร่งความเร็วทั้งพละกำลังและการต่อสู้อย่างเต็มกำลังเพื่อวัดกันไปเลยว่าสารวัตรต้องการจะตรวจสอบอะไรกันแน่ มาตรวจกันให้มันจบวันนี้ไปเลย ทุกกระบวนท่าที่เคยร่ำเรียนมาทั้งหมดใส่ไปให้หมดไม่ต้องปกปิดความสามารถเอาไว้เพราะว่าบุคคลนี้จะต้องนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่องค์จักรพรรดิอย่างแน่นอนคีย์สังเกตเห็น
“เป็นอะไรกันหรือเปล่าครับ ทุกคนเหนื่อยเหรอ” ไวท์ถามพลางเอียงคอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันหมด“จะเหนื่อยได้ยังไงขอรับ ในเมื่อคนออกแรงคือท่านไวท์ต่างหาก” เฟลิกซ์บอกพลางมองเหล่าแวมไพร์ผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายด้วยความเบื่อหน่าย มาทำให้เจ้านายของเขาสงสัยทำไม แค่พูดออกมามันจะยากตรงไหนกัน“ตั้งแต่ไปเป็นคนของไวท์ เดี๋ยวนี้ปากกล้าขึ้นนะ เฟลิกซ์” เสียงทุ้มต่ำพูดพลางสะกดอารมณ์ของตนเองไว้ไม่ให้พลังออกมา“ข้าเป็นคนของท่านไวท์นานแล้วพะยะค่ะ แต่เหมือนใครบางคนยังคงหลงลืมเพราะแก่แล้ว เลยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านายก็ได้”“หยุดทั้งคู่เลยครับ เข้าใจการต่อสู้ที่สาธิตให้ดูไหมครับ” ไวท์ยกมือห้ามทั้งสองไม่ให้สู้กันโดยเปล่าประโยชน์ ยังไงพลังเวทของแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ก็มีมากกว่า ถึงจะสู้กันก็รู้ผลแพ้ชนะตั้งแต่แรก“มันเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์สำหรับข้า” ลอร์ดสวิตบอกพลางพยายามทำท่าทางตาม
“หึ ยังร้ายกาจเหมือนเดิม” เสียงทุ้มต่ำหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับความเจ้าเล่ห์ของเพื่อนสนิท แต่พอเข้าใจเหตุผลแล้วจะยอมเปลี่ยนแปลงงบประมาณใหม่“ข้าเป็นเพื่อนเจ้ามานาน เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก”คีย์เดินมาหาร่างสูงโปร่งที่ยืนดูพวกเขาสู้กันอย่างตั้งใจอยู่นอกสนาม ดวงตากลมโตมองเห็นคนอายุมากกว่ากำลังมา เลยปลดโล่ป้องกันออกเพราะการต่อสู้จบลง“มีอะไรหรือเปล่าครับ”“ไปเดินเล่นกัน”หมับ!รัชทายาทบอกพลางอุ้มอีกคนแล้วเดินออกไปทันที ตอนแรกเหมือนทุกคนจะตกใจกับพฤติกรรมของผู้เป็นนายแต่พอนานวันเข้าก็เริ่มเคยชินกับเรื่องแบบนี้ เพราะแวมไพร์อย่างคีย์หากอยากจะอุ้มคนรักตนเองก็ทำโดยไม่ได้สนใจใครอยู่แล้ว และเขาเป็นคนเย็นชาก่อนจะมาเจอเด็กคนนี้ นิสัยเดิมก็ยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง“จะพาไปไหนครับ”
“หวังว่าเรื่องนี้จะจบสักที เรื่องการพูดถึงการสืบทอดราชบัลลังค์”“มันจะจบแน่ถ้าพวกเราสองคนเขียนจดหมายส่งเข้าวังหลวง จะไม่มีใครอยากจะมาหาพวกเราเพื่อพูดเรื่องพวกนี้อีก”“ดี ถ้างั้นวันนี้มานอนด้วยกันสิ ไม่ได้นอนด้วยกันนานมากแล้ว”“เอาสิ นอนห้องเดียวกันก็ไม่เลว”ไม่กี่วันต่อมามีเอกสารของเจ้าชายฝาแฝดว่าจะไม่เข้าร่วมเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิ จะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าชายและเป็นทายาทลำดับถัดมาเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอยากเป็นจักรพรรดิแทนพี่ชายตนเองที่มีตำแหน่งอยู่แต่เดิม ทำให้แผนของเหล่าขุนนางที่หวังจะเรืองอำนาจอีกครั้งหายไปในพริบตา“หึ คิดไว้อยู่แล้วว่าคลาสกับครอสจะต้องทำแบบนี้” เสียงทุ้มต่ำหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจหลังจากทราบข่าวเรื่องการสละตำแหน่งผู้สืบทอด“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ พี่คีย์”“มีจ
หลังจากลองสำรวจระหว่างที่ว่างดูแล้วทำให้รู้ว่าดินแดนที่เป็นที่อยู่อาศัยของคนรักเขาก็ค่อนข้างจะไกลพอสมควร แต่จากการศึกษามาแล้วคิดว่าไม่น่าจะมีการผิดพลาดขึ้นอีก จึงออกเดินทางลงมาดินแดนมังกรทันที ปีกสีขาวโบกสะบัดไปมาก่อนจะวางเท้าลงบนพื้นดินแดนอันไกลโพ้นจากสายตาของมนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน“ไม่นึกว่าเจ้าจะออกมาต้อนรับข้าด้วยตนเองแบบนี้ ซิคฟรีด” อพอลโลเอ่ยทักทายหลังจากไม่ได้ลงมาเยือนที่แห่งนี้นานมากแล้ว“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมา อพอลโล” ซิคฟรีดเอ่ยทักทายกลับไปเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าจะรู้ตัวเร็วขนาดนี้ หมายความว่าพลังของลูกตนเองนั้นมีมากทีเดียว“เจ้าจะไปมอบของขวัญวันเกิดให้กับลูกตนเองไหม”“แน่นอนสิ ข้าเพิ่งจะรู้ด้วยว่ามีลูกกับเจ้า ทำไมถึงไม่ยอมบอกอะไรเลย”“ข้ารู้ว่าการเกิดมาเป็นลูกครึ่งใช้ชีวิตลำบาก อยู่บนสวรรค์ก็คงจะยาก ไปอยู่แดนมังกรก็จะยิ่งยาก&rdquo