Share

Twenty-thrid Time

Author: Light Pandora
last update Last Updated: 2024-11-22 21:30:44

"อะไรนะ! เทพ! "

"อะไรนะ! มังกร! "

ความโกลาหลเกิดขึ้นในห้องประชุมทันทีเพราะเทพกับมังกรคือสิ่งที่แวมไพร์ไม่สามารถต่อกรได้สักอย่าง แต่สายเลือดที่น่ากลัวทั้งสองดันไหลเวียนอยู่ในตัวมนุษย์ผู้นี้ แถมยังเป็นเทพแห่งแสงสว่างและมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดของยุคอีกต่างหากทำอะไรให้ไม่พอใจขึ้นมา จักรวรรดิไม่ล่มสลายเพราะเด็กคนนี้งั้นรึ รัชทายาทไปเจอตัวมาได้ยังไงกัน

ปึง!

"เงียบ แล้วฟังที่รัชทายาทพูดต่อ" จักรพรรดิทุบโต๊ะเพื่อปรามให้เหล่าแวมไพร์ทั้งหมดสงบลงทั้งในห้องประชุมและนอกห้องประชุม เสียงที่เปล่งออกมาช่างทรงพลังยิ่งนัก

"เรื่องชาติกำเนิดน่าจะหมดปัญหาแล้ว ต่อไปคือเรื่องที่ว่าอาการของข้าจะเป็นอะไรไหม ข้าแค่ดีฟไปสองสามวันเพราะทำงานหนักเฉยๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและสั่นคลอนทั้งนั้น ใครที่หวังจะชิงบัลลังค์ก็รีบล้มเลิกไปซะ ถ้ายังอยากมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไป"

"ข้าไม่ได้หวังให้ประชาชนเห็นด้วยมากนัก แต่ประชาชนบางส่วนที่เคยเจอมนุษย์ผู้นี้แล้วก็รับรู้ได้ใช่หรือไม่ว่าเขาไม่ได้เป็นอันตรายกับพวกเรา เพราะฉะนั้นก็ขอให้นำไปพิจารณากันด้วย"

"หมดวาระการประชุมแล้ว เลิกประชุมได้" ดยุคตระกูลโฟลช์ปิดพิธีการประชุม

ทุกคนต่างออกจากห้องประชุมไปพลางหวาดระแวงบุคคลที่จะกลายเป็นจักรพรรดินีคนต่อไป กลัวว่าถ้าทำอะไรไม่เข้าตาจะถูกทำให้ตายอย่างแสบสาหัสหรือเปล่า ซึ่งคนที่ถูกมองอย่างไวท์ก็ส่งยิ้มหวานกลับไป สายเลือดของเทพแห่งแสงสว่างทำให้เขาดูเปล่งประกายตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาที่หลับอยู่ มีเสน่ห์เหลือล้นจนใครก็อยากจับจ้องเป็นเจ้าของ สายเลือดของมังกรคือความแข็งแกร่ง อดทน เด็ดเดี่ยว ข้อนี้ก็ทำให้ร่างสูงโปร่งไม่หวั่นไหวต่อที่ประชุมแม้ว่าจะถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลาก็ตาม

จากสายตาดูถูกกลายเป็นชื่นชมเหล่าลูกขุนนางหลายคนที่เป็นผู้ชายเข้ามาทักทายด้วยความนับถือกับการพูดจา การวางตัวที่แม้ไม่ได้รับการอบรมแต่ทำได้ดี แต่กลายเป็นที่เกลียดชังของเหล่าลูกสาวขุนนางและเชื้อพระวงศ์ เพราะหลายๆ คนคาดหวังที่จะได้เป็นจักรพรรดินีหรือราชินีหรือแม้แต่สนมก็ขอให้ได้เป็น แต่เหมือนจะไม่สมหวังเสียแล้วถ้ามีตัวจริงมาปรากฏตัวเสียแบบนี้

"เมล์ เจ้าพากระรอกน้อยไปหาคนที่ข้าเตรียมไว้ที่นะ" คีย์สั่งเสียงเรียบพลางเดินตามจักรพรรดิไปยังห้องทำงาน

"พะยะค่ะ ตามข้ามาที่นี่ขอรับ คุณชายไวท์" ร่างสูงโปร่งเดินตามคนสนิทของรัชทายาทไปทางจนมาถึงสวนด้านหลังของวังก็พบกับคนจำนวนหนึ่งประมาณจากสายตาไม่น่าจะต่ำกว่าสามร้อยคน แล้วให้เขามาเจอทำไมงั้นรึ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า

"คนๆ นี้คือทอม เฟลิกซ์ จากนี้ไปเขาคือคนสนิทของคุณชาย ส่วนเรื่องยศนั้นไว้เป็นเรื่องที่จัดการทีหลังขอรับ"

"ผมชื่อทอม เฟลิกซ์ เป็นลูกครึ่งแวมไพร์และกลุ่มคนข้างหลังทั้งหมดก็เป็นลูกครึ่งเหมือนผมขอรับ" ทอมบอกพลางโค้งให้อย่างมีมารยาทต่อหน้าว่าที่จักรพรรดินีคนต่อไป

"ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อริค ไวท์ เป็นลูกครึ่งเทพมังกรอย่างที่ได้ยินไปในห้องประชุมครับ" ความสดใสของไวท์ได้ใจเหล่าลูกครึ่งแวมไพร์ที่มารวมตัวกันทั้งหมด สมกับที่รัชทายาทได้บอกเอาไว้ หากได้รับใช้คนแบบนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวว่าจะโดนดูถูกหรือเหยียดหยาม เพราะเป็นคนประเภทเดียวกัน

"ข้าขอตัวนะขอรับ ต้องรีบตามรัชทายาทไปทำงาน"

"ครับ ขอบใจมากนะเมล์" จู่ๆ ใบหน้าของเมล์ก็ร้อนขึ้นมาซะอย่างงั้น เสน่ห์ของเทพแสงสว่างกับมังกรมีผลขนาดนี้เชียวหรือเนี่ย อันตรายเป็นอย่างมาก ต้องระวังหัวใจของตัวเองเอาไว้หน่อยแล้ว

"ผมเรียนเรื่องยศของเหล่าขุนนางมาพอสมควร ไม่ทราบว่ามีใครสอบเข้ายศของที่จักรวรรดิหรือเปล่าครับ" สิ่งที่ร่างสูงโปร่งถามออกไปนั้นทุกคนได้แต่ส่ายหัว ดูจากเสื้อผ้าหน้าผมแล้วเหมือนไม่ได้รับการใส่ใจเท่าไหร่เลย แบบนี้ต้องปฏิวัติกันหน่อยแล้ว

"เฟลิกซ์รู้ไหมว่าทุกคนทั้งหมดมีกี่คน ผมกะจากสายตาน่าจะไม่ต่ำกว่าสามร้อยคนแต่อยากทราบจำนวนที่แน่นอน สามารถบอกผมได้ไหม" ถ้อยคำที่เปล่งเสียงออกมานั้นช่างอ่อนหวานได้ใจเหล่าลูกครึ่งแวมไพร์เป็นอย่างมาก ตอนที่เห็นเหตุการณ์ในห้องประชุมมันช่างตึงเครียดแต่เจ้านายของพวกเขาอบอุ่นและใส่ใจถึงเพียงนี้ ทำให้ทุกคนยอมก้มหัวให้แต่โดยดีทั้งที่ยังไม่มีคำสั่งอะไรทั้งนั้น

"ถ้าเป็นท่านพวกเราจะยอมติดตามไปชั่วชีวิต"

"พวกเรายอมรับท่านเป็นนายเหนือหัวของพวกเรา"

คำถามก็ไม่ตอบแล้วจะมาพาก้มหัวให้เขาทำไมเนี่ย หันไปทางไหนก็ก้มหัวกันหมดจะเหลือก็แค่เฟลิกซ์เพียงคนเดียว แปลว่าต้องถามคนนี้เท่านั้นสินะ ดูท่าน่าจะรู้เรื่องมากที่สุดในกลุ่มแล้ว

"เฟลิกซ์ นายไม่ได้ยินที่ผมถามเหรอ" ไวท์เริ่มคาดคั้นเพราะทุกคนมัวแต่ทำความเคารพกันอยู่โดยไม่สนใจคำพูดของเขาเลย

"ทั้งหมด 500 คน ขอรับ คุณชาย" จำนวนมากกว่าที่ประเมินเอาไว้ มิน่าล่ะ! สวนออกจะกว้างแต่พอยืนรวมกันแบบนี้แล้วจำนวนเยอะมากเลยทีเดียว

"ผมเองก็ไม่ค่อยรู้ว่าในวังหลวงมีอะไรบ้าง ถ้างั้นลองเราเรื่องของทุกคนให้ฟังหน่อยสิ ขอตัวแทนสักหนึ่งคนออกมาเล่า จะเป็นใครก็ได้ ฟังได้ทุกคน"

มีเด็กคนหนึ่งก้าวออกมาเล่าให้ฟังอย่างตั้งใจ ร่างสูงโปร่งเองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เส้นทางในวังหลวงแต่การรับฟังความเป็นไปของพวกเขาน่าจะช่วยทำให้รู้อะไรบ้างไม่มากก็น้อย ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาช่างน่าสงสารนัก ถูกกีดกั้นออกจากพ่อและแม่ไม่ให้อยู่ด้วยกัน เด็กทุกคนต้องไปอยู่รวมกันที่หมู่บ้านหนึ่งหลังจากอายุครบสองปี ส่วนพ่อกับแม่ให้ไปทำงานเดิมที่ตนเองเคยทำ ห้ามแต่งงานหรืออยู่ด้วยกันอย่างเด็ดขาด

ช่างโหดร้ายยิ่งนัก แบบนี้เองที่เขาเรียกว่าความห่างของชนชั้นและการเป็นคนแปลกกว่าคนอื่นทำให้ถูกกีดกันเช่นนี้ ความเจ็บปวดที่ได้รับต้องมีมากแค่ไหนก็ไม่มีใครประเมินได้ ทุกคนมองเห็นคุณชายหล่อเหลาตรงหน้าว่าคือคนที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์เหล่านี้ไปได้ น้ำเสียง ท่าทาง การวางตัว ช่างเหมาะสมกับรัชทายาทยิ่งนัก ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดถึงถูกเลือกเช่นนี้

"อยู่ที่นี่เองรึหนูไวท์" จักรพรรดินีเอ่ยเรียกด้วยความเอ็นดู ตอนแรกเธอคิดว่าการที่ลูกชายของเธอเรียกเหล่าลูกครึ่งแวมไพร์กับมนุษย์ให้มารับใช้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่พอมาเห็นเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยก้มหัวให้ใครง่ายๆ แม้ว่าจะเป็นจักรพรรดิก็ตามแต่กลับโอนอ่อนให้เด็กคนนี้ ช่างมีวาจาในการพูดอย่างแน่นอน

ในสายตาคนภายนอกหมู่บ้านลูกครึ่งแวมไพร์คือสถานที่ๆ ไม่ควรเข้าไปยุ่ง น่ากลัว สกปรก ไม่น่าเข้าหา แต่มันได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ที่ลูกชายคนโตของเธอเติบโตและได้รับตำแหน่งรัชทายาท สถานที่แห่งนั้นกลายเป็นที่กินดีอยู่ดีและได้รับการศึกษาที่ดีไม่ต่างจากแวมไพร์หรือมนุษย์ แถมยังมีฝีมือการต่อสู้ที่ร้ายกาจมาก เนื่องจากไม่เคยมีใครไปเข้าในหมู่บ้านแห่งนั้นจึงไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร

แต่ทำไมรัชทายาทถึงให้คนเหล่านั้นแต่งตัวเหมือนไม่ได้รับการอบรมแบบนั้น ไหนจะกิริยามารยาทอีก แต่ดูเหมือนว่าไวท์จะไม่รู้สึกอะไรกับการคุยกับคนที่มีฐานะต่ำต้อยกว่าตนเองแถมยังนั่งพื้นอย่างสบายใจอีกต่างหาก หรือว่าลูกของเราต้องการจะทดสอบอะไรบางอย่างจากลูกไวท์อย่างแน่นอน เพราะเห็นเมล์ไปแอบอยู่ตรงนั้นตั้งนานแล้ว ต้องเป็นแบบทดสอบอะไรสักอย่างแน่ๆ

"พอดีหม่อมฉันไม่รู้ทางในวังหลวงหรือแม้แต่ที่อื่น ก็เลยชวนพวกเขาคุยครับจะได้ทำความรู้จักกันไว้ ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แล้วท่านจักรพรรดินีล่ะครับ" เสียงหวานตอบกลับไปด้วยใบหน้าสดใสร่าเริงในขณะที่เหล่าลูกครึ่งแวมไพร์พากันตกใจแสดงว่ามีแผนทดสอบเจ้านายตัวเองสินะ เจอคนแบบหนูไวท์เข้าไปพวกนายตามความสดใสไม่ทันหรอกนะจะบอกให้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาคว้ารักโลกคู่ขนาน   SS2 Twenty-four Time

    “ข้าจะถามเพียงคำถามเดียว หากใดจึงได้เลือกที่จะรับใช้รัชทายาท เพราะเหตุใด แล้วหลังจากนี้ตั้งใจจะทำอันใดต่อไป” คำถามเดียวที่ยาวขนาดนี้ น่าจะเหมือนสามคำถามมากกว่า ทุกคนคิดในใจและพากันมองหน้าด้วยสายตาแบบเดียวกันแต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา“ข้ามาเพราะมีคำสั่งจากท่านไวท์ขอรับ หากได้รับการอนุญาตจะมาคอยรับใช้และดูแลรัชทายาทขอรับ”“ข้าเลือกมาด้วยตัวเอง เพราะอยากกลับมารับใช้องค์รัชทายาทครั้นเก่าก่อน และจะคอยรับใช้ตลอดอายุขัย”หลังจากคำตอบของทั้งสองแล้ว ใบหน้าหวานใช้เวลาคิดไตร่ตรองอยู่นานจนทำให้ทุกคนในห้องต่างพากันลุ้นไปด้วยว่าจะตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง เพราะเป็นคำถามที่ค่อนข้างตอบยากทีเดียว“ทั้งสองคนจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาดูแลพวกเราที่บนตำหนักแต่จะมีเจ้านายคนละคนกัน เจ้าที่ตอบเพราะว่าข้าเป็นคนสั่งจงมาทำงานกับข้า ส่วนเจ้าอีกคนข้าจะให้มาคอยดูแลรับใช้รัชทายาท ส่วนเรื่องตำแหน่ง...ข้าจะตัดสินใจอีกครั้ง บอกชื่อมาสิ”“ทำไมกระรอกน้อยถึงให้ค

  • ข้ามเวลามาคว้ารักโลกคู่ขนาน   SS2 Twenty-three Time

    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา”“ท่านพี่ พวกเราจะกลับเขตปกครองของพวกเราสองคนแล้ว เลิกจะมาลาพะยะค่ะ” คลาสบอกพลางทำความเคารพ“ใช่พะยะค่ะ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พวกเราขอตัว” ครอสบอกแล้วทำความเคารพเช่นกัน“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าได้คำตอบของหัวใจจากคนที่ตนเองรักแล้วจะไปเริ่มต้นใหม่หรอกหรือ” เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นมาแล้วเงยหน้ามองฝาแฝดด้วยสายตาเรียบนิ่ง“พะยะค่ะ ข้าได้คำตอบจากคนที่ข้ารักแล้ว / พะยะค่ะ ข้าได้สิ่งนั้นมาแล้ว” ทั้งสองตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เจ้าชายทั้งสามต่างพยักหน้าให้กันแล้วต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนหลังวังเขาจะไม่รับรู้ แต่มันเป็นเรื่องที่ไวท์จะต้องพูดและตัดสินใจด้วยตนเองจากนี้ไปทั้งคลาส ครอส น่าจะเริ่มเข้าใจและตัดใจได้ในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่ไวท์พูดค่อนข้างเด็ดขาดและชัดเจน ไม่มีช่องว่างให้คนอื่นแทรกเข้าไปได้เลยตอนที่ได้ยินคำพูดออกจา

  • ข้ามเวลามาคว้ารักโลกคู่ขนาน   SS2 Twenty-two Time

    “เป็นการตรวจสอบภายในก็จริงแต่ต้องส่งเข้าวังหลวงภายในสิบสี่วันขอรับ”“เข้าใจแล้ว ผมจะทำตามที่บอกและเขียนรายละเอียดไว้ให้ด้วยครับบนโต๊ะทำงานของผม” เสียงทุ้มนุ่มตอบพลางออกกำลังกายด้วยตนเองต่อไป สายตาของเมล์มองด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเหมือนตาแก่มากขนาดนี้“มีอะไรหรือเปล่าครับ เห็นมองนานแล้ว ผมยังออกกำลังกายไม่เสร็จ”“ไม่ขอรับ ข้าขอตัวก่อน”“ครับ”ณ ห้องทำงาน“จะทำยังไงกันต่อขอรับ รัชทายาทยังนอนอยู่ที่โซฟาอยู่เลย” เฟลิกซ์ถามด้วยความสงสัยเพราะว่าเจ้านายของตนเรียกทุกคนมารวมกันที่นี่หมดเลย แต่ว่าถ้าพูดคุยกันที่นี่จะไม่ทำให้รัชทายาทตื่นขึ้นมาเหรอ“ผมเชื่อว่าคนไม่ได้นอนมาหลายวันไม่ตื่นง่ายหรอกครับ มาคุยเรื่องงานกันดีกว่า”“กองงานทั้งหมดส่วนนี้คือการช่วยกันตรวจดูเอกสารงบประมาณภายในวังว่าครบถ้วนหรือไม่ มีอะไรขาดตกบกพร่องตรงไหน และจะต้องเส

  • ข้ามเวลามาคว้ารักโลกคู่ขนาน   SS2 Twenty-one Time

    “พี่คีย์ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะครับ เคี้ยวอาหารแบบนี้เหมือนเด็กเลยครับ” เสียงทุ้มนุ่มพูดพลางหัวเราะเบา ๆ เพิ่งเคยเห็นท่าทางแบบนี้ของคนอายุมากกว่าหลายร้อยปี เป็นภาพที่น่ามองไปอีกแบบเหมือนกัน“ข้าว่าเหมือนคนไม่สำรวมมากกว่าขอรับ ท่านไวท์” เมล์บอกพลางถอนหายใจ ไม่คิดว่าจะกินแบบนั้นจนลืมเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร จะกินเร็วเกินไปแล้ว“ตอนนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากพวกเรา งดสำรวมหนึ่งวันแล้วจะรีบกินให้หมดจะได้มานั่งทำงานต่อสักที”หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาก็เห็นรัชทายาทหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน จากการมาหาสภาพไม่ต่างจากคนทำงานหามรุ่งหามค่ำและไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ถ้าทำเครื่องดื่มที่ทำให้รู้สึกสดชื่นน่าจะช่วยได้พอสมควร มาลองคิดเรื่องเครื่องดื่มที่จะทำให้รู้สดชื่นกันก่อนดีกว่ามือขาวหยิบกระดาษและปากกาขนนกขึ้นมาเพื่อเริ่มไล่รายการเครื่องดื่มที่ทำให้สดชื่นและสามารถทำงานต่อไปได้ในระยะยาวโดยไม่ได้สนใจว่ามีสายตาของแวมไพร์ทั้งสองคู่กำลังมองอยู่ว่าทำอะไร ทำไมดูเคร่งเครียดขนาดนั้น จะเข้าไปช่วยก

  • ข้ามเวลามาคว้ารักโลกคู่ขนาน   SS2 Twenty Time

    “มองอะไรกันครับ ไม่กินข้าวล่ะครับ” ไวท์ถามด้วยความสงสัย“ตอนที่เจ้ากินแบบนี้ดูน่ารักดี เลยเผลอมองนานไปหน่อย ขอโทษด้วย” คีย์ตอบพลางกินอาหารต่อแต่คนที่เหมือนจะกินช้าลงกลายเป็นใบหน้าหวานแทนเพราะทำตัวไม่ถูกกับคำชมของอีกฝ่ายที่ตรงไปตรงมาแบบนี้เสมอ“พูดอะไรครับพี่..” เสียงของไวท์ขาดหายไปแล้วเริ่มก้มหน้าก้มตากินเหมือนเดิม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่มีเด็กคนนี้เข้ามาทำให้ชีวิตประจำวันของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ตอนนั้นจนวันนี้ สายตาของแต่ละคนก็ยังมีความให้อ่อนโยนให้เหมือนเดิมซึ่งการที่แต่ละคนต่างมีใจให้กับไวท์ก็เป็นสิ่งที่คีย์รู้มานานแล้ว แต่ว่าหลังจากการหมั้นทุกคนก็มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไม่ทำอะไรให้เกิดความเสียหายขึ้นมา“ไวท์ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้า” คลาสบอกพลางเดินออกไปทางสวนหลังวัง“ครับ” เขาขานรับสั้น ๆ และเดินตามไปแต่โดยดีณ สวนหลังวัง“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ผมยังมีอะไรที่

  • ข้ามเวลามาคว้ารักโลกคู่ขนาน   SS2 Nineteenth Time

    อพอลโลตัดสินใจที่จะเดินทางมาโลกมนุษย์หลายเดือน จึงคิดเตรียมการหลายอย่างเพื่อให้ตนเองมีเวลาว่างมากพอที่จะสืบเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหมด ระยะเวลาที่นานขนาดนี้ในโลกมนุษย์จะสามารถตามหาอะไรได้อีกหรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะรับรู้อะไรได้บ้างณ ดินแดนมังกร“มีอะไรหรือท่านจักรพรรดินี”“เหมือนจะถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปหาไข่มังกรแล้วสินะ” เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบพลางใช้พลังมองดูบุตรของตนที่กำลังจะเติบโตขึ้นอีกขั้น“ฝากตาแก่ไว้นานแล้ว ถึงเวลาที่ต้องไปรับกลับมาเสียที”“ท่านจะไปที่ใดกัน”“โลกมนุษย์”“ท่านว่ายังไงนะ!”“วางใจเถอะ ไม่ใช่ในตอนนี้หรอก” คนรับใช้ถอนหายใจอย่างโล่งอก“แต่อีกไม่นานจะต้องเตรียมตัวเพื่อไปพบบุตรของข้า”“แต่ท่านมีบุตรอยู่ที่นี่แล้วถึงสี่พระองค์พะยะค่ะ จะมีบุตรที่ใดกันอีก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status