Share

ตอนที่ 7 ขึ้นเขาไปด้วยกัน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-15 21:57:17

“ลั่วอี้ข้าทำอาหารเอาไว้ให้ท่านแล้วรวมไปถึงยาสำหรับลั่วซาน ท่านช่วยป้อนลั่วซานแทนข้าด้วย แล้วก็นี่” เยว่ฉียื่นขวดหยกให้สามี ในนี้บรรจุน้ำแห่งชีวิตผสมเจือจางเอาไว้

ตอนแรกนางตัดสินใจจะผสมเข้ากับน้ำที่ใช้ในการทำอาหาร แต่คิดไปคิดมาอาจจะเห็นผลไม่ดีเท่าที่ควร จึงได้ผสมเจือจางในปริมาณหนึ่งชามเล็กต่อน้ำแห่งชีวิตหนึ่งหยดแล้วบรรจุใส่ขวดให้ทานด้วย

“ต่อจากนี้ท่านต้องดื่มวันละขวด ข้าจะเตรียมให้ท่านทุกเช้า” หานลั่วอี้มองขวดหยก ยื่นมือออกไปจับมาถือไว้ในมือ ก้มมองอย่างสงสัย

“ท่านเชื่อใจข้าหรือไม่?” นางรู้ว่าเขาสงสัยแต่ก็ยังไม่พร้อมจะบอกความจริงตอนนี้ หวังเพียงว่าเขาจะเชื่อใจนางและไม่เอ่ยถามสิ่งใด หานลั่วอี้เงยหน้ามองภรรยา มองนัยน์ตาดอกท้อที่สะท้อนความจริงใจออกมา

ถึงจะยังสงสัยว่าสิ่งใดกันที่ถูกบรรจุอยู่ในขวดหยก ทว่าเพราะดวงตาที่มองมาและความกังวลบนใบหน้าช่วยให้เขาคลายความสงสัยลงไปหลายส่วน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอยากจะลองเสี่ยงดู

ลองเสี่ยงดูว่านางจะทำร้ายเขาหรือไม่

“ข้าเชื่อใจเจ้า” น้ำเสียงตอบกลับช่างหนักแน่นในความรู้สึก เยว่ฉีย่อตัวลงตรงหน้าชายหนุ่ม วางมือลงบนหลังมือเขา จ้องหน้าเขม็ง

“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” แม้จะไม่รู้ว่าประโยคดังกล่าวหมายถึงสิ่งใด ถึงกระนั้นใบหน้าหานลั่วอี้ก็พยักขึ้นลง มุมปากหยักโค้งขึ้นยากจะสังเกตเห็น

“เช่นนั้นข้าไปก่อน อย่าลืมป้อนยาลั่วซาน” กล่าวย้ำอีกครั้ง

หานลั่วอี้พยักหน้า “ระวังอันตรายด้วย”

“ข้าจะระวัง”

เยว่ฉีออกไปแล้ว หานลั่วอี้มองตามจนแผ่นหลังลับตาไป ก่อนจะถอนสายตากลับมามองของในมือ เปิดจุกออก กลิ่นหอมบริสุทธิ์กำจายออกมาจากปากขวดให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาสูดดมอีกครั้ง หัวคิ้วพลันขมวดเข้าหากัน ของเหลวที่บรรจุอยู่ด้านในคล้ายสัมผัสได้ถึงพลังชีวิต ร่างกายก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

ในตอนที่ตัดสินใจดื่มลงไป ยามของเหลวไหลลงสู่ลำคอกระจายไปทั่วร่างกายแล้วนั้น เขาพลันสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ถูกแช่แข็งมาอย่างยาวนานถูกกระตุ้น

เส้นลมปราณซึ่งเคยเสียหายกำลังถูกซ่อมแซม พลังสายหนึ่งแผ่ขยายไปทั่วเส้นประสาท แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็สัมผัสได้ ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงหยดน้ำบางเบากำลังเข้าไปเติมเต็มสายน้ำแห้งคอดให้ชุ่มฉ่ำขึ้นมา

ร่างกายพลันอบอุ่นขึ้นอย่างน่าประหลาด

หลังสัมผัสความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ความประหลาดใจพลันปรากฏขึ้นในดวงตา หานลั่วอี้ก้มลงมองขวดหยกในมือเขม็ง

เจ้าสิ่งนี้คือของดี แม้จะไม่รู้ว่าคืออะไรกันแน่ แต่ทว่ากลับเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดตอนนี้ ไม่รู้ว่าเยว่ฉีไปได้น้ำวิเศษเช่นนี้มาได้ยังไง

“หรือว่าจะเกี่ยวกับการหายตัวไปเมื่อวาน?” บุรุษหนุ่มได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ ในเมื่อเจ้าสิ่งนี้ไม่ใช่ของอันตรายแถมนางยังหยิบยื่นมาให้ด้วยความเต็มใจ เช่นนั้นเขาก็จะไม่ซักถาม เชื่อมั่นในตัวนางและรอคอยวันที่เยว่ฉีพร้อมจะบอกทุกเรื่องให้เขาได้รู้

และเพราะของเหลวในขวดนี้ทำให้หานลั่วอี้ปลดระวางความกังวลระคนหวาดระแวงที่ว่า เยว่ฉี อาจจะเป็นคนของสตรีผู้นั้นลงไปหลายส่วน ความเชื่อมั่นและไว้ใจที่มีให้เพิ่มพูนขึ้นเท่าตัว จากแต่เดิมที่มีอยู่มากให้มากขึ้นไปอีก

สตรีผู้นั้นไม่มีทางหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขา นางผู้หวังให้เขาพินาศมากที่สุดมีหรือจะมอบโอกาสในการฟื้นคืนให้เขา

ระหว่างที่ความจริงใจต่อเยว่ฉีของหานลั่วอี้กำลังเพิ่มพูน หญิงสาวก็กำลังยืนพิงกำแพงรอเพื่อนบ้าน

ไม่นานคนทั้งคู่ก็แบกตะกร้าเดินมาหา บนหลังเยว่ฉีมีตะกร้าแบกหลังใบน้อยอยู่หนึ่งใบ ซึ่งได้มาจากครอบครัวเฟิงให้หยิบยืม

ของที่ได้มาจากบ้านเดิมส่วนมากมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ของสำหรับทำครัวหรือใช้งานในชีวิตประจำวันล้วนไม่มี ยังดีที่บ้านหลังใหม่ยังพอมีของที่ใช้ได้อยู่บ้าง หากต้องซื้อของใหม่ทั้งหมดเกรงว่าเงินหนึ่งตำลึงของพวกเขาคงหมดภายในไม่กี่วัน

“พี่หลัว พี่เฟิงพวกท่านมาแล้ว!!” เสียงทักทายสดใสของเด็กสาวตัวน้อยเรียกรอยยิ้มจากคนอายุมากกว่าทั้งสอง พอได้ทำความรู้จักทำให้ได้รู้ว่าเด็กคนนี้เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริงเป็นกันเอง ไม่มีมาดความหยิ่งผยองเลยแม้แต่น้อย

ทั้งสองคนไม่ได้โง่ที่จะมองไม่ออกว่าเพื่อนบ้านที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่ ก่อนจะมาอยู่อาศัยที่หมู่บ้านชวีซานจะต้องเป็นคนมีฐานะไม่น้อย ดูได้จากเสื้อผ้าที่ทั้งคู่สวมใส่ รวมไปถึงท่าทางการวางตัวของหานลั่วอี้ ล้วนแล้วแต่ดูสูงส่งสง่างาม แม้ร่างกายเขาจะไม่สมบูรณ์แต่ก็ไม่สามารถกลบความสูงส่งรอบกายได้

ในเมื่อหานลั่วอี้เป็นคนมีฐานะเช่นนั้นภรรยาของเขาก็คงไม่ต่างกัน ทว่าเด็กสาวตัวน้อยคนนี้กับเป็นกันเอง พูดจาเก่ง ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ

“น้องเยว่เคยขึ้นเขามาก่อนหรือไม่”

คนถูกถามยิ้มแหย ๆ ยกมือขึ้นเกาท้ายทอย

“ขอบอกอย่างไม่ปิดบัง ข้าไม่เคยขึ้นเขาเลยสักครั้ง”

“เช่นนั้นคงต้องพยายามแล้ว แม้ภูเขาบริเวณหมู่บ้านจะไม่สูงชันมากนัก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่”

“พี่หลัววางใจได้ ถึงข้าจะไม่เคยขึ้นเขาแต่ก็ไม่ใช่คนหนักไม่เอาเบาไม่สู้” น้ำเสียงมั่นใจของเด็กสาวยังคงทำให้ทั้งสองคนเอ็นดู

จากนั้นคนทั้งสามก็เดินไปพูดคุยกันไปตลอดทาง ใบหน้าประดับรอยยิ้มอยู่ตลอด จนกระทั่งเกือบจะเดินออกนอกเขตของหมู่บ้านก็มีหญิงชราท่าทางใจดีคนหนึ่งเอ่ยทักทาย

“เจ้าบ้านเฟิง สะใภ้เฟิงวันนี้ก็ขึ้นเขาอีกหรือ” ชาวบ้านหมู่บ้านชวีซานส่วนมากทำอาชีพปลูกข้าว หรือปลูกพืชผักไปขาย มีเพียงชาวบ้านบางส่วนที่จะทำอาชีพเก็บพืชวิญญาณ เพราะการขึ้นเขาไปหาพืชวิญญาณนั้นมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย

หากมีโชควาสนาพบเจอพืชวิญญาณระดับสูงอันตรายที่จะตามมาย่อมมากมายตามเงินที่ได้รับ เพราะพืชวิญญาณระดับสูงมักจะมีสัตว์อสูรเฝ้าอยู่ไม่ไกล แต่หากโชคดีมากก็จะพบเพียงพืชวิญญาณไร้กลิ่นอายสัตว์อสูร

ที่หลัวหรูไม่ได้บอกเยว่ฉีถึงอันตรายเกี่ยวกับการเก็บพืชวิญญาณเพราะปกติแล้วเรื่องนี้เป็นความรู้พื้นฐานของทุกคนในดินแดนเฟยฮ่าว

“ขอรับท่านยาย” หญิงชราพยักหน้ายิ้ม ๆ เหลือบสายตาหันมองเยว่ฉีอย่างสำรวจ

ขอถอนคำพูดที่บอกว่าท่าทางใจดี หญิงชราคนนี้แค่ทำท่าทางใจดีเท่านั้นเอง

“ขึ้นเขาก็ระวัง ๆ ด้วยล่ะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจะไว้ใจมากเกินไปย่อมไม่ดี หากเกิดเรื่องขึ้นมาก็คงมีแต่สวรรค์ที่รู้”

เอ้า!!! สักหมัดไหมยาย

เยว่ฉีอยากจะเอ่ยขึ้นทว่าก็ถูกหลัวหรูห้ามเอาไว้ก่อน นางมองหญิงชรายิ้ม ๆ เอ่ยเสียงอ่อนโยน

“ขอบคุณในความห่วงใยของท่าน ข้ากับพี่เฟิงล้วนจำใส่ใจ ส่วนเรื่องคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจนั้น ข้ากับพี่เฟิงก็หาใช่คนใสซื่อที่จะมองคนไม่ออก ใครดีไม่ดีข้านั้นล้วนรับรู้ได้ ท่านยายไม่ต้องกังวล”

หญิงชราโดนคำพูดหวานระคายหูของหลัวหรูสีหน้าพลันมืดลงไม่เหลือแล้วซึ่งรอยยิ้มอ่อนโยน

“ข้าเพียงเป็นห่วงพวกเจ้า เหตุใดต้องกล่าวหนักถึงเพียงนี้ หากเกิดอันใดขึ้นมาก็อย่าได้มานึกเสียใจทีหลัง!!” หญิงชราส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะสะบัดหน้าหันหลังกลับเข้าบ้านไป

“ขอบคุณในความเป็นห่วงของท่าน เดินดี ๆ นะเจ้าคะ” หลัวหรูกล่าวตามหลังก่อนจะหันมาหาเยว่ฉี

“อย่าได้ใส่ใจคำพูดแกเลย ยายซวงก็เป็นเช่นนี้” เยว่ฉียิ้มกว้าง

ไม่นึกว่าหญิงผู้นี้จะออกตัวปกป้องนาง ถึงขั้นทำให้คนในหมู่บ้านเดียวกันขุ่นเคือง

“พี่หลัวข้าไม่เป็นอันใด จะห่วงก็แต่พวกท่านทำให้คนหมู่บ้านเดียวกันขุ่นเคืองเช่นนี้จะดีหรือ? ตัวข้าพึ่งย้ายมาใหม่ไม่เท่าใดแต่พวกท่านทั้งสองคนเลา”

ทั้งสองมองหน้ากันยิ้ม ๆ เด็กคนนี้ทั้งที่ตนถูกคนพูดไม่ดีใส่ ยังจะเป็นห่วงผู้อื่นอีก

“เจ้าอย่าได้ใส่ใจ ความจริงข้ากับพี่เฟิงก็หาใช่คนหมู่บ้าน ชวีซานตั้งแต่ต้น เป็นคนย้ายเข้ามาเช่นเดียวกับพวกเจ้า เพียงแต่ดีกว่าหน่อยที่ตอนย้ายเข้ามาไม่ถูกตั้งแง่ใส่ตั้งแต่วันแรก”

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วย!?”

“ใช่ พูดแล้วก็อย่าขำไป ข้ากับพี่เฟิงย้ายออกจากหมู่บ้านเดิม เพราะครอบครัวข้าไม่ยอมให้แต่งงานกับพี่เฟิง หลังหนีออกมาด้วยกันก็มาอยู่ที่หมู่บ้านนี้”

“ข้าจะหัวเราะได้เช่นไร พวกท่านชั่งมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันยิ่งนัก ได้ยินแล้วข้ายังอดรู้สึกชื่นชมและอิจฉาไม่ได้”

“ไม่ต้องกล่าวประจบประแจงข้าเจ้าเด็กน้อย” หลัวหรูส่ายหัวยิ้ม ๆ ก่อนทั้งสองคนจะสบตากันแล้วหัวเราะออกมา บรรยากาศกลมกลืนยิ่ง เฟิงซิ่วผู้เงียบอยู่ตลอดเอาแต่ยิ้มมองภรรยาทีมองเด็กสาวตรงหน้าที ได้เห็นภรรยายิ้มมีความสุขเช่นนี้ สามีอย่างเขาพึงพอใจไม่น้อย

ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของคนในครอบครัว ถึงแม้อาจจะกลายเป็นศัตรูกับคนทั้งหมู่บ้านก็ไม่เป็นอันใด เพราะปกติแล้วก็ใช่ว่าพวกเขาจะไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ คนในหมู่บ้านเดิมมักจะมองคนย้ายเข้ามาใหม่เป็นคนนอก ถึงพวกเขาจะไม่ได้ถูกกีดกันแต่ก็ไม่ถึงขั้นสนิทสนม

ใช้เวลาเดินทางเกือบสองเค่อพวกเขาก็มาถึงตีนเขากันแล้ว เยว่ฉีมองภูเขาสูงตรงหน้า ในดวงตาฉายประกายความตื่นเต้น

เคยมีคนพูดว่าขุมทรัพย์มักซ่อนอยู่ในธรรมชาติ

นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภูเขาตรงหน้าจะสร้างปาฏิหาริย์ให้กับนาง

“พร้อมแล้วใช่หรือไม่” หลัวหรู

“พี่หลัวข้าพร้อมแล้ว!!”

“เช่นนั้นก็ไปกัน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 172 ศึกจัดอันดับรอบสอง [2]

    หญิงสาวตรงหน้ายังคงแย้มยิ้ม ทว่าบรรยากาศกดดันกลับทำให้คนทั้งสามไม่กล้าแม้จะขยับตัว พลังจิตแผ่กระจายออกไป ปกคลุมทั่วทั้งร่าง ก่อนจะควบคุมให้เข้าไปโจมตีจิตของอีกฝ่ายยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้กว่าหนึ่งจั้ง คนทั้งสามก็หมดสติล้มลงไปนอนบนพื้นเสียแล้วรอยยิ้มงดงามหดหาย ใบหน้าเผยความรู้สึกเสียดาย หลุบตาลงมองคนทั้งสาม พร้อมเอ่ยออกมาว่า“จบแล้วหรือ?”น้ำเสียงเสียดายถูกเอ่ยออกมา หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนจะหันหลังเดินห่างออกมาตัดสินผู้ชนะบนลานประลอง พร้อมม่านพลังที่จางหายไปทั้งที่เป็นคำพูดและน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ซึ่งความกดดัน แต่กลับสามารถกระตุ้นความรู้สึกของคนที่มองอยู่ด้านบนได้เป็นอย่างดี“สตรีผู้นั้นเป็นใครกัน จัดการได้ยอดเยี่ยมมาก รอยยิ้มของนางทำเอาข้าขนลุกซู่ไปทั้งตัว” อู๋หนิงอันที่มองการแข่งขันอยู่ถึงกับตาแข็งค้าง ไม่คิดว่าสตรีที่ดูไม่มีพิษภัย พอเผยยิ้มร้ายจะทำให้คนตัวแข็งค้าง“ข้าชอบนาง ข้าจะเลือกนางมาเป็นคนของตระกูลข้า !!” อู๋หนิงอันเอ่ยเสียงหนักแน่น ไม่ได้พบเจอสตรีที่มีท่าทีถูกใจนางเช่นนี้มานานแล้ว นางตื่นเต้นจนอยากจะลงไปทักทายเสียตอนนี้“เหอะ คนเช่นนี้ต้องมาที่ตระกูลไท่เท่า

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 171 ศึกจัดอันดับรอบสอง [1]

    เวลาหนึ่งวันไม่ถือว่านาน แต่สำหรับคนที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับนั้น เวลาหนึ่งวันคือช่วงเวลาบีบเคล้นพวกเขาให้หายใจลำบากเมื่อการทดสอบรอบแรกสิ้นสุดลง ในที่สุดพวกเขาก็โห่ร้องออกมาได้เสียที ไม่ใช่โห่ร้องออกมาจากความดีใจเพียงอย่างเดียว แต่โห่ร้องออกมาเพราะความโล่งใจ ที่ในที่สุดก็ผ่านรอบแรกมาได้การแข่งขันรอบสองจะถูกจัดขึ้นวันพรุ่งนี้ ยังพอมีเวลาให้เตรียมตัวศิษย์ทั้งหลายเดินทางออกจากลานประลองแล้ว ศิษย์หลายคนมีสีน่าเศร้าสร้อยเพราะไม่ผ่านการแข่งขันรอบแรก หลายคนเอ่ยปลอบเพื่อนที่รู้จักกันพร้อมบอกว่ายังมีการแข่งขันอีกครั้ง สามารถเข้าร่วมได้เสมอ หรือไม่หากมั่นใจในความสามารถตนเองก็สามารถขอท้าสู้คนที่อยู่ในรายชื่อผู้แข็งแกร่งได้ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เยว่ฉีเพิ่งได้รู้ตั้งแต่เข้ามาในสำนัก นางไม่เคยได้ใช้เวลาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ในสำนักเลย หากไม่เข้าไปฝึกฝนในมิติ ก็เข้าไปฝึกฝนในหุบเขา ขนาดสวนสมุนไพร หรือห้องแรงโน้มถ่วงก็ยังไม่เคยเข้าไปเหยียบเลยสักครั้งหอสมุดยิ่งแล้วใหญ่ อาจารย์บอกว่าในมิติมีหนังสือเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องไปเสียแต้มกับของแบบนั้นนางผู้ได้ชื่อว่าศิษย์ผู้เชื่อฟังจึงไม่เคยเข้าไปในหอสมุดวันที่สอ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 170 ศึกจัดอันดับรอบแรก [4]

    ฝั่งหวานเว่ยก็มีสภาพไม่ต่างกัน นางกระโดดมายืนข้างเสินเทียน ทั้งสองคนหันหลังเข้าหากัน สายตาแน่วแน่ไม่คิดยอมแพ้ ทั้งที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเยว่ฉีผู้นั่งมองเหตุการณ์ยกยิ้มยื่นมือเข้าช่วยเล็กน้อยคงไม่เป็นไรกระมัง ว่าแล้วก็ขยายพลังจิตลงไปด้านล่าง โอบล้อมคนทั้งสิบเอาไว้ อาศัยช่วงที่อีกฝ่ายกำลังได้ใจ โจมตีเข้าไปในจิตให้เสียหลักสองคนที่เหลือมองเห็นความผิดปกติเล็กน้อย อาศัยโอกาสที่เยว่ฉีสร้างให้ โจมตีอีกฝ่ายจนหมดสติ จากนั้นก้มลงเก็บป้ายหยกออกมา“สนุกพอแล้วก็ออกมา” เป็นเสินเทียนที่เอ่ยขึ้น การโจมตีเมื่อสักครู่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเยว่ฉี เพราะคงไม่มีคนใจดีที่ไหนยื่นมือเข้าช่วยคนที่ตนไม่รู้จักเขากวาดตามองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะมองเห็นเยว่ฉีนั่งแกว่งขาไปมาท่าทางสบายใจอยู่บนกิ่งไม้ ข้างกายนางมีหานลั่วอี้ยืนมองอยู่“สนุกมากไหม? ที่เห็นพวกข้ากำลังเสียเปรียบ”“สนุกมาก ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเจ้าข้ายิ่งมีความสุข” นางเอ่ยยิ้ม ๆ กระโดดลงมาจากต้นไม้ แต่ก่อนร่างกายจะถึงพื้นลมสายหนึ่งก็มารองใต้เท้านางรู้ว่าเป็นฝีมือใคร จึงหันไปเอ่ยขอบคุณเสินเทียนมองทั้งสองคนที่สภาพยังดีอยู่ จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พว

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 169 ศึกจัดอันดับรอบแรก [3]

    การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปศิษย์หลายคนถูกคัดออกในเวลาไม่นาน ในขณะที่ศิษย์อีกหลายคนสามารถสะสมแต้มได้ครบ และผ่านเข้ารอบถัดไปสองสามีภรรยาเยว่หานผู้โชคดีได้พบศิษย์เข้ามามอบแต้มให้ถึงมือ ไม่อยากจะเชื่อว่าหลังจากนั้นมาทั้งสองคนจะไม่พบใครอีกเลย“ลั่วอี้พวกเราดวงซวยเกินไปหรือไม่?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในป่า นอกจากสัตว์อสูรที่เข้ามาหาเรื่องเป็นครั้งคราวแล้ว พวกเขาก็ไม่พบศิษย์คนใดอีกเลย ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในหุบเขาแห่งนี้แล้วบุรุษถูกถามผินหน้ามองภรรยา มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย“ภรรยายังมีเวลาอีกมาก”“ข้ารู้ แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในหุบเขา นอกจากสองคู่แรกที่เข้ามาหาเรื่องเอง พวกเรายังไม่พบใครอีกเลย”“บางทีจุดที่พวกเราปรากฏตัวอาจจะห่างไกลจากศิษย์คนอื่น”เยว่ฉีคิดตามแล้วพยักหน้า ถึงอย่างนั้นนางก็ยังสงสัยศิษย์เข้ามาในหุบเขาตั้งมากมาย เหตุใดถึงหาไม่เจอ!!นางอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าเวลาการแข่งขันจะสิ้นสุดลง ไม่แน่บางทีเดินหน้าต่อไปอีกไม่กี่ก้าวพวกเขาอาจจะพบศิษย์คนอื่น ๆคิดได้ด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 168 ศึกจัดอันดับรอบแรก [2]

    “ลั่วอี้พวกเราเรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบหรือไม่?” เยว่ฉียืนนิ่งอยู่ด้านหลังหานลั่วอี้ ใช้พลังจิตตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ชายหนุ่มสกัดการโจมตีที่พุ่งมาจากทุกทิศทาง สีหน้าเรียบเฉย“ภรรยาพวกเขาคงหมายตาเจ้ากระมัง”“ระหว่างการแข่งขันเนี่ยนะ?! เสียสติไปแล้วหรือ” หญิงสาวส่ายหัว เอ่ยเสียงเรียบ“ท่านจัดการได้หรือไม่? ข้ายังไม่อยากเผยความสามารถเท่าใดนัก”“ภรรยาเจ้าสามารถยืนนิ่งปล่อยให้สามีปกป้อง” เยว่ฉีถึงกับหลุดขำให้ประโยคหวานพูดออกมาด้วยหน้านิ่ง ๆ ได้ยังไงกันนะ เป็นบุรุษที่มีความสามารถเสียจริง“เชิญสามีปกป้องข้า” ว่าจบก็หย่อนตัวลงนั่งบนโขดหินที่ยืนเมื่อสักครู่ คนมาล้อมจู่โจมถึงกับงงงวย ทว่าไม่นานพวกเขาก็เข้าใจแม้จะบอกว่านั่งนิ่งให้ปกป้อง แต่ความจริงแล้วเยว่ฉีกำลังนั่งตรวจสอบว่าพวกเขาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ที่ใด จากนั้นส่งที่อยู่ทั้งหมดเข้าไปในหัวหานลั่วอี้เพื่อยืนยันว่าจุดที่ชายหนุ่มสัมผัสได้กับจุดที่นางเห็นตรงกันจากนั้นลมสายหนึ่งก็พุ่งเข้าจู่โจมคนทั้งสี่จนหมดสติในการโจมตีเดียว“ง่ายกว่าที่คิดเสียอีก” หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ปัด ๆ เศษดินออกจากมือ ยื่นมือออกไปรับป้ายหยกที่หานลั่วอี้ใช้พลังยึดมาทั้งสองคนแ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 167 ศึกจัดอันดับรอบแรก [1]

    หลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนักใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาหลังสำนักมานานในที่สุดวันที่พวกเขารอคอยก็มาถึงศึกจัดอันดับเพื่อกลายเป็นหนึ่งในร้อยอันดับผู้แข็งแกร่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบนลานกว้างเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับ ชายหนุ่ม หญิงสาวเลือดร้อนที่ต้องการเข้าชิงหนึ่งในที่นั่งร้อยอันดับแรก ต่างรวมตัวกันอยู่บนลานประลองเหนือพวกเขาขึ้นไปด้านบน อาจารย์อาวุโสพร้อมอาจารย์ท่านอื่น ๆ ต่างยืนเรียงรายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบนที่นั่งพิเศษเช่นเดียวกับตอนแรกนอกจากนั้นยังมีคนจากดินแดนระดับสูงที่กำลังกวาดตามองพวกเขาอยู่สายตาเสาะหาและพิจารณาเหล่านั้นกำลังจับจ้องทุกคนบนลานประลอง“สวัสดีเหล่าเด็กผู้กระหายความแข็งแกร่งในที่สุดศึกจัดอันดับระหว่างศิษย์ด้วยกันเองก็มาถึงแล้ว ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะมีศิษย์เข้าร่วมจำนวนมากจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันเล็กน้อย”อาจารย์อาวุโสลอยออกมากลางลานประลองเหนือศิษย์ทั้งหลาย เขาวาดมือบนอากาศครั้งหนึ่ง ป้ายหยกขนาดเท่ากับป้ายชื่อก็ลอยมาตรงหน้าพวกเขา“สิ่งนี้เรียกว่าป้ายหยกประจำตัว บนนั้นจะมีแต้มอยู่สองแต้ม สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำมีเพียงอย่างเดียว คือเปลี่ยนแต้มบ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status