Share

ตอนที่ 6 เพื่อนบ้าน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-15 21:56:44

“คนพิการเช่นข้าสามารถทำให้เจ้ามีความสุขได้จริงหรือ” น้ำเสียงราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ของหานลั่วอี้ ไม่ได้ทำให้ความสุขบนใบหน้านางลดลง บุรุษผู้นี้ยังคงกังวลว่าเพราะขาทั้งสองข้างจะทำให้นางลำบาก นางจึงเดินเข้าไปใกล้อีกก้าววางมือลงบนหลังมือแกร่ง

เยว่ฉียังไม่พร้อมจะพูดเรื่องมิติให้สามีฟังตอนนี้ นางต้องการเวลามากกว่านี้ รอให้เขาคุ้นเคยกับนางทั้งยังเชื่อใจกันมากกว่านี้อีกสักนิด ให้ความรู้สึกมากมายก่อเกิดเป็นความยึดมั่นและไว้ใจ เมื่อถึงตอนนั้นนางจะไม่ปิดบังและพูดทุกอย่างออกไป

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เยว่ฉีต้องการจะรู้ว่าหากเขาสัมผัสถึงความผิดปกติบางอย่างจะยังปฏิบัติต่อนางเช่นเดิมหรือไม่

ไม่ใช่ว่าเยว่ฉีขี้ระแวง แต่กลับคนที่พึ่งเจอกันแม้จะรู้สึกว่า คนคนนี้ไว้ใจได้ เขาไม่ใช่คนเลวร้าย อีกทั้งนางยังโชคดีจริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับเขา หากแต่งงานกับคนอื่นเยว่ฉีก็ไม่มั่นใจว่าจะพบโชควาสนาและมีชีวิตจากที่เป็นอยู่หรือไม่ แต่ถึงจะโชคดีแต่ก็ใช่ว่าจะวางใจได้ทั้งหมด เรื่องความเชื่อใจ น้ำใสใจจริงต้องใช้เวลาดูกันอีกยาว

“ข้าพูดความจริง”

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” ในเมื่อนางยืนยันเช่นนั้นเขาก็ไม่เอ่ยย้ำ ทั้งยังไม่ถามว่านางหายไปที่ใด ความไว้ใจจะเกิดขึ้นได้ต้องใช้เวลาและเขาก็หวังว่าพอเวลาผ่านไปนานกว่านี้นางจะยอมบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในวันนี้

เยว่ฉีเดินอ้อมไปด้านหลังรถเข็นต้องการพาหานลั่วอี้เข้าไปในบ้าน ทว่ายังไม่ทันจะได้หันรถกลับไปทางประตูก็ได้ยินเสียงเรียกขานจากหน้าบ้านเสียก่อน

ทั้งสองคนมองหน้ากันนึกสงสัยอยู่ไม่น้อย ก่อนจะตัดสินใจออกไปหน้าบ้านด้วยกันทั้งคู่

หลังบานประตูเปิดออกตรงหน้าทั้งสองคนมีหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรียืนอยู่ ใบหน้าคนแปลกหน้าประดับรอยยิ้ม ดวงตาใสซื่อไร้พิษภัย

“มีอันใดหรือ?” เยว่ฉีเอ่ยถามออกไป ในมือคนทั้งสองมีไข่ไก่และเนื้อสัตว์บรรจุอยู่ในตะกร้าใบเล็ก

“สวัสดีเมื่อวานไม่ได้มาทักทาย ข้ากับภรรยาอาศัยอยู่บ้านหลังข้าง ๆ เห็นว่าบ้านหลังนี้มีคนย้ายมาอยู่ใหม่จึงได้นำของมาเยี่ยมต้อนรับ” บุรุษร่างกายกำยำท่าทางซื่อ ๆ กล่าวพร้อมกับชี้มือบอกว่าบ้านตั้งอยู่ที่ใด คำพูดและสายตาของบุรุษตรงหน้ายามเอ่ยประโยคนี้เต็มไปด้วยความจริงใจไร้การเสแสร้ง พลันทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีต่อคู่สามีภรรยาไม่น้อย

ผู้ถูกเยี่ยมเยียนหลังรู้สึกแปลกใจก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ด้วยเมื่อวานชาวบ้านส่วนมากต่างไม่อยากจะต้อนรับคนทั้งสาม คงจะเห็นว่าครอบครัวนางมีทั้งคนป่วยและคนพิการ ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำเหล่านี้จึงไม่ต้องการยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยว หรือไม่ก็กลัวว่าพวกเขาจะไปสร้างความลำบากให้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้การกระทำของทั้งสองคนจึงทำให้สองสามีภรรยาอดที่จะรู้สึกประหลาดใจและเป็นมิตรอยู่หลายส่วน

ในยามที่คุณลำบากมักจะเห็นน้ำใสใจจริงได้ชัดเจนที่สุดคำพูดนี้ไม่เกินจริง และสองคนนี้ทั้งที่ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ดีมากอันใดแต่กลับยื่นความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อยมาให้

เยว่ฉีจำได้ว่าไข่ไก่สำหรับโลกนี้ราคาไม่ถูกเลยแต่มองดูของในตะกร้าแล้วกลับมีถึงหกฟอง

“ของพวกนี้อาจจะเป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ข้ากับภรรยาตั้งใจนำมาให้”

“รู้จักกันแล้วไม่จำเป็นต้องมากพิธี ข้าชื่อเยว่ฉี ส่วนบุรุษผู้นี้ชื่อหานลั่วอี้ สามีข้า” เยว่ฉียื่นมือไปรับตะกร้าของ กล่าวยิ้ม ๆ อีกฝ่ายคล้ายพึ่งรู้ตัวจึงยิ้มแห้งมาให้

“เสียมารยาทแล้ว ข้าชื่อเฟิงซิ่ว ส่วนสตรีข้างกายชื่อหลัวหรูภรรยาข้า เรียกข้าว่าพี่เฟิงแล้วกันดูแล้วเจ้าและสามีน่าจะอายุน้อยกว่า ส่วนภรรยาข้าพึ่งอายุสิบแปด”

“ยินดีที่ได้รู้จัก งั้นข้าไม่ถือมารยาทขอเรียกท่านว่าพี่เฟิง พี่หลัวแล้ว ข้าอายุสิบหก ส่วนสามีข้าอายุยี่สิบปี”

“เช่นนั้นข้าขอเรียกน้องเยว่ กับน้องหานแล้ว” การพูดคุยแสนสนิทสนมของคนทั้งสี่สร้างประกายความสับสนมึนงงให้คนผ่านไปผ่านมาไม่น้อย มีชาวบ้านหลายคนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจที่สองสามีภรรยามาทำความรู้จักกับครอบครัวหาน ถึงกับมีหลายคนหันมาทางพวกเขาแล้วหันไปกระซิบกระซาบกัน

เยว่ฉีไม่พูดก็ไม่ได้จึงเอ่ยถามออกไป

“พี่เฟิง พี่หลัว อย่าได้เข้าใจผิดว่าข้าคิดเป็นอื่นข้าล้วนดีใจที่พวกท่านเข้ามาทักทายครอบครัวข้า เพียงแต่ข้าสงสัยพวกท่านไม่กลัวว่าชาวบ้านจะมองท่านไม่ดีหรือ?” คำพูดตรงไปตรงมาของนางสร้างรอยยิ้มบนดวงตาคนทั้งคู่ ทั้งสองคนหันไปมองหน้ากันก่อนที่หลัวหรูจะหันมามองเด็กสาวตรงหน้า เอ่ยเสียงอ่อนโยน

“น้องเยว่ ในเมื่อเจ้าสงสัยเช่นนั้นก่อนจะตอบคำถามข้าขอถามเจ้าสองสามประโยค”

“เชิญพี่หลัวกล่าว”

“เจ้าและสามีเคยฆ่าคนโดยไม่สนดีชั่วหรือไม่?”

“ไม่เคย”

“เจ้าและสามีเคยทำเรื่องผิดศีลธรรม ฉุดเด็กและสตรีหรือไม่”

“ล้วนไม่เคย”

“ในเมื่อพวกเจ้าไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำแล้วเหตุใดข้ากับสามีจะเข้ามาทำความคุ้นเคยไม่ได้เลา เป็นเพื่อนบ้านกันสนิทสนมกันไว้ไม่ดีกว่าหรือ? ข้ากับสามีเพียงต้องการทำความรู้จัก อยากจะรู้ว่าคนที่มาอาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ เป็นคนเช่นไร มีนิสัยเช่นไร ฟังจากที่พูดคุยกันไม่กี่ประโยคข้าก็พอจะรู้ว่าพวกเจ้าหาใช่คนชั่วช้า ทั้งยังเปิดเผยไม่น้อย” ประโยคคำพูดของนางสร้างความอบอุ่นใจและความประทับใจให้คนทั้งคู่ไม่น้อย คำพูดของหลัวหรูออกมาจากใจจริง น้ำเสียงหนักแน่นและสายตาซื่อสัตย์ช่วยให้ทั้งสองรู้สึกว่าการย้ายมาอยู่บ้านชวีซานก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด อย่างน้อยก็ได้พบพานเพื่อนบ้านที่จริงใจเช่นนี้

ได้พบกับผู้คนที่ไม่รังเกียจความเป็นอยู่เช่นนี้ของพวกเขา ซึ่งในโลกนี้หาได้ยากยิ่งนัก

“พี่หลัวข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่พวกท่านหยิบยื่นให้ ในวันหน้าหากมีวาสนาได้ดี ข้าล้วนไม่คิดลืมบุญคุณ”

“บุญคุณอันใดกัน ข้านำของมาให้พวกเจ้า ใช่ต้องการการตอบแทน แค่จริงใจต่อกันเป็นพอ” เฟิงซิ่วเอ่ยขัดคำพูดระรื่นหูของเยว่ฉี ในดวงตาของเขามีความเอ็นดูอยู่หลายส่วน เป็นความเอ็นดูแสนบริสุทธิ์ไร้ความรู้สึกอื่นใด

“ใช่แล้วน้องเยว่ อย่างที่สามีข้ากล่าว อย่าได้คิดเป็นบุญคุณ”

“ขอบคุณพี่ทั้งสองอีกครั้ง เช่นนั้นไม่กล่าวเรื่องนี้แล้ว พวกท่านอุตส่าห์มาหาแต่ข้าตอนนี้ไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ ข้าละอายใจแล้ว” เยว่ฉีพูดยิ้ม ๆ ทั้งสองเข้าใจว่านางเพียงหยอกเย้าจึงไม่คิดสิ่งใด หัวเราะเบา ๆ ไปกับคำพูดนั้น

หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็พูดคุยกันอีกหลายประโยค หานลั่วอี้เข้าร่วมการพูดคุยบ้างบางครั้ง แต่ส่วนมากจะมีเพียงครอบครัวตระกูลเฟิงและเยว่ฉีที่พูดคุยมากกว่า จวบจนมาถึงช่วงหนึ่งเยว่ฉีเอ่ยถามว่าพอจะมีงานใดให้นางทำได้บ้าง ทั้งสองจึงมองหน้ากันแล้วเอ่ย

“น้องเยว่ ทุกเช้าข้ากับสามีจะขึ้นเขาไปเก็บพืชวิญญาณมาขาย เช่นนั้นเจ้าก็ไปกับพวกข้า ข้าจะสอนดูพืชวิญญาณให้เจ้า แม้รายได้จะไม่ถึงกับทำให้ร่ำรวยแต่ก็เพียงพอใช้จ่ายในครัวเรือน แต่หากว่าเจ้าโชคดีพบเจอพืชวิญญาณระดับสูง เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นโชควาสนา เพราะพืชวิญญาณระดับสูงมักได้ราคางาม”

“ขอบคุณพี่หลัวสำหรับคำแนะนำ เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว พรุ่งนี้ขอขึ้นเขาไปเก็บพืชวิญญาณพร้อมกับพวกท่าน”

พูดคุยกันไม่นานก็รู้สึกสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาหลายปี หลังพูดคุยจนเวลาล่วงเลยไปหลายเค่อ ทั้งสองก็ขอตัวกลับบ้านไปทำงานส่วนอื่นต่อ เยว่ฉีก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะรั้งคนให้อยู่ต่อจึงกล่าวลากันสองสามประโยคก่อนจะแยกย้าย

คืนนี้เยว่ฉีตั้งใจจะศึกษาหนังสือเล่มน้อยที่นำออกมาด้วย ผู้อาวุโสหมิงบอกกับนางว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับพืชวิญญาณในสวน

ใช่แล้ว สวนหญ้าที่นางเข้าใจในตอนแรกคือสวนพืชวิญญาณซึ่งตอนนี้เยว่ฉียังไม่มีคุณสมบัติในการนำออกมาใช้ ผู้อาวุโสบอกว่ารอให้ร่างกายนางแข็งแรงมากกว่านี้ก่อนค่อยมาตรวจสอบดูว่านางมีคุณสมบัติในการฝึกปราณหรือไม่ หากไม่มีก็ยากที่จะใช้งานมิติได้ดี ต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่เหมาะสมถึงจะสามารถใช้พลังพิเศษได้อย่างเต็มที่

ส่วนน้ำวิเศษที่ได้มาจากบ่อ เรียกว่า น้ำแห่งชีวิต ซึ่งออกมาจากต้นไม้แห่งชีวิตที่ยืนตระหง่านอยู่กลางบ่อน้ำ เยว่ฉีคิดทบทวนว่าจะเริ่มรักษาหานลั่วอี้อย่างไรดี เพราะผู้อาวุโสบอกว่าต้องค่อย ๆ ให้ดื่ม ในเมื่อยังไม่พร้อมจะบอกความลับที่เก็บงำเอาไว้ นางจึงตัดสินใจจะหยดลงไปในอาหารที่ทำ

“พรุ่งนี้จะเริ่มหาเงินแล้วขอให้เก็บพืชวิญญาณได้เยอะ ๆ” เยว่ฉีพึมพำกับตัวเองก่อนจะก้าวขึ้นเตียงมานอนเคียงข้างหานลั่วอี้

หานลั่วอี้ได้ยินคำพูดเบาหวิวของนาง ในนัยน์ตาซึ่งซุกซ่อนอยู่ในความมืดปรากฏคลื่นอารมณ์เล็ก ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 172 ศึกจัดอันดับรอบสอง [2]

    หญิงสาวตรงหน้ายังคงแย้มยิ้ม ทว่าบรรยากาศกดดันกลับทำให้คนทั้งสามไม่กล้าแม้จะขยับตัว พลังจิตแผ่กระจายออกไป ปกคลุมทั่วทั้งร่าง ก่อนจะควบคุมให้เข้าไปโจมตีจิตของอีกฝ่ายยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้กว่าหนึ่งจั้ง คนทั้งสามก็หมดสติล้มลงไปนอนบนพื้นเสียแล้วรอยยิ้มงดงามหดหาย ใบหน้าเผยความรู้สึกเสียดาย หลุบตาลงมองคนทั้งสาม พร้อมเอ่ยออกมาว่า“จบแล้วหรือ?”น้ำเสียงเสียดายถูกเอ่ยออกมา หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนจะหันหลังเดินห่างออกมาตัดสินผู้ชนะบนลานประลอง พร้อมม่านพลังที่จางหายไปทั้งที่เป็นคำพูดและน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ซึ่งความกดดัน แต่กลับสามารถกระตุ้นความรู้สึกของคนที่มองอยู่ด้านบนได้เป็นอย่างดี“สตรีผู้นั้นเป็นใครกัน จัดการได้ยอดเยี่ยมมาก รอยยิ้มของนางทำเอาข้าขนลุกซู่ไปทั้งตัว” อู๋หนิงอันที่มองการแข่งขันอยู่ถึงกับตาแข็งค้าง ไม่คิดว่าสตรีที่ดูไม่มีพิษภัย พอเผยยิ้มร้ายจะทำให้คนตัวแข็งค้าง“ข้าชอบนาง ข้าจะเลือกนางมาเป็นคนของตระกูลข้า !!” อู๋หนิงอันเอ่ยเสียงหนักแน่น ไม่ได้พบเจอสตรีที่มีท่าทีถูกใจนางเช่นนี้มานานแล้ว นางตื่นเต้นจนอยากจะลงไปทักทายเสียตอนนี้“เหอะ คนเช่นนี้ต้องมาที่ตระกูลไท่เท่า

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 171 ศึกจัดอันดับรอบสอง [1]

    เวลาหนึ่งวันไม่ถือว่านาน แต่สำหรับคนที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับนั้น เวลาหนึ่งวันคือช่วงเวลาบีบเคล้นพวกเขาให้หายใจลำบากเมื่อการทดสอบรอบแรกสิ้นสุดลง ในที่สุดพวกเขาก็โห่ร้องออกมาได้เสียที ไม่ใช่โห่ร้องออกมาจากความดีใจเพียงอย่างเดียว แต่โห่ร้องออกมาเพราะความโล่งใจ ที่ในที่สุดก็ผ่านรอบแรกมาได้การแข่งขันรอบสองจะถูกจัดขึ้นวันพรุ่งนี้ ยังพอมีเวลาให้เตรียมตัวศิษย์ทั้งหลายเดินทางออกจากลานประลองแล้ว ศิษย์หลายคนมีสีน่าเศร้าสร้อยเพราะไม่ผ่านการแข่งขันรอบแรก หลายคนเอ่ยปลอบเพื่อนที่รู้จักกันพร้อมบอกว่ายังมีการแข่งขันอีกครั้ง สามารถเข้าร่วมได้เสมอ หรือไม่หากมั่นใจในความสามารถตนเองก็สามารถขอท้าสู้คนที่อยู่ในรายชื่อผู้แข็งแกร่งได้ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เยว่ฉีเพิ่งได้รู้ตั้งแต่เข้ามาในสำนัก นางไม่เคยได้ใช้เวลาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ในสำนักเลย หากไม่เข้าไปฝึกฝนในมิติ ก็เข้าไปฝึกฝนในหุบเขา ขนาดสวนสมุนไพร หรือห้องแรงโน้มถ่วงก็ยังไม่เคยเข้าไปเหยียบเลยสักครั้งหอสมุดยิ่งแล้วใหญ่ อาจารย์บอกว่าในมิติมีหนังสือเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องไปเสียแต้มกับของแบบนั้นนางผู้ได้ชื่อว่าศิษย์ผู้เชื่อฟังจึงไม่เคยเข้าไปในหอสมุดวันที่สอ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 170 ศึกจัดอันดับรอบแรก [4]

    ฝั่งหวานเว่ยก็มีสภาพไม่ต่างกัน นางกระโดดมายืนข้างเสินเทียน ทั้งสองคนหันหลังเข้าหากัน สายตาแน่วแน่ไม่คิดยอมแพ้ ทั้งที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเยว่ฉีผู้นั่งมองเหตุการณ์ยกยิ้มยื่นมือเข้าช่วยเล็กน้อยคงไม่เป็นไรกระมัง ว่าแล้วก็ขยายพลังจิตลงไปด้านล่าง โอบล้อมคนทั้งสิบเอาไว้ อาศัยช่วงที่อีกฝ่ายกำลังได้ใจ โจมตีเข้าไปในจิตให้เสียหลักสองคนที่เหลือมองเห็นความผิดปกติเล็กน้อย อาศัยโอกาสที่เยว่ฉีสร้างให้ โจมตีอีกฝ่ายจนหมดสติ จากนั้นก้มลงเก็บป้ายหยกออกมา“สนุกพอแล้วก็ออกมา” เป็นเสินเทียนที่เอ่ยขึ้น การโจมตีเมื่อสักครู่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเยว่ฉี เพราะคงไม่มีคนใจดีที่ไหนยื่นมือเข้าช่วยคนที่ตนไม่รู้จักเขากวาดตามองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะมองเห็นเยว่ฉีนั่งแกว่งขาไปมาท่าทางสบายใจอยู่บนกิ่งไม้ ข้างกายนางมีหานลั่วอี้ยืนมองอยู่“สนุกมากไหม? ที่เห็นพวกข้ากำลังเสียเปรียบ”“สนุกมาก ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเจ้าข้ายิ่งมีความสุข” นางเอ่ยยิ้ม ๆ กระโดดลงมาจากต้นไม้ แต่ก่อนร่างกายจะถึงพื้นลมสายหนึ่งก็มารองใต้เท้านางรู้ว่าเป็นฝีมือใคร จึงหันไปเอ่ยขอบคุณเสินเทียนมองทั้งสองคนที่สภาพยังดีอยู่ จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พว

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 169 ศึกจัดอันดับรอบแรก [3]

    การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปศิษย์หลายคนถูกคัดออกในเวลาไม่นาน ในขณะที่ศิษย์อีกหลายคนสามารถสะสมแต้มได้ครบ และผ่านเข้ารอบถัดไปสองสามีภรรยาเยว่หานผู้โชคดีได้พบศิษย์เข้ามามอบแต้มให้ถึงมือ ไม่อยากจะเชื่อว่าหลังจากนั้นมาทั้งสองคนจะไม่พบใครอีกเลย“ลั่วอี้พวกเราดวงซวยเกินไปหรือไม่?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในป่า นอกจากสัตว์อสูรที่เข้ามาหาเรื่องเป็นครั้งคราวแล้ว พวกเขาก็ไม่พบศิษย์คนใดอีกเลย ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในหุบเขาแห่งนี้แล้วบุรุษถูกถามผินหน้ามองภรรยา มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย“ภรรยายังมีเวลาอีกมาก”“ข้ารู้ แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในหุบเขา นอกจากสองคู่แรกที่เข้ามาหาเรื่องเอง พวกเรายังไม่พบใครอีกเลย”“บางทีจุดที่พวกเราปรากฏตัวอาจจะห่างไกลจากศิษย์คนอื่น”เยว่ฉีคิดตามแล้วพยักหน้า ถึงอย่างนั้นนางก็ยังสงสัยศิษย์เข้ามาในหุบเขาตั้งมากมาย เหตุใดถึงหาไม่เจอ!!นางอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าเวลาการแข่งขันจะสิ้นสุดลง ไม่แน่บางทีเดินหน้าต่อไปอีกไม่กี่ก้าวพวกเขาอาจจะพบศิษย์คนอื่น ๆคิดได้ด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 168 ศึกจัดอันดับรอบแรก [2]

    “ลั่วอี้พวกเราเรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบหรือไม่?” เยว่ฉียืนนิ่งอยู่ด้านหลังหานลั่วอี้ ใช้พลังจิตตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ชายหนุ่มสกัดการโจมตีที่พุ่งมาจากทุกทิศทาง สีหน้าเรียบเฉย“ภรรยาพวกเขาคงหมายตาเจ้ากระมัง”“ระหว่างการแข่งขันเนี่ยนะ?! เสียสติไปแล้วหรือ” หญิงสาวส่ายหัว เอ่ยเสียงเรียบ“ท่านจัดการได้หรือไม่? ข้ายังไม่อยากเผยความสามารถเท่าใดนัก”“ภรรยาเจ้าสามารถยืนนิ่งปล่อยให้สามีปกป้อง” เยว่ฉีถึงกับหลุดขำให้ประโยคหวานพูดออกมาด้วยหน้านิ่ง ๆ ได้ยังไงกันนะ เป็นบุรุษที่มีความสามารถเสียจริง“เชิญสามีปกป้องข้า” ว่าจบก็หย่อนตัวลงนั่งบนโขดหินที่ยืนเมื่อสักครู่ คนมาล้อมจู่โจมถึงกับงงงวย ทว่าไม่นานพวกเขาก็เข้าใจแม้จะบอกว่านั่งนิ่งให้ปกป้อง แต่ความจริงแล้วเยว่ฉีกำลังนั่งตรวจสอบว่าพวกเขาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ที่ใด จากนั้นส่งที่อยู่ทั้งหมดเข้าไปในหัวหานลั่วอี้เพื่อยืนยันว่าจุดที่ชายหนุ่มสัมผัสได้กับจุดที่นางเห็นตรงกันจากนั้นลมสายหนึ่งก็พุ่งเข้าจู่โจมคนทั้งสี่จนหมดสติในการโจมตีเดียว“ง่ายกว่าที่คิดเสียอีก” หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ปัด ๆ เศษดินออกจากมือ ยื่นมือออกไปรับป้ายหยกที่หานลั่วอี้ใช้พลังยึดมาทั้งสองคนแ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 167 ศึกจัดอันดับรอบแรก [1]

    หลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนักใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาหลังสำนักมานานในที่สุดวันที่พวกเขารอคอยก็มาถึงศึกจัดอันดับเพื่อกลายเป็นหนึ่งในร้อยอันดับผู้แข็งแกร่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบนลานกว้างเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับ ชายหนุ่ม หญิงสาวเลือดร้อนที่ต้องการเข้าชิงหนึ่งในที่นั่งร้อยอันดับแรก ต่างรวมตัวกันอยู่บนลานประลองเหนือพวกเขาขึ้นไปด้านบน อาจารย์อาวุโสพร้อมอาจารย์ท่านอื่น ๆ ต่างยืนเรียงรายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบนที่นั่งพิเศษเช่นเดียวกับตอนแรกนอกจากนั้นยังมีคนจากดินแดนระดับสูงที่กำลังกวาดตามองพวกเขาอยู่สายตาเสาะหาและพิจารณาเหล่านั้นกำลังจับจ้องทุกคนบนลานประลอง“สวัสดีเหล่าเด็กผู้กระหายความแข็งแกร่งในที่สุดศึกจัดอันดับระหว่างศิษย์ด้วยกันเองก็มาถึงแล้ว ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะมีศิษย์เข้าร่วมจำนวนมากจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันเล็กน้อย”อาจารย์อาวุโสลอยออกมากลางลานประลองเหนือศิษย์ทั้งหลาย เขาวาดมือบนอากาศครั้งหนึ่ง ป้ายหยกขนาดเท่ากับป้ายชื่อก็ลอยมาตรงหน้าพวกเขา“สิ่งนี้เรียกว่าป้ายหยกประจำตัว บนนั้นจะมีแต้มอยู่สองแต้ม สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำมีเพียงอย่างเดียว คือเปลี่ยนแต้มบ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status