Share

บทที่ 7 ย่ามหาภัย

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2024-12-19 10:09:51

บทที่ 7 ย่ามหาภัย

“นังเด็กเสียเงินคนนี้ นอกจากสำออยทำเป็นป่วยมาหลายวัน ในที่สุดก็หางโผล่ออกมาแล้วใช่ไหม หายดีแล้วทำไมหล่อนไม่ตามนังเหม่ยฟางไปทำงานที่ทุ่งฮะ! แล้วไหนเมื่อวานยังทำให้เจ้าเว่ยตงไม่ไปช่วยงานจนเสียคะแนนอีก นังเด็กเสียเงิน แกมันคนไร้ประโยชน์จริง ๆ”

“พ่อไปหาข้าวมาให้ฉัน เพราะที่บ้านไม่มีข้าวให้ครอบครัวเรากิน ส่วนแม่ก็ทำงานงก ๆ อยู่ในทุ่งเพื่อให้บ้านมีแต้มแลกข้าวมาเยอะ ๆ แต่เราไม่เคยกินกันจนอิ่มเลย”

“นังเด็กคนนี้ นี่กล้าขึ้นเสียงกับผู้ใหญ่งั้นเหรอ ดี! นังสะใภ้คนนี้เลี้ยงไม่เชื่องอย่างที่ฉันคิดจริง ๆ ถึงขนาดเสี้ยมสอนลูกสาวเลว ๆ แบบนี้ออกมาได้”

นางหวังซื่อโมโหจนตัวสั่นไปหมด ชี้หน้าด่าเว่ยซิ่วอิงจนนิ้วแทบทิ่มตา

“แล้วที่ฉันพูดมันผิดตรงไหน เราทั้งสามคนทำงานงก ๆ เลี้ยงคนทั้งครอบครัว นี่มันมีความยุติธรรมตรงไหนกัน นอกจากนี้พอพ่อไม่ยอมให้ฉันแต่งงานกับคนที่คุณหามา ก็มาว่าเราไร้ประโยชน์ มันก็แค่คุณไม่ได้อย่างใจเท่านั้นแหละ”

“นัง! นังเด็กเสียของ” หวังซื่อไม่คิดว่าจะโดนเด็กรุ่นหลังพูดถอนหงอกตนขนาดนี้ รีบยกมือขึ้นหวังใช้ไม้ทุบเด็กสาวตรงหน้าให้ตาย ๆ ไปเสีย

อย่างไรมันก็ไร้ประโยชน์ พ่อแม่ไม่ยอมให้แต่งงานกับชายม่ายฟง อย่างนั้นเอาไว้ก็ไร้ประโยชน์ ไม่สู้ฟาดให้ตาย ๆ ไปเสียดีกว่า

ไม้ใหญ่เท่าแขนยกขึ้นหวังฟาดลงที่หัวคนเต็ม ๆ 

“อิงอิง!” ขณะนั้นร่างของนางเหม่ยฟางก็วิ่งโผมาจากอีกฝั่งกอดบุตรสาวหลบไม้มาได้อย่างฉิวเฉียด

“ช่วยกันดีนักใช่ไหมนังตัวดี ดูซิลูกสาวตัวดีของหล่อนสั่งสอนมายังไงถึงกล้าขึ้นเสียงกับผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านอย่างนี้” นางหวังซื่อเห็นอย่างนั้นก็เคาะไม้กับพื้นสองสามครั้งอย่างข่มขู่

หากเป็นไปได้ก็ไม่ได้อยากทุบตีคน มันขาดงานไปสองสามวันกลัวว่าจะรอบหน้าจะได้เงินน้อย

“ก็ถ้าผู้เฒ่าผู้แก่มันน่าเคารพ เด็กก็ต้องเคารพอยู่แล้ว แต่นี่อะไรวัน ๆ เอาแต่ตีแต่ด่า แต่ไม่เคยให้ความยุติธรรม ไม่เคยที่จะมีเมตตาต่อพวกเราบ้างเลย แล้วจะให้เอาอะไรไปนับถือ”

นางเหม่ยฟางที่กำลังจะหันไปขอโทษแม่สามี ได้ยินบุตรสาวตะโกนด่าย่าตัวเองปาว ๆ ก็ตกใจจนหัวใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม รีบหันไปมองลูกสาวอย่างไม่อยากเชื่อ

“อิงอิง!” ว่าแล้วมือบางก็ฟาดลงที่แขนบุตรสาว

“ใครสั่งใครสอนให้พูดกับผู้ใหญ่แบบนั้น เด็กคนนี้ไม่ตีสักครั้งไม่ได้เลยใช่ไหม แม่ฉันตีอิงอิงแล้ว ยกโทษให้เด็กมันด้วยนะคะ อย่าทำอะไรหลานอีกเลย ฉันจะสั่งสอนลูกดี ๆ ครั้งนี้ยกโทษให้อิงอิงเถอะนะคะ”

นางเหม่ยฟางตัวสั่นงันงก มองแม่สามีที่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงเป็นตับหมูด้วยหัวใจที่ค้างเติ่ง มองไม้ในมือด้วยเหงื่อไหลซ่ก กลัวว่าแม่สามีจะบันดาลโทสะ

“นี่…นี่…” จิงจิงที่เงียบไปพยายามสะบัดตัวออกจากมารดา เพราะตกใจมากที่ตัวเองรู้สึกเจ็บ

เธอลืมคิดเรื่องนี้ไปได้อย่างไร มีวิธีทดสอบว่าฝันหรือไม่ฝันอยู่นั่นคือความเจ็บปวด เพราะในฝันแม้จะหลั่งสารอะไรออกมาเราก็ไม่เจ็บปวด อย่างมากก็เพียงชาบ้างเท่านั้น

“เฮอะ นังเด็กนี่มันสำนึกซะที่ไหน ดูมันทำหน้าทำตาเข้า อย่างกับเห็นผี มันจะสำนึกว่าฉันเป็นย่าของมันที่ไหนกัน อย่างนี้มันต้องตีให้รู้จักเข็ดหลาบ ลูกสะใภ้รองไปจับนังเหม่ยฟางเอาไว้!”

ว่าแล้วคุณย่าเว่ยก็สั่งให้ลูกสะใภ้รองที่ยืนดูความสนุกอยู่ไม่ไกลให้จับเหม่ยฟางออกจากทาง

“แม่ แม่อย่าทำอะไรอิงอิงเลยนะคะ อิงอิงเพิ่งหายไข้ เลยยังฟั่นเฟือนไปบ้าง”

“มันสำออยเพื่อไม่ต้องไปทำงานมากกว่า เมื่อกี้ยังมีแรงเถียงกับฉันอยู่เลย” หวังซื่อว่าแล้วก็เริ่มยกไม้ขึ้นตีไปยังเด็กสาว

“แกหายแล้วก็ออกไปทำงานซะ นังเด็กไร้ประโยชน์ นังตัวดี กล้าด่าฉันเรอะ ฉันเป็นย่าของแก ขนาดพ่อแกยังเคารพฉัน แล้วแกมันเป็นใครกล้าดียังไงถึงด่าฉันฉอด ๆ ๆ”

“โอ๊ย!!” จิงจิงที่ตกใจพยายามขยับหนีแต่เท้าพันกันจนสะดุดล้ม

เมื่อกี้โดนแม่ฟาดแขนเบา ๆ ก็แล้วไปเถอะ ยังถกแขนเสื้อก้มลงมองว่ามีรอยแดงขึ้นอยู่เลย แต่ตอนนี้เมื่อเจอไม้ฟาดหลังดังปั้ก ๆ มีหรือจะทนไหว

“โอ๊ย เจ็บ ฉันเจ็บ”

“อิงอิง ๆ อย่าตีลูก อย่าตีหลานเลยค่ะแม่ ฮือ~”

เสียงเอะอะโวยวาย ทำให้ได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน

ในที่สุดเว่ยตงก็กลับมาจากหาผักป่า พลันได้ยินเสียงกรีดร้องของภรรยารวมกับเสียงก่นด่าของมารดาตน ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทิ้งตะกร้าในมือจนผักป่าหล่นกระจาย รีบวิ่งกลับไปที่ห้องเล็กของตนทันที

“แม่ แม่หยุดนะครับ” เว่ยตงรีบเอาตัวเข้าไปรับไม้แทนลูกสาว กอดหล่อนไว้ในอก

เห็นเลือดไหลออกมาจากหน้าผากของลูกสาวแล้วได้แต่ปวดใจ เมื่อก้มลงมองก็พบว่าลูกสาวตนก็กำลังก้มมองท่อนแขน

ทันใดนั้นเว่ยตงก็ชะงักไป เขาไม่ได้สนใจแรงตีจากมารดาที่ด้านหลังอีก เห็นเพียงท่อนแขนบอบบางของเด็กสาวซึ่งเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำเป็นทางยาวบ้าง เป็นจ้ำบ้าง มีทั้งรอยเก่ารอยใหม่

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เสียงดังดั่งกัมปนาทดังขึ้นจากเฒ่าเว่ยผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว พร้อมกับลูกชายคนรอง หลานชาย และหลานสาวจากห้องรองเดินออกมาจากภายในตัวบ้าน

เว่ยตงดวงตาแดงก่ำมองไปทางบิดาของตน ตอนนี้เขาสับสนมากจริง ๆ สับสนจนพูดไม่ออก

“ก็นังเด็กนี่มันไม่ยอมไปทำงาน แล้วพ่อแม่มันยังแอบเอาข้าวไปให้กินอีก บ้านเราเลี้ยงคนไร้ประโยชน์ได้ที่ไหนกัน ไหนจะค่าเรียนของหยางเอ๋อร์ จุนเอ๋อร์”

“ซิ่วอิงยังไม่หายป่วย อย่าเพิ่งให้ไปทำงานเลยนะคะ” นางเหม่ยฟางกรีดร้องออกมา แม้ถูกสะใภ้คนรองจับตัวเอาไว้ก็ตาม พยายามขอความเห็นใจจากพ่อสามี รู้ดีว่ามีเพียงเขาที่พูดแล้วแม่สามีจึงจะยอมหยุด

“นี่มันอะไรเว่ยตง”

“พ่อ อาซิ่วอิงป่วยจนเกือบตายไปรอบหนึ่ง เมื่อวานเพิ่งฟื้นมา วันนี้ยังไม่ดีขึ้น ผมขอให้ลูกได้พักจนกว่าจะหายดีได้ไหมครับ”

“เฮอะ ก็แค่มันสำออย แกก็เชื่อมันไปหมดแล้ว มันก็สำออยเหมือนแม่มันนั่นแหละ ทำอะไรนิดหน่อยก็ไม่ได้เลย” หวังซื่ออดไม่ได้ที่จะสอดแทรก

“พ่อครับ พ่อก็เห็นสภาพ…ลูกผมแล้ว” เว่ยตงนำตัวบุตรสาวออกมายืนตรงหน้า ดูเหมือนซิ่วอิงจะตกใจมากและไม่เงยหน้าขึ้นมาอีกเลย

นี่ทำให้เฒ่าเว่ยรู้สึกสงสารเด็กสาวนิดหน่อย อย่างไรหน้ามือหลังมือก็เป็นเลือดเนื้อตัวเอง ยิ่งเห็นเด็กสาวที่ว่าง่ายนิสัยดี ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ตอนนี้กลับมีเลือดไหลที่หน้าผากก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้

“เลิกตีซิ่วอิงเถอะ ยิ่งตีคนก็ยิ่งป่วยหนักกว่าเดิม จะให้ลุกไปทำงานยังไงไหว”

ยิ่งมองท่อนแขนที่มีรอยช้ำทั้งเก่าและใหม่ ก็รู้สึกเหมือนตนตามใจภรรยามากเกินไปจริง ๆ จึงอดพูดขึ้นมาสักคำสองคำไม่ได้

“แต่นี่มันหลายวันแล้ว นอกจากนี้ยังทำให้ลูกใหญ่ที่ไม่เคยทำอะไรไม่ดี ถึงขนาดมาลักเล็กขโมยน้อยอีก นี่มันไม่ทำให้ครอบครัวเราวุ่นวายกว่าเดิมเหรอคะ” หวังซื่อเอ่ยปากพูดกับสามี

อยู่ด้วยกันมาหลายปีย่อมรู้ดีว่าเขาห่วงอะไรที่สุด จึงรีบพูดแทรกก่อนที่เว่ยตงจะได้อ้าปากพูดมากไปกว่านี้

“นอกจากนี้ตอนนี้ฉันยังเป็นห่วงเรื่องสินสอดของอาหยาง บ้านมีค่าใช้จ่ายเยอะแยะพอแล้ว ตอนนี้ทุกคนมีหน้าที่ตัวเอง มีแค่เด็ก…เว่ยซิ่วอิงที่ไม่ทำอะไรเลย ฉันก็แค่อยากจะช่วยหลานชายคนโตของเราเท่านั้นเอง”

และแน่นอนว่าจี้ถูกจุด เมื่อเว่ยถงผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวคิดถึงหลานชายคนโตที่จะมาสืบทอดธูปของตน ก็พลันรู้สึกเอนเอียงไปข้างนั้นอีกรอบ

“ในเมื่อทำอะไรก็ไม่ได้ อยู่บ้านก็กินเปล่า ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่สู้ให้รีบ ๆ แต่งงานออกไปไม่ดีกว่าเหรอ”

“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยพูดเถอะ” แม้จะเอนเอียง แต่สิ่งที่เคยรับปากกับลูกชายคนโตไว้ก็ไม่กล้าผิดสัญญา เพราะแค่ตอนนี้ก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว

“นี่…” นางหวังซื่อต้องการจะคัดค้าน

“เอาตามนั้น เว่ยตง เหม่ยฟาง พาลูกเข้าไปพัก เอาเป็นให้พักอีกสองสามวันแล้วค่อยไปทำงานเถอะ”

“ขอบคุณครับคุณพ่อ”

“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”

ทั้งสองรีบขอบคุณเว่ยถงทันทีก่อนพาลูกสาวหนีเข้าห้องไป

“ดู๊ดู…ดูนังเด็กคนนี้ไม่มีมารยาทจะเอ่ยปากขอบคุณปู่สักหน่อยก็ไม่ได้” เสียงนางเว่ยดังตามหลังมา

ขณะที่เว่ยจิงจิงตอนนี้กลับสับสนอย่างมากจนพูดไม่ออก ราวกับถูกกดปุ่มหยุดเอาไว้ชั่วคราว ทั้งร่างแข็งทื่อทำได้เพียงขยับตามแรงบังคับของบิดามารดาเท่านั้น

“นี่มัน…ไม่ใช่ความฝันเหรอเนี่ย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 4 ตลอดไป

    ตอนพิเศษ 4 ตลอดไปชีวิตของซิ่วอิงตอนนี้มีความสุขมาก ความจริงเธอก็มีความสุขตลอดมาอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดว่ามีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังอาศัยอยู่ภายในร่างกายตัวเองและเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน มันเป็นความสุขที่แตกต่างออกไปจริง ๆ“อีกสิบวันก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะลูก” หญิงสาวใช้มือลูบหน้าท้องที่ใหญ่ไม่ต่างจากลูกแตงโมของตนเอง นี่ก็ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ทำให้เมื่อสามีออกไปทำงาน หลันถังกับเหม่ยฟางผู้เป็นแม่ก็จะแบ่งเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเสมอถึงตอนนี้หลันเซียงฮั่นจะย้ายมาประจำการอยู่ใกล้ ๆ แต่เขายังคงต้องเดินทางไปทำงานต่างเมืองเมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ และคราวนี้ก็เช่นกันในตอนแรกเซียงฮั่นไม่คิดจากภรรยาไปจนกว่าเธอจะคลอดลูกและปลอดภัย เขากลัวว่าซิ่วอิงจะหวาดกลัวหากตนเองไม่ได้อยู่เคียงข้างตอนคลอดลูก จึงคิดปฏิเสธภารกิจในครั้งนี้และขอลาหยุดสักเดือนแต่เป็นซิ่วอิงที่คะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มไปทำงานเพราะเหลือเวลาอีกสองอาทิตย์ก่อนถึงกำหนดคลอด อย่างไรเขาก็กลับมาทันอยู่แล้วเธอจึงนั่งอยู่ในสวนสวยเฝ้ามองหน้าประตูเป็นระยะด้วยใจคิดถึงสามีบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกคิดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเล่นเสียมากกว่า ไม่ได้อยู่บ้า

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว

    ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว“อิงอิง ลุกมากินของอร่อยเถอะลูก วันนี้แม่ของอิงอิงเอาอาหารอร่อยมาฝากแม่ไว้ตั้งเยอะ”“อิงอิงยังเพลีย ๆ อยู่เลยค่ะ สงสัยเพราะช่วงนี้ทำงานหนักเกินไป ขอนอนอีกหน่อยนะคะแม่” ซิ่วอิงบอกกับแม่สามีเนื่องจากสองบ้านปรองดองกันดีมาก ซิ่วอิงใช้เงินเพื่อซื้อบ้านที่อยู่ตรงข้ามให้กับพ่อแม่ ขณะที่ตนเองเลือกจะมาอยู่บ้านแม่สามีเวลาที่คุณพ่อสามีและหลันเซียงฮั่นที่เป็นสามีไปทำงานต่างจังหวัดพร้อมกันโดยมีบ้านของตัวเองที่ใช้อยู่กับสามีต่างหากอีกหลังหนึ่ง และใช้อยู่เมื่อสามีกลับมาหาเท่านั้น แต่ปกติแล้วซิ่วอิงจะสลับไปมาระหว่างบ้านพ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่สามีเสียมากกว่าตอนนี้เธอก็มาอยู่บ้านหลัน เพราะทั้งคุณพ่อและสามีล้วนออกไปทำงาน ส่วนเซียงฮั่นนั้นจะกลับมาในวันพรุ่งนี้“อิงอิงไม่ต้องทนนะ ไปหาหมอเลยดีกว่า บ้านเราขาดเงินทองซะที่ไหนกัน หรือแม่ซื้อโรงพยาบาลไว้ให้ก็ได้” หลันถังยังคงใจป้ำเหมือนเดิม เมื่อได้ลูกสะใภ้คนนี้มาชีวิตเธอก็มีความสุขขึ้น จนรู้สึกรักเอ็นดูซิ่วอิงเหมือนเป็นลูกของตัวเองไปอีกคน เผลอ ๆ รักมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ อิงอิงไปหาหมอเฉย ๆ ดีกว่า” ซิ่วอิงยิ้มแหยให้

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดี

    ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดีแม้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี แต่อย่างไรในชีวิตก็ต้องมีบางสิ่งมากระทบกระทั่ง สุดท้ายแล้วซิ่วอิงและครอบครัวก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ช่วงนี้ซิ่วอิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หลังสามีกลับมาจากทำงานครั้งล่าสุด เธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดมาเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เขาจะเบื่อเธอและหาเรื่องเข้าบ้านแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?มีหรือหลันเซียงฮั่นจะไม่รู้ว่าภรรยามีความกังวลอะไรบางอย่างในใจ เขาหันมองไปรอบตัวก่อนจะจับลูกน้องที่มีภรรยาแล้วมาสอบถาม“ภรรยาฉันเป็นอะไรไป” เซียงฮั่นเป็นผู้บัญชาการที่เก่งกาจ เขายังดูแลเอาใจใส่ภรรยาจนลูกน้องแอบเรียกลับหลังว่าสามีแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาชายหนุ่มก็ยังเป็นเพียงคนที่เพิ่งเคยมีความรัก“คุณผู้หญิงมีท่าทางยังไงครับ”“ช่วงนี้ไม่ค่อยให้ฉันเข้าใกล้ เวลานอนก็หันหลังให้” เซียงฮั่นนึกถึงท่าทางของภรรยาแล้วก็ปวดใจ เขาไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า แต่พอถามแล้วเธอก็บอกว่าเปล่าและฝืนยิ้ม เก็บเรื่องราวไว้ในใจคนเดียว คิดว่าเขามองไม่เห็นอย่างนั้นเหรอ“ถ้าอย่างนั้นนายท่านไปทำอะไรมาหรือเปล่าครับ” ทหารคนสนิทมองหน้าเจ้านายอายุน

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 1  ชีวิตที่ใฝ่หามานาน

    ตอนพิเศษ 1 ชีวิตที่ใฝ่หามานานตอนนี้ชีวิตใหม่ของเว่ยซิ่วอิงลงตัวอย่างมาก ได้ก่อตั้งธุรกิจในยุคแรกเริ่ม อนาคตมีแต่จะรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ แม้ไม่ต้องพึ่งพามิติร้านเครื่องสำอางก็ตามนอกจากนี้ยังมีสามีคอยเอาอกเอาใจ แม่สามีแสนดีที่ไม่มีการกดขี่ลูกสะใภ้เลยสักนิด ครอบครัวของเธอก็คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอซิ่วอิงคิดว่าแค่นี้เธอก็ประสบความสำเร็จมากแล้วในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ลำพังเกิดมามีแม่สามีดีอย่างหลันถัง ก็คงมีคนสงสัยว่าเธอทำบุญกู้ชาติมาในชาติก่อนแน่ ๆ ถึงได้มีชีวิตที่ดีขนาดนี้แค่ถึงอย่างไรคนเก่งก็มีปัญหาของคนเก่ง เพราะสามีต้องไปทำงานต่างเมืองบ่อย ๆ เธอเลยใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับงานในร้านกระทั่งสามีกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ยังวุ่นวายอยู่กับร้านค้าโชคดีที่เซียงฮั่นเข้าใจแล้วยังสนับสนุนภรรยาให้ทำตามใจปรารถนาได้เต็มที่ เมื่อเขาได้พักเพิ่มสักหนึ่งหรือสองวัน ก็มักจะพาซิ่วอิงไปที่ร้านเสมอเพื่อเอาอกเอาใจหากพาไปร้านอาหารแบบคนหนุ่มสาวก็แล้วไป เขากลับพาเธอเข้าร้านตัวเองเพื่อให้หญิงสาวหาเงินที่เธอชอบนักหนา และแน่นอนว่าซิ่วอิงชอบการแสดงความรักของสามีแบบนี้มากกว่า“มีอะไรหรือเปล่า” ขณะที่นั่งก

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทส่งท้าย  คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต

    บทส่งท้าย คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตรถยนต์สีดำขับไปตามทางที่คุ้นเคยไม่นานก็มาถึงกำแพงบ้านหลัน ทหารเฝ้ายามเปิดประตูต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อรถจอดเทียบขาเรียวก็ก้าวออกมา“อิงอิง มาแล้วเหรอจ๊ะ” ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้คือป้าหลัน พร้อมทั้งเหม่ยฟางผู้เป็นมารดาของตนเอง ซิ่วอิงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไรเพียงยื่นมือไปหาพวกท่านอย่างเป็นธรรมชาติ“ป้าหลันสบายดีไหมคะ วันนี้แอบเข้าครัวกับแม่อีกแล้วหรือเปล่า” ซิ่วอิงสนอกสนใจดูมือของผู้ใหญ่ตรงหน้า ขณะที่ท่านจับจูงเธอเดินทะลุตัวบ้านไปยังสวนด้านหลัง“ป้าเข้าครัวไปก็รกครัวเปล่า ๆ ไม่เข้าไปรบกวนเหม่ยฟางหรอกนะ”“อิงอิงลูกเงยหน้าขึ้นก่อน” เสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ดังขึ้น เมื่อรู้ตัวซิ่วอิงก็มาอยู่ในสวนหลังบ้านของสกุลหลันแล้วหญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอคิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและติดต่อกันทางโทรศัพท์ไม่กี่นาทีต่อเดือนเท่านั้นตอนนี้เขายังสวมชุดทหารเต็มยศ ในมือมีช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ล้อมรอบไปด้วยแสงเทียนและซุ้มดอกไม้ที่ถูกตั้งใจตกแต่งเอาไว้อย่างดีจนทั่วทั้งสวน“พี่เซียงฮั่น” ซิ่วอิงยิ้มออกมาด้วย

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว

    บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว“แม่คะ เราไป…” ก่อนที่คุณหนูลู่จะพูดจบ มารดาของหล่อนก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปในวงสนทนาที่เว่ยซิ่วอิงอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้คุณหนูลู่พึงพอใจที่ไม่ต้องทำอะไรเอง“นี่มันแม่ค้าขายเครื่องสำอางนี่นา มาตรฐานงานเลี้ยงของกองทัพตกต่ำลงถึงขนาดเชิญพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนมาร่วมงานแล้วอย่างนั้นเหรอเนี่ย” คุณนายลู่ไม่พอใจเว่ยซิ่วอิงอยู่แล้วจากงานเลี้ยงน้ำชาที่บ้านของคุณนายหลัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังไปได้ดีก็รู้สึกว่าต้องเข้ามาทำลายและลากคนคนนี้ลงมาให้ได้“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่” เว่ยซิ่วอิงไม่ดิ้นเต้นไปตามอารมณ์ของคน เธอทักทายอีกฝ่ายด้วยความเคารพและมีมารยาทเพียงเท่านี้สายตาที่ทุกคนมองมาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็มองซิ่วอิงอย่างชื่นชม ขณะที่มองคุณนายลู่เหมือนนางร้ายเกรดต่ำคนหนึ่ง“โอ้ นี่ใครกัน ไม่ใช่คุณชายหลันเซียงฮั่นลูกรักของคุณนายหลันถังหรอกเหรอคะ”“สวัสดี คุณนายลู่” เซียงฮั่นจำต้องทักทายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก เขารู้ว่าใครไม่ถูกกับมารดา และต้องหลีกหนีเสมอเมื่อเข้าสังคม แต่คราวนี้ดูเหมือนคนข้างกายจะไม่ยอมหลีกหนีง่าย ๆ ชายหนุ่มทำได้เพียงยืนปักหลักและเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status