Share

บทที่ 224

Author: ลิ่วเยว่
ครึ่งคืน

ฮุ่ยอวิ่นถีบประตูห้องของจ่านเหยียนแล้วหิ้วนางขึ้นมา

“เร็ว ฉิงเทียนเริ่มทรมานอีกแล้ว!” ฮุ่ยอวิ่นร้อนใจจนเสียงเปลี่ยน “สองวันก่อนไม่ทรมาน วันนี้เกิดอันใดขึ้น?”

จ่านเหยียนขยี้ตา ถูกต้อง ดอกบัวมีขีดจำกัดในการระงับความทรมานได้เพียงสองวัน ยามนี้เลยกำหนดแล้ว

“เตรียมน้ำร้อนหนึ่งกา!” จ่านเหยียนคว้าเสื้อผ้าตัวหนึ่งมาคลุมร่างแล้วเดินออกไปข้างนอก

ในตอนที่มู่หรงฉิงเทียนเริ่มทรมานก็ให้ฮุ่ยอวิ่นมัดเขาติดกับเตียง แรกเริ่มเขายังทนได้ แต่อย่างช้า ๆ ในตอนที่ความทรมานจากมือเท้าและกระดูกทั่วสรรพางค์กายแผ่ซ่าน เขายังอดกัดริมฝีปากไม่ได้

ในตอนที่จ่านเหยียนเห็นเขา ปากเขามีแต่เลือด อาซิ่นใช้ผ้าอะไรก็ไม่รู้อุดปากของเขาเอาไว้

ฮุ่ยอวิ่นถือกาน้ำร้อนเดินเข้ามาและถามจ่านเหยียน “ทำอย่างไรดี?”

จ่านเหยียนเทน้ำร้อนลงในถ้วย จากนั้นก็ใส่ยาเม็ดหนึ่งลงในนั้น “ป้อนให้เขากินลงไป”

“นี่คือสิ่งใด?” ฮุ่ยอวิ่นถาม

“ยาระงับปวด” จ่านเหยียนไม่ได้บอกเขาว่านี่คือยันต์โอสถสะกดความเจ็บปวดเฉพาะของนาง ใช้วัตถุดิบยาเป็นกระสายร่วมกับยันต์

ยันต์โอสถสะกดความเจ็บปวดเริ่มละลายอยู่ในน้ำร้อนช้า ๆ น้ำร้อนเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต ฮุ่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 225

    เขาตกใจหันมามองจ่านเหยียนอย่างระแวง จ่านเหยียนหน้าซีดแล้ว นางเอามือกดบั้นเอว เลือดไหลย้อยลงมาตามตัวนางนองเต็มพื้น ร่างกายซวนเซจะล้มอาเสอปัดมือของฮุ่ยอวิ่น และเอ่ยด้วยโทสะ “พูดอะไรน่ะ? หลีกไปนะ ข้าจะฆ่าไอ้นักพรตชั่วนี่!”ฟางจี้จื่อหัวเราะเสียงเย็น หยิบกระดิ่งสีทองใบหนึ่งมาจากข้างหลัง จังหวะที่อาเสอเห็นพลันใบหน้าถอดสี “กระดิ่งสยบฟ้า?”“ถือว่าเจ้าตาแหลม!” ฟางจี้จื่อแค่นเสียงหัวเราะ “คราวนี้ดูสิว่าพวกเจ้าจะหนีไปไหนได้?”“ท่านนักพรต นี่เกิดอะไรขึ้น?” ฮุ่ยอวิ่นถามฟางจี้จื่ออธิบาย “ความจริงแล้วหลงอู่ก็คือหลงจ่านเหยียน หรือก็คือหมู่โฮ่วฮองไทเฮาองค์ปัจจุบัน นางเป็นปีศาจ ก่อนหน้านี้ที่ยืมวิญญาณมังกรก็เพื่อต่อกรกับนาง ใครจะคิดว่าวิญญาณมังกรจะถูกหลงจ่านเหยียนทำลาย เห็นได้ว่าวิชามารของนางร้ายกาจมาก ข้ารู้ว่านางไม่ระวังเทพโอสถ ดังนั้นจึงให้เทพโอสถทำร้ายนางแบบไม่ทันตั้งตัว เช่นนี้ข้าก็จะสยบนางได้”กล่าวจบก็สั่นกระดิ่งสยบฟ้าในมือ พลางท่อนคาถาในปาก เมื่อเสียงกระดิ่งสยบฟ้าดังขึ้น ราวกับเสียงมารอย่างไรอย่างนั้น กรอกเข้าโสตอาเสอ อาเสอเอามือปิดหู อวัยวะภายในทรมานดังถูกกระแทกแหลกลาญ นางกรีดร้องอย่าง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 226

    ทว่า... รัศมีแสงแต่ละวงจากกระดิ่งสยบฟ้ากระแทกไปทางจ่านเหยียน จ่านเหยียนกลับยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น ความทรมานไม่ปรากฏบนใบหน้านางสักนิดครั้นแล้วนางก็ค่อย ๆ ชูคทามังกรขึ้น เมื่อโบก กระดิ่งสยบฟ้าถูกคทามังกรปัดตกลงพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ หลายชิ้นทันที และพอหลงจ่านเหยียนสะบัดแขนเสื้ออีกที เศษชิ้นส่วนกระดิ่งสยบฟ้าก็ลอยขึ้นและสลายตัวเป็นผงกลางอากาศฟางจี้จื่อตกตะลึงพรึงเพริด เบิกตาโพลงมองคทามังกรในมือนางอย่างเหลือเชื่อ เขาเคยคิดว่านางจะต่อต้าน และเตรียมต่อสู้กับนางหลายร้อยยก แต่... เขาไม่เคยคิดเด็ดขาด กระดิ่งสยบฟ้ากลับสลายเป็นผุยผงเหมือนวิญญาณมังกรด้วยหนึ่งกระบวนท่าของนางนี่คือสิ่งที่เขาไม่มีทางคาดถึง“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฟางจี้จื่ออ้าปากกว้าง ถามอย่างอึ้งจังงัง ความครั่นคร้ามอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ความครั่นคร้ามเช่นนี้เคยเกิดขึ้นตอนอยู่ในจวนตระกูลหลง นั่นก็คือตอนที่นางทำลายวิญญาณมังกรแต่... เขายืนกรานว่านี่เป็นเพราะนางคือปีศาจซึ่งมีตบะแก่กล้า ดังนั้นเขาจึงอัญเชิญกระดิ่งสยบฟ้า“ข้าเคยบอกแล้ว” จ่านเหยียนเอื้อนเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ “หากเจ้ามองไม่ออกว่าข้าคือใคร นั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 227

    อาเสอกระซิบข้างหูจ่านเหยียน “คุณหนูใหญ่ ตอนนี้กระดิ่งสยบฟ้าส่งเสียงแล้ว กลัวแต่จะมีมารปีศาจไม่น้อยมาเมืองหลวงอย่างต่อเนื่อง ท่านแน่ใจนะว่าจะเหนื่อยตายเอง?”อาเสอเตือนจ่านเหยียน ทันทีที่กระดิ่งสยบฟ้าส่งเสียงปลุกปีศาจที่ถูกสะกด ถึงตอนนั้นหากนางรับมืออยู่คนเดียว นั่นจะเหน็ดเหนื่อยตายได้จริง ๆ โดยเฉพาะเวลานี้นางยังบาดเจ็บนางดึงมือกลับมาฉับพลัน พายุหมุนฝุ่นละอองสลายไปต่อหน้าฟางจี้จื่อ ทันใดนั้นฟางจี้จื่อทรุดตัวลงกับพื้น สองตาเหลือกมองฟ้า ร่างกายกระตุกไม่หยุดเทพโอสถรีบเข้าไปรักษาเขาเหลียนถังเห็นอาเสอพยุงฮุ่ยอวิ่นขึ้นมา นึกว่านางจะทำร้ายฮุ่ยอวิ่น จึงรุดหน้าไปด้วยความร้อนใจ “เจ้าจะทำอะไร?”อาเสอตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ามาพยุงพาเขาไปพักผ่อน พื้นเย็นเช่นนี้ เขานอนนาน ๆ มิต้องล้มป่วยหรือ? ข้าหวังดีมากนะ”อาเสอส่งฮุ่ยอวิ่นให้เหลียนถัง แต่เหลียนถังเป็นสตรีอ่อนแอคนหนึ่ง จะพยุงฮุ่ยอวิ่นที่ไม่ได้สติไหวอย่างไร ทั้งสองจึงล้มลงกับพื้นด้วยกันเหลียนถังใบหน้าแดงซ่าน ผลักฮุ่ยอวิ่นบนร่างตัวเอง จากนั้นจึงทอดสายตาขอความช่วยเหลือกับอาเสออาเสอฉีกยิ้มแล้วเข้าไปดึงฮุ่ยอวิ่นขึ้น พยุงเขาเดินออกไปข้างนอก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 228

    ฟางจี้จื่อเนื้อตัวอ่อนแรง เขาย่อมรู้ว่าที่จ่านเหยียนกล่าวมาคือความจริง บรรพจารย์ก็เคยกล่าวเช่นนั้น หากไม่วิกฤตจริง ๆ ห้ามแตะต้องกระดิ่งสยบฟ้าเด็ดขาด“จะบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าคือใครกันแน่?” ฟางจี้จื่อเงยหน้าถามจ่านเหยียนโยนคทามังกรในมือออกไป “เก็บขึ้นมา มันจะบอกเจ้า!”ฟางจี้จื่อมองคทามังกรที่นอนอยู่บนพื้น นี่คือคทาหยกยาวที่ดูไม่มีอะไรพิเศษด้ามหนึ่ง บนนั้นแกะสลักอักขระสวัสติกะ เขายื่นมือออกไป ยังไม่ทันสัมผัสคทามังกรก็รู้สึกฝ่ามือเย็นเฉียบแล้วเขาข่มใจ ครั้นมือหนึ่งกำไปก็มีกระแสไฟแล่นผ่านฝ่ามือไปยังมือเท้าและกระดูกทั่วสรรพางค์กายทันที กระแสไฟทะลวงความสับสนทั้งมวลของเขา สติสัมปชัญญะแจ่มชัดอย่างหาที่เปรียบมิได้ทันใดเขาปล่อยคทามังกรแล้วหัวเราะอย่างเศร้าสร้อย คุกเข่าลงกับพื้น “ข้ามีตามิรู้เขาไท่ซัน ท่านเซียนโปรดประทานความตายให้ด้วย!”จ่านเหยียนเอ่ยเรียบ “ข้าจะฆ่าเจ้าไปทำไม? กรรมที่เจ้าก่อขึ้น ต้องไปจัดการความวุ่นวายด้วยตัวเอง”ฟางจี้จื่อเข้าใจว่านางหมายถึงอะไร จึงเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าจะสะกดมารปีศาจทั้งหมดอีกครั้งอย่างสุดความสามารถ”“พาลูกศิษย์ของเจ้าไสหัวไปเถอะ!” จ่านเหยียนเอ่ยอย่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 229

    “ไปกันเถอะ หลวงจีนน้อย เจ้าออกจวนไปกับศิษย์เจ้าก่อน ข้าจะไปบอกท่านอ๋องสักคำ!” จ่านเหยียนรู้สึกอ่อนล้านัก เพิ่งอยู่สบายได้แค่ไม่กี่วันก็ต้องใช้แรงงานอีกแล้ว“ได้ น้อมส่งท่านเซียน!” พระอาจารย์เป่ากวงขานรับจ่านเหยียนไปยังเรือนของมู่หรงฉิงเทียน มู่หรงฉิงเทียนยังไม่ฟื้นจ่านเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงยลโฉมหลับใหล จำต้องยอมรับ แม้พูดไม่ได้ว่าเค้าโครงหน้าของเขาสมบูรณ์แบบ กลับน่าดึงดูดอย่างยิ่งโดยเฉพาะยามหลับใหล ประกายในดวงตาถูกเก็บซ่อนเอาไว้ เส้นสายดวงหน้าอ่อนโยน ท่าทางไร้พิษภัย“อยากบอกลากับท่านสักหน่อย แต่ในเมื่อท่านไม่ตื่น เช่นนั้นข้าก็บอกลากับท่านตรงนี้แล้วกัน” ไม่รู้เพราะเหตุใด จ่านเหยียนจึงอยากมาอำลา แต่ไม่นานนางก็หาข้ออ้างได้ คือเพราะเขาเคยบอกว่าห้ามนางออกจากจวนเวลานี้นางจะไปแล้ว อย่างไรก็ต้องบอกกล่าวเขาสักคำกระมัง?แม้นางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เหตุใดขนาดสาวใช้ก็บอกแล้วว่ามู่หรงฉิงเทียนยังไม่ฟื้น แต่นางยังดึงดันมาพบสักครั้งให้ได้ยิ่งไม่เข้าใจ ทั้งที่บอกกับฮุ่ยอวิ่นก็ได้เหมือนกัน แต่ก็ยังยืนกรานจะบอกกับเขาบางที... เพราะเขาต่างหากที่เป็นเจ้าของจวนแห่งนี้?“เจ้าจะไปไหน?” เขาลืมตา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 230

    มู่หรงฉิงเทียนนอนลงบนเตียงต่อ หัวใจของเขาไม่เคยเต้นมานานมากแล้ว แต่เริ่มจากเมื่อคืน เขาหวนคิดถึงความรู้สึกใจเต้นแบบนั้นขึ้นมาได้อย่างชัดเจนนับจากพระอาจารย์กวงสือนำวิญญาณมังกรและวิญญาณของเขารวมเข้าด้วยกัน เขามักฝันถึงสตรีนางหนึ่งเขาไม่เคยเห็นโฉมหน้าของนางชัด ทุกครั้งที่เห็น มือของนางจะมือคทาหยกขาวด้ามหนึ่ง ยืนอยู่ท่ามกลางสายลม อาภรณ์ปลิวไสวเขาไม่เคยรู้ว่านางคือใคร และเคยสงสัยว่าสตรีนางนี้จะมีตัวตนจริง ๆ หรือไม่เมื่อคืนเขามิได้หมดสติ หลังจากฮุ่ยอวิ่นออกไป เขาก็ตามไปด้วยเหมือนกันดังนั้น เขาเห็นหลงอู่ถือคทามังกรอยู่ในมือ ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมเช่นเดียวกับภาพในความฝันของเขา แต่... สตรีในฝันอยู่ในอาภรณ์ของสตรี หลงอู่แต่งเป็นบุรุษทว่าเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ความจริงหลงอยู่ก็คือหลงจ่านเหยียน คือสตรีขณะนั้นของตกตะลึงพรึงเพริดถึงขีดสุด หลายปีแล้ว ในที่สุดก็มีความรู้สึกหัวใจเต้นเช่นนี้เขามิได้ดูต่อ สำหรับเขา ความตกตะลึงเช่นนี้หมายถึงจังหวะของชีวิตและความฝัน เขาไม่กล้าอยู่ต่อนาน เขากลัวถูกลบความทรงจำนี้เหมือนกับฮุ่ยอวิ่นเขาไม่รู้ว่านางจะไปแห่งหนตำบลใด แต่... เขาตงิดใจว่านางต้องเผชิญหน้าก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 231

    มู่หรงเจี้ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร เล่นแหวนอังคุฐหยกอยู่ในมือวงหนึ่ง “ยามนี้ใต้หล้าสงบ ไหนเลยยังมีเรื่องต้องหารือ? มิจำเป็น”ราชครูถงเอ่ยเรียบ “เวลานี้ฎีกาทั้งหลายล้วนผ่านมือของเขาจึงจะถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาท แม้จะดำรงตำแหน่งเซ่อเจิ้งอ๋อง แต่เช่นนี้จะเอาตามใจตัวเองมากไปหน่อยแล้ว ไม่สอดคล้องกับกฎบรรพชนพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงเจี้ยนเงยหน้า “เขาคือเซ่อเจิ้งอ๋องที่เสด็จพ่อทรงแต่งตั้ง ก่อนเสด็จพ่อสวรรคตก็ทรงกำชับเช่นนี้เหมือนกัน ราชครูมีวิธีใดยึดอำนาจมาจากมือของเขาได้หรือไม่? เวลานี้ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักส่วนมากเป็นคนของเขาทั้งสิ้น”ราชครูถงแลเฉินไท่ฟู่ “ฝ่าบาท พระองค์ต้องตระหนัก พระองค์ต่างหากที่เป็นโอรสสวรรค์ในปัจจุบัน เป็นฮ่องเต้ของแคว้นต้าโจว ฝ่าบาทสามารถออกราชโองการปลดอำนาจทางทหารและอำนาจทางการเมืองของเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”มู่หรงเจี้ยนนิ่งงันครู่หนึ่ง มองเฉินไท่ฟู่ “เฉินไท่ฟู่ ท่านมีความเห็นอย่างไร?”เฉินไท่ฟู่คือบิดาหยวนผินที่เขาโปรดปราน จงรักภักดี ทั้งยังมีความสามารถ เขาเชื่อใจเฉินไท่ฟู่มากเฉินไท่ฟู่พิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “โปรดประทานอภัยที่กระหม่อมกล่าวตามตรง กระหม่อมคิดว่าเวลานี้บ้าน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 232

    “เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดถึง อีกไม่กี่วันราชทูตจากแคว้นอันหนานก็จะมาถึง หลายปีก่อนหลังจากฮ่องเต้แคว้นอันหนานเจอน้องแปดแล้วก็เฝ้าคิดถึงมาตลอด ประสงค์อภิเษกแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม“บัดนี้แคว้นอันหนานกำลังทหารแข็งแกร่ง แม้จะเป็นพันธมิตรกับต้าโจวเรา แต่พันธมิตรที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์เช่นนี้ บอกจะตัดก็ตัด ยามนี้ราชอำนาจเรายังไม่มั่นคง กระหม่อมของเสนอ มิสู้ทำตามความประสงค์ของฮ่องเต้แคว้นอันหนานพ่ะย่ะค่ะ” ราชครูถงเอ่ยเฉินไท่ฟู่ไม่รอให้มู่หรงเจี้ยนเอ่ยก็แย้งขึ้นมาทันที “กระหม่อมไม่เห็นด้วย ยังไม่ต้องเอ่ยถึงอดีตฮ่องเต้เคยปฏิเสธเรื่องการอภิเษกนี้ ฮ่องเต้แคว้นอันหนานพระชนมายุสูง เป็นปู่ขององค์หญิงแปดได้สบาย ๆ อีกอย่าง บัดนี้ต้าโจวเราบ้านเมืองแข็งแกร่งเช่นกัน หากจะรบกันจริง ๆ แคว้นอันหนานหรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของเรา?”“ท่านเลอะเลือนยิ่งนัก! การเปิดศึกต้องคร่าชีวิตผู้คน ท่านทำใจเห็นพสกนิกรต้องพลัดพรากบ้านแตกสาแหรกขาดหรือ? อีกอย่าง ทันทีที่บ้านเมืองหนึ่งมีกำลังทหารแข็งแกร่ง ขุนศึกครองเมือง ท่านจะควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือไม่?” ราชครูถงเอ่ยเสียงแข็ง“พูดไปพูดมา ล้วนแต

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status