Home / วาย / คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ / ตอนที่7.พลังปราณมารน้อย

Share

ตอนที่7.พลังปราณมารน้อย

last update Last Updated: 2025-03-09 21:39:10

“กินช้าๆ ก็ได้ ไม่มีผู้ใดแย่งเจ้ากินหรอก”

“ก็มันอร่อยนี่นา” ประมุขน้อยหนุ่มว่า ทั้งยังเคี้ยวเนื้อกระต่ายป่าไว้เต็มปาก 

“ท่านไม่กินรึไง”

“เจ้ากินก่อนเถอะ” หลัวเซียนพลิกกลับไม้เสียบกระต่ายย่าง ให้ด้านที่ยังไม่สุกโดนความร้อนจากกองไฟ

“คนเผ่าเซียนนี่ วางท่าสง่างามเหมือนท่านทุกคนเลยหรือเปล่า”

“ยังไง ที่ว่าวางท่า” หลัวเซียนย่นหัวคิ้ว มองปราดเดียวก็รู้ว่า ประมุขน้อยหนุ่มผู้นี้ คงมีอคติกับคนเผ่าเซียนอยู่ไม่น้อยเลย

ขณะที่อู๋เหริ่นชวนนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนตอบ

“ก็เวลานั่ง ยืน เดิน ก็ต้องตัวตรง เชิดหน้าขึ้น แสดงกิริยานุ่มนิ่ม เหมือนอะไรดีล่ะ อ้อ เหมือนพญาหงส์ไง”

“นั่น เป็นกิริยาส่วนตัวของข้าอยู่แล้ว ท่านแม่สอนให้ข้าวางกิริยาเช่นนี้มาตั้งแต่เล็ก เพื่อจะได้เป็นประมุขเผ่าเซียนที่สง่างาม แล้วเจ้าล่ะ ไม่อยากเป็นประมุขเผ่ามารที่งามสง่าบ้างหรือ” 

อู๋เหริ่นชวนส่ายหน้าแทนคำตอบ

“ข้าน่ะหรือ จะได้เป็นประมุขเผ่ามาร ท่านก็เห็นนี่ว่า ข้าก็แค่คนอ่อนแอ ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง แม้ใครๆ จะเรียกข้าว่าประมุขน้อย ก็คงเพราะข้าเป็นบุตรของท่านพ่อเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นประมุขคนต่อไป ก็คงต้องรอการเลือกสรรขึ้นมาใหม่อยู่ดี” ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาจึงเผลอพูดจากับคนข้างกายไปมากความเช่นนี้ 

น่าประหลาดที่ส่วนลึกในใจกลับสนิทสนมคุ้นเคย คล้ายรู้จักเขามาเนิ่นนานแล้วอย่างไรอย่างนั้น

“เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือว่า เหตุใด ตนเองจึงไม่มีพลังวิญญาณ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ” เห็นความอ่อนหัดของคนตรงหน้าแล้ว หลัวเซียนก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า บุตรแห่งประมุขเผ่ามาร จะดูไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดาเช่นนี้ 

“ข้าเลิกสงสัยไปนานแล้ว ว่าแต่ท่านเถอะ มัวแต่สงสัยเรื่องของข้า ไม่สงสัยบ้างหรือว่า ใครส่งมนุษย์พิษพวกนั้นมาทำร้ายท่าน ตอนข้าติดร่างแหไปกับท่าน ดูเหมือนว่า มันจะไม่ได้สนใจจะทำร้ายข้าเลยนะ” 

คำถามจากปากของประมุขน้อยหนุ่ม พาให้บุรุษหนุ่มรูปงามนิ่งงันไปเช่นกัน ไม่อยากจะคิดเลยว่า มีใครบางคนไม่อยากจะให้เขามีชีวิตกลับไปยังเขาเซียนกู่ เพื่อรับตำแหน่งประมุข

แม้บุรุษเซียนจะแสดงกิริยานอบน้อมต่อกัน ท่วงท่าสง่างามดังที่อู๋เหริ่นชวนว่า แต่บุคคลภายนอกหรือจะรู้ว่า ภายใต้หน้ากากความสง่างามนั้น ได้ซุกซ่อนการแก่งแย่งชิงดีเอาไว้อย่างแนบเนียน 

จึงไม่แปลกอันใดเลย หากจะมีใครสักคน ต้องการให้เขาตาย ก่อนจะถึงวันรับตำแหน่งประมุขเผ่าเซียนในอีกไม่ช้า 

“เงียบเช่นนี้ แสดงว่า ท่านก็คิดเช่นเดียวกับข้าใช่หรือไม่”

“หากไม่เป็นความประสงค์ของอาจารย์ ข้าเองก็ไม่ได้ต้องการรับตำแหน่งเซียนตู”

“แล้วท่านต้องการสิ่งใด บำเพ็ญตนจนได้เป็นเซียนบนสวรรค์อย่างนั้นหรือ จะว่าไป ท่านก็ดูเหมาะสมกับการเป็นเซียนเหมือนกันนะ กิริยานุ่มนิ่มเช่นนี้ เหมาะสมกับการไปอยู่บนสวรรค์แล้ว”

“ข้าเพียงอยากเป็นมนุษย์ธรรมดา ออกท่องโลกกว้าง กำจัดคนชั่ว ช่วยเหลือคนดี ไม่มีเรื่องใดให้ละอายใจเท่านั้น”

ฟังคำตอบจากปากคนข้างกายแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็รู้สึกเหมือนเคยได้ยินคำพูดนี้จากที่ใดมาก่อน

พลันภาพการสนทนาระหว่างจิ้งจอกเซียนอาภรณ์ขาว กับบุรุษอาภรณ์ดำ ก็ฉายวาบเข้ามาในห้วงคำนึงอีกครา

“อ้ายเสียน เจ้าจะไม่รับตำแหน่งเซียนตูจริงหรือ”

“จริงแท้แน่นอน”

“น่าอิจฉาเจ้าจริงๆ เลย ข้าสิ ถึงไม่อยากรับตำแหน่งจอมมาร ก็คงทำไม่ได้ เพราะท่านพ่อมีข้าเป็นทายาทเพียงคนเดียว”

“เช่นนั้น ข้าจะบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ตำหนักฉางชุน คอยเฝ้าดูเจ้าเป็นจอมมาร”

“ได้ เจ้าคอยดูก็แล้วกัน แม้ข้าจะออกท่องโลกกว้างไม่ได้ แต่ข้าจะเป็นจอมมารที่ดี ปกครองพี่น้องเผ่ามาร ให้อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข เจ้าว่า ข้าจะทำได้หรือไม่”

“ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้อยู่แล้ว” หรงอ้ายเสียนสานสบดวงตาสหายรักด้วยแววตาเชื่อมั่น มือข้างหนึ่งวางลงบนไหล่กว้างของบุรุษอาภรณ์ดำเบาๆ 

อีกคราที่อู๋เหริ่นชวนรู้สึกราวกับว่า บุรุษอาภรณ์ดำผู้นั้นคือตัวเขาเอง ตามมาด้วยอาการปวดหนึบที่ขมับทั้งสองข้าง จนต้องสูดปากเบาๆ ดวงหน้าเหยเกส่ายไปมาช้าๆ 

“เป็นอะไร” หลัวเซียนไม่ถามเปล่า วางอาหารในมือลง แล้วปราดเข้ามาใกล้

“ข้าไม่เป็นไร” ว่าแล้วประมุขน้อยหนุ่มก็ลุกเดินมานั่งลงตรงใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง หลับตานิ่ง สูดลมหายใจเข้าออกช้าลึก ครู่เดียวอาการเจ็บปวดเมื่อแรกก็ค่อยๆ ทุเลาลง 

ขณะที่หลัวเซียนมองคนนั่งพิงต้นไม้ สีหน้าไม่สู้ดีด้วยความกังวล ไม่เข้าใจเลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับประมุขน้อยผู้นี้กันแน่ 

อีกด้านหนึ่ง อู๋ลี่หมิง ประมุขพรรคมารโลหิต กำลังมองภาพบุตรชายคนเดียว ผ่านกระจกหมื่นลี้ เพียงเห็นว่าวันนี้ บุตรชายได้พบกับหลัวเซียนแล้ว ก็อุ่นใจได้ว่าเขาจะต้องเดินทางไปถึงเจียงหนานโดยสวัสดิภาพอย่างแน่นอน 

จะว่าไปหลัวเซียน ว่าที่ประมุขเผ่าเซียนผู้นี้ ก็ดูสง่างาม มีวิชาแก่กล้า สมเป็นว่าที่ประมุขเผ่าเซียนจริงๆ มิเสียแรงเลยที่เขาส่งบุตรชายไปอยู่ข้างกายบุรุษหนุ่มคราวลูกผู้นี้ 

หากอู๋เหริ่นชวนได้อยู่ข้างกายหลัวเซียน อีกไม่นานก็คงจะสามารถฝึกวิชาโดยไม่ต้องมีพลังวิญญาณได้ หรือต่อให้พลังวิญญาณฟื้นคืน ก็คงควบคุมมันได้อย่างแน่นอน

ประมุขพรรคมารครุ่นคิด ห้วงคำนึงโลดลิ่วไปถึงเมื่อครั้ง อู๋เหริ่นชวนเป็นเพียงเด็กทารกแรกคลอด

เพียงแค่เด็กน้อยลืมตาดูโลก ร้องไห้จ้า พลันผืนฟ้าปกคลุมด้วยเงื้อมเงาแห่งราตรีกาลก็เกิดวิปริตแปรปรวน เสียงฟ้าร้องครืนครั่น แลเห็นแสงฟ้าแลบมาแต่ไกล ไม่เพียงเท่านั้น ร่างของทารกน้อยยังกลายเป็นวิหคโลหิตสีแดงเพลิง ยามร้องไห้ก็เกิดลูกเพลิงขนาดย่อมลอยออกมาจากปาก หวิดจะทำให้เกิดเพลิงไหม้เคหาสน์พันดาวแล้ว หากอู๋ลี่หมิงไม่สร้างค่ายกลกำหราบไฟขึ้นได้ทัน

ด้วยเหตุนี้เอง อู๋ซินเยว่ ฮูหยินของเขาจึงใช้พลังปราณทั้งหมดที่มี ปิดผนึกพลังวิญญาณของทารกน้อยเอาไว้ 

นางวาดฝ่ามือในอากาศครู่หนึ่ง แม้จะอ่อนระโหยโรยแรงจากการคลอดบุตร แต่ก็หาได้ใส่ใจ แตะนิ้วชี้ลงตรงกลางหน้าผากของทารกน้อย เกิดลำแสงสีฟ้าเจิดจ้า พุ่งเข้าผนึกพลังวิญญาณของทารกน้อยเอาไว้ 

นางทุ่มเทพลังปราณทั้งหมด ไม่ห่วงแม้ชีวิตตนเอง ทันทีที่ถอนนิ้วมือเรียวออกจากกลางหน้าผากของบุตรชาย นางก็กระอักกระไอเอาลิ่มโลหิตออกมาเป็นสาย 

“เยว่เอ๋อร์” อู๋ลี่หมิงปราดเข้ามาประคองฮูหยินของเขาเอาไว้ในอ้อมแขน ดวงตาทั้งคู่จับจ้องดวงหน้างามซีดเซียวด้วยความห่วงใย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่68 เคียงคู่ใต้หมู่ดาว (จบบริบูรณ์)

    “หยุดมือได้แล้ว เจ้าไม่เหน็ดเหนื่อยบ้างหรือ”หลัวเซียนไม่เอ่ยเปล่า แกล้งหลบรัศมีกระบี่ไม่พ้น พาให้คมกระบี่ถากชายเสื้อของเขาขาดเป็นทางยาวอู๋เหริ่นชวนเบิกตากว้าง แรกทีเดียวเขาเข้าใจว่าทำร้ายอีกฝ่ายเข้าแล้ว จึงยอมหหยุดมือในทันใด“หยุดเถอะ เจ้าทำชายเสื้อข้าขาดหมดแล้ว”“ยังสู้ไม่หนำใจเลย เจ้าก็ยอมแพ้เสียแล้ว ไม่สนุกเลย” อู๋เหริ่นชวนสอดกระบี่เก็บเข้าฝัก แล้วเดินมาประจันหน้ากับคนถูกทำชายเสื้อขาด“หายโมโหแล้วใช่หรือไม่ ข้าจะได้บอกเรื่องหนึ่งกับเจ้า”“อึม” อู๋เหริ่นชวนพยักหน้ารับ แล้วก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเองกับสิ่งที่ได้ยิน“ข้าสละตำแหน่งประมุขเผ่าเซียนแล้ว หลังจากประชุมผู้นำเซียนยุทธจากสำนักต่างๆ ทุกคนเห็นว่า ควรมีการเลือกสรรประมุขขึ้นมาใหม่ ข้าสนับสนุนให้เจ้าสำนักเจียงเหวิน ขึ้นเป็นผู้นำเผ่าเซียนคนต่อไป”“แล้วเจ้าล่ะ”“ส่วนข้า ก็จะออกท่องโลกกว้าง ดังที่ได้ปรารถนาเอาไว้แต่แรก จากนั้นก็จะกลับไปบำเพ็ญเซียนที่ตำหนักฉางชุน”“เจ้าจะถือสันโดษงั้นหรือ”ฟังเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายแล้ว ประมุขน้อยหนุ่มก็ใจหาย เขาจะไปขัดขวางการบรรลุเซียนของหลัวเซียนได้อย่างไรกัน“ข้าเพียงอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย หลังเสร็จจากสอ

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่67 เคียงบ่าเคียงไหล่

    “เหตุใดจึงแค้นเล่า เขาจำเรื่องราวในภพก่อนได้อย่างนั้นหรือ” ผู้ฟังนิทานวัยสิบหกปีผู้หนึ่งเอ่ยถามขัดจังหวะขึ้น“ย่อมจำได้อยู่แล้ว ก็จอมมารอู๋เซียงอี๋ได้อธิษฐานต่อแม่น้ำวั่งชวน หอวั่งเซียง สะพานไน่เหอเอาไว้ ก่อนดื่มน้ำแกงยายเมิ่งไว้นี่นาว่า จะไม่ขอลืมเลือนหนี้แค้นที่ปรมาจารย์หรงอ้ายเสียนได้ก่อไว้ไปชั่วชีวิต”“เช่นนั้น เขาทำอย่างไร อย่าบอกนะว่า หาทางเอาชีวิตหลัวเซียนน่ะ” หนุ่มน้อยอีกคนถามขึ้นบ้าง“เจ้าหนุ่ม อย่าเพิ่งขัดจังหวะสิ เดิมทีประมุขน้อยอู๋เหริ่นชวนก็หมายเอาชีวิตหลัวเซียนอยู่หรอก ทว่าเหตุการณ์กลับตาลปัตร หลัวเซียนกลับเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ระหว่างที่ประมุขน้อยอู๋เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงปักบุปผาที่เจียงหนานขณะประมุขน้อยเดินหลงอยู่ในป่า ได้ถูกปีศาจงูจงอางจับตัวไปกักขังไว้ในถ้ำ หลัวเซียนตามไปช่วย ฆ่าปีศาจงูด้วยกู่ฉินพิฆาต ทั้งยังปกป้องประมุขน้อยอู๋ จนตนเองได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้แล้ว ประมุขน้อยยังจะทวงหนี้แค้นได้อีกเรอะ...”ฟังเรื่องราวจริงบ้างเท็จบ้าง ปนเปกันไปนั่นแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทียกกาสุราขึ้นดื่ม แล้วก็ต้องขัดใจนัก เมื่อพบว่าไม่มีสุราเหลืออยู่เลย

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่66 โปรดเล่า

    “ข้านำกระจกหมื่นลี้จากห้องใต้หอคัมภีร์ออกมาไว้ที่ห้องข้า รู้ว่าเจ้าถูกจับตัวมายังเขาเซียนกู่ จึงเร่งเดินทางมาที่นี่ ข้ารู้ว่าอาจช่วยอะไรเจ้าไม่ได้มาก แต่ก็มิอาจนิ่งดูดายได้”“ช่วยอะไรไม่ได้ที่ไหนกัน เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดีเลยต่างหาก”“องค์ชาย” หลัวเซียนประสานมือคารวะนอบน้อม“โปรดเล่าให้ทุกท่าน ณ ที่นี้ฟังทีว่า ตอนข้าไปยังแคว้นไป่ลี่นั้น เป็นอย่างไรบ้าง” หลัวเซียนเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากเป็นฝ่ายเงียบงันมาครู่ใหญ่“ทุกท่าน ข้าคือองค์ชายหนิงจิ้ง รัชทายาทแห่งแคว้นไป่ลี่ ทั้งสองท่านนี้ เป็นสหายของข้า ตอนข้าออกไปล่าสัตว์นั้น บังเอิญได้ยินเสียงฉิน ท่วงทำนองไพเราะดังแว่วมา จึงตามเสียงฉินไป จนได้พบกับหลัวเซียนและอู๋เหริ่นชวน ดวงตาของเขาพิการทั้งสองข้าง แต่ก็มีฝีมือดีดฉินล้ำเลิศนัก ข้าจึงเชิญเขาไปเป็นแขกที่วังไป่ลี่ แม้ข้าจะมิได้เป็นเซียนยุทธเช่นทุกท่าน เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่ก็ถือสัจจะเป็นที่ตั้ง มิใช่เพียงกษัตริย์ที่ตรัสแล้วไม่คืนคำ แม้แต่รัชทายาทเช่นข้า ก็เช่นกัน”ฟังคำตรัสขององค์ชายแล้ว บรรดาเซียนยุทธก็ต่างประจักษ์ถึงความจริงว่า หลัวจุ้นซินอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจริงแท้แน่นอน“เมื

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่65 พยานความชั่วช้า

    “ประมุขอู๋ ท่านคงไม่ปกป้องตัวหายนะผู้นี้ จนไม่นึกถึงความสงบสุขของทั้งสองเผ่าหรอกนะ”“ตัวหายนะที่เจ้าอ้างถึง คือบุตรชายคนเดียวของข้า เหตุใดข้าจะปกป้องเขาไม่ได้เล่า” ประมุขอู๋ลี่หมิงประกาศกร้าว“ท่านเจ้าสำนักเกาคงยังไม่ทราบว่า ข้าได้ฝึกวิชาในคัมภีร์มหาเวทย์สำเร็จแล้ว ต่อให้ข้ากลายเป็นวิหคโลหิต ก็ยังสามารถควบคุมตนเองได้ ไม่ทำร้ายผู้อื่นอีก”“ลมปากของเจ้า ผู้ใดเชื่อก็โง่เต็มทีแล้ว” เจ้าสำนักเกาฉียังคงดื้อดึง ไม่ฟังเหตุผลอยู่นั่นเอง“เรื่องบาดหมางระหว่างสำนักของท่านกับข้า หากจะโทษ ก็ต้องโทษบรรดาศิษย์ของพวกท่าน ที่นินทาศิษย์พี่ของข้า ข้าจึงเล่นงานตอบด้วยพิษเห็ดหัวเราะ เรื่องเล็กๆ เพียงเท่านั้น ท่านยังอุตส่าห์เก็บมาใส่ใจ มองข้าด้วยอคติ จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นเรื่องของคนทั้งเผ่าเลยเรอะ แทนที่ท่านจะกล่าวโทษข้า ด้วยอคติส่วนตัวเช่นนี้ มิสู้รามือสักนิด แล้วใคร่ครวญให้ดีก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่ต้องมาสั่งสอนข้า!” เจ้าสำนักเกาฉีตวาดลั่น ยกมือเป็นสัญญาณให้บรรดาศิษย์ของตนดาหน้าเข้าหาคนพรรคมารโลหิต ทว่าเจียงเหวินกลับมิอาจนิ่งดูดายได้ รีบร้องห้ามขึ้นเสียก่อน“ช้าก่อน!”“เจ้าสำนักเจียง ท่านเองก็เข้าข้างปร

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่64 คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกใหม่

    เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ค่ายกลในเจดีย์ก็พลันหยุดทำงาน พร้อมๆ กับคนจากเผ่ามนุษย์คนสุดท้าย จบชีวิตลง ภายใต้คมกระบี่กรีดฟ้าเช่นกัน“เอาล่ะ ไม่มีผู้ใดรบกวนท่านแล้ว ซ้ำค่ายกลก็หยุดทำงานแล้ว เรามาคัดคัมภีร์กันเถอะ”หลัวจุ้นซินเสกกระดาษ พู่กัน และหมึกออกมาจากทั้งสองมือ ทั้งยังเสกโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ขึ้นมาด้วยอู๋เหริ่นชวนยิ้มน้อยๆ หัวเราะเบาๆ ยามหย่อนกายลงบนเก้าอี้ ถือพู่กันไว้ในมือ จรดลงกับกระดาษนิ่งนึกอยู่ครู่ก็เขียนตัวอักษรลงไปเพียงอักษรตัวแรกปรากฏบนกระดาษ ปลายกระบี่กรีดฟ้าก็พุ่งมาพาดบนคอของประมุขน้อยหนุ่ม“ท่านจะทำอะไร”“ข้าต้องแน่ใจสิว่า เจ้าจะไม่แพร่งพรายเนื้อหาในคัมภีร์แก่ผู้อื่นอีก”“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก หากข้าให้คัมภีร์แก่ท่านแล้ว ข้าจะฆ่าตัวตายเอง เก็บกระบี่ของท่านเสียก่อนเถิด หากข้าตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เขียนข้อความผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร”นั่นละ หลัวจุ้นซินจึงต้องสอดกระบี่เก็็บ็บเข้าฝักประมุขน้อยหนุ่มจึงจรดพู่กันเขียนข้อความต่อไป บทแล้วบทเล่า ยื้อเวลาให้ถึงยามห้าย การคัดคัมภีร์จึงเสร็จสิ้นลง“เอาล่ะ ข้าคัดเสร็จแล้ว เชิญท่านฝึกวิชาในคัมภีร์บทนี้ได้เลย”หลัวจุ้นซินรับกระดาษมากมายม

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่63 สิ้นคำประกาศก้องนั้น

    “ที่ทุกท่านมาถึงเขาเซียนกู่แห่งนี้ คงเพราะเห็นข้ากลายร่างเป็นวิหคโลหิตในวันรับตำแหน่งของท่านประมุขหลัว หลายท่านคงมาเพราะคัมภีร์มหาเวทย์ในหัวข้า ข้าคิดใคร่ครวญมาตลอดทั้งคืนแล้ว ว่าควรจะให้คัมภีร์แก่ใครดี แล้วข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่า ในฐานะที่ประมุขหลัวจุ้นซิน เป็นประมุขเผ่าเซียน เขาสมควรได้รับคัมภีร์มหาเวทย์นี้”สิ้นคำประกาศก้องนั้น เซียนยุทธทั้งหลายดูจะไม่ประหลาดใจสักเท่าไหร่ตรงกันข้ามกับคนเผ่ามนุษย์ที่ต่างมองหน้ากัน สนทนากันเบาๆ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดแจ้ง“คัมภีร์มหาเวทย์เป็นของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะให้คนเผ่าเซียนครอบครองได้อย่างไร” ชายวัยกลางคน หน้ากระดูกจากพรรคหวันซา ต่อว่าขึ้น“นั่นสิ เจ้าควรจะคืนคัมภีร์มหาเวทย์ให้เผ่ามนุษย์ แล้วฆ่าตัวตายไปซะ คัมภีร์จะได้ไม่ตกถึงมือผู้ใดอีก” ชายร่างกำยำ ดวงตาสามเหลี่ยมจากพรรคเหม่ยลี่ต่อว่าขึ้นบ้าง“ใช่ๆ” คนของแคว้นไป่ลี่เองก็เห็นด้วยกับคนเผ่าเดียวกันเช่นกัน“ข้าตัดสินใจแล้ว หากข้าไม่มอบคัมภีร์ให้ประมุขหลัว ท่านว่าจะเป็นเช่นไร ข้าเป็นคนเผ่ามาร ย่อมไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเผ่ามารกับเผ่าเซียนอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่คัมภีร์

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status