Home / วาย / คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ / ตอนที่8.จะอยู่อย่างไร

Share

ตอนที่8.จะอยู่อย่างไร

last update Last Updated: 2025-03-09 21:40:21

“ข้าคิดว่า คงเป็นอย่างที่ท่านเหยียนเจียทำนายไว้จริงๆ ลูกของเรามีพลังปราณมารของท่านจอมมารอู๋เซียงอี๋อยู่ในกายจริงๆ แม้ไม่ต้องฝึกวิชาใด ก็มีพลังปราณแก่กล้า แต่ยามนี้ ลูกของเรายังเล็กนัก ไม่สามารถควบคุมพลังปราณที่มีได้เลย ข้าได้ทุ่มเทพลังปราณทั้งหมดปิดผนึกพลังวิญญาณและพลังปราณของลูกไว้แล้ว”

“แล้วเจ้าเล่าฮูหยิน เมื่อไม่มีพลังปราณแล้วเช่นนี้ เจ้ามิต้องตายหรือ แล้วข้าเล่า จะอยู่อย่างไร” ประมุขพรรคมารกอดกระชับร่างฮูหยินไว้ในอ้อมแขน สายน้ำตาเอ่อรินอาบสองแก้ม สะอื้นจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน

“แม้ข้าจะตายลงแล้ว แต่ข้าจะยังอยู่ในใจของท่านพี่ตลอดไป ข้าฝากลูกด้วยนะเจ้าคะ ดูแลลูกของเราให้ดี จนกว่าเขาจะเติบใหญ่ พลังวิญญาณและปราณมารถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในเวลาอันสมควร” เหยว่เอ๋อร์ฮูหยินปิดเปลือกตาลงช้าๆ อึดใจต่อมา ลมหายใจสุดท้ายของนางก็ปลิดปลิวไป ราวแสงเทียนต้องลมแรงจนดับวูบ... 

“เยว่เอ๋อร์ เจ้าอย่าห่วงไปเลย บัดนี้บุตรของเราสองคนเติบโตขึ้นมากแล้ว อีกไม่นานหรอก พลังวิญญาณกับพลังปราณมารของเขาคงใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้ว” ประมุขพรรคมารเอ่ยกับกระจกกลมบานใหญ่ตรงหน้า ก่อนร่ายคาถา เสกให้กระจกหมื่นลี้หายลับไป ดวงตาทั้งคู่ทอประกายเจิดจ้า ยามก้าวออกจากห้องหนังสือมายังห้องนอนของตนเอง

แสงตะวันโผล่พ้นเหลี่ยมเขา ส่องลอดแนวใบไม้รกครึ้มลงมา เสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ผสานกับเสียงกู่ร้องของสัตว์ป่าดังมาแต่ไกล ปลุกให้อู๋เหริ่นชวนลืมตาขึ้น ยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะลุก เดินมาล้างหน้าล้างตาริมลำธาร 

เมื่อกลับมายังที่พักใต้ต้นไม้ ก็พบว่าหลัวเซียนเดินกลับมาแล้ว พร้อมกับหอบหิ้วเอากล้วยป่าติดมือมาด้วย 

“กินซะ จะได้ออกเดินทาง”

เห็นคนตื่นก่อน ห่วงใยกระเพาะเขาเช่นนี้ ประมุขน้อยหนุ่มก็อยากจะเอ่ยขอบคุณออกไป แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า ตนเองไม่ชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไหร่ จึงยั้งคำพูดนั้นไว้ที่ริมฝีปาก แล้วกลืนหายลงคอไป ยามยื่นมือออกไปรับกล้วยป่ามาแกะเปลือกออก ส่งเข้าปาก 

ครู่ต่อมา หลัวเซียนกับอู๋เหริ่นชวนก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่เจียงหนาน 

ระหว่างเดินทางมาถึงป่าพยูง ต้นสูงยืนตระหง่านเขียวครึ้มนั่นเอง สองบุรุษหนุ่มก็ต้องชะงักไปตามๆ กัน เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้วยวิชาตัวเบา แหวกอากาศเข้ามาใกล้ จากทุกทิศทุกทาง 

เมื่อคนกลุ่มนั้นพลิ้วกายลงบนพื้น จึงได้รู้ว่าคือ มือสังหารแปดเซียนนั่นเอง 

พวกเขาต่างยืนล้อมเหยื่อเอาไว้ทุกทิศ พลางชักกระบี่คมวับออกมา 

“อยู่ใกล้ๆ ข้าไว้ แล้วหลบให้ดี” หลัวเซียนกำชับหนักแน่น ทว่าแทนที่ประมุขน้อยหนุ่มจะเชื่อฟัง กลับก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าว 

“นี่ ทุกท่าน อย่าเพิ่งรีบร้อนลงมือเลยขอรับ จะว่าไปแล้ว ทุกท่านเองก็ยังไม่เคยรู้จักข้ามาก่อนเลย เหตุใดต้องลงมือกับข้าด้วยล่ะ”

“เจ้าเป็นบ่าวของคนผู้นี้ไม่ใช่เรอะ” จอมยุทธหนึ่งในแปดเซียนว่าไปตามความเข้าใจของตนเอง 

“บ่าวที่ไหนกัน ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วยซ้ำ อีกอย่างทุกท่านกับข้าก็ไม่มีความแค้นต่อกันสักนิด ต่างคนต่างก็ไม่รู้จักกัน ใยทุกท่านต้องเสียแรงลงมือด้วยเล่า” 

“ข้าไม่รู้จักเจ้า แต่ข้ารู้จักคนผู้นั้น” จอมยุทธร่างผอมสูง ผายมือไปทางหลัวเซียน ผู้ถือพัดเวทย์คุมเชิงอยู่

“มีคนสั่งพวกท่านมาฆ่าเขาหรือ ใครกัน ทุกท่านช่วยบอกข้าได้หรือไม่ เผื่อว่า หากเขาตายด้วยน้ำมือของทุกท่านแล้ว จะได้ไปบอกท่านยมบาลได้ถูกว่า ใครเป็นคนเอาชีวิตเขา” 

“เรื่องอะไร ข้าจะบอก” จอมยุทธร่างสันทัด หน้ายาวเรียวปฏิเสธ หากเขาเอ่ยชื่อผู้บงการออกไป ก็มีแต่จะต้องตายด้วยคำสาปร้ายเท่านั้น 

มือสังหารแปดเซียนทุกคน ย่อมรู้ดีว่า หากเอ่ยนามผู้บงการออกไป ก็จะต้องพลังปราณแตกซ่านตาย เพราะคำสาปร้ายที่บรรพชนวางเอาไว้ เพื่อป้องกันมิให้เหยื่อรู้ตัวฆาตกรที่บงการสังหารตน 

หรือเด็กหนุ่มผู้นี้ จะล่วงรู้คำสาปร้ายนั้น จึงหลอกล่อให้เขาเอ่ยชื่อผู้บงการเช่นนี้ 

“หากข้าบอก เจ้าก็รู้ด้วยน่ะสิ เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าปิดปากเสีย จะได้ไปบอกใครไม่ได้อีก” จอมยุทธร่างท้วมขู่ หวังให้เด็กหนุ่มกลัว แล้วเลิกถามไปเอง 

“เอาเลย ท่านบอกข้า แล้วลงมือเลยก็ได้” อู๋เหริ่นชวนทำใจดีสู้เสือ 

“มา กระซิบที่ข้างหูข้านี่” ประมุขน้อยหนุ่มยกมือขึ้นชี้ใบหูตนเอง 

จอมยุทธหน้ากลมหลงกล เดินใกล้เข้ามากระซิบที่ข้างหูประมุขน้อยหนุ่ม 

“หลัวจุ้นซิน!”

เพียงคำพูดนั้นหลุดจากปาก จอมยุทธร่างท้วมก็ชักกระตุก สายโลหิตพุ่งออกจากทวารทั้ง 7 ล้มฟาดลงกับพื้น ดวงตาทั้งคู่เหลือกค้าง สิ้นใจในทันที 

“น้องห้า” มือสังหารที่เหลือต่างตะลึงจังงัง นึกไม่ถึงเลยว่า คำสาปร้ายของบรรพชนจะให้ผลร้ายแรงเช่นนี้ 

จากผู้ไม่เกี่ยวข้องจึงกลายเป็นว่า อู๋เหริ่นชวนทำให้น้องห้าของพวกเขาตายเสียแล้ว 

“ฆ่า!” สิ้นคำของมือสังหารร่างสูงใหญ่ มือสังหารทั้ง 7 ก็พุ่งกระบี่เข้าหาประมุขน้อยหนุ่มเป็นจุดเดียว 

ในยามคับขันนั่นเอง จอมยุทธผู้หนึ่งก็เคลื่อนกายแหวกอากาศเข้ามา เพียงซัดฝ่ามือทั้งสองข้างออกไป มือสังหารทั้ง 7 ก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง ก่อนการต่อสู้ระหว่างจอมยุทธผู้นั้น หลัวเซียน กับมือสังหารจะเริ่มขึ้น 

หลัวเซียนกระชับพัดเวทย์ในมือมั่น ซัดออกไปด้วยพลังปราณ พัดเวทย์ลอยหวือในอากาศ เข้าใส่ลูกกระเดือกของมือสังหารคนแล้วคนเล่า ขณะที่มือสังหารที่เหลือ ต่อสู้กับจอมยุทธผู้มาใหม่ด้วยเพลงกระบี่รวดเร็ว ดุจเงามัจจุราช คมกระบี่ฉวัดเฉวียนในอากาศ รุกคืบเข้าใส่คมกระบี่ของคู่ต่อสู้ บ้างดุดัน บ้างอ่อนโยน ไม่ถึงครึ่งเพลงด้วยซ้ำ ก็ปลิดชีวิตมือสังหารลงได้

ขณะที่อู่เหริ่นชวนวิ่งมาหลบหลังต้นไม้ใหญ่ มองการต่อสู้ระหว่างหลัวเซียน จอมยุทธผู้มาใหม่กับมือสังหาร เพียงไม่นานมือสังหารก็ล้มตายลงราวใบไม้ร่วง 

กระทั่งแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว จอมยุทธผู้มาใหม่จึงร้องตะโกนขึ้นว่า

“เจ้าหนุ่ม ออกมาได้แล้ว”

อู๋เหริ่นชวนก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ แรกเห็นจอมยุทธผู้มาใหม่ก็นึกประหลาดใจว่า เหตุใด เด็กหนุ่มหน้าละอ่อน วัยไม่น่าจะแก่กว่าเขาสักเท่าไหร่ จึงเรียกเขาว่า “เจ้าหนุ่ม” ราวกับว่า เจ้าหน้าละอ่อนผู้นั้นเป็นชายชรา อายุรุ่นปู่ของเขาอย่างนั้นแหละ 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่68 เคียงคู่ใต้หมู่ดาว (จบบริบูรณ์)

    “หยุดมือได้แล้ว เจ้าไม่เหน็ดเหนื่อยบ้างหรือ”หลัวเซียนไม่เอ่ยเปล่า แกล้งหลบรัศมีกระบี่ไม่พ้น พาให้คมกระบี่ถากชายเสื้อของเขาขาดเป็นทางยาวอู๋เหริ่นชวนเบิกตากว้าง แรกทีเดียวเขาเข้าใจว่าทำร้ายอีกฝ่ายเข้าแล้ว จึงยอมหหยุดมือในทันใด“หยุดเถอะ เจ้าทำชายเสื้อข้าขาดหมดแล้ว”“ยังสู้ไม่หนำใจเลย เจ้าก็ยอมแพ้เสียแล้ว ไม่สนุกเลย” อู๋เหริ่นชวนสอดกระบี่เก็บเข้าฝัก แล้วเดินมาประจันหน้ากับคนถูกทำชายเสื้อขาด“หายโมโหแล้วใช่หรือไม่ ข้าจะได้บอกเรื่องหนึ่งกับเจ้า”“อึม” อู๋เหริ่นชวนพยักหน้ารับ แล้วก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเองกับสิ่งที่ได้ยิน“ข้าสละตำแหน่งประมุขเผ่าเซียนแล้ว หลังจากประชุมผู้นำเซียนยุทธจากสำนักต่างๆ ทุกคนเห็นว่า ควรมีการเลือกสรรประมุขขึ้นมาใหม่ ข้าสนับสนุนให้เจ้าสำนักเจียงเหวิน ขึ้นเป็นผู้นำเผ่าเซียนคนต่อไป”“แล้วเจ้าล่ะ”“ส่วนข้า ก็จะออกท่องโลกกว้าง ดังที่ได้ปรารถนาเอาไว้แต่แรก จากนั้นก็จะกลับไปบำเพ็ญเซียนที่ตำหนักฉางชุน”“เจ้าจะถือสันโดษงั้นหรือ”ฟังเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายแล้ว ประมุขน้อยหนุ่มก็ใจหาย เขาจะไปขัดขวางการบรรลุเซียนของหลัวเซียนได้อย่างไรกัน“ข้าเพียงอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย หลังเสร็จจากสอ

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่67 เคียงบ่าเคียงไหล่

    “เหตุใดจึงแค้นเล่า เขาจำเรื่องราวในภพก่อนได้อย่างนั้นหรือ” ผู้ฟังนิทานวัยสิบหกปีผู้หนึ่งเอ่ยถามขัดจังหวะขึ้น“ย่อมจำได้อยู่แล้ว ก็จอมมารอู๋เซียงอี๋ได้อธิษฐานต่อแม่น้ำวั่งชวน หอวั่งเซียง สะพานไน่เหอเอาไว้ ก่อนดื่มน้ำแกงยายเมิ่งไว้นี่นาว่า จะไม่ขอลืมเลือนหนี้แค้นที่ปรมาจารย์หรงอ้ายเสียนได้ก่อไว้ไปชั่วชีวิต”“เช่นนั้น เขาทำอย่างไร อย่าบอกนะว่า หาทางเอาชีวิตหลัวเซียนน่ะ” หนุ่มน้อยอีกคนถามขึ้นบ้าง“เจ้าหนุ่ม อย่าเพิ่งขัดจังหวะสิ เดิมทีประมุขน้อยอู๋เหริ่นชวนก็หมายเอาชีวิตหลัวเซียนอยู่หรอก ทว่าเหตุการณ์กลับตาลปัตร หลัวเซียนกลับเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ระหว่างที่ประมุขน้อยอู๋เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงปักบุปผาที่เจียงหนานขณะประมุขน้อยเดินหลงอยู่ในป่า ได้ถูกปีศาจงูจงอางจับตัวไปกักขังไว้ในถ้ำ หลัวเซียนตามไปช่วย ฆ่าปีศาจงูด้วยกู่ฉินพิฆาต ทั้งยังปกป้องประมุขน้อยอู๋ จนตนเองได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้แล้ว ประมุขน้อยยังจะทวงหนี้แค้นได้อีกเรอะ...”ฟังเรื่องราวจริงบ้างเท็จบ้าง ปนเปกันไปนั่นแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทียกกาสุราขึ้นดื่ม แล้วก็ต้องขัดใจนัก เมื่อพบว่าไม่มีสุราเหลืออยู่เลย

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่66 โปรดเล่า

    “ข้านำกระจกหมื่นลี้จากห้องใต้หอคัมภีร์ออกมาไว้ที่ห้องข้า รู้ว่าเจ้าถูกจับตัวมายังเขาเซียนกู่ จึงเร่งเดินทางมาที่นี่ ข้ารู้ว่าอาจช่วยอะไรเจ้าไม่ได้มาก แต่ก็มิอาจนิ่งดูดายได้”“ช่วยอะไรไม่ได้ที่ไหนกัน เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดีเลยต่างหาก”“องค์ชาย” หลัวเซียนประสานมือคารวะนอบน้อม“โปรดเล่าให้ทุกท่าน ณ ที่นี้ฟังทีว่า ตอนข้าไปยังแคว้นไป่ลี่นั้น เป็นอย่างไรบ้าง” หลัวเซียนเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากเป็นฝ่ายเงียบงันมาครู่ใหญ่“ทุกท่าน ข้าคือองค์ชายหนิงจิ้ง รัชทายาทแห่งแคว้นไป่ลี่ ทั้งสองท่านนี้ เป็นสหายของข้า ตอนข้าออกไปล่าสัตว์นั้น บังเอิญได้ยินเสียงฉิน ท่วงทำนองไพเราะดังแว่วมา จึงตามเสียงฉินไป จนได้พบกับหลัวเซียนและอู๋เหริ่นชวน ดวงตาของเขาพิการทั้งสองข้าง แต่ก็มีฝีมือดีดฉินล้ำเลิศนัก ข้าจึงเชิญเขาไปเป็นแขกที่วังไป่ลี่ แม้ข้าจะมิได้เป็นเซียนยุทธเช่นทุกท่าน เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่ก็ถือสัจจะเป็นที่ตั้ง มิใช่เพียงกษัตริย์ที่ตรัสแล้วไม่คืนคำ แม้แต่รัชทายาทเช่นข้า ก็เช่นกัน”ฟังคำตรัสขององค์ชายแล้ว บรรดาเซียนยุทธก็ต่างประจักษ์ถึงความจริงว่า หลัวจุ้นซินอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจริงแท้แน่นอน“เมื

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่65 พยานความชั่วช้า

    “ประมุขอู๋ ท่านคงไม่ปกป้องตัวหายนะผู้นี้ จนไม่นึกถึงความสงบสุขของทั้งสองเผ่าหรอกนะ”“ตัวหายนะที่เจ้าอ้างถึง คือบุตรชายคนเดียวของข้า เหตุใดข้าจะปกป้องเขาไม่ได้เล่า” ประมุขอู๋ลี่หมิงประกาศกร้าว“ท่านเจ้าสำนักเกาคงยังไม่ทราบว่า ข้าได้ฝึกวิชาในคัมภีร์มหาเวทย์สำเร็จแล้ว ต่อให้ข้ากลายเป็นวิหคโลหิต ก็ยังสามารถควบคุมตนเองได้ ไม่ทำร้ายผู้อื่นอีก”“ลมปากของเจ้า ผู้ใดเชื่อก็โง่เต็มทีแล้ว” เจ้าสำนักเกาฉียังคงดื้อดึง ไม่ฟังเหตุผลอยู่นั่นเอง“เรื่องบาดหมางระหว่างสำนักของท่านกับข้า หากจะโทษ ก็ต้องโทษบรรดาศิษย์ของพวกท่าน ที่นินทาศิษย์พี่ของข้า ข้าจึงเล่นงานตอบด้วยพิษเห็ดหัวเราะ เรื่องเล็กๆ เพียงเท่านั้น ท่านยังอุตส่าห์เก็บมาใส่ใจ มองข้าด้วยอคติ จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นเรื่องของคนทั้งเผ่าเลยเรอะ แทนที่ท่านจะกล่าวโทษข้า ด้วยอคติส่วนตัวเช่นนี้ มิสู้รามือสักนิด แล้วใคร่ครวญให้ดีก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่ต้องมาสั่งสอนข้า!” เจ้าสำนักเกาฉีตวาดลั่น ยกมือเป็นสัญญาณให้บรรดาศิษย์ของตนดาหน้าเข้าหาคนพรรคมารโลหิต ทว่าเจียงเหวินกลับมิอาจนิ่งดูดายได้ รีบร้องห้ามขึ้นเสียก่อน“ช้าก่อน!”“เจ้าสำนักเจียง ท่านเองก็เข้าข้างปร

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่64 คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกใหม่

    เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ค่ายกลในเจดีย์ก็พลันหยุดทำงาน พร้อมๆ กับคนจากเผ่ามนุษย์คนสุดท้าย จบชีวิตลง ภายใต้คมกระบี่กรีดฟ้าเช่นกัน“เอาล่ะ ไม่มีผู้ใดรบกวนท่านแล้ว ซ้ำค่ายกลก็หยุดทำงานแล้ว เรามาคัดคัมภีร์กันเถอะ”หลัวจุ้นซินเสกกระดาษ พู่กัน และหมึกออกมาจากทั้งสองมือ ทั้งยังเสกโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ขึ้นมาด้วยอู๋เหริ่นชวนยิ้มน้อยๆ หัวเราะเบาๆ ยามหย่อนกายลงบนเก้าอี้ ถือพู่กันไว้ในมือ จรดลงกับกระดาษนิ่งนึกอยู่ครู่ก็เขียนตัวอักษรลงไปเพียงอักษรตัวแรกปรากฏบนกระดาษ ปลายกระบี่กรีดฟ้าก็พุ่งมาพาดบนคอของประมุขน้อยหนุ่ม“ท่านจะทำอะไร”“ข้าต้องแน่ใจสิว่า เจ้าจะไม่แพร่งพรายเนื้อหาในคัมภีร์แก่ผู้อื่นอีก”“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก หากข้าให้คัมภีร์แก่ท่านแล้ว ข้าจะฆ่าตัวตายเอง เก็บกระบี่ของท่านเสียก่อนเถิด หากข้าตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เขียนข้อความผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร”นั่นละ หลัวจุ้นซินจึงต้องสอดกระบี่เก็็บ็บเข้าฝักประมุขน้อยหนุ่มจึงจรดพู่กันเขียนข้อความต่อไป บทแล้วบทเล่า ยื้อเวลาให้ถึงยามห้าย การคัดคัมภีร์จึงเสร็จสิ้นลง“เอาล่ะ ข้าคัดเสร็จแล้ว เชิญท่านฝึกวิชาในคัมภีร์บทนี้ได้เลย”หลัวจุ้นซินรับกระดาษมากมายม

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่63 สิ้นคำประกาศก้องนั้น

    “ที่ทุกท่านมาถึงเขาเซียนกู่แห่งนี้ คงเพราะเห็นข้ากลายร่างเป็นวิหคโลหิตในวันรับตำแหน่งของท่านประมุขหลัว หลายท่านคงมาเพราะคัมภีร์มหาเวทย์ในหัวข้า ข้าคิดใคร่ครวญมาตลอดทั้งคืนแล้ว ว่าควรจะให้คัมภีร์แก่ใครดี แล้วข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่า ในฐานะที่ประมุขหลัวจุ้นซิน เป็นประมุขเผ่าเซียน เขาสมควรได้รับคัมภีร์มหาเวทย์นี้”สิ้นคำประกาศก้องนั้น เซียนยุทธทั้งหลายดูจะไม่ประหลาดใจสักเท่าไหร่ตรงกันข้ามกับคนเผ่ามนุษย์ที่ต่างมองหน้ากัน สนทนากันเบาๆ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดแจ้ง“คัมภีร์มหาเวทย์เป็นของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะให้คนเผ่าเซียนครอบครองได้อย่างไร” ชายวัยกลางคน หน้ากระดูกจากพรรคหวันซา ต่อว่าขึ้น“นั่นสิ เจ้าควรจะคืนคัมภีร์มหาเวทย์ให้เผ่ามนุษย์ แล้วฆ่าตัวตายไปซะ คัมภีร์จะได้ไม่ตกถึงมือผู้ใดอีก” ชายร่างกำยำ ดวงตาสามเหลี่ยมจากพรรคเหม่ยลี่ต่อว่าขึ้นบ้าง“ใช่ๆ” คนของแคว้นไป่ลี่เองก็เห็นด้วยกับคนเผ่าเดียวกันเช่นกัน“ข้าตัดสินใจแล้ว หากข้าไม่มอบคัมภีร์ให้ประมุขหลัว ท่านว่าจะเป็นเช่นไร ข้าเป็นคนเผ่ามาร ย่อมไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเผ่ามารกับเผ่าเซียนอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่คัมภีร์

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status