ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)

ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)

last updateLast Updated : 2025-11-25
By:  ปัฐน์พีUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
34Chapters
170views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ไป๋เยว่หลิง เบื้องหน้า เขาคือคุณชายตระกูลใหญ่ สูง ขาว ผิวเนียน ดวงตาเรียวยาวราวภาพเขียน หล่อ ชุดขาวบริสุทธิ์(แซ่ไป๋(ขาว)) เป็นนักกระบี่อัจฉริยะในรอบร้อยปี แต่...หลังฉาก เขาเป็นลูกเลี้ยงที่ถูกกดขี่ดูถูกทุกอย่าง ถูกซ้อม วางยา ด่า เฆี่ยน และโดนขืนใจแบบวิปริต เขาจึงเป็นคนเก็บกด ไม่พูด แววตาเย็นชา และโดดเดี่ยว ....วันหนึ่งครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเขาถูกฆ่าล้างตระกูล แต่เขากลับหลงรักนักฆ่าคนนั้น....

View More

Chapter 1

คุณชายจันทราขาว

....เริ่มพลบค่ำแล้ว แสงจากดวงจันทร์เริ่มทอประกายเหนือยอดไม้

เงาร่างสูงโปร่งในชุดขาวสะอาดราวหิมะ ยืนเดี่ยวกลางลานหินของสำนักกระบี่

ผมดำยาวสลวยพลิ้วตามสายลม แววตาเย็นสงบ แต่ดาบในมือกลับคมกล้าไร้ผู้เทียบ

เขาคือ “ไป๋เยว่หลิง" อัจฉริยะกระบี่หนึ่งเดียวในร้อยปี

ทุกครั้งที่เขาวาดกระบี่ เงาของจันทร์ราวกับแตกกระจายไปทั่วลานประลอง

ทั้งอาจารย์ ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง แม้แต่ชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้หญิง ต่างหลงไหลในรูปร่างหน้าตาที่หล่อราวเทพบุตรจากสวรรค์ของเขา

แต่...เบื้องหลังแววตานิ่งสงบนี้ ซ่อนดวงใจที่เต็มไปด้วยบาดแผล

เพราะยามก้าวข้ามประตูเรือนตระกูลใหญ่สกุลไป๋ เขากลับไม่มีวันใดสงบสุข

พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงกลับกลั่นแกล้งเขาอย่างไร้ปรานี

เขาถูกวางยาพิษในอาหารตั้งแต่เด็ก ตลอดจนถึงส่งคนลอบทำร้ายซ้อมเขาในยามค่ำคืน

และหากเขาหยิบกระบี่ขึ้นมาตอบโต้ เขาจะถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนอย่างรุนแรงทุกครั้ง

บาดแผล...ที่ผู้อื่นไม่เห็น เหล่านั้นสะสมอยู่ในใจของเขามาตั้งแต่เด็กๆ จนบัดนี้เขาอายุได้ 18 ปีแล้ว

นั่นคือสาเหตุที่ไป๋เยว่หลิงชอบฝึกกระบี่อยู่ที่สำนักจนดึกดื่น ไม่อยากกลับบ้าน

....ค่ำคืนนี้มืดเหมือนทุกคืน เด็กหนุ่มเดินก้าวเข้าบ้านด้วยก้าวช้า ๆ

แม้ร่างสูงโปร่งของเขาจะสง่างาม แต่ทันทีที่ประตูเปิด เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น

“กลับมาอีกแล้วเหรอเจ้าไป๋จอมปลอม”

ลูกชายแท้ ๆ ของพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงปรากฏตัว แววตาเต็มไปด้วยความริษยา

มือเล็ก ๆ ของเขาทำท่าจะผลักไส แต่ไป๋เยว่หลิงเพียงแค่ก้มหน้าเดินเข้าไป

เขากลั้นเสียงคำพูดและทุกอารมณ์ไว้ เพราะทุกครั้งที่เขาแสดงอารมณ์ออกมา

พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงจะยิ่งหาความผิดใส่ ดังนั้นเขาจึงเลือกอดทนและเงียบ

ก้าวเท้าไปตามทางเดินยาวของบ้าน บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกจนเหมือนถูกล็อกด้วยน้ำแข็ง

มันขว้างก้อนหินเล็กๆใส่ศรีษะเขาจนมีเลือดออกนิดหน่อย แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ

มันยิ่งได้ใจกระโดดมาถีบข้างหลังจนเขาล้ม และกระทืบซ้ำหลายครั้ง

เสร็จกิจสาแก่ใจมันแล้วก็ถุยน้ำลายใส่และเดินจากไป

ไป๋เยว่หลิงจึงเปิดประตู้เข้าห้องตัวเอง เขาหยุดยืน มองเงาในกระจก

ร่างสูงโปร่ง ผิวขาวดั่งจันทร์ ทว่าสายตายังคงว่างเปล่า

ความอัปยศที่ต้องทนทุกคืนสะสมอยู่ในใจมากมาย แต่เขากลับไม่พูดไม่จา

ขณะที่เขาแกะกระดุมเสื้อนั่งมองกระจกเพื่อเตรียมทำแผล มือลูกสาวของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงก็ยื่นจากด้านหลังเข้ามาจับหน้าอกเขา

นางสวมใส่ชุดบางๆ หน้าอกใหญ่ของนางชิดแผ่นหลังเยว่หลิง และนางเอาลิ้นมาเลียที่ซอกรูหูของเขาพรางกระซิบว่า

"ใครทำร้ายเจ้าเยี่ยงนี้น้องข้า มาสิเดี๋ยวพี่สาวจะปลอบประโลมให้" มือของนางลูบไล้หน้าท้องซิกแพ็คของเขา ปลายนิ้วสัมผัสลอนสูงต่ำของหน้าท้องช้าๆ

ไป๋เยว่หลิงครางกระเส่าเบาๆ "ไม่... ท่านพี่ ...ข้าไม่"

"ไม่อะไร! เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าสบายตัวเอง อย่าลืมว่าทั้งบ้านนี้มีแค่ข้าที่เอ็นดูเจ้า!"

มันก็จริง ท่านพี่แม้นางจะไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ แต่ก็มีเพียงนางที่เอาเสื้อผ้าชุดใหม่สวยๆ อาหารอร่อยๆ ขนม ฯลฯ มาให้เขา

ไป๋เยว่หลิงยอมแต่โดยดีไม่ขัดขืน

เมื่อนางเห็นเช่นนั้น นางเอาเชือกที่เตรียมมามัดมือทั้งสองของน้องชายไพร่ไว้ด้านหลัง

ไป๋เยว่หลิงรู้งานดี เขาคุกเข่าลงคลานสี่ขาไปหาพี่สาว และนางยกนิ้วเท้ายื่นให้บริเวณปาก

ไป๋เยว่หลิงอ้าปากอมๆดูดๆนิ้วเท้าให้นาง ๆ มีอารมณ์พลุ่งพล่านแกะกระดุมออกจนเห็นหน้าอกชัดเจน

นางเอาสองมือคลึงเต้าตัวเองอย่าเมามันส์ แล่บลิ้นมาเลียที่มุมปาก พลางมองน้องชายที่รักที่กำลังดูดดื่มนิ้วเท้าของเธอเพื่อกระตุ้นอารมณ์

"ดีมากน้องชายข้า เจ้าหมาน้อยแสนน่ารักของพี่ เลียให้ครบทุกนิ้ว เร็ว ๆ" ว่าแล้วนางก็กระแทกเท้าใส่ปากไป๋เยว่หลิง

เวลาผ่านไปราวๆ 2 เค่อ เมื่อนางเสร็จสมอารมณ์แล้วจึงลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย และนำยาทาแผลอย่างดีวางไว้ข้างกระจก พร้อมปิ่นโตอาหาร

"นี่ยาทาแผล อย่าให้ใบหน้าและผิวขาวเนียนของเจ้าเป็นอะไรเชียวนะ พี่สาวไม่ชอบสัตว์เลี้ยงที่มีแผลเป็น"

แล้วนางก็เดินยิ้มออกไป ทิ้งไป่เยว่หลิงนั่งคุกเข่าที่พื้น ใบหน้าจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกแห่งอารมณ์ที่มืดมิด

เขาไปที่กระจกหยิบตลับยาแผลนั้นทาแผลที่ศรีษะ และเปิดปิ่นโตรับประทานอาหาร

เมนูวันนี้เป็นไก่ตุ๋นน้ำแกงอย่างดี และเนื้อย่าง ไป่เยว่หลิงกินไปด้วยดวงตาที่ไร้แวว

เขาเคี้ยงอาหารไปได้ 5 คำ ความกดดันมากมายที่วันนี้เขาได้รับจนเขาทนไม่ไหว

เขาคว้ากระบี่ออกไปเนินเขาเล็กๆด้านหลังบ้านสกุลไป๋ และกวัดแกว่างดาบอยู่นาน

.....คืนนี้ช่างยาวนานยิ่งนัก ไป่เยว่หลิง ฝึกกระบี่ที่เน้นเขานานเท่าไหร่ไม่รู้

แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องมากมายดังขึ้นที่บ้านสกุลไป๋ 

ไป๋เยว่หลิงนั่งลงเขากอดเข่ามองไปที่บ้านฟังเสียงนั้นไปเรื่อยๆ จนเสียงเงียบหมด เขาจึงถือกระบี่เดินกลับบ้าน

เมื่อเปิดกระตูเข้ามา ร่างสาวใช้ที่ตายคาประตูก็ร่วงลงกับพื้น ไป๋เยว่หลิงเดินข้ามศพนั้นอย่างเฉยชา

ที่กลางลานบ้าน พ่อบ้าน คนงาน สาวใช้มากมายนอนตายอยู่ มีบางรายแขนขาขาดหาย

เปิดประตูเข้าไป ร่างลูกชายแท้ ๆ ของพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง นอนตายอยู่ข้างพ่อแม่เขาในเรือนหลัก มือถือกระบี่หักครึ่งอยู่

เขามองดูรอบๆแล้วจึงเดินกลับมาที่ลานกลางบ้าน 

"เย...เยว่หลิง....ช่วย....ช่วยพี่ด้วย"

ร่างพี่สาว ลูกพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงนอนคว่ำกับพื้น แม้ยังไม่ตายแต่ก็ร่อแร่

เยว่หลิงเดินเข้าไปใกล้ และยืนมองด้วยสายตาเย็นชา ในมือกำกระบี่แน่น

เคร๊ง!!

เขายกกระบี่ขึ้นมากันดาบที่ฟาดมาจากด้านหลัง ราวกับรู้ล่วงหน้า

ชายชุดดำถอยออกมา ทีนี้มีชายชุดดำอีกมากมายเกาะอยู่บนหลังคา ทุกคนไม่พูด แต่จ้องลงมาที่ไป๋เยว่หลิง

ชายชุดดำถือดาบยาวพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาโฉบฟาดฟันเต็มกำลัง

ไป๋เยว่หลิงจับกระบี่แน่น ผมดำยาวพลิ้วตามลม แววตาเย็นสงบราวจันทร์

(กระบวนท่าที่ 1  เงาจันทร์เคลื่อนไหว)

ไป๋เยว่หลิงหมุนตัวอย่างว่องไว กระบี่พริ้วเหมือนเงาจันทร์

ฟันตอบโต้ทุกแรงฟาดของชายชุดดำ ทำให้คู่ต่อสู้สับสน หวาดหวั่นกับจังหวะที่คาดเดาไม่ได้

(กระบวนท่าที่ 2 สายลมขาวหิมะ)

เขากระโดดขึ้นสูง หมุนตัวกลางอากาศ ฟันกระบี่ลงมาเป็นแนวโค้ง

แรงฟาดนี้ทำให้ชายชุดดำถอยหลังหลายก้าวและเสียจังหวะ

(กระบวนท่าที่ 3 จันทร์ทะยานฟ้า)

ไป๋เยว่หลิงรวมพลังปราณกระบี่ในตัว กระบี่ส่องประกายราวดวงจันทร์เต็มดวง

เขาฟันด้วยแรงทั้งหมดเป็นแนวตรงทะลุศัตรู

ชายชุดดำพยายามป้องกัน แต่แรงลมปราณและความเร็วเกินคาด เขาจับดาบต่อไม่ไหว ทำให้ดาบกระเด็นออกจากมือเขา

ชายชุดดำถอยกรูด อึ้งกับความเร็วและความแม่นยำ ในขณะที่ไป๋เยว่หลิงยืนสงบเหมือนจันทร์กลางฟ้า

นี่คือฝีมือกระบี่ระดับอัจฉริยะในรอบ 100 ปี!

"หัวหน้า!" ชายชุดดำทุกคนทำความเคารพเมื่อมีชายชุดดำคนหนึ่งลอยลงมาช้าๆสู่ลาน เขามีรูปร่างสูงสง่า โดดเด่นกว่าคนอื่นๆชัดเจน

"เจ้าเป็นใคร?" หัวหน้าชายชุดดำถาม

แต่ไป๋เยว่หลิงเงียบไม่ตอบ ใบหน้าเย็นชา แต่กลับมีกลิ่นไอสังหารที่รุนแรง

"เจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคนบ้านนี้หรือไม่?"

ไป๋เยว่หลิงกำกระบี่ โดยไม่มีใครคิดเขาหมุนกระบี่ชี้ลง และแทงพี่สาวของเขาสิ้นใจตายทันที

หัวหน้าชายชุดดำจ้องมองเขา ก่อนที่จะโบกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนถอย

เมื่อชายชุดดำหายไปหมดแล้ว เขาก็หันหลังและเตรียมกระโดดออกจากบ้านไป

"ช้าก่อน!"

ไป๋เยว่หลิงตะโกน หัวหน้าชายชุดดำหันหน้ากลับมามองเพียงครึ่งหน้า

แล้วสิ่งๆหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่มือหัวหน้าชายชุดดำคว้าไว้ มันคือตลับยาทาแผล

"ที่คอเจ้ามีแผล อย่าให้เป็นแผลเป็น ข้าไม่ชอบ...."

.

.

.

.

.

(11 วันถัดมา)

....ตลาดใจกลางเมืองใหญ่ ยามเช้าเต็มไปด้วยเสียงผู้คนอึกทึกจอแจ แผงผลไม้สด  กลิ่นคละเคล้าทั้งหอมและฉุน เนื้อย่าง สมุนไพรแห้ง กลิ่นหมึกกระดาษ ฯลฯ 

ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น… หากเดินเลาะไปจนถึงมุมหนึ่งของตลาด จะเห็นร้านเล็ก ๆ มุงด้วยหลังคากระเบื้องเรียบง่าย หน้าร้านแขวนกระทะ จอบ เสียม มีด และอาวุธพื้นบ้านหลากชนิด เสียง แกร๊ง! แกร๊ง! ของค้อนกระทบเหล็กดังสม่ำเสมอ

นี่คือ ร้านตีเหล็กของเลี่ยหยาง ชายหนุ่มวัย 17 ปี หล่อ อกใหญ่ กล้ามท้องกล้ามแขนแน่น เขาเป็นคนขี้ร้อนจึงชอบถอดเสื้อทำงาน

รูปร่างสูงหุ่นดีมากมีเหงื่อไคลไหลชุ่มทั้งใบหน้า อก ท้อง และมีรอยเปื้อนนิดๆ โคตรเท่ห์ นั่นทำให้สาวน้อยสาวใหญ่เมื่อเดินผ่านต่างกลืนน้ำลายอึกๆ 

แถมเขายังเป็นคนสดใสร่าเริง อารมณ์ดี ชอบทักทายผู้คนไปทั่วอีกด้วย

"อ้าว! เจ๊! เดินผ่านมองหลายรอบแล้วนะ ปั้มลูกกับข้าเลยไหม?"

"ยืนหน้าร้านข้านาน ๆ เลยลุง เดี๋ยวลูกค้าเข้าร้านข้าเยอะ!"

"ว่าไงเจ้าหนู ซาลาเปาตรงนั้นอีกเดี๋ยวเจ้าของไม่อยู่ เจ้าฉกมาแบ่งกับข้าคนละลูกนะ"

ฯลฯ

กวนๆแบบนี้แหละเลี่ยหยาง ทุกคนในตลาดต่างพูดกันว่าเทพซื่อหมิง(เทพแห่งการควบคุมชีวิตและชะตากรรมของมนุษย์)ทรงให้ความหล่อแมนแก่เลี่ยหยาง แต่...ลืมให้ตำราวิธีใช้มาด้วย

....แล้วสายตาทุกคู่ก็เหลียวมามอง คุณชายชุดขาว ร่างสูง เส้นผมสีดำยาวสวย ห้อยกระบี่ไว้ที่ข้างเอว ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเซียนสวรรค์ มือข้างหนึ่งถือปิ่นโตมาด้วย เขาเดินมาหยุดที่หน้าร้านช่างตีเหล็ก

เลี่ยหยางชะโงกหน้าขึ้นมามองและยิ้มให้

"คุณชายท่านนี้ มาร้านตีเหล็กเหม็นอับ ท่านจะมาซื้อกระทะเป็นของขวัญคุณหนูคนงามในดวงใจท่านหรืออย่างไร? ฮ่าๆๆ"

ไป๋เยว่หลิงไม่ตอบ เขายืนนิ่งๆ แววตาเย็นชา ราวกับจะดับไฟเตาเผา

"หรือ...ท่านชอบของแปลก ๆ อย่างข้าล่ะ? ปกติคนทั้งตลาดเขาอยากอยู่ใกล้สาวงาม แต่ท่านกลับยืนดมกลิ่นเหงื่อข้าอยู่ตรงนี้ล่ะ ฮ่าๆ"

ไป๋เยว่หลิงยื่นหน้าไปใกล้ใบหน้าเลี่ยหยางและสอดส่ายสายตามองรอบ ๆ ใบหน้าอย่างพิจารณา ทำเอาสาว ๆ ป้า ๆ ที่อยู่ร้านค้าแถวนั้นมองด้วยสายตาเขินแก้มแดง

"ท...ท่านจะทำอะไร???"

"อืมม...แผลแห้งละ ดีที่ไม่เป็นแผลเป็น..." คนแซ่ไป๋มองที่รอยแผลเล็กๆตรงคอแล้วพูด

เลี่ยหยางหน้าถอดสีนิดหน่อย "ไอ้หล่อนี่ ...มันจำข้าได้!" มือเขากำค้อนตีเหล็กร้อนๆไว้แน่น!

ไป๋เยว่หลิงชักกระบี่ออกมา เลี่ยหยางในใจเตรียมต่อสู้

แต่แล้วไป๋เยว่หลิงเดินผ่านเขาไปแล้วเอากระบี่วางไว้ที่โต๊ะ

"กระบี่ข้า ....ซ่อมด้วย"

เลี่ยหยางถอนหายใจยาว "ด่ะ....ได้ขอรับคุณชาย"

เยว่หลิงเอาปิ่นโตวางบนโต๊ะ "กินซะ มัวแต่ทำงานเดี๋ยวไม่มีแรง" 

แล้วเขาก็เดินจากไปดื้อๆ 

"ห....เห้! เดี๋ยวสิ!" เลี่ยหยางงงกับกริยาท่าทางของเยว่หลิง แม้เรียกตาม แต่คุณชายชุดขาวก็เดินจากไปไม่สนใจ

เขาเปิดปิ่นโตดูพบหมั่นโถวร้อนๆกับไก่ตุ๋นและเนื้อย่าง 3 อย่างกลิ่นช่างหอมกรุ่นเรียกน้ำย่อยยิ่งนัก

เลี่ยหยางมองอาหารพวกนี้และกระบี่ที่วางบนโต๊ะด้วยความงุนงง(อย่างแรง)

"อะไรของมันวะ!"

....กลางคืนคลี่คลุมเมืองใหญ่ด้วยม่านแสงจันทร์สลัว เสียงดนตรีจากพิณ กลอง และขลุ่ยดังผสานก้องไปทั่วหอนางโลมชื่อดังแห่งหนึ่ง ประตูใหญ่ประดับโคมไฟแดงแกว่งไกว สาดแสงวาบอาบผิวถนนด้วยเงาอุ่นราวเปลวเพลิงในราตรี

ภายในหอเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอันเสนาะหู กลิ่นสุราหอมแรงผสมกลิ่นกำยานกรุ่นฟุ้ง ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งนั่งรายล้อมด้วยเหล่าสาวงามนับสิบ ร่างบางในอาภรณ์แพรพริ้วโลดแล่นอยู่กลางห้อง โค้งกายเริงระบำดั่งผีเสื้อเล่นไฟ เสียงถ้วยสุรากระทบกันดัง แกร๊ง สลับเสียงปรบมือแซ่ซ้อง ขับบรรยากาศให้ยิ่งรื่นเริง

เลี่ยหยางนั่งดื่มสุราอยู่ในห้องๆหนึ่ง มีสาวงาม 3 คนล้อมหน้าหลัง แม้จะสวมเสื้อแต่เขาไม่ได้ใส่กระดุมเปิดให้เห็นหน้าอกแน่นๆและกล้ามท้องซิกแพคชัดเจน ทำเอาสาวๆใจเต้นเข้าไปซบ กอด ลูบ นัวเนียร่างกายเขาไม่ห่าง

แม้ท่าทางจะเฮฮา แต่...แววตาเขากลับเรียบนิ่งเฉียบคม แฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันต่อความฟุ้งเฟ้อรอบกาย เขายกถ้วยสุราจิบเบา ๆ แสร้งยิ้มรับเสียงเชิญชวนของสาวงามที่นั่งเคียงข้าง

แต่ภายในใจหาได้สนใจสุราหรืออกนวลตรงหน้าไม่ สายตาของเขากลับจับจ้องไปยังขุนนางกังฉินคนหนึ่งที่กำลังร่ำสุรานารีตัวท๊อปๆของหอ อยู่ที่ห้องโถงด้านล่าง

..."เหยื่อ" กำลังหัวร่อสำราญ กอดนางคณิกาไว้แนบกายโดยไม่รู้เลยว่าเงามัจจุราชได้เฝ้ามองอยู่ไม่ไกล...

....ทันใดนั้น ประตูหน้าก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงสง่าของชายหนุ่มในชุดขาวสะอาดตา ผ้าพราวตัดเย็บเนี้ยบเรียบร้อยเหมือนหิมะทอประกายยามกลางแสงตะเกียง ใบหน้าหล่อเหลาบริสุทธิ์คมชัดของเด็กหนุ่ม 18 ปีวัยขบเผาะ ดวงตาคมกริบเย็นดุจจันทรา ท่วงท่าการเดินมั่นคงทุกก้าว ราวกับดวงจันทร์ลอยเหนือคลื่นในยามราตรี

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ เสียงหัวเราะและดนตรีที่เคยคึกคักก็ราวกับถูกดึงให้ชะงักลง แม่เล้ากับสาวงามทั้งห้องต่างหยุดชะงัก มือที่ถือถ้วยสุราตกลงพื้น แขกทุกคนมองไปยังชายชุดขาวด้วยสายตาตื่นตะลึง

สาวงามมากมายผงะจากแขกรีบวิ่งไปหาคุณชายไป๋ บ้างจับแขนควงแขน บ้างเอาหน้าอกไปแนบ ห้อมล้อมไป๋เยว่หลิงหลายสิบคน ทำเอาแขกในร้านไม่พอใจ จนแม่เล้าต้องรีบเดินเข้ามา

"ไม่คิดเลยว่าหอข้าจะมีวาสนาได้ต้อนรับคุณชายไป๋ผู้สง่างาม"

"แต่....คุณชายโปรดเลือกสาวงามสักคนเถิด หากทุกคนมาห้อมล้อมแต่ท่านเช่นนี้ ข้าเกรงแขกอื่น ๆ จะทนความเหงาไม่ไหว"

ไป๋เยว่หลิงไม่ตอบ เขามองไปรอบๆ และเริ่มมองขึ้นไปด้านบน 

"ให้ข้าเรียกแม่นางลี่เหม่ยหลันสาวงามที่สุดขอร้านมารับใช้คุณชายดีไหมเจ้าคะ"

ไป๋เยว่หลิงยังคงไม่ตอบแม่เล้า เขาสอดส่ายสายตามองจนเห็นเลี่ยหยางนั่งอยู่บนชั้นสอง เขาจึงรีบเดินออกจากฝูงสาวงาม

"ข้าไม่ได้มาเที่ยว..." แล้วเขาก็เดินจ้ำอ้าวขึ้นไปชั้นสอง แม่เล้าอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก

เลี่ยหยางเห็นเยว่หลิงเดินมาหาทางตนก็เขินรีบลงไปมุดหลบใต้โตีะ แต่ไม่ทันแล้วคุณชายไป๋เปิดประตูห้องเข้ามาแล้ว

เขาเดินมาที่โต๊ะ โดยไม่สนใจเสียงกรี๊ดกร๊าดของนางโลมทั้ง 3 เดินมาที่โต๊ะ แล้วลงนั่งยองๆ เปิดผ้าเห็นเลี่ยหยางซ่อนอยู่ใต้โตีะ

"แหะๆ สวัสดีขอรับคุณชาย +_+ "

เยว่หลิงไม่ตอบ เขามุดเข้าไปใต้โต๊ะหาเลี่ยหยาง ผ้าคลุมโต๊ะตกลงมาปิดจนทำให้เขา 2 คนมุดอยู่ใต้โต๊ะ สาวๆมองด้วยใจเต้น ผู้ชาย 2 มุดโต๊ะอยู่ด้วยกันตามลำพัง พวกเขา พวกเขา พวกเขา .....(สาวๆจินตนาการจนเคลิ้ม)

แล้วเยว่หลิงก็เอื้อมมือมาที่ใบหน้าเลี่ยหยาง

"ท...ท่านจะทำอะไร อร๊ายยย! อ...อย่านะ! ข....ข้า....ช่วยข้าด้วย!" เลี่ยหยางหลับตาปี๋ >_<

แต่ไม่มีใครคิดจะช่วย สาวทั้ง 3 คนได้ยินเสียงร้องของเลี่ยหยางกลับกรี๊ดกร๊าดหัวใจตื่นเต้นใจรัวๆ คนหล่อ 2 คนทำอะไรกันแล้ว!

พอเลี่ยหยางลืมตา เขาก็เห็นมือของไป๋เยว่หลิงกำลังใช้ผ้าโพกสีแดงผูกศรีษะให้เขาอยู่ มือของเขาช่างขาวเนียนยิ่งกว่าสตรีเสียอีก ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือมือของนักกระบี่เลื่องชื่อ

“ผ้าโพกศรีษะของเจ้าเก่าแล้ว เปลี่ยนมาใช้ผืนใหม่นี่แทน...”

เลี่ยหยางมองผ้าโพกศรีษะสีแดงแล้วเขินๆ

“ข...ขอบคุณ ๆ ชายมากขอรับ แต่แค่เรื่องเล็กน้อยๆ แค่นี้...”

เลี่ยหยางเอามือจับผ้า ชี้ไปยังหัวตัวเอง

“ผ้านี้คุณชายจะให้ข้าเอาไว้ป้องกันสะเก็ดเหล็ก ...หรือป้องกันใจข้าจากท่านดีล่ะ ฮ่าๆๆ”

ไป๋เยว่หลิงสายตาเย็นเฉียบ แต่ดวงตาแวววาวบางอย่าง

“ทั้ง 2 อย่าง”

เยว่หลิงลุกขึ้น แล้วเขาก็ออกจากห้อง เดินตรงออกประตูจากไป 

เลี่ยหยาง ทำมือบอกพวกลูกน้องที่ปลอมตัวอยู่ในหอนางโลม ให้ยกเลิกแผนคืนนี้ เหตุการณ์ไม่ปกติแล้ว...

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
34 Chapters
คุณชายจันทราขาว
....เริ่มพลบค่ำแล้ว แสงจากดวงจันทร์เริ่มทอประกายเหนือยอดไม้เงาร่างสูงโปร่งในชุดขาวสะอาดราวหิมะ ยืนเดี่ยวกลางลานหินของสำนักกระบี่ผมดำยาวสลวยพลิ้วตามสายลม แววตาเย็นสงบ แต่ดาบในมือกลับคมกล้าไร้ผู้เทียบเขาคือ “ไป๋เยว่หลิง" อัจฉริยะกระบี่หนึ่งเดียวในร้อยปีทุกครั้งที่เขาวาดกระบี่ เงาของจันทร์ราวกับแตกกระจายไปทั่วลานประลองทั้งอาจารย์ ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง แม้แต่ชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้หญิง ต่างหลงไหลในรูปร่างหน้าตาที่หล่อราวเทพบุตรจากสวรรค์ของเขาแต่...เบื้องหลังแววตานิ่งสงบนี้ ซ่อนดวงใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลเพราะยามก้าวข้ามประตูเรือนตระกูลใหญ่สกุลไป๋ เขากลับไม่มีวันใดสงบสุขพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงกลับกลั่นแกล้งเขาอย่างไร้ปรานีเขาถูกวางยาพิษในอาหารตั้งแต่เด็ก ตลอดจนถึงส่งคนลอบทำร้ายซ้อมเขาในยามค่ำคืนและหากเขาหยิบกระบี่ขึ้นมาตอบโต้ เขาจะถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนอย่างรุนแรงทุกครั้งบาดแผล...ที่ผู้อื่นไม่เห็น เหล่านั้นสะสมอยู่ในใจของเขามาตั้งแต่เด็กๆ จนบัดนี้เขาอายุได้ 18 ปีแล้วนั่นคือสาเหตุที่ไป๋เยว่หลิงชอบฝึกกระบี่อยู่ที่สำนักจนดึกดื่น ไม่อยากกลับบ้าน....ค่ำคืนนี้มืดเหมือนทุกคืน เด็กหนุ่มเดินก้าวเข้
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
เอ้า! นี่กระบี่ของเจ้า!
....ยามเช้าในตลาดคึกคักด้วยเสียงเรียกขายของของพ่อค้าแม่ค้า กลิ่นหอมของเกี๊ยวนึ่งร้อนและชาใหม่ลอยคลุ้งปะปนกับกลิ่นควันถ่าน ผู้คนพลุกพล่านขวักไขว่ ทั้งเด็กวิ่งเล่น ทั้งชาวบ้านหาบหามของ มอบชีวิตชีวาให้แก่เมืองแห่งนี้ณ หน้าร้านตีเหล็กเลี่ยวหยาง ไป๋เยว่หลิงยืนนิ่งรอร้านเปิด มือขวาถือปิ่นโตข้างในมีชามโจ๊กใส่เนื้อและผลไม้อยู่ ข้างเอวมีฝักกระบี่เปล่าห้อยเหน็บอยู่แต่ยืนรออยู่หลายชั่วยามร้านตีเหล็กก็ไม่เปิด จนป้าขายหมูร้านข้างๆหันมาบอกว่า"พ่อหนุ่ม ข้าว่าเจ้าเลี่ยหยางมันเมาไม่สร่างแน่ๆเลย มันก็ยังงี้แหละชอบออกไปกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนดึกๆดื่นๆ เดี๋ยวถ้ามันเปิดร้านแล้วข้าจะบอกให้ ท่านมาวันหลังเถอะนะ"ไป๋เยว่หลิงรับฟัง จึงนำปิ่นโตให้ท่านป้า "ท่านป้าข้าฝากให้เขาด้วย" แล้วเขาก็เดินจากไป...จริงๆเลี่ยงหยางแอบมองจากด้านในร้านผ่านช่องเล็กๆ "ไอ้หน้าหล่อนี่ ตื้อข้าจริง!""เอายังไงดีหัวหน้า เมื่อคืนก็ต้องยกเลิกเพราะมัน" ลูกน้องข้าง ๆ พูดกับเลี่ยหยาง"เราล้างสกุลมัน ตอนนี้มันล่วงรู้เงามือของเรา ไม่ควรปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไป..."เลี่ยหยางพูดขัด "รอก่อน ข้าอยากดูมันอีกสักพัก"ลูกน้องคนสนิทไม่พอใจ แต่ก็ไ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
ของรักของข้า
....เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดแรกเพิ่งสาดผ่านกลุ่มควันเตาถ่าน ร้านตีเหล็กของเลี่ยหยางยังคงมีเสียงค้อนกระทบเหล็กดังกังวาน ตึง! ตึง! ตึง! ทว่าเสียงนั้นกลับถูกกลบด้วยเสียงเกราะเหล็กกึกก้องย่ำพื้นดินเป็นจังหวะ พริบตาเดียว หน้าร้านก็ถูกทหารติดอาวุธครบมือหลายสิบคนล้อมแน่นเลี่ยหยางสะดุ้งเฮือก หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก แต่ใบหน้าเขาพยายามนิ่งเฉย ไม่ให้เห็นความคิดข้างในใจ"ตามข้ามา!"เลี่ยหยางทำสัญญาณมือบอกลูกน้องของเขาเองที่ปลอมตัวเป็นชาวบ้านว่าห้ามเคลื่อนไหวเสียงโซ่เหล็กกระทบกัน กรุ๊งกริ๊ง… ดังสะท้อนออกมา มีเจ้าหน้าที่ 2 นายก้าวเข้ามาจับแขนเลี่ยหยางบิดไพล่หลัง แล้วใช้โซ่ล่ามรัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน เลี่ยหยางยังคงนิ่ง สายตาคมเย็นไม่ไหวติง ทหารกดบ่าของเขา บังคับให้ก้าวเดินต่อหน้าผู้คนในตลาด ผู้คนแตกตื่นแห่กันมามุงดู บางคนซุบซิบด้วยความหวาดกลัว บางคนเพียงยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ภาพช่างตีเหล็กที่เคยส่งเสียงหัวเราะยียวนกลับถูกลากไปดั่งนักโทษโฉด มันเหมือนฟ้าผ่าลงกลางเมืองพวกเจ้าหน้าที่พาเขาฝ่าฝูงชน ก้าวเข้าสู่ถนนใหญ่ที่มุ่งตรงไปยังว่าการอำเภอ เสียงกลองยามดัง ตึง…ตึง…ตึง คล้ายประกาศให้ทั้งเมืองร
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
สองต่อสองในบ้านสกุลไป๋
....เสียงฝนโปรยปรายลงบนหลังคา กลิ่นหินและดินชื้นผสมกลิ่นสมุนไพรคละคลุ้งในเรือนเงียบงัน เลี่ยหยางนอนตะแคงอยู่บนเตียง ร่างเปลือยท่อนบนเผยกล้ามเนื้อแข็งแรงแต่เต็มไปด้วยบาดแผลโบยที่แตกฉาน เหงื่อเย็นเกาะทั่วผิว เขาหอบหายใจแรง ทุกจังหวะไอทำให้เลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผลไป๋เยว่หลิงนั่งนิ่งตรงเก้าอี้ไม้ใกล้เตียง ชุดขาวของเขาสะอาดหมดจด ตัดกับความมืดรอบห้อง สายตาคมกริบไม่กะพริบ จ้องเพียงร่างบนเตียง คล้ายไม่ใช่สายตาของมนุษย์ แต่เป็นสัตว์ร้ายที่จ้องสมบัติชิ้นเดียวในโลกของมัน“คุณชายไป๋… จ้องข้าแบบนี้ข้ากลัวนะ ...อย่างกับจะกลืนกินเสียอย่างนั้นแหละ บรื๋อ!”เลี่ยหยางหัวเราะแห้ง ๆ ทั้งที่เจ็บจนขยับแทบไม่ได้ ไป๋เยว่หลิงยกมือช้า ๆ วางลงบนอกแข็งแรงที่เปื้อนเลือด นิ้วเรียวยาวกดแน่นจนเลี่ยหยางขมวดคิ้วเพราะเจ็บเลี่ยหยางกัดฟันแน่น แต่ริมฝีปากยังคงยกยิ้ม “โอ้ย! คุณชาย! ข้าเจ็บนะ!”ไป๋เยว่หลิงโน้มกายลงใกล้ กระซิบติดริมฝีปาก “นี่… เพราะเจ้าทิ้งผลไม้ข้าตกพื้น” น้ำเสียงหวานปนบีบบังคับเลี่ยหยางหัวเราะแหะ ๆ เบา ๆ ทั้งที่หายใจหอบ “ข้าไมได้ได้ตั้งใจคุณชาย....ข้าแค่เห็นท่านงดงาม!”ไป๋เยว่หลิงนิ่งไปเพียงชั่วครู่ ก่
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
ราชบุตรเขย
(1 เดือนผ่านไป).....ณ ร้านตีเหล็กในตลาด เลี่ยหยางกลับมาทำงานได้ปกติแล้ว ป้าร้านขายหมูเดินมาตีก้นเลี่ยหยางดังเพี๊ยะ!"เดี๋ยวนี้ก้นนิ่มจังเลยนะ! โน่น! คุณชายหน้าหล่อเอาอาหารมาให้เจ้าแล้ว"เลี่ยหยางเงยหน้ามองเห็นเยว่หลิงเดินมาแต่ไกล คุณชายในชุดขาวบริสุทธิ์ร่างสูงผมสีดำหน้าตาหล่อดุจเซียนจากสวรรค์ เขาช่างโดดเด่นกว่าทุกๆคน มองกี่ครั้งเลี่ยหยางก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อ เมื่อเยว่หลิงมาถึงหน้าร้านเขาจ้องมองหน้าของเลี่ยหยาง แม้ใบหน้าจะเย็นชา แต่แววตานั้นกลับดูสดใสมีความสุข"วันนี้วาสนาปากข้าจะเป็นสิ่งใดหนอ?" เลี่ยหยางทักทายแบบกวนๆเยว่หลิงเปิดปิ่นโตออกมา เป็นอาหาร 2 อย่าง1. ข้าวต้มทรงเครื่องราชสำนัก ประกอบด้วย ข้าวเหนียว, ถั่ว, ธัญพืช และผลไม้อบ ซึ่งปกติแล้วจัดเสริฟเฉพาะโต๊ะอาหารในคฤหาสน์ขุนนางขึ้นไปเท่านั้น2. ปลาต้มไท่จื่อ เป็นปลาสดทั้งตัว นึ่งกับขิง, ต้นหอม และซอสพิเศษ วัตถุดิบหายาก ปรุงละเอียดเพื่อคงรสชาติเนื้อปลา เป็นสัญลักษณ์ถึงความสง่างามและยศศักดิ์ของพวกขุนนางขึ้นไป"โอ้โห! หลิงหลิง อาหารล้ำค่าเช่นนี้เจ้าคิดว่าข้าเป็นมหาเสนาบดีหรือไง?""ข้าทำเอง..." ไป๋เยวหลิงพูดเบาๆเลี่ยหยางไม่รอช้ารีบใช้
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
ไปกันเถอะ...
เลี่ยหยางเอาเสื้อขาวที่พกมาด้วยโยนให้เยว่หลิง"ใส่ซะ! ขืนยังแก้ผ้าแบบนี้ สาวๆคงไม่เหลือมาหาข้า!"เยว่หลิงรับเสื้อมาสวมใส่เรียบร้อย เป็นเสื้อสีขาวที่เขาชอบใส่ไปร้านตีเหล็กประจำนั่นเอง แต่ไม่ใช่ชุดเก่าของเขา เป็นเสื้อใหม่ที่เลี่ยหยางแอบสั่งตัดให้"เอ้า! เจ้าคงขาดสิ่งนี้ไม่ได้" เลี่ยหยางยื่นกระบี่คมวาววับให้เยว่หลิง ๆ รับถือไว้ในมือมั่นก่อนที่ไป๋เยว่หลิงและเลี่ยหยางจะออกไปทางหน้าต่าง เลี่ยหยางเกาศรีษะแล้วหันมาพูดกับองค์หญิง"เอ่อ...ข้ามันคนเรียนมาน้อย แต่...องค์หญิง หากทุกปัญหาต้องให้คนอื่นแก้แทน แล้วต่างอะไรกับเด็กที่ยังหัดเดินพะยะค่ะ?”“การตัดสินใจคือกระบี่เล่มแรกของชีวิต พระองค์จะกล้าใช้มันหรือจะปล่อยให้ขึ้นสนิมอยู่ในฝัก ก็อยู่ที่ตัวพระองค์เองนะ”องค์หญิงฟังทุกคำที่เลี่ยหยางพูดด้วยแววตาที่ซึมซับอะไรบางอย่างเข้าในจิตใจตัวเอง แล้วเลี่ยหยางและเยว่หลิงก็กระโจนหน้าต่างออกไปห้องหออยู่ด้านบนสุด ทำให้ทั้งคู่ตอนนี้อยู่บนหลังคาสูงสุดของตำหนักรับรอง"ท่านจะไปไหนค่ำคืนส่งตัว? ราชบุตรเขย!"เสียงเล็กแหลมก้องชัดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือขันทีชราในชุดหม่นใบหน้าซีดนั่นเอง"อ้าว นังสุ่น! เผือกเรื่องผ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
คืนนั้นในกระท่อม
.....ฝนตกหนัก เลี่ยหยางและเยว่หลิงซึ่งออกไปเดินเที่ยวลำธารรีบวิ่งกลับมาที่กระท่อมในสภาพเปียกปอน"หลิงหลิงเจ้ารีบไปเอาเสื้อมาเปลี่ยนเร็ว เดี๋ยวจะไม่สบาย" เลี่ยหยางถอดเสื้อออกเห็นหน้าอกใหญ่ กล้ามแขน ไหล่กว้าง ท้องซิกแพ็คแน่น ๆ ผิวสีนวลอมทองจากการอยู่หน้าเตาหลอมเหล็กร้อนมานาน ใบหน้าคม ๆ แต่แฝงความกวนและยั่วเย้า มือใหญ่แต่เรียวกระชับเยว่หลิงยืนตรง ในสภาพเปลือยท่อนบน เขากำลังปลดมัดผมออกเห็นสีดำยาวสลวย มือเรียวเล็กเหมือนผู้หญิง ขาวเนียนละเอียดสะท้อนแสงเทียนอ่อน ๆ ใบหน้าหวานละมุน ริมฝีปากอิ่มสีชมพู ทำให้เลี่ยหยางอดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตามอง"ข้าลืมเก็บผ้าที่ตากไว้...""ซวยแล้ว!" เลี่ยหยางเกาหัว "เสื้อก็เปียกใส่ก็จะไม่สบาย งั้นก็แก้ผ้าอยู่อย่างนี้แหละ" เลี่ยหยางท้าวเอวบ่นอุบ ท่านี้ของเขายิ่งทำให้เห็นกล้ามแขน กล้ามท้อง รวมถึงหน้าอกที่นูนออกมาอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เยว่หลิงแอบมองตรงหน้าอกและท้องไม่ละสายตาเลี่ยหยางเข้ามาใกล้ เยว่หลิงรู้สึกถึงความอบอุ่นของร่างสูงสง่าไหล่กว้าง ก่อนที่แขนแข็งแรงจะเอื้อมมาสัมผัสหลังศีรษะเขา มือใหญ่แต่แผ่วเบา ลูบไล้ผมสีดำยาวสลวยของเยว่หลิงอย่างระมัดระวัง ช่วยเช็ดหยดฝ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
(ภาคฉางอัน) ข้าแค่มากินแพะตุ๋น
....นครฉางอัน เมืองที่ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินแถบตะวันออก กำแพงเมืองสูงตระหง่านทอดยาวสุดสายตา ประตูเมืองใหญ่สร้างด้วยศิลาแข็งแรง มีประตูไม้โอ๊กหุ้มเหล็กที่เมื่อเปิดออกก็เหมือนเปิดรับสายน้ำแห่งผู้คนและพ่อค้าจากทั่วสารทิศถนนหลวงกว้างใหญ่ตรงแนวเหนือใต้ตัดผ่านใจกลางนคร ราวกับกระดูกสันหลังของมังกร ทิวแถวร้านค้าและตลาดคึกคักไปด้วยเสียงตะโกนขายของ กลิ่นอาหารหอมอบอวล ทั้งเนื้อย่างร้อนฉ่า ขนมแป้งหวาน และเครื่องเทศจากแดนไกลที่ถูกลำเลียงมาทางเส้นทางสายไหมณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเยว่หลิงและเลี่ยหยางยืนเข้าแถวต่อคิวอยู่ เหลืออีก 1 คิวก็จะถึงพวกเขาแล้ว"รถม้าเจ้าขนอะไรมา?" ทหารถามชายพ่อค้าที่กำลังปาดเหงื่อด้วยท่าทางกังวล เขาเข้าไปใกล้นายทหารแล้วหยิบถุงเงินเล็ก ๆ ใส่มือ"แหะ ๆ นี่เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อย ๆ เป็นค่าสุราให้นายท่านขอรับ""ผ่านได้!" ชายพ่อค้าให้คนงานจูงรถม้าเข้าเมืองไปอย่างง่ายดายพอถึงคิวเยว่หลิงและเลี่ยหยาง ทหารก็ทำหน้าเข้มขรึมใส่"พวกเจ้าจะพกกระบี่และดาบเข้าเมืองรึ?" แล้วนายทหารเอื้อมมือไปจะจับกระบี่เยว่หลิน แต่เยว่หยิงไม่ให้จับ"กระบี่ข้า เจ้าไม่คู่ควร..." เลี่ยหยางทำหน้ากลุ้มใจ ไอ้หล่อปากแกว
last updateLast Updated : 2025-09-30
Read more
(ภาคฉางอัน) ท่านลุง
ทันใดนั้นก็ประตูก็เปิดดังปัง"ฮ่า ๆ เลี่ยหยางเจ้ามาฉางอันตั้งแต่เมื่อไหร่?" เป็นชายอายุ 50 - 60 ผิวสีน้ำผึ้ง แต่งกายมอมแมมชุดช่างตีเหล็ก"ท่านลุง" เลี่ยหยางยิ้มแล้วโบกมือทักทาย ท่านลุงเมื่อเห็นหลานชายก็รีบเข้ามานั่ง ก้นกระแทกเก้าอี้จนสั่น เอาแขนโอบไหล่หลานดึงศรีษะเข้ามาใกล้เลี่ยหยางซึ่งกำลังกินเนื้อแพะอยู่นั้นสำลักเล็กน้อย แต่สู้แรงแขนใหญ่ ๆ ล่ำ ๆ ของลุงไม่ได้จึงได้แต่คล้อยศรีษะมาตามแรงแขน"ป่ะ! ไปกินข้าวบ้านลุงกัน" แล้วท่านลุงก็ดึงเลี่ยหยางให้ลุกขึ้น พาออกจากร้านเยว่หลิงคีบชิ้นสุดท้ายใส่ปากค่อยๆบรรจงกิน แล้วลุกขึ้นวางเงินไว้ที่โต๊ะแล้วเดินออกตามเลี่ยหยางไปทันทีเยว่หลิงออกจากร้านมามองซ้าย-ขวา เขาเห็นขอบชายเสื้อเลี่ยหยางอยู่ซอกมุมตึกเขาจึงเดินเข้าไปเมื่อเขาไปถึง ก็มีมีดสั้นจ่อคอเขาทันที และผู้ที่ถือก็ไม่ใช่ใคร ท่านลุงของเลี่ยหยางนั่นเอง"ท่านไม่ควรอยู่ใกล้หลานข้า ราชบุตรเขย!" แววตาท่านลุงดูเกรี้ยวกราดเคร่งขรึมต่างจากท่าทางสนุกสนานในร้านแพะตุ๋น"อย่า!" เลี่ยหยางยกมือห้าม"หึ! หลานข้า ลุงทำเพื่อปกป้องเจ้า""ไม่ใช่! อย่าทำอะไรลุงข้า! หลิงหลิง!!"ท่านลุงเหลือบตาจากสายตาเย็นชาไร้ความรู
last updateLast Updated : 2025-09-30
Read more
(ภาคฉางอัน) เทศกาลเลือด
....ค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงโคม พร่างพรายราวหมู่ดาวทั้งปวงถูกชักลงมาโลดแล่นบนแผ่นดิน เมืองฉางอันสว่างไสวสวยงามที่สุดแห่งรอบปี ผู้คนแต่งกายงดงาม แห่กันมาชมโคมไฟและกายกรรมในลานพิธีหลัก ทว่าภายใต้ความบันเทิงกลับซ่อนคมดาบและเพลิงมรณะเสียงดนตรีและเสียงหัวเราะขาดสะบั้นลง เมื่อ นักกายกรรมสวมหน้ากาก พลันกระโจนออกจากเวที ดาบและหอกสั้นที่ซ่อนมาถูกชักออกพร้อมเพรียง เป้าหมายไม่ใช่การแสดงอีกต่อไป หากคือชีวิตขององค์รัชทายาทที่ประทับอยู่ท่ามกลางขุนนางทันทีที่โลหะปะทะกัน เสียงฆ้องกลองแห่งงานรื่นเริงพลันกลายเป็นสัญญาณแห่งหายนะนักฆ่ากลุ่มอื่นที่ซ่อนตัวอยู่ตามหอสังเกตการณ์ จุดระเบิดดินประสิวขึ้นพร้อมกัน เปลวเพลิงกระจายสะบั้น เสียงระเบิดดังสะท้านจนพื้นหินสั่นสะเทือน หอสังเกตการณ์หลายแห่งทรุดตัวลง ไฟลุกท่วมเหมือนเสาหลักเพลิงกลางคืนโคมไฟที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข พลันร่วงหล่นลงมาจากเชือกและเสาสูง ตกกระทบหลังคาไม้และผ้าแพรของร้านค้า เกิดเป็น ทะเลเพลิง ลามไปทั่วตลาดเสียงกรีดร้องดังแข่งกับเสียงระเบิด ผู้คนวิ่งหนีตายชนกันระเนระนาด เด็กหลงร้องหาแม่ หญิงสาวสะดุดล้มกลางฝูงชน ชายแก่ถูกไฟคลอกจนวิ่งไม่
last updateLast Updated : 2025-09-30
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status