หน้าหลัก / โรแมนติก / คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ! / : ตอนที่ 4 : My little Girl ปรเมษฐ์หรือจะเลิกเลี้ยงต้อย! (1)

แชร์

: ตอนที่ 4 : My little Girl ปรเมษฐ์หรือจะเลิกเลี้ยงต้อย! (1)

ผู้เขียน: พันพราย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-16 17:44:59

ปรายลดาเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณเสมอ แม้ยังมีความรู้สึกขุ่นเคืองใจพ่อเลี้ยงอยู่ เธอเคยทำหน้าที่ดูแลเขาอย่างไร ยังทำเหมือนเดิมไม่มีขาดตกบกพร่อง

แต่เช้ามาไข้ที่ลดลงมากแล้วทำให้พอลุกไหว เธอจึงเข้าครัวไปทำอาหารง่าย ๆ เอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเดินทางของเขาใส่ไม้แขวนไว้อีกฝั่งถัดจากเสื้อผ้าของเธอ ของใช้ผู้ชายก็นำไปไว้ในห้องน้ำ วางข้าวต้มลงบนโต๊ะแล้วครอบฝาไว้

การกระทำทุกย่างก้าวอยู่ในแววตาคู่คมเข้มประกายจรัสคู่หนึ่งของคนที่นอนเหยียดกายอยู่บนโซฟาในชุดทำงานชุดเดิมของเมื่อวาน

ความร้อนรุ่มในเรือนกายชายแกร่งสะสมมาร่วมสองเดือน กับการที่เขาต้องไปอยู่คนเดียวลำพัง ไกลถึงเกาะสวรรค์อย่างปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ มันเหมือนน้ำเดือด ๆ ในกระติกน้ำร้อนที่ใส่น้ำเยอะเกินไป

มันอาจจะระเบิด... หรือเครื่องพังตอนไหนก็ได้

ปรเมษฐ์คิดว่าเธอน่าจะรู้...

จากขอบตาแดงช้ำใต้ดวงตาคู่สวยที่ยังคงลอบมองโซฟาหน้าโทรทัศน์จอแอลซีดีอยู่บ่อย ๆ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเสือโหย ดูท่าทางว่าจะอยากเป็นอาหารเสืออีกต่างหาก

ร่างบางในชุดนักศึกษาค่อย ๆ นั่งลงบนโซฟาข้างคนที่นอนขี้เกียจอยู่กับผ้านวมหนา “พี่เปาจะกินข้าวเลยไหม? จะกินน้ำอะไร พุดจะลงไปเซเว่น ไปซื้อให้”

“พี่กินแค่ข้าวพุดก็พอแล้ว เราน่ะ.. ไปเรียนไหวหรือไง พี่ว่าไปหาหมอก่อนไหม? เรียนเมื่อไรก็ได้ ถ้าไม่ไหวก็ดรอปไปก่อน”

“พุดไปหาหมอมาแล้วค่ะ พุดมียากิน ยังไงก็ต้องไป พุดอยากเรียนจบไว ๆ” ในประโยคหลังกระตุกหัวใจอยู่ไม่น้อย หากว่าสาวน้อยของเขาจะไปมีชีวิตของตัวเองเหมือนที่เธอกำลังทำ จะอย่างไร ความเป็นห่วงนั้นมีมากกว่า

เมื่อปรายลดาพยายามปกปิดอาการป่วยไว้ด้วยเครื่องสำอางอ่อน ลิปสติกสีชมพูหวาน เป็นอะไรที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย

“พุดไปหาหมอตอนไหน กินยาอะไร?”

คนถูกถามเงียบไปครู่จึงตอบ “พุดเป็นไข้บ่อย กินยาเดิมนั่นแหละ อาการมันเหมือนเดิม”

“เป็นไข้อะไรบ่อย ๆ?” ในสีหน้าสงสัย ปรเมษฐ์คงไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ จนกว่าเขาจะได้คำตอบ “เราปิดบังอะไรพี่?”

“พุดไปเรียนก่อน ค่อยกลับมาคุยได้ไหมคะ?”

“มีเรียนกี่โมงล่ะ? มออยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ไม่ใช่เหรอ”

นิสัยของปรายลดาคือตื่นก่อนเวลาไปโรงเรียนหลายชั่วโมง เพราะต้องทำหน้าที่แม่บ้าน แม่ครัว ที่เธอต้องยอมเหนื่อยขนาดนั้นเพราะถ้าไม่มีปรเมษฐ์แล้ว ในวันที่พ่อปองกานต์ทิ้งเธอไป เธอคงจะต้องไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า ไม่ได้อยู่บ้านหลังใหญ่ ๆ มีชีวิตสุขสบายขนาดนี้

เธอผ่อนลมหายใจออกครั้งหนึ่ง “พุดอยู่ก่อนก็ได้... พี่เปาจะกินข้าวก่อนไหม? พุดเก็บของของพี่เปา ทำกับข้าว ทำอะไรเสร็จหมดแล้ว”

ในน้ำเสียงอ่อนลงเป็นคนละคนกับหญิงสาวที่โกรธจัดเอาแต่ร้องไห้เมื่อวาน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่งบนโซฟานุ่มที่นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืน สะบัดผ้าห่มออกวางไว้ข้างกายลวก ๆ

“เรากินข้าวกินยาให้เรียบร้อย เดี๋ยวพี่จะไปส่ง...”

“ค่ะ” คำตอบสั้น ๆ ในสีหน้านิ่งเรียบมีความไม่พอใจแฝงอยู่ ผ้านวมหนาที่เขาสะบัดไป เธอแค่ลุกขึ้นไปพับมันให้เรียบร้อย

ปรายลดาควรจะบ่นว่าทำไมเขาถึงได้เป็นผู้ชายซกมก ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่บ่นอะไรสักคำ ชายหนุ่มตาละห้อยมองตามท่าทางเย็นชาไร้เยื่อใย กระทั่งว่าเธอเก็บผ้าห่มหมอนของเขาเสร็จ

“พุด... ยังโกรธพี่ใช่ไหม?”

“พุดจะมีสิทธิ์อะไรไปโกรธพี่เปา.. พี่จะอยู่หรือไป พุดเป็นแค่ลูกเลี้ยง พุดทำได้แค่อยู่ตรงนี้ หน้าที่ของพุดคือเรียนหนังสือให้จบ” เธอมั่นใจในคำพูดของตัวเองทุกถ้อยคำและยังทำหน้าที่ของตัวเองดี แม้ความอดทนใกล้สิ้นสุดลงเต็มทีกับทุก ๆ ครั้งที่เขาทิ้งเธอไปและกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“พี่จะไม่ไปไหนแล้ว กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะพุด เลิกโกรธอะไรไร้สาระน่ะ” ปรเมษฐ์ไม่ขอโทษ ยังไม่ชอบการอ้อนวอนใคร ใบหน้าสดสวยชะงักนิ่ง หม่นหมองกว่าเก่าขณะแค่นยิ้ม

“แน่ใจหรือคะ... ว่าพี่เปาจะเป็นได้?”

คำถามเจือแววเจ็บปวดสร้างความหวาดหวั่นให้เกิดขึ้นในใจชายหนุ่ม ยิ่งปรายลดาเยือกเย็นจนดูเหมือนว่าเธอไม่ใช่คนเดิมที่เขาเคยรู้จัก

“พี่ทำมันไม่ได้หรอก... เชื่อพุดสิ...”

“ก็คอยดูไปละกันว่าพี่จะดูแลเราเหมือนเดิมไหม ไปกินข้าว กินยาได้แล้ว” น้ำเสียงเคร่งขรึมยืนกรานว่าห้ามโต้แย้งใด ๆ เขาลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะรับประทานอาหารไม่กี่ก้าว

ห้องขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ผสมผสานไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ใช้ห้อง ๆ หนึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและทำงาน ผนังสีขาวกั้นแบ่งแยกเป็นสัดส่วน มีครัวขนาดเล็กและโต๊ะรับประทานอาหารสองตัว

กลิ่นหอมกรุ่นของอาหารฝีมือแม่ครัวคนเดิมจากโต๊ะรับประทานอาหารให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขาอยู่ที่บ้าน ชายหนุ่มนั่งลงดีแล้วจึงถาม “พี่แป๋วกับแม่บอกว่าพุดซื้อห้องเองนี่ พี่แต่งให้ใหม่เหมือนเดิมดีไหม?”

“ไม่ค่ะ แบบนี้ดีแล้ว พุดเบื่อสีชมพู” ไม่พูดเปล่า พอนั่งลงในฝั่งตรงข้ามกันกับเขา เธอมีความคิดบางอย่าง...

“ที่พี่เปาว่าให้พุดเป็นเหมือนเดิม มันควรจะเป็นช่วงเวลาไหนดี? ตอนพุดตัวเล็ก ๆ ตอนสิบขวบ หรือว่า... บนเตียงนอนก่อนที่พี่จะทิ้งพุดไป”

ปรเมษฐ์กลืนน้ำลายลงคอจนเกิดเสียง เขาพยายามทำตัวให้เป็นปรกติในทุก ๆ มื้อเช้า ก้มหน้าตักอาหารเขาปาก

“แล้วแต่พุด... พี่เป็นคนอยากกลับมาอยู่กับพุด พี่จะไปบังคับอะไรพุดได้”

“งั้น... พุดยังไม่หิว พุดจะนั่งเล่นมือถือ ค่อยกินข้าวอีกสิบนาที” ว่าแล้วเธอก็จ้องเขาด้วยแววตาวาววับอย่างท้าท้าย

เสียงกระทบกันของช้อนที่หล่นลงในจานดังเคร้ง! เมื่อภาพของอดีตในวัยเยาว์ของปรายลดาผุดเข้ามาในหัว

“เด็กดีไม่เล่นมือถือเกินสิบนาที”

ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นจากที่นั่งมาหยุดยืนข้าง ๆ ตาคมเหลือบมองตามอย่างหวาดหวั่น เธอไม่ได้ใช่เด็กตัวเล็ก ๆ ที่จะทำเรื่องแบบนั้นได้

“พี่... จะกินข้าวยังไง?”

“เมื่อก่อนพี่เปาก็กินได้นี่... ทำไมตอนนี้จะกินไม่ได้” เธอยิ้มอย่างที่เคยคือฉีกยิ้มกว้าง คว้าท่อนแขนใต้ชุดนอนลายขวางไปอีกทาง แล้วหย่อนก้นนั่งลงบนตักแกร่ง โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากวางมือไว้ที่เดิมคือบนโต๊ะ

ร่างนุ่มหอมในชุดนักศึกษาทำเอาสั่นไปทั้งตัว! ความคิดของชายหนุ่มปรากฎอยู่ในสายตาหื่นกระหาย ซึ่งเขาต้องผ่อนลมหายใจออกเฮือกหนึ่ง

“พุด... พุดรู้ว่าพี่ไปเพราะอะไร พุดเป็นแบบนี้พี่ลำบากใจนะ”

เธอยิ้มกับคำพูดของเขาแทนที่จะโกรธหรือน้อยอกน้อยใจ มันเป็นยิ้มที่ปรากฏให้เห็นแม้กระทั่งในแววตา “พุดรักพี่เปา... รักจนอาจจะตายเมื่อไรก็ได้ ถ้าพุดตายคงไม่ได้เผา พุดบริจาคอวัยวะให้โรงพยาบาลไปละ”

“พี่ไม่ชอบฟังเรื่องตาย...”

“พุดแค่บอก” เธอบอกแล้วอิงแอบกายแนบชิด ซบใบหน้าลงบนแผงอกกว้างกำยำ เพื่อที่จะกดจอสี่เหลี่ยมอย่างที่ไม่รู้เหมือนกันว่ากดมันไปเพื่ออะไร

ใจของเธอพร้อมจะกลับไปเด็กสิบห้าขวบอีกครั้ง เธอชอบที่จะนั่งตักเขาเล่นโทรศัพท์ไปแบบนี้จนหลับ สุดท้ายก็ไม่ได้กินข้าว...

มันจึงเป็นปัญหาใหญ่ของปรเมษฐ์ ในสมัยที่เขายังเป็นเสือผู้หญิง เขาดันมีความคิดอกุศลกับเด็กสาววัยสวยสะพรั่งอยู่บ่อย ๆ และต้องคอยหักห้ามใจเพราะยังมีสำนึกความดีความชั่วอยู่ในใจเสมอ จนต้องหาที่ระบายอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย

ทุกวันนี้เขาแค่กลายเป็นเสือสิ้นลายไร้เขี้ยวเล็บ... ที่กลัวแม้กระทั่งเด็กอายุยี่สิบเอ็ดย่างเข้ายี่สิบสองปี

“พุด... ไม่ต้องเล่นมือถือจนครบสิบนาทีก็ได้มั้ง เดี๋ยวไปเรียนสายหรอก” ตาคมเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังครั้งหนึ่ง แล้วหลุบดวงตาสุกใสที่เหลือบขึ้นมองอย่างไม่ได้ให้คำตอบอะไรเขา

กลิ่นหอมอ่อนของเส้นผมสีดำขลับหลังสระไดร์ใหม่ ๆ ใบหน้าสดสวยที่เชยขึ้นมองกรามแกร่งที่มีเคราเขียวครึ้มขึ้นแซม พาเสียงดังสะท้านสะเทือนจากอกของเขาและเธอเกือบจะเป็นเสียงเดียวกัน

มีบางอย่างเกิดขึ้น...

มันเป็นเรื่องปรกติของผู้ชายที่ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี

คนที่นั่งทับมันอยู่เต็มก้นรู้สึกได้ว่าพ่อเลี้ยงแอบซ่อนความยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างขนาดไหนไว้ในกางเกงนอน! มันอยู่ในองศาที่คงจะสามารถสอดใส่กันได้อย่างพอดิบพอดีหากไม่มีเสื้อผ้ามาขวางกั้น

เสียงกริ่งดัง... ช่วยชีวิตคนทั้งคู่ โดยเฉพาะชายหนุ่มที่นั่งแข็งไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้น...

“สงสัยปริมจะมารับ... ไม่ต้องกวนพี่แล้วล่ะ ตามสบายนะคะ” เสียงหวานเอ่ยพลันลุกพรวด เก็บโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋าผ้าอย่างรวดเร็ว ปรายลดาแทบวิ่งออกไปจากห้องของตัวเอง ทิ้งคนข้างหลังไว้กับความหงุดหงิดงุ่นง่านในห้องเปลี่ยว ๆ ลำพัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!   : ตอนที่ 24 : Love รักก็คือรัก... (2) - ตอนจบ -

    “พ่อกินข้าวมารึยัง?” เสียงหวานถามอย่างดีอกดีใจ หลังพ่อปองกานต์ก้าวผ่านประตูบ้านมาได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้นตาคมหลุบมองหน้าท้องเนินนูนของลูกสาวที่ดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเก่า ไม่อวบอ้วนจนเกินไป หน้าตาสดใสมีความสุขดี“ยังเลย มีอะไรให้พ่อกินบ้างล่ะ?”“กับข้าวเต็มโต๊ะเลยพ่อ พี่เปาซื้อมา พ่ออาบน้ำ โกนหนวดก่อนไหมคะ? หรือพ่อจะกินข้าวก่อน” ทั้งน้ำเสียงและแววตาแลดูเป็นห่วงเป็นใยพ่อเสียเหลือเกิน แม้แต่คนที่เดินข้างกันเข้าบ้านแล้วยังรู้สึกได้ตั้งแต่ปองกานต์ทิ้งบ้านไปตอนลูกสาวอายุได้ประมาณห้าขวบ จะกลับมาก็แค่ปีละหนสองหน ยังไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน แม้ไม่ได้มีความผูกพันอะไรกันทางสายเลือดหรืออยู่ด้วยกันตลอด มีหลาย ๆ ครั้งที่ปรายลดาคิดถึงพ่อพอคนพ่อเดินตามไปถึงห้องรับประทานอาหาร ติดห้องรับแขกกว้างขวาง ลูกสาวตักข้าวร้อน ๆ ให้ใส่จาน“เป็นยังไงบ้างล่ะ? ปวดขา ปวดหลังไหม ลูกดิ้นหรือยัง?”“ดิ้นแล้ว... ชอบดิ้นตอนกลางคืน ปวดขา ปวดหลังค่ะ แต่ว่ามีคนนวดให้” วงหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ ก้มหน้าเอียงอายมองทัพพีในมือเหมือนข้าวในหม้อจะโรยน้ำตาล“ไม่ได้เรื่องหรอก พ่อนวดเก่งกว่าเยอะ เดี๋ยวพ่อกินข้าวเสร็จ พ่อนวดเท้าให้ลูกดีไหม?

  • คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!   : ตอนที่ 24 : Love รักก็คือรัก... (1)

    “แม่จัดการหนี้ให้หมดแล้ว อย่าไปก่อเรื่องอีกล่ะ มีพ่อที่ไหนเขาต้องให้ลูกเลี้ยงอายุแค่ยี่สิบกว่า ๆ มาโอนเงินให้ตลอด เหล้าน่ะกินมันเข้าไป ไว้หนวดไว้เครายังกับโจร เมื่อไรแกจะทำตัวเป็นผู้เป็นคนสักที” อนงค์บ่นน้ำไหลไฟดับ ก้าวฉับ ๆ เดินฝ่าแดดร้อนจัดข้างชายที่อยู่ในสภาพเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเก่า ๆ ต่างกันกับตัวเธอ การแต่งตัวนั้นก็ออกไปทางวัยรุ่น ด้วยกางเกงยีนส์เสื้อยืด ไม่ได้นุ่งผ้าซิ่นแบบคนเฒ่าหากพูดเรื่องความกระฉับกระเฉงของสาววัยเจ็ดสิบสองที่ดูแลตัวเองสม่ำเสมอเป็นคนละเรื่องกับลูกชายวัยห้าสิบปี เขาดันดูแก่กว่าแม่เสียอีก“เรื่องของผมเปล่าแม่...”คนได้ยินมองขวับตาขวาง โทสะเดือดพล่านขึ้นมาในทันที “เรื่องของแก มันเป็นปัญหาของฉันไหมล่ะ? ไอ้ที่ต้องมาโรงพักเพราะเจ้าหนี้มันจะฟ้องฉ้อโกง มันไม่ใช่เรื่องของฉันตรงไหน.. ฮะ”“ผมหมายถึงเรื่องหนวด... มันหนวดผม” ปองกานต์ชี้ไปที่หนวดแล้วก็ทำเมินเฉย ปล่อยให้แม่โมโหอยู่อย่างนั้นทีแรกเขาก็นึกว่าพวก ‘เฮียซ้ง’ จะจ้างคนมาทำร้ายหรือไปรังควานลูกสาวของเขา กลายเป็นลากมาขึ้นโรงพักลงบันทึกประจำวัน ยื่นฟ้องฐานฉ้อโกง เพื่อเอาครอบครัวเข้ามาเอี่ยว คู่กรณีอย่างเขาจึงต้องจ่ายเ

  • คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!   : ตอนที่ 23 : I miss you คิดถึง.. (NC25+) (2)

    ‘ผู้หญิงของเจ้านายคุณน่ะ ระวังตัวไว้ดี ๆ ก็แล้วกัน ฉันโทรมาเตือนครั้งสุดท้าย’คำขู่ของหญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความริษยาในตัวลูกเลี้ยงเมื่อหลายวันก่อนทำให้เขาไม่สบายใจอลันทำการสืบสาวเรื่องราวบางอย่างมาได้สักพักว่ามีอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับปิ่นแก้ว และรายงานเจ้านายไปก่อนหน้านี้ นอกจากเรื่องที่เธอไปหาปองกานต์ ยังไปยุ่งวุ่นวายกับพวกกู้หนี้นอกระบบ บ่อน ซึ่งเขาได้สั่งให้ลูกน้องแอบตามไปสัญชาติญาณเลขาฯ ไฟแรงเขาคงอยากลุกขึ้นมาสะสางปัญหาเรื่องผู้หญิงของเจ้านายให้เรียบร้อย คนที่หยุดปลายเท้าลงข้างเตียงดันทักขึ้นเสียก่อน“คุณอลัน... กินข้าวต้ม กินยาให้ครบ ไม่ไหวก็ไม่ต้องลุก เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วนะ” ในน้ำเสียงกึ่งสั่ง ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวราวกระดาษมองกลับไปยังร่างบางในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นงานแบรนด์สมฐานะคุณหนูนัชชาถึงเป็นเด็กปากร้ายไปสักหน่อย เธอกลับรับผิดชอบในการกระทำ ตั้งแต่นอนเฝ้าไข้เขาอยู่ข้างเตียงคนป่วยในโรงพยาบาล ขับรถยนต์ให้แทนเพื่อพาเขากลับมาส่งถึงคอนโดฯ ยังคอยดูแลเรื่องยาและอาหารให้ไม่แปลกที่ฝรั่งไร้ญาติจะเกิดความรู้สึกเศร้าเสียดาย จู่ ๆ เขาซึ่งอยู่คนเดียวมาตลอดดันอยากให้เธออยู่ด้วยกันเรื่อย ๆ

  • คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!   : ตอนที่ 23 : I miss you คิดถึง.. (NC25+) (1)

    ​ตั้งแต่ทุกคนออกจากบ้านไปแล้วหญิงสาวกลับมาแค่สองคน ได้เรื่องว่าเลขาฯ หนุ่มโดนหมอจับล้างท้องจนไม่เหลือเรี่ยวแรงยังต้องนอนหยอดน้ำเกลือ เขาคงจะต้องโมโห จึงพยายามติดต่อเจ้าตัวซึ่งหายเข้ากลีบเมฆ ยังไม่รับสายหลังก่อเรื่องเอาไว้ทันทีที่ประตูบ้านปิดลงพร้อมการจากไปของนัชชาซึ่งรับปากว่าจะไปดูแลอลัน ให้แทน เนื่องจากว่าลูกครึ่งหนุ่มบราซิลไม่มีญาติที่ไหนร่างสูงในชุดทำงานก้าวพรวดไปสอดลำแขนเข้าประคองเอวเล็ก สัดส่วนโค้งเข้าพอดี หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยตามอายุครรภ์เพียง 13 สัปดาห์ ปรายลดาเริ่มใส่เดรสของคนท้องบ้างในบางวันยังติดเข็มกลัดไว้ตามที่แม่อนงค์บอก“พุทรา... พวกเขาไปกันหมดแล้ว หมดเรื่องแล้ว พุดไม่ต้องกังวลนะ พี่ไม่อยู่เฉย ๆ กับเรื่องนี้แน่” ปลายเสียงเด็ดขาด แน่ว่าเขาจะต้องเอาเรื่องในภายหลัง หล่อนไม่มีวันได้มาเหยียบบ้านของเขาอีก!ตอนนี้เขายังคิดอยู่ว่าถ้าสตรีมีครรภ์รับประทานยาปลุกเซ็กส์เข้าไป ตามฉลากห้ามรับประทาน เด็กในท้องคงได้รับอันตราย ไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าเป็นพวกมักมากอย่างเขาที่โดนกับคนอื่นก็คงจะทนไหว แต่กับสาวน้อยในความดูแลแล้วเท่าไรคงไม่พอ...“พี่ไม่ได้เจอเมียมาเป็นอาทิตย์แหนะ”“แล้ว

  • คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!   : ตอนที่ 22 : Oh...! I’m Sorry หน้าใส ใจดี (2)

    ​“กรี๊ด!”ต่างคนปิดยกมือขึ้นปิดหูแม้กระทั่งคนกรี๊ดเอง เว้นแค่ปรายลดาที่ยืนหัวเราะเพื่อน เห็นอยู่ว่านัชชาจงใจตะเบ็งเสียงคอแทบแตกใส่หน้าปิ่นแก้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะทำหน้าเฉยเมยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“โดนตัดออกจากกองมรดกแล้วค่ะ ปริมแค่แวะมาบอก โตแล้วเนอะจะไปไหนก็ได้นี่ ไปกันดีกว่า พุด...”“พุด... รอไปพร้อมพี่” ชายหนุ่มแทรกขึ้นมาแล้วเดินไปคว้ามือเรียวไว ๆ แต่ก็ถูกสะบัดออกด้วยสีหน้าดื้อรั้นซึ่งเลือนหายไปในอีกครู่ เป็นรอยยิ้มใส ๆ“พุดไปกับปริมดีกว่าค่ะ พุดรีบ เดี๋ยวไปไม่ทัน วันนี้อาจารย์หมอมาด้วย พุดมีคำถามตั้งเยอะแยะ พี่ทำงานไปก่อนเถอะ เรื่องลูกเมื่อไรก็ได้” พูดแล้วก็คว้ามือเพื่อนสาว รีบเดินหนีเจ้าของบ้านไป ปรายลดาโมโหอย่างไรยังสำรวมกริยา ถึงเธออยากจะกรี๊ดใส่หน้าใครสักคนให้ได้อย่างนัชชาสักแค่ไหนคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังหัวใจกระตุกวูบ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว และเขาก็ไม่อยากจะทำงานต่อ“เดี๋ยวผมให้วิศวกรดูหน้างานอีกที สระว่ายน้ำกับร้านอาหาร ผนังต้องให้ลูกค้าเลือกก่อนว่าจะเอาผนังปูนเปลือย บล็อกอิฐแก้ว หรือกระจก คุณเป็นหัวหน้างานสถาปนิกคุมทีมก่อสร้าง มีอะไรคุณตัดสินใจไปเลยละกัน”เพราะคำว่า ‘หัวหน

  • คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!   : ตอนที่ 22 : Oh...! I’m Sorry หน้าใส ใจดี (1)

    ปรเมษฐ์ มาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นพร้อมปิ่นแก้วที่หอบงานโปรเจคใหญ่กลับมาทำต่อ มันเป็นงานที่จะต้องทำร่วมกันเป็นทีม ซึ่งเจ้าของบ้านก็ให้เกียรติภรรยา ไม่พาผู้หญิงเข้าห้องทำงานส่วนตัว ใช้สถานที่ในห้องรับแขกโปร่งโล่ง เปิดกระจกไว้ทุกบาน สำหรับวางกระดานแบบงานอันใหญ่ใต้ร่มไม้ของม้านั่งหินในสวนหย่อมหน้าบ้าน ดวงตาคู่สวยจ้องเขม็งผ่านขอบจอโน๊ตบุ๊คไปยังบุคคลทั้งสองในบ้าน พวกเขากำลังยืนอยู่หน้ากระดานแบบงานหน้าบ้านหน้าตาคร่ำเครียด“ฉันกลับมาขายเสื้อกับแกต่อได้มั้ย?” คนถามนั่งเท้าคางอย่างเซ็ง ๆ ขณะที่ปรายลดาไม่ตอบอะไรฮอร์โมนคนท้องทำให้เธอกลายเป็นคนอารมณ์แปรปรวน ยังหงุดหงิดตลอดวัน ดีหน่อยตรงที่ไม่แพ้ท้องมาก นัชชายังอยู่เป็นเพื่อนตลอด หลังจากที่เจ้าตัวไม่มีไข้แล้ว อาการดีขึ้นตามลำดับเรียกได้ว่าเกือบหายดี“แกไม่ฟังที่ฉันพูดเลย หึงผัวล่ะสิ ให้ฉันจัดการเหอะ”“ไม่เป็นไร... ขอบใจนะ ปริม แกเอาตัวแกเองให้รอดเหอะ” ย้อนคำคนที่มีกำลังปัญหาความรักและชีวิตครอบครัวขนาดว่าไม่ยอมกลับบ้าน ก่อนจะหันมองใบหน้าสดสวยสลดเศร้าลงจนต้องถาม“ตกลงแกทะเลาะอะไรกับพี่ธาม ร้องไห้จนหลับ ไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังสักอย่าง”“เรื่องมันยาวอ่ะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status