‘พี่…พี่หมายความว่ายังไง’
‘ฉันเห็นใบอัลตราซาวนด์ เด็กในท้องของนังนั้นเป็นเด็กผู้หญิง เด็กในท้องแกก็เป็นเด็กผู้หญิง’
‘พี่หมายความว่า…’
‘ใช่ เราแค่สลับตัวเด็ก ลูกสาวแกก็จะได้ใช้ชีวิตดีๆ แทนอีเด็กไฮโซนั่น’
‘แต่มันทำได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอพี่’
‘ได้สิ อีครอบครัวนั้นตั้งชื่อลูกไว้ก่อนแล้ว เราก็แค่…สลับป้าย’
‘แล้วพวกนั้นจะจับได้ไหมพี่’
‘แกเชื่อมือฉัน…ฉันมีวิธี’ พี่สาวเสริมมั่นใจ
และใช่..เหมือนสวรรค์จะเป็นใจ ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ลูกสาวของหล่อนได้เกิดและเติบโตในบ้านผู้ดีเก่า
ส่วนเด็กที่อยู่กับหล่อนก็ถูกใช้งานเยี่ยงทาส ทว่าก็น่าแปลกแม้ตนกับผัวจะทำตัวเลวร้ายแค่ไหน..เด็กหญิงก็ยังกตัญญูรู้คุณไม่เคยมีเรื่องให้เดือดเนื้อร้อนใจ ร้องขออะไรไม่มีอะไรที่ลูกจะให้ไม่ได้ ผิดแผกกับลูกแท้ๆ ที่เลี้ยงดูมา
ดีจนขนาดเพื่อนบ้านเอ่ยปากชมบ่อยๆ
“ตายกูตาย กูจะเอาเงินที่ไหนไปให้เสี่ยวะ” เสียงโวยวายหน้าจอทีวีด้วยแพ้พนัน ส่งผลให้นังสาลี่ถอนหายใจอย่างหนัก รู้สึกตงิดๆ ในใจ
“พี่ว่านังน้องทำตัวแปลกไปไหม?”
“นังสาลี่เอ็งอย่ามาเพ้อเจ้อ ตอนนี้มาช่วยข้าคิดที...ข้าจะเอาเงินจากไหนไปใช้หนี้เสี่ยดี” คำตอบของผีพนัน ส่งผลให้นังสาลี่แทบอยากจะทึ้งหัว
“โอ้ยยยย กูจะบ้า”
สุดท้ายแล้วสองผัวเมียก็ทะเลาะกันขรมด้วยประเด็นเดิมๆ
วันต่อมา
ณ วัดชื่อดังประจำเมือง
บริเวณลานวัดเต็มไปด้วยผู้คนมาทำบุญ คละเคล้าไปด้วยกลุ่มควันจากธูปเทียนที่ผู้ศรัทธาต่างมาขอพร
ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว นักศึกษาสาวทั้งสองกำลังลากจูงกันออกจากอุโบสถด้วยสีหน้าอิ่มเอม โดยเฉพาะหญิงสาวผมแดงสลวยที่ดูโดดเด่นแม้ชุดที่สวมใส่จะปิดบนปิดล่างเรียบร้อยมากก็ตาม
“ช่วงนี้แกทำตัวแปลกๆ ไหมยัยน้อง” บุษบาเพื่อสาวตัวอวบอ้วนทักถาม คบกันมาจะสองปีเพื่อนเธอเคยชวนเข้าวัดที่ไหนกันล่ะ
“ทำไมเหรอ” ขนิษฐาพูดยิ้มๆ ก่อนสายตาจะกวาดไปยังแผงล็อตเตอร์รี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“ฉันขอซื้อหวยหน่อยนะ” ไม่พูดเปล่ายังเดินนำเพื่อนไปยังแผงด้วยฝีเท้าว่องไว บุษบาถึงกับทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะเปรยต่อ
“เนี่ยฉันถึงบอกว่าน้องทำตัวแปลก ปกติขี้งกจะตาย ขนาดน้ำดื่มน้องยังกดฟรีที่คณะเลย”
ขนิษฐาเพียงส่งยิ้มหวานๆ ไปให้ไม่ได้แย้ง ก่อนที่สายตากวาดมองหารางวัลที่หนึ่ง เมื่อไม่เจอจึงมุ่ยปากอย่างผิดหวังเล็กน้อย
“ไม่มีเลขที่ชอบเหรอ”
“อืม” เพื่อนคนสวยตอบรับสั้นๆ
ทว่าแม่ค้ายังเชิญชวนให้ซื้อเลขอื่นต่อ ใบหน้าเล็กส่ายไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ถ้าไม่ได้เลขที่ต้องการหล่อนก็ไม่เอา
“แค่กๆ นี่แม่หนูคนสวย” เสียงอ่อนโยนจากหญิงชราด้านหลังเรียกความสนใจจากนักศึกษาทั้งสอง
“ช่วยซื้อลอตเตอรี่ยายหน่อยได้ไหมจ๊ะ แค่กๆ”
“อะไรเนี่ย มีแต่หวยชุดทั้งนั้น” สาวร่างอวบเหลือบมองลอตเตอรี่ในแผงพลางแย้ง อีกทั้งเบ้ปากด้วยเห็นป้ายราคาที่อัพเกินเรื่องไปไกล
“แค่กๆ พอดียายรับเขามาขายอีกที หลานๆ ช่วยยายหน่อยนะ ถ้าวันนี้ยายขายไม่ได้..หลานที่บ้านคงไม่มีข้าวกิน สงสารยายหน่อยนะลูก”
“โถ่..ดูยายขายสิ ห้าใบพันหนึ่ง ไม่แปลกหรอกที่ขายไม่ได้...นี่มันขายเกินราคาชัดๆ” บุษบายังคงเถียง
ในใจก็นึกห่วงกลัวขนิษฐาจะหลงกลซื้อด้วยความใจอ่อน ทว่าก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรเพิ่มยัยเพื่อนคนสวยก็เลือกเลขเสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ยัยน้อง!!!”
“นี่คะยายไม่ต้องทอนนะ..ถ้าน้องถูกรางวัลที่หนึ่งน้องจะแบ่งให้ยายด้วยนะจ๊ะ” น้ำเสียงหวานใส..ดวงตาเป็นประกาย เวลายิ้มรูปตาโค้งมน จากเดิมอาจมองว่าเป็นผู้หญิงสวยกลับกลายเป็นคนน่ารักได้ทันที
“ฮึก..ขอบคุณแม่หนูมากนะ” คนสูงวัยพูดพลางกุมมือเล็กด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ บุษบาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
บางทีเพื่อนเธอก็แสนดีจนดูโง่
เมื่อเดินออกมาไกลจากตรงนั้น บุษบาก็ยังคงค้างคาใจ
“ไหน..น้องบอกเราไงว่าต้องเก็บเงินให้ครอบครัว” สาวร่างอวบกระซิบถามเมื่อเห็นเพื่อนสั่งน้ำหวานสองแก้ว
แน่ล่ะ อย่าว่าแต่หวยเลย..แม้แต่อาหารการกิน..เสื้อผ้า..ห้องพักเพื่อนสาวล้วนแต่ใช้จ่ายอย่างประหยัด เหตุผลที่เจ้าหล่อนให้ก็คือ
'น้องต้องเก็บเงินไว้ส่งให้คนที่บ้าน'
ณ ร้านบุฟเฟต์สุกี้ชื่อดังประจำเมืองชายหนุ่มผู้มานั่งรอจองคิวหน้าร้านถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นสองผัวเมียตัวยุ่งกำลังเดินจูงมือกันมาใบหน้าซื่อบื้อฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเขา พลางรีบลากสามีวิ่งมายืนตรงหน้าพิทธิยะถอนหายใจอีกคำรบ..จริงอยู่เขาไม่ทันได้ทวงสัญญาเรื่องที่เจ้าหล่อนบอกว่าจะเลี้ยงข้าว แต่เป็นตัวเจ้าหล่อนเองที่พูดขึ้นมาก่อนบทสนทนาเมื่อนานมาแล้วราวกับดังข้างหู‘เธอจะโกหกไหม?’‘ชาติที่แล้วเราไม่เคยโกหก แต่ชาตินี้มีบ้าง’อืม..อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้โกหก..สายตาใต้แว่นใสจึงอ่อนโยนลงเล็กน้อย“มารอนานยังคะ?” เสียงหวานถามอย่างละอายใจ พลางคิดถึงตอนโดนคนตัวโตกระแทกในห้องน้ำก็แทบร้องไหนว่าจะทำเบาๆ แล้วจะรีบทำไง..ไอ้คนผิดสัญญาเอ๊ย!แถมยังบังคับหล่อนเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดรสกระโปรงยาวคลุมข้อเท้าไปอีก “ไม่นาน..พึ่งมาเหมือนกัน” ชายใส่แว่นตอบ พลางยื่นบัตรคิวให้ ก่อนจะหันไปถามพี่ชาย“แล้วเฮียชินมาทำไม?”“ทำไมฉันจะมาไม่ได้..หรือนายมีอะไรในใจ?” คำตอบแสนจะเย็นชาของชินณธร พาให้น้องชายฝาแฝดอึ้งไป ก่อนจะถามตรงๆ“เฮียหึงผมกับน้อง?”“ปะ..เปล่า ใครหึงกัน”“อ้อ” คนกวนตีนรับคำในลำคอ พ่นลมหายใจหนักๆ อย่างหมั่น
ณ ห้วงกาลเวลาซาตานหนุ่มรูปงามกำลังนั่งหรี่ตางดงาม..ตรงหน้ามีวิญญาณมนุษย์วัยห้าสิบกว่ากำลังยืนสงบนิ่งรอรับคำสั่งน่าแปลกทั้งที่ต้องกลายเป็นข้าทาสตลอดกาล..ทำไมจิตวิญญาณตรงหน้าถึงได้ดูสะอาด..ใส..ปลดปลงได้ขนาดนั้นอนุมนุษย์ผู้อยู่ในสถานะกึ่งเทพกึ่งมารเริ่มรู้สึก ‘ขัดใจ’แต่ไม่เอ่ยคำพูดออกมา กลับเป็นเทพคิวปิคสหายสนิทที่เอ่ยขึ้นมาก่อนแน่ละ..มนุษย์ที่หาญกล้าทำสัญญากับซาตานนั้นนับนิ้วได้ซึ่งส่วนใหญ่ที่ทำไปก็เพราะโลภ นานๆ ทีจะเห็นคนทำสัญญาเพราะ ‘รัก’ อีกทั้ง 'รัก' ส่วนใหญ่ต้นต่อก็มักมาจาก ‘ราคะ’ทว่า..วิญญาณตรงหน้า..หาได้มีสารตั้งต้นจาก ‘ราคะ’ แต่เกิดจาก ‘ความรักอันบริสุทธิ์’ และ ‘ความรู้สึกผิด’“เจ้าไม่เสียใจเหรอ?” เทพเจ้าแห่งความรัก ตั้งคำถามขึ้น ใบหน้านั้นส่งยิ้มพลางส่ายไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ“ไม่เสียใจเจ้าค่ะ ขอให้ลูกสาวมีความสุข..แม่อย่างดิฉันก็มีความสุขตามแล้ว”“เหอะ เจ้ากลับไปอยู่ใต้พิภพภูมิ..ข้าเรียกค่อยออกมา” ซาตานหนุ่มตัดบท น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดวิญญาณผู้ทำสัญญาในรอบร้อยปีจึงเลือนหายออกจากห้วงกาลเวลา..ดวงตางดงามเหลือบมองเหยียดไปที่เพื่อนสนิท ผู้กำลังนั่งชมนกชมไม้..ราวกับฟ้
ณ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังประจำเมืองร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนสีซีด ผมยาวสลวยถูกรวบอย่างง่ายๆ ใบหน้านวลลออปราศจากเครื่องสำอางเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ข้างตัวมีชายหนุ่มหน้าตาดีวิ่งตามมาด้วย เสียงของคนหน้าหวานหอบเล็กน้อยเมื่อถามพยาบาลประจำตึก“คุณพยาบาลคะ? ห้อง 701 ไปทางไหนคะ?”นางพยาบาลในชุดขาวชี้ไปอีกด้านหนึ่งของทางเดิน ก่อนจะมองตามอย่างแปลกใจเล็กน้อย ด้วยตนไม่เคยเห็นญาติคนไข้คนนี้มาก่อน ครั้นจะห้ามหล่อนก็ยังจดจำชายหนุ่มหน้าหล่อ..หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาลได้อยู่ขนิษฐาวิ่งหอบมายืนอยู่ตรงหน้าห้องแล้วก็นิ่งไปน่าแปลกตอนที่รู้ความจริงว่าแม่แท้ๆ แลกวิญญาณของตนเองเพื่อแลกกับ ‘โอกาส’ ที่หล่อนจะได้กลับมาแก้ตัวอีกครั้ง ในใจหล่อนร้อนรนมาก ทว่าพอถึงจุดต้องพบหน้าจริงๆ หล่อนกลับ ‘รู้สึกกลัว’เหมือนชินณธรเองจะเข้าใจ มือใหญ่เปลี่ยนมากอบกุมมือเล็กแน่นเพื่อให้กำลังใจ“เข้าไปเถอะ ไม่ต้องกลัว..เฮียชินอยู่นี่แล้ว..จะอยู่ข้างๆ น้องไม่หายไปไหน” คนหน้าหวานพยักหน้ารับ ก่อนจะกลั้นใจเปิดประตูเข้าไปแม้ตามทางเดินของโรงพยาบาลจะมีกลิ่นฆ่าเชื้อ ทว่าภายในห้องสีขาวของผู้ป่วยกลิ่นยากับแรงกว่ามากร่างที
ในภาพเลือนของห้วงอนุสติสุดท้ายชายหนุ่มในชุดสูทดำ..ใบหน้าที่แสนจะงดงามในสามโลกกำลังแย้มยิ้มล่อลวงอยู่ตรงปลายเตียงความทรงจำในอดีตชาติคืนกลับมา..ภาพฝัน..หาใช่ ‘ฝัน’ มันคือกรงกรรมเคย ‘เกิดขึ้น’ ในหนึ่งชาติไม่มีผิดคุณหญิงธาวิตาจดจำได้หมดแล้ววันนั้นเป็นวันที่ลูกสาวแท้ๆ ส่งข้อความมาหา..แล้วเธอไม่ได้แม้แต่จะเปิดอ่านเธอเป็นแม่ที่โง่มาก..โง่ขนาดที่หน้ามืดตามัวเลี้ยงลูกคนอื่นทั้งที่ลูกตนเองตกระกำลำบากมายี่สิบกว่าปีทั้งยังโง่ที่บีบบังคับให้ลูกสาว ‘เสียสละ’ อวัยวะเพื่อต่ออายุให้ลูกคนอื่น แถมคนคนนั้นเป็นเหตุทำให้ลูกสาวเธอถึงแก่กรรมโง่ที่มีโอกาสได้ลูกสาวกลับคืนมา แต่ก็ละเลยทั้งความรู้สึก ทั้งการกระทำ..แม้แต่ข้อความที่เหมือนกับขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้าย..เธอยังเมินไม่ยอมเปิด..เป็นเหตุให้เสียลูกสาวไปตลอดกาลเธอเป็นแม่ที่แย่มาก..ความทุกข์ยิ่งกว่ามหานทีอันกว้างใหญ่ พามนุษย์จ่อจมตกลงไปหาทางขึ้นแทบไม่ได้สูญเสียใดจะทุกข์เท่า..เสียลูกในคืนหนึ่งมีชายหนุ่มรูปงาม..งามเกินกว่าสามโลกปรากฏตัวขึ้นเขาไม่พูดอะไร..เพียงแต่พาเธอตกลงไปในภาพอดีต..อดีตของ ‘ลูกสาว’ตั้งแต่ตอนเกิดที่ถูกสลับตัวไป..เด็กน้อยค่อยๆ
ดังนั้นสำหรับขนิษฐาจึงไม่อาจคิดได้ว่าพ่อกับแม่ 'รัก' ตนกลับกันสำหรับคนรักแล้ว..เฮียชินแค่ปากหนัก..เขาไม่ยอมเล่าปัญหา..แล้วตัดสินไปเองว่าสิ่งที่ทำคือการปกป้อง ทว่าทั้งหมดที่ชายหนุ่มทำคือเขาไม่เชื่อใจหล่อนมากพอที่จะแชร์เรื่องราวลำบากใจ เพียงแต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้จากการกระทำของเขา คือเขาทำทุกอย่างเพราะ 'รัก'หล่อนจึงตีความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่เป็นเรื่อง ‘ผิดพลาด..ความไม่เข้าใจกัน’ มากกว่าแน่ล่ะ เมื่อเป็นแค่เรื่องผิดพลาด..มันย่อมแก้ไขได้จริงไหม?เรื่องของครอบครัวขนิษฐาไม่คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องที่ผิดพลาด..การกระทำของทั้งสองครอบครัวต่างยึดเอาแต่ตัวเองเป็นหลัก ไม่มีใครคิดถึงหล่อนเลย..แม้แต่ชาตินี้ที่หล่อนพยายามให้ ‘โอกาส’ มารดาหลายครั้ง ทว่าผลลัพธ์ที่ได้รับก็ยังคงเจ็บปวดสีหน้าปลดปลงของขนิษฐา ส่งผลให้ปิ่นรักทอดถอนหายใจ..เรื่องที่รับปากคุณหญิงท่าน..เธอคงทำให้ไม่ได้แล้ว“อืม..เหมือนพี่จะเข้าใจนะ”ช่วงเวลาหลังจากนั้นครอบครัววรรณศิลป์เต็มไปด้วยบรรยากาศหมองเศร้าธารินเสียชีวิตเมื่อสามเดือนก่อน โดยมีนางสาลี่กับนายมานพมาหาเรื่องถึงบ้าน แต่ก็โดนอดีตรัฐมนตรีโชคชัยไล่ตะเพิดออกไป สองผัวยังไม่วายสา
ค่ำคืนงานเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน แสงไฟวิบวับส่องประกายให้หนุ่มสาวบนเวทีโดดเด่นเหนือใครวันนี้ขนิษฐาอยู่ในชุดเจ้าสาวลายลูกไม้จากต่างประเทศตัวชุดถูกปักเลื่อมด้วยเพชรเล็กๆ เมื่อดูใกล้ๆ จะเห็นเป็นรูปหงส์ส่งเสริมราศีให้ผู้ใส่ดูมีสง่าราศี และดูแพงไปทั้งเนื้อทั้งตัว ใบหน้าสวยหวานอิ่มเอิบถูกแต่งแต้มด้วยสีสันหนากว่าปกติ ทว่ากลับดูเป็นธรรมชาติสมฝีมือช่างแต่งหน้าอันดับหนึ่งของประเทศ ริมฝีปากอิ่มแทบจะยกยิ้มตลอดเวลา หางตาโค้งลงให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูเป็นที่สุดทว่าภายในใจหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าตนจะทำพลาด ยังดีที่มือใหญ่คอยกุมตลอดทั้งงาน“ไม่ต้องกลัวนะ..ยังไงเฮียก็ไม่ทิ้งน้องไปไหนแน่นอน เฮียสัญญา”“อืม..น้องเชื่อ” คนตัวเล็กหันไปพยักหน้ารับ ดวงตายาวรีเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นคาดหวังไม่ต่างจากการณ์ก่อนบรรยากาศในงานจึงเต็มไปด้วยความชื่นมื่น โดยมีสายตาคมกริบของชายหนุ่มผู้ถูกเปิดตัวในฐานะน้องชายฝาแฝดกำลังหรี่ตามองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าอารมณ์ที่อ่านไม่ออก เมื่อเห็นพี่ชายกับคนรักยกมีดขึ้นมาตัดเค้กเขาถึงกับลอบพ่นหายใจโล่งอกออกมาอย่างน้อยชาตินี้เขาก็ไม่ต้องกลายมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวจำเป็นเหมือนช