ชายถูกส่งตัวออกจากสถานีอวกาศของหน่วยรบที่สิบเอ็ดพร้อมด้วยสัมภาระพื้นฐานเพียงไม่กี่ชิ้น เด็กหนุ่มพลันนึกถึงคำกล่าวที่ว่า “เสื่อผืนหมอนใบ” ขึ้นมา แต่ในกรณีของเขามันมีแค่ชุดที่สวมอยู่กับบัตรประจำตัวเท่านั้น ชายมองดูเนื้อผ้าเรียบลื่นสบายตัวแต่สีไม่สบายตาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เสื้อที่เขาสวมอยู่เป็นสีขาวก็จริงแต่พอโดนแสงมันกลับสะท้อนประกายสีรุ้งราวกับเปลือกหอยมุกดูเด่นสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง ยังดีที่มันไม่ใช่ชุดรัดรูปเหมือนในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องที่เขาเคยดูมิฉะนั้นแล้วชายคงรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่านี้
‘แล้ว....ยังไงต่อล่ะ?’ คนหลงยุคถามตัวเองขณะนั่งอยู่ในยานขนส่ง ภายในห้องโดยสารไม่มีสื่อบันเทิงใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวของยานลำนี้อีกด้วย
เมื่อมีอะไรให้ทำชายก็ตัดสินใจสำรวจบัตรประจำตัวที่เพิ่งได้มา มันเป็นบัตรสีดำที่ดูเผินๆ แล้วก็เหมือนบัตรเครดิตธรรมดา หากนายทหารที่มอบบัตรนี้ให้แก่เขาไม่บอกวิธีการใช้งานชายก็คงต้องนั่งงมกับมันอีกนานเลยทีเดียว
นิ้วเรียวเคาะเบาๆ ลงบนสันบัตรพลันบัตรสีดำก็สว่างจ้าขึ้นมา ใช่ บัตรประจำตัวของสมาพันธรัฐอันโดรเมดานั้นคล้ายกับสมาร์ตโฟนที่ชายคุ้นเคย มันอาจลงแอปพลิเคชันเพิ่มเติมไม่ได้แต่ก็สามารถใช้งานได้อย่างครบครัน บัตรประจำตัวนี้ไม่เพียงแต่บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้แต่ยังสามารถใช้ทำธุรกรรมง่ายๆ ตลอดจนขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้อีกด้วย
เนื่องจากชายลงทะเบียนภาษาแม่ของตนเป็นภาษาอังกฤษข้อมูลในบัตรจึงเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แม้ว่าตัวอักษรและคำบางคำจะผิดเพี้ยนไปบ้างแต่เขาก็สามารถทำความเข้าใจได้ คนจากอดีตค่อยๆ ศึกษาข้อมูลของตัวเองไปทีละส่วนอย่างไม่รีบร้อน หน้าแรกของบัตรแสดงข้อมูลที่ไม่แตกต่างจากบัตรประชาชนในความทรงจำของเขา มันประกอบไปด้วยรูปหน้าตรงหนึ่งรูป ชื่อ สกุล และ ที่อยู่ แน่นอนว่าส่วนสุดท้ายนั้นยังว่างเปล่า
$hine $eang$uReeWong
เขามองตัวอักษรที่เกือบจะคุ้นตานั้นแล้วก็ให้หวนนึกถึงพ่อกับแม่ขึ้นมา ชาย คือชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้ ท่านมักพูดติดตลกว่า “เวลาคนอื่นเรียกลูกจะได้เป็นคุณชายไงล่ะ” แต่ความจริงแล้วพวกเพื่อนๆ จะเรียกกันว่า “ไอ้ชาย” เสียมากกว่า ส่วนชื่อ Shine นั้นพ่อเป็นคนตั้ง มันเป็นชื่อที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก แต่พ่อบอกว่าใช้ชื่อนี้คนไทยจะได้เข้าใจง่ายๆ “ถ้าตั้งชื่อลูกว่า Lucius พวกเพื่อนของลูกคงไม่รู้ความหมายหรอก ชื่อน่ะถ้าคนเรียกไม่รู้ความหมายเราจะไม่ได้รับการอวยพรนะ” ในตอนนั้นเขาที่ยังเด็กก็ได้แค่คิดว่าพ่อตั้งชื่อให้แบบนี้อยากให้ลูกโตมาหัวล้านจนสะท้อนแสงได้หรืออย่างไร?
พอโตขึ้นมาจึงคิดได้ว่าพ่อก็แค่อยากให้เขามองเห็นแสงสว่างอยู่เสมอ แม้ว่าจะอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิตก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาชายก็สามารถผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาได้ด้วยดีโดยตลอด แม้กระทั่งตอนที่ตื่นมาในโลกอนาคตที่ห่างจากช่วงเวลาที่ตนควรอยู่นานนับพันปีอย่างตอนนี้ หรือไม่เขาก็แค่พยายามฝืนทำตัวเข้มแข็งอยู่เท่านั้น
เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับแหงนหน้าพิงพนักเก้าอี้ รอให้น้ำที่เอ่อล้นออกมาในดวงตาซึมหายไปจึงค่อยสำรวจบัตรประจำตัวต่อ ข้อมูลในหน้าที่สองนั้นค่อนข้างน่าสนใจเพราะมันระบุเผ่าพันธุ์ อายุ หมู่เลือด ตลอดจนรหัสพันธุกรรมเอาไว้ แน่นอนว่าชายดูข้อมูลส่วนรหัสพันธุกรรมไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามส่วนที่สะดุดตาเขามากที่สุดก็คืออายุซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภท นั่นคืออายุตามปีเกิด และอายุของอวัยวะต่างๆ
‘หมายความว่ายังไงกัน?’ คนที่หลับไปนานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไรแน่ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย ปกติแล้วเขาชินกับการนับอายุตามวันเกิด ส่วนร่างกายจะดูหนุ่มกว่าคนวัยเดียวกันหรือแก่กว่าก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องระบุลงไปในบัตรประจำตัว แต่การระบุอายุอย่างละเอียดเช่นนี้เกรงว่าจะมีความหมายอื่นอยู่ด้วยแต่คิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ออก
‘พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าเราบรรลุนิติภาวะตามกฎหมายของสมาพันธรัฐอันโดรเมดา แล้วก็คงไม่มีอะไรหรอก’ สุดท้ายชายก็เลือกที่จะโยนเรื่องอายุร่างกายทิ้งไป จากนั้นก็สำรวจข้อมูลในบัตรประจำตัวต่อ หน้าถัดๆ ไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับใบประกอบวิชาชีพ วุฒิการศึกษา ทรัพย์สิน การลงทุน ตลอดจนประวัติอาชญากรรม และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าบัตรเดียวครอบคลุมทุกเรื่องในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายที่การทำธุรกรรมผ่านบัตรประจำตัวนี้ค่อนข้างจำกัด กล่าวคือมันคล้ายกับการพกเงินสดทำให้ไม่สะดวกในบางเรื่อง
“ก่อนจะซื้อบ้านคงต้องซื้อคอมพิวเตอร์พกพาสักเครื่อง” ชายพึมพำกับตัวเองก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าเขาจะเดินทางถึงจุดหมายออมแรงไว้ก่อนย่อมเป็นความคิดที่ดี
๐๐๐
ยานขนส่งที่ชายโดยสารมาใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงก็มาถึงดาว E5196 มันเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้สถานีอวกาศของหน่วยรบที่สิบเอ็ดที่สุด รหัส E หมายถึงดาวเคราะห์ระดับต่ำสุดในสมาพันธรัฐอันโดรเมดา ที่นี่มีค่าครองชีพต่ำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยและผู้คนส่วนใหญ่ทำอาชีพกสิกรรม แน่นอนว่าผู้ซื้อรายใหญ่ของพวกเขาก็คือหน่วยรบที่สิบเอ็ด
‘แบบนี้เราคงลงหลักปักฐานที่นี่ไม่ได้’ ชายคิดหลังจากอ่านข้อมูลเบื้องต้นของดาว E5196 อยู่ที่สถานีแนะนำเมืองซึ่งอยู่ภายในท่าอากาศยาน เขาเพิ่งมาถึงเมืองนี้ตามธรรมดาแล้วก็ควรจะหาที่พักเพื่อตั้งหลัก แต่มนุษย์โบราณผู้ตื่นขึ้นมาหลังนิทราอันยาวนานอย่างชายไม่ทำเช่นนั้น เขาอยากพักหลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วมากกว่า
ชายต้องการสถานที่ที่เหมาะสมต่อการลงหลักปักฐาน แต่ดาวดวงนี้ไม่ตรงกับความต้องการของเขา มันเป็นดาวกสิกรรมที่สามารถเรียกได้ว่าขึ้นตรงต่อกองทัพ ทั้งยังเป็นดาวที่สามารถเรียกได้ว่าอยู่เกือบสุดขอบชายแดนด้วยแล้ว ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่เหมาะจะเป็นที่ลงหลักปักฐานเลยสักนิด
‘จริงๆ ถ้าเปิดร้านอาหารที่นี่ก็น่าจะครองตลาดได้ง่ายๆ เลยล่ะนะ’ คิดแล้วชายก็ได้แต่ถอนหายใจ ย่านการค้าตลอดจนแหล่งบันเทิงของดาวดวงนี้มีขนาดเล็กกว่าตลาดนัดแถวบ้านเก่าของเขาเสียอีก ร้านอาหารก็มีเพียงร้านขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงร้านเดียว แค่เขาเปิดร้านขายข้าวไข่เจียวทรงเครื่องก็คงตีตลาดได้แล้ว แต่จำนวนประชากรบนดาวดวงนี้เบาบางเกินไป อีกทั้งยังเป็นดาวชายขอบ ชายไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ทางการเมืองของสมาพันธรัฐอันโดรเมดาเป็นอย่างไร แต่ถ้าอ้างอิงจากความรู้ของมนุษย์โบราณอย่างเขาแล้วพื้นที่บริเวณชายแดนย่อมมีความเสี่ยงสูงเมื่อเกิดสงครามขึ้น
‘ที่นี่ใช้ตัวอักษรแบ่งระดับดาวสินะ ถ้าอย่างนั้นก็ดูพวก D ไม่ก็ C น่าจะดีกว่า’ ชายบอกกับตัวเองพลางมองสำรวจไปรอบๆ ตัวเขาในตอนนี้เหมือนเด็กหลงก็ไม่ปาน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งโลกอนาคตก็ช่วยเหลือเขาได้มาก ยกตัวอย่างเช่นหุ่นยนต์กลมๆ ที่สวมหมวกติดตราของสมาพันธรัฐอันโดรเมดา พอมันเห็นว่าชายยืนงงอยู่นานแล้วก็ลอยเข้ามาถาม
“ท่านต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?” มันถามพร้อมกับแสดงข้อความเดียวกันเป็นภาพโฮโลแกรม
“พูดภาษาอังกฤษได้ไหม?” ชายถามเป็นภาษาอังกฤษ พลันเจ้าหุ่นยนต์ก็กะพริบไฟถี่ก่อนจะแสดงรายการออกมา พร้อมบอกว่า “ยินดีต้อนรับสู่สมาพันธรัฐอันโดรเมดา ท่านต้องการความช่วยเหลือหรือไม่? นี่คือหัวข้อคำถามยอดนิยมสำหรับผู้อพยพมาจากอารยธรรมล้าหลัง”
‘จากคนโบราณกลายเป็นผู้อพยพมาจากอารยธรรมล้าหลังแล้วสินะ’ คิดแล้วชายก็ได้แต่ถอนหายใจ เขากวาดตามองรายการคำถามยอดนิยมแล้วก็เลือกอ่านหัวข้อคำถามเหล่านั้นไล่ไปทีละข้อ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่รีบไปไหนอยู่แล้ว
“หากท่านต้องการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของสมาพันธรัฐอันโดรเมดา ขอเชิญที่ไอบ็อกซ์” แต่ดูเหมือนว่าเจ้าลูกบอลใส่หมวกลอยได้จะไม่ยอมให้ชายถ่วงเวลามันเอาไว้นานเกินไป สุดท้ายเขาก็ถูกพามายังพื้นที่ให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งทำเป็นตู้กระจกขุ่นๆ แยกจากกันอย่างเป็นสัดเป็นส่วน และแน่นอนว่าต้องเสียเงินในการใช้บริการ
‘ชั่วโมงละสิบสตาร์? ก็ไม่ได้แพงอะไร’ เด็กหนุ่มคิดพลางทาบบัตรประจำตัวที่เพิ่งได้รับมากับแผงควบคุมของตู้ไอบ็อกซ์ จากนั้นก็เข้าไปด้านใน ส่วนเจ้าหุ่นยนต์ก็ลอยจากไปลาดตระเวนต่อตามหน้าที่ของมัน
ภายในไอบ็อกซ์มีโต๊ะเก้าอี้อยู่ชุดหนึ่ง พร้อมเครื่องขายอาหารและเครื่องดื่มอัตโนมัติ ดูสะดวกครบครันเป็นอย่างยิ่ง ชายนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มศึกษาวิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต เรื่องมันง่ายขึ้นมากเมื่อภาษาของระบบถูกเปลี่ยนให้เป็นภาษาอังกฤษตามข้อมูลในบัตรประจำตัวของเขา
“สะดวกดีเหมือนกันแฮะ” ชายพึมพำเป็นภาษาบ้านเกิด พลันหน้าจอก็ปรากฏข้อความขึ้นมาชุดหนึ่ง
ตรวจไม่พบภาษาของคุณ โปรดออกคำสั่งเสียงอีกครั้ง
‘ออกคำสั่งเสียงได้ด้วยแฮะ’ คนหลงยุคคิดพลางลองออกคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษ “แสดงข้อมูลที่ฉันควรรู้เกี่ยวกับสมาพันธรัฐอันโดรเมดา ”
พลันหน้าจอก็ปรากฏหน้าต่างย่อยขึ้นมามากมาย มันมีทั้งข้อมูลเชิงกฎหมาย ข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ ตลอดจนบทความในหัวข้ออื่นๆ ที่บางอันก็ดูเหมือนจะสุ่มมา ชายไม่เข้าใจเลยว่าเขาควรจะรู้เรื่องข่าวซุบซิบของดาราสาวกับนักธุรกิจใหญ่ไปทำไม เด็กหนุ่มจึงมองข้ามไปอย่างรวดเร็ว
หัวข้อที่ชายเลือกศึกษาก่อนเป็นอันดับแรกคือกฎหมาย เพราะเจ้าหน้าที่ในสถานีอวกาศของหน่วยรบที่สิบเอ็ดบอกว่ากาแล็กซีอันโดรเมดาปกครองแบบสมาพันธรัฐ คำว่าสมาพันธรัฐเป็นคำที่ได้ยินไม่บ่อยนักในยุคของเขา ชายจึงกลัวว่าจะเข้าใจผิด แต่เมื่อได้ศึกษารายละเอียดดูแล้วเขาก็พบว่ามันไม่ต่างจากที่เข้าใจเท่าไรนัก
สมาพันธรัฐอันโดรเมดา เป็นการรวมตัวกันของรัฐสี่รัฐซึ่งมีการปกครองในรูปแบบของตนเอง และมีกองกำลังป้องกันตัวเองที่ไม่ขึ้นตรงต่อกัน ส่วนรัฐบาลกลางของสมาพันธรัฐอันโดรเมดาจะมีหน้าที่เพียงการดูแลควบคุมค่าเงินสตาร์ เครือข่ายการสื่อสาร และเดอะลอว์เท่านั้น
“หมายความว่าตอนนี้มีประเทศให้เลือกสี่ประเทศสินะ” ชายพึมพำกับตัวเองหลังจากอ่านบทความสรุปข้อกฎหมายไปได้ส่วนหนึ่ง เขาก็อยากอ่านต่อไปอยู่หรอกแต่ภาษากฎหมายที่แม้จะสรุปเป็นภาษาที่อ่านเข้าใจง่ายมันก็ทำให้สมองของเขารู้สึกล้าอยู่ดี ‘ให้ตายสิ ปกติก็แค่เขียนรายงานนิดๆ หน่อยๆ กับดูซีรีส์เองนะ จะไปคล่องศัพท์กฎหมายได้ยังไงกัน’ คนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองนึกบ่นก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับหน้าต่างอื่นๆ แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับหน้าต่างสีสันสดใสที่มุมขวาล่าง พอขยายมันขึ้นมาก็พบกับข้อความที่ดูคล้ายโฆษณาชวนเชื่อจนน่าระแวง
ยินดีต้อนรับสู่สมาพันธรัฐอันโดรเมดา คุณกำลังสับสนอยู่ใช่หรือไม่ ให้แบบฟอร์มอัจฉริยะของเราช่วยสิ
หากมันไม่มีตราประจำสมาพันธรัฐประดับไว้พร้อมด้วยตราประจำรัฐย่อยอีกสี่รัฐชายก็คงจะคิดว่ามันเป็นโฆษณาหลอกลวงแล้ว
“แต่มันก็สะดวกจริงๆ นั่นแหละ” เด็กหนุ่มพึมพำพลางกวาดสายตาอ่านแบบฟอร์มนั้น ตัวแบบฟอร์มไม่ได้เรียกร้องขอข้อมูลส่วนตัว มันแค่เป็นการรวบรวมความต้องการของผู้กรอกแบบฟอร์ม เช่นลักษณะที่อยู่อาศัยที่ต้องการ ทักษะอาชีพ ระดับความรู้ เพื่อนำไปประมวลผลเป็นตัวเลือกที่อยู่อาศัยตลอดจนตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้อง
มีตัวช่วยแสนสะดวกเช่นนี้แล้วชายจะไม่กรอกข้อมูลลงไปได้อย่างไร เด็กหนุ่มค่อยๆ เลือกคำตอบอย่างระมัดระวัง พอกรอกข้อมูลครบถ้วนระบบก็แสดงผลการคัดกรองออกมา แต่เพราะชายไม่เลือกเขตการปกครองให้ชัดเจนรายการที่แสดงจึงเยอะมาก เขาจึงข้ามไปดูตัวเลือกเกี่ยวกับการประกอบอาชีพก่อน เผื่อว่ามันจะช่วยให้เขาตัดตัวเลือกอะไรไปได้บ้าง
“เห...มีใบประกอบวิชาชีพเชฟนี่ก็ดีเหมือนกันแฮะ” ชายพึมพำออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นตำแหน่งงานว่างอยู่หลายตำแหน่ง มีตั้งแต่นักประกอบอาหารในภัตตาคาร นักพัฒนาสูตรอาหารในบริษัทผลิตอาหารสำเร็จรูป นักวิจารณ์อาหาร ครูสอนทำอาหาร ไปจนถึงนักประวัติศาสตร์การอาหาร อย่างไรก็ตามเมื่อชายกดเข้าไปดูรายละเอียดคุณสมบัติที่รับเข้าทำงานแล้วเขาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างผิดหวัง ในแบบฟอร์มมันมีช่องให้กรอกเพียงภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกับระดับใบประกอบวิชาชีพผู้ปรุงอาหาร แน่นอนว่าคนที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องข้าวให้กับกองทัพได้ย่อมได้รับใบอนุญาตระดับสองทำให้ตำแหน่งงานที่เปิดรับนั้นกว้างขึ้น แต่รายการอาหารที่ระบุเอาไว้ในเงื่อนไขผู้สมัครนั้นชายไม่รู้จักเลยสักอย่างเดียว
“โนวามูนพ็อต? มาร์ดีลักซ์? มันคืออะไรกันล่ะนั่น?” พูดแล้วชายก็ถอนหายใจ เขาเริ่มจะหัวเสียหน่อยๆ แล้วเพราะไม่ว่าตำแหน่งงานไหนก็ต้องการคนที่รู้สูตรการทำอาหารพวกนี้ทั้งนั้น “แต่จะว่าไปคนในสถานีอวกาศก็ถามเราเกี่ยวกับสูตรอาหารแปลกๆ พวกนี้เหมือนกันนี่นา...สงสัยจะเป็นสูตรลับของพ่อครัวชื่อดังแน่ๆ” ชายจำได้ว่าในยุคที่เขาจากมาพวกพ่อครัวแม่ครัวก็ชอบตั้งชื่ออาหารแปลกๆ อยู่แล้ว ‘ถ้าเป็นสูตรเด็ดพวกนั้นคนจะอยากรู้กันก็ไม่แปลกล่ะนะ’ ชายถอนหายใจยาว ดูเหมือนว่าเขาจะไร้คุณสมบัติที่จะทำงานในตำแหน่งดีๆ เหล่านี้จริงๆ “ได้ใบระดับสองมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรแฮะ” บ่นพลางปิดคำเตือนเรื่องตรวจไม่พบภาษาที่เขาพูดแล้วเลื่อนดูตัวเลือกในหมวดธุรกิจส่วนตัว พลันเด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อพบว่ามันมีทางเลือกหลากหลายกว่าที่คิด มันมีทั้งการเปิดร้านอาหาร การเป็นพ่อครัวส่วนตัวของบ้านใดสักบ้านหนึ่ง การเปิดร้านค้าแผงลอยและที่ดูใกล้ตัวที่สุดก็คือการฝากขายอาหารกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติ
ตัวอย่างก็อยู่ในไอบ็อกซ์นี่เอง ทีแรกชายคิดว่าเจ้าตู้ที่ดูเหมือนตู้เย็นขนาดเล็กนี้เป็นกิจการของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ไม่คาดว่าบริษัทที่มีชื่ออยู่บนเครื่องจะดูแลเพียงแค่การจัดส่งอาหารและตัวเครื่องจ่ายอาหารเท่านั้น ส่วนอาหารที่นำมาขายนั้นมาจากผู้ประกอบการหลายเจ้าด้วยกัน ‘เหมือนพวกผู้ให้บริการแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์สินะ’ ชายคิดหลังจากอ่านรายละเอียดการใช้บริการฝากขายกับเครื่องขายอาหารและเครื่องดื่มจบแล้ว โดยรวมมันเหมือนกับเว็บไซต์ที่ให้บริการขายของออนไลน์จากยุคสมัยที่เขาจากมา แต่ต่างกันตรงที่ผู้ประกอบการซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องขายอาหารและเครื่องดื่มนั้นจะไม่ถือเงินเอาไว้เอง การจ่ายเงินจะใช้ระบบเดียวกันกับการจ่ายเงินโดยทั่วไปของสมาพันธรัฐอันโดรเมดา เมื่อผู้บริโภคซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มเงินส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปยังผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของอาหารนั้น และอีกส่วนหนึ่งจะถูกจ่ายให้ผู้ประกอบการเจ้าของเครื่องขายอาหารโดยอัตโนมัติ
‘ที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมมีแค่ค่ามัดจำกับค่าธรรมเนียม ก็ไม่มากเท่าไหร่’ เงื่อนไขนี้สำหรับชายแล้วเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะทางผู้ประกอบการเครื่องขายอาหารและเครื่องดื่มเองก็คงไม่อยากให้มีช่องว่างในชั้นของตัวเอง “เครื่องเล็กๆ แบบนี้เป็นอาหารสำเร็จรูปสินะ” เด็กหนุ่มพึมพำพลางกดเรียกรายการสินค้าของเครื่องขายอาหารขึ้นมาดู ก่อนจะต้องขมวดคิ้ว สิ่งที่ปรากฏในรายการหากไม่ดูเหมือนขนมเจลลีก็เหมือนอาหารเม็ดสำหรับสัตว์เลี้ยง เห็นแล้วเขาก็หมดความอยากอาหารขึ้นมาเสียดื้อๆ
ชายเคยเห็นอาหารแนวอินโนเวทีฟในยุคของตนมาบ้าง แต่ภาพอาหารที่เห็นตรงหน้านี้ไม่ชวนให้รู้สึก “ว้าว” เลยสักนิด “ลองดูหน่อยก็คงไม่เสียหาย” เด็กหนุ่มปลอบใจตัวเองก่อนจะซื้ออาหารที่มีรูปลักษณ์เหมือนเจลลีมาหนึ่งถ้วย การจ่ายเงินทำได้ง่ายๆ ด้วยการทาบบัตรเหมือนเคย จากนั้นถ้วยที่ปิดผนึกสนิทแน่นก็หล่นออกมาจากจุดจ่ายอาหาร
ถ้วยสีขาวขุ่นนั้นดูเหมือนพลาสติกแต่เนื้อสัมผัสแตกต่างไปเล็กน้อย บนบรรจุภัณฑ์มีข้อความพิมพ์เอาไว้มากมายแต่น่าเสียดายที่เขาอ่านได้เพียงบางคำจนจับใจความไม่ได้ ดังนั้นชายจึงไม่คิดมากและเปิดฝาออกเพื่อที่จะลิ้มลองอาหารสำเร็จรูปแห่งโลกอนาคตเป็นครั้งแรก
ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้กินอาหารสำเร็จรูปเพราะตอนที่อยู่ในสถานีอวกาศเขาได้รับการฉีดสารอาหารเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงเพื่อไม่ให้ร่างกายที่จำศีลมานานล้มป่วยลง พอแพทย์ประเมินว่าร่างกายของเขาแข็งแรงดีสามารถกินอาหารได้ตามปรกติ ชายก็ต้องเข้ารับการประเมินเพื่อรับเงินทุนตั้งตัวและถูกส่งออกจากสถานีอวกาศทันที เขายังไม่ทันจะรู้สึกหิวเลยด้วยซ้ำ
ใต้ฝาที่ปิดสนิทนั้นมีช้อนเล็กๆ อยู่คันหนึ่ง ลักษณะเหมือนช้อนไอศกรีมสั้นๆ ที่คุ้นเคย ชายหยิบช้อนขึ้นมาแล้วพิจารณาดูอาหารสำเร็จรูปในถ้วย มันเป็นเจลลีสีชาที่มีเม็ดคล้ายๆ ไข่มุกผสมอยู่ ตอนที่เขากดซื้อมาก็เพราะสีสันของมันดูธรรมดาที่สุดแล้ว ต่อให้จะอยากรู้อยากลองแค่ไหนเขาก็ไม่กล้ากินเจลลีสีม่วงแดงปนน้ำเงินที่มีประกายกากเพชรอยู่ภายในราวกับเนบิวลาย่อมๆ หรอก
คำแรกที่ได้ลิ้มรสอาหารแห่งโลกอนาคตไม่ถึงกับแย่ สัมผัสเรียบลื่นแบบวุ้นและรสหวานแหลมแบบขนมทำให้ความหวาดระแวงในใจคลายลงไปมาก ชายคิดว่าเขาพร้อมรับกับทุกรสชาติที่จะตามมา แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีรสชาติอื่นอีกแล้ว มีแค่หวานกับหวาน แถมยังเป็นความหวานที่ชวนให้รู้สึกแสบคอเสียด้วย
‘เหมือนกินขนมเลยแฮะ’ ชายนึกบ่นกับตัวเองพลางเคี้ยวเม็ดเจลลีแข็งๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งนับว่าเพลินไม่น้อยเลยทีเดียว และเพราะรสชาติของมันไม่ได้แย่เหมือนที่เคยอ่านเจอในนิยายเมื่อสมัยที่ยังอาศัยอยู่บนดาวโลกเด็กหนุ่มจึงกล้าพอที่จะซื้ออาหารสำเร็จมาลองอีกรายการหนึ่ง คราวนี้เขาเลือกรายการที่มีดาวดวงเล็กๆ ติดอยู่ซึ่งหมายถึงสินค้าแนะนำระดับหนึ่งดาว มันเป็นเจลลีใสสีน้ำเงินที่มีกากเพชรสีเงินล่องลอยอยู่ภายในเหมือนทางช้างเผือก นอกจากนี้มันยังมีลูกกลมๆ คล้ายดาวเคราะห์ลอยอยู่ภายในด้วย
‘เหมือนงานศิลปะมากกว่าของกิน’ ชายออกความเห็นเงียบๆ เพราะเบื่อจะกดปิดหน้าต่างรายงานว่าตรวจไม่พบภาษาที่เขาพูดแล้ว อาหารจานใหม่นี้ใช้บรรจุภัณฑ์เดียวกันกับก่อนหน้า แตกต่างกันเพียงอักษรที่พิมพ์อยู่เท่านั้น ส่วนรสชาติก็เป็นคนละเรื่องกับก่อนหน้านี้เลย
เปรี้ยวนำหวานตาม ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกินน้ำผึ้งผสมมะนาว ผิดก็แต่ว่าเจลลีสีสวยนี้ไม่มีกลิ่นอะไรเลย ส่วนดาวเคราะห์เทียมนั้นมีบางส่วนที่แข็งกรอบให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเคี้ยวลูกกวาด และบางส่วนก็นิ่มกว่าเล็กน้อย เวลาเคี้ยวให้ความรู้สึกสู้ฟันกำลังดีเหมือนกำลังกินเส้นเอ็นอยู่
หลังจากกินอาหารมื้อแรกที่ให้ความรู้สึกเหมือนกินขนมเสร็จแล้วชายก็ซื้อน้ำมาขวดหนึ่งเพื่อดื่มล้างปาก รสชาติของน้ำผสมวิตามินค่อนข้างขมเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่ชอบกินชาอยู่แต่เดิม
‘เอาเป็นว่าลองทำอะไรง่ายๆ ขายกับเจ้าเครื่องพวกนี้ก่อนแล้วกัน’ ในที่สุดชายก็ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตนได้ เมื่อมีเป้าหมายเขาก็เริ่มค้นหารายชื่อผู้ให้บริการตู้ขายอาหาร เจ้าตู้พวกนี้มีตลาดเฉพาะตัว อย่างตู้ขนาดเล็กที่อยู่ในไอบ็อกซ์แบบนี้ก็เน้นขายแค่อาหารสำเร็จรูปเท่านั้น แต่ตู้ขายอาหารที่มีขนาดใหญ่กว่าจะขายทั้งอาหารสำเร็จรูปและอาหารปรุงสุก หรือไม่ก็ขายแค่อาหารปรุงสุกอย่างเดียวก็มี
หลังจากเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียอยู่นาน ชายก็เลือกผู้ประกอบการเครื่องขายอาหารอัตโนมัติที่น่าสนใจมาสามเจ้า แต่ละเจ้ามีขอบเขตการให้บริการแตกต่างกันไป จากนั้นเขาก็มองหาดาวที่อยู่ในรัศมีการให้บริการของผู้ประกอบการทั้งสาม ผลคือพวกเขามีพื้นที่ให้บริการที่ทับซ้อนกันอยู่ราวหนึ่งร้อยดวงดาว และนั่นก็ช่วยให้ชายจำกัดวงในการเลือกสถานที่ลงหลักปักฐานได้ง่ายขึ้น
‘ที่สำคัญคือความปลอดภัย แล้วก็ต้องส่งไปให้ผู้ประกอบการได้สะดวกด้วยสินะ’ เด็กหนุ่มคิดพลางกดกลับไปหน้าแบบฟอร์มเพื่อจำกัดขอบเขตกลุ่มดาวที่ต้องการหาที่พักอาศัย และหลังจากวุ่นวายอยู่นานในที่สุดเขาก็พบดวงดาวที่เหมาะสม
‘D517 รัฐอดาเนีย...หวังว่าจะเป็นที่ที่ดีนะ’ ชายภาวนาในใจก่อนจะทำเรื่องซื้อตั๋วโดยสารและเช่าบ้านหลังแรกของตนในโลกอนาคต
๐๐๐