เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงจากดาว E5196 ไปยังจุดหมายที่เขาต้องการ ชายจึงต้องไปต่อเครื่องที่สถานีอวกาศ J666 เสียก่อน การเดินทางครั้งนี้จึงกินเวลาถึงห้าชั่วโมงเต็ม หากไม่นับระยะทางที่ไกลหลายปีแสงแล้วเขาก็รู้สึกว่าการเดินทางในโลกอนาคตไม่ได้สะดวกสบายมากเท่าที่คิด
เมื่อมาถึงท่าอากาศยานของดาว D517 ชายก็มุ่งหน้าไปยังไอบ็อกซ์ทันที ตามแผนการเขาจะต้องซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพาเป็นอันดับแรกเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ คอมพิวเตอร์พกพานี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ABrain แต่ผู้คนนิยมเรียกมันว่า “แอ๊บบี้” คอมพิวเตอร์พกพาพวกนี้มีผู้ผลิตหลายเจ้าและรูปแบบของเครื่องก็หลากหลายมาก มันมีตั้งแต่การ์ดแผ่นบางๆ เหมือนกับบัตรประจำตัว หุ่นยนต์รูปร่างต่างๆ ไปจนถึงแผ่นแปะที่แนบสนิทไปกับผิวเหมือนรอยสัก แต่ชายอยากได้อะไรที่พกพาง่ายและให้ความรู้สึกคุ้นเคยเขาจึงเลือกแบบที่ดูเหมือนสมาร์ตวอชท์มาชิ้นหนึ่ง แน่นอนว่าฟังก์ชันการทำงานของมันย่อมต้องเป็นแบบพิเศษเพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาโบราณที่ไม่ใช่ภาษาพื้นฐานของระบบ ราคาของ ABrain ที่ชายซื้อมาจึงมีราคาสูงกว่าปกติ แถมยังผ่อนไม่ได้อีกต่างหาก
ไม่ใช่ว่ามันไม่มีระบบผ่อนชำระแต่เป็นเพราะเขายังไม่ได้สมัครบัญชีกับธนาคารใดๆ จึงไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทผ่อนชำระได้ ชายอาจมีบัตรที่อัดไปด้วยเงินหลักล้านก็จริงแต่มันก็ไม่ต่างอะไรจากเงินสดเลย เวลาจะซื้ออะไรก็ต้องชำระเต็มจำนวน ครั้นจะมุ่งไปธนาคารตอนนี้เขาก็ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีได้อยู่ดี ดังนั้นมนุษย์โบราณตัวน้อยจึงจำต้องกัดฟันจ่ายเงินห้าแสนสตาร์เป็นค่า ABrain อย่างไร้ทางเลือก
‘ตอนนี้เหลือแค่ 2,517,620 สตาร์สินะ’ คนกำลังเริ่มตั้งตัวคิดพลางเรียกข้อมูลเกี่ยวกับการฝากขายอาหารสำเร็จรูปขึ้นมาดูอีกรอบระหว่างรออุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการดำรงชีพ ความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องซื้อ ABrain มาก็ได้ แต่เพื่อความสะดวกในเรื่องต่างๆ อย่างไรก็ต้องมีคอมพิวเตอร์พกพาชื่อเล่นน่ารักอย่างแอ๊บบี้เอาไว้
การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและที่สะดวกไปกว่านั้นก็คือชายไม่จำเป็นต้องออกจากไอบ็อกซ์เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาต้องทำคือหยิบสินค้าออกจากช่องรับของที่ติดตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งของไอบ็อกซ์เท่านั้น
‘รอแค่สามนาทีอย่างกับบะหมี่ถ้วยเลยแฮะ’ ชายจากอดีตคิดขณะสวมแอ๊บบี้เข้ากับข้อมือซ้าย ตัวเรือนสี่เหลี่ยมขอบมนกับสายเชือกถักสีขาวให้ความรู้สึกหรูหราและคุ้นเคย แต่พอนึกถึงส่วนหนึ่งในข้อความโฆษณาแล้วเขาก็อดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้ “เรียบง่ายทรงเสน่ห์แบบโบราณ” ถ้าผู้ออกแบบสมาร์ตวอชท์ยอดนิยมในยุคของเขามาได้ยินคงปวดใจน่าดู
“ก่อนอื่นก็ต้องลงทะเบียน...” ชายพึมพำออกมาอย่างลืมตัวแล้วสมองกลอัจฉริยะทั้งสองก็ตอบรับมาพร้อมกัน
“ตรวจไม่พบภาษาของคุณ โปรดออกคำสั่งเสียงอีกครั้ง” คอมพิวเตอร์ในไอบ็อกซ์ขึ้นข้อความ
“กรุณาออกคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษตามค่าเริ่มต้น” แอ๊บบี้ส่งเสียงขึ้นมาบ้าง
ฝ่ายชายผู้เผลอพูดภาษาโบราณที่ไม่มีใครเข้าใจนิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว เขาคงต้องใช้เวลาอีกนานเลยทีเดียวกว่าจะคุ้นชินกับชีวิตใหม่นี้ ชายหนุ่มกดปิดข้อความแจ้งเตือนบนสองอุปกรณ์ จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนใช้งาน ABrain ให้เรียบร้อย มันกินเวลาไม่นานนัก ที่วุ่นวายหน่อยก็คือส่วนของการปรับแต่งหน้าจอและการแจ้งเตือนต่างๆ เพราะชายไม่ชินกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยี กว่าจะเจอการแจ้งเตือนแบบธรรมดาที่ไม่ใช่ดวงแสงหรือข้อความวิ่งวนรอบตัวก็เล่นเอาเวียนหัวเลยทีเดียว
หลังจากจัดการเรื่องลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของที่พัก แน่นอนว่าการซื้อบ้านพร้อมลงทุนทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องเกินตัว เขาจึงเลือกเช่าห้องในตึกที่อนุญาตให้ทำอุตสาหกรรมระดับเล็กได้ แต่ทุกอย่างก็หาได้ราบรื่นไม่ ชายเพิ่งจะมีบัตรประจำตัวของสมาพันธรัฐอันโดรเมดาได้ไม่นาน ประวัติของเขาขาวสะอาดก็จริงแต่ก็ยากที่เจ้าของตึกจะวางใจ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าในทุกๆ ปีจะมีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในรัฐอดาเนียเป็นจำนวนมาก และคนเหล่านั้นมักจะก่อปัญหาขึ้นเสมอๆ ในปัจจุบันผู้ที่คิดมาเปิดธุรกิจในรัฐอดาเนียจึงมักจะพกเอกสารรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือมาด้วย ชายไม่มีเอกสารดังกล่าวเขาจึงถูกจำกัดตัวเลือกลงไปมาก อาคารที่ไม่มีปัญหากับผู้อพยพเข้ามาใหม่นั้นส่วนมากแล้วจะเป็นอาคารเก่าในทำเลที่ไม่ดีนัก จริงอยู่ว่าระบบขนส่งในปัจจุบันก้าวหน้าไปมากแต่ชายก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี เขาไม่ยอมอาศัยอยู่ในดงโรงงานอุตสาหกรรมไปอีกหลายปีแน่ แต่ตึกที่ดูดีขึ้นมาหน่อยก็มักจะเรียกร้องเงินประกันก้อนโต แม้ทางเจ้าของจะไม่สามารถโกงสัญญาได้แต่ชายก็ไม่อยากเอาเงินไปกองไว้เฉยๆ สองล้านสตาร์ที่มีอยู่สมควรจะถูกนำไปใช้ให้คุ้มค่าที่สุด
นั่งหาอยู่นานในที่สุดเขาก็พบอาคารที่ถูกใจ มันเป็นตึกกลางเก่ากลางใหม่ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างวงแหวนรอบที่สองและสามของเมือง สภาพห้องที่เห็นจากการเยี่ยมชมแบบสี่มิตินั้นดีมาก พื้นที่ใช้สอยภายในถูกแบ่งเป็นสัดส่วนด้วยการทำเพดานสูงและยกชั้นลอยขึ้น ชั้นบนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและชั้นล่างทั้งชั้นเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องจักร มันถึงกับมีท่าเทียบยานขนส่งส่วนตัวเลยทีเดียวซึ่งนับว่าสะดวกมากสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ยิ่งไม่มีเงื่อนไขสำหรับผู้อพยพใหม่ด้วยแล้วชายยิ่งไม่ลังเลที่จะติดต่อขอเช่าห้อง
ค่าเช่าห้อง 50,000 สตาร์ต่อเดือนไม่มีค่ามัดจำ ราคานี้จะว่าถูกก็ถูก จะว่าแพงก็ใช่ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าชายก็ไม่นึกเสียดาย อย่างไรก็ตามเมื่อเขาแจ้งความประสงค์จะเช่าระยะยาวผู้ดูแลก็เสนอเงื่อนไขพิเศษมาให้
‘เช่าครึ่งปีลด 20% เช่าหนึ่งปีลด 40% เช่าสองปีลด 50% เหรอ? ใจป้ำไม่เบาแฮะ’ คิดแล้วชายหนุ่มก็ชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะเลือกเช่าแบบครึ่งปีไปก่อน เขายังรู้จักโลกใหม่แห่งนี้ไม่มากพอการมีเงินสำรองมากเข้าไว้ย่อมอุ่นใจกว่า อีกอย่างหากในอนาคตเขาอยากจะย้ายที่อยู่ขึ้นมาก็จะสามารถทำได้โดยสะดวก ไม่ต้องมากังวลกับเงินที่จ่ายล่วงหน้าไปด้วย
240,000 สตาร์ปลิวหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับแบบแปลนอย่างละเอียดของห้องที่ถูกส่งเข้ามาในแอ๊บบี้ประจำตัว ชายสามารถเปิดดูแบบแปลนแบบสามมิติและเลือกแบบจำลองเครื่องเรือนมาวางได้เหมือนกับกำลังเล่นเกม หลังจากงุนงงกับระบบร้านค้าอยู่สักพักเขาก็เริ่มตกแต่งห้องพัก อย่างแรกที่เขาซื้อคือเตียงพร้อมชุดเครื่องนอนและชุดสุขภัณฑ์ ตามด้วยชุดเครื่องครัว และสุดท้ายก็คือเครื่องจักรสำหรับธุรกิจขายอาหารสำเร็จรูปของตัวเอง
‘เริ่มจากเมนูง่ายๆ ก่อนก็แล้วกัน’ ชายบอกตัวเองแบบนั้นและเลือกซื้อสิ่งจำเป็นต่างๆ ตามแผนที่วางไว้ สิ่งแรกที่ต้องมีคือเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหาร หากไม่มีเจ้าเครื่องนี้เขาจะต้องส่งอาหารที่จะขายทั้งหมดไปยังศูนย์รับรองความปลอดภัยของเครื่องบริโภคซึ่งนับเป็นการเสียเวลาอย่างมาก และเนื่องจากชายต้องการขายอาหารในรูปแบบของอาหารสำเร็จรูปไม่ใช่ข้าวกล่องตามสั่งดังนั้นเขาจะต้องมีเครื่องบรรจุอาหารอัตโนมัติด้วย ตอนแรกเขาก็หนักใจอยู่บ้างเพราะในยุคที่จากมาเครื่องจักรพวกนี้มักมีขนาดใหญ่และราคาแพง แต่เมื่อลองหาดูก็พบว่ามันมีเครื่องขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยอยู่ด้วย แถมราคาก็ไม่แพง แค่ห้าหมื่นสตาร์เท่ากันกับเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหาร
‘ต่อไปก็วัตถุดิบกับบรรจุภัณฑ์’ ชายกำกับตัวเองในใจพลางออกคำสั่งค้นหาแก่แอ๊บบี้ ไม่ถึงอึดใจหน้าต่างร้านค้านับร้อยบานก็ปรากฏขึ้นมา เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า มันมีทั้งร้านค้าวัตถุดิบไปจนถึงเครื่องเพาะวัตถุดิบเลยทีเดียว
ถูกแล้ว เครื่องเพาะวัตถุดิบ อย่างไข่ไก่ที่เขาต้องการขอแค่มีเครื่องนี้ไม่ต้องเลี้ยงไก่ก็มีไข่กินทุกวัน มันมีทั้งขนาดเล็กที่ผลิตไข่ได้วันละสิบฟองไปจนถึงเครื่องใหญ่ที่ผลิตไข่ได้เป็นพันฟองต่อวัน แถมไข่ที่กินไม่หมดก็สามารถนำไปทำเป็น “เซลล์ตั้งต้น” สำหรับผลิตไข่ชุดต่อๆ ไปได้ด้วย
‘สะดวกจนน่ากลัวเลยแฮะ’ แต่ถึงจะคิดแบบนั้นชายก็ตัดสินใจซื้อเครื่องเพาะไข่ขนาดห้าร้อยฟองมาเครื่องหนึ่ง ราคาของมันคือ 180,000 สตาร์ซึ่งนับว่าสูงทีเดียว ‘ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วซื้อเรือนกระจกมาด้วยก็แล้วกัน’ ชายคิดพลางกดซื้อเรือนกระจกสำหรับเพาะปลูกมาหนึ่งหลัง ตามด้วยบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้งอีกพันชิ้น จนถึงตอนนี้เขาเหลือเงินเพียงสองล้านต้นๆ เท่านั้น แม้จะดูเหมือนเยอะแต่พอพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ต้องเผชิญแล้วมันก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย
ชายใช้เวลาอีกห้านาทีในการวางตำแหน่งเครื่องเรือนและเครื่องจักรต่างๆ การขนย้ายตลอดจนการติดตั้งนั้นทางร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด หลังจากอนุมัติตำแหน่งที่แน่นอนแล้วเขาก็แค่ต้องรอสามสิบนาทีเท่านั้น ห้องเปล่าที่เช่าไว้ก็พร้อมสำหรับการเข้าอยู่
๐๐๐
ชายใช้บริการยานรับจ้างในการเดินทางไปยังบ้านหลังใหม่ของเขา คนขับยานเป็นบีสต์สายพันธุ์ฟีไลน์ที่มีหูรูปสามเหลี่ยมอยู่บนศีรษะ เมื่อแรกที่ได้เห็นทาสแมวจากอดีตแทบจะละสายตาไปจากหูฟูๆ คู่นั้นไม่ได้เลย จนพลขับหัวเราะแล้วถามว่า “เพิ่งเคยเห็นบีสต์หรือ?” นั่นแหละชายถึงได้รู้สึกตัว
“ผมเสียมารยาทแล้วต้องขออภัยจริงๆ ครับ”
“โอ้! มาจากชุมชนโบราณหรือไม่ก็เป็นผู้ฟื้นจากนิทราสินะ ไม่เป็นไรๆ ไม่แปลกหรอกที่คุณจะไม่คุ้นชิน” พอได้ยินภาษาที่ไม่คุ้นเคยจากปากของชายคนขับก็พอจะสรุปที่มาของเขาได้ในทันที แน่นอนว่าเขาฟังภาษาอังกฤษไม่ออกแต่เป็นแอ๊บบี้ของชายที่ส่งเสียงแปลภาษาออกมาโดยอัตโนมัติ ความเร็วของปัญญาประดิษฐ์นั้นมากพอที่จะทำให้พวกเขาสนทนากันได้อย่างราบรื่น
“คุณเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่อยากจะดูคลิปแนะนำดาวของเราไหม?” คุณลุงแมวเหมียวเสนออย่างใจดี ภายในยานรับจ้างแบบนี้จะมีคลิปวิดีโอสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ชุดหนึ่ง มันมีทั้งแต่เรื่องราวทั่วไปของดวงดาว โฆษณาโรงแรม ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ ธรรมดาแล้วหากรับผู้โดยสารต่างถิ่นขึ้นมาเขาก็จะเปิดคลิปวิดีโอพวกนี้ให้ดูเป็นปกติ
“ผมดูมาแล้ว ขอบคุณมากครับ” ชายปฏิเสธอย่างสุภาพ จริงอยู่ว่าจะดูซ้ำก็ไม่เสียหาย แต่เขาเป็นคนชอบนั่งรถเงียบๆ มาแต่ไหนแต่ไรแล้วจึงไม่อยากดูอีก ยิ่งไปกว่านั้นทิวทัศน์สองข้างทางก็น่าสนใจกว่ามาก ไหนๆ ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ดางดวงนี้แล้ว เด็กหนุ่มก็อยากสำรวจสถานที่ด้วยตาของตนเอง
“เตรียมตัวมาดีไม่เบานะ ว่าแต่ว่าหางานได้หรือยังล่ะ? ถ้ายังผมพอจะแนะนำงานสำหรับผู้อพยพให้ได้นะ” เป็นอีกครั้งที่สารถีมอบความหวังดีให้ ชายรู้สึกประทับใจในความเป็นมิตรของคนที่นี่ไม่น้อย
“ขอบคุณมากครับแต่ผมอยากลองทำอาหารขายดูก่อน” และก็เป็นอีกครั้งที่ชายต้องปฏิเสธอย่างสุภาพ หากเขายังมองไม่เห็นลู่ทางทำกินข้อเสนอของคุณลุงแมวเหมียวก็ฟังดูเข้าที แต่เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ชายก็อยากจะลองทำให้เต็มที่เสียก่อน หากล้มเหลวก็ค่อยขยับไปทำอย่างอื่น
“ทำอาหาร? คุณจะทำอาหารโบราณขายหรือ?” น้ำเสียงของคู่สนทนาฟังดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ใบหูรูปสามเหลี่ยมกระดิกไปมาล่อตาล่อใจจนสมาธิไขว้เขว
“เอ่อ...ครับ” ชายอึกอักเล็กน้อยเพราะยังไม่ชินกับคำว่าโบราณที่คนยุคนี้ใช้กัน
“โอ้! เยี่ยมไปเลย คุณต้องทำเงินได้มากแน่ๆ ว่าแต่ว่าคุณเปิดร้านที่ไหนหรือ? ถึงผมจะสู้ราคาอาหารโบราณไม่ไหวแต่ผมสามารถช่วยแนะนำคนให้ได้นะ” อันที่จริงแล้วสาถีขนฟูก็แค่อยากได้ “ทิป” เล็กๆ น้อยๆ จากผู้โดยสารที่เขาจะแนะนำร้านอาหารดีๆ ให้เท่านั้น อย่างไรก็ตามชายไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้และมนุษย์โบราณก็ตอบไปอย่างพาซื่อว่า
“ผมไม่มีหน้าร้านหรอก แค่ฝากขายกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติเท่านั้นเอง”
“เครื่องขายอาหารอัตโนมัติ?” คนขับถึงกับหันกลับมามองหน้า นัยน์ตาสีเหลืองเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกับม่านตาที่ขยายกว้างอย่างน่ารักจนชายต้องพยายามข่มกลั้นความเป็นทาสแมวของตนอีกครั้ง “คุณจะบอกว่าอาหารโบราณขายในเครื่องขายอาหารอัตโนมัติได้เหรอ?”
“อ—อื้อ ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” คนที่คุ้นชินกับอาหารแช่แข็งและแกงถุงขมวดคิ้ว ในสมัยที่เขาจากมาการขายอาหารปรุงสำเร็จเป็นอะไรที่พบเห็นได้ทั่วไป แกงถุงที่วางขายแบบไม่ใส่ตู้เย็นก็มีเกลื่อนแถมยังอร่อยด้วย ตัวแกงไม่เสียแม้จะอยู่มานานตั้งแต่เช้าจรดเย็นเสียด้วยซ้ำ แล้วจะมีปัญหาอะไรกับในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ดูอย่างเครื่องขายอาหารอัตโนมัติก็มีระบบรักษาอุณหภูมิสำหรับสินค้าแต่ละชนิดแยกกันเป็นเอกเทศ จะแช่เย็นหรือแช่แข็งก็ได้หมด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบอุ่นร้อนให้อีกด้วย แบบนี้แล้วจะขายอาหารปรุงสุกไม่ได้ได้อย่างไร?
“มันไม่เคยมีมาก่อนน่ะสิ!” คนขับยานขึ้นเสียง “อาหารโบราณเป็นอาหารชั้นสูงราคาแพงแถมยังต้องปรุงอย่างพิถีพิถัน มีแต่ภัตตาคารชั้นนำเท่านั้นที่จะมีเสิร์ฟ แถมถ้าปรุงทิ้งไว้นานๆ มันจะไม่อร่อยด้วย ผมได้ยินว่ามันต้องกินให้หมดภายในห้านาทีหลังปรุงเสร็จด้วยนะ”
“ห้านาที? คุณพูดถึงอะไรอยู่หรือ?” คนฟังเดาว่าเป็นไอศกรีมที่ต้องรีบกินก่อนละลาย หรือพวกโนริมากิที่ต้องรีบจัดการก่อนสาหร่ายจะหายกรอบ ทว่าคำตอบที่ได้กลับผิดคาดไปไกลลิบ
“ก็นู้ดเดิลคัพในตำนานยังไงล่ะ! ถ้าคุณไม่รีบกินเส้นจะพองเกินไปกินแล้วไม่อร่อย”
ชายพลันรู้สึกว่าสมองของเขาขาวโพลนไปหมด อะไรคือ “บะหมี่ถ้วยในตำนาน” ใช่อาหารเด็กหอราคาถ้วยละสิบกว่าบาทที่เขารู้จักหรือเปล่า? หรือจะเป็นแบบที่ดีขึ้นมาหน่อยอย่างบะหมี่ถ้วยเครื่องเยอะเส้นเหนียวนุ่มอะไรพวกนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ต่างจากอาหารระดับภัตตาคารอยู่ดี ‘หรือจะเป็นอาหารแนวอินโนเวทีฟไม่ก็โมเลคิวลาร์แกสโตรโนมี?’ ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลแต่เมื่อคนขับหวังดีเปิดภาพ “นู้ดเดิ้ลคัพ” ขึ้นมาให้ดูเขาก็แทบจะยกมือขึ้นกุมขมับเลยทีเดียว
ถ้วยทรงสูงที่คุ้นเคยกับเส้นบะหมี่ที่ดูอย่างไรก็เคยผ่านการต้มและทอดมาก่อนแล้วรอบหนึ่ง ทั้งสองอย่างนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมน้ำแกงก็ใสจนแทบจะเหมือนน้ำเปล่าดูไม่น่ากินเลยสักนิด
‘อย่างน้อยก็ขอรสต้มยำ หรือใส่เครื่องสักหน่อยได้ไหม?’ เด็กหนุ่มที่ผ่านช่วงเวลากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนอาหารจานหลักสามมื้อโอดครวญในใจ
“เป็นอย่างไร? น่ากินมากเลยใช่ไหม อาหารในตำนานแบบนี้แค่ไฟล์ห้าสัมผัสก็แพงเอาเรื่องแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอาหารที่กินได้จริงๆ เลย” คนขับยานโอ้อวดโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของผู้โดยสารเลยแม้แต่น้อย
“ไฟล์ห้าสัมผัส?” ชายไม่สนใจคำคุยโวของสารถีแล้ว แต่เขากลับสะดุดใจกับชื่อประเภทของไฟล์ที่ตนไม่คุ้นเคยแทน
“เป็นไฟล์เสมือนจริงทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แต่คุณต้องใช้อุปกรณ์พิเศษสักหน่อยนะ สำหรับตอนนี้ถ้าคุณกดเล่นจะได้แค่รูปกับกลิ่นเท่านั้น” คนขับรถอธิบายอย่างไม่นึกสงสัยอะไร เพราะผู้อพยพจากดาวล้าหลังหรือผู้ฟื้นจากนิทราก็มักจะตามเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ทันอยู่แล้ว นอกจากนี้เขายังเปิดไฟล์ดังกล่าวขึ้นมาให้ด้วย
“ผมกดดูได้หรือ?” เมื่อครู่อีกฝ่ายบอกว่าซื้อมาแพงชายจึงคิดว่าการขอดูแบบนี้จะถือเป็นการเอาเปรียบหรือไม่?
“ได้สิ หรือถ้าคุณเกรงใจก็ส่งอาหารสำเร็จรูปมาให้ผมสักชิ้นเป็นการแลกเปลี่ยนก็ได้นะ” คุณลุงแมวเหมียวพูดติดตลก ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร แต่คนที่กำลังกังวลกับเรื่องการโฆษณากลับตอบรับอย่างกระตือรือร้น
“ผมส่งให้หลายถ้วยเลยก็ได้ คุณจะได้ช่วยโปรโมตให้ผมไง” ชายกล่าวด้วยความคาดหวังเล็กๆ เครื่องขายอาหารอัตโนมัติมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ชนชั้นแรงงาน หากอาหารของเขากลายเป็นที่นิยมในหมู่คนขับยานรับจ้างขึ้นมาอนาคตของเขาย่อมต้องสดใสอย่างแน่นอน
ชายฝันหวานถึงอนาคตของตนอยู่ครู่ก็หันกลับมาสนใจไฟล์ห้าสัมผัสตรงหน้า เมื่อกดปุ่มเล่นที่ลอยอยู่กลางอากาศภาพนิ่งก็พลันเคลื่อนไหวพร้อมๆ กับกลิ่นที่โชยมาปะทะจมูก
มันเป็นกลิ่นที่จะว่าหอมก็ใช่แต่กลับชวนให้รู้สึกขัดๆ ในใจ ชายหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ท่าทางตั้งใจพิจารณาของเขาทำให้คนขับยานส่งเสียงมาว่า
“กลิ่นซุปกระดูกหอมมากใช่ไหม? ผมนี่น้ำลายสอเลย”
‘อา...กลิ่นซุปกระดูกนี่เองก็ว่าอยู่ว่ามันคุ้นๆ’ ชายบอกกับตัวเองขณะเดียวกันเขาก็ได้คำตอบของความคาใจก่อนหน้าแล้วว่าทำไมตนถึงรู้สึกอึดอัดกับกลิ่นของบะหมี่ถ้วยนี้ ‘ที่แท้ก็ปรุงแต่งมากไป’ ใช่ มันเป็นกลิ่นสังเคราะห์ที่หอมชวนให้รู้สึกอยากอาหารแต่ก็เข้มข้นเกินไปสำหรับคนโบราณอย่างเขา อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้คนขับยานต้องเสียน้ำใจชายจึงเอ่ยชมไปเล็กน้อย และเหมือนโชคเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงที่หมายทำให้เขาไม่ต้องใช้ความพยายามในการต่อบทสนทนาอีก
๐๐๐