Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2024-12-20 19:51:07

เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงจากดาว E5196 ไปยังจุดหมายที่เขาต้องการ ชายจึงต้องไปต่อเครื่องที่สถานีอวกาศ J666 เสียก่อน การเดินทางครั้งนี้จึงกินเวลาถึงห้าชั่วโมงเต็ม หากไม่นับระยะทางที่ไกลหลายปีแสงแล้วเขาก็รู้สึกว่าการเดินทางในโลกอนาคตไม่ได้สะดวกสบายมากเท่าที่คิด

เมื่อมาถึงท่าอากาศยานของดาว D517 ชายก็มุ่งหน้าไปยังไอบ็อกซ์ทันที ตามแผนการเขาจะต้องซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพาเป็นอันดับแรกเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ คอมพิวเตอร์พกพานี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ABrain แต่ผู้คนนิยมเรียกมันว่า “แอ๊บบี้” คอมพิวเตอร์พกพาพวกนี้มีผู้ผลิตหลายเจ้าและรูปแบบของเครื่องก็หลากหลายมาก มันมีตั้งแต่การ์ดแผ่นบางๆ เหมือนกับบัตรประจำตัว หุ่นยนต์รูปร่างต่างๆ ไปจนถึงแผ่นแปะที่แนบสนิทไปกับผิวเหมือนรอยสัก แต่ชายอยากได้อะไรที่พกพาง่ายและให้ความรู้สึกคุ้นเคยเขาจึงเลือกแบบที่ดูเหมือนสมาร์ตวอชท์มาชิ้นหนึ่ง แน่นอนว่าฟังก์ชันการทำงานของมันย่อมต้องเป็นแบบพิเศษเพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาโบราณที่ไม่ใช่ภาษาพื้นฐานของระบบ ราคาของ ABrain ที่ชายซื้อมาจึงมีราคาสูงกว่าปกติ แถมยังผ่อนไม่ได้อีกต่างหาก

ไม่ใช่ว่ามันไม่มีระบบผ่อนชำระแต่เป็นเพราะเขายังไม่ได้สมัครบัญชีกับธนาคารใดๆ จึงไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทผ่อนชำระได้ ชายอาจมีบัตรที่อัดไปด้วยเงินหลักล้านก็จริงแต่มันก็ไม่ต่างอะไรจากเงินสดเลย เวลาจะซื้ออะไรก็ต้องชำระเต็มจำนวน ครั้นจะมุ่งไปธนาคารตอนนี้เขาก็ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีได้อยู่ดี ดังนั้นมนุษย์โบราณตัวน้อยจึงจำต้องกัดฟันจ่ายเงินห้าแสนสตาร์เป็นค่า ABrain อย่างไร้ทางเลือก

‘ตอนนี้เหลือแค่ 2,517,620 สตาร์สินะ’ คนกำลังเริ่มตั้งตัวคิดพลางเรียกข้อมูลเกี่ยวกับการฝากขายอาหารสำเร็จรูปขึ้นมาดูอีกรอบระหว่างรออุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการดำรงชีพ ความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องซื้อ ABrain มาก็ได้ แต่เพื่อความสะดวกในเรื่องต่างๆ อย่างไรก็ต้องมีคอมพิวเตอร์พกพาชื่อเล่นน่ารักอย่างแอ๊บบี้เอาไว้

การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและที่สะดวกไปกว่านั้นก็คือชายไม่จำเป็นต้องออกจากไอบ็อกซ์เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาต้องทำคือหยิบสินค้าออกจากช่องรับของที่ติดตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งของไอบ็อกซ์เท่านั้น

‘รอแค่สามนาทีอย่างกับบะหมี่ถ้วยเลยแฮะ’ ชายจากอดีตคิดขณะสวมแอ๊บบี้เข้ากับข้อมือซ้าย ตัวเรือนสี่เหลี่ยมขอบมนกับสายเชือกถักสีขาวให้ความรู้สึกหรูหราและคุ้นเคย แต่พอนึกถึงส่วนหนึ่งในข้อความโฆษณาแล้วเขาก็อดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้ “เรียบง่ายทรงเสน่ห์แบบโบราณ” ถ้าผู้ออกแบบสมาร์ตวอชท์ยอดนิยมในยุคของเขามาได้ยินคงปวดใจน่าดู

“ก่อนอื่นก็ต้องลงทะเบียน...” ชายพึมพำออกมาอย่างลืมตัวแล้วสมองกลอัจฉริยะทั้งสองก็ตอบรับมาพร้อมกัน

“ตรวจไม่พบภาษาของคุณ โปรดออกคำสั่งเสียงอีกครั้ง” คอมพิวเตอร์ในไอบ็อกซ์ขึ้นข้อความ

“กรุณาออกคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษตามค่าเริ่มต้น” แอ๊บบี้ส่งเสียงขึ้นมาบ้าง

ฝ่ายชายผู้เผลอพูดภาษาโบราณที่ไม่มีใครเข้าใจนิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว เขาคงต้องใช้เวลาอีกนานเลยทีเดียวกว่าจะคุ้นชินกับชีวิตใหม่นี้ ชายหนุ่มกดปิดข้อความแจ้งเตือนบนสองอุปกรณ์ จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนใช้งาน ABrain ให้เรียบร้อย มันกินเวลาไม่นานนัก ที่วุ่นวายหน่อยก็คือส่วนของการปรับแต่งหน้าจอและการแจ้งเตือนต่างๆ เพราะชายไม่ชินกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยี กว่าจะเจอการแจ้งเตือนแบบธรรมดาที่ไม่ใช่ดวงแสงหรือข้อความวิ่งวนรอบตัวก็เล่นเอาเวียนหัวเลยทีเดียว

หลังจากจัดการเรื่องลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของที่พัก แน่นอนว่าการซื้อบ้านพร้อมลงทุนทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องเกินตัว เขาจึงเลือกเช่าห้องในตึกที่อนุญาตให้ทำอุตสาหกรรมระดับเล็กได้ แต่ทุกอย่างก็หาได้ราบรื่นไม่ ชายเพิ่งจะมีบัตรประจำตัวของสมาพันธรัฐอันโดรเมดาได้ไม่นาน ประวัติของเขาขาวสะอาดก็จริงแต่ก็ยากที่เจ้าของตึกจะวางใจ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าในทุกๆ ปีจะมีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในรัฐอดาเนียเป็นจำนวนมาก และคนเหล่านั้นมักจะก่อปัญหาขึ้นเสมอๆ ในปัจจุบันผู้ที่คิดมาเปิดธุรกิจในรัฐอดาเนียจึงมักจะพกเอกสารรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือมาด้วย ชายไม่มีเอกสารดังกล่าวเขาจึงถูกจำกัดตัวเลือกลงไปมาก อาคารที่ไม่มีปัญหากับผู้อพยพเข้ามาใหม่นั้นส่วนมากแล้วจะเป็นอาคารเก่าในทำเลที่ไม่ดีนัก จริงอยู่ว่าระบบขนส่งในปัจจุบันก้าวหน้าไปมากแต่ชายก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี เขาไม่ยอมอาศัยอยู่ในดงโรงงานอุตสาหกรรมไปอีกหลายปีแน่ แต่ตึกที่ดูดีขึ้นมาหน่อยก็มักจะเรียกร้องเงินประกันก้อนโต แม้ทางเจ้าของจะไม่สามารถโกงสัญญาได้แต่ชายก็ไม่อยากเอาเงินไปกองไว้เฉยๆ สองล้านสตาร์ที่มีอยู่สมควรจะถูกนำไปใช้ให้คุ้มค่าที่สุด

นั่งหาอยู่นานในที่สุดเขาก็พบอาคารที่ถูกใจ มันเป็นตึกกลางเก่ากลางใหม่ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างวงแหวนรอบที่สองและสามของเมือง สภาพห้องที่เห็นจากการเยี่ยมชมแบบสี่มิตินั้นดีมาก พื้นที่ใช้สอยภายในถูกแบ่งเป็นสัดส่วนด้วยการทำเพดานสูงและยกชั้นลอยขึ้น ชั้นบนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและชั้นล่างทั้งชั้นเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องจักร มันถึงกับมีท่าเทียบยานขนส่งส่วนตัวเลยทีเดียวซึ่งนับว่าสะดวกมากสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ยิ่งไม่มีเงื่อนไขสำหรับผู้อพยพใหม่ด้วยแล้วชายยิ่งไม่ลังเลที่จะติดต่อขอเช่าห้อง

ค่าเช่าห้อง 50,000 สตาร์ต่อเดือนไม่มีค่ามัดจำ ราคานี้จะว่าถูกก็ถูก จะว่าแพงก็ใช่ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าชายก็ไม่นึกเสียดาย อย่างไรก็ตามเมื่อเขาแจ้งความประสงค์จะเช่าระยะยาวผู้ดูแลก็เสนอเงื่อนไขพิเศษมาให้

‘เช่าครึ่งปีลด 20% เช่าหนึ่งปีลด 40% เช่าสองปีลด 50% เหรอ? ใจป้ำไม่เบาแฮะ’ คิดแล้วชายหนุ่มก็ชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะเลือกเช่าแบบครึ่งปีไปก่อน เขายังรู้จักโลกใหม่แห่งนี้ไม่มากพอการมีเงินสำรองมากเข้าไว้ย่อมอุ่นใจกว่า อีกอย่างหากในอนาคตเขาอยากจะย้ายที่อยู่ขึ้นมาก็จะสามารถทำได้โดยสะดวก ไม่ต้องมากังวลกับเงินที่จ่ายล่วงหน้าไปด้วย

240,000 สตาร์ปลิวหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับแบบแปลนอย่างละเอียดของห้องที่ถูกส่งเข้ามาในแอ๊บบี้ประจำตัว ชายสามารถเปิดดูแบบแปลนแบบสามมิติและเลือกแบบจำลองเครื่องเรือนมาวางได้เหมือนกับกำลังเล่นเกม หลังจากงุนงงกับระบบร้านค้าอยู่สักพักเขาก็เริ่มตกแต่งห้องพัก อย่างแรกที่เขาซื้อคือเตียงพร้อมชุดเครื่องนอนและชุดสุขภัณฑ์ ตามด้วยชุดเครื่องครัว และสุดท้ายก็คือเครื่องจักรสำหรับธุรกิจขายอาหารสำเร็จรูปของตัวเอง

‘เริ่มจากเมนูง่ายๆ ก่อนก็แล้วกัน’ ชายบอกตัวเองแบบนั้นและเลือกซื้อสิ่งจำเป็นต่างๆ ตามแผนที่วางไว้ สิ่งแรกที่ต้องมีคือเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหาร หากไม่มีเจ้าเครื่องนี้เขาจะต้องส่งอาหารที่จะขายทั้งหมดไปยังศูนย์รับรองความปลอดภัยของเครื่องบริโภคซึ่งนับเป็นการเสียเวลาอย่างมาก และเนื่องจากชายต้องการขายอาหารในรูปแบบของอาหารสำเร็จรูปไม่ใช่ข้าวกล่องตามสั่งดังนั้นเขาจะต้องมีเครื่องบรรจุอาหารอัตโนมัติด้วย ตอนแรกเขาก็หนักใจอยู่บ้างเพราะในยุคที่จากมาเครื่องจักรพวกนี้มักมีขนาดใหญ่และราคาแพง แต่เมื่อลองหาดูก็พบว่ามันมีเครื่องขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยอยู่ด้วย แถมราคาก็ไม่แพง แค่ห้าหมื่นสตาร์เท่ากันกับเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหาร

‘ต่อไปก็วัตถุดิบกับบรรจุภัณฑ์’ ชายกำกับตัวเองในใจพลางออกคำสั่งค้นหาแก่แอ๊บบี้ ไม่ถึงอึดใจหน้าต่างร้านค้านับร้อยบานก็ปรากฏขึ้นมา เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า มันมีทั้งร้านค้าวัตถุดิบไปจนถึงเครื่องเพาะวัตถุดิบเลยทีเดียว

ถูกแล้ว เครื่องเพาะวัตถุดิบ อย่างไข่ไก่ที่เขาต้องการขอแค่มีเครื่องนี้ไม่ต้องเลี้ยงไก่ก็มีไข่กินทุกวัน มันมีทั้งขนาดเล็กที่ผลิตไข่ได้วันละสิบฟองไปจนถึงเครื่องใหญ่ที่ผลิตไข่ได้เป็นพันฟองต่อวัน แถมไข่ที่กินไม่หมดก็สามารถนำไปทำเป็น “เซลล์ตั้งต้น” สำหรับผลิตไข่ชุดต่อๆ ไปได้ด้วย

‘สะดวกจนน่ากลัวเลยแฮะ’ แต่ถึงจะคิดแบบนั้นชายก็ตัดสินใจซื้อเครื่องเพาะไข่ขนาดห้าร้อยฟองมาเครื่องหนึ่ง ราคาของมันคือ 180,000 สตาร์ซึ่งนับว่าสูงทีเดียว ‘ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วซื้อเรือนกระจกมาด้วยก็แล้วกัน’ ชายคิดพลางกดซื้อเรือนกระจกสำหรับเพาะปลูกมาหนึ่งหลัง ตามด้วยบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้งอีกพันชิ้น จนถึงตอนนี้เขาเหลือเงินเพียงสองล้านต้นๆ เท่านั้น แม้จะดูเหมือนเยอะแต่พอพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ต้องเผชิญแล้วมันก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย

ชายใช้เวลาอีกห้านาทีในการวางตำแหน่งเครื่องเรือนและเครื่องจักรต่างๆ การขนย้ายตลอดจนการติดตั้งนั้นทางร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด หลังจากอนุมัติตำแหน่งที่แน่นอนแล้วเขาก็แค่ต้องรอสามสิบนาทีเท่านั้น ห้องเปล่าที่เช่าไว้ก็พร้อมสำหรับการเข้าอยู่

๐๐๐

ชายใช้บริการยานรับจ้างในการเดินทางไปยังบ้านหลังใหม่ของเขา คนขับยานเป็นบีสต์สายพันธุ์ฟีไลน์ที่มีหูรูปสามเหลี่ยมอยู่บนศีรษะ เมื่อแรกที่ได้เห็นทาสแมวจากอดีตแทบจะละสายตาไปจากหูฟูๆ คู่นั้นไม่ได้เลย จนพลขับหัวเราะแล้วถามว่า “เพิ่งเคยเห็นบีสต์หรือ?” นั่นแหละชายถึงได้รู้สึกตัว

“ผมเสียมารยาทแล้วต้องขออภัยจริงๆ ครับ”

“โอ้! มาจากชุมชนโบราณหรือไม่ก็เป็นผู้ฟื้นจากนิทราสินะ ไม่เป็นไรๆ ไม่แปลกหรอกที่คุณจะไม่คุ้นชิน” พอได้ยินภาษาที่ไม่คุ้นเคยจากปากของชายคนขับก็พอจะสรุปที่มาของเขาได้ในทันที แน่นอนว่าเขาฟังภาษาอังกฤษไม่ออกแต่เป็นแอ๊บบี้ของชายที่ส่งเสียงแปลภาษาออกมาโดยอัตโนมัติ ความเร็วของปัญญาประดิษฐ์นั้นมากพอที่จะทำให้พวกเขาสนทนากันได้อย่างราบรื่น

“คุณเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่อยากจะดูคลิปแนะนำดาวของเราไหม?” คุณลุงแมวเหมียวเสนออย่างใจดี ภายในยานรับจ้างแบบนี้จะมีคลิปวิดีโอสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ชุดหนึ่ง มันมีทั้งแต่เรื่องราวทั่วไปของดวงดาว โฆษณาโรงแรม ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ ธรรมดาแล้วหากรับผู้โดยสารต่างถิ่นขึ้นมาเขาก็จะเปิดคลิปวิดีโอพวกนี้ให้ดูเป็นปกติ

“ผมดูมาแล้ว ขอบคุณมากครับ” ชายปฏิเสธอย่างสุภาพ จริงอยู่ว่าจะดูซ้ำก็ไม่เสียหาย แต่เขาเป็นคนชอบนั่งรถเงียบๆ มาแต่ไหนแต่ไรแล้วจึงไม่อยากดูอีก ยิ่งไปกว่านั้นทิวทัศน์สองข้างทางก็น่าสนใจกว่ามาก ไหนๆ ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ดางดวงนี้แล้ว เด็กหนุ่มก็อยากสำรวจสถานที่ด้วยตาของตนเอง

“เตรียมตัวมาดีไม่เบานะ ว่าแต่ว่าหางานได้หรือยังล่ะ? ถ้ายังผมพอจะแนะนำงานสำหรับผู้อพยพให้ได้นะ” เป็นอีกครั้งที่สารถีมอบความหวังดีให้ ชายรู้สึกประทับใจในความเป็นมิตรของคนที่นี่ไม่น้อย

“ขอบคุณมากครับแต่ผมอยากลองทำอาหารขายดูก่อน” และก็เป็นอีกครั้งที่ชายต้องปฏิเสธอย่างสุภาพ หากเขายังมองไม่เห็นลู่ทางทำกินข้อเสนอของคุณลุงแมวเหมียวก็ฟังดูเข้าที แต่เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ชายก็อยากจะลองทำให้เต็มที่เสียก่อน หากล้มเหลวก็ค่อยขยับไปทำอย่างอื่น

“ทำอาหาร? คุณจะทำอาหารโบราณขายหรือ?” น้ำเสียงของคู่สนทนาฟังดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ใบหูรูปสามเหลี่ยมกระดิกไปมาล่อตาล่อใจจนสมาธิไขว้เขว

“เอ่อ...ครับ” ชายอึกอักเล็กน้อยเพราะยังไม่ชินกับคำว่าโบราณที่คนยุคนี้ใช้กัน

“โอ้! เยี่ยมไปเลย คุณต้องทำเงินได้มากแน่ๆ ว่าแต่ว่าคุณเปิดร้านที่ไหนหรือ? ถึงผมจะสู้ราคาอาหารโบราณไม่ไหวแต่ผมสามารถช่วยแนะนำคนให้ได้นะ” อันที่จริงแล้วสาถีขนฟูก็แค่อยากได้ “ทิป” เล็กๆ น้อยๆ จากผู้โดยสารที่เขาจะแนะนำร้านอาหารดีๆ ให้เท่านั้น อย่างไรก็ตามชายไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้และมนุษย์โบราณก็ตอบไปอย่างพาซื่อว่า

“ผมไม่มีหน้าร้านหรอก แค่ฝากขายกับเครื่องขายอาหารอัตโนมัติเท่านั้นเอง”

“เครื่องขายอาหารอัตโนมัติ?” คนขับถึงกับหันกลับมามองหน้า นัยน์ตาสีเหลืองเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกับม่านตาที่ขยายกว้างอย่างน่ารักจนชายต้องพยายามข่มกลั้นความเป็นทาสแมวของตนอีกครั้ง “คุณจะบอกว่าอาหารโบราณขายในเครื่องขายอาหารอัตโนมัติได้เหรอ?”

“อ—อื้อ ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” คนที่คุ้นชินกับอาหารแช่แข็งและแกงถุงขมวดคิ้ว ในสมัยที่เขาจากมาการขายอาหารปรุงสำเร็จเป็นอะไรที่พบเห็นได้ทั่วไป แกงถุงที่วางขายแบบไม่ใส่ตู้เย็นก็มีเกลื่อนแถมยังอร่อยด้วย ตัวแกงไม่เสียแม้จะอยู่มานานตั้งแต่เช้าจรดเย็นเสียด้วยซ้ำ แล้วจะมีปัญหาอะไรกับในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ดูอย่างเครื่องขายอาหารอัตโนมัติก็มีระบบรักษาอุณหภูมิสำหรับสินค้าแต่ละชนิดแยกกันเป็นเอกเทศ จะแช่เย็นหรือแช่แข็งก็ได้หมด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบอุ่นร้อนให้อีกด้วย แบบนี้แล้วจะขายอาหารปรุงสุกไม่ได้ได้อย่างไร?

“มันไม่เคยมีมาก่อนน่ะสิ!” คนขับยานขึ้นเสียง “อาหารโบราณเป็นอาหารชั้นสูงราคาแพงแถมยังต้องปรุงอย่างพิถีพิถัน มีแต่ภัตตาคารชั้นนำเท่านั้นที่จะมีเสิร์ฟ แถมถ้าปรุงทิ้งไว้นานๆ มันจะไม่อร่อยด้วย ผมได้ยินว่ามันต้องกินให้หมดภายในห้านาทีหลังปรุงเสร็จด้วยนะ”

“ห้านาที? คุณพูดถึงอะไรอยู่หรือ?” คนฟังเดาว่าเป็นไอศกรีมที่ต้องรีบกินก่อนละลาย หรือพวกโนริมากิที่ต้องรีบจัดการก่อนสาหร่ายจะหายกรอบ ทว่าคำตอบที่ได้กลับผิดคาดไปไกลลิบ

“ก็นู้ดเดิลคัพในตำนานยังไงล่ะ! ถ้าคุณไม่รีบกินเส้นจะพองเกินไปกินแล้วไม่อร่อย”

ชายพลันรู้สึกว่าสมองของเขาขาวโพลนไปหมด อะไรคือ “บะหมี่ถ้วยในตำนาน” ใช่อาหารเด็กหอราคาถ้วยละสิบกว่าบาทที่เขารู้จักหรือเปล่า? หรือจะเป็นแบบที่ดีขึ้นมาหน่อยอย่างบะหมี่ถ้วยเครื่องเยอะเส้นเหนียวนุ่มอะไรพวกนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ต่างจากอาหารระดับภัตตาคารอยู่ดี ‘หรือจะเป็นอาหารแนวอินโนเวทีฟไม่ก็โมเลคิวลาร์แกสโตรโนมี?’ ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลแต่เมื่อคนขับหวังดีเปิดภาพ “นู้ดเดิ้ลคัพ” ขึ้นมาให้ดูเขาก็แทบจะยกมือขึ้นกุมขมับเลยทีเดียว

ถ้วยทรงสูงที่คุ้นเคยกับเส้นบะหมี่ที่ดูอย่างไรก็เคยผ่านการต้มและทอดมาก่อนแล้วรอบหนึ่ง ทั้งสองอย่างนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมน้ำแกงก็ใสจนแทบจะเหมือนน้ำเปล่าดูไม่น่ากินเลยสักนิด

‘อย่างน้อยก็ขอรสต้มยำ หรือใส่เครื่องสักหน่อยได้ไหม?’ เด็กหนุ่มที่ผ่านช่วงเวลากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนอาหารจานหลักสามมื้อโอดครวญในใจ

“เป็นอย่างไร? น่ากินมากเลยใช่ไหม อาหารในตำนานแบบนี้แค่ไฟล์ห้าสัมผัสก็แพงเอาเรื่องแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอาหารที่กินได้จริงๆ เลย” คนขับยานโอ้อวดโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของผู้โดยสารเลยแม้แต่น้อย

“ไฟล์ห้าสัมผัส?” ชายไม่สนใจคำคุยโวของสารถีแล้ว แต่เขากลับสะดุดใจกับชื่อประเภทของไฟล์ที่ตนไม่คุ้นเคยแทน

“เป็นไฟล์เสมือนจริงทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แต่คุณต้องใช้อุปกรณ์พิเศษสักหน่อยนะ สำหรับตอนนี้ถ้าคุณกดเล่นจะได้แค่รูปกับกลิ่นเท่านั้น” คนขับรถอธิบายอย่างไม่นึกสงสัยอะไร เพราะผู้อพยพจากดาวล้าหลังหรือผู้ฟื้นจากนิทราก็มักจะตามเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ทันอยู่แล้ว นอกจากนี้เขายังเปิดไฟล์ดังกล่าวขึ้นมาให้ด้วย

“ผมกดดูได้หรือ?” เมื่อครู่อีกฝ่ายบอกว่าซื้อมาแพงชายจึงคิดว่าการขอดูแบบนี้จะถือเป็นการเอาเปรียบหรือไม่?

“ได้สิ หรือถ้าคุณเกรงใจก็ส่งอาหารสำเร็จรูปมาให้ผมสักชิ้นเป็นการแลกเปลี่ยนก็ได้นะ” คุณลุงแมวเหมียวพูดติดตลก ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร แต่คนที่กำลังกังวลกับเรื่องการโฆษณากลับตอบรับอย่างกระตือรือร้น

“ผมส่งให้หลายถ้วยเลยก็ได้ คุณจะได้ช่วยโปรโมตให้ผมไง” ชายกล่าวด้วยความคาดหวังเล็กๆ เครื่องขายอาหารอัตโนมัติมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ชนชั้นแรงงาน หากอาหารของเขากลายเป็นที่นิยมในหมู่คนขับยานรับจ้างขึ้นมาอนาคตของเขาย่อมต้องสดใสอย่างแน่นอน

ชายฝันหวานถึงอนาคตของตนอยู่ครู่ก็หันกลับมาสนใจไฟล์ห้าสัมผัสตรงหน้า เมื่อกดปุ่มเล่นที่ลอยอยู่กลางอากาศภาพนิ่งก็พลันเคลื่อนไหวพร้อมๆ กับกลิ่นที่โชยมาปะทะจมูก

มันเป็นกลิ่นที่จะว่าหอมก็ใช่แต่กลับชวนให้รู้สึกขัดๆ ในใจ ชายหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ท่าทางตั้งใจพิจารณาของเขาทำให้คนขับยานส่งเสียงมาว่า

“กลิ่นซุปกระดูกหอมมากใช่ไหม? ผมนี่น้ำลายสอเลย”

‘อา...กลิ่นซุปกระดูกนี่เองก็ว่าอยู่ว่ามันคุ้นๆ’ ชายบอกกับตัวเองขณะเดียวกันเขาก็ได้คำตอบของความคาใจก่อนหน้าแล้วว่าทำไมตนถึงรู้สึกอึดอัดกับกลิ่นของบะหมี่ถ้วยนี้ ‘ที่แท้ก็ปรุงแต่งมากไป’ ใช่ มันเป็นกลิ่นสังเคราะห์ที่หอมชวนให้รู้สึกอยากอาหารแต่ก็เข้มข้นเกินไปสำหรับคนโบราณอย่างเขา อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้คนขับยานต้องเสียน้ำใจชายจึงเอ่ยชมไปเล็กน้อย และเหมือนโชคเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงที่หมายทำให้เขาไม่ต้องใช้ความพยายามในการต่อบทสนทนาอีก

๐๐๐

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   ตอนที่: 42

    ตอนที่ 42: มาเที่ยววันแรกก็เกิดเรื่องซะแล้วการกินโซเม็งรางน้ำทำให้ทุกคนเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก กว่าจะอิ่มหนำเวลาก็บ่ายคล้อยไปแล้ว และจากการถ่ายทอดสดของชายในครั้งนี้ยอดขายเส้นโซเม็งก็เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับที่มีการออกสินค้าใหม่เป็นรางน้ำแบบประกอบเองจากผู้ประกอบการหลายๆ เจ้า และบางบริษัทก็ออกแบบชุดจ่ายเส้นโซเม็งที่ดูหวือหวาราวกับสวนสนุกในตำนานขึ้นมา การตลาดครั้งนี้อดาเนียกรุปไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่ง เหตุก็เพราะว่าพวกเขาตัดสินใจทำร้านอาหารที่มีบริการรางน้ำขึ้นมาโดยเฉพาะ เรื่องการทำรางน้ำเองที่บ้านนั้นก็ให้เป็นเรื่องของคนอื่นไปกลับมาที่บ้านพักตากอากาศกลางป่า เด็กๆ ที่กินจนพุงกางกำลังนอนอาบแดดอยู่ในสนามหญ้า มองเห็นเป็นก้อนขนสองสีที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู ส่วนนีลก็เข้ามานั่งเอกเขนกอยู่ตรงโซฟา เฝ้ามองพ่อครัวร่างเล็กที่ไม่ยอมพักผ่อนด้วยสีหน้าซับซ้อนชายพยายามทำตัวให้ยุ่งจริงๆ อย่างที่จิตแพทย์ลาล่าบอก คล้ายกับกลัวว่าหากว่างแล้วจะมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้น แต่กระนั้นสีหน้าท่าทางผ่อนคลายยามจัดการกับวัตถุดิบก็ทำให้มองไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายมีเรื่องมากมายอยู่ภายในใจ

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   ตอนที่: 41

    ตอนที่ 41: มาเที่ยวก็ต้องหาเรื่องสนุกๆ ทำในที่สุดครอบครัวอดาเนียก็เดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศตามที่ตั้งใจไว้ ชายและเด็กๆ ตื่นเต้นกับบ้านหลังนี้มาก ออซซี่กับเฮคเตอร์ไม่เคยเห็นบ้านที่สร้างด้วยท่อนซุงใหญ่ ส่วนชายก็คิดถึงสัมผัสของเนื้อไม้ธรรมชาติ เขาถึงกับเผลอสูดดมกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของไม้สนเข้าไปเต็มปอดเลยทีเดียว“คุณชอบไหม?” อยู่ๆ นีลก็ก้าวมายืนข้างๆ แล้วถามขึ้น ชายสะดุ้งเล็กน้อยที่ถูกประชิดตัวแต่ก็สงบใจลงได้อย่างรวดเร็ว“บ้านดูอบอุ่นมาก ครัวแบบเคาน์เตอร์เปิดก็สวยจริงๆ อุปกรณ์ก็ครบมาก ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะจริงจังกับครัวบ้านพักตากอากาศแบบนี้” พ่อครัวหนุ่มเอ่ยชมขณะที่เด็กๆ วิ่งไปกลิ้งเล่นบนพรมขนสัตว์เทียมนุ่มๆ แล้วฝ่ายนีลได้ฟังแล้วก็ยิ้มกริ่ม นึกดีใจที่ทุ่มงบไม่อั้นกับห้องครัว “ด้านหลังมีน้ำตกจำลองกับลานก่อกองไฟด้วยนะ”“ลานก่อกองไฟ?”“ผมเห็นจากในรูปโบราณ เป็นลานหิน แล้วก็มีการก่อหินเตี้ยๆ เอาไว้ใช้ก่อไฟให้ความอบอุ่น” พร้อมกับพูดนีลก็เปิดภาพโบราณที่ว่าให้ดู ชายมองภาพโฆ

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   ตอนที่: 40

    ตอนที่ 40: ออกเดินทางเช้าวันรุ่งขึ้นชายกับครอบครัวอดาเนียก็ออกเดินทางไปยังดาวตากอากาศตามแผนที่วางไว้ สัมภาระที่จะนำไปใช้ที่บ้านพักถูกแยกส่งไปต่างหาก ส่วนที่ติดตัวแต่ละคนก็มีเพียงกระเป๋าใบเล็กสำหรับใช้ระหว่างการเดินทางเท่านั้น“ต้องใช้ยานสาธารณะแบบนี้อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่เอาไว้คุณเป็นพลเมืองอดาเนียเต็มตัวแล้วผมจะพาไปลงทะเบียน ต่อไปจะได้ใช้ยานของบ้านเราได้เลย” นีลกล่าวกับชายระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางไปยังท่าอากาศยาน“แสดงว่าพวกคุณสามคนสามารถใช้ยานส่วนตัวเดินทางไปได้ใช่ไหม?” ชายคาดเดา “แบบนี้ทำไมคุณกับเด็กๆ ไม่ใช้ยานส่วนตัวล่ะ จะได้ไม่ลำบาก ผมเคยขึ้นยานสาธารณะแล้ว เดินทางคนเดียวได้ไม่ต้องห่วงหรอก”“ไม่เอา! ออซอยากเที่ยวกับพี่ชายนี่นา!” เด็กชายออซซี่รีบค้านความคิดของชายทันทีโดยมีเฮคเตอร์พยักหน้าสนับสนุน ส่วนนีลก็ยิ้มบางๆ ให้ชายคล้ายกับจะบอกว่าเขาไม่มีทางปฏิเสธการตัดสินใจในครั้งนี้ได้‘ทำไมต้องทำทหน้าภูมิใจแบบนั้นด้วย’ ชายนึกหมั่นไส้พ่อเสือดำตงิดๆ หากแคทนิปไม่มีผลข้างเคียงท

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   ตอนที่: 39

    ตอนที่ 39: พักร้อน?“คุณว่าอะไรนะ?” ชายที่ถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดถามทั้งขี้ตา เขาไม่คิดว่านีลจะกลับมาก่อนกำหนดแถมยังพูดเรื่องน่าเหลือเชื่อออกมาด้วย“เราสี่คนจะไปพักร้อน ผมอยากพาเด็กๆ ไปเที่ยวชดเชยเวลาที่มัวยุ่งกับงาน คุณเองก็ยังไม่เคยไปเที่ยวที่ไหน ถือโอกาสไปเปิดหูเปิดตาด้วยกันเถอะ” นีลทวนความประสงค์ของตนอีกครั้ง“ผมว่าคุณกลัวจะไม่มีคนทำอาหารให้มากกว่า” ชายทำทีเป็นไม่เชื่อถือคำพูดของอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ในใจก็ทราบดีว่านีลหมายความตามที่พูดจริงๆ แต่ความกระอักกระอ่วนในใจก็ทำให้ชายเลือกพูดไปแบบนั้น นีลกลับบ้านมาก่อนกำหนดทำให้เขามีเวลาทำใจไม่พอ ดังนั้นชายจึงตั้งใจจะซื้อเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย “จริงๆ แล้วผมสอนหุ่นพ่อบ้านให้ทำอาหารได้หลายอย่างแล้วนะ คุณไม่จำเป็นต้องพาผมไปด้วยหรอก” เขากล่าว“ออซกับเฮคคงเสียใจแน่ถ้าคุณไม่ไปด้วย” นีลยังไม่ละความพยายาม “ลองดูดาวตากอากาศของผมก่อนก็ได้ เผื่อว่าจะมีที่ไหนถูกใจคุณบ้าง” พูดจบเขาก็เปิดภาพดาว

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   ตอนที่: 38

    ตอนที่ 38: เรื่องของใจข้าวห่อสาหร่ายที่สามารถสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัดกลายเป็นกระแสใหม่ในสตาร์เน็ตเวิร์กตามคาด รูปภาพข้าวห่อสาหร่ายมากมายถูกเผยแพร่ออกมาประชันกัน ผู้ขายอาหารหลายรายเริ่มทำข้าวห่อสาหร่ายออกจำหน่าย นอกจากนี้หน่วยงานตลอดจนองค์กรต่างๆ เริ่มจัดประกวดการทำข้าวห่อสาหร่ายด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ยอดขายผงโรยข้าวและสาหร่ายพุ่งทะยานอย่างฉุดไม่อยู่แน่นอนว่านีลย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะกอบโกยผลประโยชน์จากกระแสในครั้งนี้อดาเนียกรุปไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ พวกเขาเพียงจัดสินค้าเดิมเป็นชุดพร้อมด้วยเครื่องมือกับคู่มือประกอบอีกเล็กน้อย เป็นต้นว่าชุดข้าวกล่องคุณหมีก็จะประกอบไปด้วยกล่องถนอมอาหารแบบแบ่งช่อง วัตถุดิบที่ปรุงเสร็จแล้ว และวิดีโอสอนทำข้าวกล่องคุณหมีตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างนี้เป็นต้นด้วยความสะดวกและเข้าใจได้ง่ายทำให้ชุดทำข้าวกล่องรูปต่างๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คนเป็นพ่อแม่หัดทำข้าวกล่องให้ลูกๆ คนเป็นครูจัดกิจกรรมฝึกทักษะให้กับนักเรียน และเหล่าเจ้าของช่องสตาร์เน็ตเวิร์กทั้งหลายก็พยายามอวดฝีไม้ลายมือกันเต็มที่เพื่อกอบโกยผลประโย

  • ครัวคุณชายไม่ขายอ้อย   ตอนที่ 37

    ตอนที่ 37: ศิลปะกับอาหาร“คุณไม่คิดว่าเสือดำน่ากินบ้างหรือ?”ชายไม่คิดเลยว่าประโยคสองแง่สองง่ามเช่นนี้จะออกมาจากปากของนีล กว่าเขาจะตั้งตัวได้ใบหน้าก็ร้อนผ่าวจนแทบจะต้มไข่สุกได้ อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วครอบครัวเมอร์แรงเสือดำกับเสือดาวก็ถูกทำออกมาจนได้ และตอนนี้เด็กๆ ก็กำลังจดจ้องเมอร์แรงในจานอยู่อย่างตื่นเต้น“เป็นไงชอบกันหรือเปล่า?” ชายที่รอลุ้นมานานเอ่ยถาม แล้วเด็กๆ ก็หันมาส่งยิ้มสดใสให้เขา“ชอบมากเลย!”“พี่ชายทำได้ยังไง!”“ถ้ารู้ก่อนก็ไม่สนุกสิ” พ่อครัวหนุ่มหัวเราะ เมื่อเย็นทางรายการติดต่อมาแจ้งแล้วว่าโจทย์ของวันนี้จะเป็นเมอร์แรง ขนมที่เขาตัดสินใจทำขึ้นภายหลัง ไม่ใช่เหล่าตระกูลทองทั้งหลายที่ตั้งใจทำตั้งแต่แรก ตอนแรกที่ทราบเรื่องชายก็ทักท้วงไปด้วยเรื่องเวลาในการอบ แต่ทางรายการมั่นใจในเตาอบรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้รับการสนับสนุนมาจากบริษัทผลิตเครื่องครัวชื่อดัง พวกเขาบอกว่า “เตาอบรุ่นนี้ช่วยร่นระยะเวลาได้ถึงสามเท่าจากปกติเลยล่ะ” ดังนั้นชายจึงไม่คัดค้านอะไรอีกและรอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status