ขณะที่คลิปวิดีโอสอนทำอาหารของชายกำลังถูกพูดถึงเป็นวงกว้างเจ้าของคลิปวิดีโอกลับกำลังวุ่นอยู่ในครัว ของรางวัลสิบที่ถูกส่งออกไปแล้ว และตอนนี้เขาก็กำลังเตรียมอาหารสำเร็จรูปสำหรับวางขาย เนื่องจากต้องคำนึงถึงความเคยชินของผู้บริโภคประกอบด้วยชายจึงตัดสินใจทำอาหารที่ให้สัมผัสคล้ายกับอาหารสำเร็จรูปที่วางขายกัน ความจริงมันมีอาหารมากมายที่คล้ายกับเจลลี่พวกนั้นแต่สุดท้ายแล้วหวยก็มาออกที่ไข่ตุ๋น และเนื่องจากเขาต้องการรสชาติที่เข้มข้นจึงเลือกใช้ซุปผสมกับไข่แทนที่จะเป็นน้ำเปล่า แต่จะให้มานั่งต้มกระดูกหมูหรือโครงไก่ก็กินเวลานานเกินไปผงปรุงรสจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แน่นอนว่าโลกอนาคตแห่งนี้มีผงปรุงรสสำเร็จรูปขาย แต่มันก็เป็นเพียงสารสังเคราะห์แถมยังมีราคาแพง ดังนั้นการทำผงปรุงรสขึ้นเองย่อมดีกว่า
โชคดีที่สมัยก่อนชายมีงานอดิเรกเป็นการดูคลิปวิดีโอในอินเทอร์เน็ต หนึ่งในหมวดที่เขาชอบดูคือคลิปวิดีโอสอนทำอาหาร นั่นทำให้ชายพอจะรู้วิธีทำผงปรุงรสด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ หลักการคือทำวัตถุดิบให้แห้ง ปั่นเป็นผง จากนั้นก็นำมาผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสมปรุงรสเพิ่มด้วยเกลือกับน้ำตาล เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
ชายตัดสินใจทำผงปรุงรสสามชนิดแยกตามวัตถุดิบหลักคือ หมู ไก่ และเห็ดหอม วัตถุดิบเสริมใช้แบบเดียวกันคือ หอมหัวใหญ่ หัวไชเท้า กระเทียม และพริกไทย ‘น่าเสียดายที่ไม่มีรากผักชี’ เขานึกบ่นขณะนำวัตถุดิบที่หั่นแล้วเข้าเครื่องอบแห้ง ระหว่างรอก็หันไปเตรียมเครื่องเคียงที่จะใส่ในไข่ตุ๋น เขาหั่นแคร์รอตเป็นชิ้นลูกเต๋า ฝานเห็ดหอมเป็นชิ้นบางๆ จากนั้นก็นำไปนึ่ง ส่วนหมูบดกับอกไก่ที่ซื้อมาก็ถูกนำไปต้มแยกหม้อกันไว้
ระหว่างที่รอเครื่องเคียงสุกเตาอบแห้งก็ทำงานเสร็จพอดี ชายนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาเข้าเครื่องปั่น เสร็จแล้วก็นำส่วนที่เป็นหมูกับไก่มาคั่วในกระทะให้สุกเหลือง ความจริงแล้วจะเอาเข้าเตาอบก็ได้แต่เพราะเขากลัวจะทำไหม้จึงต้องค่อยๆ คั่วด้วยตัวเอง
กว่าผงปรุงรสจะพร้อมใช้งานเวลาก็ผ่านไปถึงสองชั่วโมง เครื่องเคียงสุกหมดแล้วและตอนนี้ชายก็เริ่มทำซุปสำหรับใส่ในไข่ตุ๋นทันที น้ำถูกต้มจนเดือดก่อนจะเบาไฟลง ชายค่อยๆ ตวงส่วนผสมพร้อมด้วยเกลือกับน้ำตาลใส่ลงในหม้อ ชิมรสชาติจนพอใจแล้วจึงค่อยปิดไฟไปทำอย่างอื่น แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะบันทึกอัตราส่วนเอาไว้ด้วย
ระหว่างที่รอให้ซุปเย็นลงชายก็ลงไปจัดการกับไข่ทั้งห้าร้อยฟองจากเครื่องเพาะไข่ เขาตอกพวกมันใส่อ่างผสมขนาดใหญ่ที่ซื้อมา ตีจนไข่ขาวกับไข่แดงผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็กรองผ่านตะแกรงตาถี่ครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงแบ่งส่วนผสมเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน แน่นอนว่ามันต้องเหลือเศษซึ่งส่วนนั้นได้ถูกแยกไว้ทำอาหารสำหรับตัวเอง
เมื่อไข่พร้อมแล้วขั้นตอนต่อไปย่อมเป็นการผสมน้ำซุป ชายใช้อัตราส่วนไข่หนึ่งส่วนต่อน้ำสองส่วนครึ่ง ตอนผสมก็ใช้ซุปที่อุ่นอยู่ไม่ใช่น้ำที่อุณหภูมิห้องและไม่ได้ร้อนจนทำให้ไข่สุกทันทีที่สัมผัส พอส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็นำเข้าเครื่องบรรจุอาหารอัตโนมัติเพื่อประหยัดเวลาในการแบ่งใส่ถ้วย ในขั้นตอนนี้จริงๆ ต้องปิดฝาให้เรียบร้อยแต่ชายเลือกที่จะเปิดเอาไว้ก่อนเพราะยังต้องใส่เครื่องเคียงและตรวจสอบคุณภาพอาหารอีกครั้ง
กว่าไข่ตุ๋นชุดแรกจะพร้อมส่งขายชายก็แทบจะหมดแรง ร่างโปร่งเอนพิงเครื่องตรวจสอบคุณภาพอาหารอย่างเหนื่อยอ่อน พลางบอกกับตัวเองว่าเขาจะต้องหาหุ่นยนต์มาช่วยงานสักหนึ่งหรือสองตัว มิฉะนั้นแล้วคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องการเพิ่มจำนวนผลิตหรือทำเมนูใหม่ๆ เลย
๐๐๐
ระหว่างที่ชายกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารสำเร็จรูป ผู้โชคดีจากช่องของเขาก็ทยอยได้รับรางวัลกันทีละคนสองคน แน่นอนว่าทุกคนย่อมอดใจที่จะทำการถ่ายทอดสดไม่ได้ แม้แต่คนที่ทำงานอยู่ก็ไม่เว้น พวกเขาถึงกับได้รับอนุญาตจากหัวหน้างานเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเขาต้องแบ่งอาหารให้คนทั้งสำนักงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไอเดนเองก็เป็นหนึ่งในพนักงานที่ได้รับรางวัลและตอนนี้กล่องอาหารของเขาก็ไปอยู่ในมือของเจ้านายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือพูดให้ถูกก็คือมันกำลังจะถูกมอบให้รอยส์ นักแสดงที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้
“หา? จะให้ผมรีวิวอาหารปรุงสุกของใครที่ไหนก็ไม่รู้เหรอ?” ดาราหนุ่มที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จบ่นทันทีที่ทราบเรื่องจากผู้จัดการส่วนตัว
“เขากำลังเป็นที่จับตามอง อีกอย่างเธอก็น่าจะรู้เรื่องซุปไข่นั่นแล้วนี่” ผู้จัดการพยายามพูดให้รอยส์คลายความขุ่นเคืองลง
“อ้อ! ที่บอกว่าเป็นคลิปอาหารปรุงสุกที่อร่อยมากใช่ไหม? แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แค่ไข่ มะเขือเทศ กับเห็ดมันจะไปอร่อยกว่าบะหมี่ถ้วยในตำนานได้ยังไง?”
“เถอะน่า เธอลองดูก่อนเถอะ ถ้าไม่ชอบก็กินสักคำสองคำแล้วแบ่งให้ทีมงานก็ได้”
“ไม่ต้องบอกก็รู้น่า นี่มันรางวัลที่ทีมงานได้รับมาไม่ใช่เหรอ? ยังไงก็ต้องให้เจ้าตัวได้ชิมบ้าง จริงสิ เรียกเขามาเข้ากล้องด้วยดีกว่า” พอรอยส์พูดมาแบบนั้นผู้จัดการก็ทำหน้าฉงน นักแสดงหนุ่มจึงขยายความเพิ่มเติม “ถ้ามีข่าวลือว่าผมแย่งอาหารทีมงานมาถ่ายคลิปก็แย่สิจริงไหม?”
และด้วยเหตุนี้เอง ไอเดน พนักงานฝ่ายบัญชีธรรมดาๆ คนหนึ่งจึงได้มาปรากฏตัวในการถ่ายทอดสดของนักร้องคนดัง
“สวัสดีทุกคน วันนี้เป็นไลฟ์พิเศษ ผมไม่ได้จะมาพูดคุยสัพเพเหระหรือมาร้องเพลงให้ฟัง แต่เราจะมารีวิวอาหารปรุงสำเร็จกัน!” รอยส์กล่าวเปิดรายการด้วยน้ำเสียงร่าเริง จากนั้นก็โอบไหล่ไอเดนให้เข้ามาในกล้อง บอกว่า “และนี่คือสปอนเซอร์ของเราพี่ไอเดนผู้โชคดีจากช่องครัวคุณชาย”
-ครัวคุณชาย? ท่านรอยส์หมายถึงช่องที่เพิ่งปล่อยคลิปห้าสัมผัสให้ดูกันฟรีๆ เมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม?
-ไม่จริงน่า! ท่านรอยส์กำลังจะรีวิวไข่คนใช่ไหม?
“ใช่แล้ว พี่ไอเดนเป็นผู้โชคดีได้รับไข่คนจากช่องครัวคุณชาย และตอนนี้เราจะมาลองชิมกัน” รอยส์พูดถึงตรงนี้แฟนๆ ของเขาก็เริ่มโอดครวญ แน่นอนว่าคำปลอบใจใดๆ คงใช้ไม่ได้ผลชายหนุ่มจึงส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่กล้อง จากนั้นก็เริ่มเข้าประเด็นหลักของการถ่ายทอดสดในครั้งนี้
“เอาล่ะ เรามาชิมกันเลยดีกว่า โอ้โห! หอมมากเลยครับ!” ทันทีที่เปิดฝากล่องใส่อาหารออกรอยส์ก็แทบจะตะลึงงันไปกับรูปลักษณ์และกลิ่นหอมชวนกิน ดีว่าเขาเป็นนักแสดงมากประสบการณ์ก็เลยสามารถโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ “ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี กลิ่นมันแตกต่างจากกลิ่นอาหารที่ผมเคยกินมาทั้งชีวิตเลย ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี มันหอมแบบเข้มข้นแต่ก็นุ่มนวลชวนน้ำลายสอมากเลย ใช่ไหมครับพี่ไอเดน?”
“อ—อืม หอมมาก” ไอเดนเพิ่งจะได้สติกลับคืนมาเมื่อถูกตบบ่า รอยส์เห็นปฏิกิริยาแบบนั้นก็หัวเราะอย่างชอบใจ เช่นเดียวกันกับผู้ชมที่ค่อนข้างถูกใจหนุ่มหน้าจืดคนนี้
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มชิมกันเลยดีกว่า เชิญพี่ไอเดนเปิดก่อนเลย” รอยส์พูดพลางหยิบช้อนส่งให้ไอเดนอย่างมีน้ำใจ หนุ่มนักบัญชีรับช้อนมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ แต่ก็ยอมตักไข่คนขึ้นมาคำหนึ่ง
ไข่คนสีเหลืองนุ่มฟูถูกตักขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ไอความร้อนที่ลอยกรุ่นจากเนื้อไข่บอกให้รู้ว่ากล่องถนอมอาหารได้ทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี ไอเดนมือสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น ยิ่งช้อนเข้าใกล้ปากมากเท่าไรกลิ่นหอมก็รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น มันเป็นกลิ่นหอมที่ชวนให้อยากอาหารและรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด และเมื่องับไข่คนร้อนๆ เข้าปากไปแล้วกลิ่นหอมนั้นก็อบอวลไปทั่วปาก ไม่มีกลิ่นคาวของไข่ และรสชาตินั้นก็อร่อยจนไม่กล้าเคี้ยว
“อะไรกัน? พี่ไอเดนทำไมอมไว้แบบนั้นล่ะ?” รอยส์ถามเมื่อเห็นคนหน้าจืดอมอาหารไว้จนแก้มพอง แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นสีหน้าแปลกประหลาดของไอเดน หนุ่มรุ่นพี่เหมือนจะยิ้มแต่ดวงตากลับฉ่ำน้ำเหมือนจะร้องไห้ พอผสมรวมเข้ากับแก้มกลมๆ นั้นแล้วก็ชวนให้รู้สึกขบขัน
-ทำไมฉันคิดว่าไข่คนอร่อยมากจนเขาไม่กล้าเคี้ยวกันนะ
-มันอาจจะร้อนไปจนเคี้ยวไม่ได้ก็ได้นะ
-เขาทำหน้าอะไรน่ะ?
-ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาน่ารักมากกันล่ะ?
-เธอไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนั้นหรอกนะ
-น่ารัก +1
-ผมก็ว่าเขาน่ารักเหมือนกัน ใครมีช่องทางติดต่อเขาบ้าง
-เฮ้! ไลฟ์สดของท่านรอยส์ไม่ใช่ไซต์หาคู่นะ!
ช่องแสดงความคิดเห็นคึกคักกันอีกครั้ง รอยส์เห็นแบบนั้นก็หันไปแซวไอเดนว่า “เหมือนพี่จะแย่งความนิยมผมไปแล้วนะ ว่าแต่จะไม่เคี้ยวจริงๆ เหรอ?”
สุดท้ายไอเดนก็จำต้องฝืนใจเคี้ยวไข่คนแสนอร่อยในปาก แล้วเขาก็พบว่ามันยิ่งอร่อยขึ้น ชายหนุ่มหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับอาหารเลิศรสอย่างเต็มที่ จวบจนกระทั่งกลืนลงท้องไปแล้วถึงได้รู้สึกตัวว่าเผลอทำกิริยาไม่เหมาะสมต่อหน้ากล้อง เมื่อนั้นเขาจึงรีบลืมตาขึ้นด้วยอารามตกใจก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับสีหน้าขบขันของรอยส์
“มันอร่อยจนทำตัวไม่ถูกขนาดนั้นเลยเหรอพี่?” นักแสดงหนุ่มหัวเราะขำ ไอเดนอยากจะชักสีหน้าใส่เขาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะความเกรงใจมันค้ำคอ สุดท้ายก็ทำได้แค่ตอบกลับไปว่า “คุณรอยส์ลองชิมเองจะดีกว่า”
“ได้ ผมจะลองชิมดู” ว่าแล้วเจ้าของการถ่ายทอดสดก็ตักไข่คนคำใหญ่เข้าปาก
แน่นอนว่านักแสดงหนุ่มย่อมประหลาดใจไม่แพ้ไอเดน ทว่านอกจากสองตาที่เบิกกว้างแล้วเขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าผิดปกติออกมา และไม่ได้อมอาหารไว้ในปากเหมือนคนข้างๆ ด้วย อย่างไรก็ตามมันต้องใช้ความพยายามอย่างมากทีเดียวกับการกลั้นใจเคี้ยวและกลืนลงไป
“ว้าว!” หลังจากตะลึงไปอึดใจหนึ่งรอยส์ก็อุทานออกมา “ผมพูดได้แค่ว้าวจริงๆ ทุกคน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี มันอร่อยมาก เนื้อไข่นุ่มฟูไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิด กลิ่นหอมเต็มปาก รสชาติก็ดี มันเด่นที่รสเค็มก็จริงแต่ก็มีรสแฝงหลายอย่าง ทั้งความหวาน ความมัน โดยรวมแล้วกลมกล่อมมากเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะทำจากไข่กับนมแค่สองอย่างเท่านั้น”
“จ—จริงๆ แล้วมีเนยด้วยนะ”
“เนย?” รอยส์ขมวดคิ้ว เขาไม่คุ้นหูกับสิ่งที่เรียกว่าเนยแต่เมื่อไอเดนอธิบายให้ฟังเขาก็เข้าใจ ชายหนุ่มยังออกความเห็นว่า “บางทีกลิ่นหอมที่ผมพูดถึงคงจะเป็นกลิ่นเนยนี่แหละ มันอาจจะทำให้ไข่อร่อยขึ้นด้วย แต่สำหรับเห็ดกับมะเขือเทศนี่อาจจะคาดหวังไม่ได้มากนัก” พูดไปแล้วรอยส์ก็ตัดเห็ดชิ้นเล็กๆ เข้าปาก พลันดวงตาคู่คมก็เบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง สัมผัสนุ่มหนึบเหมือนเนื้อไก่ที่ได้จากเห็ดนั้นช่างน่าประหลาดใจ และรสชาติเค็มๆ มันๆ ที่ปลายลิ้นก็กระตุ้นให้ความอยากอาหารพุ่งทะยานขึ้นไปอีกหลายขั้น จนถึงตอนนี้ชายหนุ่มพลันลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังถ่ายทอดสดคุยกับแฟนๆ อยู่ พอกลืนเห็ดลงท้องไปแล้วเขาก็จิ้มมะเขือเทศชิ้นเล็กเข้าปากตามไปทันที รสชาติเปรี้ยวอมหวานปิดท้ายด้วยรสเค็มๆ มันๆ เหมือนเห็ดนั้นชวนให้ขมวดคิ้วอยู่บ้าง แต่เมื่อลองกินคู่กับไข่คนดูแล้วมันกลับกลายเป็นรสชาติที่ลงตัวอย่างน่าตกใจ
“คุณรอยส์” ไอเดนเห็นนักแสดงหนุ่มเสียกิริยาไปแบบนั้นก็พยายามสะกิดให้รู้ตัว แต่แทนที่อีกฝ่ายจะกลับมาสนใจผู้ชมเขากลับแบ่งมะเขือเทศครึ่งลูกมาให้ไอเดนเสียอย่างนั้น แถมยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ลองกินนี่กับไข่คนดูสิ เข้ากันสุดๆ ไปเลยล่ะ!”
โดนคะยั้นคะยอมาถึงขนาดนี้ไอเดนย่อมไม่กล้าปฏิเสธ แม้จะกังวลกับคำบ่นของผู้ชมอยู่บ้างแต่เขาก็ลองกินไข่คนคู่กับมะเขือเทศตามคำแนะนำ พลันนัยน์ตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น รสชาติที่ผสานกันอย่างลงตัวทำให้สมองของเขามึนงงจนลืมทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
“อร่อยมากๆ เลยใช่ไหม?” เมื่อรอยส์ถามแบบนั้นไอเดนก็พยักหน้าทั้งๆ ที่ยังอมอาหารเอาไว้จนแก้มพอง นักแสดงหนุ่มเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ นิ้วยาวจิ้มลงบนแก้มป่องๆ นั้นเบาๆ บอกว่า “อย่าอมสิ ต้องเคี้ยวแล้วกลืนลงไปถึงจะอร่อย” รอยส์ตักไข่คนกับมะเขือเทศครึ่งลูกเข้าปากไปอีกคำ คล้ายจะยืนยันคำพูดของตน ไอเดนเห็นอย่างนั้นก็ทำตามบ้าง เขาตั้งใจเคี้ยวและลิ้มรสชาติในปากจนลืมเรื่องอื่นๆ ไปหมด
จากนั้นทั้งสองคนก็กินชุดอาหารเช้าที่เหลือกันอย่างออกรส นอกจากส่งสายตากับตักอาหารให้กันแล้วพวกเขาก็ง่วนอยู่กับการกิน ไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลย
-เฮ้! ท่านรอยส์ลืมไปหรือเปล่าว่ากำลังไลฟ์อยู่? แล้วทำไมบรรยากาศมันดูหวานอย่างนั้นล่ะ?
และแล้วก็มีผู้ชมคนหนึ่งพูดแทนความในใจของคนทั้งหมด แน่นอนว่ารวมไปถึงบรรดาทีมงานที่อยู่รอบๆ ด้วย พวกเขาอยากจะเข้ามาห้ามทั้งสองคนใจจะขาดแต่ก็กลัวจะเสียงานจึงได้แต่กัดฟันอดทนกันอยู่อย่างนั้นเอง
๐๐๐
“ทำไมเราไม่โชคดีแบบนี้บ้างนะ” เด็กหญิงตัวน้อยถามพี่ชายขณะนอนดูการถ่ายทอดสดของเหล่าผู้โชคดีที่ได้รับมื้อเช้าสุดพิเศษ ใบหน้าจิ้มลิ้มฉายความยุ่งยากใจออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง สองขาเตะไปมาในอากาศและบางครั้งก็เหวี่ยงลงต่ำจนกระทบกับฟูก สะเทือนไปถึงพี่ชายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างกัน
หากเป็นยามปกติก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้โนเอลกำลังบาดเจ็บอยู่มันจึงเป็นเรื่องใหญ่ แค่กระเทือนนิดเดียวก็เจ็บสะท้านขึ้นไปถึงสมองแล้ว
“เนอามันเจ็บนะ” เด็กหนุ่มเตือนเบาๆ โดยไม่ได้ละสายตาไปจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้า
“ขอโทษค่ะ” น้องสาวตัวน้อยทำหน้าหงอย แต่เมื่อสังเกตเห็นตราสินค้าที่ดูคุ้นตาจากหน้าจอของพี่ชายเธอก็หลุดอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ “เอ๊ะ? นั่นอาหารสำเร็จรูปของครัวคุณชายหรือคะ?”
คนเป็นพี่พยักหน้ารับ “ของขายหมดไวมากแต่ก็มีคนเอามาประมูลต่อ พี่คิดว่าจะลองประมูลมาทำคลิปรีวิวน่ะ ไหนๆ ก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ถ้ามันทำให้ยอดวิวเพิ่มถึงเกณฑ์ก็คงดี” อุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บหนักเพียงอย่างเดียวแต่ยังพรากชีวิตบิดามารดาของพวกเขาไปพร้อมกับสร้างหนี้ก้อนใหญ่เอาไว้ด้วย เด็กหนุ่มบาดเจ็บจนหางานทำไม่ได้ ลำพังแค่นั่งเฉยๆ สองชั่วโมงก็มากเต็มกลืนแล้ว โนเอลจึงคิดจะหาเงินจากคลิปวิดีโอห้าสัมผัสในสตาร์ทูบ เพราะถ้าไม่ตัดต่ออะไรมากมันก็ใช้เวลาถ่ายทำไม่นาน อย่างไรก็ตามที่ผ่านๆ มาเขาทำได้แค่ถ่ายอาหารสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ทั่วไปความนิยมจึงค่อนข้างต่ำแถมยังต้องแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปเหล่านั้นด้วย และตอนนี้มันใกล้จะครบกำหนดที่แพลตฟอร์มกำหนดเอาไว้แล้ว หากเขาทำตามเงื่อนไขไม่ได้ก็จะถูกเรียกเก็บเงินค่าเช่าอุปกรณ์ โนเอลจึงตัดสินใจเดิมพันกับครัวคุณชาย แม้จะต้องนำเงินเก็บก้อนสุดท้ายมาใช้ก็ตาม
สองพี่น้องยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อเสียกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น โนเอลขมวดคิ้วอย่างฉงนเพราะไม่คิดว่าจะมีใครมาหา แต่ก็เรียกภาพจากหน้าประตูขึ้นมาดู
“อ้าวลุงเคิร์ต วันนี้ไม่ได้ไปทำงานหรอกเหรอ?” เมื่อเห็นเป็นคนรู้จักเขารีบเปิดประตูให้
“ก็ออกไปวิ่งมาแล้วล่ะนะ แต่พอดีได้ของขวัญจากลูกค้ามาเห็นว่าเธอกำลังทำช่องรีวิวอาหาร ก็เลยเอามาฝาก” พร้อมกับพูดเคิร์ตก็หยิบอาหารสำเร็จรูปสี่ถ้วยออกมาจากกระเป๋า แล้ววางลงบนโต๊ะเตี้ยที่คร่อมอยู่เหนือตักของเด็กหนุ่ม
เครื่องหมายการค้าสีทองบนพื้นดำที่ดูคุ้นตาดึงดูดความสนใจของเขาตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อมองดูให้ดีโนเอลก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “น—นี่มันอาหารจากครัวคุณชายนี่ ลุงเคิร์ตให้ผมจริงๆ หรือ?”
“จริงสิ บังเอิญว่าวันก่อนเขามาเป็นผู้โดยสารแล้วก็สัญญากับลุงว่าจะส่งสินค้าตัวอย่างมาให้ลุงช่วยโฆษณาให้น่ะ”
“คนดังระดับนั้นน่ะเหรอ?” เด็กหญิงเนอาเอียงคออย่างฉงน เธออาจจะยังเด็กก็จริงแต่ก็รู้ดีว่าชื่อเสียงของครัวคุณชายนั้นดังมากพอที่จะไม่ต้องพึ่งคนขับยานรับจ้างแบบลุงเคิร์ต
“เจ้าตัวเพิ่งย้ายมาน่ะ ลุงโชคดีได้คุยกับเขาตั้งแต่ก่อนจะดังไง เรียกว่าโชคหล่นทับเลยล่ะ” เคิร์ตอธิบายพลางหัวเราะในความโชคดีของตน เขาชี้ไปที่อาหารทั้งสี่ถ้วยบนโต๊ะ บอกว่า “สี่ถ้วยนี้ให้พวกเธอนะ แบ่งกันกินคนละถ้วย แล้วก็อีกสองเอาไว้แจกผู้ชม จะได้กระตุ้นยอดขายไง”
“เยอะขนาดนี้พวกผมรับไว้ไม่ไหวหรอกนะลุงเคิร์ต แค่ถ้วยเดียวก็พอแล้ว” โนเอลซาบซึ้งในความหวังดีของผู้ใหญ่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเกรงใจด้วย
“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ที่ผ่านมาพ่อเราช่วยลุงเอาไว้มาก ที่ลุงช่วยดูแลพวกเราได้แค่นี้ยังนับว่าไม่พอด้วยซ้ำ” เคิร์ตพูดออกไปด้วยใจจริง ช่วงที่เขาอพยพเข้ามาในรัฐอดาเนียเป็นครั้งแรกก็ได้บิดาของโนเอลซึ่งเป็นคนท้องถิ่นช่วยหาที่พักและแนะนำงานดีๆ ให้ จนตอนนี้เขาสามารถตั้งตัวได้อย่างมั่นคง มันน่าละอายที่เมื่อลูกๆ ของผู้มีพระคุณตกที่นั่งลำบากเขากลับไม่สามารถหยิบยื่นการช่วยเหลือได้อย่างที่ควร ยามนี้เมื่อมีโอกาสจึงอยากช่วยเหลือให้ถึงที่สุด หากไม่ติดว่าเขาติดหนี้น้ำใจกับเพื่อนคนอื่นๆ อีกคงจะมอบอาหารสำเร็จให้สองพี่น้องไปทั้งหมดแล้ว
ท้ายที่สุดโนเอลก็ไม่อาจปฏิเสธความปรารถนาดีของเคิร์ตได้ เด็กหนุ่มรับอาหารสำเร็จทั้งสี่ถ้วยมาและเมื่อแขกกลับไปแล้วเขาก็เริ่มการถ่ายทอดสดแบบห้ามิติในทันที ในตอนนั้นโนเอลหวังเพียงว่าจะมีผู้ชมมากพอสำหรับผ่านเงื่อนไขการรับชุดอุปกรณ์ถ่ายทำ เด็กหนุ่มไม่ได้คิดแม้สักนิดว่าการถ่ายทอดสดคราวนี้จะพลิกชีวิตของพวกเขาสองพี่น้องไปตลอดกาล
๐๐๐
จบเล่ม 1 โปรดติดตามตอนต่อไปได้ในเล่ม 2