ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของเธอเกิดขึ้นจากคืนนั้นคืนนั้น…เธอตกเป็นของเขาคุณหมอหนุ่มประจำตระกูลจากเหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นเหมือนกับบ่วงอะไรสักอย่างคล้องเธอกับเขาไม่ให้หลุดพ้นจากกัน เธอพยายามหนี แต่ยิ่งหนีมากเท่าไรยิ่งหนีไม่พ้นแต่คืนนั้นยอมรับว่า…มันดีมากเลย“อะ อื๊ออ~”มันทั้งวาบหวามและตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ทุกสัมผัสจากผู้ชายคนนั้นราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเรื่องอย่างว่า และสัมผัสเหล่านั้นยังคงติดอยู่บนร่างกายของเธอจนถึงตอนนี้“ครั้งแรก?” จดจำน้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูมีเสน่ห์ได้ดี ทั้งยั่วยวนและชวนให้เคลิ้มตามได้ไม่ยาก วินาทีที่เขาสอดใส่แก่นกายเข้ามายอมรับว่ารู้สึกเจ็บไม่ใช่น้อยเพราะเป็นครั้งแรก ฤทธิ์สุราก็ไม่ได้ช่วยทำให้เจ็บน้อยลงได้เลย“ถ้าไม่โอเค ฉันจะหยุด” ไม่อยากทรมานผู้หญิง ถึงแม้ตอนนี้อารมณ์ปรารถนากำลังทำงาน หากอีกฝ่ายต้องการให้หยุด เขาสามารถหยุดแล้วจัดการกับตัวเองได้“มะ…ไม่เป็นไร” คนใต้ร่างบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน”“ทะ…ทำต่อได้เลย”ปึก! ปึก! ปึก! แก่นกายขนาดใหญ่ถาโถมเข้าใส่ร่องรักอย่างหนักหน่วง เลือดสีแดงสดปนน้ำรักไหลผสมกันเป็นหนึ่งเดียว สายตาคมเข้มหลุบมอง
Happy birthday to me ‘HBDค้าบคนสวย’ ‘สุขสันต์วันเกิดนะมีญ่า มีความสุขมากๆ’‘HBD ร่ำรวยเงินทอง’‘สุขสันต์วันเกิดน้าคนสวยของพี่ สวยวันสวยคืนแบบนี้ตลอดไปเลยนะ’ ‘มีความสุขมากๆครับ’‘Happy birthday naka พี่มีญ่า’มีญ่า นั่งอ่านข้อความที่คนส่งเข้ามาแฮปปี้เบิร์ดเดย์ตัวเองท่ามกลางเสียงดังกระหึ่มภายในไนต์คลับสุดหรูอย่าง ‘มาร์แอลคลับ’ วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบยี่สิบปี และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าผับมาฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ ที่อายุครบยี่สิบปีไปก่อนเธอแล้วทุกคนการเข้าผับครั้งแรกยอมรับว่าตื่นเต้นมากไม่ใช่น้อย นอกจากนี้คุณพ่อยังซื้อคอนโดมิเนียมให้เป็นของขวัญวันเกิด คุณแม่ซื้อรถ Porsch ให้ คุณปู่กับคุณย่าจองตั๋วชั้นFirst Classให้บินไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ส่วนคุณตากับคุณยายให้เงินไปชอปปิงที่นู่นคร่าวๆ คือเจ็ดหลัก หากไม่พอคุณตากับคุณยายบอกว่าให้โทรกริ๊งเดียวเดี๋ยวโอนเพิ่มชีวิตของเธอล้วนมีแต่คนอิจฉา ถูกเลี้ยงมาดั่งเจ้าหญิง ไม่เคยลำบากและต้องดิ้นรนให้เหนื่อย เธอไม่เคยเครียดกับอะไรยกเว้นเรื่องเดียว ‘วันนี้จะกินอะไรดี’“เป็นไง เข้าผับครั้งแรก” ธารน้ำ เพื่อนสนิทของมีญ่าเอ่ยขึ้น“ดีมาก ดีกว่าที่ฉันคิดเอ
“เราจูบกันได้ไหมคะ…”คำพูดของมีญ่าทำให้คู่กรณีหนุ่มชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปดวงตาที่พร่าเลือนของเธอ ราวกับพยายามค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดนั้น“เธอรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”“ฉะ…ฉันร้อน ฉันไม่ไหว…” กลั้นใจพูดออกมา ร่างของเธออ่อนแรงลงเรื่อยๆ ขาทั้งสองแทบทรุด เธอเกาะแขนเขาไว้แน่นขึ้นเหมือนเป็นเส้นเชือกสุดท้ายที่ใช้พยุงให้รอดพ้นจากความทรมานนี้ชายหนุ่มมองมีญ่าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เขาก้มลงจนใบหน้าของเขาอยู่ในระดับเดียวกับเธอ“ถ้าฉันจูบเธอ ฉันจะได้อะไร?” “ตะ…ต้องการอะไรฉันยกให้หมด แค่ตอนนี้ช่วยจูบฉันได้ไหม…”เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกระชากคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ มือหนาประคองท้ายทอยเธออย่างนุ่มนวล และริมฝีปากของเขาก็ประทับลงบนริมฝีปากของเธอความรู้สึกเย็นเฉียบจากสัมผัสนั้นเหมือนน้ำที่ดับไฟในร่างกายของเธอ ตอนแรกเหมือนจะดีขึ้น ทว่าต่อมาเหมือนการจูบนี้จะสุมไฟราคะในร่างกายมีญ่าให้ระเบิดขึ้นจนยากยับยั้งชั่งใจ“ถะ…ถ้าฉันต้องการมากกว่านี้ล่ะคะ” พอจูบถูกถอนออกเธอจึงขยับริมฝีปากที่แห้งผากเอ่ยถาม เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่ความต้องการที่เริ่มคุขึ
“อะ อื๊ออ…” สัมผัสชวนวาบหวามจากชายคนแปลกหน้าสร้างความตื่นเต้นให้ร่างบางไม่ใช่น้อย ฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ที่กำลังครอบงำจิตใจกระตุ้นอารมณ์ความต้องการมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากหลบหนีมีญ่านอนแอ่นหน้าอกรับสัมผัสหยาบโลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความทรมานฉายชัดบนใบหน้าสวยหวาน ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มเข้าหากัน พลางกัดกลีบปากล่างเบาๆ ด้วยความเสียวซ่าน มือเล็กลูบไล้ไปตามแผ่นหลังแกร่งที่แน่นหนันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เผลอจิกเบาๆ จนเกิดรอยเล็บ จังหวะที่ใบหน้าคมคายซุกไซ้ลำคอ ยิ่งทำให้น้ำหนักมือกดลงแรงกว่าเดิม“ตัวเธอหอมดีนิ”“อึก…” คำเอ่ยชมทำให้ใบหน้าของเธอเห่อร้อน ไม่เคยลิ้มรสของสัมผัสแบบนี้มาก่อน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันดีเกินกว่าจะขอให้เขาหยุด ยิ่งเขาสัมผัสมากขึ้นร่างกายยิ่งอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งโดนไฟลน“ฉันชอบกลิ่นตัวหอมๆ เหมือนแป้งเด็กของเธอ” เขากระซิบข้างใบหู มือหนาบีบเคล้นหน้าอกขนาดใหญ่พอดีจนล้นออกตามง่ามนิ้ว แม้จะอยู่ภายใต้ไฟสลัวหากแต่ยังคงมองเห็นเรือนร่างไร้อาภรณ์ชัดเจนสวยไปหมด…มือหนาสอดเข้าไปใต้เรียวขาขาวเนียน ค่อยๆ สัมผัสลงความสวยงามเปียกแฉะ ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างพร้อมแล้ว“แ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเธอกำลังเตรียมตัวย้ายเข้าคอนโดใหม่ที่คุณพ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ที่มีวิวทิวทัศน์ดีที่สุดในกรุงเทพฯ แถมยังแพงที่สุดอีกด้วยEmpire Rich นั่นแหละชื่อคอนโดที่คุณพ่อควักเงินสดซื้อให้ ซึ่งเป็นโครงการที่ครอบครัวของเธอร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ ตอนแรกทางนั้นจะลดให้แต่คุณพ่อบอกไม่สมฐานะ ‘ลูกสาวจากตระกูลซาน’ สอนให้ลูกสาวเป็นคนประหยัดแต่ตัดภาพไปที่ตัวเอง…เธอยืนจัดดอกไม้ใส่แจกันอย่างสวยงามท่ามกลางแสงแดดที่ส่องผ่านกระจกเข้ามา สวมเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นสบายๆ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ทำให้บรรยายกาศอบอวลไปด้วยความสุข แม้จะอยู่คนเดียวก็ตามเสียงฮัมเพลงดังเล็ดลอดออกมาบอกว่าเธอกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จสรรพ มองกลับมายังก้านเอย ใบเอยก็…เริ่มขี้เกียจเก็บแต่ก็ต้องเก็บ เพราะอยู่ที่นี่ไม่มีใครคอยช่วยเหมือนตอนอยู่บ้าน อยากออกมาใช้ชีวิตคนเดียวก็ต้องแลกมาด้วยการทำอะไรเอง ตอนแรกคุณแม่บอกให้เอา ‘พี่ลัน’ พี่เลี้ยงตั้งแต่ยังเด็กมาอยู่ด้วย แต่เธอปฏิเสธเพราะอยากลองอยู่คนเดียว“ทำไมมันยากขนาดนี้…” บ่นงึมงำคนเดียวขณะกำลังเก็บก้านและใบจากดอกไม้ที่ซื้อมาจัดใส่แจกันตกแต่งคอนโดทิ้งคร
“นาย…”เธอควรตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี เรื่องที่เห็นผู้หญิงในห้องตรวจโดยไม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ กับเรื่องที่เขาเป็นผู้ชายในคืนนั้น ที่เคยมีความทรงจำอันเร่าร้อนด้วยกันแม้คืนนั้นเธอจะเมาและดูขาดสติไปบ้าง แต่เธอก็จดจำใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาได้ดี คืนนั้นเขาสวมใส่ชุดสบายๆ หากแต่ดูมีเสน่ห์เหลือล้น ทว่าวันนี้…เขาอยู่ในเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา ขัดกับความร้อนแรงในคืนนั้นโดยสิ้นเชิงคุณหมอหนุ่มเดินผ่านหน้ามีญ่าไปนั่งลงเก้าอี้ทำงาน ใบหน้าที่เคยเจ้าเล่ห์ในคืนนั้นดูเรียบนิ่งราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน มือที่กำลังจับปากกาอยู่นั้น…คือมือเดียวกันกับที่ใช้ถอดชุดของเธอและ…สัมผัสร่างกายของเธอ“ถ้างั้นจีน่ากลับก่อนนะคะหมอ เจอกันใหม่ค่ะ” จีน่าส่งยิ้มให้คุณหมอที่ตัวเองหมายปอง ก่อนจะเดินเชิดผ่านหน้ามีญ่าออกไปอย่างไม่พอใจที่โดนขัดจังหวะในการจีบคุณหมอหนุ่มไรอัน ไม่สนใจจีน่าสักนิด ไม่แม้แต่จะกล่าวคำลาหรือส่งยิ้ม ในขณะที่จีน่าพูดสายตาก็มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือคลิกเมาท์ดูงานของตัวเอง การกระทำแสนเย็นชาพลอยทำให้จีน่ารู้สึกอับอาย ท่ามกลางสายตามีญ่าและพยาบาลพยาบาลเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้มีญ่าและไรอันอยู่กันตา
หลายวันต่อมาเสียงประกาศตามสายเรียกให้นักศึกษาและอาจารย์มารวมตัวกันในห้องประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย มีญ่าเดินตามกลุ่มเพื่อนเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เธอไม่ได้ชอบการประชุมหรือกิจกรรมใหญ่โตแบบนี้เท่าไร แต่ก็เลี่ยงไม่ได้“นี่รู้ไหม เขาบอกว่ามีแขกรับเชิญพิเศษจากโรงพยาบาลดังมาด้วยล่ะ” ธารน้ำพูดขึ้นระหว่างเดินเข้าไปในห้องประชุม“โรงพยาบาลดัง ใครอะ” เฟย์พูดเสริมด้วยความสงสัยมีญ่าพยายามไม่สนใจบทสนทนา แต่หัวใจก็อดกระตุกไม่ได้เมื่อนึกถึงชื่อโรงพยาบาลที่ไปเมื่อหลายวันก่อน เธอส่ายหัวพยายามสะบัดความคิดนั้นออกไปเพราะอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ประเทศไทยมีโรงพยาบาลดังๆ ตั้งหลายที่ คงไม่ใช่ที่นั่นที่เดียวหรอก เมื่อทุกคนเข้ามาในห้องประชุม เสียงพูดคุยค่อยๆ เบาลงเมื่ออาจารย์เริ่มกล่าวเปิดงาน“วันนี้เรามีโอกาสพิเศษที่ได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารโรงพยาบาล และยังเป็นผู้ริเริ่มโครงการทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนนักศึกษาในสายสุขภาพ คุณหมอรวิกร ภูริธนากุล”เสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วห้อง มีญ่าชะงักทันทีที่ได้ยินชื่อที่อาจารย์พูดผ่านไมค์ เธอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน และก่อนที่เธอจะตั้งสติได้ดี ไรอันในช
วันธรรมดามีญ่ามักภาวนาขอให้ถึงวันเสาร์เร็วๆ แต่ตอนนี้เธอกลับภาวนาขอให้อย่าเพิ่งถึงวันเสาร์ ร่างบางในชุดนักศึกษามีป้ายคล้องคอสีน้ำเงินเดินเข้ามาภายในโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย วันหยุดควรได้นอนตื่นสาย ไม่ใช่รีบลุกจากที่นอนมาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เก้าโมงเช้าเธอเดินเข้ามาในล็อบบี้ของโรงพยาบาลพร้อมถอนหายใจหนักหน่วง ก้มมองป้ายคล้องคอที่มีชื่อและคำว่า ‘นักศึกษาดูงาน’ พิมพ์ตัวโตอย่างไม่สบอารมณ์“เริ่มวันแรกก็รู้สึกอยากกลับแล้ว…” เธอขยับริมฝีปากบ่นงึมงำบริเวณล็อบบี้เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินขวักไขว่ มีทั้งคนไข้ ญาติผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา มีญ่าเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วพบว่าเข็มยาวเพิ่งจะชี้เลขเก้าเป๊ะ เธอไม่ได้มาสาย แต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์อยากอยู่ตรงนี้นานนัก“สวัสดีค่ะคุณมีญ่า” เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันไปเจอกับพยาบาลในชุดขาวยิ้มต้อนรับ“สวัสดีค่ะ”“คุณหมอรออยู่ที่แผนกประชุมค่ะ เชิญทางนี้เลยนะคะ”เธอเดินตามพยาบาลยิ้มสวยคนนั้นไปด้วยความรู้สึกที่เริ่มตื่นเต้นกับการเจอเขาอีกครั้ง…ห้องประชุมประตูไม้สีเข้มถูกเปิดออก เผยให้เห็นโต๊ะประชุมทรงยาวกับจอโปรเจกเตอ
ใครจะเชื่อว่าเธอถูกขอแต่งงานแล้ว…มีญ่านั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้อง ดวงตากลมโตคู่สวยจับจ้องไปยังแหวนเพชรบนนิ้วนางข้างซ้าย ราวกับว่ายังไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นของเธอจริงๆ แสงไฟในห้องสะท้อนกับเพชรเม็ดงามจนเป็นประกายระยิบระยับ แต่มันกลับไม่สว่างไสวเท่าความรู้สึกในหัวใจของเธอเธอถูกขอแต่งงานแล้วจริงๆ หรือเนี่ยความคิดนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเสียจนเธอตั้งตัวไม่ทัน เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังยืนอยู่ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนฝูง กำลังฉลองความสำเร็จของตัวเองในวันรับปริญญา แต่จู่ๆ ไรอันก็โผล่มาคุกเข่าลงตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยประโยคที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล‘แต่งงานกับพี่นะ’เสียงทุ้มอบอุ่นยังคงก้องอยู่ในหัวใจ ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ทุกครั้งที่นึกถึง ประโยคนั้นก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวเธอเผลอยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองเบาๆ ย้อนคิดถึงวินาทีที่เขามองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังและความมั่นคงเธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนเด็ดขาด หากตัดสินใจอะไรแล้วก็หมายความว่าเขาได้ไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วน เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็น
ท้องฟ้าในวันนี้สดใสเป็นพิเศษ แสงแดดอบอุ่นแต่ไม่ร้อนจนเกินไป สายลมเอื่อยๆ พัดผ่าน สร้างบรรยากาศรื่นรมย์ให้กับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการมีญ่าอยู่ในชุดครุยเต็มยศ วันนี้เป็นวันที่เธอรอคอยมาโดยตลอด วันที่ความพยายามของเธอสัมฤทธิ์ผล รอยยิ้มสดใสแต่งแต้มบนใบหน้าขณะเธอเดินไปหาครอบครัวที่ยืนรออยู่ เซอร์เวย์และมิลินมองลูกสาวด้วยสายตาแห่งความภาคภูมิใจ โดยมีเซนเวียร์คนเป็นน้องชายยืนเก๊กอยู่ด้วย“คุณพ่อ คุณแม่!” เธอส่งเสียงเรียก ก่อนจะโผเข้ากอดทั้งสองคนแน่น“ยินดีด้วยนะลูก พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก” เซอร์เวย์พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น สายตามองลูกสาวอย่างภูมิใจ“แม่ก็เหมือนกันค่ะ ลูกแม่เก่งที่สุด” มิลินลูบศีรษะลูกสาวเบาๆ ดวงตาเอ่อคลอด้วยความปลื้มปิติ“ยินดีด้วยนะพี่มีญ่า” เซนเวียร์เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาพูดเสียงเรียบๆ แต่รอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ที่มุมปากก็ทำให้คนเป็นพี่สาวรู้ว่าน้องชายดีใจไม่แพ้กันในขณะที่มีญ่ากำลังยืนพูดคุยและกำลังถ่ายรูปกับครอบครัวอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างหลัง“ยินดีด้วยนะมีญ่า”เธอหันไปตามเสียงและเห็นคุณลุงรามิลและคุณป้าอันดา พ่อแม่ของไรอันกำลังเดินเข้ามาหาด้วยรอยย
บรรยากาศในคอนโดหรูวันนี้ของไรอันแตกต่างไปจากทุกวัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของวานิลลาลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว คุณหมอหนุ่มที่อยู่ในชุดลำลองสบายๆ ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัว มือหนากำลังจับตะกร้อมือคนส่วนผสมของแป้งเค้กในอ่างผสมอย่างตั้งใจ“ให้ตายสิ ทำไมมันเหลวแบบนี้วะ…” เขาพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้วมองแป้งที่ดูเหมือนจะผิดสูตรไปเล็กน้อยปกติแล้วเขาไม่ถนัดทำขนมเท่าไรนัก แต่วันนี้พิเศษกว่าวันไหนๆ เพราะเป็นวันเกิดของมีญ่า และเขาต้องการทำเค้กวันเกิดเซอร์ไพรส์เธอ ส่วนอาหารไม่ยุ่งยากเพราะเป็นงานถนัดหลังจากทดลองคนแป้งใหม่อีกรอบจนได้ความเนียนตามที่ต้องการ เขาก็เทลงในพิมพ์เค้กที่เตรียมไว้แล้วนำเข้าเตาอบ ขณะที่รอเค้กสุกก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูตรวจสอบออร์เดอร์ช่อดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ล่วงหน้า กุหลาบสีชมพูช่อโตที่จะมาส่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงมีญ่าชอบกุหลาบสีชมพู…เสียงเตาอบที่ดังขึ้นทำให้เขาเดินไปเปิดเตาอบอย่างระมัดระวัง เค้กเนื้อฟูส่งกลิ่นหอมหวานออกมา เขายิ้มบางๆ อย่างพอใจ จากนั้นก็เริ่มจัดการตกแต่งหน้าด้วยครีมสดและสตรอว์เบอร์รี“ไม่เลว…” เขาพึมพำกับตัวเองเมื่อมองผลงานตรงหน้า แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนเชฟม
โรงพยาบาลภูริธนากุล“คุณหมอคะ มีคนมีขอพบค่ะ”“ใคร?”“เขาบอกชื่อนทีค่ะ”“อืม ให้เข้ามาได้เลยครับ” เขาแปลกใจมากที่จู่ๆ นทีก็มาหาถึงโรงพยาบาล ที่ผ่านมาเขากับมันไม่ลงรอยกันมาโดยตลอด ตั้งแต่เขาคบกับมีญ่ามันเงียบไปสักพักนึงได้ เพิ่งเริ่มเคลื่อนไหวคงเป็นตอนนี้แอดดประตูห้องทำงานของถูกเปิดออก เขาเงยหน้าขึ้นมองนทีที่เปิดเข้ามาด้วยท่าทางปกติ มันเดินมานั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน สายตามันมองเขาเช่นเดียวกัน ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบนานสองนานเพราะไม่มีใครปริปากพูด จนเขาเริ่มเป็นฝ่ายพูดเพื่อทำลายความเงียบนี้“มาหากูมีธุระอะไร” เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ“กูแค่…มายินดี” นทีเงียบไปราวสองวิแล้วพูดต่อจนจบ ประโยคนั้นทำให้ไรอันนิ่งเงียบ สายตาที่มองนทีอยู่เสไปทางอื่นเมื่ออีกคนมองมาก่อนหน้านี้นทีพยายามขัดขวางเขากับมีญ่า เพราะมันเองก็ชอบมีญ่าเหมือนกัน แต่สุดท้ายดันเป็นเขาที่ได้มีญ่ามาครอบครอง จริงๆ เขาแอบสะใจที่เอาชนะมันได้ ช่วงหนึ่งที่มันเงียบหายเข้ากลีบเมฆยอมรับว่าเป็นห่วง ถึงยังไงครั้งหนึ่งเขากับมันก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน การมาของมันวันนี้เดาไม่ออกเลยว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ดูจากท่าทางแล้วคงไม่ได้มาร้ายแน่นอน
“มีเมียแล้วรู้สึกยังไงวะ” เสียงของแม็กซ์ควินเอ่ยถามไรอันที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ วันนี้พวกเขาเลือกนั่งโซนเอ้าดอร์เพราะอากาศดีบวกกับเบื่อความวุ่นวายข้างในมาแอลคลับเพิ่มโซนเอ้าดอร์ มีดีเจเปิดเพลงจังหวะสบายๆ เบาหู สามหนุ่มนั่งดื่มข้างนอกท่ามกลางบรรยากาศดีๆ และเพลงเพราะหู“คงรู้สึกเหมือนมึง” เขาตอบเสียงเรียบแล้วยกน้ำสีเหลืองอำพันในแก้วขึ้นดื่มอย่างใจเย็น ก่อนจะเหลือบมองคิรันที่นั่งจ้องโทรศัพท์ด้วยท่าทางแปลกๆ“เป็นไรของมึงคิรัน?”“เปล่า” คิรันตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งเล็กน้อยจนไรอันกับแม็กซ์ควินหันหน้ามองกันด้วยความประหลาดใจ ปกติคิรันไม่เคยเงียบขนาดนี้ หรือในโทรศัพท์เครื่องนั้นจะซ่อนใครเอาไว้“พวกกูเห็นมึงนั่งจ้องโทรศัพท์มาสักพักนึงล่ะ มึงรอใครตอบแชตอยู่เหรอวะ?” คราวนี้แม็กซ์ควินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปมองไรอัน“น้องคนนั้นเหรอวะ”“ก็แค่เด็กแก่แดดคนนึง”“เด็กแก่แดด?” ไรอันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มอย่างจับพิรุธ “แล้วไอ้คนที่เอาแต่นั่งจ้องจอรอข้อความตอบอยู่เนี่ย…นับว่าเป็นอะไร?”คิรันถอนหายใจ ยกแก้วขึ้นจิบพลางเบือนหน้าหนีสายตากวนประสาทของเพื่อนทั้งสอง แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจาก
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนกระทบกับสองร่างที่นอนกอดกันกลมบนเตียงนอนขนาดใหญ่ไรอันตื่นขึ้นมาก่อน เขานอนตะแคงข้างมองคนตัวเล็กที่ยังคงหลับพริ้มอยู่ข้างกาย ดวงตาคมทอดมองใบหน้าสวยหวานที่ซุกอยู่กับหมอน ผมยาวกระจายไปทั่วหมอนอย่างเป็นธรรมชาติ แก้มเนียนมีสีระเรื่อดูสุขภาพดีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมคาย เขาใช้ปลายนิ้วไล้ปัดปอยผมที่ตกลงมาปิดใบหน้าสวยหวานออกเบาๆ กลัวว่าจะทำให้เธอตื่น แต่ดูเหมือนสัมผัสแผ่วเบานั้นจะทำให้ร่างบางเริ่มขยับตัว มีญ่าลืมตาขึ้นมา ดวงตากลมโตยังคงฉายแววงัวเงีย มือเล็กยกมือขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะกะพริบตาเพื่อปรับโฟกัส แล้วภาพแรกที่เห็นก็คือใบหน้าของแฟนหนุ่มที่กำลังมองตัวเองอยู่จุ๊บ…คุณหมอหนุ่มมองแฟนสาวด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนหน้าผาก ไล่ลงมาที่เปลือกตา แก้ม และจบท้ายที่ริมฝีปากบางสีระเรื่อ“มอนิ่งคิสครับ เด็กดีของพี่“มอนิ่งค่ะ”“ไม่มีคิส?” มีญ่าเม้มริมฝีปากแน่น แก้มเนียนขึ้นสีเรื่อทันทีเมื่อได้ยินคำถามแสนเจ้าเล่ห์จากแฟนหนุ่ม“งะ…ง่วงอยู่” เธออ้างเสียงเบา ซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อซ่อนความขัดเขินไรอันหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางนั้น เขาไม่เร่งเร้าอะไร เพียงแค่ใ
มีญ่าออกจากโรงพยาบาลมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว วันนี้หลังจากเรียนเสร็จเธอรีบกลับมาทำอาหารเย็นไว้รอแฟนหนุ่มที่ใกล้เลิกงานในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ร่างบางในชุดนักศึกษายืนทำอาหารตามสูตรจากยูทูปพลางฮัมเพลงที่เปิดตามอย่างมีความสุขเธอไม่ถนัดอาหารพวกยุโรปจึงเลือกทำอาหารไทยง่ายๆ ต้มยำกุ้ง ผัดผัก และไข่เจียวหมูสับที่แอบไหม้เล็กน้อยเพราะไม่ทันระวัง เธออยากทำใหม่แต่คงไม่ทันเพราะตอนนี้เขาคงใกล้ถึงคอนโดแล้ว มือเล็กจัดการปิดเตาแก๊ส ยกอาหารไปวางเรียงที่โต๊ะที่เหลือก็แค่…รอเขากลับมาเสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาหันไปมองทันที ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นไรอันก้าวเข้ามาในห้อง“กลับมาแล้วเหรอคะ?” เธอยิ้มกว้าง รีบเดินเข้าไปหาไรอันมองแฟนสาวที่ยืนยิ้มต้อนรับอยู่ตรงหน้า เขาวางของลงก่อนจะก้มลงหอมแก้มเธอเบาๆ “กลับมาแล้ว กลิ่นอะไรเหรอหอมเชียว”“มีญ่าทำอาหารเย็นรอค่ะ” เธอจับมือเขาแล้วพาเดินไปที่โต๊ะอาหาร ไรอันมองอาหารบนโต๊ะอย่างพินิจ ต้มยำกุ้งสีสวยจัดจ้าน ผัดผักที่ดูน่ากิน และไข่เจียวหมูสับที่…เกรียมเล็กน้อย“ไข่เจียว…” เขาเลิกคิ้วขึ้นมีญ่าสะดุ้ง รีบยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย“มันแ
Rawikorn.ry กล่าวถึงคุณในสตอรี่ หัวใจดวงน้อยสั่นไหวหลังจากเห็นแจ้งเตือนจากไอจีที่ไรอันกล่าวถึงมาเมื่อครู่ ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะเผยยิ้มอย่างเขินอาย นิ้วเรียวเล็กกดเข้าไปดูอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วิสตอรี่ที่เขาแท็กมาเป็นภาพถ่ายคู่กับเธอในชุดโรงพยาบาล เขาใช้กล้องหน้าถ่ายเธอชูสองนิ้วสองมือสุดแบ้ว ส่วนเขาเห็นแค่หัวไหล่ไม่เห็นหน้าตามประสาคนไม่ชอบถ่ายรูป พร้อมกับข้อความสั้นๆ แต่อ่านแล้วหุบยิ้มไม่ได้‘หายไวๆ ตัวเล็ก’เธอกดรักข้อความที่โชว์ในหน้าแชตของไอจี ไม่หมดแค่นั้นยังกดผ่านสตอรี่อีกรอบแล้วค่อยกดตอบกลับ เธอวนดูสตอรี่นี้นานมากหมดรอบยังกดดูใหม่ ให้นั่งดูทั้งวันยังได้เลย ไม่นานหมอรวิกรก็เข้ามากดรักสตอรี่ที่เธอตอบกลับ ซึ่งเขาทำแบบเดียวกับเธอเลยRawikorn.ry ตอบกลับสตอรี่ของคุณ : “รักครับ”ใบหน้าสวยหวานขึ้นเลือดฝาดเมื่อมีข้อความจาก ‘แฟนหนุ่ม’ เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ตอนนี้เธอและเขาคบกันแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็รู้แถมยังบอกอีกว่าเชียร์คู่เธอกับหมอรวิกรมาสักพักแล้ว เมื่อเช้าคุณแม่มาเยี่ยมแอบกระซิบกับเธอว่าตอนนี้คุณพ่อกำลังคุยกับครอบครัวฝั่งหมอรวิกรเรื่อง ‘หมั้นหมาย’ ตอนเธอฟังคุณแม่พูดขอสารภาพ
พอทุกคนรู้ว่ามีญ่าฟื้นต่างดีใจกันยกใหญ่แถมยังแห่มาเยี่ยมกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ละคนไม่มามือเปล่า หอบกระเข้าดอกไม้ กระเช้าผลไม้ รวมถึงของต่างๆ ที่คาดว่าคนป่วยอาจชอบมาให้“ทุกคนนัดกันมาเหรอคะ” นึกว่าวันตรุษจีนรวมญาติ เธอไล่สายตามองแต่ละคนที่ยืนล้อมเตียง พอหมอรวิกรแจ้งข่าวว่าเธอฟื้นแล้วไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทุกคนก็แห่กันมาเยี่ยมทั้งคุณพ่อคุณแม่ และเซนเวียร์คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย และเพื่อนสนิทอย่างธารน้ำครอบครัวของหมอรวิกรก็มาด้วย ทุกคนน่ารักกันมาก ถึงจะดูวุ่นวายไปหน่อย แต่มันก็ทำให้เธอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนเป็นห่วงเธอมาก คอยแวะเวียนมาเยี่ยม กระเช้าดอกไม้ต่างเป็นดอกไม้สีขาวและสีชมพูที่เธอชอบ“ขอบคุณที่ตื่นขึ้นมาเมาท์เป็นเพื่อนฉันนะ” ธารน้ำโผกอดเพื่อนสาวอย่างระวัง พอรู้ว่ามีญ่าฟื้นจากกำลังเข้าเรียนก็ตัดสินใจโดดเรียนมาหาเพื่อนสนิท“หลานย่าต้องหายเร็วๆ นะ” คนเป็นย่าพูด ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ด้วยความดีใจที่หลานสาวฟื้นขึ้นมาสักทีเธอยิ้มแล้วพยักหน้ารับเบาๆ ให้คุณย่า ทุกคนดูเป็นห่วงเธอมาก นับเป็นบุญของเธอที่รอดตายมาอย่างปาฏิหาริย์ หมอรวิกรบอกว่าเธอสลบไปนานเป็นเดือนเพราะสมองได้รับการกระ