สถานที่งานประมูลภาพ
/ดาร์บี้ได้ยินมั้ย/
เสียงหูฟังบลูทูธรูปแบบคล้ายตู้มหูที่ร่างโปร่งสวมใส่อยู่ที่ใบหูเล็กดังขึ้น ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดสูทเรียบหรูบนใบหน้ามีแว่นสายตาประดับอยู่ก้าวเดินสำรวจรอบๆงานอย่างช้าๆ เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ไว้ เผื่อยามจำเป็นในการลงมือผิดพลาด ถึงแม้มันจะไม่มีวันผิดพลาดก็เถอะ
"อืม"
ดาร์บี้ครางรับในลำคอเบาๆพร้อมกับพยักหน้าให้กับบริกรที่เดินถือถาดเครื่องดื่มชั้นดีเสิร์ฟให้แขกในงานเป็นเชิงขอเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง แต่ความจริงในการพยักหน้านั้นคือการตอบคาร์ลที่กำลังส่องสไนเปอร์รอบมองทั่วงาน และการส่องเลงปืนมานั้นรวมถึงการส่องเลงมาที่เขาด้วย
บอกไม่เคยจำ!
ร่างโปร่งที่รับแก้วไวน์จากบริกรหนุ่มไว้ในมือ ก็หันมองรอบๆพลันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองไปยังหน้าต่างที่เป็นกระจกบานใสด้วยสายตาคาดโทษ
ซึ่งชายหนุ่มที่กำลังนอนมอบเลงสไนเปอร์อยู่บนดาดฟ้าของตึกตรงข้าม ก็ได้แต่ยิ้มแหยๆกับตนเองเมื่อส่องไปเจอเข้ากับสายตาของคู่หูที่ดูก็รู้ว่าความหมายของสายตานั้นว่ามีความหมายแฝงว่าอะไร
จบงานมึงเจอกูแน่
/มันจำเป็นดาร์บี้ จบงานเราค่อยเคลียร์กันเนาะ/
เสียงใสของคาร์ลเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อพลางกรวดสายตามองรอบๆในงานจากระยะไกลก่อนที่จะหยุดชะงักที่เป้าหมายที่พวกเขาต้องลงมือ
/เป้าหมายปรากฏตัวแล้วที่2นาฬิกา/
สองขายาวก้าวไปตามทิศทางที่ได้ยินจากเพื่อนที่ซุ่มมองจากระยะไกลก่อนที่จะหยุดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเป้าหมาย มือบางข้างขวายกขึ้นแตะที่ใบหูที่สวมเครื่องมือสื่อสารไว้ไม่นานก็ลดลงไว้ข้างตัวดังเดิม ส่วนมือซ้ายอีกข้างก็ยังคงถือแก้วเครื่องดื่มชั้นดีไว้ในมือ ทำเหมือนเป็นแขกทั่วไปที่โดนเชิญมาร่วมงาน
"อืมเห็นแล้ว"
/ตามที่สืบมาช่วงกลางงานเป้าหมายจะออกไปห้องพักชั้นสองที่จองไว้ เพื่อรอคุยแลกเปลี่ยนการค้ายากับคู่ค้า นายมีเวลาลงมือแค่ช่วงนั้นดาร์บี้ จับตาเป้าหมายไว้ดีๆล่ะอีกสักพักกูต้องลงจากดาดฟ้าแล้ว/
คาร์ลเริ่มสาธยายข้อมูลที่เขาสืบมาได้ ก่อนที่จะบอกคู่หูของเขาว่าเขาต้องลงจากที่ซุ่มมองก่อนเวลาที่คุยกันไว้ เพราะเขารู้สึกแปลกๆมาสักพักแล้ว รู้สึกเหมือนโดยใครสักคนแอบมองเขาอยู่ ทั้งๆที่เขาก็เดินสำรวจรอบๆดูแล้วว่าไม่มีใครนอกจากเขา
"ทำไม"
เซทท์ที่ได้ยินองศาบอกแบบนั้นก็ได้ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยและเป็นห่วงเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับผู้เป็นเพื่อน
/ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ต้องเป็นห่วง กูแค่รู้สึกแปลกๆเหมือนมีสายตาแอบมองกูอยู่ กูเลยจะถอนกำลังออกจากที่นี้เร็วหน่อยแล้วไปแสตนบายรอมึงอยู่ฐานบีรอมึงเรียกขอกำลังเสริมยามฉุกเฉิน/
องศาที่เห็นแววตาของเซทท์ที่แสดงความเป็นห่วงออกมาชัดเจนก็ได้เอ่ยอธิบายให้เซทท์ฟังก่อนที่จะเริ่มถอดอุปกรณ์แล้วเก็บของเข้ากระเป๋าใบใหญ่เมื่อเห็นงานประมูลเริ่มขึ้น
พิร์ภูณกรที่อยู่ในคาบของเซทท์ชายหนุ่มอ่อนโยนใบหน้าหวานที่มีแว่นสายตาประดับบนใบหน้า ที่คนทั่วไปรู้จักกันในนามนักวาดและนักออกแบบโลโก้ฝีมือดี ยืนอยู่ท่ามกลางนักธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่กำลังพากันประมูลภาพเขียนด้วยราคาไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้านบาท
"ต่อไปเป็นภาพเขียนของนักวาดD.sนะครับราคาเริ่มต้นอยู่ที่5แสนบาทเริ่มประมูลครับ"
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองไปยังภาพเขียนที่ตั้งโชว์อยู่บนเวที ภาพที่เล่าเรื่องราวความเป็นธรรมชาติความร่มรื่นความเย็นสบายและความอ่อนโยนของสิงสาราสัตว์ ภาพที่เขาคนนี้เป็นคนเขียนขึ้นมาเองกับมือ
"หมายเลขสามให้หนึ่งล้าน มีใครให้มากกว่านี้มั้ยครับ"
"หนึ่งล้านห้าแสนครับ มีใครสู้มั้ยครับ"
ผู้คนในงานเริ่มที่จะยกป้ายหมายเลขและเอ่ยสู้ราคากันไม่หยุดหย่อนจนตอนนี้ราคาของภาพของเขาหยุดอยู่ที่50ล้านบาทจึงไม่มีใครที่จะยกป้ายขอขึ้นสู้ และคนที่ประมูลภาพของเขาหยุดที่50ล้านบาทคือเป้าหมายที่เขาต้องลงมือในวันนี้
"50ล้านครั้งที่หนึ่ง....50ล้านครั้งที่สอง....และ50ล้านครั้งที่....."
เสียงนับของพิธีกรดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มของชายวัยกลางคนที่ประดับขึ้นบนใบหน้า เมื่อนึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะในการประมูลภาพเขียนที่สวยงามภาพนี้ แต่ยังไม่ทันที่พิธีกรจะได้ทุบปิดการประมูลลงก็มีเสียงทุ้มของชายปริศนาผู้มาใหม่เอ่ยขัดขึ้นซะก่อน
"100ล้าน!"
เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่การนับครั้งที่สามจะดังขึ้นทำให้ทุกคนในห้องประมูลหันไปมองผู้ประมูลที่มาใหม่แถมยังเสนอราคาประมูลที่สูงกว่าเป็นเท่าตัวอีก
พิร์ภูณกรหันไปมองตามเสียงทุ้มที่เสนอราคาภาพเขียนของเขาจนสูงลิ่วก็พบเขากับชายหนุ่มตัวสูงมาดเข้มหน้าตาหล่อเหลาเอาการ ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองตรงไปที่ภาพของเขานิ่งๆ ท่ามกลางบอดี้การ์ดนับสิบที่ยืนคุ้มกันให้เขาอยู่ด้านหลัง
คนคนนี้อันตรายไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วยอย่างยิ่ง
คำว่าอันตรายผุดขึ้นมาในหัวของเซทท์ทันทีที่เห็นชายหนุ่มตัวสูงมาดมาเฟียเดินเข้ามาในงาน ผู้คนในห้องประมูลที่เห็นว่าชายที่ปรากฏเป็นใครต่างพากันหันหน้าหนีไม่กล้าสบตาและไม่มีใครที่จะกล้าประมูลราคาแข่งกับชายคนนี้
เซทท์จ้องมองชายตัวสูงคนนั้นสักพักก่อนที่จะเปลี่ยนไปมองยังเป้าหมาย เมื่อสบเข้ากับดวงตาคมเข้มอันน่ากลัวและแววตาอันตรายของชายตัวสูงผู้มาใหม่
อชิตพลที่สบเข้ากับสายตาของร่างบางที่จ้องมองมาที่เขาอย่างบังเอิญก็สตั้นไปเล็กน้อยจนไม่ได้ฟังคำปิดประมูลภาพเขียนที่ตัวเขาเป็นคนประมูลได้ในราคา100ล้านบาทเลยสักนิด
พอจะเจอตัวก็เจอง่ายซะเหลือเกิน
มังกรคิดในใจพลางจ้องมองไปที่ร่างบางที่ตอนนี้ยืนอยู่ท่ามกลางพวกนักธุรกิจที่เข้ามายินดีที่ภาพของเขาปิดราคาประมูลได้ในราคาที่สูงลิ่ว
"เมที ครั้งนี้อย่าให้พลาด"
เสียงทุ้มเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิท นัยน์ตาคมยังคงจ้องมองไปที่ร่างโปร่งที่ยังคงรายล้อมไปด้วยนักธุรกิจชายมากมายไม่ว่าจะนักธุรกิจชายเล็กชายใหญ่ต่างพากันรุมล้อมจนทำให้มังกรที่จ้องมองอยู่คิ้วกระตุกอย่างไม่พอใจ ที่คนที่เขาหมายตาไว้ดูจะเนื้อหอมซะเหลือเกิน
"หายไปไหนแล้ว"
เสียงทุ้มสถบออกมาอีกครั้งอย่างอารมณ์เสียเมื่อเขาหันไปมองคนที่เข้ามาทักทายเขาแค่แป๊บเดียวหันมาอีกทีคนตัวเล็กนั้นก็หายไปซะแล้ว
นัยต์คมกวาดมองรอบๆงานเพื่อจะหาเป้าหมายที่เขาตามหา แต่ก็ไม่ปรากฏเห็นแม้แต่เงาของคนตัวเล็กเลย จึงทำให้คนตัวสูงที่เมื่อกี้กำลังอารมณ์ดีที่เจอะเจอคนตัวเล็กโดยบังเอิญเป็นต้องแปลเปลี่ยนเป็นใบหน้าหงุดหงิดและโมโหในทันทีที่ปล่อยให้คนร่างบางคลาดสายตาไป
"ขอโทษครับที่รัก พี่ขอโทษ เด็กดีไม่ร้องนะครับ""ฮึก ผมไม่ร้องแล้วก็ได้ แต่คุณต้องบอกผมมานะว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร ไม่สิเอาประวัติของเด็กคนนั้นมาเลย ผมจะให้เมทีไปจัดการ"เซทท์เอ่ยพูดพลางดันตัวออกจากอ้อมกอดของมังกรมาสบกับดวงตาคม ก่อนที่จะยกมือบางของตัวเองขึ้นมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ซึ่งมังกรที่เห็นอย่างนั้นก็เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้กับคนรักอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยถามร่างบางอีกทีว่าเด็กที่เซทท์พูดถึงนั้นคือเด็กคนไหนเพราะเขาไม่รู้จริงๆว่าเด็กคนนั้นมันเป็นใคร"เอ่อ...คือเด็กคนไหนหรอครับ"มังกรเอียงใบหน้าถามเสียงเบาพลางมือหนาข้างขวาก็ประคองใบหน้าสวยของคนรักไว้ส่วนมืออีกข้างก็วางไว้ที่เอวบางของคนตรงหน้า ที่ช่วงนี้เขารู้สึกว่าเมียสุดที่รักของเขานั้นดูจะมีน้ำมีนวนขึ้นซะเหลือเกิน อย่างเช่นหน้าท้องที่เคยมีลอนกล้ามเล็กน้อยของเซทท์นั้น ในตอนนี้กลับแปลเปลี่ยนเป็นแอบมีพุงเล็กๆแทนซะแล้ว"ก็เด็กมหาลัยคนนั้นไง เด็กที่หน้าตาน่ารักตัวขาวๆ สเป๊กของคุณเลยอ่ะ""ครับ? เด็กคนไหน"มังกรก็ยังคงแสดงสีหน้างงงวยไม่รู้ว่าเด็กที่เซทท์เอ่ยถึงนั้นเป็นใคร จนเซทท์ที่เห็นเป็นต้องโมโหเอ่ยพูดถึงเด็กที่เ
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ถูกใจสามารถกดข้ามได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อะ อื้มมม อ่าาาพี่มังกรพอก่อน เซทท์ไม่ไหวแล้ว อะ! พอแล้ว อื้อส์ พอ มะ ไม่ไหว อ่าาาส์"น้ำเสียงครางหวานหลุดลอดออกมาจากกายเล็กเป็นระยะๆ เมื่อโดนเอวสอบของคนตัวสูงบนร่างโยกขยับเข้าออกช่องทางรักของตัวเองไม่หยุดหย่อนเป็นเวลานับสามชั่วโมงแล้วที่อชิตพลบรรเลงบทเพลงรักอันเร่าร้อนกับพิร์ภูณกรอย่างไม่มีช่วงเวลาเว้นว่างให้กายบางใต้ร่างได้พักหายใจ หายคอ จนร่างบางในตอนนี้แทบจะสิ้นสติอยู่ล่อมล้อ เซทท์ที่โดนคนพี่เสร็จสมใส่ช่องทางรักรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อยชายตามองดวงตาคมด้วยแววตาเหนื่อยอ่อนแทบจะปิดเปลือกตาลงได้ทุกวินาที"เหนื่อยแล้วหรอครับ หื้มมม"เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงนุ่มนวนพลางมือหนาก็เอื้อมขึ้นมาลูบใบหน้าหวานของคนใต้ร่างอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะทิ้งร่างของต
ห้องอาหาร"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เด็กชายพิรภพเริ่มจะแผดเสียงร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วไม่ได้ยินเสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นพ่อ"อ่าาา ร้องไห้งอแงอีกแล้วนะเจ้าเสือ น้องติณห์หนูจะเอาอะไรลูก ทำไมวันนี้หนูงอแงกับมี๊จังครับ"พิร์ภูณกรบ่นอุ๊บอิบพลางช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยเดินเล่นรอบห้องโถง เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ร่างสูงของมังกรก็เดินทอดน่องลงมาจากชั้นสองก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตรงมาหาสองแม่ลูกในทันที"น้องติณห์หนูไม่ดื้อกับมี๊สิครับ เห็นมั้ยป๊ายังไม่ดื้อกับมี๊เขาเลยนะ"อชิตพลเดินประชิดตัวร่างบางพลางยกมือขึ้นมาจิ้มพุงของลูกน้อยเบาๆสองสามที ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มลูกน้อยและไม่วายเงยหน้ามาหอมแก้มนุ่มของผู้เป็นแม่ไปด้วยฟอดใหญ่ฟอดดดด"คุณมังกร!!!คุณนี้อีกแล้วนะ! อะ!เจ้าเสือ!!มี๊จั๊กจี้"เซทท์ที่กำลังเอ่ยว่าให้มังกรเป็นต้องร้องเสียงหลงหันมาปลามลูกน้อยแทน เมื่อใบหน้าเล็กของลูกน้อยหันเข้าหาอกบางแล้วใช้ริมฝีปากเล็กงับลงยอดถันผ่านเนื้อผ้าบาง พอผู้เป็นพ่อเห็นลูก
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ชอบหรือไม่ถูกใจสามารถกดออกได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เสียงของเด็กน้อยวัยแรกเกิดแผดร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน ทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างพิร์ภูณกรได้แต่อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมอกแล้วพาเดินไปเดินมาทั่วห้องเพื่อหวังให้ลูกน้อยนั้นสงบลงสักหน่อย เพราะเซทท์ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ลูกน้อยของเขานั้นเป็นอะไร ถึงเอาแต่แผดเสียงร้องไห้อยู่อย่างนี้นานนับชั่วโมง จะว่าลูกน้องของเขาหิวก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาพึ่งจะป้อนนมลูกน้อยไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองและเขาเองก็ตรวจเช็กก้นลูกน้อยของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเจ้าตัวน้อยของเขาไม่ได้อึหรือฉี่เลยแม้แต่น้อย"ติณห์หนูเป็นอะไรครับ ทำไมหนูถึงร้องไห้งอแงจังเลยลูก"ร่างโปร่งบางที่อยู่ในสบายอิดโรยและใต้ขอบตาเริ่มมีสีดำคล้ำได้แต่อุ้มลูกน้อยโยกตัวไปมา ส่วนเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นมารดาก็ยังคงแผดเสียงร้องไ
บทส่งท้ายผ่านไป2ปีไว้เหมือนในนิยาย"คุณมังกร!!!"เสียงใสทรงอำนาทตะเบ่งเรียกชื่อประมุขของบ้านดังลั่น ทำให้เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่กำลังฝึกอยู่ของอชิตพลต่างพากันสะดุ้งหันไปมองยังต้นเสียงตามๆกัน"คะ ครับ..."มังกรที่กำลังยืนดูการฝึกฝนของลูกน้องที่พึ่งจะรับเข้ามาใหม่ ต้องสะดุ้งโหย่งหันไปมองตามเสียงแล้วรีบเอ่ยขานรับน้ำเสียงติดขัดในทันที และด้วยเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เหล่าลูกน้องชายที่อยู่ในชุดลำลองต่างหันมองหน้าสบตากันอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นนายเหนือหัวที่ดูเงียบขรึมและน่าเกรงกลัวของพวกเขากัน ทำไมอยู่ๆผู้เป็นนายที่มีสีหน้าท่าทางที่ดูจะโหดเหี้ยมของพวกเขาเมื่อกี้ ถึงได้แปลเปลี่ยนกลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง เมื่อชายร่างโปร่งใบหน้าหวานคนนี้ปรากฏตัวขึ้น"คุณลืมอะไร"เซทท์เอ่ยถามขึ้นเสียงต่ำพลางก้าวเดินเข้าประชิดตัวคนตัวสูงด้วยใบหน้านิ่งๆ ส่วนมังกรที่ได้ยินคำถามของคนตัวเล็กกว่า ก็ได้แต่ยืนงงพลางในหัวก็นึกคิดถึงสิ่งที่คนตรงหน้าเอ่ยถามไปด้วยล
4เดือนต่อมาเวลา 03.12 นาที"อุแว้! อุแว้!"เสียงเด็กแผดร้องดังก้องขึ้นทั่วทั้งห้อง ทำให้คนตัวสูงที่กำลังนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังที่แต่งแต้มไปด้วยรูปรอยสักมังกร ต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างเหม่อลอย เมื่อได้สติมือหนาก็เอื้อมไปกดเปิดสวิทไฟที่หัวเตียงให้ทั่วทั้งห้องสว่างขึ้นแล้วหย่อนขายาวทั้งสองลงจากเตียงนอนเดินตรงไปหาเปลนอนของลูกน้อยที่กำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อย่างเอาแต่ใจอยู่"ว่าไงเด็กดื้อ หิวหม่ำๆหรอครับ หรืออึๆ หื้มมม"เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่สองแขนแกร่งจะช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยที่กำลังร้องห่มร้องไห้มาไว้ในอ้อมอกแล้วโยกไปมาเพื่อกล่อมเด็กน้อยให้หยุดร้อง"ชู่ววว์ ไม่ร้องนะครับเด็กดี ไม่ร้องนะ มี๊กำลังหลับอยู่ ไม่ร้องนะครับ ชู่ววววว์"มังกรเอ่ยกล่อมเด็กน้อยในอ้อมอกพลางตรวจเช็กแพมเพิสของเด็กน้อยว่าได้อึหรือฉี่หรือเปล่าพอเห็นว่าเด็กน้อยอึ มังกรก็จัดการปรับเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็กตัวน้อยในทันทีหลังจากที่เปลี่ยนแพมเพิสและป้อนนมให้ลูกเสร็จ อชิตพลก็ช้อนอุ้มลูกน้อยพาดบ่าเพื่อ