เข้าสู่ระบบช่วงพักกลางวัน ที่มหาวิทยาลัย
หลังการรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยพีรยาก็โทรศัพท์หารามัญผู้เป็นบิดาด้วยความเป็น ที่หอประชุมคณะการตลาดเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม พีรยานั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเก้าอี้พลางยิ้มให้รุ่นพี่อย่างเป็นมิตรขณะที่ถูกรุ่นพี่เชคชื่อ แม้ว่าภายในช่องท้องของเธอจะกำลังปวดร้าวอย่างหนักจากอาการปวดท้องประจำเดือน มันเป็นความปวดที่จู่โจมมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ใบหน้าสวยหวานของเธอซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
“น้องนัตตี้! ทำไมไม่ใส่รองเท้าหุ้มส้นตามระเบียบ” เสียงแหลมของ พี่น็อต รุ่นพี่ปีสองดังขึ้นทันทีหลังจากเชคชื่อของเธอผ่านไป เขาเหลือบรองเท้าแตะสีขาวที่เธอสวมมาแทนรองเท้าคัตชูหนังที่ถูกระเบียบ
นัตตี้พยายามยกมือไหว้พลางอธิบายด้วยเสียงแผ่วเบา
“ขอโทษค่ะพี่... คือรองเท้าหนูมันเปียกเพราะเดินลุยน้ำท่วมเมื่อเช้านี้ค่ะ” พีรยาเอ่ยตอบอย่างแผ่วเบา ขณะที่ความทรงจำเมื่อช่วงเช้ายังคงฉายวนอยู่ในหัวของเธอ
หลังตัดสินใจกางร่มลงจากรถของคุณพ่อ พีรยาก็ต้องเผชิญกับสภาพน้ำท่วมที่ท่วมขังสูงเกินข้อเท้า เธอต้องเดินลุยน้ำเย็นเฉียบเข้าไปในมหาวิทยาลัยอย่างทุลักทุเล จนรองเท้าคัตชูของเธอเปียกชุ่มจนใช้การไม่ได้
พีรยาจึงต้องแวะร้านสะดวกซื้อ เพื่อจัดหารองเท้าแตะคู่ใหม่มาเปลี่ยนก่อนเข้าเรียน แถมความปวดร้าวจากอาการปวดท้องเมนก็กำลังเริ่มคืบคลานเข้ามา เธอจำต้องซ่อนความทรมานทั้งหมดไว้ภายใต้รอยยิ้มที่สดใส เธอไม่ได้บอกคุณพ่อเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอรู้ดีว่า พ่อของเธอจะต้องเป็นห่วงเธอมาก
การต้องยืนเผชิญหน้ากับรุ่นพี่ที่ดุดันในสภาพที่ร่างกายอ่อนแอเช่นนี้ เป็นการทดสอบที่หนักหน่วงที่สุดในวันแรกของการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ในเมื่อเธอมีเหตุผลมากพอก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร
“ก็ถือว่าผิดระเบียบ!!!... ยังไงพี่ก็ต้องทำโทษน้อง” พี่น็อตไม่ฟังเหตุผล
“คือหนูปวดท้องเมนค่ะ” พีรยาตัดสินใจบอกความจริงอย่างตรงไปตรงมา เพราะความเจ็บปวดทำให้เธอทนไม่ไหวแล้ว
“หนูขอนั่งฟังเฉย ๆ ได้มั้ยคะ”
“แล้วทำไมไม่แจ้งพวกพี่ตั้งแต่เข้ามาล่ะ พอสั่งทำโทษแล้วมาบอกว่าตัวเองเป็นเมน น้องจะให้พี่เชื่องั้นเหรอ” รุ่นพี่ปีสองที่ชื่อว่าน็อต ทำท่าไม่เชื่อเธอ ก่อนจะพลางทำเสียงเยาะเย้ยเธออย่างสนุกปาก
“อย่ามาหาข้ออ้างหน่อยเลย! น้องรู้มั้ยการใส่รองเท้าผิดระเบียบ มันคือการท้าทายอำนาจของรุ่นพี่! ลุกขึ้นมา! แล้ววิ่งรอบหอประชุม 5 รอบ นี่เป็นการลงโทษที่น้องกล้าเถียงพี่!”
นัตตี้กัดริมฝีปากแน่น เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ขาของเธออ่อนแรงเกินกว่าจะทำตามคำสั่งนั้นได้
ทันใดนั้นเอง!... เสียงทุ้มที่หนักแน่นและเต็มไปด้วยอำนาจก็ดังขึ้นจากฝั่งประตูทางเข้าของหอประชุม ทำให้เสียงโหวกเหวกในห้องประชุมเงียบลงฉับพลัน
“พอได้แล้ว!!!”
ชายหนุ่มรุ่นพี่ปีสี่ที่สูงโปร่งหล่อเหลาในชุดเสื้อช็อปของคณะก้าวเดินเข้ามาภายในหอประชุม รัศมีของเขาแผ่ออกมาอย่างน่าเกรงขามกว่ารุ่นพี่ปีสองทุกคน วันนี้เขาไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ แต่ได้รับคำสั่งจากอธิการบดีให้มาคอยดูแลการรับน้องไม่ให้เกินขอบเขต เพราะเมื่อปีที่แล้วมีเรื่องร้องเรียนการรับน้องที่ไม่เหมาะสม
“พี่ภู! แต่น้องเค้าทำผิดระเบียบนะครับ” น็อตรีบเถียงทันที แต่ก็ไม่กล้าสบตารุ่นพี่ร่างสูงคนนั้น
“แล้วนายไม่ได้ฟังเหตุผลที่น้องเค้าบอกรึไง” ภูรวิชถามกลับอย่างเย็นชา เขาเดินช้า ๆ เข้าไปใกล้พีรยา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าซีดเผือดของเธออย่างเป็นห่วง
“เมื่อเช้า นายเข้ามหา’ลัย ไม่เห็นหรือไงว่า...น้ำมันท่วม”
“แต่กฎก็ต้องเป็นกฎสิครับ” น็อตพยายามยืนยัน
“อธิการบดีสั่งให้พวกเราดูแลน้อง ๆ อย่างเหมาะสม อันไหนผ่อนปรนได้ก็ควรจะผ่อนปรน” ภูรวิชเอ่ยอย่างชัดเจนเพื่อจัดการรุ่นน้องที่บ้าอำนาจ
“นายไม่เห็นรึไง ว่าน้องเค้าปวดท้องจนหน้าซีดขนาดนี้ การเรียกให้ไปวิ่งมันเรียกว่าการทำโทษ หรือการทำร้ายกันแน่ ปีนี้พวกนายจะต้องรับน้องให้อยู่ในขอบเขต อันไหนที่หนักก็ไม่ควรทำ” ภูรวิชสั่งเสียงเข้มก่อนจะหันทางพีรยาอีกครั้ง สายตาคมกริบคู่นั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงทันที ราวกับเขามองเห็นความเปราะบางที่เธอพยายามซ่อนไว้
ภูรวิช ไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของรุ่นน้องปีสองอีกต่อไป ดวงตาคมกริบของเขาลดวูบลงมาสบกับดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตาของพีรยา เขาก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับเธอ
“นัตตี้!!!” เขาเรียกชื่อเธอจากป้ายห้อยคออย่างแผ่วเบา น้ำเสียงทุ้มนุ่มนั้นราวกับเสียงกระซิบที่แยกเธอออกมาจากความวุ่นวายทั้งมวล
“คะ” พีรยาตอบรับแทบไม่ทัน
“ถ้าไม่ไหว ไปพักที่ห้องพยาบาลก่อนมั้ย” ภูรวิชรีบเสนอทางออกที่เธอโหยหามานาน เธอทำท่าจะลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล มือของเธอเกาะขอบโต๊ะไว้แน่น
“เดินไหวมั้ยเนี่ย!” ภูรวิชเห็นอาการของเธอ เขายื่นมือออกไปประคองแขนเธอไว้ทันที สัมผัสที่อบอุ่นและหนักแน่นนั้นทำให้ไฟฟ้าสถิตแล่นไปทั่วร่างของพีรยา
“ไหว... ไหวค่ะพี่” พีรยาตอบด้วยเสียงสั่นเครือ หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรงเมื่อเห็นว่า รุ่นพี่ที่หล่อเหลาและมีอำนาจที่สุดในคณะคนนี้... กล้าที่จะท้าทายกฎเพื่อปกป้องเธอ ถึงแม้เขาจะได้รับมอบหมายจากอธิการบดีก็ตาม แต่เธอพอจะมองออกว่าทั้งหมดมันเต็มไปด้วยความห่วงใยส่วนตัวของเขา ทำให้พีรยารู้สึกอบอุ่นและตื้นตันจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“วันหลังถ้าไม่ไหวแบบนี้ ก็ไม่ต้องฝืนนะ” ภูรวิช กล่าวเบา ๆ ขณะประคองร่างของ พีรยา (นัตตี้) ให้เดินออกจากหอประชุมที่วุ่นวาย เขาไม่ได้รอให้เธอตอบ แต่ช้อนมือขึ้นมาประคองแผ่นหลังของเธอเบา ๆ ราวกับจะแบ่งปันน้ำหนักตัวของเธอมาไว้ที่เขาครึ่งหนึ่ง
“หนูเดินไปเองก็ได้ค่ะ” พีรยาพยายามที่จะดึงตัวออก เพราะรู้สึกเขินอายที่ถูกรุ่นพี่ที่ทั้งหล่อเหลาและดูดีที่สุดในคณะประคองเดินต่อหน้าคนอื่น
“อย่าดื้อสิ” ภูรวิชยิ้มมุมปาก
“รู้เหรอว่าห้องพยาบาลไปทางไหน” เขาถามราวกับออกคำสั่งแต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกดดัน กลิ่นน้ำหอมสะอาด ๆ จากกายของเขาลอยมากระทบ หัวใจของพีรยาเต้นระรัว
“เมื่อเช้ามาสายเหรอ” ภูรวิชเอ่ยถาม ขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าที่ซีดเผือดของเธอ
“ค่ะ พอดีทางผ่านเจออุบัติเหตุรถพ่วงคว่ำขวางถนน หนูก็เลยให้คุณพ่อมาส่งอีกทาง”
“อ๋อ” ภูรวิชพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“โชคดีที่มาถึงอย่างปลอดภัยนะ”
“พี่ชื่อพี่ภูนะ อยู่ปีสี่” เขาแนะนำตัวโดยไม่ต้องรอให้เธอถาม เป็นการเปิดเผยสถานะอย่างเป็นกันเอง
“ค่ะ”
“เอารองเท้าไปถอดไว้ที่ไหนเหรอ ที่ว่ามันเปียก”
“ตากเอาไว้ที่ห้องค่ะ”
“ถึงแล้วห้องพยาบาล” ภูรวิชหยุดลงหน้าห้องพยาบาลที่เงียบสงบ มือของเขาค่อย ๆ คลายออกจากการประคอง
“พี่ภูส่งหนูแค่นี้ก็ได้ค่ะ” พีรยารีบกล่าว
“เอาบัตรนักศึกษามามั้ย” ภูรวิชไม่สนใจคำพูดของเธอ แต่ถามถึงสิ่งที่จำเป็น
“เอามาค่ะ”
“นั่งรอตรงนี้นะ” ภูรวิชสั่งอย่างอ่อนโยน
“เดี๋ยวพี่ยื่นเรื่องให้”
พีรยาได้แต่มองตามแผ่นหลังที่แข็งแรงของเขาด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ การดูแลของเขาช่างละเอียดอ่อนและเต็มไปด้วยความเอาใจใส่ จนทำให้เธอรู้สึกพิเศษอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับว่าเธอไม่ใช่แค่น้องปีหนึ่งที่กำลังปวดท้อง... แต่เป็นคนสำคัญที่เขาตั้งใจจะปกป้อง
12.30 น.
หลังจากการขับรถเกือบสองชั่วโมงของรามัญ ก็มาถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงที่รถของณัฐชาจอดเสียอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองรถม้าที่ฝนกำลังตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ก่อนจะเดินออกจากตัวรถรามัญก็เอื้อมมือคว้าเสื้อสูทราคาแพง ที่แขวนไว้อย่างดีทางด้านหลังออกไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในรถไม่มีร่ม เขาใช้เสื้อสูทของเขาเองคลุมเหนือศีรษะออกไปที่รถของณัฐชา ก่อนจะเคาะกระจกเรียกเธอ แล้วพาเธอออกมาจากตัวรถ
“เดินระวังนะครับ” รามัญบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยืนตากฝนอยู่กลางสี่แยก
เขารีบยื่นเสื้อสูทไปคลุมศีรษะของณัฐชาอย่างแผ่วเบาเพื่อปกป้องเธอจากเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง มืออีกข้างที่แข็งแรงของเขาประคองต้นแขนเรียวของหญิงสาวไว้อย่างอ่อนโยนและมั่นคง นำทางเธอให้ก้าวเดินไปตามถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ
เสื้อสูทที่เคยเรียบกริบตอนนี้เปียกปอนไปทั้งตัว แต่รามัญไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิดหรือกังวล เขาจ้องมองเพียงใบหน้าซีดเผือดของณัฐชา และประคองเธออย่างระมัดระวังไปสู่รถของเขาที่จอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ทางด้านหลัง เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะปลอดภัยและแห้งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ณัฐชารู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาจากสัมผัสของเขา และความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเปียกปอน แต่สายตาของเขามีเพียงแต่ความห่วงใย
ตอนที่ 20 อดีตที่ไม่น่าจดจำงานเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู โปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของบริษัทพีระพัฒน์เรียลตี้ กรุ๊ป ถูกจัดขึ้นที่เชียงใหม่ในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แขกเหรื่อและหุ้นส่วนในโปรเจกต์ต่างก็มาร่วมงานกันอย่างคับคั่งคืนนี้ณัฐชาสวมชุดที่สะกดทุกสายตา ชุดราตรีผ้าซาตินเนื้อนุ่มลื่นสีชมพูอ่อนอมม่วง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อโอบอุ้มเรือนร่างให้กลายเป็นจุดเด่นของงานไปโดยปริยายผ้าเนื้อดีมีความเงาคล้ายน้ำมันที่ขับผิวขาวนวลของเธอให้ดูเปล่งปลั่งน่าสัมผัส รามัญเป็นคนซื้อชุดนี้มาเซอร์ไพร์ให้เธอ เข้างานมาได้ไม่นาน คุณมิ่งขวัญผู้จัดการสาขาก็รีบเข้ามารายงานขั้นตอนของงานกับเธอ ขณะที่รามัญเดินทักทายกับแขกไปทั่วงานโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของประธานหนุ่มไฟแรงอย่างรามัญ เขาได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในหลายๆ โครงการว่าเขาสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริงได้“โปรเจกต์ที่แล้วคุณใช้เวลาวางแผนและก่อสร้างได้เร็วมากครับ ผมเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และการบริหารจัดการที่เฉียบขาดของคุณ รับรองว่าโปรเจกต์นี้คุณคงใช้เวลาไม่ถึงสองปีด้วยซ้ำ” เสียงเอ่ยชมจากเสี่ยซ้งชายสูงวัยรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของราม
ตอนที่ 19 รักหรือชอบพีรยามองใบหน้าหล่อเหลาของรุ่นพี่ที่กำลังยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลของเขา ความรู้สึกปลอดภัยและความพิเศษนี้ทำให้พีรยารู้สึกอิ่มเอมจนแทบไม่ต้องทานมื้อเย็นเลยทีเดียว“ขอบคุณพี่ภูมากนะคะ ที่พี่ช่วยหนู” พีรยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ เธอรู้สึกขอบคุณเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ“ไม่เป็นไรครับ อาหารอร่อยไหม” เขาตอบและเอ่ยถาม ดวงตาคมกริบของเขาสบกับดวงตาที่สวยหวานของพีรยาอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกใดๆ“อร่อยค่ะแกงกะหรี่เนื้อของโปรดหนู” พีรยาตอบพร้อมนึกถึงรสชาติกลมกล่อมและหอมเครื่องเทศ ที่เธอเสนอให้เขาสั่งมา เพราะมันเป็นเมนูโปรดของเธอ“รู้มั้ย....ว่าเมนูนี้แม่พี่ก็ชอบ” ภูรวิชยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ“ถ้านัตตี้ชอบ... วันหลังพี่ทำให้กินได้นะ เมนูนี้แม่พี่ก็ชอบให้ทำบ่อยๆ พี่เลยพอทำเป็น”“ขอบคุณค่ะ ชักอยากชิมฝีมือของพี่ภูแล้วสิ” พีรยาตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสนใจ“ได้เลย เอาไว้วันไหนว่างๆ เนาะ เสาร์อาทิตย์ก็ได้” ภูรวิชรับปากอย่างกระตือรือร้น เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์กำลังก้าวไปอีกขั้นแล้ว“พี่ภูเก่งจังเลย” เสียงหวาน
ตอนที่ 18 กลรักรุ่นพี่เธอเคยหมดอนาคตตอนที่ตั้งท้องในวันเรียนมาแล้ว เพราะผู้ชายคนแรกที่เธอรักทำแบบนี้ เขาไม่สนใจคำทักท้วง ไม่ยอมสวมถุงยาง และผลลัพธ์ของความมักง่ายในครั้งนั้นคือการที่เธอต้องแบกรับภาระชีวิตที่หนักอึ้งตั้งแต่อายุยังน้อยภาพตัวเองที่นั่งร้องไห้ในชุดนักเรียน ภาพการถูกตราหน้าจากสังคม และความฝันที่พังทลายในวันนั้น... มันชัดเจนจนเธอจำมันได้ขึ้นใจณัฐชากำมือแน่น เธอใช้แรงทั้งหมดเพื่อดันไหล่ของรามัญออกไปเล็กน้อย แววตาของเธอตอนนี้ไม่ได้มีแต่ความเสียวซ่าน แต่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและสำนึกต่อบทเรียนชีวิตที่แสนแพงรามัญรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างแปลกใจ ไฟราคะในดวงตาเขาอ่อนแสงลงเมื่อเห็นความกลัวที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ“คุณกลัวเกินไปหรือเปล่า ถ้าคุณท้องขึ้นมาจริง ยังไงผมก็รับผิดชอบคุณ ผมสัญญา” เขาถามด้วยความสับสน“ไม่คะ ตราบใดณัชยังไม่ได้แต่งงาน” เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา“ณัฐเคยพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง ณัฐไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก... ได้โปรดนะคะ คุณราม”รามัญจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง เขาเข้าใจทันทีว่านี่ไม่ใช่แค่ความรังเกียจ แต่เป็นบาดแผลในอดีตที่ฝังลึก แม้จะหงุดหงิดท
ตอนที่ 17 ทำตามเสียงหัวใจนัตตี้ยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋า แต่ไม่ยอมเดินเข้าบ้าน เธอหันไปสบตากับภูรวิชที่นั่งคร่อมมอเตอร์ใชค์คู่ใจอยู่ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน แสงไฟถนนส่องกระทบดวงตาคู่นั้น ทำให้เขาเห็นเงาของความไม่สบายใจที่ซ่อนอยู่“พี่ภู!! นัตตี้อยากนั่งมอเตอร์ไซค์เที่ยว” เธอตอบอย่างเซ็ง ๆ น้ำเสียงที่เคยสดใสกลับหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด“อ่าว...ทำไมล่ะ” ภูรวิชเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“…………..” เธอกอดอกอย่างใช้ความคิด“ทะเลาะอะไรกับคุณพ่อหรือเปล่า” เขาถามอย่างใจเย็นและพยายามค้นหาต้นตอของอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเธอ“ไม่ค่ะ ไม่ได้ทะเลาะ” เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่ภูรวิชสัมผัสได้ว่าเธอมีเรื่องในใจเขาตัดสินใจที่จะไม่ซักไซ้ต่อ แต่เลือกที่จะตามใจเธอในสิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้ ความต้องการแรกของเขาคือการทำให้เธอสบายใจและอยู่กับเขานานที่สุด“ถ้านัตตี้อยากไปนั่งรถเล่น ก็เอาสิ กลับไปพี่ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน” เขาตอบรับอย่างง่ายดาย ก่อนจะชั่งใจเล็กน้อย เมื่อมองชุดของรุ่นน้อง“พี่ว่านัตตี้ไปเปลี่ยนชุดก่อนมั้ย จะได้นั่งสะดวกกว่านี้” นัตตี้มองชุดนักศึกษาของตัวเองแล้วเลิกคิ้ว เธอไม่อายและอุ่นใจท
ตอนที่ 16 เกินห้ามใจช่วงหลังเลิกเรียน ทันทีที่การประชุมคณะเริ่มขึ้น ภูรวิชก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องพยาบาลทันทีราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างฉุดรั้งเขาไว้ เขาก้าวเข้าไปอย่างเงียบเชียบและเห็นพีรยานอนพักอยู่บนเตียงอย่างสงบ“นัตตี้!!..เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เธออาการดีขึ้นมากเพราะได้ทานยาไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง ใบหน้าที่เคยซีดเผือดก็เริ่มมีสีเลือดฝาด“ดีขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณพี่ภูอีกครั้งนะคะ” นัตตี้ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ภูรวิชเท้าแขนกับขอบเตียงและมองเธออย่างพิจารณา ดวงตาคมกริบของเขาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ“เย็นนี้ที่หอประชุมยังมีกิจกรรมของคณะอยู่ นัตตี้กลับพร้อมพี่นะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” คำพูดของเขาไม่ใช่แค่คำชวน แต่เป็นคำสั่งที่แสนอบอุ่น“กิจกรรมเหมือนเมื่อตอนกลางวันใช่มั้ยคะ” แววตาของเธอแสดงความเหนื่อยหน่ายออกมาเล็กน้อย“ก็ประมาณนั้นแหละ”“หนูกลับเองก็ได้ค่ะ ขอบคุณพี่ภูมากเลย” เธอพยายามปฏิเสธอย่างเกรงใจ“ไม่ได้นัตตี้ น้องต้องกลับพร้อมพี่ และต้องให้พี่ไปส่ง” น้ำเสียงของเขากลับมาเด็ดขาดอีกครั้ง“ทำไมคะ” เธอถ
ตอนที่ 15 เพลิงรักที่ลุกโชน NCณัฐชารูดผ้าขนหนูที่พันอยู่รอบเอวสอบของเขาออกอย่างช้า ๆ ผ้าผืนนั้นร่วงลงสู่พื้น ราวกับเป็นการทิ้งซึ่งความลังเลใจและความประหม่าทั้งหมดไว้เบื้องหลัง เรือนร่างที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบของประธานหนุ่มปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอหญิงสาวเงยหน้ามองเขาชั่วครู่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความต้องการที่ไม่อาจซ่อนได้อีกต่อไป ก่อนที่เธอจะโน้มตัวลงไป... และเริ่มต้นทำตามข้อตกลงที่ร้อนแรงที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอณัฐชา เริ่มต้นตามข้อตกลงอย่างตั้งใจ เธอไม่เคยคิดว่าความกล้าหาญของตัวเองจะพาเธอมาได้ไกลถึงขนาดนี้ เธอเริ่มจากการใช้ลิ้นเลียไปตามความยาวของเขาอย่างช้า ๆ สำรวจพื้นผิวที่อ่อนไหว ก่อนจะค่อย ๆ อมส่วนปลายเข้าไปในโพรงปากอุ่นนุ่ม รสชาติและความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้จากการรุกล้ำในครั้งนี้กระตุ้นความต้องการของเธอให้ปะทุขึ้นมากกว่าเดิม“อืมมม...” รามัญ ครางเบา ๆ จากลำคออย่างสุขสม ขณะที่โพรงปากนุ่มของเธอค่อย ๆ อมลึกขึ้นตามจังหวะที่เขาต้องการ มือของเขายกขึ้นมาลูบไล้เส้นผมของเธออย่างอ่อนโยน แต่แรงกดที่ท้ายทอยก็บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังเร่งเร้า“ณัฐชา...ดีมากครับ” เขาชม คำชมของเขายิ่งทำให้







