ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ในคืนวันแต่งงาน ณ ห้องที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบ ชาร์ล็อตนั่งลงตรงข้างเตียง ขณะที่เธอจ้องมองรูปแต่งงานของเธอกับไบรสัน คืนนี้ควรจะเป็นคืนแต่งงานของพวกเขา แต่เธอกลับไม่ได้นอนกับไบรสัน มีคนสับสวิตช์ไฟ และไฟก็ดับลงในทันที ในห้องมืดไปหมด ปัง! ประตูถูกเตะเปิดออก ชาร์ล็อตมองเห็นร่างสูงดำพุ่งเข้าหาเธออย่างคลุมเครือ ในขณะนั้น ชาร์ล็อตรู้สึกราวกับว่าเธอถูกภูเขาน้ำแข็งกดทับเธอ แรงกดอันทรงพลังของร่างนั้น ทำให้เธอหายใจไม่ออก "อ๊ะ!" มืออันแข็งแรงคู่หนึ่งกดไหล่ของชาร์ล็อตไว้ และเธอก็ถูกผลักลงกับพื้นด้วยพลังอันแข็งแกร่ง... ใบหน้าของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยน้ำตา เธอกัดริมฝีปากแน่น เธอเต็มใจทำสิ่งนี้เพื่อไบรสัน! มันเป็นเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทำให้ชาร์ล็อตตั้งครรภ์ได้สำเร็จ 9 เดือนต่อมา เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทำคลอดของโรงพยาบาล นี่คือวันครบกำหนดคลอดของชาร์ล็อต ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสทำให้ชาร์ล็อตรู้สึกเหมือนเธอเพิ่งตกนรกแล้วได้กลับมา จากการจัดเตรียมที่พวกเขาทำก่อนการคลอด ชาร์ล็อตไม่มีแม้แต่เวลาจะมองดูเด็กที่เธอให้กำเนิด เพราะเด็กถูกพาตัวออกไปทันที เธอเห็นพยาบาลคุยกัน “เด็กชายหนัก 3 กิโล
ชาร์ล็อตและไบรสัน มีบ้านริมชายหาดบนชายฝั่งแพลตตินัม ที่ซึ่งพวกเขาจะย้ายไปอยู่ หลังจากงานแต่งงานกัน เธอไปดูบ้านหลายร้อยหลังกับไบรสันก่อนที่จะเลือกที่นี่ในที่สุด ไบรสันอดทนและดีกับเธอมากในระหว่างกระบวนการนี้ การตกแต่งภายในของบ้าน ได้รับการออกแบบอย่างสมบูรณ์ ตามความชอบของไบรสัน ประตูบ้านเปิดกว้าง แต่ผู้คุมห้ามไม่ให้ชาร์ล็อตเข้าไป “คุณซิมม่อนส์ คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ กรุณาหยุดอยู่ตรงนั้น” ในอดีต ยามมักจะเรียกชาร์ล็อตว่า "คุณฮาร์เปอร์" หรือ "มาดามฮาร์เปอร์" แต่ตอนนี้ เขาเรียกเธอว่า "คุณซิมม่อนส์" ชาร์ล็อตยืนกรานที่จะเข้าไปในวิลล่า "นี่คือบ้านของฉัน ฉันจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันจะเข้าไป" “คุณซิมม่อนส์ครับ...” ยามคว้าแขนเธออย่างไม่เต็มใจ “คุณดีกับผมมาตลอด ผมไม่อยากเห็นคุณเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่มีทางเลือก คุณฮาร์เปอร์สั่งไม่ให้คุณไปเข้าครับ ตอนที่เขาเพิ่งกลับบ้านมาเมื่อไม่นานมานี้” ไบรสันเพิ่งกลับมาบ้านเมื่อไม่นานมานี้? เขาอยู่บ้านงั้นเหรอ? เขาไม่ได้ไม่ว่าง แต่ก็ยังไม่ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเธอ และเขายังห้ามเธอไม่ให้เข้าไปในบ้านอีก... ประตูโลหะอันหนักได้ปิดลง ทิ้งให้ชาร์ล็อตยืน
ชาร์ล็อตเริ่มตัวสั่น เธอยังคงจำได้ว่าไบรสันขอความช่วยเหลือจากเธอในคืนวันแต่งงาน “ไบรสัน บอกฉันที... บอกฉันทีว่าที่เธอพูดมันไม่จริง...” ชาร์ล็อตมองตาของไบรสันราวกับผู้หญิงที่กำลังจะจมน้ำ และพยายามตะเกียกตะกาย ไบรสันพยักหน้าและพูดว่า “ชาร์ล็อต ฉันขอโทษนะ” ชาร์ล็อตน้ำตาไหลอาบลงบนใบหน้าของเธอ มันไหลไม่ยอมหยุด ไบรสันเป็นคนถือตัวและทะนงตน ชาร์ล็อตไม่เคยเห็นเขาละทิ้งความหยิ่งจองหองและร้องขอสิ่งใด ๆ นั่นเป็นครั้งเดียวที่ไบรสันเคยขอร้องเธอ แต่มันกลับเป็นเพราะ เขาทำเพื่อทิฟฟานี่... "ไบรซ์ ฉันหนาว" เสียงของทิฟฟานี่เรียบง่ายและไพเราะ ในขณะนั้น ชาร์ล็อตก็ร้องไห้ออกมา แม้ว่าไบรสันจะรู้สึกแย่ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจทิฟฟ์มากกว่า เขาไม่ได้มองชาร์ล็อตเลย ในขณะที่เขาโอบแขนทิฟฟานี่ไว้ "ทิฟฟ์ ขึ้นรถกันเถอะ" ชาร์ล็อตคงเป็นคนโง่เง่าถ้าเธอยังไม่เข้าใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไบรสันกับทิฟฟานี่เป็นอย่างไร ณ จุดนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังตรงเข้าไปจับประตูรถไว้ “ไบรสัน ฉันเป็นภรรยาของคุณ และฉันมีสิทธิ์ที่จะห้ามคุณไม่ให้ไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น พ่อของฉันเป็นพ่อตาของคุณ และเขาปฏิบัติต่อคุณด้ว
"นายเป็นใคร นี่มัน... บ้านของนายนี่ ทำไมนาย.. ถึงช่วยฉันไว้?" ชาร์ล็อตลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นตระหนก ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถาม เธอพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงของคนแปลกหน้า และเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ใส่มาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชาย ชายคนนั้นมองไปทางอื่นอย่างสงบ และพูดว่า “คุณซิมม่อนส์ ระวังหน่อย” "..." ชาร์ล็อตตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และรีบโอบแขนของเธอไว้ด้วยความตื่นตระหนก ชายคนนั้นหันหลังให้กับเธอแล้ว แต่ถึงกระนั้น รัศมีความแข็งแกร่งของเขาก็ยังทำให้เธอหวาดกลัว ในขณะนั้น แสงสีทองส่องมาที่ขาของชาร์ล็อต มันสะท้อนให้เห็นนามบัตรที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ มีชื่อและตำแหน่งต่าง ๆ ที่สลักอยู่ในโลหะสีแดงมันวาว ชื่อที่สลักบนนามบัตรคือ "แซคคารี"! เดี๋ยวนะ! แซคคารี คอนเนอร์ เขาเป็นซีอีโอของฮาธาเวย์ กรุ๊ป! เขาเป็นปีศาจที่สุดแสนจะเลวร้ายไม่ใช่เหรอ? มีข่าวลือว่าคอนเนอร์โหดเหี้ยมและเย็นชา เมื่อ 3 ปีก่อน เขาทำให้พี่ชายต้องฆ่าตัวตาย เพื่อที่จะได้เข้าครอบครองฮาธาเวย์ กรุ๊ป ต่อมาเขาได้ใช้ความสามารถที่โดดเด่นของเขาในการทำให้ฮาธาเวย์ กรุ๊ป ซึ่งใกล้จะล้มละลาย ฟื้นตัวข