"ห้องไหนครับที่คนไข้หนีออกไปจากโรงพยาบาล" ผมถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันที
"ห้องVvip09 ค่ะคุณหมอ" ผู้ช่วยพยาบาลบอกผมด้วยทางทีรู้สึกผิด "ฮ้ะ!! เธอพึ่งคลอดลูกไปไม่ใช่หรือไง คุณปล่อยให้คาดสายตาได้ไงเนี่ย รปภ.ก็ไม่มีใครสังเกตเลยสักคนเหรอ" ผมถามออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าคนที่ผมพึ่งทำคลอดให้เมื่อหลายชั่วโมงก่อนจะออกจากโรงพยาบาลไม่แล้ว ร่างกายฟื้นตัวเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ~ แล้วทารกละ ทารกก็เอาไปด้วยเหรอทำไมไม่มีให้สังเกตนะ ผมเอามือกุมขมับทันที ให้ตายสิวุ่นวายทั้งวันจริง ๆ ทำไงละทีนี้อะไรก็ยังไม่ได้ตรวจผลค่าเกล็ดเลือดทารกก็ยังไม่ออก จะไปก็ไปเลย แผลเย็บคุณแม่ก็ยังไม่ได้ตรวจอีก ผมรีบต่อสายหาคุณอาทันที จริงสิกล้องวงจรปิด มีทั่วทั้งตึกนี่นา!! ตู๊ด~ ตู๊ด~ ตู๊ด~ 'ฮะโหลว่าไงตาทักษ์' เสียงอาทิวเขาดังขึ้นจากปรายสาย "อาครับ! คนไข้หนีออกจากโรงบาลช่วยเช็คกล้องตึกผู้ป่วย Vvipให้ผมหน้อยครับ ห้อง Vvip09 ครับอา" ผมกำลังรอคำตอบจากคุณอาอย่างใจเย็น 'อะไรนะคนไข้หนีออกจากโรงบาลเหรอเป็นไปได้ไงเนี่ย~' ทิวเขาถามด้วยความสับสน เพราะโรงพยาบาลเขาไม่เคยมีประวัติคนไข้หนีออกจากโรงบาลเลย ไม่มี เลย! "เป็นไปแล้วครับคุณอา เธอพึ่งคลอดลูกไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เองครับ" ผมบอกคุณอาทันทีตอนนี้ผมไม่ได้ชีเรียสเรื่องค่าใช้จ่ายของคนไข้แต่เป็นห่วงคนไข้ของตัวเองมากกว่า 'เดียวอาเช็คให้ทักษ์รอสักครึ่งชั่วโมงนะ อากำลังเลื่อนดูอยู่' คนปรายสายบอกก่อนจะเลื่อนดูคนไข้ห้องพัก Vvip09 ทันที "ครับ ขอบคุณครับอา" ให้ตายสิทำไมวันนี้มันวุ่นวายขนาดนี้ตั้งแต่เช้ายันดึง เป็นวันที่หนักหน่วงกว่าทุกวันจริง ๆ . ทางด้านแอลเอ "ไปละ จะกลับก็กลับกันเลยนะเอาลูกออกมานานแล้ว แม่หนูคงคิดถึงหนูแย่แล้วใช่ไหมคะ หมูแฮม~" คนไม่รู้เรื่องยังคงหยอกล้อกับลูกสาว ยิ้มบอกกับน้องชายและคนไข้คนสำคัญของตัวเอง "นี้แอบเอาลูกห่างอกแม่นานขนาดนี้ไม่หิวนมแย่เลยเหรอนั่น" โรมเมดทักพี่ชายตัวเอง จะว่าไปเขาก็เอาลูกออกมานานจริง ๆ นั่นแหละควรกลับเอาไปคืนแม่ได้แล้ว "อืมไปล่ะ แล้วเจอกันเราไปหาม๊ามี๊หนูกันเถอะยัยหมูอ้วนของป๊า~" แอลเอเดินอุ้มทารกกลับเข้ามาในตึก พักแม่ลูกของของโรงพยาบาลทันที "ไหนเอ่ยม๊ามี๊จะคิดถึงยัยหมูของป๊าไหมน๊า~" คนเห่อลูกกำลังหยอกล้อโดยไม่ได้เอ๊ะใจอะไรเปิดประตูเข้าห้องพัก ก็ไม่ทันได้สังเกตุอะไรเพราะมั่วแต่คุยกับหนูน้อยในอ้อมแขน "อ่ะแฮม!" เสียงกระแอ่มของทักษ์เรียกคนที่นั่งคุยกับลูกอยู่บนโซฟา ต้องหันหน้าไปมอง "อ้าวมาตรวจคนไข้เหรอหมอ อินเตอร์ นอนอยู่บะ..บนเตียง~" เสียงของแอลเอแผ่วลงใจกระตุกวูบ ดวงตาสั่นไหวมองเตียงนอนไร้ซึ่งคนนอนอยู่ ก้มมองลูกน้อยในอ้อมกอด 'หลังจากคลอดลูก อินเตอร์ก็ไม่อยู่เป็นมารขวางทางความรักของหมอหรอกค่ะ' เสียงนี้เขาจำได้ดี จำได้ขึ้นใจเลย "คนไข้หนีออกไปแล้ว พึ่งคลอดลูกแท้ ๆ อารมณ์คุณแม่นี้มันรุนแรงจริง ๆ" ทักษ์เอ่ยขึ้นมองสามีของหญิงสาวคนนั้น พร้อมส่ายให้กับคนตรงหน้าเขา "อืมรุนแรงจริง ๆ" แอลเอพยักรับโดยในอ้อมกอดก็กอดลูกเอาไว้ "แล้วลูกผมจะออกจากโรงบาลได้วันไหน" แอลเอยังคงถามต่อโกรธมากแค่ไหนก็ได้แต่เก็บอารมณ์เอาไว้ "รอผลค่าเลือดและค่าตัวถ้าน้องตัวเหลืองก็ต้องอยู่ต่อ ตอนนี้แม่เด็กไม่อยู่แล้วคงต้องพึ่งนมผง รอผลค่าต่าง ๆ ก่อนแล้วกันดูว่าน้องแพ้อะไรบ้างจะได้ไม่ต้องกังวล อีกสิบห้านาทีผลแลบก็ออกแล้ว ยังหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอีกนะยัยหนูแฮม" ผมมองทารกร่างเล็กที่ตอนนี้หลับปุ๋ยในอ้อมกอดของพ่อ คงอบอุ่นน่าดูไม่มีการงอแงสักแอะ "อ่อ ตอนคลอดเห็นแม่เด็กบอกว่าชอบชื่อนี้มาก ผมว่าก็เพราะดีนะครับ" ผมยิ้มเอ็นน่าดูจริง ๆ ชื่อก็เพราะแม่ก็ช่างสรรหามาตั้งให้ "ครับผมเข้าใจแล้ว" แอลเอมองลูกยิ้ม ๆ นี้สินะที่บอกจะไม่อยู่ จะไปก็ไปจะมาก็มาแม่หนูนี้ยัยไงนะหมูแฮม "งั้นผมขอตัวก่อน ต้องการพักผ่อนมาก~" ผมลากเสียงยาวทันทีหมดปัญหาวันนี้ไปแล้วอีกหนึ่งเคส เห้อให้ตายสิทำงานแก้เบื่อ สุดท้ายเครียดแทน ชีวิตวัยทำงาน!! จะอยู่บ้านเฉย ๆ ก็เบื่อมาทำงานก็วุ่นวาย วุ่นวายดีสีสันของชีวิตสินะ . "คุณหมอคะ ผลตรวจเลือดของเด็กหญิง ณเวฬา ออกแล้วค่า อยู่ในเกณฑ์เกือบเหลืองแต่ค่าตัวเหลืองของน้องผ่านค่ะ ส่วนใบนี้เอกสารการแพ้สารอาหารน้องไม่แพ้อะไรเลยค่ะ ทานนมผงได้" ผู้ช่วยพยาบาลรายงานผลกับผมก่อนที่ผมจะเอาไปแจ้งพ่อเด็ก "อืมดีแล้ว ถ่ายเอกสารสำรองให้ผมด้วย แล้วเก็บใส่แฟ้มเอาไว้แล้วกันส่วนเอกสารตัวจริงเดียวผมเอาไปให้พ่อเด็กเอง" ผมบอกพยาบาลผู้ช่วยก่อนที่จะนั่งพักอีกสักประเดี๋ยวคงมีเรื่องต้องคุยกับพ่อเด็ก . ห้องพัก Vvip09 แง้ แง้~ แง้ แง้~ "จุ ๆ จุ โอ๋ ๆ น่าเด็กดีย์ ป๊าอยู่นี้ไงคะหนูเป็นอะไรไม่ร้องสิลูก" แอดปัง! "อินเตอร์~ หายไปไหนมา" แอลเอถามออกมาทันทีที่เห็นหญิงสาวอยู่ตรงหน้า "ลูกร้องไห้ใหญ่เลยดูสิ" อินเตอร์ที่ห่วงลูกจนทำใจจากไปในตอนนี้ไม่ได้ ก็ต้องกลับมาที่เดิมอีกครั้ง 'ทำไมการตัดใจมันถึงยากขนาดนี้นะ' "ส่งลูกมาสิ" อินเตอร์เดินเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะยื่นมือมารับลูกและกอดเอาไว้ ฉี่เลอะนี้เองไม่น่างอแงใหญ่เลย "ไงคะเด็กดีหนูอึดอัดใช่ไหนคะ ฉี่เลอะเต็มเพิสเลยน๊า~ แม่เปลี่ยนเพิสใหม่ให้หนูดีกว่า" อินเตอร์พยามที่จะไม่เรียกชื่อลูกให้คนที่ไม่พอใจก่อนหน้านี้ได้ยิน ก๊อก ก๊อก ก๊อก "ขออนุญาตนะครับ อ้าวคุณแม่หายไปไหนมาครับเนี่ยผมคิดว่าคุณหนีไปแล้วสะอีก เอาผลตรวจน้องมาให้ครับ" ผมมองคนที่พึ่งคลอดลูกใหม่อย่างแปลกใจคนอะไรอึดชะมัด สามารถเดินเหินได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย จะว่าไปก็คงไม่ใช้ทุกคนหรอกมั้ง เพราะปกติผมจะเห็นแม่หลังคลอดบางคนก็นอนป้อนมลูกอยู่เฉย สามสี่วันเลย "พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อยนะคะคุณหมอ ขอโทษนะคะที่ออกจากโรงพยาบาลโดยภาระการ" อินเตอร์กล่าวขอโทษทันที ความจริงเธอจะไปแล้วไม่กลับมาอีกก็ได้ แต่ใจห่วงลูกเกินไปแถมยังมีอารมณ์แปรปรวนหลังคลอดอีก "คุณหมอจะตรวจคนไข้อีกไหมครับ" แอลเอถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นแม่ของลูกคุยกับหมอเจ้าของไข้โดยลืมว่าเขาเองก็อยู่ห้องนี้เหมือนกัน "เอ้าคุณพ่อยังไม่พักผ่อนอีกเหรอครับ ผมออกเวรแบบจริงจังแล้วน่ะ เลยแวะเอาเอกสารยัยตัวเล็กมาให้ครับ คุณแม่ดูแลสุขภาพด้วยผมขอตัวก่อนดีกว่า สงสัยอารมณ์คุณพ่อจะสวิงด้วยอีกคนครับ" ผมรับขอปลีกตัวออกมาจากรังสีของคุณพ่อลูกหนึ่ง ไม่รู้ที่จ้องผมตาเขม็งทำไมเป็นเพราะหึงหรือหวง ถ้าเดาผมว่าน่าจะทั้งสองอย่าง แต่ก็ยังสงสัยหวงขนาดนี้ปล่อยเมียมาคลอดเองได้ไง ช่างเถอะ ๆ ไม่ใช้เรื่องของเราสักหน่อย ไปดีกว่า. . "หายไปไหนมาอินเตอร์ยังไม่ตอบพี่เลยนะ" ผมถามออกมาทันที่หลังที่หมอเจ้าของไข้ออกไปแล้ว "ไปทำธุระ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละอินเตอร์เหนื่อย อยากพักแล้วพี่จะกลับบ้านเลยไหม" ถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็กลับนั่นแหละ "กลับ" "อืมเดินทางปลอดภัยค่ะ" ฉันยิ้มได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะฝืนยิ้มมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว "พี่กลับไปเอาเสื้อผ้า เดี๋ยวมานอนเฝ้าพี่ลาพักร้อนสามเดือน จะได้เลี้ยงลูกด้วย" แอลเอมองยัยตัวเล็กที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บน รถเข็นเด็ก "เดี๋ยวป๊ามานะครับ" แอลเอเขาไปกระซิบบอกลูกใกล้ ๆ ก่อนจะหอมเบา ๆ ที่แก้มยุ้ย ๆ นั่น "เดี๋ยวพี่มาอย่าหนีไปไหนละ ครั้งนี้คงออกไปไหนไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะมีพยาบาลพิเศษมาเฝ้าหน้าห้องให้ตั้งสองคน" คนรู้ทันรีบดักทางเธอทันที ให้ตายสิคิดว่าแค่กลับมาเอาลูกไปด้วย ก็จะไม่ต้องคิดถึงไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องเปลี่ยนชื่อลูกตามคนที่เขารักต้องการแล้ว แท้ ๆ ทำยังไงดีล่ะคราวนี้ . สามสิบนาทีต่อมา "หนูแฮมคะ แม่ควรทำยังไงดีนะเป็นห่วงหนูมากเลยนะรู้ไหมคะเด็กดีเราจะอยู่กันไปเรื่อย ๆ กับพ่อของหนูไม่ได้หรอกเขาไม่ได้รักแม่ ตอนนี้แม่มีหนูที่ควรทุ่มเททั้งใจให้หนู" อินเตอร์มองหน้าลูกอย่างสงสาร หากเขารักเราสักเสี้ยวใจก็คงบอกลูกได้เต็มปาก "หรือว่าแม่จะรอให้หนูโตก่อนแล้วเราค่อยปรึกษากันอีกทีว่าหนูอยากอยู่กับใครมากกว่ากันระหว่างพ่อกับแม่ ดีไหมคะหนูแฮม" อินเตอร์ยังคงนั่งมองลูกน้อยพร้อมกับพูดไปเรื่อย ๆ ตามความคิดของเธอ โดยไม่ทันได้สังเกตุเลยว่ามีคนอยู่ในห้องด้วย แอลเอรีบเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ก่อนที่จะอุ้มเอาแม่ของลูกมานั่งบนตักตัวเองทันที "ฝันไปเถอะว่าจะได้ทำอย่างนั่นนะ" แอลเอสวมกอดเธอเอาไว้หลวม ๆ "อะไรของหมอเนี่ย~" อินเตอร์เงยหน้ามองด้วยความงุนงง "หนูแฮมพี่ตั้งใจทำมากนะ อย่ามาพรากพ่อพรากลูกนะ" แอลเอกระซิบบอกข้างหูเบา ๆ "นะ..ไหนบอกว่าไม่อยาก..หะ...ให้หนูฮะ..แฮมเกิดมาไง" อินเตอร์ถามด้วยอาการมึนงง "พี่ตั้งใจ~" อินเตอร์ขนลุกซู่ทันทีที่มือหนาลูบหน้าท้องบางที่ยังมีพุงออกมาเพราะพึ่งคลอดลูก " "มะ..หมอ กะ..โกหก" "พี่พูดจริง ๆ ลองคิดดูดี ๆ สิ" เพียงไม่นานดวงตาสวยก็เบิกกว้าง!! "หมอคิดจะผูกมัดอินเตอร์ด้วยวิธีนี้ดเหรอคะ!!" "ความจริงอยากผูกมัดด้วยทะเบียนสมรสและนามสกุลที่พ่อให้มา แต่ว่าเมียพี่ขี้น้อยใจขี้งอนและมโนเก่งคิดไปเองและไม่เคยถาม เพราะพี่รู้ว่ายังไงหนูก็ทิ้งหนูแฮมไปไม่ได้หรอก" "ชิไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์!!" . ด้านหมอทักษ์ บ้านพักแพทย์ "เห้อวุ่นวายทั้งวันทั้งคืนของพักสักสิบปีเลยได้ไหมเนี่ย~" ผมบ่นออกมาทันที จากที่จะเป็นวันสบาย ๆ กลายเป็นเหนื่อยมาก สรุปคนไข้ไม่ได้หนี แค่ออกจากห้องไปชั่วคราว อะไรทำให้สามีของเธอมั่นใจว่าเธอจะกลับมานะ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ตอนแรกผมก็แอบสงสัยว่าทำไมสามีของเธอไม่เป็นเดือด เป็นร้อน ช่างเป็นผู้ชายที่ใจเย็นรู้ใจเมียตัวเอง จริง ๆ "ถ้าเรามีเมียจะเป็นแบบไหนกันนะ" ผมพึมพำเบา ๆ แล้วก็ดันไปคิดถึงเหตุการเมื่อช่วง สาย ๆ ของวันนี้ ป้าคนนั่นกล่าวหาว่าผมเลว ทั้ง ๆ ที่ผมอยู่แต่บ้านพักกับโรงพยาบาล เอาเวลาไหนไปทำใครเขาท้อง!! แต่ความจริงจะว่าไปเวลาว่างผมก็เยอะอยู่นะพอเดินเข้ามาในคาเฟ่ก็ทำให้เธอรู้สึกตะลึงไปกับความแปลกใหม่เล็กน้อย "มันสวยมากเลยค่ะ ราวกับว่าเราได้อยู่ในจักรวาลทั้ง ๆ ที่อยู่บนโลกมนุษย์แท้ ๆ" สกาวมองไปรอบร้านที่ตกแต่งร้านได้สวยงามรวมพวกสิ่งประดับเกี่ยวกับกาแล็กซี่ต่าง ๆ ของจักรวาลอยู่ในร้าน "ผมว่าเจ้าของคาเฟ่คงต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยแน่เลย" ความคิดของเขาไปในทางนั้นจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคาเฟ่เก่งเรื่องวิทย์ - คณิตด้วยหรือเปล่า "แต่กาวไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เจ้าของร้านคงต้องเรียงพวกดาวเคราะห์ถูกสิ ไม่ใช่ให้เรียงตามใจชอบแบบนี้" เธอมองไปที่ผนังร้านที่มีกลุ่มดาวเคราะห์หลายดวงที่เรียงกันสับสนไปหมด "จริงด้วยสินะ หรืออาจจะเป็นลูกค้าที่มาสลับสับเปลี่ยนพวกกลุ่มดาวพวกนี้เองหรือเปล่าก็ไม่รู้ดูสิเห็นไหมว่ามันขยับได้" หมอทักษ์ ชี้ไปที่ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนผนังคาเฟ่ "มันขยับได้จริง ๆ ด้วยค่ะ" สกาวพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งแปลกตาและมหัศจรรย์ ภายในร้านคาเฟ่เล็ก ๆแห่งนี้ "ขอโทษนะคะลูกค้า ลูกค้าต้องการดื่มอะไรดีคะ" พนักงานของร้านที่ตอนแรกไม่เห็นว่ามีลูกค้ารีบเดิน
เขามองริมฝีปากเธออยู่อย่างนั้นก่อนที่จะค่อย ๆ เอามือของตัวเองไปโอบศรีษะของเธอให้ริมฝีปากของเธอเข้ามาใกล้กับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง "คะ..คุณ อืม~" 'หมอคะ' เธอไม่ทันได้พูดเรียกสติของชายหนุ่มก็ถูกริมฝีปากของเขาประกบจูบเข้ามาทันทีโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสองคนกำลังจบกันอย่างโดดดื่มทำให้การสัมผัสของทั้งคู่เกิดความเร่าร้อนขึ้นมาทันที ชุดนอนผ้าลื่นเนื้อบางถอดง่ายใส่สบายทำให้สกาวต้องเผลอไผไปกับรสจูบของคุณหมอหนุ่ม "อืม~" จ๊วบ ๆ จ๊วบ เสียงจูบและลิ้นพันกันอย่างเร่าร้อนยังคงไม่จบลงทำให้สกาวเริ่มหายใจติดขัด เมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มจะหายใจไม่ออกและดิ้นรน จึงค่อย ๆ ถอดริมฝีปากของตัวเองออกจากปากของหญิงสาว "คุณสงสัยเหมือนผมไหมครับ ว่าทำไมเวลาผมอยู่กับคุณทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ และต้องการที่จะสัมผัสคุณมากขึ้นทุกครั้ง" เขาจับคางของหญิงสาวขึ้นมาเผชิญหน้ากับตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอเริ่มมีอาการแดงกล่่ำเพราะความเขินอายจากรสจูบแสนหวาน ที่เขามอบให้เธอ "ทะ..ทำไปคุณหมอพูดอย่างนี้ล่ะค่ะคงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ" สกาวที่ไม่ยอมบอกอะไรกับเขา ทำให้เขาต้องเป็นคนดิ้นร
หลังจากออกเวรสกาวรู้สึกอ่อนเพลียมาก เธอกลับมาทำงานตามปกติ พอนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่ทางเธอและหมอเทพพิทักษ์ได้ไปเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเพื่อมอบ เงินสมทบทุนให้กับเด็ก ๆ ที่ขาดแคลน .หลังจากที่ขับรถมาถึงที่พักก็เข้าเช็คอินทันที "ทำไมจองไว้ห้องเดียวล่ะคะ" จะกล่าวถามด้วยใบหน้าที่ตกใจและมองสบตากับคุณหมอที่เคยเป็นอาจารย์แพทย์สอนเธอ "ห้องมันเต็มครับผมถามไปแล้วกว่าจะได้ห้องก็คงอีก สองวันนู้นพอถึงตอนนั้นเราก็เช็คเอาท์ออกกันพอดี แต่ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอกครับผมไม่ทำอะไรคุณหรอก" หมอทักษ์ มองคนที่เขารู้สึกคุ้นเคยแต่ก็คับคล้ายคับคลายังจำไม่ค่อยได้ ในหัวสมองของเขามีอาการสับสนกับความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหญิงสาวของเขาจนแปลกใจ "อ่อ เป็นห้อง สองเตียงใช่ไหมคะ" สกาวหันกลับไปถามพนักงานที่คอยต้อนรับและให้ลูกค้ามาเช็คเอาท์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ใช่ค่ะลูกค้าต้องขออภัยจริง ๆ นะคะที่ทางเราไม่สามารถจำหน่ายห้องแยกได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วง ที่ทางที่พักได้ทำการโปรโมทไปด้วยเลยทำให้ห้องพักไม่เพียงพอต่อการเข้าพักค่ะ" พนักงานตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและพูดด้วยถ้อยคำอ่อนโยนกล
ร้านอาหารทะเล ในช่วงเวลา 19:30 ทั้งสี่คนได้มานั่งสั่งอาหารและตอนนี้อาหารทะเลเติมโต๊ะ "ลุงแกะให้หนูรอกินอย่างเดียว" สกายอาสาแกะปูแกะกุ้งให้หลานชายหลานสาว และ ภรรยา เป็นภาพที่น่ารักมากหากมองจากบุคคลภายนอก "ขอบคุณค่ะคุณลุง" ซีเฟียตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย "อันนี้ของเฟียสครับ" สกายว่างกุ้งตัวใหญ่ในจานหลานชาย"ขอบคุณครับ" "พี่ก็กินของตัวเองได้แล้ว เด็ก ๆ ก็แกะกุ้งแกะปูกันเป็นนะคะ" คนเป็นภรรยาเมื่อเห็นว่าสามียังไม่ได้แตะอาหารของตัวเองก็ท้วงขึ้นมาทันที"ใช่ครับคุณลุงพวกเราแกะเป็นพวกเราโตแล้ว" น้องชายฝาแฝดของซีเฟีย พูดขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าจานอาหารของคุณลุงยังไม่ลดลง มื้ออาหารเติมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในค่ำคืนที่ผ่านมา 07:00น.ช่วงเวลาของเช้าวันถัดมาชั่งผ่านมาวัยเหลือเกิน "ทำไมตื่นเช้าจังเลยคะ" เธอเดินตามสามีออกมาเมื่อมองบนเตียงนอนแล้วไม่พบผู้เป็นสามีนอนอยู่ "วันนี้พี่ต้องเตรียม ฉากและพื้นที่ให้กับหลานน่ะเลยจะลองออกไปขออนุญาตทางเจ้าของหาดดูก่อน" สกายหันกลับมามองตามเสียงคำถามของภรรยา เขาก็รีบตอบทันที"หันหม่อนไปถามให้ดีไหมคะ
"สวยมากเลยค่ะคุณลุง" ซีเฟียมองดูชุดคอลเลชั่นใหม่อย่างตื่นเต้น "ไหนคุณลุงบอกว่าอีกสองสามวันถึงจะได้ทำงานไงครับ" เฟียสมองชุดตาเป็นประกายเพราะเขาเองก็อยากหาเงินช่วงวันหยุด "ลุงกะว่าจะเอามาเซอร์ไพรส์หลาน ๆ แต่ได้ยินตอนที่กำลังพูดคุยกันพอดีเลยบอกเลยดีกว่า" สกายยื่นชุดให้หลาน ๆ ไปลองใส่มาให้ดูก่อน ซึ่งเขาก็นั่งรออยู่ในห้อง "ที่รักอาหารมาส่งแล้ว เอะแล้วเด็ก ๆ ไปไหนกันหมดคะ" ใบหม่อนภรรยาสาวที่ปลีกตัวออกไปรับอาหารที่สั่งไว้ เพราะมีพนักงานมากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้านพักพอดี หลังจากรับอาหารเสร็จพอเดินกลับเข้ามาก็ไม่เห็นหลาน ๆ แล้ว "ลองชุดว่ายน้ำอยู่ในน้ำห้องครับ" สกายส่งสายตามองไปยังประตูห้องน้ำสองห้องที่ติดกัน "คุณลุงหนูใส่ได้พอดีเลยค่ะ" ซีเฟียเปิดประตูออกมาและหมุนตัวอวด ลุงของเธอ "ชุดเฟียสก็เท่ห์มากเลยครับคุณลุง" เด็กชายเดินออกมาหลังจากเห็นพี่สาวหมุนตัวราวกับเป็นนักบัลเล่ต์ "ไหนขอลุงถ่ายรูปหน่อยเดี๋ยวจะส่งให้แม่พวกหนูดู" สกายหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดถ่ายภาพหลาน ๆ และส่งเข้าไปในแชทน้องสาว "อาหารมาแลเวนะเด็ก ๆ
เช้าวันต่อมา 08:30น. สกาวมองนาฬิกาข้อมือ ปากก็หาวออกมาเนื่องจากเมื่อคืนเธอรอดูละครที่ลูกสาวแสดง จนทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ แม้ว่าปกติเธอก็นอนไม่เพียงพออยู่แล้ว "มารอเช้าจังนะเลยนะครับ" รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาประชิดริมฟุตบาท "ความจริงก็อยากจะมาสายกว่านี้เหมือนกันคะ แต่ติดที่เป็นคนตรงต่อเวลาเลยต้องมากก่อนเวลาเสมอ" สกาวตอบกลับคนที่ทักทายก่อนที่เขาจะเดินลงจากรถมายกกระเป๋าให้เธอ "ขอบคุณที่ช่วยค่ะ" สกาวเดินเข้ามานั่งในรถรอให้หมอทักษ์เอากระเป๋าเธอไปเก็บทายรถ พอเขาเดินกลับมาก็เอ่ยขอบคุณตามมารยาท "หืม ทำไมคุณหมอมีนิตยสารแฟชั่นเด็กเยอะจังเลยคะ" เมื่อสกาวเห็นว่านิตยสารที่อยู่ในรถของหมอทักษ์ ล้วนแต่เป็นลูกชายเธอที่ค่อยถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของพี่ชาย "อ่อ คุณพ่อผมเป็นหุ้นส่วนกับแบรนด์นี้ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ผมจะมีนิตยสารทุกคอลเลคชั่น" หมอทักษ์หันมามองหญิงสาวที่สนใจนิตยสารของเขาที่อยู่ในรถ แม้ว่าความจริงเขานั้นจะพึ่งรู้ว่าคุณพ่อของเขาก็มีหุ้นส่วนกับแบรนด์แฟชั่นเด็กไม่กี่วันนี้เอง "จริงเหรอคะ" พอหมอทักษ์พูดขึ้นสกาวจึงพ