“คนไข้ต้องการบลอกหลังค่ะคุณหมอ อุปกรณ์ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ค่ะ” ผู้ช่วยพยาบาลรีบบอกและเดิมตามหมอทักษ์เข้าไปในห้องผ่าคลอดฉุกเฉินของแผนทันที
“คุณหมอมาแล้วอุปรกรณ์พร้อม ทำการฆฆ่าเชื้อเรียบร้อย” บุรุษพยาบาลที่เตรียมอุปกรณ์ในห้องคลอดรีบบอกทันทีเหมือนหมอประจำแผนกเข้ามาทำการผ่าคลอดให้กับคนไข้ฉุกเฉิน “ทุกคนพร้อมนะ เริ่มเลย” หลังจากนั่นทั้งผู้ช่วยและบุรุษพยาบาลก็เริ่มทำหน้าที่องตนเอตามคำสั่งของหมอใหญ่แบบทักษ์ เป็นอย่างดี จนกระทั่งทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังจากทำการผ่าคลอดจบลง ทุกคนก็ค่อยดูแลทารกน้อยที่ร้องเสียงดังลั่นในห้องคลอด ทำให้ครอบครัวคนไข้ที่รอลุ้นอยู่ข้างนอกตื่นต้นและดีใจมาก ๆ หลังจากได้ยินเสียงเด็กร้อง แอด~ เสียงเปิดประตูห้องคลอดออกมาพร้อมกับหมอใหญ่ เด็กและคุณแม่ผ่าคลอด “ดีใจด้วยนะครับคุณได้ลูกสาวสมบูรณ์ แะแข็งแรงดี ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเดียวพยาบาลจะไปส่งคุณแ่ที่ห้องพักและส่งเด็กไปที่ห้องเด็กอ่อนก่อนนะครับ หลังจากนั้นคุณพ่อไปขอเอกสารการแจ้งเกิดน้องที่เค้าเตอร์การเงินได้เลยนะครับ มีพยาบาลคอยให้บริการอยู่ครับ” หมอทักษ์บอกกับคนเป็นสามีของคนไข้ด้วยรอยยิ้มยินดีปรีดาเล็ก ๆ ในวันที่เขาวุ่ยวายก็ยังมีสมาธิดีเสมอมา “ครับขอบคุณคุณหมอมากครับ ที่ดูแลและบริการอย่างดี เป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพทั้งบุคลลากรจริง ๆ ครับ” ญาติคนไข้รีบขอบคุณ คุณหมอและหันไปขอบคุณกับบุคคลอื่น ๆ ที่คอยแนะนำตั้งแต่นาทีเร่งรีบที่ภรรยาของเขาเจ็บท้องคลอด สมแล้วที่เป็นโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมในต่างแดนแบบนี้าได้ยากมากนักที่ทางรัฐของประเทศจะสนับสนุนโรงพยาบาลของชาวต่างชาติ ที่ไม่ใช้้ดินแดนบ้านเกิด “มันเป็นหน้้าที่และสวัสดิการของทางโรงพยาบาลอยู่แล้วครับเชิญคุณพ่อไปดูแลคุุณแม่ก่อนก็ได้นะครับแล้วค่อยมาห้องการเงินเพื่อดำเนินเรื่องอีกที” หมทักษ์บอกกับญาติคนไข้ก่อนจะขอตัวไปพักที่ห้องทำงานของตนเองทันทีเพราะความเหนื่อยล่าจากการผ่าตัวด่วน .เพียงหลับตาก็้มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาในหัวสมองของเขาทันที ‘ไอ้คนสารเลว แก ๆ แกทำหลานฉันท้อง!!’ จนทำให้ตัวเขาเบกตากว้างแทบจะนอนไม่หลับอีกเลย ทำไมชีวิตเขามันช่างดูวุ่นวายขนาดนี้นะยิ่งโตยิ่งเหนื่อย ทำไมเสีงยัยป้าคนนั้นต้องมาหลอกหลอนในหูและหัวสมองเขาด้วยเนี่ย ชิหงุดหงิดชะมัดเลย “คุณหมอคะมีเคว คนไข้เตรียมคลอดค่ะเควฉุกเฉิน คุณแม่น้ำคล่ำแตกกำลังเดินทางมาค่ะ ทางเรากำลังเตรียมห้อคลอดรอแล้วค่ะคุณหมอ” เสียงผู้ช่วยพยาบาสทำให้ทักษ์กลับมามีสติอีกครั้ง “ครับ ตอนนี้คนไข้ยัังมาไม่ถึงใช่ไหม” ผมมถามออกไปในขณะที่ฟังเธออยู่ ความจริงคือรู้อยู่แล้วหลังจากที่ฟังผ้ช่วยพยาาลกล่าวจบเพื่อความแน่ใจผมจึงต้องถามซ้ำออกมาอีกครั้ง “ใช้ค่ะคุณหมอมีเวลาเตรียมตัวสิบนาทีนะคะ คนไข้ใกล้จะมาถึงแล้วค่ะ” ผู้ช่วยพยาบาลกล่าวย้ำอีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปเตรียมตัวเพื่อความพร้อมทางการแพทย์และบุคคลากรของทางโรงพยาบาลตามหน้าที่ ของตัวเอง หลังจากที่ผู้ช่วยพยาบาลของผมเดินจากไป ผมก็รีบเตรียมตัวทำหน้าที่ของตัวเอง และเดินตามเธอออกมาเลยเพื่อมาตรวจเช็คความพร้อมอีกรอบ “คุณหมอะคนไข้มาถึงแล้วค่ะทางเราดูแล้วปากมดลูกเปิดยังไม่ครบแปดเซนยังทำการคลอดไม่ได้ค่ะคุณหมอ” พยาบาล ผู้ช่วยบอกปัญหาเบื้องต้นของคนใข้เคสใหม่ "อืม เด็กกลับหัวใช่ไหมเช็คละเอียดหรือยัง" ผมถ้าพยาบาลผู้ช่วยอีกครั้ง เพราะ ผมเองก็พึ่งมาดูเคสใหม่โชคดีมากที่ผมยังอยู่เวร ตอนนี้เพื่อรอเปลี่ยนเวรกับเพื่อนอีกคนซึ่งก็ยังไม่มาสักที ตึก ๆ ตึก เสียงวิ่งอย่างเหนื่อยหอบย่างกายเข้ามาอย่างรีบร้อน “มาแล้ว ๆ โทษทีนะที่มาช้าไปหน่อยเกือบไม่ทัน เฮ่อ ๆ” สิ้นเสียงพูดก็ยังคงมีเสียงลมหายใจที่หอบเหนื่อย ดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ "มาก็ดีแล้วรอรับเคสอื่นไป เดียวเคสนี้ผมรับเองไหน ๆ ก็รับมาตั้งแต่แรกแล้ว ไปพักเถอะครับ” ผมบอกกับคนที่กำลังดูเหนื่อย ๆ อย่างหมอดิน "ขอบคุณมากครับหมอทักษ์" หมอดินกล่าวขอบคุณก่อนที่จะเดินไปห้องพักอีกฝังหนึ่งของตัวเองเพื่อเตรียมตัวรับเคสอื่น . “คุณหมอคะคนไข้ปากมดลูกเปิดแปดเซนแล้วค่ะ กำลังย้ายคนไข้ไปห้องคลอดค่ะคุณหมอ” พยาบาลผู้ช่วยแจ้งให้ผมทราบเรื่องของคุณแม่รอคลอดขอเคสที่ผมรับมาดูแล “โอเคคุณเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างครบและพร้อมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ผมมองตรงไปยังเธอที่พยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเตรียมคลอดก่อนผม ะ ‘ขอให้วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ฟู้ว’ ผมภาวนาในใจเพราะนี้คงเป็นเคสสุดท้ายของวันนี้ และผมจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่สักที ความจริงผมไม่จำเป็นต้องรับคนไข้ก็ได้หมอที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้คลาดแคลน และที่ผมรับเคสคนไข้บ่อย ๆ เพราะผมว่างจริง ๆ ว่างมากเลยละ ห้องคลอด “คุณแม่หายใจเข้าลึก ๆ นะครับ เตรียมเบ่งนะครับไม่ต้องเกรง ปล่อยตามธรรมชาติ เบ่งตามจังหวะลมหายใจนะครับ” ผมบอกคุณแม่ท้องแรกเพราะดูจากความกังวลแ้วเธอยังตื่นเต้นมาก ๆอีกด้วยนะ “ค่ะคุณหมอ” คนไข้ของผมทำตามอย่างใจเย็น ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงกว่าเด็กทารกจะยอมออกมาและส่งเสียงร้องดังลั่นห้องคลอด "ยินดีด้วยนะครับคุณแม่น้องเป็นเด็กผู้หญิงนะครับ น้ำหนักตัว 2970กรัม อยู่ในเกณฑ์ปกติครับ" ผมบอกคุณแม่ลูกหนึ่งที่ตอนนี้พยายามน้องเด็กทารกตัวน้อยที่กำลังถูกผู้ช่วยพยาบาลไปนำไปอาบน้ำเช็ดตัวอยู่ "อะ อะไรนะคะ นะ...น้องเป็นเด็กผู้หญิงเหรอคะคุณหมอ" เธอถามผมดวงตามีน้ำตาคลออยู่ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ แต่ดูแล้วน่าจะดีใจมากกว่านะ "ครับเด็กผู้หญิงสมบูรณ์มากเลยครับ" ผมตอบเธอออกไปเด็กทารกน่ารักจ้ำม่ำมาก "ขอบคุณนะคะคุณหมอ อินเตอร์ขอดูหน้าลูกหน่อยได้ไหมคะ" เธอถามออกมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม "ได้ครับเดียวผมอุ้มน้องมาให้คุณแม่นะครับรอพยาบาลทำความสะอาดน้องแปบหนึ่งนะครับ" ผมบอกเธอแล้วยิ้มออกมาด้วยความยินดี "ว่าแต่คุณแม่ตั้งชื่อน้องยังครับ" เพราะผมต้องเขียนชื่อของทารกที่ไว้ที่ข้อมือกันผิดฝาผิดตัว เดียวจะวุ่นวายกันทั้งแผนก "อินเตอร์ตั้งแล้วนะ น้องแฮม เด็กหญิง ณเวฬา อินเตอร์ชอบชื่อนี้ค่ะคุณหมอ" ้ํอบอกผมยิ้ม ๆ แต่แววตาทำไมมันดูเศร้าแปลก ๆ นะ ผมคงคิดไปเองละมั้ง ช่างเถอะมันไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย . น้องมาแล้วครับคุณแม่" ผมอุ้มเด็กทารกมาให้เธอทันทีที่เด็กน้อยได้อาบน้ำเสร็จ "คุณหมอช่วยถ่ายรูปให้อินเตอร์หน่อยได้ไหมคะ" เธอถามผมด้วยแววตาน่าสงสารมากแล้วใครมันจะไปปฎิเสธลง! "ได้ครับ ๆ" หลังจากนั้นผมก็ถ่ายรูปให้เธออีกหลาย ๆรูป "ขอบคุณนะคะคุณหมอ คุณหมอช่วยเขียนชิ่อเล่นกับชื่อจริงให้หนูแฮนด้วยนะคะ ส่วนนามสกุลเดียวพ่อเขาคงใส่ให้เองค่ะ อินเตอร์อยากพักแล้ว" ผมมองคนไข้ด้วยความงุนงง อะไรของเขาว่ะ แปลก ๆ แต่ช่างมันเถอะ ผมก็ทำตามที่คนไข้บอกและให้บุรุษพยาบาลพาไปห้องพักที่จ้องไว้ทันที . ภายในห้องพักของอินเตอร์ "ลูกอยู่ไหน แอลเอถามออกมาทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพัก" "สนใจด้วยเหรอคะ คิดว่าสนใจแต่งานกับคนที่หมอรักสะอีก เดียวก็คงมีคนมาส่งมั้งคะ" อินเตอร์ตอบและมองออกไปนอกหน้าต่างของห้องพัก ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด นี้สินะความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายหลังจากนี้มันจะไม่มีอีกแล้วละ "ผมถามคุณดี ๆ แล้วนะอินเตอร์เลิกทำตัวประชดกันสักทีได้ไหม ผมไม่เคยขอให้มารัก ไม่เคยขอความรักจากคุณเลย!!" นี้สินะดีแล้วละหลังจากนี้ไปคงจากกันแบบไม่หวนมาเจอกันอีกแน่นอน 'แม่ขอโทษนะหนูแฮม แม่หนูที่สุด' ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ "ขอโทษนะครับเอาน้องมาส่งคุณแม่ครับ" ผมเอาเด็กทารกน่ารักมาส่งด้วยตัวเอง นี้สินะพ่อเด็กตอนคลอดก็ไม่อยู่คงยุ่งมายังสวมชุดกาวน์อยู่เลย "ขอบคุณนะคะคุณหมอ" แม่เด็กหันมาะยายามส่งยิ้มให้ผม ผมมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่านะ "ครับนี้ครับเอาตัวเล็กมาส่งหลับปุ๋ยเลย คงต้องรออีกสักพักเดี๋ยวพยาบาลเข้ามาสอนวิธีให้น้องกินนมแม่นะครับหมอขอตัวก่อน" ผมปลีกตัวออกมาทันทีที่บรรยากาศในห้องมันช่างมาคุเหลือเกิน เห้อ~ ได้พักจริงจังสักที "อินเตอร์!! ทำไมตั้งชื่อลูกไม่ปรึกษากันสักคำฮะ!" "ไม่ชอบเหรอ หึไม่ชอบก็เปลี่ยนเลยก็ได้นะไม่ได้สำคัญอยู่แล้วนิ จะปรึกษาคนที่หมอรักก็ได้นะอินเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับคนสำคัญของหมออยู่แล้ว เหนื่อยอยากพัก กลับไปสักทีเอาลูกกับไปด้วยเลยก็ดี!" สิ้นเสียงพูดอินเตอร์ก็ล้มตัวนอนทันที หลับตาลงเพื่อปกปิดความเจ็บปวดเอาไว้ เพียงไม่นานเสียงฝีเท้าก็ก้าวออกจากห้องไปพร้อมกับเด็กทารก อินเตอร์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง 'ลาก่อน' ข้อความสั้น ๆ เขียนทิ้งไว้บนหัวเตียงพร้อมกับร่างบางที่เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาใช้ชุด ธรรมดา แล้วออกจากห้องนั่นไปทันที ห้องพักแอลเอ "ไอ้หมอลูกใครวะ" โรมเมท ที่มาหาพี่ชายพร้อมกับเวียงพริ้งก็ถามขึ้นมาทันที "ลูกหมอแอลเหรอคะ น่าชังจังเลย" เวียงพริ้งถามด้วยรอยยิ้ม "ชื่อน้องอะไรเหรอคะ" เวียงพริ้งถามอีกครั้ง จะได้เรียกตัวเล็กถูก อีกฝั่งหนึ่งคนที่อยากเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็ยื่นอยู่หน้าห้องของแอลเอ "อยากตั้งไหมล่ะ" เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วอินเตอร์ ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาแล้วค่อย ๆ ก้าวถอยหลังออกไปทันที "ละ..ลาก่อนนะคะหนู แฮมของแม่" . สนามบิน อินเตอร์รออย่างใจเย็นพยายามที่จะไม่ร้องไห้ เธอไม่ได้กังวลอะไรเพราะรู้ว่าไม่ใช่คนสำคัญคงไม่มีใครตามหาเธออยู่แล้วที่ผ่านมาที่เธอทนเพราะเธอรักมากใจก็เตรียมพร้อมที่จะเจ็บมากเช่นกัน . ด้านโรงพยาบาล "คุณหมอคะ! คนไข้หาย!!" หลังจากที่ทักษ์กะจะได้พักผ่อนยาว ๆ ต้องมาวุ่นวายอีกแล้ว!! ให้ตายสิวะ หมดแล้วเวลาพักผ่อนต้องมาตามหาคนไข้อีก ห้องไหนเนี่ย~พอเดินเข้ามาในคาเฟ่ก็ทำให้เธอรู้สึกตะลึงไปกับความแปลกใหม่เล็กน้อย "มันสวยมากเลยค่ะ ราวกับว่าเราได้อยู่ในจักรวาลทั้ง ๆ ที่อยู่บนโลกมนุษย์แท้ ๆ" สกาวมองไปรอบร้านที่ตกแต่งร้านได้สวยงามรวมพวกสิ่งประดับเกี่ยวกับกาแล็กซี่ต่าง ๆ ของจักรวาลอยู่ในร้าน "ผมว่าเจ้าของคาเฟ่คงต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยแน่เลย" ความคิดของเขาไปในทางนั้นจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคาเฟ่เก่งเรื่องวิทย์ - คณิตด้วยหรือเปล่า "แต่กาวไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เจ้าของร้านคงต้องเรียงพวกดาวเคราะห์ถูกสิ ไม่ใช่ให้เรียงตามใจชอบแบบนี้" เธอมองไปที่ผนังร้านที่มีกลุ่มดาวเคราะห์หลายดวงที่เรียงกันสับสนไปหมด "จริงด้วยสินะ หรืออาจจะเป็นลูกค้าที่มาสลับสับเปลี่ยนพวกกลุ่มดาวพวกนี้เองหรือเปล่าก็ไม่รู้ดูสิเห็นไหมว่ามันขยับได้" หมอทักษ์ ชี้ไปที่ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนผนังคาเฟ่ "มันขยับได้จริง ๆ ด้วยค่ะ" สกาวพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งแปลกตาและมหัศจรรย์ ภายในร้านคาเฟ่เล็ก ๆแห่งนี้ "ขอโทษนะคะลูกค้า ลูกค้าต้องการดื่มอะไรดีคะ" พนักงานของร้านที่ตอนแรกไม่เห็นว่ามีลูกค้ารีบเดิน
เขามองริมฝีปากเธออยู่อย่างนั้นก่อนที่จะค่อย ๆ เอามือของตัวเองไปโอบศรีษะของเธอให้ริมฝีปากของเธอเข้ามาใกล้กับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง "คะ..คุณ อืม~" 'หมอคะ' เธอไม่ทันได้พูดเรียกสติของชายหนุ่มก็ถูกริมฝีปากของเขาประกบจูบเข้ามาทันทีโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสองคนกำลังจบกันอย่างโดดดื่มทำให้การสัมผัสของทั้งคู่เกิดความเร่าร้อนขึ้นมาทันที ชุดนอนผ้าลื่นเนื้อบางถอดง่ายใส่สบายทำให้สกาวต้องเผลอไผไปกับรสจูบของคุณหมอหนุ่ม "อืม~" จ๊วบ ๆ จ๊วบ เสียงจูบและลิ้นพันกันอย่างเร่าร้อนยังคงไม่จบลงทำให้สกาวเริ่มหายใจติดขัด เมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มจะหายใจไม่ออกและดิ้นรน จึงค่อย ๆ ถอดริมฝีปากของตัวเองออกจากปากของหญิงสาว "คุณสงสัยเหมือนผมไหมครับ ว่าทำไมเวลาผมอยู่กับคุณทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ และต้องการที่จะสัมผัสคุณมากขึ้นทุกครั้ง" เขาจับคางของหญิงสาวขึ้นมาเผชิญหน้ากับตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอเริ่มมีอาการแดงกล่่ำเพราะความเขินอายจากรสจูบแสนหวาน ที่เขามอบให้เธอ "ทะ..ทำไปคุณหมอพูดอย่างนี้ล่ะค่ะคงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ" สกาวที่ไม่ยอมบอกอะไรกับเขา ทำให้เขาต้องเป็นคนดิ้นร
หลังจากออกเวรสกาวรู้สึกอ่อนเพลียมาก เธอกลับมาทำงานตามปกติ พอนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่ทางเธอและหมอเทพพิทักษ์ได้ไปเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเพื่อมอบ เงินสมทบทุนให้กับเด็ก ๆ ที่ขาดแคลน .หลังจากที่ขับรถมาถึงที่พักก็เข้าเช็คอินทันที "ทำไมจองไว้ห้องเดียวล่ะคะ" จะกล่าวถามด้วยใบหน้าที่ตกใจและมองสบตากับคุณหมอที่เคยเป็นอาจารย์แพทย์สอนเธอ "ห้องมันเต็มครับผมถามไปแล้วกว่าจะได้ห้องก็คงอีก สองวันนู้นพอถึงตอนนั้นเราก็เช็คเอาท์ออกกันพอดี แต่ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอกครับผมไม่ทำอะไรคุณหรอก" หมอทักษ์ มองคนที่เขารู้สึกคุ้นเคยแต่ก็คับคล้ายคับคลายังจำไม่ค่อยได้ ในหัวสมองของเขามีอาการสับสนกับความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหญิงสาวของเขาจนแปลกใจ "อ่อ เป็นห้อง สองเตียงใช่ไหมคะ" สกาวหันกลับไปถามพนักงานที่คอยต้อนรับและให้ลูกค้ามาเช็คเอาท์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ใช่ค่ะลูกค้าต้องขออภัยจริง ๆ นะคะที่ทางเราไม่สามารถจำหน่ายห้องแยกได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วง ที่ทางที่พักได้ทำการโปรโมทไปด้วยเลยทำให้ห้องพักไม่เพียงพอต่อการเข้าพักค่ะ" พนักงานตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและพูดด้วยถ้อยคำอ่อนโยนกล
ร้านอาหารทะเล ในช่วงเวลา 19:30 ทั้งสี่คนได้มานั่งสั่งอาหารและตอนนี้อาหารทะเลเติมโต๊ะ "ลุงแกะให้หนูรอกินอย่างเดียว" สกายอาสาแกะปูแกะกุ้งให้หลานชายหลานสาว และ ภรรยา เป็นภาพที่น่ารักมากหากมองจากบุคคลภายนอก "ขอบคุณค่ะคุณลุง" ซีเฟียตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย "อันนี้ของเฟียสครับ" สกายว่างกุ้งตัวใหญ่ในจานหลานชาย"ขอบคุณครับ" "พี่ก็กินของตัวเองได้แล้ว เด็ก ๆ ก็แกะกุ้งแกะปูกันเป็นนะคะ" คนเป็นภรรยาเมื่อเห็นว่าสามียังไม่ได้แตะอาหารของตัวเองก็ท้วงขึ้นมาทันที"ใช่ครับคุณลุงพวกเราแกะเป็นพวกเราโตแล้ว" น้องชายฝาแฝดของซีเฟีย พูดขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าจานอาหารของคุณลุงยังไม่ลดลง มื้ออาหารเติมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในค่ำคืนที่ผ่านมา 07:00น.ช่วงเวลาของเช้าวันถัดมาชั่งผ่านมาวัยเหลือเกิน "ทำไมตื่นเช้าจังเลยคะ" เธอเดินตามสามีออกมาเมื่อมองบนเตียงนอนแล้วไม่พบผู้เป็นสามีนอนอยู่ "วันนี้พี่ต้องเตรียม ฉากและพื้นที่ให้กับหลานน่ะเลยจะลองออกไปขออนุญาตทางเจ้าของหาดดูก่อน" สกายหันกลับมามองตามเสียงคำถามของภรรยา เขาก็รีบตอบทันที"หันหม่อนไปถามให้ดีไหมคะ
"สวยมากเลยค่ะคุณลุง" ซีเฟียมองดูชุดคอลเลชั่นใหม่อย่างตื่นเต้น "ไหนคุณลุงบอกว่าอีกสองสามวันถึงจะได้ทำงานไงครับ" เฟียสมองชุดตาเป็นประกายเพราะเขาเองก็อยากหาเงินช่วงวันหยุด "ลุงกะว่าจะเอามาเซอร์ไพรส์หลาน ๆ แต่ได้ยินตอนที่กำลังพูดคุยกันพอดีเลยบอกเลยดีกว่า" สกายยื่นชุดให้หลาน ๆ ไปลองใส่มาให้ดูก่อน ซึ่งเขาก็นั่งรออยู่ในห้อง "ที่รักอาหารมาส่งแล้ว เอะแล้วเด็ก ๆ ไปไหนกันหมดคะ" ใบหม่อนภรรยาสาวที่ปลีกตัวออกไปรับอาหารที่สั่งไว้ เพราะมีพนักงานมากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้านพักพอดี หลังจากรับอาหารเสร็จพอเดินกลับเข้ามาก็ไม่เห็นหลาน ๆ แล้ว "ลองชุดว่ายน้ำอยู่ในน้ำห้องครับ" สกายส่งสายตามองไปยังประตูห้องน้ำสองห้องที่ติดกัน "คุณลุงหนูใส่ได้พอดีเลยค่ะ" ซีเฟียเปิดประตูออกมาและหมุนตัวอวด ลุงของเธอ "ชุดเฟียสก็เท่ห์มากเลยครับคุณลุง" เด็กชายเดินออกมาหลังจากเห็นพี่สาวหมุนตัวราวกับเป็นนักบัลเล่ต์ "ไหนขอลุงถ่ายรูปหน่อยเดี๋ยวจะส่งให้แม่พวกหนูดู" สกายหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดถ่ายภาพหลาน ๆ และส่งเข้าไปในแชทน้องสาว "อาหารมาแลเวนะเด็ก ๆ
เช้าวันต่อมา 08:30น. สกาวมองนาฬิกาข้อมือ ปากก็หาวออกมาเนื่องจากเมื่อคืนเธอรอดูละครที่ลูกสาวแสดง จนทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ แม้ว่าปกติเธอก็นอนไม่เพียงพออยู่แล้ว "มารอเช้าจังนะเลยนะครับ" รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาประชิดริมฟุตบาท "ความจริงก็อยากจะมาสายกว่านี้เหมือนกันคะ แต่ติดที่เป็นคนตรงต่อเวลาเลยต้องมากก่อนเวลาเสมอ" สกาวตอบกลับคนที่ทักทายก่อนที่เขาจะเดินลงจากรถมายกกระเป๋าให้เธอ "ขอบคุณที่ช่วยค่ะ" สกาวเดินเข้ามานั่งในรถรอให้หมอทักษ์เอากระเป๋าเธอไปเก็บทายรถ พอเขาเดินกลับมาก็เอ่ยขอบคุณตามมารยาท "หืม ทำไมคุณหมอมีนิตยสารแฟชั่นเด็กเยอะจังเลยคะ" เมื่อสกาวเห็นว่านิตยสารที่อยู่ในรถของหมอทักษ์ ล้วนแต่เป็นลูกชายเธอที่ค่อยถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของพี่ชาย "อ่อ คุณพ่อผมเป็นหุ้นส่วนกับแบรนด์นี้ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ผมจะมีนิตยสารทุกคอลเลคชั่น" หมอทักษ์หันมามองหญิงสาวที่สนใจนิตยสารของเขาที่อยู่ในรถ แม้ว่าความจริงเขานั้นจะพึ่งรู้ว่าคุณพ่อของเขาก็มีหุ้นส่วนกับแบรนด์แฟชั่นเด็กไม่กี่วันนี้เอง "จริงเหรอคะ" พอหมอทักษ์พูดขึ้นสกาวจึงพ