บทที่ 1 คุ้นเคย
เพียงเธอถอยออกห่างจากราวสะพานหนึ่งก้าวท่ามกลางสายลมที่พัดมากระทบใบหน้าแดงซ่าน พาให้หยาดน้ำตาไหลออกจากขอบตาแดงก่ำเหือดหายไป
เสียงที่คุ้นหูและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย..ใช่เขาแน่ ๆ
ขุนเขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจับแขนเธอไว้ออกแรงดึงให้ออกห่างจากราวสะพานด้วยกลัวว่าเธอจะขัดขืนแล้วกระโดดลงไป
"เธอ..คิดจะทำอะไร" คำถามไร้ซึ่งคำตอบนั้นพาให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าอึดอัดเข้าไปอีก เพียงเธอมองหน้าชายคนตรงหน้าไม่ละสายตา เธอไม่ได้คิดสั้นแต่อยากปรับอารมณ์และยืนรับลมให้หายฟุ้งซ่านก่อนเข้าบ้านก็เท่านั้น
"เปล่าค่ะ"
"…" ขุนเขาไม่ถามอะไรต่อ เขามองปราดเดียวก็พอรู้ว่าเธอเจอเรื่องแย่ ๆ มาจึงถอดเสื้อไปคลุมไหล่ให้ "บ้านอยู่ตรงไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ลงสะพานไปแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ห้องเช่าเจ๊พร"
"อืม ขึ้นรถสิ" คำชวนที่พาให้รู้สึกโล่งอก เพียงเธอกระชับเสื้อที่เขาคลุมไหล่ให้แน่นขึ้น เดินตามมาที่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ขุนเขาก้าวไปนั่งก่อนและสตาร์ทเครื่องรอขณะที่เพียงเธอเดินกระเผลก ๆ มาเรื่อย ๆ จนถึงรถ เธอไม่รู้ว่านี่คือโชคชะตาหรือเรื่องบังเอิญที่เขาขับรถผ่านมาเจอ "ยืนคิดให้เสร็จก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้" ขุนเขาพ่นลมหายใจออกเบา ๆ ที่เธอเอาแต่ยืนนิ่งคิดอะไรจนใจลอยไม่ยอมขึ้นรถกับเขาสักที
"ขอโทษค่ะ" อยากจะถามเหลือเกินว่าทำไมวันนี้เขาไม่ไปดื่ม หรือว่าเขา..มีครอบครัวอยู่แล้วนะ เด็กสาวก้าวขึ้นมานั่งซ้อนท้ายเขา เธอค่อนข้างกลัวแต่นี่ก็ไม่ใช่การซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ครั้งแรก เรียกว่าไม่ค่อยชินมากกว่า เพียงเธอกลั้นใจแล้วสอดมือไปโอบเอวสอบไว้หลวม ๆ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอนั่งเรียบร้อยแล้วขุนเขาจึงขับรถไปส่งที่ห้อง
"ตรงไหน" ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบพลางมองกระจกหลังเมื่อเห็นว่าเธอหลับตาปี๋อยู่จึงถอนหายใจหนัก ๆ แล้วปล่อยมือจากแฮนด์รถมาจับมือเธอไว้เบา ๆ
"อ๊ะ..อ๋อข้างหน้านี้เลยค่ะ" เพียงเธอลืมตาขึ้นมาแล้วชี้ไปที่ห้องเช่าเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ขุนเขาขับมาจอดเทียบทางเดินและดับเครื่องยนต์
"ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ที่มาส่ง หนูไม่รู้ว่าจะให้อะไรเป็นการตอบแทน" ขุนเขาไม่ได้มองหน้าเธอแต่เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว ทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ มองตามไฟท้ายรถสีแดงจ้าจนลับตาไปเธอค่อยเดินเข้ามาในห้อง ร่างบอบบางสั่นสะท้อนเปล่งเสียงสะอื้นไห้อย่างหนัก แขนเรียวเล็กกอดตัวเองไว้แน่น
เพียงเธอนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายนาทีจนตาบวม เธอนอนทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งคืนจนหลับไปในตอนตีสี่กว่า ๆ ในขณะที่ขุนเขานั่งดื่มอยู่ที่คลับที่ประจำจนเกือบเช้า
"โธ่ไอ้เพื่อนเวร จะเช้าอยู่แล้วเรียกกูมาแดกเหล้าด้วย" ปรินกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับขุนเขา เขาสำรวจร่องรอยการดื่มของเพื่อนแล้วปรบมือให้อย่างเหลือเชื่อ "สุดมาก สุดยอดมากเลยว่ะ กูคิดว่าไอ้เหี้ยโชนคอแข็งแล้วนะมึงแม่งคอแข็งกว่าไอ้โชนอีก"
"กูก็ดื่มเรื่อย ๆ"
"ไหงมาคนเดียวเอ๊…น้องคนสวย ๆ นั่นไปไหนแล้ว" ปรินชะเง้อมองหน้ามองหลังเผื่อว่าเธอจะไปเข้าห้องน้ำหรือกำลังบริการแขกคนอื่นอยู่ "ไปไหนวะ"
"ไม่มา"
"อ้าว..แบบนี้พี่ขุนกูก็เหงาแย่เลยสิเนี่ย"
"พูดมากจริง แดก ๆ ไปเหอะน่า"
"กูถามจริง ๆ เถอะนะ มึงรู้จักน้องเขาเป็นการส่วนตัวเหรอ?"
"ไม่" ขุนเขาตอบเสียงเรียบพลางยกเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อย ก่อนจะจุดบุหรี่สูบเพื่อผ่อนคลาย "กูแค่รู้สึกดีตอนที่มีคนคอยเอาใจเท่านั้น"
"อ่า เหมือนกันนั่นแหละ ใครก็ชอบเวลาสาว ๆ มาดูแลถึงที่แบบนี้" ปรินอมยิ้มกว้างเมื่อสาวชุดเดรสสีดำเดินเข้ามานั่งตัก ขุนเขาที่เห็นถึงกับส่ายหน้าไปมาเบา ๆ "น้องพอจะรู้จักคนที่สวย ๆ ที่ชอบมานั่งตักเพื่อนพี่ไหมครับ ทำไมวันนี้น้องเขาไม่มาล่ะ" ปรินหลุดปากถามจนได้
"อ๋อ..น้องเขามีเรื่องกับแขกนิดหน่อยค่ะ แต่เห็นบอกกลับไปทำงานส่งอาจารย์มั้ง น้องเขายังเรียนอยู่น่ะค่ะ"
"อ๋อ..เป็นแบบนี้นี่เอง"
ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ เขารู้สาเหตุแล้วว่าทำไมสภาพเธอถึงเยิ่นขนาดนั้น ที่แท้ก็มีเรื่องกับแขกที่คลับนี่เอง
"ไอ้ขุน คิดเหี้ยอะไรอยู่กูเรียกตั้งหลายรอบละ"
"เปล่า กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ขุนเขาลุกออกมาพลางกดโทรศัพท์มือถือเล่นไปด้วย
ปึก!
จู่ ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาชนไหล่จนขุนเขาเซไปด้านหลัง เขารีบเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงพลางมองหน้าผู้ชายที่เดินมาชน
"ทางก็กว้าง ทำไมเดินมาชนกันได้" ขุนเขาเอ่ยถามอย่างใจเย็น
"โทษทีว่ะน้อง พี่ไม่ทันมอง"
เขาตั้งใจจะไม่เอาเรื่องแล้วปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นแต่ก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินคำสนทนาผู้ชายคนนั้นกับเพื่อนเขา
"แม่งนายให้มารอเด็กคนนั้นเผื่อมันจะย้อนกลับมาอีก"
มันเพิ่งโดนไปไม่น่าจะกลับมาง่ายหรอก แต่ก็รอต่อไปอยู่ที่นี่ก็สนุกดีเหมือนกัน"
ปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วหันกลับไปมองผู้ชายสองคนนั้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
หลายนาทีที่ขุนเขาปล่อยให้ปรินนั่งคุยกับเด็กอยู่ที่โต๊ะ เพราะเขาลงไปสืบข่าวของเด็กคนนั้นจนได้เรื่องมานิดหน่อย
"หายหัวไปนานเกิน นึกว่าตกส้วมตายไปแล้ว"
"กูไปสั่งเหล้า"
"ยังไม่พอเหรอวะ แม่งจะเช้าแล้วเนี่ย" ปรินชี้ไปที่ข้อมือเพื่อให้ขุนเขาดูเวลา แต่เขาไม่ได้สนใจและรินเหล้าดื่มต่อจนถึงตีห้าสี่สิบนาทีถึงกลับคอนโด แต่ก่อนจะถึงคอนโดเขากับปรินก็แวะใส่บาตรทำบุญให้ตัวเองบ้างเผื่อผลบุญจะให้เจ้ากรรมนายเวรตามพวกเขาไม่ทัน
"ใส่บาตรในรอบห้าเดือน รู้สึกเหมือนทำบุญมาตลอดหนึ่งปี สดชื่น…" ปรินกางแขนรับอากาศเย็นสดชื่นในยามเช้ามืดขณะที่รถกำลังแล่นสวนกันในเช้าวันทำงานของใครหลายคนแต่วันนี้กลับเป็นวันหยุดของขุนเขากับเพื่อน ๆ เพราะอาจารย์ยกคลาสไปเป็นพรุ่งนี้
"กูขอตัวก่อน"
"เออ ๆ กลับดี ๆ นะมึง" สองหนุ่มล่ำลากันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับห้องใครห้องมัน พอมาถึงขุนเขาก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเอาแรงเพื่อจะได้เปิดร้านสักต่ออีกช่วงบ่าย
หลายวันต่อมา เพียงเธอไม่ได้ไปทำงานที่คลับหลายวันด้วยกลัวว่าพวกของเสี่ยจะตามไปเอาเรื่องที่นั่น แต่วันนี้เธอตั้งใจจะไปทำงานหยุดหลายวันก็ขาดรายได้ไปหลายบาท ตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่า ๆ ร่างบอบบางในชุดสบาย ๆ เดินออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ มุ่งตรงไปยังคลับที่ตนเองทำงานอยู่
20:30
เพียงเธอแต่งหน้าทำผมเสร็จก็ออกมาเอนเตอร์เทนลูกค้าตามปกติของเธอ ในใจก็ขอให้ได้เจอกับผู้ชายคนนั้นอีก เธอจะขอบใจเขาเพราะก่อนจะเข้างานเธอแวะซื้อขนมตั้งใจจะเอามาให้โดยเฉพาะ
ปึก!
"น้องคนสวย..พี่รอหนูอยู่ตั้งหลายวันทำไมเพิ่งโผล่หัวมาล่ะจ๊ะ" ฝ่ามือหนากระชากแขนเพียงเธอจนเธอเจ็บ แรงมหาศาลทำให้ร่างเล็กถลาไปตามแรงดึงของชายร่างยักษ์อย่างง่ายดาย
พรึบ!
เธอถูกเหวี่ยงลงกับพื้นด้านหลังร้านก่อนที่เสี่ยคนเดิมจะเดินเข้ามา
"แสบนักนะยัยหนู" มือหนาบีบคางเพียงเธอแน่นจนเธอร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด แต่เสียงเอะอะโวยวายก็ทำให้คนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ได้ยิน "ถอดเสื้อผ้ามันออก!" สิ้นเสียงคำสั่งผู้เป็นนายชายร่างยักษ์ก็เดินเข้ามากระชากชุดเพียงเธอทำให้มันขาดเล็กน้อย
"ใช่..น้องที่เรียกให้ไปเอนเตอร์เทนไหม" ขุนเขาเดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้หลังจากสูบบุหรี่เสร็จ เขาย่อเข่านั่งลงและก้มหน้ามองหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่กับพื้น
"คะ..?" เพียงเธอตอบเสียงสั่นก่อนที่มือเธอจะถูกขุนเขาจับไว้ สัมผัสจากฝ่ามือหนาเรียกน้ำตาที่กำลังไหลให้หลั่งออกมาด้วยความโล่งอก อยู่กับเขาเธอไม่รู้สึกกลัวเหมือนเมื่อหลายนาทีก่อนเลย
"งั้นไปกัน" ขุนเขาพยุงเพียงเธอลุกขึ้นแล้วจูงมือเธอหมายจะพาเข้าไปในคลับแต่ถูกคนของเสี่ยกันทางไว้ก่อน "หาเรื่องเด็กในคลับไม่พอ ยังจะมาหาเรื่องแขกอีก..อ่า ไม่อยากเป็นคนใจเย็นเลยว่ะ"
"พะ..พี่คะ อย่าไปเสียเวลากับพวกเขาเลย" เพียงเธอรีบห้ามขุนเขาเพราะไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับไอ้พวกไร้ประโยชน์นี้ ขุนเขากำมือเธอแน่นขึ้นแล้วหันไปมองหน้าเสี่ยที่กำลังยิ้มเย้ยหยัน
"อย่ามาเสือกดีกว่าไอ้หนุ่ม"
"ไม่ได้เสือก ผู้หญิงคนนี้ฉันจ่ายเงินให้เธอไปเอนเตอร์เทนแล้ว คนที่เสือกน่าจะเป็นพวกแกมากกว่านะ"
"ไอ้เด็กนี่ปากดีเหมือนกันนะเนี่ย" ขุนเขาเดินเข้าไปหาแต่ไม่ทันได้ทำอะไรบอดีการ์ดที่คุมเข้มในคลับก็เข้ามาก่อน เขาจึงพาเพียงเธอขึ้นมาชั้นสองที่โต๊ะประจำ
"ขอบคุณค่ะ" เพียงเธอปล่อยมือจากการจับกุมแล้วถอยออกห่างจากขุนเขาหนึ่งก้าว สภาพเธอตอนนี้ไม่เหมาะที่จะมาเอนเตอร์เทนเขาเลย แต่ทว่าขุนเขากลับตบฝ่ามือลงบนหน้าขาตัวเองเบา ๆ เป็นการบอกให้เธอนั่งลงเหมือนเดิม เพียงเธอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอแล้วนั่งลงบนหน้าตักขุนเขา
เขายกมือขึ้นมาลูบแผ่นหลังสั่นสะท้านน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ ลูบผมเธอจนกระทั่งเพียงเธอยอมซบหน้าลงกับอกแกร่งแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก สัมผัสที่คุ้นเคยจากเขาขับไล่ความกลัวในใจเธอ ที่ร้องไห้เพราะโล่งอกและรู้สึกปลอดภัยที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ แม้จะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมากนัก
ตอนพิเศษ 5เช้าวันต่อมาเพียงเธอนอนกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ใต้ผ้าห่มขณะที่ขุนเขานอนกอดเธอแนบแน่นแถมยังเอาหน้ามาซบหน้าอกเธออีก เมื่อคืนเขาทั้งดุและกินจุจนเธอเพลียหลับไปตอนไหนไม่รู้ นี่ก็สายมากแล้วด้วย แม่บ้านคงกำลังถามหากันวุ่นว่าทำไมเราสองคนไม่ลงไปกินข้าวเช้าสักที"อื้อ~ ทำไมตื่นเร็วจัง เมื่อคืนไม่เหนื่อยเหรอ" ขุนเขางัวเงียถามแฟนสาวที่นอนนิ่งอยู่ เขารู้สึกตัวตั้งแต่เธอขยับตัวครั้งแรกแต่รู้สึกล้าเลยไม่ตื่นขึ้นมา เพียงเธอยิ้มบาง ๆ แล้วเท้าแขนไปด้านหลังดันตัวลุกขึ้นมานั่งทำเขาต้องลุกขึ้นตามเธอด้วย"วันนี้เราไปหาแม่อรอีกไหมคะ เมื่อคืนนี้แม่อรทักมาหาบอกคิดถึงเราสองคน" เธอชวนคนรักที่นั่งทำหน้าง่วงอยู่ ขุนเขาไม่ได้ขัดใจเธอและพยักหน้าหงึก ๆ เป็นคำตอบ เพียงเธอยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนวยนาดไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมตัวไว้"ขอเฮียนอนอีกแป๊บนะ เมื่อคืนหนักไปหน่อย""แล้วเมื่อคืนสนุกไหมคะ" เธอหย่อนตัวนั่งลงขอบเตียงพลางเสยผมออกจากหน้าให้แฟนหนุ่มด้วย ขุนเขาหยักหน้าหงึก ๆ"สนุกมากเลย เมื่อคืนไอ่ปินมันพาพี่ชายไปเที่ยวด้วย"“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าพี่ปินมีพี่ชายด้วย" เพียงเธอยิ้มบาง ๆ"อืม พี่ปลาพี่ชา
ตอนพิเศษ 4ขุนเขาที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวติดกระดุมไม่เรียบร้อยก้าวขาลงจากรถพร้อมบดินทร์และปรินที่ขับรถตามหลังเขามาติด ๆ แต่วันนี้มีแขกคนพิเศษเพราะพี่มันขอมาเที่ยวด้วย"เด็ก ๆ" พี่ปลาพี่ชายไอ้ปินเดินเข้ามากอดทักทายขุนเขากับบดินทร์ด้วยความคิดถึง "ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะ หล่อขึ้นเป็นกองเลย""ครับ" ขุนเขาไล่สายตามองพี่ปลาอย่างยิ้ม ๆ วันนี้เหมือนจะมีนกแก้วบินว่อนอยู่ในผับหนึ่งตัวนะ พอนึกอย่างนั้นได้เขาจึงรีบเดินเข้ามาในผับก่อนเพราะกลัวจะหลุดขำกับสีหน้าเบื่อหน่ายของปรินที่ต้องดูแลพี่ชายมัน"ตามมาทำเชี่ยไรก็ไม่รู้ รำคาญ"ป๊าบ!ฝ่ามืออรหันต์ประทับที่หัวเขาทันทีที่พูดจบ ปรินสะบัดหน้าไปมองพี่ชายอย่างเอาเรื่องสุด ๆ"ไอ้เชี่ยปลา!""ไม่รู้แหละ กูเป็นพี่มึง ยังไงมึงต้องดูแลกู" ว่าจบปลาก็เดินเข้าไปในผับหน้าตาเฉย ปรินกรอกตาไปมาแล้วหันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดที่ตามมาดูแลพี่ชายเสียงเพลงดังกระหึ่มตั้งแต่เดินเข้ามาทำให้ไอ้พี่ปลาเต้นจนถึงโต๊ะที่จองกันเอาไว้ ปรินส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วคว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกเข้าปากอึกใหญ่"ถามจริง มึงสองคนพี่น้องกันจริงไหมวะ" ขุนเขากระซิบถามข้างหูเพื่อนรัก เพราะหน้าตาไม
ตอนพิเศษ 3หลายวันต่อมา"ทำหน้าเหมือนโดนตีนมาเลยนะ" ขุนเขาเอ่ยถามปรินที่เดินกระแทกเท้าตึงตังเอาแต่ใจมาหาเขากับบดินทร์ที่นั่งดื่มชากันอยู่"เบื่อว่ะ อยากไปดื่มฉิบหาย ผับไหนก็ได้ที่มีเด็กแจ่ม ๆ อะรู้จักกันบ้างไหม" บดินทร์ถึงกับส่ายหน้าไปมาแล้ววางแก้วชาลง"มีน่ะมันมี แต่มึงจะไปเที่ยวหลีหญิงทุกวันไม่ได้ไหมวะ ไหนจะเลิกทำตัวเชี่ยเพื่ออาจารย์อิงฟ้าไง" บดินทร์เลิกคิ้วถามอย่างจริงจังแต่ปรินกลับเบ้ปากอย่างเบื่อหน่าย"กูเบื่ออะสิ ไม่เร้าใจเลย""เหรอ…" ขุนเขาพเยิดหน้าให้อย่างประชดแล้วรินน้ำชาให้เพื่อนหนึ่งแก้ว "ทำไมไม่ชวนเฮียปลามาด้วย" จู่ ๆ ขุนเขาก็ถามถึงพี่ชายปรินที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ ปรินหันขวับไปมองเพื่อนตาเขียว"ถามหามันทำไม""ก็กูเห็นว่าเป็นพี่ชายมึงหนิ ถามหาไม่ได้เลย" ปรินแยกเขี้ยวใส่ขุนเขาแล้วเอ่ยตอบเสียงเกรี้ยว"ไอ้เพี้ยนนั่นมันจะออกไปไหนได้ วัน ๆ อยู่แต่บ้านทำอะไรของมันไม่รู้ วันไหนออกจากบ้านนะพาคนของป๊าไปเป็นโขย่งหนึ่ง แถมยังแต่งตัวเหมือนคนบ้าอะ กูไม่อยากรับมันเป็นพี่ชาย""ก็พี่มึงมันเฟียสหนิ กูออกจะชอบ" ขุนเขายังล้อเลียนเพื่อนไม่หยุดก่อนจะหันไปมองคนรักที่ถือจานขนมเดินเข้ามาใ
ตอนพิเศษ 2เพียงเธอชะงักค้างในตอนตักข้าวใส่ปาก เธอเหลือบตามองขุนเขาที่เอาแต่ยิ้มร่าชอบใจกับคำถามแม่อร"คือเพียงยังไม่พร้อมค่ะ แม่อรกับพ่อพลคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ" เพียงเธอย่นหัวคิ้วเข้าหาขอความเห็นใจจากทั้งสองท่าน ขุนเขาเลิ่กลั่กเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นพ่อกับแม่กำลังตกเป็นทาสลูกอ้อนของเมียเขา"แม่!" เขาเรียกแม่เสียงดังแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อแม่กับพ่อหันมามอง อรพิณเลิกคิ้วถามลูกชายส่วนอำพลหนี่ตามองอย่างเป็นคำถามเหมือนกัน "กินข้าวเถอะครับ เรื่องลูก..เดี๋ยวเอาไว้ค่อยคุยกัน""ก็ได้ ๆ อย่าช้านักนะแม่อยากอุ้มหลานแล้ว""ได้ครับ.." ขุนเขายิ้มกว้างเพราะพอใจกับสิ่งที่แม่ขอในขณะที่เพียงเธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนปากอมน้ำไว้ก็ไม่ปาน พยายามหาเรื่องมาแย้งในสิ่งที่ขุนเขาบอกกับพ่อแม่แต่ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้เธอแย้งขึ้นเลย เพียงเธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วกินข้าวต่อจนอิ่มกันทุกคน เธอกับขุนเขาถูกอรพิณพาไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานแม่บ้านก็ยกจานผลไม้สดมาเสิร์ฟ"กินสิลูก นี่ชมพู่จากสวนแม่เองเลยนะรู้ไหม" เพียงเธอตาโตแล้วหยิบชมพู่ชิ้นพอดีคำมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อรพิณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นลูกสะใภ้กินชมพู่อย่างเอร็ดอร่อย"
ตอนพิเศษ 1หลายวันต่อมาขุนเขาเดินรอบร้านสักลายเพราะกำลังเก็บของที่เหลือเอาไปไว้บ้าน เขาตัดสินขายร้านแห่งนี้ให้รุ่นพี่ที่เป็นช่างด้วยกันมานานและยังเป็นครูและลูกค้าคนแรกของเขาด้วย"เฮ้ กูอยากสักลายว่ะ" รุ่นพี่ที่เขาเคารพเดินเข้ามาตบบ่าแกร่งเบา ๆ ขุนเขาที่กำลังเก็บของลงกล่องอยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขามองมือตัวเองแล้วเอี้ยวหน้ากลับไปมองรุ่นพี่"ล้อเล่นน่าเฮีย ผมทำไม่ได้หรอก""กูไม่ได้ล้อเล่น กูจริงจัง""เฮ้ย..ไม่ได้" เขาพูดกลั้วหัวเราะแล้วเก็บของลงกล่องต่อแต่รุ่นพี่กลับเดินไปเอากล่องที่เป็นเครื่องสักลายที่เขาติดตัวมาด้วยเอามาให้ขุนเขา "เฮ้ยพี่ มันจะติดตัวพี่ไปตลอดนะเว้ย ผมทำไม่ได้หรอกมือมันสั่น ไม่สวยหรอก""กูไม่ได้อยากได้ลายที่สวย แต่กูอยากได้ลายที่มึงสักให้กู เหมือนลายแรกที่กูให้มึงสักลงที่แขนกูไง" ขุนเขามองกล่องอุปกรณ์สักอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าปฏิเสธรุ่นพี่ แต่ทว่ารุ่นพี่เขากลับพยักหน้าให้ สายตาเขาบ่งบอกถึงความเชื่อใจในตัวขุนเขา"เอาจริงเหรอ คือผมไม่..""จริงดิวะ เอาหน่อยไหน ๆ ก็จะไม่สักแล้ว" รุ่นพี่เขาเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่เพิ่งเอามาลงใหม่ เตรียมตัวให้ขุนเขาสักเรียบร้อย"พี่..""มาสิ เอ
บทที่ 77 ตอนจบหลายเดือนต่อมาขุนเขานั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่ในสวนหลังบ้านหลังจากส่งงานให้รุ่นน้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะทำงานที่ตนเองชอบหรือการดีดกีตาร์แบบนี้"ร้องเพลงเสียงดังเชียว" เพียงเธอเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอเอ่ยแซวคนรักพลางหยิบคุกกี้ไปป้อนใส่ปากขุนเขาด้วย"อร่อยเหมือนเดิม" ขุนเขายิ้มกรุ้มกริ่มแล้วอ้าปากกินคุกกี้อีก"อร่อยใช่ไหมล่ะ เพียงเป็นคนทำเองกับมือเลย""อะไรที่เมียทำก็อร่อยหมดนั่นแหละครับ" เขายิ้มแล้วดีดทำนองเพลงรักให้เพียงเธอฟัง เธอยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างเขินอายก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง"เขินอะไรก่อน ไม่ชินอีกเหรอ""ก็พี่ขุนทำให้ชินตั้งแต่เมื่อไหร่เล่า ทำให้เพียงรู้สึกหวั่นไหวเหมือนตอนที่เราเจอกันใหม่ ๆ ทุกทีเลย" ขุนเขาหลุดยิ้มแล้วดีดกีตาร์ต่อ ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาละสายตาจากใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะแล้วกดรับสาย(เฮ้…ออกมาดื่มไหมครับ เย็นนี้มีปาร์ตี้ปิ้งย่างที่บ้านท่านป้อง) ปรินทักทายพร้อมเอ่ยชวนเพื่อนรัก ขุนเขาเงยหน้ามองเพียงเธอเป็