Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-06-21 13:25:46

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การพบกันโดยบังเอิญ และไม่ใช่การพบกันครั้งแรกระหว่างโรสกับโทบี... อันที่จริงเธอเคยเห็นเขามาแล้วครั้งหนึ่งที่บาร์เหล้าในไชนาทาวน์แห่งนี้...

เพียงได้เห็นแค่แวบเดียว แม่ม่ายชาวจีนก็ต้องสะดุดกับรูปร่างหน้าตาของเขาทันที เพราะเธอมั่นใจว่า หากเจโคบีบุตรชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากชายหนุ่มคนนี้สักกี่มากน้อย

โทบีมีรูปร่างสูงเพรียวอย่างชาวไอริช ซึ่งอัลเบิร์ตสามีของเธอก็มีส่วนสัดใกล้เคียงกัน ส่วนใบหน้าซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างชาวเอเชียและชาวยุโรปนั้นมีเอกลักษณ์โดดเด่นซึ่งลอกเลียนแบบได้ยาก แต่ช่างเหมาะเจาะพอดีเหลือเกินที่โทบีเองก็เป็นลูกครึ่งจีนที่ถอดแบบมาได้ใกล้เคียงกับบุตรชายของเธอแทบไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าเรือนผมและดวงตาสีดำขลับ ผิวพรรณเนียนละเอียดอย่างคนเอเชีย ผสมผสานกับเรือนผมหยักศก หรือโครงหน้าที่มีเหลี่ยมมุมเหมาะเจาะ และจมูกโด่งเป็นสันตามแบบพันธุกรรมของชาวยุโรป

เธอใช้เวลาสืบหาข้อมูลเขาเพียงไม่กี่วันก็รู้ว่าเขาพักอยู่ที่ไหน และจะตามหาตัวเขาได้อย่างไร แต่สิ่งที่จะจูงใจให้เขามาทำงานให้เธอ นอกจากผลประโยชน์เรื่องเงินทองแล้ว โรสก็จำเป็นต้องผูกมัดชายหนุ่มเอาไว้อีกชั้นหนึ่งด้วยหนี้บุญคุณ จึงเป็นที่มาของแผนการทั้งหมดในคืนนี้... แน่ล่ะว่าทั้งเจเน็ตและชายฉกรรจ์ที่ข่มขู่โทบีก็คือคนที่เธอว่าจ้างให้จัดฉากขึ้นทั้งนั้น...

“คุณต้องการให้ผมแสดงเป็นลูกชายของคุณที่หายสาบสูญไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนอย่างนั้นเหรอครับ...” โทบีทวนถามหลังจากที่โรสเล่าทุกอย่างให้เขาฟังหมดแล้ว

“ใช่ เขาถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่... ฉันคิดว่าเขา... เขาคงไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้วล่ะ ฮึก...” แม่ม่ายชาร์ลสตันแกล้งทำเป็นสะอื้นเบาๆ ดวงตาของเธอคลอไปด้วยหยดน้ำตาใสๆ สวมบทบาทของแม่ผู้สูญเสียได้อย่างน่าสะเทือนใจ “คุณเหมือนเขามากค่ะ... ถ้าคุณไม่ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะเรื่องพ่อแม่ของคุณ ฉันก็ยังมั่นใจว่าคุณต้องเป็นเจค็อบแน่ๆ...”

“แล้วทำไมคุณถึงอยากให้ผมทำตัวเป็นลูกชายของคุณด้วยล่ะครับ...” ชายหนุ่มยังไม่เข้าใจเหตุผล

“คุณเคยได้ยินชื่อ เคนเน็ธ ชาร์ลสตัน มาบ้างหรือเปล่า...” โรสไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง

“ผมเคยเห็นชื่อเขาในหนังสือพิมพ์ครับ...” โทบีพยักหน้า ยังมีสีหน้างุนงงอยู่ดี “มหาเศรษฐีคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ”

“ฉันจะพูดกับคุณตามตรงนะ... ฉันมีชื่อเต็มว่า โรส ชาร์ลสตัน เคนเน็ธเป็นพ่อสามีของฉันเอง แล้วเขาก็เป็นปู่ของเจค็อบ...”

“คุณนายชาร์ลสตัน...”

ชายหนุ่มรู้สึกตกใจเมื่อคิดว่ากำลังพูดคุยอยู่กับลูกสะใภ้ของมหาเศรษฐีระดับโลก... มิน่าล่ะ เงินแค่ห้าร้อยปอนด์เธอถึงโยนให้ไอ้กุ๊ยคนนั้นได้โดยไม่รู้สึกอะไร... ความจริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงมีฐานะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค้ตขนสัตว์ราคาแพงที่เธอสวม หรือรถคันโตโก้หรูที่เขากำลังนั่งอยู่ในเวลานี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะมีสถานภาพทางสังคมสูงถึงระดับนั้น...

“เคนเน็ธรักหลานชายของเขามาก ทั้งๆ ที่รูปการณ์ทุกอย่างบอกว่าเจค็อบกับสามีของฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่เคนเน็ธก็ยังปักใจเชื่อว่าเจค็อบมีชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่ง...” เธอถอนหายใจ ยกปลายนิ้วชี้ขึ้นเช็ดขอบตา “ตอนนี้พ่อสามีของฉันแก่มากแล้ว แล้วเขาก็ป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอด ฉันกลัวว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก... ฉันอยากให้เขาได้พบหลานชายที่เขารัก อยากให้เขาได้มีความสุขสมหวังในบั้นปลายของชีวิต...” โรสจงใจเรียกความเห็นใจจากชายหนุ่ม

“แต่... คุณจะให้ผม... ปลอมเป็นหลานของคนระดับนั้น... ผม... ผมทำไม่ได้หรอกครับ... ถ้าเขาจับได้ ผมต้องติดคุกแน่ๆ...”โทบีส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน

“ไม่มีใครจับได้หรอกน่า โทบี... แม้แต่ฉันที่เป็นแม่แท้ๆ ของเจค็อบก็ยังยืนยันว่าคุณเหมือนเขามาก... คิดดูให้ดีสิ คุณจะได้ใช้ชีวิตในฐานะหลานชายมหาเศรษฐีเชียวนะ... คุณจะมีเงินทองให้ใช้จ่ายมากมาย แค่ยอมสวมบทเป็นลูกชายของฉันไม่กี่ปีเท่านั้น...”

โทบีไม่ใช่คนโง่ ได้ฟังคำพูดของแม่ม่ายชาวจีนเพียงเท่านี้ เขาก็เดาได้ว่ามันต้องมีเหตุผลอย่างอื่นแอบแฝงอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ไม่มีใครให้ผลประโยชน์กับคนอื่นโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนหรอก

ชายหนุ่มหันไปมองโรสด้วยสายตาเคลือบแคลงใจ ขณะเดียวกันแม่ม่ายชาร์ลสตันก็นิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน... คนที่เธอเลือกมาใช้งานก็ดันมีมโนธรรมเสียอีก...

“เอาล่ะๆ ฉันจะพูดตามตรงก็ได้...” เมื่อเห็นว่าเธอหลอกเขาไม่ได้ โรสจึงตัดสินใจบอกความจริงบางส่วน “พ่อสามีของฉันทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับเจค็อบ แล้วถ้าเขาเกิดตายไปทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครหาตัวเจค็อบพบ มรดกทุกอย่างจะต้องตกเป็นของรัฐ... ฉันคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยนะ เคนเน็ธรักหลานชายจนกลายเป็นบ้าไปแล้ว... คุณลองคิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังสิ... คนงานของบริษัทในเครือชาร์ลสตันตั้งกี่ร้อยกี่พันคน คนรับใช้ในคฤหาสน์อีกไม่รู้กี่แห่ง แม้แต่ฉันที่เป็นลูกสะใภ้ เป็นแม่แท้ๆ ของเจค็อบ... ทุกคนจะไม่เหลือแม้แต่ที่ซุกหัวนอนอย่างนั้นเหรอ...”

แม่ม่ายชาวจีนพูดจริงบ้างไม่จริงบ้าง อาศัยว่าโทบีไม่มีความรู้เรื่องระบบบริหารงานของกองทุนดูแลทรัพย์สิน สร้างเรื่องพนักงานและคนรับใช้ตกงานให้ดูน่าเชื่อถือ

“ฉันคิดว่าพระเจ้ามีเหตุผลที่พาฉันให้มาพบคุณในคืนนี้นะโทบี... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก... ฉันเชื่อว่าพระเจ้าส่งคุณมาเพื่อที่จะช่วยเหลือพนักงานของชาร์ลสตันนับพันๆ คน ช่วยเหลือฉัน ช่วยเหลือเคนเน็ธ แล้วก็ช่วยเหลือตัวคุณเองด้วย...”

พระเจ้าเหรอ... พระเจ้าก็คือเธอนี่อย่างไรล่ะ...

“ถ้าผมยอมทำตามคำขอร้องของคุณ... ผมจะได้อะไรบ้าง...” ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตัวเอง กำหมัดทั้งสองแน่น นึกถึงชีวิตอันยากลำบากนับตั้งแต่สูญเสียบิดาไป... นึกถึงหนี้สินและดอกเบี้ยที่ยังรอการชดใช้อยู่ทุกๆ เดือน... และท้ายที่สุด เขานึกถึงเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อไม่กี่นาทีก่อน...

โทบีอุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ใช้ชีวิตเป็นคนดีในสังคมมาตลอดยี่สิบกว่าปี แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย... ชีวิตบัดซบอย่างนี้ควรจะจบลงได้แล้ว...

แม่ม่ายชาร์ลสตันพูดถูก... ไม่แน่พระเจ้าอาจจะดลบันดาลทุกอย่างให้เป็นอย่างนี้ก็ได้...

เขาไม่ได้คิดร้ายต่อใครนี่นา... เขาแค่ตอบแทนผู้มีพระคุณ ได้ช่วยผู้คนที่กำลังจะตกงาน แล้วยังได้ช่วยเยียวยาหัวใจให้ ชายแก่ผู้น่าสงสารอีกคนหนึ่ง...

“ได้อะไรอย่างนั้นเหรอ... ก็อย่างที่ฉันบอก คุณจะได้ใช้ชีวิตในฐานะหลานชายมหาเศรษฐียังไงล่ะ...”

“แล้วคุณล่ะครับ คุณจะได้อะไรจากเรื่องนี้...” โทบีมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ

“ฉันก็จะเป็นคนดูแลทุกอย่างที่เป็นชื่อของลูกชายฉันน่ะสิ...” เธอบอกเสียงเรียบ ดวงตาชั้นเดียวเรียวยาวเพ่งมองไปยังชายหนุ่มอย่างพิจารณา “คุณคงไม่คิดว่าทรัพย์สมบัติพวกนั้นจะตกเป็นของคุณหรอกใช่ไหม”

โทบีส่ายหน้า... เขาไม่สนใจหรอก จะอย่างไรของพวกนั้นมันก็ไม่ใช่ของเขาอยู่แล้ว... คนอย่างโทบี ขอแค่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ได้กินอิ่มนอนหลับ มีเงินใช้จ่ายโดยไม่ต้องอดมื้อกินมื้อเหมือนทุกวันนี้เขาก็พอใจแล้ว... ชายหนุ่มเพียงแต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะหลอกใช้เขา เหมือนที่เขาเพิ่งจะถูกเจเน็ตหลอกเมื่อชั่วโมงก่อนก็เท่านั้น...

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า... เคนเน็ธจะอุปถัมน์คุณเป็นอย่างดี เชื่อฉันสิ... แล้วไม่นาน หลังจากที่เขาตายไป คุณก็จะได้ค่าตอบแทนจากการช่วยเหลือฉันชนิดที่คุณไม่เคยคิดฝันเลยล่ะ โทบี... ตอนนั้น ถ้าคุณยังอยากจะใช้ชีวิตเป็นเจค็อบต่อไป หรืออยากจะหลบหน้าไปอยู่ที่ประเทศอื่นจนชั่วชีวิตก็แล้วแต่คุณ...”

เธอลอบหัวเราะในใจ... เมื่อถึงเวลานั้น โทบีจะยังมีชีวิตให้ใช้อยู่อีกหรือ เพราะเธอก็คงรีบกำจัดเขาทันทีที่หมดประโยชน์ อย่าหวังเลยว่าเธอจะเก็บหอกข้างแคร่เอาไว้ให้เกิดปัญหาในภายหลัง...

“ผมต้องทำยังไงบ้าง...”

“คุณแค่ทำตามที่ฉันบอกทุกอย่างก็พอ เริ่มตั้งแต่คืนนี้... แต่ก่อนอื่น ฉันจะพาคุณกลับไปหารือกันที่บ้านของฉัน เรื่องสิ่งที่เราต้องทำก่อนที่ฉันจะพาคุณไปพบกับเคนเน็ธ...”

“ถ้าอย่างนั้น ผมควรไปเก็บของที่อพาร์ตเมนต์ก่อน...”

“คุณมีของมีค่าอะไรที่นั่นเหรอ...” ดวงตาคมกริบของแม่ม่ายชาวจีนตวัดมองคล้ายกับนึกรำคาญ โทบีฟังแล้วหน้าร้อนผ่าว ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปอีก... ต่อไปนี้คุณต้องทิ้งทุกอย่าง โทบีตายไปแล้ว คุณคือเจค็อบ ลูกชายของฉัน และชีวิตที่สุขสบายก็กำลังรอคุณอยู่...”

ชายหนุ่มพยักหน้าให้เธอน้อยๆ ก่อนจะหลับตาลง ทิ้งศีรษะลงบนพนักพิงด้านหลังพร้อมกับถอนหายใจยาวๆ ภายในอกเต้นระทึกด้วยความรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเขาควรดีใจหรือกังวลใจกันแน่...

แต่จะอย่างไรโทบีก็ตัดสินใจแล้ว... ต่อไปนี้เขาจะไม่ใช่ลูกจ้างรายวันในร้านอาหารจีน... ไม่ใช่กรรมกรแบกหาม หาเช้ากินค่ำอีกต่อไป... เขาจะเป็น เจโคบี ชาร์ลสตัน หลานชายมหาเศรษฐีใหญ่ของอังกฤษ...

โรสมองอากัปกิริยาของอีกฝ่ายแล้วก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ มือหนึ่งบิดกุญแจสตาร์ตรถ อีกมือหนึ่งปลดเบรกมือ เข้าเกียร์ นำรถซีดานคันหรูออกจากริมบาทวิถี แล้วมุ่งตรงไปข้างหน้า ก่อนจะเลี้ยวซอกซอนไปตามเส้นทางเพื่อมุ่งสู่ใจกลางกรุงลอนดอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 30

    เสียงเคาะประตูของซาคาเรียในตอนพลบค่ำบอกให้รู้ว่าถึงเวลาอาหารค่ำแล้ว หลังจากอาศัยอยู่ในเรือซีเซอร์เพนต์มาหลายวัน หญิงสาวก็เริ่มเคยชินจนไม่คิดจะใส่ใจต่อการปรากฏตัวของบริกรประจำตัว เธอเพียงแค่เหลือบตาไปมองขณะที่ชายหนุ่มเดินผ่านปลายเตียงไป แทบจะไม่ขยับตัวเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้อนามิกาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าซาคาเรียไม่ได้ถือถาดใบใหญ่เข้ามาในห้องเหมือนทุกครั้ง เขาแค่เข้ามาเก็บถ้วยชามใช้แล้วบนโต๊ะอาหารเพียงเท่านั้นอย่าบอกว่ากัปตันบ้านั่นแกล้งลงโทษเธอเรื่องเมื่อตอนเย็นด้วยการให้อดข้าวอดน้ำนะ...“เอ่อ...” ครั้นจะเอ่ยปากถามขึ้นมา หม่อมราชวงศ์หญิงก็ห้ามใจตัวเองเอาไว้เสียก่อน...เรื่องอะไรจะยอมเสียหน้าล่ะ... ไม่ให้กินเธอก็ไม่ง้อหรอก...“หิวข้าวหรือยัง มาดมัวแซลล์” ซาคาเรียหันมาถามราวกับรู้ทันความคิดเธอ อนามิกาส่ายหน้าปฏิเสธ ทั้งที่ในกระเพาะอาหารรู้สึกแสบร้อนจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว “กัปตันบอกให้เธออาบน้ำแต่งตัว... เสร็จแล้วจะให้คนมารับไปกินข้าว...” เขาบอกต่อด้วยสำเนียงแปร่งๆ ไม่ต่างจากทุกครั้ง“หมายความว่ายังไงคะ” หญิงสาวขมวดคิ้ว นึกฉงน“ที่ระเบียงท้ายเรือจัดโต๊ะเอาไว้... คืนนี้เธอไปกินที่น

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 29

    ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิทยาเกี่ยวกับผู้หญิงก็จริง แต่ท่าทีและคำพูดของหญิงสาวก็พอจะบอกอะไรให้เขารู้อยู่บ้าง“เป็นของฝากสำหรับแม่... เป็นคนไทยเหมือนกับเธอนั่นแหละ”“คนไทยเหรอคะ” หม่อมราชวงศ์หญิงเบิกตากว้าง คุณเป็นลูกครึ่งไทยอย่างนั้นเหรอ”“ไม่ใช่... นีนาเป็นเหมือนแม่ของฉัน เธอเลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่เด็ก...”“แล้วพ่อแม่แท้ๆ ของคุณล่ะ”คิ้วของอัลวาโรขมวดมุ่นอย่างไม่ชอบใจ เขาเคยคิดว่าตัวเองสนุกกับนิสัยช่างต่อปากต่อคำของอนามิกา แต่เวลานี้เขารู้สึกว่าเธอพูดมากจนเขาชักจะเกลียดน้ำหน้าเสียแล้วสิ...อัลวาโรเติบโตขึ้นมาโดยมีอัลเฟรโดเป็นบิดาเพียงคนเดียวที่เขารู้จัก ชายหนุ่มจดจำเรื่องราวในวัยเด็กได้ไม่มากนัก และนรินทร์นารถก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องประเทศอังกฤษหรือเรื่องบิดามารดาแท้ๆ ของเขาอีกเลย บางครั้งที่เขาลืมตัวเอ่ยถามกับเธอ หญิงสาวก็จะมีท่าทางเศร้าซึมไป และอัลเฟรโดก็จะโกรธเขามาก มันจึงกลายเป็นเรื่องต้องห้ามซึ่งเขาไม่อยากพูดถึงแม้แต่น้อย“ตายไปหมดแล้ว ฉันมีแค่นีนากับอัลเฟรโดเท่านั้นที่เป็นพ่อแม่”น้ำเสียงและสีหน้าของคนตรงหน้าบอกให้รู้ว่าอนามิกากำลังเปิดหีบแพนโดราโดยไม่ตั

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 28

    คาซาบลังกาเป็นเมืองท่าที่สำคัญของโมร็อกโก เพราะนอกจากจะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแล้ว มันยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศอีกด้วยเรือซีเซอร์เพนต์เข้าจอดยังท่าเทียบของสโมสรเรือสำราญ นอติก เดอ ลา มารีน รอยัล ยอชต์คลับ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมือง บริเวณติดกันกับท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดยักษ์ที่กินอาณาเขตตลอดแนวชายฝั่งเป็นระยะทางเกือบสองไมล์อัลวาโรนำเธอลงจากเรือและเดินไปขึ้นรถลิมูซีนที่จอดรอให้บริการอยู่ด้านหน้าสโมสร ก่อนจะสั่งให้คนขับพาทั้งสองไปส่งยังแหล่งจับจ่ายสินค้าภายในตัวเมืองอนามิกาค่อนข้างแปลกใจที่พบว่าเมืองแห่งความรักอันแสนโรแมนติกแห่งนี้ ช่างแตกต่างไปจากภาพในความคิดของเธอเหลือเกิน เพราะปัจจุบัน สภาพความเจริญทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมได้เปลี่ยนคาซาบลังกาให้เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและผู้คน ดูไม่แตกต่างไปจากเมืองใหญ่ของประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปไม่ช้าความตื่นเต้นดีใจที่มีอยู่ลึกๆ ก็ค่อยๆ กลายเป็นความผิดหวัง... สิ่งเดียวที่พอจะปลอบประโลมความรู้สึกของหญิงสาวได้บ้างก็มีเพียงภาพหอคอยสูงสีขาวทรงสี่เหลี่ยมของมัสยิดกษัตริย์ฮัสซัน ที่ 2 ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทร

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 27

    นับตั้งแต่อัลวาโรเดินผลุนผลันออกไปในตอนเย็นเมื่อวาน เป็นเวลาเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วที่เขาไม่ได้กลับเข้ามาเหยียบห้องพักของเธออีก หม่อมราชวงศ์หญิงอนามิกาควรจะโล่งใจที่ไม่ต้องทนเจอผู้ชายหลงตัวเอง แถมยังคิดจะเอารัดเอาเปรียบเธออย่างนั้น แต่พอไม่ได้เห็นหน้าเขานานๆ หญิงสาวกลับรู้สึกเงียบเหงาและว้าเหว่อย่างบอกไม่ถูกตามปกติแล้ว เธอมีพวงพะยอมเป็นเพื่อนคอยอยู่ใกล้ชิดเกือบตลอดเวลา แต่ในเวลานี้คนเดียวที่เธอพอจะพูดคุยด้วยได้ก็เหลือเพียงแค่ซาคาเรีย ชายหนุ่มซึ่งมีหน้าที่คอยส่งอาหารให้วันละสามมื้อ แล้วเขาเองก็ไม่ค่อยจะยอมพูดอะไรกับเธอด้วยอนามิกากลิ้งตัวไปมาอยู่บนเตียงนอนนานเกือบชั่วโมง กว่าจะลุกขึ้นมานั่ง แล้วพบว่าเรือซีเซอร์เพนต์กำลังแล่นเข้าใกล้ชายฝั่ง... ทีแรกหญิงสาวยังคิดว่ามันเป็นเพียงภาพหลอน ต้องขยี้ตาอยู่หลายครั้งจึงมั่นใจว่าสถานที่ที่เธอมองเห็นตรงหน้าก็คือเมืองท่าที่เคยงดงามที่สุดของชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก เท่าที่เธอเคยรู้จักจากหนังสือนำเที่ยวและโปสการ์ดต่างๆ ในร้านหนังสือที่ฝรั่งเศสไม่ผิดแน่ๆ... ที่นี่ก็คือคาซาบลังกา หรือ ‘บ้านสีขาว’ ตามความหมายชื่อภาษาสเปนของมัน...เธอมาถึงโมร็อกโกแล้วหรื

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 26

    วินาทีนั้นหัวใจของเธอเต้นถี่รัวจวนเจียนจะหลุดออกมาจากหน้าอก สองขาที่ยืนอยู่เหมือนจะอ่อนแรงจนแทบทรุดลงไปนั่งกับพื้น กลิ่นลมหายใจสะอาดสดชื่น ผสมผสานกับกลิ่นอาฟเตอร์เชฟที่ติดค้างอยู่บนใบหน้า และกลิ่นอายเฉพาะตัวของผู้ชาย มอมเมาให้สมองของเธอปั่นป่วนราวกับพายุหม่อมราชวงศ์หญิงก็รู้สึกหวิวๆ ในช่องท้อง สลับกับอาการเสียวแปลบปลาบคล้ายคนเป็นเหน็บชาเวลาใกล้จะหาย มันเป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน แล้วมันก็ทำให้เธอเกือบโผเข้าไปซบแผ่นอกกว้างตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว“คุณมันบ้า... หลงตัวเอง...” อนามิการีบหลับตาลง ข่มสติตัวเองพร้อมๆ กับพยายามควบคุมลมหายใจที่กระชั้นถี่ให้สงบลง ไม่มีเสียงตอบจากกัปตันหนุ่ม มีเพียงสัมผัสอุ่นๆ นุ่มละมุนที่แตะลงบนเปลือกตาของเธอเบาๆ...“เธอจะยอมฉัน...” เสียงอัลวาโรยังคงเป็นเสียงกระซิบทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา หม่อมราชวงศ์หญิงก็ต้องลืมตาโพลง กัดริมฝีปากตัวเองแล้วจ้องเขม็งเข้าไปในแววตาของเขา...เธอเป็นราชนิกุลที่สืบทอดศักดิ์ศรีและสายเลือดมาจากบรรพบุรุษผู้สูงส่ง...เธอจะไม่ยอมหวั่นไหวไปกับอารมณ์หรือถ้อยคำปลุกปั่นใดๆ เป็นอันขาดคิดแล้วก็รีบผลักร่างกัปตันหนุ่มเต็มแรงจนเขาเซถอย

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 25

    ดวงตาของหม่อมราชวงศ์อนามิกายังจับจ้องอยู่ที่โคมไฟแก้วเจียระไนบนเพดานกลางห้องเหมือนเมื่อหลายนาทีก่อน ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ตามลำพังในห้องขังอันหรูหรา ในใจก็คอยครุ่นคิดถึงเหตุผลที่เธอต้องกลายมาเป็นเชลยอยู่บนเรือโจรสลัดลำนี้หญิงสาวเลิกกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองนานแล้ว เพราะหากกัปตันอัลวาโรคนนั้นคิดจะทำร้ายเธอจริงๆ ล่ะก็ เธอคงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้ เพียงแต่ยังไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มต้องการอะไรกันแน่เสียงปลดล็อกไฟฟ้าที่ประตูห้องทำให้อนามิกาตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะไม่นึกกลัวเขาอีก แต่ตราบใดที่เธอกับพวงพะยอมยังถูกขังอยู่ที่นี่ หญิงสาวก็ยังวางใจอะไรไม่ได้มาก อนามิกาจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันไปมองตามสัญชาตญาณทันที และพบว่าผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่กำลังวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอนั่นเอง“ตื่นแล้วเหรอ...” อัลวาโรเริ่มต้นบทสนทนาด้วยประโยคที่พอจะคิดออก แต่พอพูดไปแล้วกลับต้องขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดตัวเองที่ถามอะไรโง่ๆ ออกไป“คุณคิดว่าวันๆ ฉันจะนอนตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยเหรอคะ”“ก็ไม่แน่หรอก... เธออาจจะอยากต้อนรับฉันด้วยการนอนรอบนเตียงก็ได้นี่” กัปตันหนุ่มเหน็บกลั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status