Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-06-21 13:26:21

“ป่านนี้ยังมาไม่ถึงกันอีก... นี่ฉันจะอดใจรอไม่ไหวอยู่แล้วนะ เฮอร์แมน...” ชายชราผมสีเงินหันไปบ่นกับพ่อบ้านคนสนิทซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ขณะที่เขากำลังนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเก้าอี้โยกที่ระเบียงห้องนอน

“หมอบอกไม่ให้ใช้อารมณ์มากๆ นะครับ นายท่าน... เดี๋ยวอาการจะกำเริบขึ้นมาอีก...” เฮอร์แมนที่แก่ลงไปมากกล่าวเตือน

ตอนนี้พ่อบ้านวัยชราเองก็ต้องอาศัยไม้เท้าพยุงร่าง ไม่สามารถยืนเป็นเพื่อนคุยได้นานๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่เขาไม่ต้องการเกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้าน เพราะยังผูกพันกับผู้เป็นนายอยู่ ตั้งใจไว้ว่าจะฝังร่างที่คฤหาสน์ชาร์ลสตันไปพร้อมๆ กันกับเคนเน็ธ

ได้ฟังคำเตือนของเฮอร์แมน คนอยู่บนเก้าอี้โยกก็ยอมสงบปากคำลงไปบ้าง เขาจะไม่ยอมเป็นอะไรไปก่อนที่จะได้พบหลานชายสุดที่รักเป็นอันขาด ดวงตาขุ่นขาวภายใต้แว่นสายตาจ้องไปยังถนนที่โค้งหายเข้าไปหมู่ไม้ แม้จะฝ้าฟางจนมองอะไรไม่ชัดเจนแล้ว ก็ยังต้องการจะได้เห็นวินาทีที่รถของลูกสะใภ้วิ่งผ่านแนวป่าเข้ามายังคฤหาสน์หลังนี้

ด้วยวัยที่ล่วงเลยถึงแปดสิบเอ็ดปี เคนเน็ธ ชาร์ลสตัน ตัดสินใจวางมือจากการทำธุรกิจโดยเด็ดขาด ถือเพียงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ชาร์ลสตัน เทรดอิน คอร์ปอเรชั่น แล้วมอบหมายหน้าที่ดูแลงานทั้งหมดให้กับอดีตเลขาฯ ของเขา ผู้ซึ่งขึ้นรับตำแหน่งรองประธานบริษัทเมื่อสิบปีที่ผ่านมา ก่อนจะย้ายมาพักที่คฤหาสน์หลังโปรดในเฮสติงส์เป็นการถาวรนานกว่าเจ็ดปีแล้ว

หากเปรียบเทียบกับชาวอังกฤษทั่วไป นับว่ามหาเศรษฐีชราเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงมากทีเดียว เขาเพิ่งจะเริ่มล้มป่วยกระเสาะกระแสะด้วยโรคความดันโลหิตและโรคหัวใจก็ในปีหลังๆ แต่เคนเน็ธมักกล่าวกับคนรอบตัวอยู่บ่อยๆ ว่า การมีอายุยืนยาว แต่กลับไม่มีบุตรหลานเหลืออยู่สักคนอย่างนี้ มันไม่ต่างอะไรกับคำสาปเลยสักนิด

หลังจากมีอาการหัวใจวายอ่อนๆ เมื่อสามเดือนก่อน จู่ๆ เอ็ดเวิร์ด เทเลอร์ นักสืบประจำตัวที่เขามอบหมายให้คอยสอดส่องสะใภ้ชาวจีนเป็นครั้งคราว รวมทั้งคอยสืบหาเบาะแสของเจโคบีและนรินทร์นารถมาตลอด ก็แจ้งเข้ามาว่า โรสมีการติดต่อกับสำนักงานนักสืบฟ็อกซ์เป็นครั้งแรกในรอบสิบเจ็ดปี นับตั้งแต่ที่เธอเคยว่าจ้างฟ็อกซ์ให้ตามหาตัวอัลเบิร์ตและเจโคบี นอกจากนั้นก็ยังเดินทางไปประเทศสเปนติดๆ กันอีกหลายครั้งในช่วงเวลาสองสามเดือนนี้

แม้จะเคยคิดว่าโรสและอัลเบิร์ตอาจจะอยู่เบื้องหลังการลักพาตัวเจโคบี แต่หลังจากอัลเบิร์ตเองก็หายสาบสูญไปด้วย เคนเน็ธก็ไม่ติดใจสงสัยสะใภ้ม่ายของเขาอีก เพียงแต่การที่เขาให้เอ็ดเวิร์ดคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ก็เพื่อคอยช่วยเหลือเธอในเวลาจำเป็นเท่านั้น

หากข่าวที่ได้รับนี้ก็ทำให้มหาเศรษฐีชรารู้สึกแปลกใจ จึงกำชับให้นักสืบคนเก่าคนแก่ที่มีวัยย่างเข้าห้าสิบตอนปลาย ช่วยติดตามหาข้อเท็จจริง จนรู้ว่าโรสบังเอิญได้พบเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจโคบี ที่บาร์เซโลนา

เคนเน็ธเคยตั้งปณิธานเอาไว้ว่า ตราบใดที่ยังไม่ได้เห็นศพของหลานชายกับนรินทร์นารถด้วยตาของตัวเอง เขาจะไม่ยอมสิ้นหวังโดยเด็ดขาด ซึ่งข่าวเรื่องเจโคบีในครั้งนี้ก็เป็นยิ่งกว่ายาอายุวัฒนะขนานใดๆ ทั้งสิ้น

แล้วในที่สุด เมื่อวานนี้ โรสก็เป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหาเขาด้วยน้ำเสียงทั้งสะอึกสะอื้นทั้งดีใจ บอกว่าเธอพบตัวบุตรชายของเธอแล้ว และกำลังจะพามาเจอเขาในวันนี้

ถึงแม้เคนเน็ธจะตื่นเต้นดีใจมากแค่ไหน หากทว่าลางสังหรณ์อันเฉียบคมของเขาก็ยังบอกว่ามันอาจจะเป็นแผนการเพื่อผลประโยชน์ของสะใภ้ชาวจีนก็ได้ เพียงแต่เขามั่นใจว่าเธอจะไม่มีทางตบตาเขาได้ ต่อให้สรรหาใครมาอุปโลกน์เป็นเจโคบีก็ตาม...

และถ้าหากโรสเกิดคิดจะเล่นตลกกับเขาขึ้นมาจริงๆ แล้วล่ะก็ วันนี้นี่แหละคือเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้ใช้นามสกุลชาร์ลสตันอีก

“เฮอร์แมน ฉันรอวันนี้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว... แล้วแต่ละปีมันก็ช่างเชื่องช้าเหลือเกิน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าวันนี้เวลามันยังเดินช้ายิ่งกว่าสิบเจ็ดปีที่ผ่านมาเสียอีก...”

“ผมก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันครับนายท่าน” เฮอร์แมนตอบเสียงสั่นเครือ

ทุกครั้งที่เคนเน็ธพูดถึงคนที่จากไป เขาเองก็รู้สึกทุกข์ทรมานไม่ต่างกัน พอได้ยินถ้อยคำของผู้เป็นนาย น้ำตาก็พานไหลจากดวงตาเหี่ยวย่น จนต้องขยับแว่นตาแล้วยกผ้าเช็ดหน้าในมือขึ้นซับคราบเปียกชื้นเหล่านั้น

“สงสารก็แต่นีนา... เธอต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วยก็เพราะฉันแท้ๆ... เพราะฉันกำชับให้เธอคอยดูแลเจค็อบอย่างใกล้ชิด... แล้วนี่ คนที่กลับมาก็มีแต่เจค็อบคนเดียว... ส่วนนีนา...” มหาเศรษฐีชราหลับตาลงช้าๆ ปิดบังแววความเสียใจในดวงตาขุ่นขาวคู่นั้น...

ในสายตาของเคนเน็ธ ตั้งแต่วันที่เขารับเธอเป็นบุตรบุญธรรม เขาก็เห็นนรินทร์นารถเป็นเหมือนบุตรสาวแท้ๆ มาตลอด ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ยอมรับและมองตัวเองเป็นแค่พี่เลี้ยงของเจโคบีก็ตาม...

“ถ้าคุณเจค็อบปลอดภัย คุณนีนาเองก็ต้องปลอดภัยอยู่ที่ไหนซักแห่งแน่ๆ ครับ นายท่าน...”

“นั่นสินะ ฉันก็ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น...” เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “แต่ว่านะ เฮอร์แมน... ถึงยังไงฉันก็ยังอดสงสัยไม่ได้...” เคนเน็ธเหลือบไปมองพ่อบ้านผู้ซื่อสัตย์ของเขา

“สังสัยว่าคุณนายหาตัวคุณเจค็อบพบได้ยังไงทั้งๆ ที่นายท่านเองก็ยังหาไม่เจอใช่ไหมครับ...” เขาพูดราวกับอ่านความคิดของผู้เป็นนายออก

“ใช่... ฉันไม่เคยเลิกล้มการสืบหาตัวเจค็อบ ทั้งในสเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ไม่ว่าจะทุ่มเงินเท่าไหร่ฉันก็ไม่เคยเสียดาย ไม่เคยหมดความหวัง แต่นี่...”

“คุณเอ็ดเวิร์ดก็ไปค้นหาความจริงเรื่องนี้ด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอครับ... ผมว่ามันอาจจะเป็นเพราะโชคชะตา...”

“ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอจะยังตามหาลูกชายอยู่จนทุกวันนี้... เป็นแกแกจะเชื่อไหม...” เคนเน็ธพูดเหมือนกำลังถามตัวเอง “แต่เรื่องที่โรสเล่าว่า... เธอบังเอิญได้ข่าวของเจค็อบเมื่อสามเดือนก่อน ก็เลยเดินทางไปตามหาที่สเปนตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็จ้างฟ็อกซ์ให้ช่วยตามหาเขาด้วยอีกแรงก็เป็นความจริง ตรงตามที่เอ็ดเวิร์ดบอกเรา เธอไม่ได้โกหก...”

“วันนี้เป็นวันดีนะครับ นายท่าน... พอได้เจอหน้าคุณเจค็อบ นายท่านก็จะทราบเองว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก... ผมว่าตอนนี้เราอย่าเพิ่งคิดอะไรไปล่วงหน้าเลย เราควรดีใจกันมากกว่า...”

“จริงสินะ...” เคนเน็ธพึมพำก่อนจะยิ้มออกมาได้ คำพูดของเฮอร์แมนทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที

ตั้งแต่นรินทร์นารถและเจโคบีหายสาบสูญไป เฮอร์แมนก็เป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เขาอดทนรอมาได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่มีพ่อบ้านคนนี้เสียคนหนึ่ง เขาก็คงไม่มีชีวิตยืนยาวถึงวันที่ได้พบกับเจโคบีอีกครั้ง

“แกพูดถูกแล้ว ฉันมั่นใจว่าฉันจำหลานของตัวเองได้... ขอแค่เขาเป็นเจค็อบตัวจริง ไม่ว่าเรื่องอื่นจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญเลย...” เสียงที่เคยเข้มแข็งสั่นเครือไปชั่วขณะ ดวงตาเหี่ยวย่นตามวัยต้องหลั่งน้ำตาแห่งความปีติออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ จนเขาต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดโดยเร็ว พลางพูดกลบเกลื่อน “ให้ตายสิ!... ทำไมยังมาไม่ถึงกันสักที...”

เฮอร์แมนรู้ว่าผู้เป็นนายไม่เคยแสดงความอ่อนแอต่อหน้าใคร จึงแกล้งทำไม่รู้ไม่เห็นอะไร ส่วนเคนเน็ธก็ได้แต่เบือนหน้าออกไปยังถนนโค้งรูปเกือกม้าอีกครั้ง เฝ้ารอด้วยความหวังว่ารถยนต์ที่พาหลานชายเขากลับมาคืน จะปรากฏขึ้นไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 5

    “ป่านนี้ยังมาไม่ถึงกันอีก... นี่ฉันจะอดใจรอไม่ไหวอยู่แล้วนะ เฮอร์แมน...” ชายชราผมสีเงินหันไปบ่นกับพ่อบ้านคนสนิทซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ขณะที่เขากำลังนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเก้าอี้โยกที่ระเบียงห้องนอน“หมอบอกไม่ให้ใช้อารมณ์มากๆ นะครับ นายท่าน... เดี๋ยวอาการจะกำเริบขึ้นมาอีก...” เฮอร์แมนที่แก่ลงไปมากกล่าวเตือนตอนนี้พ่อบ้านวัยชราเองก็ต้องอาศัยไม้เท้าพยุงร่าง ไม่สามารถยืนเป็นเพื่อนคุยได้นานๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่เขาไม่ต้องการเกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้าน เพราะยังผูกพันกับผู้เป็นนายอยู่ ตั้งใจไว้ว่าจะฝังร่างที่คฤหาสน์ชาร์ลสตันไปพร้อมๆ กันกับเคนเน็ธได้ฟังคำเตือนของเฮอร์แมน คนอยู่บนเก้าอี้โยกก็ยอมสงบปากคำลงไปบ้าง เขาจะไม่ยอมเป็นอะไรไปก่อนที่จะได้พบหลานชายสุดที่รักเป็นอันขาด ดวงตาขุ่นขาวภายใต้แว่นสายตาจ้องไปยังถนนที่โค้งหายเข้าไปหมู่ไม้ แม้จะฝ้าฟางจนมองอะไรไม่ชัดเจนแล้ว ก็ยังต้องการจะได้เห็นวินาทีที่รถของลูกสะใภ้วิ่งผ่านแนวป่าเข้ามายังคฤหาสน์หลังนี้ด้วยวัยที่ล่วงเลยถึงแปดสิบเอ็ดปี เคนเน็ธ ชาร์ลสตัน ตัดสินใจวางมือจากการทำธุรกิจโดยเด็ดขาด ถือเพียงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ชาร์ลสตัน เทรดอิน

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 4

    แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การพบกันโดยบังเอิญ และไม่ใช่การพบกันครั้งแรกระหว่างโรสกับโทบี... อันที่จริงเธอเคยเห็นเขามาแล้วครั้งหนึ่งที่บาร์เหล้าในไชนาทาวน์แห่งนี้...เพียงได้เห็นแค่แวบเดียว แม่ม่ายชาวจีนก็ต้องสะดุดกับรูปร่างหน้าตาของเขาทันที เพราะเธอมั่นใจว่า หากเจโคบีบุตรชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากชายหนุ่มคนนี้สักกี่มากน้อยโทบีมีรูปร่างสูงเพรียวอย่างชาวไอริช ซึ่งอัลเบิร์ตสามีของเธอก็มีส่วนสัดใกล้เคียงกัน ส่วนใบหน้าซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างชาวเอเชียและชาวยุโรปนั้นมีเอกลักษณ์โดดเด่นซึ่งลอกเลียนแบบได้ยาก แต่ช่างเหมาะเจาะพอดีเหลือเกินที่โทบีเองก็เป็นลูกครึ่งจีนที่ถอดแบบมาได้ใกล้เคียงกับบุตรชายของเธอแทบไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าเรือนผมและดวงตาสีดำขลับ ผิวพรรณเนียนละเอียดอย่างคนเอเชีย ผสมผสานกับเรือนผมหยักศก หรือโครงหน้าที่มีเหลี่ยมมุมเหมาะเจาะ และจมูกโด่งเป็นสันตามแบบพันธุกรรมของชาวยุโรปเธอใช้เวลาสืบหาข้อมูลเขาเพียงไม่กี่วันก็รู้ว่าเขาพักอยู่ที่ไหน และจะตามหาตัวเขาได้อย่างไร แต่สิ่งที่จะจูงใจให้เขามาทำงานให้เธอ นอกจากผลประโยชน์เรื่องเงินทองแล้ว โรสก็จำเป็นต้องผูกมัดชายหนุ่มเอ

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 3

    “อุ๊ยตายแล้ว!” เจเน็ตอุทาน ยกมือทาบอก พลางผละออกจากร่างโทบีอย่างรวดเร็ว “แย่จังเลย ผัวฉันมา...” ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่หญิงสาวกลับเบ้ปาก ยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจอะไร แล้วก็เดินสะบัดสะบิ้ง แทรกผ่านคนที่เข้ามาใหม่ หายออกไปจากตรอก ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น“พี่ชาย... ทำไมมายุ่งกับเมียชาวบ้านอย่างนี้ล่ะ...” ว่าแล้วก็ล้วงวัตถุบางอย่างออกมาเคาะกับฝ่ามืออีกข้างช้าๆ แสงสลัวๆ จากถนนที่ส่องเข้ามาภายในตรอกสะท้อนจับอยู่บนวัตถุชิ้นนั้น บอกให้โทบีรู้ว่ามันเป็นโลหะที่วาววับและคมกริบชายหนุ่มใจหายวาบ รีบถกขอบกางเกงยีนส์ขึ้นมาติดกระดุมอย่างลนลาน “ผม...ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ... ผมไม่รู้ว่าเจเน็ตเป็นภรรยาของคุณ...” ใบหน้าเขาซีดเผือด ยังพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก “เธอ... เธอเป็นฝ่ายชวนผมมาเองนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ...”“อ้าว! พูดอย่างงี้ก็หมายความว่าเมียฉันใจง่ายน่ะสิ... ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยนะพี่ชาย...” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบพอเขาเดินเข้ามาใกล้ โทบีจึงเห็นชัดว่าเขาเป็นชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่เกือบสองเมตร ใบหน้าดุดันกำลังยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม มิหนำซ้ำยังยกวัตถุแบนๆ ในมือขึ้นไปเลียสองสามครั้งเ

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 2

    ในมุมมืดด้านในสุดของบาร์เหล้าโทรมๆ ร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มผมดำคนหนึ่งกำลังนั่งห่อไหล่อยู่อย่างหดหู่ท้อแท้ เขายกแก้ววิสกี้ในมือขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมด จากนั้นก็กระแทกกลับลงไปบนโต๊ะไม้เก่าๆ โดยไม่สนใจจังหวะอันสนุกสนานเร้าใจของบทเพลงสไตล์ริเวอร์แดนซ์ที่เปิดดังอึกทึกอยู่ในร้านยี่สิบหกปีก่อน หลังจากนายหยาง บิดาชาวจีนของ โทบี หยาง ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าเร่อยู่ในแคว้นเวลส์ ได้พบรักกับมารดาชาวไอริชจนให้กำเนิดเขา แต่ชีวิตคู่ของทั้งสองคนก็ต้องจบลงในหลายปีต่อมา เมื่อจู่ๆ เธอก็หนีไปกับนักดนตรีหนุ่มเชื้อชาติเดียวกัน ทิ้งให้เขาอยู่กับบิดาและเติบโตขึ้นด้วยการตระเวนไปทั่วเกาะอังกฤษพร้อมกับรถบรรทุกสินค้าคันเล็กๆที่ผ่านมาโทบีและผู้เป็นพ่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตภาพ จนกระทั่งสองปีก่อน นายหยางประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ทิ้งภาระหนี้สินจากการค้าขายเอาไว้ให้บุตรชายเป็นจำนวนหลายพันปอนด์ ทีแรกโทบีก็พยายามที่จะยึดอาชีพพ่อค้าเร่ตามรอยเท้าผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วทั้งยุโรป ทำให้เขายิ่งขาดทุนหนัก ในที่สุดจึงตัดสินใจขายรถบรรทุกสินค้าซึ่งเป็นมรดกชิ้นเดียวที่มีอยู่

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 2 เมียจอมโจร   บทที่ 1

    ภายในห้องนอนชั้นสี่ของแมนชั่นบนถนนพิกคาดิลลี กรุงลอนดอน... เสียงกรี๊งกร๊างซึ่งดังอยู่นานร่วมสามนาทีก็ปลุกให้เจ้าของร่างสะโอดสะองในชุดนอนผ้าซาตินสีสด คืบคลานจากอีกฟากของเตียงนอนขนาดใหญ่ เพื่อไปให้ถึงโทรศัพท์รูปทรงคลาสสิก สไตล์ยุค 60’s บนโต๊ะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งเธอคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมารับสายด้วยเสียงงัวเงียและหงุดหงิดถึงจะเป็นเวลาเกือบบ่ายโมงแล้ว แต่พิษสงจากวิสกี้ที่ดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากเมื่อคืนนี้ ทำให้สาวใหญ่ผู้มีวัยย่างเข้าห้าสิบสองปีแทบไม่อยากขยับตัวแม้แต่น้อย“สวัสดีครับ ขออนุญาตเรียนสายคุณนายชาร์ลสตันครับ...” เสียงในสายกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม โรสจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของเฮอร์แมน พ่อบ้านของ เคนเน็ธ ชาร์ลสตัน มหาเศรษฐีนักธุรกิจ ผู้เป็นพ่อสามีของเธอ“เฮอร์แมน...” เธอพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้เผลอโวยวาย อาละวาดใส่อีกฝ่าย “โทรมาหาฉันแต่เช้า มีอะไรหรือเปล่า...”“ผมมีข่าวไม่สู้ดีจะแจ้งให้ทราบน่ะครับ...” ได้ยินคำว่า ‘โทรมาแต่เช้า’ พ่อบ้านวัยชราถึงกับต้องหยิบนาฬิกาพกในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดูด้วยความไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่คิดจะทักท้วงอะไร “เอ่อ... เมื่อคืนนี้นายท่านมีอาการโรคหัวใจกำเริบอ่อนๆ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status