Share

รางวัลแด่คนทุ่มเท

last update Last Updated: 2025-10-11 17:51:19

“‘เป็นหมอทั้งคู่ไปรอดก็รอด ไปไม่รอดก็คือไม่รอด” เรื่องของคู่รักในอุดมคติที่เลิกรากันกลายเป็นประเด็นเม้ามอยไปทั่วโรงพยาบาล ยิ่งคนโดนกล่าวถึงมาอยู่ใกล้ ๆ มันยิ่งสร้างอรรถรส

“มันก็ทุกอาชีพปะ ไม่ใช่แค่หมอหรอก ดารงดาราคบกันเองเลิกกันก็เยอะ”

“เพราะอีโก้สูงทั้งคู่หรือเปล่า เวลาทะเลาะกันเลยไม่ยอมกัน นี่ว่าหมอเจย์โสดไม่นานหรอก หน้าตาระดับพระเอกซีรีส์เลยนะนั่น’ คนพูดบุ้ยใบ้ไปทางห้องที่เจ้าตัวพักฟื้น

“ล่าสุดหมอหนูนาก็มีคนมาดามใจแล้วนะ เหมือนพยายามไม่เปิดตัวนะแต่มีคนตาไวเห็นอยู่ดี แถมไม่ใช่ใครที่ไหนก็คุณไบเบิ้ลลูกชาย ผอ.นั่นแหละ”

“รักครั้งนี้อาจจะไปรอดก็ได้เพราะคุณไบเบิ้ลไม่ได้เป็นหมอเหมือน ผอ. กับพี่ชายเขา จริงหรือเปล่าที่ว่าโกงแล้วยังสอบตก”

เพียะ!

หนึ่งในกลุ่มคนตีแขนสั่งให้หยุดพูดเรื่องไม่ควรพูดและอย่าได้พูดให้เดชดำรงค์ได้ยินเป็นอันขาด

“กำแพงมีหูประตูมีช่องระหว่างทำงานที่นี่อย่าได้เผลอพูดออกมาเลยเชียว ถ้ามีคนได้ยินแล้วไปฟ้อง ผอ. เข้า พวกฉันไม่รู้ด้วยนะยะ” คนที่อาวุโสที่สุดในกลุ่มกำชับหนักแน่น

น่าสงสารหมอทั้งสองคนจัง เรื่องส่วนตัวแท้ ๆ ยังตกเป็นขี้ปากของมนุษย์ป้าพวกนี้ได้ อัยยาลิณณ์ท้าวศอกกับเคาน์เตอร์ยืนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายต้องรีบไปเตือนหมอเจย์สักหน่อย งั้นฟังเฉย ๆ แก้เบื่อก็แล้วกันนะไอ้ตาล

ตั้งแต่งานฟุตบอลประเพณีครั้งนั้น ทุกครั้งที่กล้องจับภาพไปที่กัปตันทีม CU จะมีเสียงกรี๊ดดังลั่นมาจากอัฑจรรย์ทั้งสองฝั่ง ยิ่งตอนดวลจุดโทษแล้วลูกบอลโค้งเข้าประตูอย่างสวยงามยิ่งทำให้นิสิตแพทย์คนนั้นป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่นิสิตด้วยกัน แม้จะมีเหยี่ยวข่าวมาบอกว่าจักรทัศน์มีคนรู้ใจแล้วแต่ก็ตาม ส่วนนีนลดาที่นั่งเชียร์บอลก็เกิดความคิดในทำนองที่ว่า…

สักวันจะต้องเป็นคนรู้ใจของจักรทัศน์บ้างให้ได้

หลายปีต่อมาเธอจับสลากได้มาเป็นแพทย์ใช้ทุนที่จังหวัดภูเก็ตและยังได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกับรุ่นพี่ที่เธอคลั่งไคล้อีกต่างหาก

เท่ากับว่าคำอธิษฐานเป็นจริง

โอกาสมาต้องคว้าไว้

นีนลดาอ้างเหตุผลเรื่องงานเพื่อเลิกกับแฟนคนปัจจุบันและรุกเข้าหาจักรทัศน์ ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องทำให้เริ่มต้นได้ไม่ยากเย็นนัก ต่อมาถึงได้รู้ว่าจักรทัศน์เป็นคนที่รักคนยาก อุทิศตัวเองให้กับงานเพื่อสังคมยิ่งกว่าอะไร ที่สำคัญเขาเป็นรักเด็กมาก ๆ และวางแผนเรียนต่อเฉพาะทางด้านจิตวิทยาเด็ก

ตลอดเวลาที่คบหากันจักรทัศน์ทำหน้าที่แฟนได้ดีตามแบบฉบับแฟนในอุดมคติ แต่ทำไมนีนลดารู้สึกตะหงิดใจเหมือนได้พี่ชายเพิ่มมาอีกคน ความสงสัยได้รับการคลี่คลายลงตอนที่เขาบอกเลิกเธอ

‘แม่งเอ๊ย ขนาดขึ้นเตียงรอแล้วยังมาบอกคิดแค่น้อง เชี่ย! ใครน้องมึงวะ!’ นีนลดาเดินกระแทกส้นรองเท้าไปก่นด่าไป ครู่ต่อมาน้ำตาก็รินอาบกรอบหน้า

ทำไมจักรทัศน์ถึงรักเธอแบบที่เธอรักเขาไม่ได้แล้วเหตุใดธาวินที่เพิ่งจะสนิทสนมกันได้ไม่นานถึงได้คลั่งไคล้เธอถึงถึงเพียงนี้ ขนาดลงพื้นที่มาเป็นแพทย์อาสานอกเขตอำเภอเมืองยังอุตส่าห์ขับรถมารับได้ทุกวี่ทุกวัน

“หนูนาอยากลาออกเหรอ เหนื่อยงานเหรอครับ” ธาวินถามหลังร่างบางบ่นเรื่องงานยาวเหยียดแล้วลงท้ายด้วยคำว่าลาออกเป็นครั้งร้อย หมดไฟเป็นครั้งที่ล้าน แต่เช้ามาก็ลุกไปทำงานอยู่ดี

“ก็พอสมควรค่ะ เพื่อน ๆ หนูนาแห่ลาออกกันเป็นแถวเลย” นีนลดาบ่นไปก็ทุบกำปั้นบนลาดบ่าไปพลาง เนื่องจากต้องนั่งก้มหน้าทำฟันทั้งวัน “พี่ไบเบิ้ลโชคดีที่ไหวตัวทัน คนเป็นหมอไม่อึดอยู่ไม่ได้อย่างที่ใคร ๆ ว่าไว้จริงด้วย”

“แต่ของพี่โชคร้ายมาก่อนโชคดีน่ะสิ กว่าพ่อจะปล่อยวางได้พี่เกือบโดนส่งไปเรียนเมืองนอกเลยนะ” คนมีฐานะมักลงโทษลูกด้วยการส่งไปอยู่ต่างประเทศเสมอ อันที่จริงธาวินก็เคยเป็นรุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยของนีนลดามาก่อนแต่เรียนได้แค่ 3 ปีก็ลาออกไปเรียนด้านสื่อสารมวลชนที่ตัวเองชอบแทน

เขาคนนี้แหละคือนักฟุตบอลทีม TU ที่ได้ใบแดงเพราะผู้ตัดสินมองว่าเจตนาเข้าสกัดจนจักรทัศน์ได้รับบาดเจ็บ

นีนลดายังคงบ่นปวดเมื่อยไม่หยุดจนธาวินเผยยิ้มน้อย ๆ ออกมา ขณะชะลอความเร็วรถลงเพราะสัญญาณไฟแดงตรงหน้า

“พี่ไบเบิ้ลยิ้มทำไมคะ”

“อันที่จริงพี่จองนวดสปาแบบจัดเต็มไว้ให้แล้วนะ แต่พี่ขอหนูนาอย่างเดียว…” เขาหันไปทางคนข้างตัว

“ขออะไรคะ” มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าเขาต้องการสื่ออะไร หลายสัปดาห์มานี้ก็ได้ธาวินมาเป็นสารถีคอยรับส่ง เลิกงานก็พาไปทานของอร่อยเต็มพลัง วันไหนเหนื่อยล้าจากการทำงานก็คอยปลอบโยนให้กำลังใจเรื่อยมา…เอาใจใส่ดีเหลือเกินไม่ต่างจากจักรทัศน์เลยสักนิด

“ไม่อยากเป็นพี่ชายแล้ว หนูนามาเป็นแฟนพี่หน่อยสิ” ธาวินเอ่ยปากอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีความขัดเขินเจือปนเลยแม้แต่น้อย

“พี่…พี่ไบเบิ้ลก็ หนูนา…คือ” นีนลดาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อน่าเอ็นดู ถูฝ่ามือเข้าด้วยกันเพื่อกลบเกลื่อนความเคอะเขินไปพลางจนคนรอฟังคำตอบอดยิ้มตามไม่ได้

“คืออะไรล่ะ อย่าช้าสิพี่ใจร้อนนะ”

“เอ่อ…หนูนาก็คิดว่าเราก็เหมือนคบกันแล้วนะ ถ้าคบกันจริง ๆ ก็คงโอเคแหละ”

“งั้นถ้าเป็นแฟนแล้วพี่ก็จับมือหนูนาได้แล้วใช่มั้ย” พอได้รับอนุญาตก็ประสานมือกันแน่นไปตลอดโดยหวังให้เธอจะลืมรักครั้งเก่าในเร็ววัน

เพราะธาวินกับจักรทัศน์ไม่กินเส้นกันมาตั้งแต่เรียนแพทย์แล้ว

มันเริ่มจากหลังสอบปลายภาคเมื่อหลายปีก่อน

‘ตอนอยู่ในห้องสอบพี่ไบเบิ้ลไม่สบายหรือเปล่าครับเห็นก้มหน้าท่าทางยุกยิก ๆ ตลอดเวลาเลย แล้ว…” คนโดนถามชะงักฝีเท้า ค่อย ๆ หันไปหาคู่สนทนาที่เป็นรุ่นน้องปีสอง

‘เมื่อกี้โยนอะไรทิ้งถังขยะเหรอครับ…’ เขาบุ้ยใบ้ข้ามไหล่ไปที่ถังขยะ ก่อนจะเหยียดยิ้มจนแก้มบุ๋มแล้วยื่นกระดาษที่ถูกขย้ำยับคืนให้

‘พี่ไบเบิ้ลไม่ได้อ่านในแชทเหรอครับว่ากรรมการจะตรวจถังขยะรอบห้องสอบด้วย ถ้าเจอโพยหรือสิ่งของน่าสงสัยจะต้องสอบใหม่ยกคลาส ระวังหน่อยสิครับ’

พอได้ยินดังนั้นรุ่นพี่ปีสามก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ธาวินสอบวิชาเป็นรอบที่ 3 แล้ว มิหนำซ้ำคืนก่อนวันสอบก็เอาแต่เที่ยวเล่นไม่ทบทวนบทเรียนจนต้องพึ่งพาโพยคำตอบ

ต้มตำราแล้วฉีดเข้าเส้นก็คงต้องทำ

‘เอ่อ…พี่ลืมไปน่ะ ยังไงก็ขอบคุณน้องเจย์มากนะที่ช่วยเก็บมาคืนให้พี่’ เขารับมันคืนมากำลังก้าวขาเดิน

‘แต่คำตอบมันผิดนะครับ’

‘ห๊า ว่า ว่าไงนะ’ ธาวินย่นคิ้วพลางเหลือบตามองสิ่งที่อยู่ในมือ

‘คำถามรอบนี้มันเปลี่ยนจากคำว่าและไปเป็นหรือ คำตอบของพี่ไบเบิ้ลมันเป็นไปตามข้อสอบเก่าที่ใช้คำว่าและน่ะครับ’ เมื่อคำเชื่อมประโยคเปลี่ยนไปความหมายย่อมเปลี่ยนไปจากเดิม…คำตอบก็เช่นกัน

ฉิบหายแล้ว!

‘แต่เจย์ไม่ฟ้องอาจารย์หรอกนะครับ ขี้เกียจจะอ่านหนังสือแล้วอยากนอนดูซีรีส์ อยากเตะบอล โชคดีนะครับพี่ไบเบิ้ล เจย์ขอตัวนะครับ’ จักรทัศน์อ้าปากหาวปิดท้าย ส่วนคนอึ้งซ้ำซ้อนก็ได้แต่ยืนหน้าซีดลำพัง

เปิดเทอมต่อมาก็ไม่มีใครเห็นธาวินมาเรียนอีกจนได้มาปะทะแข้งในสนามฟุตบอล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   ตอนพิเศษ (เจมีไนน์)

    บาร์รูฟท๊อปที่คืนนี้เต็มไปด้วยแสงไฟอบอุ่นและเสียงเปียโนคลอเบา ๆ เจมีไนน์ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ในสูทสีดำเข้ารูป เงาสะท้อนในแก้วคริสตัลทำให้ใบหน้าคมเข้มของเขาดูอ่อนกว่าที่เป็นจริงนิดหน่อย เขายิ้มต้อนรับลูกค้าเหมือนเช่นทุกคืน แต่สายตากลับสะดุดกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาหนุ่มคนนั้นอายุราว 26 – 27 ปี หน้าตาคมคายเหมือนจะเคยเห็นผ่านจอทีวีหรือบทสัมภาษณ์ทางออนไลน์ ที่สำคัญแววตาของเขายามสบกับตนมีแววเขินอายเล็ก ๆ จนคนที่ผ่านโลกมามากอย่างเจมีไนน์ยังเผลอหัวใจสะดุด“สายัณห์สวัสดิ์ครับคุณผู้ชาย จะรับอะไรดีครับ?” บาร์ทนเดอร์หนุ่มใหญ่เอ่ยเสียงนุ่ม“เอ่อ…เอาเป็น เอ่อ อะไรก็ได่แก้วนึงครับ” ชายหนุ่มยกยิ้มบางอย่างเก้ ๆ กัง ๆ คล้ายไม่คุ้นชินกับบรรยากาศบาร์หรู“ได้ครับ รบกวนรอสักครู่นะครับ”เจมีไนน์โชว์ลีลาการผสมเครื่องดื่มที่ใครเห็นก้ต้องหยุดมอง ครู่ต่อมาค็อกเทลสีอำพันจะถูกดันมาตรงหน้า หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมุมปากพลางโน้มตัวลงเล็กน้อย แสงไฟนวลเหนือบาร์ทอดเงาบนกรอบหน้าคมเข้มที่แม้ผ่านกาลเวลามากว่า 50 ปี แต่ยังดูน่าหลงใหลไม่ต่างจากชายหนุ่มวัยกลางคนทั่วไปหรืออาจจะยิ่งกว่านั้น“ลองชิมดูสิครับ สูตรพิเศษคืนนี้

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   อีกปีให้หลัง...

    ปีแรกในนอร์เวย์คือการเดินทางที่โหดหินที่สุดของชีวิตอัยยาลิณณ์ที่นี่ไม่ใช่เชียงราย อุณหภูมิที่หนาวจัด การสื่อสารที่ไม่คล่องแคล่วและกระบวนการรักษาที่ซับซ้อนกว่ามาก ทำให้ทุกวันเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจทุกครั้งที่เข้าสู่การทดลองปรับคลื่นสมอง เธอต้องนอนในห้องแล็บสีขาวที่มีเครื่องมือรุงรังติดเต็มศีรษะ แสงไฟจ้าและเสียงเครื่องจักรดังต่อเนื่อง จนบางทีแอบน้ำตาไหลเงียบ ๆ ใต้ผ้าห่มแต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่เคยคิดถอย เพราะรู้ว่ามีใครบางคนที่เฝ้ามองจากแดนไกล[สู้ ๆ นะ ตาลเอ๊ย พ่อแม่กับต้มอยู่ตรงนี้เสมอ][อีกไม่นานนะตาล รอเจย์ก่อน]ข้อความจากครอบครัว เพื่อนฝูงและจักรทัศน์ในวิดีโอคอลคือกำลังใจสำคัญแม้บางคืนเธอจะหลับลึกไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าวิญญาณก็ไม่เคยหลุดจากร่างอีกเลย มันคือสัญญาณว่าการรักษากำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง“อีกไม่นาน…เราจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแล้ว” อัยยาลิณณ์พึมพำกับตัวเองพร้อมกับกำมือแน่นและทุกครั้งที่เหนื่อยล้า ภาพรอยยิ้มของเขาก็จะปรากฏขึ้นในความคิดเสมอหนึ่งปีเต็มหลังยื่นเอกสารขอทุนเรียนต่อ ชีวิตของจักรทัศน์คือการวิ่งวนระหว่างงานโรงพยาบาล การสอนรุ่นน้องแ

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   การเริ่มต้นใหม่

    วันนี้คฤหาสน์วิวทะเลอันดามันของเจมีไนน์บรรยากาศคึกคักกว่าทุกครั้งเพราะมีนัดถ่ายภาพครอบครัวประทานชัยเซ็ตใหม่ภาพที่มีสมาชิกพร้อมหน้าอย่างแท้จริงกล้องตั้งอยู่บนขาตั้งหันหน้าออกไปทางวิวทะเลสีคราม เด็กชายวัยสามขวบอย่างขุนพลซึ่งเป็นลูกชายของพลพยัคฆ์วิ่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่หน้ากล้องทำเอาทุกคนเรียกหาด้วยความเอ็นดู เขาพยายามจะอุ้มแต่ก็โดนลูกชายดิ้นหนีเล่นซ่อนหากับคุณพ่อแทนสมาชิกใหม่อีกหนึ่งคนที่วัยเพียงหกเดือนในอ้อมกอดของคุณปู่สุดเฮี๊ยบอย่างเอื้อมพัฒน์ที่ประกาศกร้าวว่า…คืนนี้จะไม่เมาทำเอาทุกคนส่ายหัวพร้อมกัน“ขอบใจที่ให้ยืมบ้านจัดปาร์ตี้นะแดน” เมธากรพูด“ยินดีครับพี่เรย์”เจมีไนน์เองก็ไม่นึกว่าจะได้มีช่วงเวลานี้ ขณะยืนมองทุกคนด้วยแววตาอิ่มเอม หันไปมองไดอาน่าแล้วเหลือบมาทางหลานฝาแฝด จักรทัศน์กับเจนีนที่กำลังจัดแจงยืนบังแสงไฟให้พอดี เขาสูดลมหายใจลึกรู้สึกเหมือนฝันที่ได้ยืนอยู่ตรงนี้“ในที่สุด…ก็ไม่ต้องใช้วิธีตัดต่อโง่ ๆ อีกแล้วเนอะ” เขาพูดพลางหัวเราะแห้ง ๆ แล้วสารภาพกับทุกคนว่าเคยหยิบภาพถ่ายจากคอนโดมาสแกนตัต่อดตัวเองลงไป เพื่อให้รู้สึกว่ามีส่วนอยู่ด้วยเจนีนที่นั่งแต่งหน้าเติมปากแดงอยู่ก็ร้อง

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   เมื่ออาทิตย์ขึ้น

    หนึ่งสัปดาห์สุดท้ายของอัยยาลิณณ์ก่อนเดินทางไปนอร์เวย์ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำไหลที่ไม่เคยหยุด ทุกวันเต็มไปด้วยการเตรียมตัว ทั้งด้านเอกสารและสภาพร่างกายเธอต้องจัดเก็บแฟ้มรายงานการรักษาที่ผ่านมาทั้งหมด เอกสารภาษาไทยที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงหนังสือรับรองแพทย์ที่จักรทัศน์ช่วยประสานมาให้อย่างละเอียดบนโต๊ะทำงานเล็ก ๆ ในห้องนอนมีกองเอกสารที่เรียงเป็นตั้ง ๆ พร้อมปากกาไฮไลท์ที่ใช้เน้นข้อความสำคัญทุกคืนก่อนนอนเธอจะนั่งตรวจเช็กทีละหน้าเหมือนกลัวว่าจะตกหล่นอะไรสักอย่างในอีกด้านหนึ่ง อัยยาลิณณ์ก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่ พ่อกับแม่แทบจะไม่ปล่อยให้ลูกสาวอยู่ห่างสายตา ทำอาหารโปรดให้แทบทุกมื้อ ตั้งแต่แกงฮังเลสูตรคุณแม่ ไปจนถึงข้าวซอยเนื้อที่พ่อภูมิใจนำเสนอบ่อยครั้งที่เธอนั่งหัวเราะทั้งน้ำตา เพราะรู้ดีว่าทุกจานคือความรักและความห่วงใยที่ครอบครัวอยากส่งมอบให้ก่อนที่จะจากบ้านไปไกลแสนไกลอธิพงษ์ก็คอยตามติดแทบตลอดเวลา ชวนพี่สาวดูหนัง ตัดต่อคลิปเล่น ๆ หรือแม้แต่เล่นเกมคอนโซลด้วยกันเหมือนสมัยเด็ก แม้จะเถียงกันหยอกล้อเหมือนเคย แต่ในแววตาของน้องชายก็เต็มไปด้วยความห่วงใยที่ปิดไม่มิดคื

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   เมื่ออาทิตย์ตกดิน

    สองอาทิตย์เต็ม ๆ นับจากวันที่ส่งเอกสารชุดสุดท้ายไปยังนอร์เวย์ อัยยาลิณณ์ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด อาการเหนื่อยล้าเมื่อเดินไม่กี่ก้าวลดลง กล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงกลับมามีเรี่ยวแรงมากขึ้น แม้แพทย์จะยังย้ำว่าเธอควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่อัยยาลิณณ์ก็รู้สึกเหมือนได้กลับมาหายใจเต็มปอดอีกครั้งส่วนจักรทัศน์ แม้งานโรงพยาบาลที่ภูเก็ตจะรุมเร้า ทั้งเวรกลางวันกลางคืน แต่เขาไม่เคยพลาดจะโทรหรือวิดีโอคอลหาอัยยาลิณณ์ บางวันคุยเพียงไม่กี่นาทีก่อนเขาเข้าเคสฉุกเฉิน บางวันคุยนานจนเสียงหัวเราะของเธอดังไปทั้งบ้าน เหมือนทุกวินาทีของวันไม่วุ่นวายเกินกว่าจะหาเวลาให้กันได้กระทั่งคืนหนึ่ง ที่ห้องพักแพทย์“หือ ใครอะ!?” จักรทัศน์สะดุ้งเฮือก เมื่อหันมาเห็นเงาคนยืนอยู่ข้างเตียง“ตาลไง จะใครเล่า” ร่างเล็กมือเล็กไขว้ไว้ด้านหลัง รอยยิ้มหวานส่งมาให้“อ๋อ ตาลเองเหรอ เอ่อ…อืม ๆ เดือนนึงแล้วสินะ” เขาดันร่างขึ้นจากที่นอนพร้อมใบหน้าสะลืมสะลือ แต่ยังจำรายละเอียดได้แม่น วันนี้ครบเดือนพอดี หลังการหลับยาวจนเข้าขั้นวิกฤตของเธอ“ไหน ๆ ตาลก็มาคือตาลมีเรื่องจะสารภาพน่ะ ตาลพูดกับหมอก็ไม่ได้ พูดที่บ้านไม่ได้ มันอึดอัดมากเลย”

  • ความรัก...อาการเป็นไงบอกหมอซิ   ไม่ยอมแพ้

    “หน๊อย! ไอ้ฝรั่งมึง”จักรทัศน์สบถออกมาโดยลืมไปว่าพ่อตัวเองก็เป็นฝรั่งกว่าจะรวบรวมเอกสารได้ครบก็ปาเข้าไปเกือบสองสัปดาห์ ครอบครัวอัยยาลิณณ์ช่วยกันแทบทุกวัน ทั้งถ่ายเอกสาร เก็บแฟ้ม เรียงผลตรวจย้อนหลังตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมีอาการ ทุกคนเห็นพ้องกันว่ามันยุ่งยากสิ้นดี แต่ถ้านี่คือความหวังเดียวที่จะช่วยให้เธอหายขาด ทุกคนก็ยอมกัดฟันสู้โชคดีที่ระหว่างนั้นอัยยาลิณณ์ไม่ได้หลับลึกเพิ่ม อาการยังทรงตัวเมื่อเอกสารครบ ทุกอย่างก็ถูกสแกนส่งไปศูนย์วิจัยนอร์เวย์ ทุกคนถอนหายใจโล่งอก คิดว่าต่อจากนี้ก็เหลือเพียงรอผลการพิจารณาเท่านั้นแต่แล้วอีเมลตอบกลับก็มาพร้อมรายการยาวเหยียด ทั้งรายละเอียดเพิ่มเติม หนังสือรับรอง และที่สำคัญที่สุดคือ หนังสือยืนยันจากผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเชียงราย ว่าอัยยาลิณณ์เข้ารับการรักษาที่นั่นจริงปัญหาคือผู้อำนวยการเดินทางไปสัมมนาต่างประเทศและกว่าจะกลับอีกก็เกือบสองสัปดาห์ จักรทัศน์อ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมาจนแทบขึ้นใจ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“นี่มันอะไรกันนักหนา…หรือพวกนั้นกำลังเล่นตุกติก”“ถ้าต้องรออีกสองอาทิตย์…ตาลก็รอได้” อัยยาลิณณ์ถอนหายใจเบา ๆ“สองอาทิตย์?” จักรทัศน์เงยหน้าขึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status