ログインในขณะที่กวินประกาศออกไป น้องๆ นักศึกษาที่อยู่ในแถวไม่มีใครเดินออกมา ทำให้แบงก์กับพายุเริ่มสงสัยว่าใครเป็นน้องรหัสของพวกเขา ทำไมยังไม่มาพบจนหมดเวลาแล้ว
"รุ่นน้องคนไหน ได้คำใบ้ธนาคารกับเฮอร์ริเคนบ้างครับ" แบงก์เอ่ยถามออกไป ขณะที่นักศึกษารุ่นน้องเงียบกริบกันหมด
"ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า ยังมีน้องนักศึกษาสองคนไม่เจอพี่รหัส รู้ใช่ไหมครับกฎของเรา ใครยังไม่เจอพี่รหัสภายในสามสิบนาทีจะโดนทำโทษ" กวินพูดออกไปผ่านโทรโข่ง พวกเขาต้องแปลกใจ เมื่อไม่มีน้องศึกษาคนใดแสดงตัว
"เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ใครเจอพี่รหัสแล้วนั่งลง ใครที่ยังไม่เจอยืนอยู่กับที่ เดี๋ยวพวกพี่จะเดินเข้าไปหาเอง" สิ้นเสียงพูดของเก้า นักศึกษารุ่นน้องก็ทยอยกันนั่งลงจนหมดทุกคน
พายุรู้ดีว่าใครหายไป นักศึกษาหญิงสองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ แน่นอนอยู่ๆ ใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง เมื่อมันกำลังลุ้นว่าน้องรหัสของเขาจะใช่เธอคนนั้นหรือเปล่า นักศึกษาสาวที่เจอเมื่อตอนเช้าจะใช่แพรไหมหรือไม่ นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจของชายหนุ่ม
"ทุกคนนั่งลงกันหมด ช่วงเช้ายังลงทะเบียนกันครบ แสดงว่าสองคนนั้นต้องหลบออกไปจากโรงยิม" กวินพูดออกมาเสียงดังเพราะเขาใช้โทรโข่งประกาศก้อง ท่ามกลางน้องๆ นักศึกษาที่ตั้งใจฟัง
"แบบนี้ต้องทำโทษให้เข็ด ทำไมถึงกล้าหนีออกไปจากกิจกรรมแบบนี้" นั่นคือเสียงของแอนนี่ ที่ยืนประกบอยู่ข้างพายุ ท่าทางของเธอนั้นทำเหมือนกับว่าเป็นแฟนสาวของเขา คอยดูแลเทคแคร์ไม่ห่าง แม้ว่าชายหนุ่มจะรู้สึกรำคาญก็ตาม แต่เธอก็หล่อนก็ไม่แคร์
"บทลงโทษมีอยู่แล้ว แต่น้องนักศึกษาสองคนนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร เอารายชื่อมาเช็กดูสิแบงก์"
ในขณะที่กวินสั่งให้แบงก์เช็กรายชื่อ ริต้าและแพรไหมได้เดินตรงเข้ามายังโรงยิมพอดี ด้วยท่าทางที่รีบร้อน
"เร็วสิแพรไหม เธอจะเดินแบบหรือไง ชักช้าอยู่ได้เร็วเข้า!" ริต้าพูดพร้อมกับคว้าลงไปจับที่ข้อมือเรียวของแพรไหม แล้วลากเธอให้เดินอย่างเร็วไว ท่ามกลางสายตาของรุ่นพี่ และกลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่มองมายังเธอสองคนเป็นตาเดียวกัน
"นั่นไงว่าแล้วเชียว" พายุพูดสบถออกมาเบาๆ แต่สายตาของเขากลับจ้องมองไปที่สาวร่างเพรียวอย่างไม่กะพริบตา จนแอนนี่รู้สึกขัดหูขัดตากับท่าทีของพายุ ที่ดูสนใจรุ่นน้องเป็นพิเศษ
"มาด้านหน้าเลยครับ น้องทั้งสองคน" กวินเรียกให้แพรไหมกับริต้าออกมายืนด้านหน้า ขณะที่เธอนั้นกำลังจะเดินไปนั่งต่อแถวจากทางด้านหลังเพื่อน
นักศึกษาสาวทั้งสองเดินออกมา ท่ามกลางสายตาทุกคนที่จ้องมอง ที่สำคัญแพรไหมและริต้าสวยสะดุดตา จนไม่อาจจะหยุดมองได้ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนสนใจมากกว่าบทลงโทษที่ทั้งคู่นั้นจะได้รับ
"ก่อนอื่นพี่จะขอถามน้องนักศึกษาทั้งสอง เหตุผลที่มาช้าและไม่ตามหาพี่รหัสคืออะไร น้องไปทำอะไรมาครับ ทำไมถึงได้มาช้าและไม่ทำตามกติกาของพวกเรา"
กวินได้เอ่ยถามขึ้น ในขณะที่ริต้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตา เมื่อเธอกำลังคิดว่าเป็นสาเหตุให้เพื่อนใหม่อย่างแพรไหมโดนร่างแหไปด้วย ส่วนแพรไหมกลับยืนนิ่งเชิดหน้านิดๆ ราวกับนางพญา ความสวยของเธอกำลังสะดุดตาผู้ชายทั้งโรงยิม
"พวกเราสองคนไปทำธุระส่วนตัวมาค่ะ บทลงโทษคืออะไร เราสองคนยินดีรับ รีบบอกมาเถอะค่ะ จะได้ทำให้มันเสร็จๆ ไป"
หึ..หึ! พายุถึงกับสบถออกมาจากในลำคอ เธอสวยและใจกล้าอย่างนี้สิเขาชอบ บวกกับสีหน้าเชิดหยิ่งนั่น สายตาของเธอไม่ล่อกแล่กเขายิ่งชอบไปใหญ่ จนแอบลุ้นในใจขอให้เธอชื่อแพรไหมทีเถอะ
"บทลงโทษวิ่งรอบสนามฟุตบอล ข้างโรงยิมสิบรอบ" อลิซเป็นคนพูดขึ้น แน่นอนเธอไม่ถูกชะตากับสาวรุ่นน้องสองคน ที่ดูสวยสะดุดตากว่าพวกหล่อน แถมผู้ชายแก๊งไทเกอร์ยังมองไม่วางตา
"ฮ่ะ! .." ริต้าถึงกับอุทานออกมา เพราะเวลานี้เวลาเกือบสิบโมงเช้า แน่นอนแดดเมืองไทย ร้อนเสียจนเอากระทะไปตั้งไว้กลางแจ้ง แล้วทอดไข่ได้เลยทีเดียว
"สิบรอบมากเกินไปหรือเปล่าอลิซ เราว่าแค่ห้ารอบก็มากพอแล้ว เดี๋ยวน้องเขาจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน" เก้าพูดขึ้นมา ยิ่งทำให้อลิซรู้สึกขัดใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
"โอเค..น้องสองคนไปวิ่งได้ แล้วค่อยกลับมาบอกคำใบ้ แบงก์ไปนับรอบให้น้องด้วย เดี๋ยวพวกเราจะให้น้องๆ เล่นเกมอื่นรอ"
"พลอยจะไปกับแบงก์ด้วย" พูดจบพลอยก็เดินตามแบงก์และนักศึกษาหญิงรุ่นน้องสองคนไปติดๆ แพรไหมและริต้าเริ่มสตาร์ทวิ่งรอบสนาม ริต้ามองมาที่เพื่อนอย่างรู้สึกผิด แต่แพรไหมได้ส่งยิ้มกว้างไปให้ริต้าแทน
"ขอโทษนะแพรไหม..ที่ทำให้เธอพลอยโดนร่างแหไปด้วย" ริต้าพูดพร้อมกับหายใจหอบเหนื่อย แถมเธอยังรู้สึกจุกท้องไม่หาย แต่ก็พยายามฝืนวิ่ง เมื่อเธอเป็นต้นเหตุของบทลงโทษครั้งนี้
"อย่าคิดมากนะ คิดว่ากำลังวิ่งเพื่อไดเอทก็แล้วกัน"
"โห! กลางวันแสกๆ แดดเปรี้ยงๆ เนี่ยนะ ฉันชอบเธอจัง" อยู่ๆ ริต้าก็พูดออกมา จนแพรไหมรู้สึกขนลุกซู่
"อย่าบอกนะว่าเธอ เฮ้ย! ไม่นะ" แพรไหมกำลังเข้าใจผิดคิดว่าริต้านั้นชอบเธอ ในแบบที่หญิงชอบหญิงซึ่งแน่นอน เธอคิดกับริต้าแค่เพื่อนและมันไม่มีทางพัฒนาเป็นอื่นไปได้
"บ้า..คิดอะไรอยู่เนี่ยแพรไหม โอ๊ย! ..เหนื่อย" ทั้งสองวิ่งไปพูดกันไปแน่นอนมันก็เพลินบ้าง แต่ความเหนื่อยก็เพิ่มขึ้นเช่นกันเมื่อพลังงานที่เสียไปนั้น ทำให้ร่างกายทั้งสองเริ่มล้าเต็มที
"อีกรอบเดียว..สู้ๆ ริต้า.." ทั้งสองวิ่งมาถึงรอบสุดท้ายจนได้ ผิวที่เคยขาวผ่อง เวลานี้มันเริ่มแดงไปทั่วทั้งพวงแก้ม ยิ่งทำให้หน้ามองมากขึ้น "น้ำไหมครับ.." แบงก์ถามออกไป เมื่อสองสาวเดินเข้ามา จนทำให้พลอยรู้สึกหมั่นไส้
"แบงก์ทำไมต้องดูแลเทคแคร์ด้วยขนาดนั้นด้วย น้องเขามีมือมีเท้าเดินไปหยิบกินเองได้ ไม่ต้องบริการขนาดนี้หรอก" แต่แบงก์กลับไม่สนใจในคำพูดของพลอย เขาส่งน้ำให้สองสาวคนละขวด ทั้งสองไหว้ขอบคุณก่อนจะหยิบมาดื่มด้วยความกระหาย
"พี่หนูขอนั่งพักแป๊บนึงนะคะ"
"ไม่ได้! ทุกคนข้างในเขารอพวกเธอสองคนจะแย่แล้ว ทำไมชอบทำตัวเป็นจุดเด่น หรือว่าเรียกร้องความสนใจ" เมื่อริต้าเอ่ยปาก พลอยก็รีบพูดแทรกขึ้นทันที เพราะหล่อนไม่ชอบใจนักศึกษาสาวรุ่นน้องสองคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากริต้ากับแพรไหมสวยเด่นกว่าใครๆ แถมหุ่นระดับนางแบบทั้งสองคน
"ไปเถอะริต้า" แพรไหมผู้ไม่สนใจโลก กำลังรู้สึกไม่ถูกโฉลกกับรุ่นพี่นักศึกษาสาวตรงหน้า เธอจึงรีบคว้ามือริต้าเดินเข้าไปในโรงยิมทันที
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







![จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)