Share

คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก
คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก
Penulis: เงินตำลึง

บทที่ 1

Penulis: เงินตำลึง
ผมกับรูมเมทนัดกันจะลงไปทานอาหารมื้อเย็น ทว่าทันทีที่ก้าวถึงชั้นล่าง เจียงจั๋วหราน ก็พลันหยุดชะงักฝีเท้าลง

「เดี๋ยวนะ ฉันลืมกุญแจ เดี๋ยวกลับไปเอาแป๊บเดียว」

เขาผละมือที่กำลังโอบไหล่ผมเมื่อครู่ออก ก่อนจะเริ่มออกตัวสับฝีเท้าวิ่งไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว แล้วหันกลับมาส่งรอยยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น「รอก่อนนะ เดี๋ยวรีบกลับมา」

เมื่อสิ้นประโยค ร่างของเขาก็หายลับไปตรงมุมบันไดอย่างรวดเร็ว

ผมพยักหน้าตอบรับ แม้จะรู้ว่า ในวินาทีนั้นเขาคงมองไม่เห็นการตอบรับของผมแล้วก็ตาม

ผู้คนยังคงเดินผ่านไปมาอย่างไม่ขาดสาย ผมได้แต่ยืนหลบมุมอยู่ตรงนั้น ลูบใบหน้าที่ถูกลมหนาวปะทะจนเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง

หน้าจอโทรศัพท์ยังคงแสดงข้อความที่ผมส่งถึงเจียงจั๋วหรานเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่ทว่าก็ไร้ซึ่งการตอบกลับใด ๆ

ในที่สุด ผมตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า พร้อมกับหันหลังเดินกลับเข้าไปยังห้องพัก

ประตูห้องที่ถูกแง้มทิ้งไว้เพียงครึ่งบาน ทำให้ใจผมพลันสั่นสะท้านอย่างฉับพลัน ความรู้สึกกังวลอย่างไม่มีสาเหตุถาโถมเข้ามา

ผมใช้มือขวาแตะบานประตูตรงหน้า แล้วค่อย ๆ ผลักออกอย่างช้า ๆ จนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูที่บาดลึกความเงียบ

ภาพที่เห็นคือแผ่นหลังของเจียงจั๋วหรานที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เมื่อเขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว จึงหันกลับมาสบตาผม ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนยากจะหยั่งถึง

เจียงจั๋วหรานค่อย ๆ เบี่ยงกายเล็กน้อย ซึ่งเพียงพอให้ผมเห็นสมุดไดอารีที่เปิดอ้าอยู่บนโต๊ะ และในมือขวาของเขาถือภาพถ่ายใบหนึ่งเอาไว้

ภาพนั้น ที่จริงแล้วมันควรถูกคั่นเก็บไว้อย่างดีในสมุดไดอารีเล่มนั้น

ม่านตาของผมสั่นไหวเล็กน้อยอย่างเสียการควบคุม เจียงจั๋วหรานเห็นหมดแล้ว เขารู้แล้ว รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว

หลังจากความเงียบเข้าปกคลุมอยู่นานหลายนาที ในที่สุดเขาก็ขยับริมฝีปากเรียวบางนั้น ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยากเย็นแสนเข็ญว่า 「นาย ชอบฉัน?」

ในลำคอของผมพลันเกิดรสขมฝาดเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยคำตอบใด ๆ ออกมาได้

ทว่า เจียงจั๋วหรานก็รู้ดีอยู่แล้ว ว่าผมไม่อาจหาข้อแก้ตัวใดมาปฏิเสธความจริงนี้ได้

ผมเห็นสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนอย่างยากจะบรรยาย คิ้วขมวดแน่นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว จนใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อย

เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เจียงจั๋วหรานก็ผละผ่านร่างของผมไปอย่างรวดเร็ว เขารีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ และจากนั้น เสียงอาเจียนอย่างรุนแรงก็ดังลอดออกมาจากด้านใน

ร่างกายของผมสั่นเทาไปทั่วจนแทบจะทรงตัวยืนไว้ไม่อยู่

ผมฝืนประคองตัวเองเดินไปหยิบภาพถ่ายใบนั้นที่ถูกเจียงจั๋วหรานทิ้งขว้างลงบนพื้นขึ้นมา

นั่นคือภาพที่ผมแอบถ่ายตอนที่เขากำลังหลับ และด้านหลังภาพใบนั้นมีข้อความที่ผมเขียนเองกับมือว่า

[ฉันชอบเจียงจั๋วหราน ต่อให้ในชีวิตนี้เขาจะไม่รู้เลยก็ตาม]

นิ้วมือของผมสั่นระริก ก่อนจะกำภาพถ่ายใบนั้นไว้ในฝ่ามืออย่างแรง จนมันยับยู่ยี่ กลายเป็นเพียงเศษกระดาษที่ไร้ค่าไม่ต่างจากขยะ

แสงแดดจ้าจากนอกหน้าต่างที่สาดส่องเข้ามาบาดตา มันช่างเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบจะกลั้นหยดน้ำใส ๆ ไว้ไม่ไหว

เจียงจั๋วหรานเป็นที่รักของผู้คนมากมาย เขาเป็นคนที่มีใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสมบูรณ์แบบ ไหล่กว้างสง่ารับกับขาเรียวยาวดุจรูปปั้น คิ้วของเขาคมสวยดุจภาพวาด ประกอบกับดวงตาที่เปี่ยมเสน่ห์จนไร้ที่ติ ชวนให้ผู้คนหลงไหล เขาทั้งยังเก่งกาจในการเข้าสังคม มีเพื่อนฝูงอยู่ทั่วทั้งรั้วมหาลัย

นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบเขา ผมก็รู้ได้ในทันทีเลยว่า เราทั้งสองนั้นแตกต่างกันมากเพียงใด

ย้อนกลับไปในวันนั้น ผมกำลังจัดที่นอน เจียงจั๋วหรานเป็นฝ่ายเดินเข้ามาพร้อมทั้งเอ่ยถามชื่อผม

「เฉินถิง」

เขามองมาที่ผมด้วยแววตาจริงจัง「สะกดยังไง?」

ผมหยุดมือที่กำลังจัดของ ก่อนจะหันไปสบตาเจ้าของคำถามนั้น แล้วตอบกลับไป「ฉอฉิ่ง สระเอิน นอหนู เฉิน ถอถุง สระอุ งองู ถิง」

เจียงจั๋วหรานพยักหน้าตามอย่างเข้าใจ「อ้อ ถิงถิงนี่เอง」

รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา เปรียบดุจลำแสงสว่างที่เฉิดฉายออกมา มันเจิดจ้าเสียจนผมเกรงว่าจะบาดตา จึงรีบละสายตาออกจากใบหน้านั้นในทันที

เจียงจั๋วหรานคือเพื่อนที่หายาก ในวันที่หิมะโปรยปราย เขายังอุตส่าห์ออกไปซื้อซุปเห็ดหูหนูมาให้ผมโดยเฉพาะ และยังคอยดูแลผมตลอดทั้งคืนในวันที่ผมล้มป่วย

เขาชอบเล่นบาสเกตบอล แม้ผมเล่นไม่เป็น เขาก็จะอ้อนวอนให้ผมไปเชียร์เขาที่ข้างสนาม

「ถิงถิง เดี๋ยวฉันคว้าแชมป์มาให้นายเลยเป็นไง ดีไหม?」

และในคืนฤดูหนาวที่อากาศหนาวเหน็บ เขายังเคยคลานเข้ามาซุกในผ้าห่มของผม ทั้งยื่นมือเข้ามาในอ้อมแขนผมแล้วพูดว่า「ถิงถิง ตัวนายอุ่นจังเลยอ่ะ」

จนเพื่อนรูมเมทอีกคนถึงกับทนไม่ไหว ต้องบ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายว่า「วัน ๆ เอาแต่เรียก ถิงถิง ถิงถิง ไม่เลี่ยนบ้างหรือไง? ถ้าคนไม่รู้มาได้ยินเข้าคงคิดว่ากำลังเรียกแฟนอยู่」

ผมได้แต่ก้มหน้าลงจมดิ่งอยู่ในความเงียบงัน ทว่าเจียงจั๋วหรานกลับไม่สะทกสะท้าน ดึงผมเข้าสู่อ้อมแขนของเขา ก่อนจะประทับรอยริมฝีปากบางนั้นลงบนข้างแก้มของผมอย่างจงใจ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 11

    ผมหน้าแดงก่ำพลางเดินขึ้นไปบนเวที ทว่าลู่จวิ้นยังคงพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดหย่อน「เป็นไง? หล่อไหม?」ผมชกไปที่ไหล่เขาเบา ๆ เขาไม่กลัวสายตาพิฆาตของเหล่าบรรดาผู้บริหารเลยหรือไงกัน「พอได้หรือยัง」「ว่าไงนะ?」ลู่จวิ้นพลันคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วล้วงแหวนเพชรออกมาจากอก「ถิงถิง แต่งงานกับฉันนะ?」ความเปิดเผยของลู่จวิ้นเช่นนี้ ทำให้คลิปวิดิโอเผยแพร่กระจายออกไปทั่วอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วผมซ่อนตัวอยู่ในห้อง อายจนไม่กล้าออกไปข้างนอก「ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค้าบ ที่รัก ยกโทษให้ผมนะ ที่รักจะซ่อนตัวอยุ่ในผ้าห่มไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ」แม้ว่าลู่จวิ้นจะพูดจนปากเปียกปากแฉะมากแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมลุกออกจากที่นอนเป็นอันขาด ดังนั้นเขาจึงต้องจำยอมปล่อยผมอยู่อย่างนั้น「ก็ได้ เดี๋ยวผมไปต่อแถวซื้อขนมจากร้านขนมหวานไม่มีบริการส่งนั่น ให้กับที่รักที่ชอบทานให้นะครับ หวังว่าเท่านี้ที่รักจะยอมกินอะไรบ้างนะ」ลู่จวิ้นยอมแพ้แล้วเดินออกมาจากห้องไป แต่ในไม่ช้า ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้งผมแง้มผ้าห่มออกดู และพบว่าคนที่ยืนอยู่คือ สุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง「นายเองสินะที่เป็นแฟนลูกชายฉัน」หัวใจดวงน้อย ๆ ของผม

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 10

    「ถิงถิง มานอนกับฉันโอเคไหม」ใบหน้าของลู่จวิ้นนั้นมีอำนาจทำลายล้างสูงมากจริง ๆ ผมพยายามรวบรวมสติก้อนสุดท้ายและปฏิเสธออกไป「ไม่เอา」ลู่จวิ้นได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าอาลัยเสียดายออกมาอย่างชัดเจน ราวกับไม่ต้องการให้ความใกล้ชิดนี้จบลง ก่อนที่เขาจะยื่นมือมาประคองใบหน้าเรียวเล็กของผมอย่างแผ่วเบา แล้วบรรจงประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากของผมอย่างอ่อนโยน「ก็ได้ งั้นขอจูบราตรีสวัสดิ์หน่อยแล้วกัน」ผมถูกคนตรงหน้าจู่โจมด้วยจูบจนใบหน้าแดงซ่านไปหมด หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะลงแรงฟาดฝ่ามือใส่เขาเบา ๆ อย่างขัดเขิน「ไอ้บ้า」ลู่จวิ้นรวบมือของผมที่เพิ่งจะใช้ฟาดร่างเขาไว้ได้อย่างทันควัน พร้อมกับดึงขึ้นมาประทับรอยจูบอีกครั้งลงบนฝ่ามือของผม「อืม ฉันมันบ้า เจ้าชายตัวน้อยของผมไปพักผ่อนเถอะ ราตรีสวัสดิ์」ผมเคลิ้มไปกับรอยยิ้มของเขาจนมึนเมาเล็กน้อย แต่ทันทีที่เดินลงบันไดไป ผมก็ได้ยินเสียงสนทนาที่ดังออกมาจากมุมตึก「ลู่จวิ้นจากมหาวิทยาลัย A เป็นคู่แข่งตัวฉกาจในการคว้าเหรียญทอง แต่ไม่ต้องห่วง ฉันแอบใส่ยาในนมของเขาแล้ว เดี๋ยวอีกสีกพักจะส่งผู้หญิงเข้า รับรองว่าเขาต้อง...」ผมรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างเร่งรีบ และกระแ

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 9

    ดวงตาของเขานั่นแฝงไปด้วยรอยยิ้ม「จำวิดิโอสั้นนั้นได้ไหม? ฉันสืบเจอฆาตกรแล้วใช่ไหมล่ะ?」ผมได้แต่ส่งเสียง อืม ในลำคออย่างเงียบ ๆ รอให้เขาพูดต่อ「เป็นเด็กภาคคอมพิวเตอร์ ชื่อจางเฉิง」ลู่จวิ้นหัวเราะออกมาและพูดต่อว่า「ฉันเคยสัญญากันนาย ว่าจะไม่สืบเรื่องนี้ต่อ」เขาใช้นิ้วลากวาดไปตามคิ้วและดวงตาของผมอย่างละเอียด「แต่จะให้ฉันปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไง」ลู่จวิ้นพลันพลิกตัวขึ้นคร่อมผมอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งซบศรีษะลงตรงซอกไหล่ของผมอย่างออดอ้อนและพูดต่อว่า「ดังนั้น ตอนที่เขากำลังหาซื้อบริการทางเพศ ฉันเลยจงใจให้คนส่งที่อยู่โรงแรมไปให้เขา แล้วไปรออยู่ที่นั่น」「ไอ้สวะไร้ประโยชน์นั่น ทนมือทนเท้าฉันได้ไม่ถึงสองนาทีก็ล้มลงกับพื้น หมดสภาพแล้ว」「ฉันใช้คีมถอนฟันของเขาไปหนึ่งซี่ เป็นสิ่งที่เขาต้องจ่ายที่กล้าเผยแพร่ข่าวปลอม」ลู่จวิ้นนำริมฝีปากร้อนอุ่นฝังลงบนซอกคอของผม「อันที่จริงฉันอยากให้เขามาคุกเข่าขอโทษนาย แต่มันไม่ยอม」ปลายผมของเขาทิ่มแทงผิวหนัง จนผมรู้สึกคันยิบ ๆ เล็กน้อยผมผลักแขนเขาเบา ๆ 「ลู่จวิ้น นายลงมาได้แล้ว」ลู่จวิ้นไม่ยอมผละออก เสียงหัวใจของเขาเต้นดังชัดเจนผ่านทะลุเนื้อผ้าเข้ามาในหูของผมเข

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 8

    แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ทรุดเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าผม เพื่อปรับระดับของเราทั้งสองให้อยู่ในระนาบเดียวกันดวงตาคู่นี้ของผมนั่นแดงจนแทบจะเป็นสีเลือด ผมคิดว่ามันคงจะน่ากลัวมาก ๆ เลยทีเดียวทว่าลู่จวิ้นกลับเพียงแค่หรี่ตามอง และพูดออกมาว่า「หลับตาซะ」เขาพูดออกคำสั่ง และตัวผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย ในวินาทีต่อมา ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังนำริมฝีปากที่ร้อนอุ่นนั่นมาประคบลงบนเปลือกตาผมอย่างแผ่วเบาผมก้มศรีษะลงเล็กน้อย พร้อมกับคว้าไหล่ของเขาไว้ ราวกับคนจมน้ำที่กำลังยึดจับฟางเส้นสุดท้ายน้ำตาหยดน้อย ๆ พรั่งพรูออกมาจนเปียกชุ่มไปทั่วเสื้อเชิ้ตของเขา ผมได้แต่เรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า「ลู่จวิ้น ลู่จวิ้น...」ลู่จวิ้นเอื้อมมือมาลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน「อืม ฉันอยู่ตรงนี้」คนปริศนาที่อับโหลดวิดิโอสั้นนั้นถูกสืบเจอแล้ว ลู่จวิ้นถามผมว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ ผมจึงส่ายหน้าเขามีท่าทีเข้าใจทุกอย่างในทันที「ได้」ผมไม่อยากอยู่ที่หอพักอีกต่อไป แม้แต่วินาทีเดียว ลู่จวิ้นเอ่ยขึ้นอย่างเชื้องช้าว่า 「งั้นมาอยู่กับฉันไหม」ผมกัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับพยักหน้าเป็นการตอบกลับลู่จวิ้นมีบ้านพักตากอากาศอยู่ในเมื่องนี้ ผมสงสัยมาตลอดว่

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 7

    จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามายืนขว้างที่หน้าผม เธอมองผมด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย「นายไม่เป็นไรนะ? เรื่องวิดิโอน่ะ... นายเป็นคนดีมากเลย อย่าให้เรื่องนี้มากระทบนายได้ล่ะ」ในทันใดนั้น กระแสความอบอุ่นก็เอ่อท่วมขึ้นมาในใจผม「ขอบคุณนะ」จากนั้นเธอยิ้มกว้างอย่างสดใส「ขอบคุณอะไรกัน นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว」ผมเดินไปอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เป็นป่าผืนหนึ่งด้านหน้ามีเงาของคนสองคนอยู่ลาง ๆ ผมจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพบว่าหนึ่งในนั้นคือ เจียงจั๋วหรานชายอีกคนดูมีท่าทีร้อนรนเล็กน้อย「พี่เจียง ผมทำไปก็แค่เพื่อช่วยพี่แก้แค้น ก็เลยอับวิดิโอนี้ไป」เจียงจั๋วหรานได้ยินดังนั้น จึงกระชากคอเสื้อของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาทันที「แกพูดว่าอะไรนะ!」นักศึกษาชายคนนั้นส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ「ไม่ใช่ว่าพี่เองหรอกเหรอที่ตอนเมาเอาแต่บอกว่าเกลียดเฉินถิง?พี่ถึงขนาดบอกว่า ที่เฉินถิงชอบพี่น่ะ ทำให้พี่รู้สึกขยะแขยงจนแทบจะทนไม่ไหว」「พี่เจียง พี่ต้องช่วยผมนะ」เจียงจั๋วหรานปล่อยมือลงอย่างอ่อนแรง โดยไม่ได้ปฏิเสธใด ๆ ผมถอยหลังออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนีห่างจากจุดนั้นได้สำเร็จไม่นานนัก เจียงจั๋วหรานก็มาเคาะประตูห้อง

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 6

    「นายพูดถูก นายไม่ได้ชอบฉัน ฉันรู้ นายชอบเจียงจั๋วหราน」พูดจบเขาก็กัดฟันกรอดพร้อมกับพูดเสริมอีกประโยค「ไม่สิ นายชอบหาเรื่องใส่ตัว」「เฉินถิง ทำไมนายถึงไม่ยอมกลับใจสักที」เมื่อพูดจบ ลู่จวิ้นหันหลังเดินจากไปทันที และทิ้งผมไว้ให้อยู่คนเดียวในห้อง จนรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเล็กน้อยผมรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของลู่จวิ้น แต่ผมก็ไม่ได้รักเขา... ผมไม่อาจสับสนระหว่างสองสิ่งนี้ได้ ไม่เช่นนั้น มันจะไม่ยุติธรรมต่อทั้งตัวผมและต่อเขาเลยแม้แต่น้อยในคืนนั้น ลู่จวิ้นไม่ได้กลับมาที่ห้อง เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เตียงที่ต้องนอนคนเดียวจึงดูเวิ่งว้างและเย็นยะเยือกขนถึงขั่วหัวใจลู่จวิ้นไม่ได้ปรากฎตัวมาสามวันติดต่อกันแล้ว แม้แต่ชั้นเรียนเขาก็ไม่เข้าเรียนเขากำลังโกรธ?ผมเหม่อลอยไปชั่วขณะ จึงทำให้ปลายปากกาตำเข้าที่นิ้วมืออย่างไม่ทันระวัง ความเจ็บปวดนั้นมันทำให้หัวใจของผมกระตุกขึ้นอย่างรุนแรงในตอนกลางคืน ผมได้แต่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ คิดวนซ้ำ ๆ ว่าจะขอโทษลู่จวิ้นอย่างไร ทว่าข้อความยังไม่ทันได้ถูกส่งออกไป ก็มีวิดิโอจากฟอรัมของมหาวิทยาลัยเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เสียก่อนภาพปกวิดิโอสั้นนั้นพร่ามัวจนแทบดูไม่รู้เร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status