Share

บทที่ 2

Auteur: เงินตำลึง
「ก็ใช่ไง ถิงถิง คือแฟนสาวของฉันเอง นายรู้ได้ไงเนี่ย?」

ผมพยายามสุดกำลังที่จะควบคุมสีหน้าตัวเองไว้ แต่ทว่าหัวใจมันยังคงเต้นรัวราวกับกลองศึก

เจียงจั๋วหรานเป็นชายแท้ ความรักที่ผมมีให้จึงไม่เคยต้องการการตอบรับ ความรักครั้งนี้ของผมคือความลับที่ไม่อาจเปิดเผยออกมาได้

และทันใดนั้น เสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น เจียงจั๋วหรานเดินออกมาจากด้านในห้องน้ำ

สีหน้าของเขาซีกเผือดไร้สีเลือด และในวินาทีที่สายตาของเราสบกัน ขาของเขาก็ถอยหลังออกไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณ

แววตาของเจียงจั๋วหรานเย็นชาเหยียดหยาม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างรุนแรง ราวกับว่าบนตัวผมนั้นมีเชื้อโรคร้ายที่น่าขยะแขยงเกาะอยู่

ผมได้ยินเขาเอ่ยคำออกมาเพียงไม่กี่พยางค์ ก่อนที่เสียงปิดประตูดังลั่น และการเดินจากไปอย่างรวดเร็วของเขา

เขาพูดว่า「พวกรักร่วมเพศน่ะ น่าขยะแขยงที่สุด」

มีผู้คนมากมายต่างพากันรักใครชื่นชอบเจียงจั๋วหราน เว้นแต่เพียงผมเท่านั้น ที่ไม่อามีสิทธิทำอย่างนั่นได้

ผมได้แต่นั่งเหม่อลอยอยู่ลำพังคนเดียวในร้านแห่งหนึ่งอย่างเงียบงันจนกระทั่งเกือบจะเที่ยงคืน พนักงานจึงเดินเข้ามาเตือนอย่างสุภาพ

「คุณลูกค้าครับ ทางร้านเราใกล้จะปิดให้บริการแล้วนะครับ」

เขาต้องเรียกซ้ำถึงสองครั้ง ผมจึงจะได้สติตื่นจากภวังค์ และตอบกลับไป「อืม ขอโทษที่รบกวนครับ」

เครื่องดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะเย็นชืดไปนานแล้ว ผมเดินกลับมาที่หอพักราวกับวิญญาณเร่ร่อน ทว่าสายตากลับเหลือบไปเห็นผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนมุงดูบางสิ่งอยู่เต็มระเบียง

เมื่อมีคนสังเกตุเห็นผม ก็รีบกระตุกแขนเสื้อคนข้าง ๆ ในทันที

เพียงชั่วพริบตา สายตาทุกคู่ก็หันมาจ้องมองผมเป็นจุดเดียว พวกเขาแหวกทางให้ผมโดยอัตโนมัติ ซึ่งมากพอให้ได้มองเห็นข้าวของส่วนตัวของตัวเองกำลังกระจัดกระจายอยู่บนพื้น

เสื้อผ้า หนังสือ ผ้าห่ม ทุกอย่างถูกโยนออกมากองรวมกันอยู่บนพื้นอย่างยุ่งเหยิง ราวกับซากปรักหักพัง

เจียงจั๋วหรานเป็นคนสุดท้ายที่หันมาเห็นผม หรือบางที จริง ๆ แล้วเขาอาจไม่ได้อยากเห็นผมด้วยซ้ำ

ความรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงจนราวกับผมด้านชาไร้ความรู้สึกไปแล้ว ขาที่ค่อย ๆ ก้าวไปที่ละก้าว ทีละก้าว ตรงไปยัง “กองขยะ”นั้น จากนั้นผมก็ย่อตัวลงนั่งอย่างเชื่องช้า

บนพื้นยังคงมีเศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายอยู่ กรอบรูปแตกละเอียด ภาพถ่ายคู่ระหว่างผมกับเจียงจั๋วหรานได้ถูกฉีกดึงออกมาจากกรอบอย่างไม่มีเยื่อใย

เขาคงจะรังเกียจผมถึงขีดสุดแล้วจริง ๆ

ผมเซถลาลงคุกเข่าข้างเดียวกับพื้น เศษแก้วบาดลึกเข้าในผิวหนัง ขณะที่ในสายตาของผมเห็นฝีเท้าของเจียงจั๋วหรานขยับเล็กน้อย แต่สุดท้าย เขาก็ยั้งมันไว้

เขากลับหันหลังเดินเข้าห้องไป พร้อมกับล็อกกลอนประตู

ผู้คนที่รายล้อมเริ่มซุบซิบนินทา เสียงเหล่านั้นเล็ดลอดทะลุเข้ามาในโสตประสาทของผม

「ได้ยินมาว่าเขาชอบผู้ชาย ไม่ใช่ว่าแอบเอาภาพถ่ายรูมเมทไปทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้นหรอกนะ?」

「ให้ตายสิ ทำไมถึงมีผู้ชายที่ชอบผู้ชายอยู่บนโลกนี้กัน น่าขยะแขยงชิบหาย」

「ดูดิ ดูหน้าก็ไม่เหมือนชายแท้หรอก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าชอบขุดทอง」

「เขาไม่ได้เป็นโรคทางจิตอะไรใช่ปะ? เชี่ย! สกปรกสุด ๆ !」

ณ เวลานั้น จู่ ๆ ผมก็รู้สึกราวกับหูอื้อในทันที เสียงรอบข้างที่เคยดังชัดราวกับถูกตะโกนกรอกหู กลับค่อย ๆ ลดระดับลงจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงใด ๆ อีกเลย

「ของใครเนี่ย」

เสียงที่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน ทำให้ทุกสรรพสิ่งเข้าสู่ความเงียบสงบอย่างแท้จริง สติของผมเริ่มกลับคืนมาทีละน้อย พลางค่อย ๆ เงยหน้ามองไปยังเจ้าของเสียงเข้มทุ้ม

อาจจะเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงสายตาของผม จึงก้มลงมองผมจากที่สูงด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์

เขาคือ ลู่จวิ้น บุรุษผู้เยือกเย็นดุจหิมะ

ลู่จวิ้นคืออัจฉริยะที่หาตัวจับยาก ซึ่งมหาวิทยาลัย A เชิญชวนมาเป็นพิเศษ เขาคือผู้ที่ทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สูงสุด และเดิมทีเขาควรจะได้ไปอยู่ในสถานบันที่ดีกว่านี้

ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องให้คำมั่นสัญญาที่แหกกฎอยู่หลายอย่าง เพื่อแลกมากับการตอบตกลงของเขา

ไม่มีใครในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่รู้จัก ลู่จวิ้น ตั้งแต่วันที่เขายืนอยู่บนเวทีกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะตัวแทนนักเรียนใหม่ ใบหน้าที่สง่างามเหนือโลกนั้น ก็เรียกเสียงฮือฮาได้ทันที

คำพูดของเขาที่กำลังจะเอ่ยออกมานั้น มันช่างสั้นและและชัดเจนมาก「หวังว่าทุกคนจะไม่ทำให้ช่วงวัยรุ่นนี้สูญเปล่า และมีอนาคตที่สว่างไสวรุ่งโรจน์」

ต่อมามีคนลือกันว่า ในร่างสุนทรพจน์ที่เขียนไว้เต็มแผ่นนั้น เขากล่าวเพียงประโยคสุดท้ายนี้เท่านั้น

ลู่จวิ้นคืออัจฉริยะแห่งภาควิชาฟิสิกส์ และภายใต้รัศมีแสงอันเจิดจ้าของเขานั้น ผมจึงทำได้เพียงยอมเป็นอันดับสอง

และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เขาไม่ชอบขี้หน้าผม ขอแค่เป็นรายการที่ผมเข้าร่วมแข่งขัน เขาจะต้องเข้ามายุ่มย่ามขวางทาง จากนั้นก็จะยืนหยัดขึ้นบนแท่นรางวัลอันดับหนึ่ง พร้อมกับทอดสายตาดูแคลนทุกสิ่ง

「ขวางทางฉัน」

ใบหน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นอย่างรุนแรง รู้สึกว่าการที่ถูกเขาพูดใส่เช่นนี้ มันช่างน่าอับอายยิ่งกว่าตอนที่ถูกเจียงจั๋วหรานสาดคำด่าทอใส่เสียอีก

ทว่าลู่จวิ้นกลับละสายตาไปจากผมในทันทีพร้อมกับถามขึ้นว่า「ใครเป็นคนโยนทิ้ง」

รูมเมททั้งสองคนที่ยังไม่ได้กลับห้องเกิดแววตาหลบเลี่ยงทันควัน ลู่จวิ้นมองพวกเขาพลางหัวเราะเยาะออกมาอย่างดูแคลน

「พวกนายจัดการทำความสะอาดที่นี่ให้เรียบร้อย ฉันให้เวลาห้านาที」

ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงรีบลุกขึ้นวิ่งโซซัดโซเซผ่านฝูงชนออกไปอย่างรวดเร็ว

ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่บนม้านั่งยาวข้างถนนนี้นานเท่าไหร่แล้ว รู้สึกราวกับว่าร่างกายถูกความหนาวเย็นกัดกินจนสูญเสียความรู้สึกใด ๆ ไปแล้วทั้งสิ้น
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 11

    ผมหน้าแดงก่ำพลางเดินขึ้นไปบนเวที ทว่าลู่จวิ้นยังคงพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดหย่อน「เป็นไง? หล่อไหม?」ผมชกไปที่ไหล่เขาเบา ๆ เขาไม่กลัวสายตาพิฆาตของเหล่าบรรดาผู้บริหารเลยหรือไงกัน「พอได้หรือยัง」「ว่าไงนะ?」ลู่จวิ้นพลันคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วล้วงแหวนเพชรออกมาจากอก「ถิงถิง แต่งงานกับฉันนะ?」ความเปิดเผยของลู่จวิ้นเช่นนี้ ทำให้คลิปวิดิโอเผยแพร่กระจายออกไปทั่วอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วผมซ่อนตัวอยู่ในห้อง อายจนไม่กล้าออกไปข้างนอก「ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค้าบ ที่รัก ยกโทษให้ผมนะ ที่รักจะซ่อนตัวอยุ่ในผ้าห่มไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ」แม้ว่าลู่จวิ้นจะพูดจนปากเปียกปากแฉะมากแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมลุกออกจากที่นอนเป็นอันขาด ดังนั้นเขาจึงต้องจำยอมปล่อยผมอยู่อย่างนั้น「ก็ได้ เดี๋ยวผมไปต่อแถวซื้อขนมจากร้านขนมหวานไม่มีบริการส่งนั่น ให้กับที่รักที่ชอบทานให้นะครับ หวังว่าเท่านี้ที่รักจะยอมกินอะไรบ้างนะ」ลู่จวิ้นยอมแพ้แล้วเดินออกมาจากห้องไป แต่ในไม่ช้า ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้งผมแง้มผ้าห่มออกดู และพบว่าคนที่ยืนอยู่คือ สุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง「นายเองสินะที่เป็นแฟนลูกชายฉัน」หัวใจดวงน้อย ๆ ของผม

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 10

    「ถิงถิง มานอนกับฉันโอเคไหม」ใบหน้าของลู่จวิ้นนั้นมีอำนาจทำลายล้างสูงมากจริง ๆ ผมพยายามรวบรวมสติก้อนสุดท้ายและปฏิเสธออกไป「ไม่เอา」ลู่จวิ้นได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าอาลัยเสียดายออกมาอย่างชัดเจน ราวกับไม่ต้องการให้ความใกล้ชิดนี้จบลง ก่อนที่เขาจะยื่นมือมาประคองใบหน้าเรียวเล็กของผมอย่างแผ่วเบา แล้วบรรจงประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากของผมอย่างอ่อนโยน「ก็ได้ งั้นขอจูบราตรีสวัสดิ์หน่อยแล้วกัน」ผมถูกคนตรงหน้าจู่โจมด้วยจูบจนใบหน้าแดงซ่านไปหมด หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะลงแรงฟาดฝ่ามือใส่เขาเบา ๆ อย่างขัดเขิน「ไอ้บ้า」ลู่จวิ้นรวบมือของผมที่เพิ่งจะใช้ฟาดร่างเขาไว้ได้อย่างทันควัน พร้อมกับดึงขึ้นมาประทับรอยจูบอีกครั้งลงบนฝ่ามือของผม「อืม ฉันมันบ้า เจ้าชายตัวน้อยของผมไปพักผ่อนเถอะ ราตรีสวัสดิ์」ผมเคลิ้มไปกับรอยยิ้มของเขาจนมึนเมาเล็กน้อย แต่ทันทีที่เดินลงบันไดไป ผมก็ได้ยินเสียงสนทนาที่ดังออกมาจากมุมตึก「ลู่จวิ้นจากมหาวิทยาลัย A เป็นคู่แข่งตัวฉกาจในการคว้าเหรียญทอง แต่ไม่ต้องห่วง ฉันแอบใส่ยาในนมของเขาแล้ว เดี๋ยวอีกสีกพักจะส่งผู้หญิงเข้า รับรองว่าเขาต้อง...」ผมรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างเร่งรีบ และกระแ

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 9

    ดวงตาของเขานั่นแฝงไปด้วยรอยยิ้ม「จำวิดิโอสั้นนั้นได้ไหม? ฉันสืบเจอฆาตกรแล้วใช่ไหมล่ะ?」ผมได้แต่ส่งเสียง อืม ในลำคออย่างเงียบ ๆ รอให้เขาพูดต่อ「เป็นเด็กภาคคอมพิวเตอร์ ชื่อจางเฉิง」ลู่จวิ้นหัวเราะออกมาและพูดต่อว่า「ฉันเคยสัญญากันนาย ว่าจะไม่สืบเรื่องนี้ต่อ」เขาใช้นิ้วลากวาดไปตามคิ้วและดวงตาของผมอย่างละเอียด「แต่จะให้ฉันปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไง」ลู่จวิ้นพลันพลิกตัวขึ้นคร่อมผมอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งซบศรีษะลงตรงซอกไหล่ของผมอย่างออดอ้อนและพูดต่อว่า「ดังนั้น ตอนที่เขากำลังหาซื้อบริการทางเพศ ฉันเลยจงใจให้คนส่งที่อยู่โรงแรมไปให้เขา แล้วไปรออยู่ที่นั่น」「ไอ้สวะไร้ประโยชน์นั่น ทนมือทนเท้าฉันได้ไม่ถึงสองนาทีก็ล้มลงกับพื้น หมดสภาพแล้ว」「ฉันใช้คีมถอนฟันของเขาไปหนึ่งซี่ เป็นสิ่งที่เขาต้องจ่ายที่กล้าเผยแพร่ข่าวปลอม」ลู่จวิ้นนำริมฝีปากร้อนอุ่นฝังลงบนซอกคอของผม「อันที่จริงฉันอยากให้เขามาคุกเข่าขอโทษนาย แต่มันไม่ยอม」ปลายผมของเขาทิ่มแทงผิวหนัง จนผมรู้สึกคันยิบ ๆ เล็กน้อยผมผลักแขนเขาเบา ๆ 「ลู่จวิ้น นายลงมาได้แล้ว」ลู่จวิ้นไม่ยอมผละออก เสียงหัวใจของเขาเต้นดังชัดเจนผ่านทะลุเนื้อผ้าเข้ามาในหูของผมเข

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 8

    แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ทรุดเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าผม เพื่อปรับระดับของเราทั้งสองให้อยู่ในระนาบเดียวกันดวงตาคู่นี้ของผมนั่นแดงจนแทบจะเป็นสีเลือด ผมคิดว่ามันคงจะน่ากลัวมาก ๆ เลยทีเดียวทว่าลู่จวิ้นกลับเพียงแค่หรี่ตามอง และพูดออกมาว่า「หลับตาซะ」เขาพูดออกคำสั่ง และตัวผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย ในวินาทีต่อมา ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังนำริมฝีปากที่ร้อนอุ่นนั่นมาประคบลงบนเปลือกตาผมอย่างแผ่วเบาผมก้มศรีษะลงเล็กน้อย พร้อมกับคว้าไหล่ของเขาไว้ ราวกับคนจมน้ำที่กำลังยึดจับฟางเส้นสุดท้ายน้ำตาหยดน้อย ๆ พรั่งพรูออกมาจนเปียกชุ่มไปทั่วเสื้อเชิ้ตของเขา ผมได้แต่เรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า「ลู่จวิ้น ลู่จวิ้น...」ลู่จวิ้นเอื้อมมือมาลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน「อืม ฉันอยู่ตรงนี้」คนปริศนาที่อับโหลดวิดิโอสั้นนั้นถูกสืบเจอแล้ว ลู่จวิ้นถามผมว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ ผมจึงส่ายหน้าเขามีท่าทีเข้าใจทุกอย่างในทันที「ได้」ผมไม่อยากอยู่ที่หอพักอีกต่อไป แม้แต่วินาทีเดียว ลู่จวิ้นเอ่ยขึ้นอย่างเชื้องช้าว่า 「งั้นมาอยู่กับฉันไหม」ผมกัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับพยักหน้าเป็นการตอบกลับลู่จวิ้นมีบ้านพักตากอากาศอยู่ในเมื่องนี้ ผมสงสัยมาตลอดว่

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 7

    จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามายืนขว้างที่หน้าผม เธอมองผมด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย「นายไม่เป็นไรนะ? เรื่องวิดิโอน่ะ... นายเป็นคนดีมากเลย อย่าให้เรื่องนี้มากระทบนายได้ล่ะ」ในทันใดนั้น กระแสความอบอุ่นก็เอ่อท่วมขึ้นมาในใจผม「ขอบคุณนะ」จากนั้นเธอยิ้มกว้างอย่างสดใส「ขอบคุณอะไรกัน นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว」ผมเดินไปอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เป็นป่าผืนหนึ่งด้านหน้ามีเงาของคนสองคนอยู่ลาง ๆ ผมจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพบว่าหนึ่งในนั้นคือ เจียงจั๋วหรานชายอีกคนดูมีท่าทีร้อนรนเล็กน้อย「พี่เจียง ผมทำไปก็แค่เพื่อช่วยพี่แก้แค้น ก็เลยอับวิดิโอนี้ไป」เจียงจั๋วหรานได้ยินดังนั้น จึงกระชากคอเสื้อของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาทันที「แกพูดว่าอะไรนะ!」นักศึกษาชายคนนั้นส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ「ไม่ใช่ว่าพี่เองหรอกเหรอที่ตอนเมาเอาแต่บอกว่าเกลียดเฉินถิง?พี่ถึงขนาดบอกว่า ที่เฉินถิงชอบพี่น่ะ ทำให้พี่รู้สึกขยะแขยงจนแทบจะทนไม่ไหว」「พี่เจียง พี่ต้องช่วยผมนะ」เจียงจั๋วหรานปล่อยมือลงอย่างอ่อนแรง โดยไม่ได้ปฏิเสธใด ๆ ผมถอยหลังออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนีห่างจากจุดนั้นได้สำเร็จไม่นานนัก เจียงจั๋วหรานก็มาเคาะประตูห้อง

  • คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก   บทที่ 6

    「นายพูดถูก นายไม่ได้ชอบฉัน ฉันรู้ นายชอบเจียงจั๋วหราน」พูดจบเขาก็กัดฟันกรอดพร้อมกับพูดเสริมอีกประโยค「ไม่สิ นายชอบหาเรื่องใส่ตัว」「เฉินถิง ทำไมนายถึงไม่ยอมกลับใจสักที」เมื่อพูดจบ ลู่จวิ้นหันหลังเดินจากไปทันที และทิ้งผมไว้ให้อยู่คนเดียวในห้อง จนรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเล็กน้อยผมรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของลู่จวิ้น แต่ผมก็ไม่ได้รักเขา... ผมไม่อาจสับสนระหว่างสองสิ่งนี้ได้ ไม่เช่นนั้น มันจะไม่ยุติธรรมต่อทั้งตัวผมและต่อเขาเลยแม้แต่น้อยในคืนนั้น ลู่จวิ้นไม่ได้กลับมาที่ห้อง เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เตียงที่ต้องนอนคนเดียวจึงดูเวิ่งว้างและเย็นยะเยือกขนถึงขั่วหัวใจลู่จวิ้นไม่ได้ปรากฎตัวมาสามวันติดต่อกันแล้ว แม้แต่ชั้นเรียนเขาก็ไม่เข้าเรียนเขากำลังโกรธ?ผมเหม่อลอยไปชั่วขณะ จึงทำให้ปลายปากกาตำเข้าที่นิ้วมืออย่างไม่ทันระวัง ความเจ็บปวดนั้นมันทำให้หัวใจของผมกระตุกขึ้นอย่างรุนแรงในตอนกลางคืน ผมได้แต่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ คิดวนซ้ำ ๆ ว่าจะขอโทษลู่จวิ้นอย่างไร ทว่าข้อความยังไม่ทันได้ถูกส่งออกไป ก็มีวิดิโอจากฟอรัมของมหาวิทยาลัยเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เสียก่อนภาพปกวิดิโอสั้นนั้นพร่ามัวจนแทบดูไม่รู้เร

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status