All Chapters of คำสาปที่พัดผัน ให้ผมมีคู่ปรับเป็นที่รัก: Chapter 1 - Chapter 10

11 Chapters

บทที่ 1

ผมกับรูมเมทนัดกันจะลงไปทานอาหารมื้อเย็น ทว่าทันทีที่ก้าวถึงชั้นล่าง เจียงจั๋วหราน ก็พลันหยุดชะงักฝีเท้าลง「เดี๋ยวนะ ฉันลืมกุญแจ เดี๋ยวกลับไปเอาแป๊บเดียว」 เขาผละมือที่กำลังโอบไหล่ผมเมื่อครู่ออก ก่อนจะเริ่มออกตัวสับฝีเท้าวิ่งไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว แล้วหันกลับมาส่งรอยยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น「รอก่อนนะ เดี๋ยวรีบกลับมา」เมื่อสิ้นประโยค ร่างของเขาก็หายลับไปตรงมุมบันไดอย่างรวดเร็วผมพยักหน้าตอบรับ แม้จะรู้ว่า ในวินาทีนั้นเขาคงมองไม่เห็นการตอบรับของผมแล้วก็ตามผู้คนยังคงเดินผ่านไปมาอย่างไม่ขาดสาย ผมได้แต่ยืนหลบมุมอยู่ตรงนั้น ลูบใบหน้าที่ถูกลมหนาวปะทะจนเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งหน้าจอโทรศัพท์ยังคงแสดงข้อความที่ผมส่งถึงเจียงจั๋วหรานเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่ทว่าก็ไร้ซึ่งการตอบกลับใด ๆ ในที่สุด ผมตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า พร้อมกับหันหลังเดินกลับเข้าไปยังห้องพักประตูห้องที่ถูกแง้มทิ้งไว้เพียงครึ่งบาน ทำให้ใจผมพลันสั่นสะท้านอย่างฉับพลัน ความรู้สึกกังวลอย่างไม่มีสาเหตุถาโถมเข้ามาผมใช้มือขวาแตะบานประตูตรงหน้า แล้วค่อย ๆ ผลักออกอย่างช้า ๆ จนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูที่บาดลึกความเงียบภาพ
Read more

บทที่ 2

「ก็ใช่ไง ถิงถิง คือแฟนสาวของฉันเอง นายรู้ได้ไงเนี่ย?」ผมพยายามสุดกำลังที่จะควบคุมสีหน้าตัวเองไว้ แต่ทว่าหัวใจมันยังคงเต้นรัวราวกับกลองศึก เจียงจั๋วหรานเป็นชายแท้ ความรักที่ผมมีให้จึงไม่เคยต้องการการตอบรับ ความรักครั้งนี้ของผมคือความลับที่ไม่อาจเปิดเผยออกมาได้และทันใดนั้น เสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น เจียงจั๋วหรานเดินออกมาจากด้านในห้องน้ำสีหน้าของเขาซีกเผือดไร้สีเลือด และในวินาทีที่สายตาของเราสบกัน ขาของเขาก็ถอยหลังออกไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณแววตาของเจียงจั๋วหรานเย็นชาเหยียดหยาม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างรุนแรง ราวกับว่าบนตัวผมนั้นมีเชื้อโรคร้ายที่น่าขยะแขยงเกาะอยู่ผมได้ยินเขาเอ่ยคำออกมาเพียงไม่กี่พยางค์ ก่อนที่เสียงปิดประตูดังลั่น และการเดินจากไปอย่างรวดเร็วของเขาเขาพูดว่า「พวกรักร่วมเพศน่ะ น่าขยะแขยงที่สุด」มีผู้คนมากมายต่างพากันรักใครชื่นชอบเจียงจั๋วหราน เว้นแต่เพียงผมเท่านั้น ที่ไม่อามีสิทธิทำอย่างนั่นได้ผมได้แต่นั่งเหม่อลอยอยู่ลำพังคนเดียวในร้านแห่งหนึ่งอย่างเงียบงันจนกระทั่งเกือบจะเที่ยงคืน พนักงานจึงเดินเข้ามาเตือนอย่างสุภาพ「คุณลูกค้าครับ ทางร้านเราใ
Read more

บทที่ 3

ในสายตาที่เลื่อนลอยของผมพลันปรากฏรองเท้าคู่หนึ่งที่แสนคุ้นตา จึงเงยหน้าขึ้นมอง ความประหลาดใจในแววตาของผมก็ค่อย ๆ มอดดับลงเมื่อลู่จวิ้นเห็นสีหน้าอันว่างเปล่านั้นของผมแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเยาะหยันออกมาจากใบหน้าอันหล่อเหลา「นายอยากจะแข็งตายตรงนี้หรือไง? ไอ้ซื่อบื้อ」เมื่อเขาเห็นว่าผมไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ จึงโน้มตัวย่อลงเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือเรียวยาวบีบเข้าที่แก้มกลมอันเย็นเฉียบของผม「ขอร้องฉันสิ แล้วฉันจะช่วยนายสักครั้ง」ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกพาตัวมาที่ห้องของลู่จวิ้นได้อย่างไร รู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่บนเตียงของเขาเสียแล้วลู่จวิ้นเป็นคนสันโดษมาก ข้อเรียกร้องแรกที่เขายื่นต่อทางมหาวิทยาลัยเมื่อหลายปีก่อนคือ การมีห้องพักส่วนตัวเพียงคนเดียวเท่านั้นบนร่างของผมยังคงมีเสื้อโค้ตตัวหนาของลู่จวิ้นคลุมเอาไว้อยู่ ผมกำชายเสื้อไว้แน่นด้วยความรู้สึกประหม่าอย่างไม่อาจซ่อนได้ผมไม่ได้กลัวเลยว่าลู่จวิ้นจะคิดหาผลประโยชน์จากผม และไม่ได้กลัวเลยว่าเขาจะฉวยโอกาสตอกย้ำซ้ำเติมอย่างไง ตอนนี้เพียงแค่รู้สึกโหยหาใครสักคนที่จะมายืนอยู่เคียงข้างบ้าง ก็เท่านั้นเอง「ถอดกางเกงออก」ความคิดที่
Read more

บทที่ 4

ลู่จวิ้นค่อย ๆ เปิดกล่องอาหารที่สั่งมาอย่างปราณีตบรรจง พลางแจ้งลายละเอียดต่าง ๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผมนอนหลับ「ในห้องน้ำมีแปรงสีฟันสำรอง ใช้แก้วของฉันได้เลย ฉันช่วยนายลาคาบเช้าไว้ให้แล้ว ไม่ต้องกังวล」หัวใจที่เพิ่งจะได้คลายความกังวลกลับรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาอีกครั้ง「นายช่วยฉันทำไม?」ลู่จวิ้นมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาว่างเปล่า「แล้วนายคิดว่าไงล่ะ? นายมีอะไรที่คุ้มค่าให้ฉันคิดหาผลประโยชน์ด้วยเหรอ?」ผมถูกสายตาที่เย็นชาของเขามองจ้องจนรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งร่างกาย จึงจำต้องยอมจำนนส่ายหน้าแต่โดยดีไม่รู้ว่าลู่จวิ้นพอใจกับวิธีการตอบกลับของผมหรือไม่ เขาเพียงกล่าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ「งั้นก็จะคิดซะว่าทำความดีประจำวัน」จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว「กินข้าวเสร็จแล้วก็ไปขนของย้ายมาที่นี่」ผมตกใจจนพูดไม่ออก กลับไปขนของ หมายความว่า ผมจะต้องเผชิญหน้ากับเเจียงจั๋วหรานอีกครั้งงั้นเหรอทว่าลู่จวิ้นไม่ได้ให้เวลาผมได้คิดอะไรเลย ทันทีที่เขาเปิดประตูออก ก็พบว่ามีชายสองคนยืนอยู่หน้าประตู ราวกับเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว「พวกเขาจะช่วยนายขนของ」ลู่จวิ้นพาผมเดินจากสุดปลายระเบียง จนกระทั่งเดิ
Read more

บทที่ 5

ผมยืนแข็งทื่อหยุดนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกสาป ความคิดทั้งหมดพลันดับวูบลงชั่วขณะเจียงจั๋วหราน เขามีคนรักแล้ว เขามีคนที่ชอบ...เมื่อเห็นว่าผมยืนหยุดนิ่งไม่ขยับ ลู่จวิ้นก็อดไม่ได้ที่จะทำเสียง จิ๊ ขึ้น เพื่อแสดงความไม่สบอารมณ์「เจ็บแล้วยังไม่จำอีกไง?」เขาลงมือหยิกเข้าที่เนื้อนุ่ม ๆ บริเวณท้าทอยของผม มันเจ็บจนได้สติกลับคืนมาทันที「นายทำไรเนี่ย?」ลู่จวิ้นมองผมด้วยสายตาเย็นชา「นายรู้ไหมว่าพรุ่งนี้มีทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย?」ผมเป็นคนที่มีสมรรถภาพทางร่างกายย่ำแย่มาก ทุกครั้งที่วิ่ง1000เมตรเสร็จสิ้นลง ก็รู้สึกราวกับตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้น ทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ ผมจึงรู้สึกหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มในทันทีเมื่อเห็นสีหน้าผมไร้เลือดในตอนนี้ ลู่จวิ้นดูเหมือนจะพึงพอใจก่อนจะปล่อยมือออกและพูดว่า「ขอให้นายโชคดี」เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ผมวิ่งในสนามอันกว้างใหญ่ได้ที่โหล่ตามคาดอาจารย์กดเครื่องจับเวลาลงอย่างเชื่องช้า พลางส่ายหน้าให้ผม「ไม่ผ่าน」ผมเหนื่อยจนล้มคว่ำลงบนพื้นหญ้า ณ ตอนนี้ประสาทรับรู้ได้เพียงแค่มีกลิ่นคาวอันแสนหอมหวานที่ไหลย้อนขึ้นมาลำคอทันใดนั้น ก็มีเงาขนาดใหญ่ของใครคนหนึ่งทอด
Read more

บทที่ 6

「นายพูดถูก นายไม่ได้ชอบฉัน ฉันรู้ นายชอบเจียงจั๋วหราน」พูดจบเขาก็กัดฟันกรอดพร้อมกับพูดเสริมอีกประโยค「ไม่สิ นายชอบหาเรื่องใส่ตัว」「เฉินถิง ทำไมนายถึงไม่ยอมกลับใจสักที」เมื่อพูดจบ ลู่จวิ้นหันหลังเดินจากไปทันที และทิ้งผมไว้ให้อยู่คนเดียวในห้อง จนรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเล็กน้อยผมรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของลู่จวิ้น แต่ผมก็ไม่ได้รักเขา... ผมไม่อาจสับสนระหว่างสองสิ่งนี้ได้ ไม่เช่นนั้น มันจะไม่ยุติธรรมต่อทั้งตัวผมและต่อเขาเลยแม้แต่น้อยในคืนนั้น ลู่จวิ้นไม่ได้กลับมาที่ห้อง เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เตียงที่ต้องนอนคนเดียวจึงดูเวิ่งว้างและเย็นยะเยือกขนถึงขั่วหัวใจลู่จวิ้นไม่ได้ปรากฎตัวมาสามวันติดต่อกันแล้ว แม้แต่ชั้นเรียนเขาก็ไม่เข้าเรียนเขากำลังโกรธ?ผมเหม่อลอยไปชั่วขณะ จึงทำให้ปลายปากกาตำเข้าที่นิ้วมืออย่างไม่ทันระวัง ความเจ็บปวดนั้นมันทำให้หัวใจของผมกระตุกขึ้นอย่างรุนแรงในตอนกลางคืน ผมได้แต่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ คิดวนซ้ำ ๆ ว่าจะขอโทษลู่จวิ้นอย่างไร ทว่าข้อความยังไม่ทันได้ถูกส่งออกไป ก็มีวิดิโอจากฟอรัมของมหาวิทยาลัยเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เสียก่อนภาพปกวิดิโอสั้นนั้นพร่ามัวจนแทบดูไม่รู้เร
Read more

บทที่ 7

จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามายืนขว้างที่หน้าผม เธอมองผมด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย「นายไม่เป็นไรนะ? เรื่องวิดิโอน่ะ... นายเป็นคนดีมากเลย อย่าให้เรื่องนี้มากระทบนายได้ล่ะ」ในทันใดนั้น กระแสความอบอุ่นก็เอ่อท่วมขึ้นมาในใจผม「ขอบคุณนะ」จากนั้นเธอยิ้มกว้างอย่างสดใส「ขอบคุณอะไรกัน นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว」ผมเดินไปอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เป็นป่าผืนหนึ่งด้านหน้ามีเงาของคนสองคนอยู่ลาง ๆ ผมจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพบว่าหนึ่งในนั้นคือ เจียงจั๋วหรานชายอีกคนดูมีท่าทีร้อนรนเล็กน้อย「พี่เจียง ผมทำไปก็แค่เพื่อช่วยพี่แก้แค้น ก็เลยอับวิดิโอนี้ไป」เจียงจั๋วหรานได้ยินดังนั้น จึงกระชากคอเสื้อของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาทันที「แกพูดว่าอะไรนะ!」นักศึกษาชายคนนั้นส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ「ไม่ใช่ว่าพี่เองหรอกเหรอที่ตอนเมาเอาแต่บอกว่าเกลียดเฉินถิง?พี่ถึงขนาดบอกว่า ที่เฉินถิงชอบพี่น่ะ ทำให้พี่รู้สึกขยะแขยงจนแทบจะทนไม่ไหว」「พี่เจียง พี่ต้องช่วยผมนะ」เจียงจั๋วหรานปล่อยมือลงอย่างอ่อนแรง โดยไม่ได้ปฏิเสธใด ๆ ผมถอยหลังออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนีห่างจากจุดนั้นได้สำเร็จไม่นานนัก เจียงจั๋วหรานก็มาเคาะประตูห้อง
Read more

บทที่ 8

แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ทรุดเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าผม เพื่อปรับระดับของเราทั้งสองให้อยู่ในระนาบเดียวกันดวงตาคู่นี้ของผมนั่นแดงจนแทบจะเป็นสีเลือด ผมคิดว่ามันคงจะน่ากลัวมาก ๆ เลยทีเดียวทว่าลู่จวิ้นกลับเพียงแค่หรี่ตามอง และพูดออกมาว่า「หลับตาซะ」เขาพูดออกคำสั่ง และตัวผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย ในวินาทีต่อมา ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังนำริมฝีปากที่ร้อนอุ่นนั่นมาประคบลงบนเปลือกตาผมอย่างแผ่วเบาผมก้มศรีษะลงเล็กน้อย พร้อมกับคว้าไหล่ของเขาไว้ ราวกับคนจมน้ำที่กำลังยึดจับฟางเส้นสุดท้ายน้ำตาหยดน้อย ๆ พรั่งพรูออกมาจนเปียกชุ่มไปทั่วเสื้อเชิ้ตของเขา ผมได้แต่เรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า「ลู่จวิ้น ลู่จวิ้น...」ลู่จวิ้นเอื้อมมือมาลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน「อืม ฉันอยู่ตรงนี้」คนปริศนาที่อับโหลดวิดิโอสั้นนั้นถูกสืบเจอแล้ว ลู่จวิ้นถามผมว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ ผมจึงส่ายหน้าเขามีท่าทีเข้าใจทุกอย่างในทันที「ได้」ผมไม่อยากอยู่ที่หอพักอีกต่อไป แม้แต่วินาทีเดียว ลู่จวิ้นเอ่ยขึ้นอย่างเชื้องช้าว่า 「งั้นมาอยู่กับฉันไหม」ผมกัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับพยักหน้าเป็นการตอบกลับลู่จวิ้นมีบ้านพักตากอากาศอยู่ในเมื่องนี้ ผมสงสัยมาตลอดว่
Read more

บทที่ 9

ดวงตาของเขานั่นแฝงไปด้วยรอยยิ้ม「จำวิดิโอสั้นนั้นได้ไหม? ฉันสืบเจอฆาตกรแล้วใช่ไหมล่ะ?」ผมได้แต่ส่งเสียง อืม ในลำคออย่างเงียบ ๆ รอให้เขาพูดต่อ「เป็นเด็กภาคคอมพิวเตอร์ ชื่อจางเฉิง」ลู่จวิ้นหัวเราะออกมาและพูดต่อว่า「ฉันเคยสัญญากันนาย ว่าจะไม่สืบเรื่องนี้ต่อ」เขาใช้นิ้วลากวาดไปตามคิ้วและดวงตาของผมอย่างละเอียด「แต่จะให้ฉันปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไง」ลู่จวิ้นพลันพลิกตัวขึ้นคร่อมผมอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งซบศรีษะลงตรงซอกไหล่ของผมอย่างออดอ้อนและพูดต่อว่า「ดังนั้น ตอนที่เขากำลังหาซื้อบริการทางเพศ ฉันเลยจงใจให้คนส่งที่อยู่โรงแรมไปให้เขา แล้วไปรออยู่ที่นั่น」「ไอ้สวะไร้ประโยชน์นั่น ทนมือทนเท้าฉันได้ไม่ถึงสองนาทีก็ล้มลงกับพื้น หมดสภาพแล้ว」「ฉันใช้คีมถอนฟันของเขาไปหนึ่งซี่ เป็นสิ่งที่เขาต้องจ่ายที่กล้าเผยแพร่ข่าวปลอม」ลู่จวิ้นนำริมฝีปากร้อนอุ่นฝังลงบนซอกคอของผม「อันที่จริงฉันอยากให้เขามาคุกเข่าขอโทษนาย แต่มันไม่ยอม」ปลายผมของเขาทิ่มแทงผิวหนัง จนผมรู้สึกคันยิบ ๆ เล็กน้อยผมผลักแขนเขาเบา ๆ 「ลู่จวิ้น นายลงมาได้แล้ว」ลู่จวิ้นไม่ยอมผละออก เสียงหัวใจของเขาเต้นดังชัดเจนผ่านทะลุเนื้อผ้าเข้ามาในหูของผมเข
Read more

บทที่ 10

「ถิงถิง มานอนกับฉันโอเคไหม」ใบหน้าของลู่จวิ้นนั้นมีอำนาจทำลายล้างสูงมากจริง ๆ ผมพยายามรวบรวมสติก้อนสุดท้ายและปฏิเสธออกไป「ไม่เอา」ลู่จวิ้นได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าอาลัยเสียดายออกมาอย่างชัดเจน ราวกับไม่ต้องการให้ความใกล้ชิดนี้จบลง ก่อนที่เขาจะยื่นมือมาประคองใบหน้าเรียวเล็กของผมอย่างแผ่วเบา แล้วบรรจงประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากของผมอย่างอ่อนโยน「ก็ได้ งั้นขอจูบราตรีสวัสดิ์หน่อยแล้วกัน」ผมถูกคนตรงหน้าจู่โจมด้วยจูบจนใบหน้าแดงซ่านไปหมด หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะลงแรงฟาดฝ่ามือใส่เขาเบา ๆ อย่างขัดเขิน「ไอ้บ้า」ลู่จวิ้นรวบมือของผมที่เพิ่งจะใช้ฟาดร่างเขาไว้ได้อย่างทันควัน พร้อมกับดึงขึ้นมาประทับรอยจูบอีกครั้งลงบนฝ่ามือของผม「อืม ฉันมันบ้า เจ้าชายตัวน้อยของผมไปพักผ่อนเถอะ ราตรีสวัสดิ์」ผมเคลิ้มไปกับรอยยิ้มของเขาจนมึนเมาเล็กน้อย แต่ทันทีที่เดินลงบันไดไป ผมก็ได้ยินเสียงสนทนาที่ดังออกมาจากมุมตึก「ลู่จวิ้นจากมหาวิทยาลัย A เป็นคู่แข่งตัวฉกาจในการคว้าเหรียญทอง แต่ไม่ต้องห่วง ฉันแอบใส่ยาในนมของเขาแล้ว เดี๋ยวอีกสีกพักจะส่งผู้หญิงเข้า รับรองว่าเขาต้อง...」ผมรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างเร่งรีบ และกระแ
Read more
PREV
12
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status