Masukก่อนหน้านี้ตอนที่ซือหวยอันทำร้ายสืออวี๋ คุณย่าซืออาจจะยังพอทำเป็นหลับหูหลับตาได้ แต่ครั้งนี้ซือหวยอันถึงขั้นทำให้ซือเยี่ยนต้องนอนไม่ได้สติ คุณย่าซือไม่มีทางให้อภัยเขาแน่หลังจากสูบบุหรี่จนหมดมวน ซือห่าวอวี่ก็ข่มความฟุ้งซ่านในใจ แล้วกลับไปนั่งทำงานต่อที่โต๊ะไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เลขาก็เดินถือหลักฐานเข้ามาในห้องทำงาน“ประธานซือ ตรวจสอบแน่ชัดแล้วครับ เงินหลายล้านที่โอนเข้าบัญชีครอบครัวคนขับรถบรรทุกคันที่ชนคุณชายสาม ถูกโอนออกจากบัญชีของคุณพ่อท่านจริง ๆ ครับ ท่านแสร้งทำเป็นเล่นเสียพนันในบ่อนไปสามล้าน จากนั้นเงินก้อนนั้นก็ถูกโอนเปลี่ยนมืออีกหลายทอด ถ้าไม่ตรวจสอบอย่างละเอียด และถ้าพ่อของท่านไม่ได้มีแรงจูงใจมากพอ คงไม่มีใครเชื่อมโยงเงินสองก้อนนี้เข้าด้วยกันได้”ซือห่าวอวี่รับแฟ้มเอกสารที่เลขายื่นให้มาเปิดดู หลังจากอ่านจบเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายให้ใครรู้เด็ดขาด”“ครับ รับทราบครับ”เลขาก้มหน้าลง แอบตระหนกตกใจอยู่ลึก ๆ สงสัยเหลือเกินว่าซือห่าวอวี่กำลังคิดจะปิดข่าวเรื่องนี้หรือเปล่าเพราะถึงอย่างไรซือหวยอันก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้า คนปกติที่ไหนจะกล้าส่งพ่อต
สีหน้าของซือหวยอันดำทะมึนลง “หมายความว่ายังไง? ฉันเป็นพ่อของแกนะ แค่จะเข้าไปในห้องทำงานแก ฉันยังไม่มีสิทธิ์รึไง?”เขาจ้องเขม็งไปที่ซือห่าวอวี่ แววตาอัดแน่นไปด้วยโทสะที่ลุกโชนซือห่าวอวี่มีสีหน้าเรียบเฉย “ถ้าคุณมาที่นี่เพียงเพื่อจะพ่นเรื่องไร้สาระพวกนี้ ก็เชิญกลับไปได้เลย ผมงานยุ่งมาก ไม่มีเวลามาเสวนากับคุณ”พูดจบ ซือห่าวอวี่ก็หมุนตัวเดินจากไปทันทีเสียงตวาดด้วยความเดือดดาลของซือหวยอันไล่หลังมา “ซือห่าวอวี่ แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”ชายหนุ่มทำหูทวนลม เดินตรงไปยังหน้าลิฟต์และกดเรียกลิฟต์ส่วนตัวเพื่อขึ้นตึกทันทีที่ประตูลิฟต์เลื่อนปิดลง เสียงก่นด่าของซือหวยอันก็ถูกตัดขาดไปโดยสิ้นเชิงเมื่อกลับถึงห้องทำงาน ซือห่าวอวี่ก็ปัดเรื่องที่พ่อมาหาทิ้งไปจากสมอง เขาทิ้งตัวลงนั่งและเริ่มจัดการเอกสารตรงหน้าเพียงสิบกว่านาทีให้หลัง เลขาก็เคาะประตูและรีบร้อนเดินเข้ามา “ท่านประธานคะ คุณพ่อของท่านกำลังเอะอะโวยวายอยู่ที่หน้าตึกซือซื่อค่ะ ป่าวประกาศว่าท่านอกตัญญู กีดกันไม่ให้เขาเข้ามาในบริษัท…”สีหน้าของซือห่าวอวี่เย็นชาลงทันที “ทราบแล้ว เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง ผมจะจัดการเอง”“รับทราบค่ะ ท่านประธานซือ”
ซ่งจื่ออินแค่นเสียง เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก “แกยังรู้จักขอโทษด้วยเหรอ ฉันนึกว่าแกจะทำเนียนลืมเรื่องนี้ไปแล้วซะอีก!”“ขอโทษนะ ที่ผ่านมาแกคงโกรธมาก”อันที่จริงเธอเข้าใจซ่งจื่ออินได้เป็นอย่างดี ถ้าสลับกันเป็นซ่งจื่ออินยอมไม่ห่วงสุขภาพตัวเองเพื่อผู้ชายสักคน เธอก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนกัน“เอาเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ฉันหายโกรธไปตั้งนานแล้ว แต่ถ้าแกกลับมาเมื่อไหร่ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”“ได้สิ ไว้ฉันกลับไป แกจะด่ายังไงก็ได้เลย”ซ่งจื่ออิน “...”พูดซะเหมือนเธอเป็นยักษ์เป็นมารอย่างนั้น“จริงสิ ที่ฉันโทรหาแกวันนี้ ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะบอก”“เรื่องอะไรเหรอ?”“ก็คนขับรถบรรทุกที่ชนพวกแก จู่ ๆ ก็เกิดคลุ้มคลั่งในสถานกักกัน ตอนนี้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว ตอนแรกเขาอ้างว่าเมาแล้วขับ แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าอาการเสียสติกะทันหันเนี่ยมันดูแปลก ๆ ทางที่ดีแกลองให้คนตระกูลซือตรวจสอบเรื่องนี้อีกทีดีกว่า”สืออวี๋บีบโทรศัพท์ในมือแน่น ภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุในวันนั้นฉายวาบเข้ามาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลมหายใจเริ่มถี่กระชั้นขึ้นโดยไม่รู้ตัวเธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามข่มอารมณ์ความรู้สึกในใจ “ได
คุณย่าซือลุกขึ้นยืน พลางเอ่ยเสียงเรียบ “เรื่องที่ฉันเสียใจที่สุด ก็คือการตัดสินใจให้แกไปรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ที่ซือซื่อในตอนนั้น ต่อไปถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องโผล่มาอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก”พอนึกย้อนไปว่าหลังจากที่ซือเยี่ยนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซือหวยอันไม่เคยโผล่หน้าไปเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียว หนำซ้ำยังไม่มีคำพูดปลอบโยนให้คนเป็นแม่สักครึ่งคำ ที่ดั้นด้นมาถึงวันนี้ก็เพียงเพราะหวังจะกลับไปนั่งเก้าอี้ผู้จัดการใหญ่ คุณย่าซือก็ได้แต่รู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจเธอหมุนตัวเดินจากไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นแววตาอันดำมืดและชั่วร้ายของซือหวยอันที่จ้องมองไล่หลังมา ราวกับอสรพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด พร้อมจะพุ่งเข้าฉกกัดคนได้ทุกเมื่อหร่วนซินเอ๋อร์เดินเข้ามาหา พลางตบไหล่ซือหวยอันเบา ๆ“หวยอัน ฉันเข็นคุณกลับกันเถอะค่ะ ดูท่าคุณแม่คุณจะไม่ต้อนรับพวกเรา แล้วก็คงไม่ชอบลูกในท้องของฉันด้วย”ซือหวยอันสีหน้าย่ำแย่ เขากุมมือหร่วนซินเอ๋อร์ไว้ แววตาฉายชัดถึงความปวดใจ“ซินเอ๋อร์ อยู่กับผมคุณต้องลำบากแล้ว”หร่วนซินเอ๋อร์หลุบตาลง ส่ายหน้าช้า ๆ “ฉันไม่รู้สึกลำบากเลยค่ะ ขอแค่ได้อยู่กับคุณและลูก ฉันก็มีความสุขที่สุด
ความโกรธแค้นที่อัดอั้นอยู่ภายในไม่อาจข่มกลั้นได้อีกต่อไป ซือหวยอันจ้องมองคุณย่าซือด้วยสายตาเกรี้ยวกราด “ทำไมถึงยังไม่ถึงตาผมเสียที?! ผมก็เป็นลูกแม่เหมือนกันนะ! ก่อนหน้านี้แค่ผมขาพิการ แม่ก็รีบส่งซือเยี่ยนเข้ามาเสียบแทนตำแหน่งผมทันที ตอนนี้เขานอนโคม่า ดีไม่ดีชาตินี้อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้วด้วยซ้ำ แต่แม่ก็ยังคิดจะเก็บตำแหน่งนั้นไว้ให้เขาอีก!”“หลายปีมานี้ผมทุ่มเทไปตั้งเท่าไหร่ แต่แม่ไม่เคยเห็นค่าเลยสักนิด จนผมเริ่มสงสัยแล้วว่า ตกลงผมใช่ลูกแท้ ๆ ของแม่หรือเปล่า!”คำพูดนั้นจุดไฟโทสะให้คุณย่าซือเช่นกัน “แกยังมีหน้ามาถามฉันคำนี้อีกเหรอ? ลำพังแค่แกฉวยโอกาสตอนน้องชายรถคว่ำนอนไม่ได้สติ แอบไปหย่ากับเฉียวหว่านอี๋โดยพลการฉันก็โมโหมากพอแล้ว แต่นี่หย่าปุ๊บแกก็รีบจดทะเบียนกับนังผู้หญิงคนนี้ทันที แกเอาหน้าตาของตระกูลเฉียวกับตระกูลซือไปไว้ที่ไหน?!”เรื่องที่ซือหวยอันแอบเลี้ยงดูหร่วนซินเอ๋อร์ไว้ข้างนอกตลอดหลายปีมานี้ ใช่ว่าคนตระกูลเฉียวจะไม่ระแคะระคายเพียงแต่เห็นแก่หน้าเฉียวหว่านอี๋ที่ยังครองสถานะสามีภรรยากับเขาอยู่ จึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไม่เอาเรื่องแต่ครั้งนี้เขากลับรีบหย่ากับเฉียวหว่านอี๋แล้วจ
ซือห่าวอวี่รีบก้าวไปที่ข้างเตียงผู้ป่วยทันที สีหน้าฉายแววตื่นเต้นยินดี“จริงหรือครับ?”สืออวี๋พยักหน้า “อื้ม เมื่อกี้ฉันรู้สึกได้ชัดเจนเลยค่ะว่ามือเขาขยับ ไม่ใช่ฉันคิดไปเองแน่ ๆ”“ดูท่าคงต้องให้พี่มาคุยกับอาเล็กทุกวันแล้วล่ะ ไม่แน่อีกไม่นานเขาอาจจะฟื้นขึ้นมาก็ได้”“อื้ม”ขอบตาของสืออวี๋แดงระเรื่อด้วยความตื้นตันใจช่วงที่ผ่านมาเธอคุยกับซือเยี่ยนแต่เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด ทุกวันของเธอผ่านไปอย่างทรมานใจ เฝ้ารอที่จะได้มาเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล แต่ขณะเดียวกันก็กลัวที่จะต้องมาเห็นสภาพของเขาเพราะทุกครั้งที่มา เธอหอบความหวังมาเต็มเปี่ยม แต่ต้องกลับไปพร้อมความผิดหวังเสมอแต่วันนี้ ในที่สุดเปลวไฟแห่งความหวังในใจเธอก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งเขาต้องฟื้นขึ้นมาได้อย่างแน่นอน!เรื่องที่มือของซือเยี่ยนขยับรับรู้ถึงหูคุณย่าซืออย่างรวดเร็วแม้ปากจะไม่พูด แต่ในใจเธอก็โล่งอกไปเปราะหนึ่ง มีปฏิกิริยาย่อมดีกว่านอนนิ่งไม่ไหวติง“ฉันรู้แล้ว แต่ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม ถ้าภายในหนึ่งเดือนเธอทำให้ซือเยี่ยนฟื้นไม่ได้ ฉันจะไม่ให้เธอมาเจอซือเยี่ยนอีก”ซือห่าวอวี่ขมวดคิ้วมุ่น น้ำเสียงเย็นชาลงเล็กน้อย “







