บททั้งหมดของ คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?: บทที่ 1 - บทที่ 10

85

บทที่1

“คุณหนูสือ คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะยกเลิกสถานที่จัดงานแต่งที่จองไว้ก่อนหน้านี้?”ปลายนิ้วของสืออวี๋ที่จับโทรศัพท์กำแน่นขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอราบเรียบไร้อารมณ์ “อืม แน่ใจ”“ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ จะดำเนินการยกเลิกให้คุณนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”พอวางสาย สืออวี๋ก็ถอดแหวนหมั้นจากนิ้วนางข้างซ้าย วางลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นลากกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป……ครึ่งเดือนก่อนยามเย็น สืออวี๋เพิ่งว่าความเสร็จ เดินออกจากศาล สิ่งแรกที่เธอทำก็คือเปิดมือถือขึ้นมาเธอเปิดไลน์ขึ้นมา ช่องแชทที่ปักหมุดไว้เต็มไปด้วยข้อความนับสิบข้อความที่เธอส่งออกไป แต่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับสักข้อความเลยตั้งแต่เดือนก่อน หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องการ์ดแต่งงาน วันถัดมาเหลียงหยวนโจวก็ออกเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าเธอจะส่งข้อความไปง้อขอคืนดีสักกี่ครั้ง เขาก็ทำเป็นมองไม่เห็นในความสัมพันธ์นี้ สืออวี๋ยอมลดตัวลงจนต่ำที่สุดแล้ว แต่กลับไม่อาจแลกมาได้ซึ่งการหันกลับคืนใจของเหลียงหยวนโจวเลยเพื่อนสนิท “ซ่งจื่ออิน” เห็นแล้วทนไม่ไหว มักเหน็บแนมว่า เธอว่าความคดีหย่าร้างมานับไม่ถ้วน เจอผู้ชายเลว ๆ มาก็มาก แต่กลับพาตั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่2

เหลียงหยวนโจวหัวเราะอย่างได้ใจ “คราวหน้าผมจะระวังกว่านี้ เดี๋ยวไปซื้อยาให้คุณ”เสียงของผู้ชายค่อยๆ จางหายไป สืออวี๋ก้มมองลิปสติกที่หักครึ่งในมือ ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ทิ้งลิปสติกที่หักลงในถังขยะ สืออวี๋เปิดชั้นที่สองของกล่องเครื่องประดับ แต่พบว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ในนั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับที่เหลียงหยวนโจวส่งให้ ไม่ต่ำกว่าร้อยชิ้น ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวนอกใจ หลังจากผิดหวังต่อเขาหนึ่งครั้ง เธอก็จะเอาทิ้งหนึ่งชิ้นช่วงแรกทิ้งช้ามาก แต่หลังๆกลับทิ้งเร็วขึ้น ตอนนี้ก็เกือบหมดแล้วเหมือนกับความรักที่เธอมีต่อเหลียงหยวนโจว จากที่เคยเต็มล้นเหมือนคลื่นทะเล มาจนถึงตอนนี้ที่หมดกำลังใจและสิ้นหวัง ดูเหมือนกำลังจะจางหายไปจนหมดสิ้นแล้ว สืออวี๋หยิบสร้อยคอทองเส้นเล็กขึ้นมา นี่คือของขวัญวันครบรอบสามปีที่เหลียงหยวนโจวส่งให้จี้สร้อยเป็นรูปอุ้งเท้าแมว ตอนนั้นสืออวี๋อยากเลี้ยงแมวตัวหนึ่งมาก มักดูคลิปแมวจากบนออนไลน์ตอนได้รับสร้อยนี้ เธอตื่นเต้นมาก หมุนเล่นจี้รูปแมวไม่หยุดทั้งคู่เคยวางแผนว่าจบการศึกษาแล้วจะเช่าบ้านด้วยกันและรับแมวตัวหนึ่งมาเลี้ยง แม้แต่ชื่อก็ตั้งเสร็จแล้ว เรียกว่า“โจว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่3

สังเกตเห็นถึงสาายตาของเธอ เสินหลีรีบยกมือปิดกำไลทองที่ข้อมือ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ร่างกายย่อท่าทีพยายามหลบไปชิดเหลียงหยวนโจเหลียงหยวนโจดึงเธอมายืนหลังตัวเอง จ้องมองสืออวี๋ด้วยท่าทีที่สูงส่ง “คุณจ้องเสินหลีทำไม?”ขอบตาของสืออวี๋แดงเล็กน้อย “เหลียงหยวนโจว ทำไมคุณถึงให้กำไลทองแบบเดียวกันกับเสินหลี? คุณเคยบอกแล้วว่านั่นเป็นของฉันคนเดียว”“เสินหลีเคยเห็นคุณใส่ บอกว่าชอบมาก ผมก็คงเอาของคุณไปส่งให้เธอไม่ได้สินะ? อีกอย่างมันก็แค่กำไลอันเดียว คุณกลายเป็นคนใจแคบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ระหว่างคิ้วของเหลียงหยวนโจเต็มไปด้วยความเหลือทน เหมือนกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยไร้สาระเรื่องหนึ่งดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “แต่อดีตตอนคุณให้ฉัน เคยบอกว่า……”ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเหลียงหยวนโจขมวดคิ้วขัดจังหวะ “สืออวี๋ อยู่กับอดีตตลอด มันมีความหมายนักเหรอ? คุณเองก็บอกแล้วนี่นะว่ามันคืออดีต”เขาไม่ชอบที่สุดก็คือสืออวี๋ชอบพูดถึงเรื่องอดีต เพราะมันจะทำให้เขานึกถึงความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ และช่วงเวลาที่มืดมนในตอนนั้นของตนเองสืออวี๋เป็นคนที่อยู่ข้างเขาในตอนนั้น รู้ทุกความ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่4

เหลียงหยวนโจวยิ้มมองเธอ สายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม “สวยมาก แถมยังเหมาะกับคุณมากด้วย”ทั้งสองสบตากันกลางอากาศ แววตาที่มองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความรักที่ไม่ปิดบังเลยทั้งที่เธอกับเหลียงหยวนโจเป็นคนลองชุดแต่งงาน แต่พอมีเสินหลีอยู่ข้าง ๆ เธอกลับเหมือนมือที่สามคนหนึ่งสืออวี๋กำกระโปรงแน่น สายใยแห่งเหตุผลในหัวเหมือนถูกดีดขาด ดัง “เพี้ยะ” ในทันทีเธอยกชายกระโปรงขึ้น ค่อยๆเดินตรงไปหาเสินหลีเสินหลีเห็นสืออวี๋เดินมา รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งลึกขึ้น “คุณหนูสือ ชุดแต่งงานของคุณสวยมากเลยจริงๆ ฉันเห็นชุดแต่งงาน จู่ๆก็อยากลองใส่ดู คุณคงไม่ถือสามั้งคะ?”“เพี้ยะ!”สืออวี๋ยกมือขึ้นตบเธอโดยตรง ก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ “ตอนนี้คุณน่าจะรู้แล้วว่า ฉันถือสาหรือไม่”สีหน้าของเหลียงหยวนโจวเปลี่ยนไปทันที “สืออวี๋ นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณ?!”เขารีบก้าวเข้ามาผลักสืออวี๋ออกไป แล้วยกคางของเสินหลีขึ้นตรวจดูว่าหน้าของเธอบาดเจ็บหรือไม่กระโปรงชุดแต่งงานพองใหญ่ ประกอบกับรองเท้าส้นสูงแปดเก้าซม. ทำให้สืออวี๋ที่ถูกเหลียงหยวนโจวผลักขาพลิกและล้มลงไปกับพื้นทันทีแม้ความเจ็บปวดที่ข้อเท้าจะรุนแรงแทบขาดใจ แต่กลับเทียบกับความเจ็บลึกใ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่5

เมื่อซ่งจื่ออินก้าวเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน สืออวี๋กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในร้าน พลางเปิดสมุดชุดแต่งงานดูอยู่ หน้าด้านข้างเงียบสงบและสง่างามมองดูรอบๆก็ไม่เห็นเหลียงหยวนโจว เธอขมวดคิ้วแล้วก้าวไปด้านหน้า “เหลียงหยวนโจวอยู่ไหน?”“ไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของซ่งจื่ออินเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “เขาทิ้งแกไว้ตรงนี้แบบนี้เหรอ?”สืออวี๋ก้มหน้าลง นิ้วลูบไล้อัลบั้มชุดแต่งงานโดยไม่พูดอะไรเห็นท่าทางของเธอ ซ่งจื่ออินก็ทั้งโกรธและสงสาร จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ลองชุดแต่งงานได้ยังไงบ้าง?”“ฉันพอใจมาก แถมยังถ่ายรูปไว้ด้วย”“ฉันดูหน่อยสิ”ทันทีที่เห็นรูป ซ่งจื่ออินถึงกับประทับใจในความงดงามทันที “สวยจังเลย! แถมยังเหมาะกับแกมากด้วย รอฉันแต่งงาน แกก็ออกแบบชุดแต่งงานให้ฉันชุดหนึ่งสิ!”สืออวี๋ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “โอเค”“โอ้โห!”ซ่งจื่ออินขยายรูปดูอย่างชื่นชมไปด้วย พร้อมพูดว่า “เหลียงหยวนโจวผู้ชายเลวคนนั้นมันช่างโชคดีจริงๆเลยนะ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเขาทำบุญอะไรมา ถึงได้แต่งงานกับภรรยาที่สวยขนาดนี้!”รอยยิ้มบนมุมปากของสืออวี๋ขมขื่น ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้อยากแต่ง เธอเป็นฝ่ายยืนยันอยากแต่งเองสังเกตเห็นว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่6

ตอนแรกเธอเองก็ไม่อยากสนใจเสินหลีไอ้ดอกบัวสีขาว[1]นี้หรอก แต่เมื่อครู่นี้เธอนั่งอยู่ด้านหลังพวกเขา ได้ยินเสินหลีพูดโอ้อวดกับเพื่อนว่าวันที่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋ลองชุดแต่งงานนั้นได้พาเธอไปด้วย ไม่เพียงแค่ให้เธอไปแถมยังให้เธอลองชุดแต่งงานด้วย แต่ยังผลักสืออวี๋เพื่อเธออีกด้วยพอนึกถึงความเงียบและข้อเท้าที่บวมแดงของสืออวี๋ในวันนั้น ซ่งจื่ออินยังจะไม่เข้าใจสักที่ไหนกันเธอไม่ได้มีความอดทนเหมือนสืออวี๋ แค่ตบเสินหลีสองทีก็ยังถือว่าเบาไปสีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม “นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับสืออวี๋ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”ในขณะที่พูด สายตาที่เย็นชาของเขาก็จ้องยังสืออวี๋ที่เพิ่งเดินมายืนอยู่ข้างซ่งจื่ออิน ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจที่ไม่ปิดบังเลยแม้แต่นิด“ผมคิดว่าให้เวลาคุณหลายวัน คุณจะใจเย็นลงได้ คิดไม่ถึงว่าคุณจะยุยงซ่งจื่ออินให้มาหาเรื่องเสินหลี”สืออวี๋หน้าซีด “คุณคิดว่าฉันตั้งใจบอกเรื่องในร้านชุดแต่งงานวันนั้นให้จื่ออินงั้นเหรอ?”“ไม่อย่างนั้นล่ะ? ไม่อย่างงั้นซ่งจื่ออินจะรู้ได้อย่างไร? ผู้หญิงร้ายกาจอย่างคุณ ไม่แปลกใจเลยที่ถูกตระกูลสือขับไล่ออกมา สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด ก็คือเคย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่7

เที่ยงคืน สืออวี๋ถูกเสียงเปิดประตูทำให้ตื่นเธอเหลือบมองนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง 02:16 น.เหลียงหยวนโจวขยับตัวเบามาก ราวกับกลัวจะทำให้เธอตื่นแต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเขานอกใจ การนอนของสืออวี๋ก็เริ่มแย่ลง เพียงแค่มีเสียงนิดเดียวก็ทำให้เธอตื่นทันทีทว่าในเมื่อใจเขาไม่อยู่ที่เธอนายแล้ว จะไปสังเกตถึงเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้อย่างไรตอนนี้เธอก็ไม่อยากคุยกับเขาพอดี จึงเลือกหลับตาแกล้งทำเป็นหลับเหลียงหยวนโจวเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำมีเสียงน้ำไหลดังแผ่ว ๆ ไม่นานนักเสียงนั้นก็เงียบลงประตูห้องอาบน้ำถูกเปิดออก เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาแล้วหยุดที่ข้างเตียงแม้จะหันหลังให้เหลียงหยวนโจว แต่สืออวี๋ก็รับรู้ได้ว่า เขาเปิดผ้าห่มด้านเขาแล้วเอนตัวลงนอนทันทีที่เตียงอีกฝั่งยุบลง ความมืดในห้องก็กลับมาเงียบสนิท จนได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจของกันและกันสืออวี๋นอนไม่หลับอีก จึงนับแกะในใจแทนเมื่อก่อนตอนนอนไม่หลับ เหลียงหยวนโจวมักจะเล่านิทานกล่อมเธอนอน บางครั้งก็เล่าถึงอนาคตให้เธอฟังบอกว่าเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จแล้ว จะซื้อบ้านที่มีหน้าต่างกระจกสูงใหญ่ให้เธอ บอกว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่8

ตอนนี้พอภาพเขากับเสิ่นหลีปรากฏออกมา เสิ่นหลีจึงชิงตำแหน่งแฟนตัวจริงของสืออวี๋ไปโดยปริยายถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงโทรไปซักถามเหลียงหยวนโจว ให้เขารีบชี้แจงให้ชัดเจนทันทีแต่ตอนนี้ เธออยาดูว่า ถ้าเธอไม่ร้องไห้ไม่โวยวายอะไรเลย เหลียงหยวนโจวจะทำอย่างไรจะปล่อยให้เรื่องดำเนินไปตามนั้น หรือออกมาชี้แจงเองวางมือถือลงอย่างไม่แยแส สืออวี๋ก็ทำงานต่อตอนแรกคิดว่าวันนี้คงใจไม่อยู่กับงาน แต่กลับไม่เพียงแค่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ แถมยังทำงานเกินเป้าหมายอีกด้วยตอนใกล้เลิกงาน สืออวี๋เปิดทวิตเตอร์ขึ้นมาหัวข้อร้อนแรงเช้าวันนี้หายไปหมดแล้ว และไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ของเหลียงหยวนโจวหรือจะเป็นทวิตเตอร์ทางการของเทคโนโลยีเหยวฮ่างเอง ก็ไม่มีคำชี้แจงที่เกี่ยวข้องใดๆเลยเขาคงรู้ดีว่า การไม่ชี้แจงหมายก็ถึงการยอมรับยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่เธอกับเหลียงหยวนโจวคบกันนั้น แม้ไม่ได้ประกาศให้โลกทราบ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่รู้อยู่แล้วตอนนี้ไม่ชี้แจง ก็เหมือนเป็นการวางระเบิดให้กับบริษัทของเขาล่วงหน้าพอระเบิดขึ้นมา แน่นอนว่าก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในบริษัทของเขาแต่เพื่อเสินหลี เขาไม่แม้แต่จะสนใจถึงผลลัพธ์ที่จ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่9

เพราะความโกรธ หน้าอกของเซี่ยงชินเฟินขึ้นลงไม่หยุด สายตาที่มองเหลียงหยวนโจวก็เต็มไปด้วยความผิดหวังหน้าของเหลียงหยวนโจวมีรอยแดงของฝ่ามือ มองดูเซี่ยงชินเฟินแล้วพูดว่า “แม่พูดถูก ดังนั้นผมถึงรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เจอเธอในตอนที่ผมยังจนอยู่ เธอไม่ต้องลำบากกับผม”ทันทีที่คำพูดนั้นออกมา มือของสืออวี๋ก็กำแน่นทันที ความเจ็บปวดราวคลื่นซัดจากหัวใจไปทั่วร่างกายทุกคำพูดที่เขาเคยพูดทำร้ายเธอมาก่อนนี้ ไม่สามารถเทียบกับความร้ายแรงของคำพูดนี้ได้เลยเขาสงสารเสินหลี กลับเสินหลีต้องลำบากกับเขาแล้วหลายปีที่เธอทนลำบากอยู่กับเขามันคืออะไร?สืออวี๋เอ๋ยสืออวี๋ ผู้ชายคนนี้ทำร้ายเธออย่างไม่ใยดีแบบนี้ เธอยังไม่ยอมตื่นหรือไง?เซี่ยงชินเฟินหันมองสืออวี๋ เห็นเธอหน้าซีด สายตาเปล่งประกายความเป็นห่วง“สืออวี๋ เขาพูดเพราะโกรธเอง หนูอย่าใส่ใจไปเลยนะ ป้าเซี่ยงช่วยหนูสั่งสอนเขา……”“ป้าเซี่ยง”สืออวี๋หันมองเธอ พยายามทำหน้าเรียบเฉยแล้วพูดว่า “ป้าเซี่ยงไม่ต้องช่วยเขาอธิบายหรอกค่ะ หนูรู้ว่าที่เขาพูดนั้นคือความในใจ ตลอดมาหนูอยากเป็นลูกสะใภ้ของป้าเซี่ยงมาก แต่ตอนนี้คงไม่มีโอกาสนี้แล้ว เรื่องงานแต่ง……ยกเลิกเถอะค่ะ”“หน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่10

หลังได้เห็นกับตาว่าความรักที่เหลียงหยวนโจวมีต่อเสินหลีนั้น เธอก็ไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกความรักที่เธอมีต่อเหลียงหยวนโจว และตลอดหลายปีที่ผ่านมาความรู้สึกนั้นก็ถูกการดึงดันซ้ำแล้วซ้ำเล่าบั่นทอนจนแทบไม่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอยืนหยัดต่อไปได้อีกแล้ว“เป็นไปไม่ได้!”สายตาของเซี่ยงชินเฟินแน่วแน่ “หนูให้โอกาสเขาอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้เขายังทำให้หนูผิดหวังเหมือนเดิม ป้าจะไม่ห้ามหนูอีกแล้ว”“โอกาสครั้งนี้ ถือว่าป้าเซี่ยงใช้บุญคุณช่วยชีวิตขอแทนหยวนโจวได้ไหม?”สืออวี๋ถอนหายใจอยู่ในใจ จริงๆแล้วเธอทำแบบนี้ ก็เพียงแค่ยืดเวลาการเลิกราของตัวเองกับเหลียงหยวนโจวออกไปเท่านั้น แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ยังเหมือนเดิมคนสองคนที่ไม่ได้รักกันแล้ว จะเดินไปด้วยกันต่อได้อย่างไร?ท่ามกลางสายตาวิงวอนของเซี่ยงชินเฟิน สุดท้ายสืออวี๋ก็พยักหน้า “ได้ค่ะป้าเซี่ยง หนูสัญญากับป้าว่า ถ้าภายในหนึ่งเดือนเหลียงหยวนโจวตัดขาดกับเสินหลีได้จริง หนูจะยกโทษให้เขา”พูดแบบนี้ เพราะว่าในใจเข้าใจดูว่า เหลียงหยวนโจวไม่มีทางทอดทิ้งเสินหลีเพื่อเธอเมื่อเห็นเธอตกลง เซี่ยงชินเฟินก็โล่งใจ รีบหยิบกำไลที่เตรียมมาออกจากกระเป๋า“นี่เป็นข
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
9
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status