คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?

คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?

โดย:  ชุนกวงห่าวอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel4goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
85บท
26views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

【ตามง้อเมียแต่สายไปแล้ว+พระรองขึ้นครองที่】 รักกันมานานแปดปี “สืออวี๋” ที่เคยเป็นรักแรกในใจของ “เหลียงหยวนโจว” กลับกลายเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่เขาอยากสลัดทิ้งให้เร็วที่สุด พยายามนานถึงสามปี จนกระทั่งหมดสิ้นแม้เศษเสี้ยวความรู้สึกสุดท้าย สืออวี๋จึงตัดใจหันหลังเดินจากไป วันเลิกลา เหลียงหยวนโจวหัวเราะเยาะใส่เธอ “สืออวี๋ ผมจะรอดูวันที่คุณกลับมาขอคืนดีกับผม” แต่รอแล้วรออีก กลับเป็นข่าวงานหมั้นของสืออวี๋แทน! เขาโกรธจนแทบบ้า รีบโทรหาทันที “บ้าพอแล้วหรือยัง?” แต่ปลายสายมีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายอีกคนดังมา “ประธานเหลียง ว่าที่ภรรยาของผมกำลังอาบน้ำอยู่ ไม่สะดวกรับสายคุณ” เหลียงหยวนโจวหัวเราะเยาะ แล้วตัดสายไป คิดว่านี่เป็นเพียงกลยุทธ์เล่นตัวของสืออวี๋เท่านั้น จนกระทั่งในวันแต่งงานจริง เขาเห็นเธอสวมชุดเจ้าสาว อุ้มช่อดอกไม้ เดินไปหาผู้ชายอีกคน เหลียงหยวนโจวจึงเพิ่งตระหนักได้ว่า สืออวี๋ไม่เอาเขาแล้วจริงๆ เขาคลั่งจนวิ่งฝ่าเข้าไปตรงหน้าเธอ “อาอวี๋! ผมรู้ผิดแล้ว อย่าแต่งกับคนอื่นเลย ได้ไหม?” สืออวี๋เพียงยกชายกระโปรงเดินผ่านเขาไป “ประธานเหลียง คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคุณกับเสินหลีต่างหากที่เกิดมาคู่กัน? แล้วจะมาคุกเข่าอะไรในงานแต่งของฉัน?”

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่1

“คุณหนูสือ คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะยกเลิกสถานที่จัดงานแต่งที่จองไว้ก่อนหน้านี้?”

ปลายนิ้วของสืออวี๋ที่จับโทรศัพท์กำแน่นขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอราบเรียบไร้อารมณ์ “อืม แน่ใจ”

“ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ จะดำเนินการยกเลิกให้คุณนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

พอวางสาย สืออวี๋ก็ถอดแหวนหมั้นจากนิ้วนางข้างซ้าย วางลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นลากกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป

……

ครึ่งเดือนก่อน

ยามเย็น สืออวี๋เพิ่งว่าความเสร็จ เดินออกจากศาล สิ่งแรกที่เธอทำก็คือเปิดมือถือขึ้นมา

เธอเปิดไลน์ขึ้นมา ช่องแชทที่ปักหมุดไว้เต็มไปด้วยข้อความนับสิบข้อความที่เธอส่งออกไป แต่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับสักข้อความเลย

ตั้งแต่เดือนก่อน หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องการ์ดแต่งงาน วันถัดมาเหลียงหยวนโจวก็ออกเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าเธอจะส่งข้อความไปง้อขอคืนดีสักกี่ครั้ง เขาก็ทำเป็นมองไม่เห็น

ในความสัมพันธ์นี้ สืออวี๋ยอมลดตัวลงจนต่ำที่สุดแล้ว แต่กลับไม่อาจแลกมาได้ซึ่งการหันกลับคืนใจของเหลียงหยวนโจวเลย

เพื่อนสนิท “ซ่งจื่ออิน” เห็นแล้วทนไม่ไหว มักเหน็บแนมว่า เธอว่าความคดีหย่าร้างมานับไม่ถ้วน เจอผู้ชายเลว ๆ มาก็มาก แต่กลับพาตัวเองมาตกหลุมรักผู้ชายอย่างเหลียงหยวนโจวจนถอนตัวไม่ขึ้น

อันที่จริงแล้วสืออวี๋ไม่ได้ดูไม่ออก เธอเพียงแค่ตัดใจไม่ได้เท่านั้น

เสียดายที่ทั้งสองเคยรักกันขนาดนั้น แต่จบลงด้วยการหมดรักและเกลียดชังกัน

และยิ่งเสียดาย……เหลียงหยวนโจว

แปดปีที่อยู่ด้วยกัน เธอแทบลืมไปแล้วว่าตอนไม่มีเหลียงหยวนโจว เธอเคยเป็นคนแบบไหน และไม่รู้เลยว่าจะชินกับชีวิตที่ไม่มีเขายังไง

นิ้วของเธอแตะที่ช่องป้อนข้อมูล กำลังจะพิมพ์ถามเขาว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่จู่ๆการแจ้งเตือนหนึ่งก็เด้งขึ้นมา

เหลียงหยวนโจวอัปเดต “โมเมนต์” ของเขาแล้ว

ที่เขาลงเป็นเพียงรูปวิวทะเลธรรมดา แต่สืออวี๋กลับดูออกทันทีเลยว่า ที่นั่นคือมัลดีฟส์ สถานที่ที่เธอเคยเอ่ยอยากไปกับเขานับครั้งไม่ถ้วน

ปลายนิ้วของเธอชะงัก กำลังจะกดกลับไปหน้าแชท แต่ข้อความของซ่งจื่ออินก็เด้งเข้ามา

เธอเผลอกดเปิดโดยไม่รู้ตัว แล้วพบว่ามันคือภาพแคปจากโมเมนต์ของเสินหลี

เป็นรูปทะเลเดียวกันเป๊ะกับเหลียงหยวนโจว แต่มีข้อความกำกับว่า

——แค่บ่นว่าการทํางานนอกสถานที่มันเหนื่อยมากเลย เขาก็พามาฉันมาฮันนีมูนที่มัลดีฟส์เลย!

เหลียงหยวนโจวไม่มีทางไม่รู้ว่า มัลดีฟส์สำคัญกับเธอแค่ไหน

เป็นสถานที่ที่เธอพูดถึงบ่อยๆ เขามักจะบอกว่าไม่ว่าง แต่กลับพาผู้หญิงอีกคนไป

เพียงแค่กะพริบตา น้ำตาก็ไหลร่วงโดยไม่ทันตั้งตัว

ลมหยาวเมื่อครู่นี้ เหมือนพัดซึมเข้าไปถึงหัวใจของเธอ

แล้วสายจากซ่งจื่ออินก็ดังขึ้น

“เสินหลีนี่มันน่ารังเกียจจริง ๆเลย! รู้ทั้งรู้ว่าแกกับเหลียงหยวนโจวกำลังจะแต่งงานกัน ยังจะมาโพสต์รูปเหมือนกับเหลียงหยวนโจวมาทำให้คนอื่นเขารังเกียจอีก!”

“เหลียงหยวนโจวเองก็บ้าเหมือนกันเลย พาเธอไปตรงไหนไม่ดี ทำไมต้องไปที่มัลดีฟส์ด้วย? เขาไม่รู้เหรอว่านั่นคือที่ที่แกอยากไปกับเขามาตลอด? แปดปีแล้ว ต่อให้เดินก็เดินไปถึงแล้ว!”

“เขากับเสินหลีเปิดเผยชัดเจนขนาดนี้แล้ว แกก็ถูกสวมเขามาสามปีแล้ว นี่แกยังคิดจะแต่งงานกับเขาแล้วถูกสวมเขาแบบนี้ตลอดชีวิตเลยเหรอ?”

สืออวี๋เจ็บปวดใจมาก เธอรู้ดีว่าที่ซ่งจื่ออินพูดนั้นมันถูก แต่ทั้งสองอยู่ด้วยกันมาแปดปี อีกหนึ่งเดือนกว่าก็จะแต่งงานแล้ว เธอไม่อยากยอมแพ้แบบนี้

เธออยากพยายามเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม เธอก็จะยอมรับชะตากรรม

“จื่ออิน วันเสาร์เป็นวันลองชุดเจ้าสาวกับชุดเพื่อนเจ้าสาว แกอย่าลืมมานะ”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นซ่งจื่ออินก็ด่าคำหยาบ ๆ ออกมาแล้วตัดสายทิ้ง

ถ้ายังคุยต่อ เธอกลัวว่าจะโมโหสืออวี๋จนตาย

หลายปีนี้ ทุกคนต่างก็มองออกว่า เหลียงหยวนโจวเปลี่ยนใจไปนานแล้ว แต่สืออวี๋กลับหัวดื้อ และยังเชื่อว่าซักวันเหลียงหยวนโจวจะยอมกลับใจ

สิ่งที่เธอไม่ได้บอกให้สืออวี๋คือ เธอเคยเห็นกับตาว่าเหลียงหยวนโจวพาผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเดินเข้าโรงแรมมาแล้วหลายครั้ง

เขาห่วยและแย่ไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ผู้ชายที่ในสายตามีแต่สืออวี๋เหมือนในวันวานอีกต่อไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นชายเลวชั่วแท้จริงคนหนึ่งไปแล้ว

ผู้ชายเลวชั่วแบบนี้ ออกจากบ้านก็ควรถูกรถชน และเป็นหมันไปทั้งชีวิต!

คืนนั้น สืออวี๋นอนไม่ดีเลย ฝันร้ายซ้ำไปมา จนใกล้รุ่งถึงจะงีบลงได้เล็กน้อย

แต่ยังไม่ทันได้พัก เสียงสแกนลายนิ้วมือที่หน้าประตูก็ดังขึ้น

สืออวี๋ลืมตาขึ้น พึ่งลุกขึ้นนั่งก็เห็นเหลียงหยวนโจวผลักประตูเข้ามา

เหลียงหยวนโจวลากกระเป๋าเดินทางเข้ามา ใบหน้าดูเหนื่อยล้า แต่ที่สืออวี๋มองข้ามไม่ได้คือรอยลิปสติกที่ปกเสื้อ และรอยข่วนจาง ๆ บนหน้าอกเขา

มือที่จับผ้าห่มกำแน่น ความเย็นชาหนาวเหน็บปักลงในใจ จนทำให้เธอเจ็บปวดใจ

เมื่อเห็นสืออวี๋ตื่นอยู่ เขาก็ยกคิ้วขึ้น “รบกวนโดนคุณแล้วเหรอ?”

พูดพลางลากกระเป๋าไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้หาเสื้อ

สืออวี๋สูดหายใจลึก มองดูแผ่นหลังของเขาแล้วถามว่า “คุณพาเสินหลีไปมัลดีฟส์ใช่ไหม?”

มือที่หยิบเสื้อเชิ้ตชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนหันมายิ้มเยาะ “ทำไม? ถ้าคุณชอบ งั้นฮันนีมูนของเรา ก็กำหนดไว้ที่นั่นก็ได้”

ฟังน้ำเสียงประชดประชันของเขา ทำให้สีหน้าของสืออวี๋ซีดเผือด

“คุณก็รู้ว่า ฉันอยากไปมัลดีฟส์แค่ไหน”

“คุณอยากไป ดังนั้นเสินหลีจึงไปไม่ได้เหรอ?”

“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันแค่อยาก……” ไปกับคุณต่างหาก

แต่ยังไม่ทันพูดจบ เหลียงหยวนโจวก็ตัดบทอย่างไม่พอใจ “เอาล่ะ ผมพึ่งไปทำงานนอกสถานที่กลับมาเหมื่อยมาก ไม่อยากเถียงกับคุณ”

เขาหันหลังและเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ ปิดประตูดัง “ปัง” และปิดกั้นสายตาของสืออวี๋

สืออวี๋ก้มมองปลายนิ้วที่ซีดขาว แสยะยิ้มเศร้า

เมื่อก่อนเขายังจะเถียงกับเธออยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่แม้แต่จะเถียงเลยด้วยซ้ำ

เหลียงหยวนโจวอาบน้ำออกมา สืออวี๋ก็เปลี่ยชุดและหน้าล้างแปรงฟันเสร็จแล้ว นั่งทาลิปตรงหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง

วันนี้เธอสวมชุดเดรสยาวกำมะหยี่สีเขียวเข้ม ผมยาวประบ่าลงถึงเอว แต่งหน้าประณีต สวยจนแทบละสายตาไม่ได้

แต่เหลียงหยวนโจวเพียงปรายตามอง แล้วเก็บสายตากลับไปอย่างเย็นชา

ก่อนเขาจะออกจากห้อง สืออวี๋เอ่ยเตือนด้วยเสียงที่เฉยชา “วันเสาร์เป็นวันลองชุดแต่งงาน หวังว่าคุณจะไม่มาสายอีก”

สืออวี๋ไม่ชอบคนที่ไม่ตรงต่อเวลาที่สุด ตอนนั้นที่ยอมคบกับเหลียงหยวนโจว หนึ่งในนั้นก็เป็นเพราะเขาเป็นคนที่ตรงต่อเวลา

แต่ตั้งแต่ที่เขาเปลี่ยนใจไป ก็ผิดนัดเธอเพราะผู้หญิงคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เหลียงหยวนโจวยกยิ้มเยาะ “ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ไม่สายแน่”

พูดจบ มือถือเขาก็ดังขึ้น

ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ เขากดรับสายพร้อมเปิดลำโพง เสียงออดอ้อนแสนหวานของเสินหลีก็ดังออกมา

“ประธานเหลียง เมื่อคืนคุณช่างไม่รู้จักพอเลยนะ ทำเอาตรงนั้นของฉันยังเจ็บอยู่เลย คุณต้องรับผิดชอบนะ!”
แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
85
บทที่1
“คุณหนูสือ คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะยกเลิกสถานที่จัดงานแต่งที่จองไว้ก่อนหน้านี้?”ปลายนิ้วของสืออวี๋ที่จับโทรศัพท์กำแน่นขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอราบเรียบไร้อารมณ์ “อืม แน่ใจ”“ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ จะดำเนินการยกเลิกให้คุณนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”พอวางสาย สืออวี๋ก็ถอดแหวนหมั้นจากนิ้วนางข้างซ้าย วางลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นลากกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป……ครึ่งเดือนก่อนยามเย็น สืออวี๋เพิ่งว่าความเสร็จ เดินออกจากศาล สิ่งแรกที่เธอทำก็คือเปิดมือถือขึ้นมาเธอเปิดไลน์ขึ้นมา ช่องแชทที่ปักหมุดไว้เต็มไปด้วยข้อความนับสิบข้อความที่เธอส่งออกไป แต่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับสักข้อความเลยตั้งแต่เดือนก่อน หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องการ์ดแต่งงาน วันถัดมาเหลียงหยวนโจวก็ออกเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าเธอจะส่งข้อความไปง้อขอคืนดีสักกี่ครั้ง เขาก็ทำเป็นมองไม่เห็นในความสัมพันธ์นี้ สืออวี๋ยอมลดตัวลงจนต่ำที่สุดแล้ว แต่กลับไม่อาจแลกมาได้ซึ่งการหันกลับคืนใจของเหลียงหยวนโจวเลยเพื่อนสนิท “ซ่งจื่ออิน” เห็นแล้วทนไม่ไหว มักเหน็บแนมว่า เธอว่าความคดีหย่าร้างมานับไม่ถ้วน เจอผู้ชายเลว ๆ มาก็มาก แต่กลับพาตั
อ่านเพิ่มเติม
บทที่2
เหลียงหยวนโจวหัวเราะอย่างได้ใจ “คราวหน้าผมจะระวังกว่านี้ เดี๋ยวไปซื้อยาให้คุณ”เสียงของผู้ชายค่อยๆ จางหายไป สืออวี๋ก้มมองลิปสติกที่หักครึ่งในมือ ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ทิ้งลิปสติกที่หักลงในถังขยะ สืออวี๋เปิดชั้นที่สองของกล่องเครื่องประดับ แต่พบว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ในนั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับที่เหลียงหยวนโจวส่งให้ ไม่ต่ำกว่าร้อยชิ้น ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวนอกใจ หลังจากผิดหวังต่อเขาหนึ่งครั้ง เธอก็จะเอาทิ้งหนึ่งชิ้นช่วงแรกทิ้งช้ามาก แต่หลังๆกลับทิ้งเร็วขึ้น ตอนนี้ก็เกือบหมดแล้วเหมือนกับความรักที่เธอมีต่อเหลียงหยวนโจว จากที่เคยเต็มล้นเหมือนคลื่นทะเล มาจนถึงตอนนี้ที่หมดกำลังใจและสิ้นหวัง ดูเหมือนกำลังจะจางหายไปจนหมดสิ้นแล้ว สืออวี๋หยิบสร้อยคอทองเส้นเล็กขึ้นมา นี่คือของขวัญวันครบรอบสามปีที่เหลียงหยวนโจวส่งให้จี้สร้อยเป็นรูปอุ้งเท้าแมว ตอนนั้นสืออวี๋อยากเลี้ยงแมวตัวหนึ่งมาก มักดูคลิปแมวจากบนออนไลน์ตอนได้รับสร้อยนี้ เธอตื่นเต้นมาก หมุนเล่นจี้รูปแมวไม่หยุดทั้งคู่เคยวางแผนว่าจบการศึกษาแล้วจะเช่าบ้านด้วยกันและรับแมวตัวหนึ่งมาเลี้ยง แม้แต่ชื่อก็ตั้งเสร็จแล้ว เรียกว่า“โจว
อ่านเพิ่มเติม
บทที่3
สังเกตเห็นถึงสาายตาของเธอ เสินหลีรีบยกมือปิดกำไลทองที่ข้อมือ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ร่างกายย่อท่าทีพยายามหลบไปชิดเหลียงหยวนโจเหลียงหยวนโจดึงเธอมายืนหลังตัวเอง จ้องมองสืออวี๋ด้วยท่าทีที่สูงส่ง “คุณจ้องเสินหลีทำไม?”ขอบตาของสืออวี๋แดงเล็กน้อย “เหลียงหยวนโจว ทำไมคุณถึงให้กำไลทองแบบเดียวกันกับเสินหลี? คุณเคยบอกแล้วว่านั่นเป็นของฉันคนเดียว”“เสินหลีเคยเห็นคุณใส่ บอกว่าชอบมาก ผมก็คงเอาของคุณไปส่งให้เธอไม่ได้สินะ? อีกอย่างมันก็แค่กำไลอันเดียว คุณกลายเป็นคนใจแคบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ระหว่างคิ้วของเหลียงหยวนโจเต็มไปด้วยความเหลือทน เหมือนกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยไร้สาระเรื่องหนึ่งดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “แต่อดีตตอนคุณให้ฉัน เคยบอกว่า……”ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเหลียงหยวนโจขมวดคิ้วขัดจังหวะ “สืออวี๋ อยู่กับอดีตตลอด มันมีความหมายนักเหรอ? คุณเองก็บอกแล้วนี่นะว่ามันคืออดีต”เขาไม่ชอบที่สุดก็คือสืออวี๋ชอบพูดถึงเรื่องอดีต เพราะมันจะทำให้เขานึกถึงความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ และช่วงเวลาที่มืดมนในตอนนั้นของตนเองสืออวี๋เป็นคนที่อยู่ข้างเขาในตอนนั้น รู้ทุกความ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่4
เหลียงหยวนโจวยิ้มมองเธอ สายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม “สวยมาก แถมยังเหมาะกับคุณมากด้วย”ทั้งสองสบตากันกลางอากาศ แววตาที่มองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความรักที่ไม่ปิดบังเลยทั้งที่เธอกับเหลียงหยวนโจเป็นคนลองชุดแต่งงาน แต่พอมีเสินหลีอยู่ข้าง ๆ เธอกลับเหมือนมือที่สามคนหนึ่งสืออวี๋กำกระโปรงแน่น สายใยแห่งเหตุผลในหัวเหมือนถูกดีดขาด ดัง “เพี้ยะ” ในทันทีเธอยกชายกระโปรงขึ้น ค่อยๆเดินตรงไปหาเสินหลีเสินหลีเห็นสืออวี๋เดินมา รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งลึกขึ้น “คุณหนูสือ ชุดแต่งงานของคุณสวยมากเลยจริงๆ ฉันเห็นชุดแต่งงาน จู่ๆก็อยากลองใส่ดู คุณคงไม่ถือสามั้งคะ?”“เพี้ยะ!”สืออวี๋ยกมือขึ้นตบเธอโดยตรง ก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ “ตอนนี้คุณน่าจะรู้แล้วว่า ฉันถือสาหรือไม่”สีหน้าของเหลียงหยวนโจวเปลี่ยนไปทันที “สืออวี๋ นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณ?!”เขารีบก้าวเข้ามาผลักสืออวี๋ออกไป แล้วยกคางของเสินหลีขึ้นตรวจดูว่าหน้าของเธอบาดเจ็บหรือไม่กระโปรงชุดแต่งงานพองใหญ่ ประกอบกับรองเท้าส้นสูงแปดเก้าซม. ทำให้สืออวี๋ที่ถูกเหลียงหยวนโจวผลักขาพลิกและล้มลงไปกับพื้นทันทีแม้ความเจ็บปวดที่ข้อเท้าจะรุนแรงแทบขาดใจ แต่กลับเทียบกับความเจ็บลึกใ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่5
เมื่อซ่งจื่ออินก้าวเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน สืออวี๋กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในร้าน พลางเปิดสมุดชุดแต่งงานดูอยู่ หน้าด้านข้างเงียบสงบและสง่างามมองดูรอบๆก็ไม่เห็นเหลียงหยวนโจว เธอขมวดคิ้วแล้วก้าวไปด้านหน้า “เหลียงหยวนโจวอยู่ไหน?”“ไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของซ่งจื่ออินเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “เขาทิ้งแกไว้ตรงนี้แบบนี้เหรอ?”สืออวี๋ก้มหน้าลง นิ้วลูบไล้อัลบั้มชุดแต่งงานโดยไม่พูดอะไรเห็นท่าทางของเธอ ซ่งจื่ออินก็ทั้งโกรธและสงสาร จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ลองชุดแต่งงานได้ยังไงบ้าง?”“ฉันพอใจมาก แถมยังถ่ายรูปไว้ด้วย”“ฉันดูหน่อยสิ”ทันทีที่เห็นรูป ซ่งจื่ออินถึงกับประทับใจในความงดงามทันที “สวยจังเลย! แถมยังเหมาะกับแกมากด้วย รอฉันแต่งงาน แกก็ออกแบบชุดแต่งงานให้ฉันชุดหนึ่งสิ!”สืออวี๋ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “โอเค”“โอ้โห!”ซ่งจื่ออินขยายรูปดูอย่างชื่นชมไปด้วย พร้อมพูดว่า “เหลียงหยวนโจวผู้ชายเลวคนนั้นมันช่างโชคดีจริงๆเลยนะ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเขาทำบุญอะไรมา ถึงได้แต่งงานกับภรรยาที่สวยขนาดนี้!”รอยยิ้มบนมุมปากของสืออวี๋ขมขื่น ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้อยากแต่ง เธอเป็นฝ่ายยืนยันอยากแต่งเองสังเกตเห็นว่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่6
ตอนแรกเธอเองก็ไม่อยากสนใจเสินหลีไอ้ดอกบัวสีขาว[1]นี้หรอก แต่เมื่อครู่นี้เธอนั่งอยู่ด้านหลังพวกเขา ได้ยินเสินหลีพูดโอ้อวดกับเพื่อนว่าวันที่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋ลองชุดแต่งงานนั้นได้พาเธอไปด้วย ไม่เพียงแค่ให้เธอไปแถมยังให้เธอลองชุดแต่งงานด้วย แต่ยังผลักสืออวี๋เพื่อเธออีกด้วยพอนึกถึงความเงียบและข้อเท้าที่บวมแดงของสืออวี๋ในวันนั้น ซ่งจื่ออินยังจะไม่เข้าใจสักที่ไหนกันเธอไม่ได้มีความอดทนเหมือนสืออวี๋ แค่ตบเสินหลีสองทีก็ยังถือว่าเบาไปสีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม “นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับสืออวี๋ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”ในขณะที่พูด สายตาที่เย็นชาของเขาก็จ้องยังสืออวี๋ที่เพิ่งเดินมายืนอยู่ข้างซ่งจื่ออิน ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจที่ไม่ปิดบังเลยแม้แต่นิด“ผมคิดว่าให้เวลาคุณหลายวัน คุณจะใจเย็นลงได้ คิดไม่ถึงว่าคุณจะยุยงซ่งจื่ออินให้มาหาเรื่องเสินหลี”สืออวี๋หน้าซีด “คุณคิดว่าฉันตั้งใจบอกเรื่องในร้านชุดแต่งงานวันนั้นให้จื่ออินงั้นเหรอ?”“ไม่อย่างนั้นล่ะ? ไม่อย่างงั้นซ่งจื่ออินจะรู้ได้อย่างไร? ผู้หญิงร้ายกาจอย่างคุณ ไม่แปลกใจเลยที่ถูกตระกูลสือขับไล่ออกมา สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด ก็คือเคย
อ่านเพิ่มเติม
บทที่7
เที่ยงคืน สืออวี๋ถูกเสียงเปิดประตูทำให้ตื่นเธอเหลือบมองนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง 02:16 น.เหลียงหยวนโจวขยับตัวเบามาก ราวกับกลัวจะทำให้เธอตื่นแต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเขานอกใจ การนอนของสืออวี๋ก็เริ่มแย่ลง เพียงแค่มีเสียงนิดเดียวก็ทำให้เธอตื่นทันทีทว่าในเมื่อใจเขาไม่อยู่ที่เธอนายแล้ว จะไปสังเกตถึงเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้อย่างไรตอนนี้เธอก็ไม่อยากคุยกับเขาพอดี จึงเลือกหลับตาแกล้งทำเป็นหลับเหลียงหยวนโจวเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำมีเสียงน้ำไหลดังแผ่ว ๆ ไม่นานนักเสียงนั้นก็เงียบลงประตูห้องอาบน้ำถูกเปิดออก เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาแล้วหยุดที่ข้างเตียงแม้จะหันหลังให้เหลียงหยวนโจว แต่สืออวี๋ก็รับรู้ได้ว่า เขาเปิดผ้าห่มด้านเขาแล้วเอนตัวลงนอนทันทีที่เตียงอีกฝั่งยุบลง ความมืดในห้องก็กลับมาเงียบสนิท จนได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจของกันและกันสืออวี๋นอนไม่หลับอีก จึงนับแกะในใจแทนเมื่อก่อนตอนนอนไม่หลับ เหลียงหยวนโจวมักจะเล่านิทานกล่อมเธอนอน บางครั้งก็เล่าถึงอนาคตให้เธอฟังบอกว่าเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จแล้ว จะซื้อบ้านที่มีหน้าต่างกระจกสูงใหญ่ให้เธอ บอกว่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่8
ตอนนี้พอภาพเขากับเสิ่นหลีปรากฏออกมา เสิ่นหลีจึงชิงตำแหน่งแฟนตัวจริงของสืออวี๋ไปโดยปริยายถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงโทรไปซักถามเหลียงหยวนโจว ให้เขารีบชี้แจงให้ชัดเจนทันทีแต่ตอนนี้ เธออยาดูว่า ถ้าเธอไม่ร้องไห้ไม่โวยวายอะไรเลย เหลียงหยวนโจวจะทำอย่างไรจะปล่อยให้เรื่องดำเนินไปตามนั้น หรือออกมาชี้แจงเองวางมือถือลงอย่างไม่แยแส สืออวี๋ก็ทำงานต่อตอนแรกคิดว่าวันนี้คงใจไม่อยู่กับงาน แต่กลับไม่เพียงแค่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ แถมยังทำงานเกินเป้าหมายอีกด้วยตอนใกล้เลิกงาน สืออวี๋เปิดทวิตเตอร์ขึ้นมาหัวข้อร้อนแรงเช้าวันนี้หายไปหมดแล้ว และไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ของเหลียงหยวนโจวหรือจะเป็นทวิตเตอร์ทางการของเทคโนโลยีเหยวฮ่างเอง ก็ไม่มีคำชี้แจงที่เกี่ยวข้องใดๆเลยเขาคงรู้ดีว่า การไม่ชี้แจงหมายก็ถึงการยอมรับยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่เธอกับเหลียงหยวนโจวคบกันนั้น แม้ไม่ได้ประกาศให้โลกทราบ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่รู้อยู่แล้วตอนนี้ไม่ชี้แจง ก็เหมือนเป็นการวางระเบิดให้กับบริษัทของเขาล่วงหน้าพอระเบิดขึ้นมา แน่นอนว่าก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในบริษัทของเขาแต่เพื่อเสินหลี เขาไม่แม้แต่จะสนใจถึงผลลัพธ์ที่จ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่9
เพราะความโกรธ หน้าอกของเซี่ยงชินเฟินขึ้นลงไม่หยุด สายตาที่มองเหลียงหยวนโจวก็เต็มไปด้วยความผิดหวังหน้าของเหลียงหยวนโจวมีรอยแดงของฝ่ามือ มองดูเซี่ยงชินเฟินแล้วพูดว่า “แม่พูดถูก ดังนั้นผมถึงรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เจอเธอในตอนที่ผมยังจนอยู่ เธอไม่ต้องลำบากกับผม”ทันทีที่คำพูดนั้นออกมา มือของสืออวี๋ก็กำแน่นทันที ความเจ็บปวดราวคลื่นซัดจากหัวใจไปทั่วร่างกายทุกคำพูดที่เขาเคยพูดทำร้ายเธอมาก่อนนี้ ไม่สามารถเทียบกับความร้ายแรงของคำพูดนี้ได้เลยเขาสงสารเสินหลี กลับเสินหลีต้องลำบากกับเขาแล้วหลายปีที่เธอทนลำบากอยู่กับเขามันคืออะไร?สืออวี๋เอ๋ยสืออวี๋ ผู้ชายคนนี้ทำร้ายเธออย่างไม่ใยดีแบบนี้ เธอยังไม่ยอมตื่นหรือไง?เซี่ยงชินเฟินหันมองสืออวี๋ เห็นเธอหน้าซีด สายตาเปล่งประกายความเป็นห่วง“สืออวี๋ เขาพูดเพราะโกรธเอง หนูอย่าใส่ใจไปเลยนะ ป้าเซี่ยงช่วยหนูสั่งสอนเขา……”“ป้าเซี่ยง”สืออวี๋หันมองเธอ พยายามทำหน้าเรียบเฉยแล้วพูดว่า “ป้าเซี่ยงไม่ต้องช่วยเขาอธิบายหรอกค่ะ หนูรู้ว่าที่เขาพูดนั้นคือความในใจ ตลอดมาหนูอยากเป็นลูกสะใภ้ของป้าเซี่ยงมาก แต่ตอนนี้คงไม่มีโอกาสนี้แล้ว เรื่องงานแต่ง……ยกเลิกเถอะค่ะ”“หน
อ่านเพิ่มเติม
บทที่10
หลังได้เห็นกับตาว่าความรักที่เหลียงหยวนโจวมีต่อเสินหลีนั้น เธอก็ไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกความรักที่เธอมีต่อเหลียงหยวนโจว และตลอดหลายปีที่ผ่านมาความรู้สึกนั้นก็ถูกการดึงดันซ้ำแล้วซ้ำเล่าบั่นทอนจนแทบไม่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอยืนหยัดต่อไปได้อีกแล้ว“เป็นไปไม่ได้!”สายตาของเซี่ยงชินเฟินแน่วแน่ “หนูให้โอกาสเขาอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้เขายังทำให้หนูผิดหวังเหมือนเดิม ป้าจะไม่ห้ามหนูอีกแล้ว”“โอกาสครั้งนี้ ถือว่าป้าเซี่ยงใช้บุญคุณช่วยชีวิตขอแทนหยวนโจวได้ไหม?”สืออวี๋ถอนหายใจอยู่ในใจ จริงๆแล้วเธอทำแบบนี้ ก็เพียงแค่ยืดเวลาการเลิกราของตัวเองกับเหลียงหยวนโจวออกไปเท่านั้น แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ยังเหมือนเดิมคนสองคนที่ไม่ได้รักกันแล้ว จะเดินไปด้วยกันต่อได้อย่างไร?ท่ามกลางสายตาวิงวอนของเซี่ยงชินเฟิน สุดท้ายสืออวี๋ก็พยักหน้า “ได้ค่ะป้าเซี่ยง หนูสัญญากับป้าว่า ถ้าภายในหนึ่งเดือนเหลียงหยวนโจวตัดขาดกับเสินหลีได้จริง หนูจะยกโทษให้เขา”พูดแบบนี้ เพราะว่าในใจเข้าใจดูว่า เหลียงหยวนโจวไม่มีทางทอดทิ้งเสินหลีเพื่อเธอเมื่อเห็นเธอตกลง เซี่ยงชินเฟินก็โล่งใจ รีบหยิบกำไลที่เตรียมมาออกจากกระเป๋า“นี่เป็นข
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status